Jump to content


Photo
- - - - -

Make me a German จาก Face คุณ กรณ์


  • Please log in to reply
161 ความเห็นในกระทู้นี้

#151 Tom PR

Tom PR

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:20

 

ถูกต้อง

 

อย่าลืมใส่ว่าเป็นความเห็นของคุณทอมคนเดียวด้วยนะครับ

 

การที่คุณหวังดีกับคนอื่น นั่นเป็นเรื่องดีที่น่าชื่นชม

แต่คุณต้องคำนึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากระบบที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความหวังดีอย่างจริงใจด้วย ภาษาอังกฤษเรียก unintended consequence

 

ครับมีคนรุมผม 4-5 คน มีใครช่วยผมเถียงบ้างละครับ



#152 Tom PR

Tom PR

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:22

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่างประเทศเขาทำได้ ทำไมไทยทำไม่ได้ แนะนำดูการเลือกจ่ายค่าไฟฟ้า

 

https://www.chooseen...CFRUAvAod4C0A2g

 

http://www.verivox.d...preisvergleich/

 

transmission line นั้นก็สามารถแปลรูปเป็นเอกชนได้ และสามารถรับไฟฟ้าจากหลายๆบริษัทได้ ปล่อยให้มีการเปิดกองทุนรวมเหมือนเครือข่ายโทรคมนาคมก็ได้

 

บางบริษัทเลือกวางสายไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้หน้าบ้านและเมือง ดูไม่น่าเกลียด

 

ส่วนจะอ้างว่าต้องการถูกที่สุด ดีที่สุด แนะนำว่าอาจต้องย้ายบ้าน เพราะในความเป็นจริงทุกเรื่องก็เป็นแบบนั้น

 

อยากให้ลูกหลานอยู่ในสภาวะแวดล้อมดี บางคนต้องย้ายออกจากสลัม

 

ช่วยขยายความตรงสีแดงๆหน่อยครับ

 

Transmission company in England
Before privatization
Nationalised monopoly: CEGB (England & Wales), SSEB (Scotland), NSHEB (Scotland), NIEB (N.Ireland) ทั้งหมดรัฐบาลเป็นเจ้าของ
 
After privatization
National Grid Transco, Scottish & Southern, Scottish Power, Northern Ireland Electricity (Viridian Group)

 

 

แล้วทีนี้ถ้าย้อนกลับมาที่ผมถามนะครับ  ถ้าแปรรูปแล้ว บริษัทB ได้สายส่ง(Transmission line)วงจรที่จ่ายไฟให้บ้านผม  แต่ผมอยากซื้อไฟจากบริษัท A เพราะผมศึกษาแล้วว่าบริษัทA ให้บริการดีกว่าในหลายๆด้าน  ผมเลยติดต่อบริษัทA ให้ช่วยขายไฟให้ผมหน่อย  บริษัทA จะทำไงครับ

 

เขาก็จะมาดำเนินการติดตั้งสายไฟให้ครับ ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่เขาให้บริการ เช่นเดียวกับเวลาคุณซื้อโทรศัพท์

 

บ้านน้องผม อยู่ต่างจังหวัด ไม่มีบ้านคนมากนัก เสาโทรศัพท์ยังไม่มาเลยครับ พอจะให้ติดตั้งทั้งองค์การโทรศัพท์ หรือแม้แต่ทรู ก็ไม่เข้ามาติดตั้งให้ เพราะบอกว่าไม่คุ้ม อยากได้โทรศัพท์ ต้องซื้อเสาเอง อย่าว่าแต่โทรศัพท์เลย ขนาดไฟฟ้า ยังต้องซื้อเสาเข้าบ้านเอง หมดไปเป็นแสนเหมือนกัน เปิดเสรี จะมีได้ใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์กันมั้ยครับ ถ้าเค้าบอกว่ามันไม่คุ้มที่จะให้บริการ

มันเป็นปัญหาในทุกๆระบบ ไม่เว้นแม้แต่การใช้ไฟฟ้า ปัญหาขาดแคลนแพทย์ ครู วิศวะ พยาบาล เภสัชกร น้ำประปา

 

ต้องถามว่าทำไมไม่มีคนไปอยู่มากนัก เพราะที่นั่นมีความเจริญน้อยและไม่มีงานให้ทำใช่ไหม การที่คุณจะให้ทุกคนเอาความสะดวกสะบายมาให้ตัวน้องของคุณ โดยใช้เงินของคนส่วนรวม คุณคิดว่ามันดีไหม เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามครรลองครองธรรมไหม

 

แทนที่คุณจะคิดว่าสังคมต้องช่วยเหลือน้องคุณ โดยการที่จะต้องเอาเสาไฟฟ้าและเสาโทรศัพท์มาสู่ถิ่นที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ และน้องคุณอยู่ที่นั่นเพราะตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินและสามารถทำมาหากินได้ที่นั่น ในทางกลับกันทำไมน้องคุณไม่ถามละว่าตัวเองจะทำอะไรให้กับประเทศได้

 

อ้าวไปไกลแล้วคุณ แบบนี้คนที่อยู่ต่างจังหวัด ก็ไม่ต้องใช้ไฟเลยสิ ถ้าไม่มีเงินซื้อเสาไฟฟ้าเอง โทรศัพท์ก็เช่นกัน แบบนี้ความเจริญคงไม่ต้องไปชนบทแล้วล่ะ เพราะบ้านแต่ละหลัง มันไกลกันอยู่แล้ว และผมคิดว่า ยิ่งเปิดเสรี ความคุ้มค่าในการจะลงทุนมันจะกลายเป็นเรื่องหลัก เพราะต้องคำนึงถึงกำไร ส่วนถ้าเป็นของรัฐบาล มันก็ต้องกระจายความสะดวกสบายไปทางชนบทบ้าง อ้อ น้องผมเสียภาษีให้รัฐครับ และเสียทั้งภาษีนิติบุคคล และภาษีเงินได้นะครับ

 

คุณต้องถามตัวเองว่าคุณจะลงทุนไหมถ้ามันไม่คุ้ม คุณว่าจะให้แต่หลวงใช้เงินเอาเงินหลวงมาใช้ ใช้เงินคนอื่นใครก็พูดได้ครับ

 

ความเจริญคงไม่ต้องไปชนบท คงต้องถามว่าทำไมมันไม่เจริญตั้งแต่แรก ที่ๆมันไม่เจริญเพราะคนเขาดูแล้วว่ามันใช้ทำมาหากินไม่ได้ เนื่องจากอาจเป็นภูเขา ไม่ได้เป็นท่าเรือ ไม่มีทางน้ำไหลผ่าน เป็นป่าเขา เป็นที่เพาะปลูกโดยธรรมชาติ คุณเปลี่ยนแแปลงธรรมชาติของพื้นที่ไม่ได้ และไม่ควรทำ เพราะมันเป็นการเอาเงินไปทิ้งเปล่าๆ

 

ถ้าคุณยื้อที่จะทำแนะนำให้ใช้เงินตัวเองครับ เพราะถ้ามันเจริญคุณก็จะได้ความเจริญนั้นเพียงคนเดียว 

 

คุณอ้างว่าน้องคุณเสียภาษี ต้องถามว่าแล้วคนอื่นๆเขาไม่เสียหรือ หรือคุณคิดว่าน้องคุณเสียมากกว่าคนอื่นๆ

 

ตลกแล้ว ที่ไหนไม่เจริญก็ไม่ควรเจริญ และถ้าน้องผมเสียภาษี ก็ควรได้รับบริการจากรัฐบาลครับ คุณอยู่ในที่เจริญแล้ว นั่นหมายถึงคุณได้รับบริการจากรัฐบาลแล้ว ที่ไหนไม่มี ทางรัฐบาลก็ต้องจัดหาให้ ไม่ใช่คุณเสียภาษี คุณได้รับบริการ แต่คนที่เสียภาษีอีกส่วนหนึ่งของประเทศไทย ไม่ได้ 

 

คงต้องถามว่าถ้าเป็นรัฐบาลคุณจะทำไหม ถ้าคุณทำมันจะป็นการเอาเปรียบคนอื่นหรือเปล่า แล้วทำเยี่ยงนี้ต่างจากทักษินและพวกพ้อง อย่างไร



#153 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:24

555

 

พอแล้ว  ผมพอแล้ว

 

ไปนอนแล้วครับ  ไม่อยากถูกกล่าวหาว่ารุม :lol:



#154 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 02:15

เออ .. เนาะ   ;) จากประเด็น ไขความลับอุปนิสัยพื้นฐานของชนชาติเยอรมัน Make me a German จนกลายเป็น

เรื่องอื่นไป … ดิฉันเห็นด้วยกับ คุณ บุญชัย ปัณฑุรอัมพร - CEO Blog กรุงเทพธุรกิจ ที่สรุปไว้ครบทุกประเด็น

 

…. Justin Rowlatt นักข่าว BBC และภรรยานักเขียน Bee Rowlatt ไปอยู่เยอรมัน ด้วยความที่อยากรู้ว่า

ทำไมเศรษฐกิจของประเทศเยอรมันถึงได้ดีกว่าเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษ … ทั้งอยู่ ทำงาน และเล่น ที่เยอรมัน

ครอบครัวของเขามีลูก ๔ คน … และเนื่องจากคนเยอรมันมีลูกน้อย เขาจึงฝากลูกคนโต ๒ คนไว้กับย่าที่ลอนดอน

 

เขาไปเช่าแฟตอยู่ คนเยอรมันนิยมเช่าแฟต ขณะที่คนอังกฤษนิยมซื้อบ้าน  คนเยอรมันจะนิยมเช่าแฟตอยู่ระยะยาวเป็น ๑๐,๒๐ ปี

ครอบครัวของจัสตินไปอยู่เมืองที่เคยเป็นอดีตศูนย์กลางของนาซี ที่ถูกทำลายย่อยยับในช่วงสงคราม ...

แต่เดี๋ยวนี้เมืองนี้เป็นเขตอุตสาหกรรมใหม่ของเยอรมัน อย่างอดิดาส พูม่า อิเลคตริค

จัสตินและบีได้รับสมุดข้อมูลในการเป็นชาวเยอรมัน และมีซีดีให้ดู ว่าเขาจะต้องทำอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไรในการทำกิจกรรมนั้นๆ

จัสตินได้ทำงานที่บริษัทผลิตดินสอเป็นบริษัทเก่าแก่ขนาดกลาง เล็ก ที่เป็นมรดกตกทอดกันมา

…. วันแรกเขาไปสาย คนเยอรมันจะไปทำงานก่อนคนอังกฤษ ๒๐ นาที หน้าที่เขาอยู่ที่จัดดินสอให้เป็นระเบียบ

เพื่อนร่วมงานมาแนะนำเขาในการทำงานว่าต้องคอยเช็ดความความสะอาดเครื่องด้วย เพราะจะทำให้ดินสอเดิน

บนสายพานได้เร็วขึ้น ….จัสตินบอกว่าเขาต้องใส่ใจงานมากขึ้น... ขณะที่ซุปเปอร์ไวเซอร์บอกว่าเขาทำงานได้ช้า และได้ผลงานน้อย

 

  


Edited by ฺำBery, 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:40.


#155 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 03:18

บีต้องเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน ผู้หญิงเยอรมันส่วนใหญ่จะเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านเมื่อลูกยังเล็ก

ผู้หญิงเยอรมันจะทำงานบ้านรวมทั้งทำกับข้าว เฉลี่ย ๔ ชั่วโมง ๑๑ นาที

เป็นเรื่องยากสำหรับบี  :( มีเทรนเนอร์ชาวเยอรมันมาเทรนเธอในเรื่องการทำงานบ้าน

เรื่องการวางแผน เวลา เงิน ทำกับข้าว /๑ สัปดาห์ … บีไม่ได้ชอบงานบ้านมากนัก แต่เธอต้องเรียนรู้

 

ถึงเวลาพักเที่ยง ราคาอาหารกลางวันถูกมากประมาณ ๑ ยูโร จัสตินคุยกับหนุ่มเพื่อนร่วมงาน

หนุ่มคนนั้นก็บอกว่าเขาเรียนจบมาจากโรงเรียนสายอาชีพแมคเคนิคมา เขาได้รับการฝึกฝนมาหลายปี

และเพื่อนร่วมงานอีกคนที่ทำงานนี้มา ๑๐ ปีแล้ว …. จัสตินจะเปรียบเทียบว่าที่อังกฤษเน้นให้เด็กเข้าเรียน

ในระดับมหาวิทยาลัย ขณะเยอรมันเน้นสายอาชีพ และคนเยอรมันก็มีทักษะสูง  :rolleyes:

เด็กเยอรมันเมื่อเรียนจบออกมาก็จะมีงานทำ … เยอรมันเป็นประเทศส่งออกเป็นอันดับ ๓ รองจาก จีน และสหรัฐ

 

…. จัสตินแปลกใจมากที่คนเยอรมันมีเทคโนโลยีสูง  :rolleyes: แม้กระทั่งงานเล็กๆอย่างผลิตดินสอ

เขาพบว่าคนเยอรมันเมื่อมาทำงาน เขาจะตั้งใจทำงาน เขาคุยในเรื่องของงาน พุ่งเป้าไปที่งานที่ทำ

 

จัสตินไปพบกับเจ้าของบริษัท ซึ่งบริษัทนี้ได้ตกทอดกันมาและเป็นบริษัทกลางและเล็ก

เขาจะเน้นในสิ่งที่ทำกันกันตามแบบอย่างประเพณีที่ทำกันมา ….

….. ความลับของบริษัทเยอรมันนีก็คือ จะเน้นในจุดเล็กๆที่ตนทำ :) จากนั้นก็ขยายให้กว้างขึ้น

 

จัสตินกลับบ้านเร็วขึ้นเขามีเวลาที่จะเล่นกับลูกๆ ส่วนบีก็ทำอาหารเยอรมันเชื้อเชิญเพื่อนบ้านทุกวัย

ให้มากินอาหารเย็นด้วยกัน … จัสตินบอกว่าคนอังกฤษทำงานหนัก เพื่อนบ้านบอกว่า

คนเยอรมันทำงานหนักมาก … จัสตินบอกว่า คนอังกฤษทำงานหลายชั่วโมงมากกว่าคนเยอรมัน

แต่ได้ผลผลิตน้อยกว่าคนเยอรมัน …  :huh: มาถึงตรงนี้สาวเยอรมันอดีตนักเรียนแลกเปลี่ยนอังกฤษก็บอกว่า

เธอทำงานออฟิตที่อังกฤษ พนักงานจะพุดคุยกันตลอดเวลา … คุยกันเรื่องส่วนตัว ...

บีบอกว่า … เป็นเรื่องธรรมดาที่อังกฤษคนจะเล่น FC ตลอดเวลา

เพื่อนบ้านบอกว่า …​ เขาไม่อนุญาตให้เล่น FC ส่งแทค อีเมล์ โทรศัพย์คุยกันเรื่องส่วนตัว

 

จัสตินกลับไปทำงานเขาอยากจะเช็คปฏิกริยาของคนเยอรมันว่าจะเป็นยังไงเมื่อเขายกโทรศัพย์ขึ้นมา

ซุปเปอร์ไวเซอร์เดินมาหาเขาทันทีและบอกว่า เขาควรจะสนใจงานไม่ใช่โทรศัพย์

จัสตินต่อรองขอ ๑ แทค หัวหน้าก็ไม่ยอมและบอกว่า ที่นี่คือที่ทำงาน และจัสตินก็มาทำงาน


Edited by ฺำBery, 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 06:12.


#156 bonnerr

bonnerr

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,158 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 04:54

โรงเรียนอาชีวศึกษาในเยอรมนี เป็นการเรียนแบบ Dual System คือเรียนภาคปฏิบัติด้วยการทำงานจริง อาทิตย์ละสามวัน และเรียนภาคทฤษฏีที่โรงเรียนอาทิตย์ละสองวัน

การเรียนวิชาชีพมีหลักสูตรสามปี จะรับจากนักเรียนที่จบชั้น 10 ถือว่าเป็นการทำงาน เข้าเรียนปีหนึ่ง ก็จะได้รับเงินเดือน น้อยหน่อยเพราะยังไม่เป็นงาน

ปีสองปีสาม จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นตามความรู้ความสามารถ



#157 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 06:08

บีพาลูกไปเข้าโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ในป่า  :) ปกติเด็กเยอรมันจะเข้าเรียนตอนอายุ ๖ ขวบ

เด็กจะมาถึง ๘ โมงเช้า จะกินอาหารเที่ยงในป่า เข้าห้องน้ำในป่า เด็กๆได้เรียนรู้ธรรมชาติในป่า 

….. ไม่อนุญาตให้มีของเล่น ให้คิดค้นของเล่นเอง ค่าเล่าเรียน ๑๕๙ ยูโร ซึ่งถูกมากสำหรับชาวอังกฤษ

 

จัสตินไปหาหมอของบริษัทเพื่อเช็คร่างกาย ทุกอย่างโอเค จากนั้นเขาพบกับเจ้าหน้าที่ ที่จะมาชี้แจงเกี่ยวรายได้

ภาษี ประกันสังคม … เขาเสียภาษีน้อยเพราะมีลูก และมีประกันสำหรับว่างงาน และประกันสุขภาพเมื่อเขาแก่ตัวลง

 

บีและวิลเลี่ยม (ลุกชายคนเล็ก) ได้รับเชิญจากบรรดาแม่ๆเพื่อนร่วมโรงเรียน มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน

คำว่า " แม่บ้าน " ผู้หญิงประเทศอื่นอาจจะไม่ภูมิใจกับคำนี้นัก แต่ผู้หญิงเยอรมันจะภูมิใจกับคำนี้

ผู้หญิงเยอรมันจะเลี้ยงลูกเอง จะไม่ปล่อยลูกให้กับสถานที่เลี้ยงดูเด็ก ๒ ใน ๓ ของผู้หญิงเยอรมัน

ที่มีลูกยังเล็กจะเลี้ยงลูกเอง เปรียบเทียบกับอังกฤษ ๓ ส่วนจะทำงาน

ผู้หญิงเยอรมันบางคนเคยทำงานมาก่อน และต้องเสียภาษีสูงมาก เธอจึงตัดสินใจเลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน

… ผู้หญิงอังกฤษ 14 % เป็นผู้ประกอบธุรกิจ เปรียบเทียบกับผู้หญิงเยอรมันแค่ 2% เท่านั้น

 

เยอรมันเป็นประเทศที่มีรีไซเคิลมากกว่าอังกฤษถึง ๒ เท่า  :wub:

จัสตินได้เข้าร่วมคลับร้องเพลงที่โบสถ์แห่งหนึ่ง เพื่อพบปะกับชาวเยอรมัน

สาวนางหนึ่งบอกว่า ทำงานแล้วกลับบ้านทุกๆวันก็ไม่มีอะไร ...

…. เมื่อเข้าร่วมคลับร้องเพลง ได้รู้จักคนในชุมชนมากขึ้น

ขณะที่อังกฤษมีความเป็นปัจเจกชนสูง :mellow:  ความเป็นชุมชนน้อยลง 



#158 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 06:32

ระบบการศึกษาในเยอรมัน  :wub: จะเห็นว่าเขาจะเน้นในระดับมัธยมมาก มีมัธยมสายอาชีพ สายสามัญ สายวิสามัญ

สายสามัญ+สายอาชีพ … และจะมีครูคอยแนะแนวว่าเด็กมีความสามารถที่จะไปเรียนต่อด้านไหน

นอกจากนี้ก็ยังมีโรงเรียนพิเศษต่างๆ เช่น

- โรงเรียนที่เด็กมีปัญหากับผู้ปกครอง และเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือด้านพัฒนาทักษะ

**โรงเรียนพิเศษที่เกี่ยวกับเด็กที่มีปัญหาในการเรียน … การพัฒนาด้านทักษะผิดปกติที่โรงเรียนไม่สามารถรับได้ เช่น

อ่านเขียนสะกดคำมีปัญหา,การคำนวณมีปัญหา,โรงเรียนสำหรับคนตาบอด, โรงเรียนสำหรับคนหูหนวก,

โรงเรียนสำหรับเด็กอัจฉริยะ,โรงเรียนสำหรับเด็กที่มีปัญหาทางการพูด,โรงเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่เจ็บป่วยหรืออยู่โรง

พยาบาลเป็นเวลานาน ฯลฯ 

 

…. จะเห็นได้ว่าประเทศเยอรมันเน้นการพัฒนาคน  :wub:

อ่านต่อได้ที่แวปนี้ค่ะ …. http://khtpschool.ni...-in-deutschland

 

เขาเน้นจุดเล็กๆความสามารถที่เด่นที่สุด ที่ถนัดที่สุด แล้วพัฒนาความสามารถนั้นให้เป็นทักษะที่สูงขึ้น



#159 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 06:49

บีทำงานบ้านได้แค่ ๒ ชั่วโมงกว่าๆ … เธอสอบตกการเป็นแม่บ้านเยอรมัน  :(

ขณะที่จัสตินได้รับมอบหมายให้คุมเครื่องจักร ๓ เครื่อง

 

… คนเยอรมันจะเน้นการทำงานเป็นทีมมากกว่าปัจเจกบุคคล …  :)

 

บีไปชอปปิ้งคนเยอรมันจะใช้เงินสดมากกว่าเครดิตการ์ด และคนเยอรมันมีเงินเก็บมากกว่าคนอังกฤษ

นั่นความหมายความธนาคารของเยอรมันมีเงินที่จะให้ธุรกิจขยายตัวไปได้

…. ถึงเวลาที่เช็คสมุดว่าเขาครอบครัวเขาสามารถเป็นคนเยอรมันได้แค่ไหน ?

บีสอบตกในการทำงานบ้านและทำกับข้าว ๔ ชั่วโมง  :o

…. บีกับจัสตินมีความขัดแย้งกัน จัสตินเห็นด้วยกับการที่ผู้หญิงอยู่บ้านเลี้ยงลูก

บีบอกว่า... อย่าให้เผด็จการภายนอกมาควบคุม เธอชอบทำงานอกบ้านมากกว่า

 

จัสตินเช็คความคิดของเพื่อนร่วมงาน เขาคุยกับซุปเปอร์ไวเซอร์ และเพื่อนร่วมงานที่มาจากเยอรมันตะวันออก

เขาบอกว่าเศรษฐกิจเยอรมันดี ซุปเปอร์ไวเซอร์บอกว่าไม่ดี … นั่นคือภายนอกอินเตอร์ดูดี

แต่พนักงานไม่ได้ขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำมา ๒๐ ปีแล้ว



#160 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:04

ขอบคุณครับ คุณ ำBery

 

ในที่สุดกระทู้ก็กลับเข้าสู่วัตถุประสงค์เดิม

คือเอาความรู้มาแพร่กระจายใน web นี้

 

ไม่เอาความคิดตนเองมาใส่

และไม่มีใครเก่งกว่าใครครับ

 

ทุกเรื่องมีข้อดีข้อเสีย



#161 ฺำBery

ฺำBery

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:25

จัสตินได้เชิญอาจารย์จากคณะเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยและภรรยาที่เป็นครูมาเป็นกินอาหารที่บ้าน

มาแลกเปลี่ยนกันว่า … :wub:  ทำไมเยอรมันคนงานเยอรมันถึงเป็นผู้ผลิต?(ทำงานน้อยชั่วโมงแต่ได้ผลผลิตมาก)

ภรรยาของแขกรับเชิญที่เป็นครูตอบว่า … เยอรมันมีชื่อเสียงผลผลิตที่ดีในตลาดและเขามีความภาคภูมิใจ

บางคนมีความภาคภูมิใจกับการที่ได้ทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียง :)

จัสตินถามว่าดูเหมือนเศรษฐกิจของเยอรมันมีความเสถียรมั่นคง และจะมีผลต่อรายได้ยังไง?

คนธรรมดาทั่วๆไปไม่มีความรู้สึกว่าร่ำรวย  … อาจารย์ก็ตอบว่า …คนธรรมดาจะบอกว่า :D  เขามีความสุขที่ได้ทำงานที่มั่นคง

เยอรมันไม่มีแอปเปิ้ล ไม่มีอะเมซอน ไม่มีไมโครซอฟ …. แต่เขามีความสุข

 

วันหยุดคือวันอาทิตย์ตามกฎหมายของเยอรมันถือว่าเป็นวันพักผ่อน และกว่าครึ่งหนึ่งของคนเยอรมันยังนับถือศาสนา

…. จัสตินช็อคเมื่อโยเกิ้นต์ตำรวจเพื่อนบ้านที่เคยเชิญให้มากินข้าวที่บ้าน :o มากดกริ่งและบอกว่าบ้านเขาส่งเสียงดังมากเกินไป

ลูกๆของจัสตินส่งเสียงดังเกินไป มีเพื่อนบ้านโทรไปแจ้งเขา โยเกิ้นต์บอกว่าวันอาทิตย์ถือเป็นวันหยุด วันพักผ่อน

ไม่ควรส่งเสียงดังถือว่าไม่มีมารยาท บางครั้งอาจจะถูกปรับได้ … จัสตินและบีเลยตัดสินใจพาลูกๆไปสวนสนุก

 

…. วันสุดท้ายในการทำงานของจัสติน … เพื่อนร่วมงานและซุปเปอร์ไวเซอร์บอกว่าเขาทำงานดี

ก่อนที่จะกลับอังกฤษ P.J.ได้มาหาเขาที่บ้าน ดูว่าเขาเป็นคนเยอรมันได้แค่ไหน ? 

บีบอกว่าเธอไม่ชอบบ้านแบบเยอรมัน เธอชอบทำงานนอกบ้านมากกว่า

จัสตินบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนเยอรมันเต็มตัว แต่สิ่งที่เขาได้คือ ศาสนา การทำงานหนัก การมีสังคมร่วมกัน

ความรับผิดชอบ … คนเยอรมันทำเพื่อประเทศของเขา ในการมีเป้าหมายระยะยาว  :)


Edited by ฺำBery, 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:38.


#162 bonnerr

bonnerr

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,158 posts

ตอบ 21 เมษายน พ.ศ. 2557 - 14:18

ลูกชายจบปริญญาโท วิชาเศรษฐศาสตร์ ทำงานกับบริษัท villeroy & Boch เมือง Mettlach รัฐ Saarland

เงินเดือนขั้นต้น สามพันยูโร หักค่าประกันสังคม ค่าภาษีเงินได้ และภาษีอื่นๆ แล้ว จะเหลือเงินเดือนสุทธิเพียง หนึ่งพันแปดร้อยยูโร

เงินประกันสังคมประกอบไปด้วย

เงินประกันเจ็บป่่วย

เงินประกันตกงาน

เงินบำนาญ

เงิน Nursing Care

รวมแล้วเกือบ 40 เปอร์เซนต์ของเงินเดือน โดยนายจ้างและผู้ทำงานจ่ายคนละครึ่ง






ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน