itsorachai2

กระทู้นี้ ได้สะท้อนหลายสิ่งหลายอย่างตลอดจนบทเรียนสอนใจให้กับข้าพเจ้าซึ่งดูอยู่วงนอก

• สมาชิก สรท ไม่ว่าจะรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ โพสต์มาก โพสต์น้อย ล้วนต่างมีศักดิ์ศรี มีสิทธิ์ เท่าเทียมกันในการแสดงความคิดเห็น
• สมาชิก ที่แสดงความคิดเห็น ต้องรับผิดชอบในข้อความที่ตนเองได้โพสต์ไป
• การค้นหาความจริง มีมาตรฐานเดียว ไม่สามารถตึงเปรี๊ยะกับฝ่ายตรงข้าม และย่อหย่อนกับฝ่ายเดียวกัน
• ผู้กล่าวหา ผู้อื่นว่านำความเท็จมาเผยแพร่ ต้องเป็นผู้พิสูจน์สิ่งที่ตนเองกล่าวหาให้ชัดเจน การนิ่งอมพะนำ เป็นเช่นเดียวกับ "ความล่าช้า คือความอยุติธรรมอย่างหนึ่ง" เพราะทำให้มีการตอบโต้ไปมาในข้อมูลเฉพาะเท่าที่แต่ละฝ่ายเห็นตรงหน้า อย่างไม่รู้จักจบสิ้น
• สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
• ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม
• เมื่อผิดพลาดแล้วยอมรับ นับเป็นวิญญูชน
• เช่นกัน ผู้ชนะ ที่มีเมตตา ให้อภัยต่อผู้ผิดพลาดซึ่งยอมรับข้อผิดพลาดนั้น นับเป็นวิญญูชนเช่นกัน
• การเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตรนั้นยาก แต่การผลักมิตรให้เป็นศัตรูนั้นง่ายนิดเดียว
• ไม่ว่าผลของกระทู้นี้จะออกมาอย่่่างไร ความจริงที่จริงแท้แน่นอน อันเป็นแก่นของเรื่องคือ สมศักดิ์เจียมเป็นบุคคลที่ต้องการล้มสถาบัน มีหลักฐานการกระทำชัดเจน
• และเมื่อเป้าหมายคือ การกระทำที่ต้องการตีแผ่ ต่อต้าน ขัดขวางสมศักดิ์เจียม ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของสมาชิกส่วนใหญ่ใน สรท แม้การเดินทางให้ถึงเป้าหมายจะมีการผิดพ้องหมองใจกันบ้าง ขัดแย้งในการเดินทางบ้าง แต่เมื่อเป้าหมายยังอยู่ การปรองดองของเพื่อนร่วมทางหลังจากเหตุการณ์ผิดพ้องหมองใจผ่านพ้นไป น่าจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก.... สามัคคีคือพลัง นั่นคือคำตอบ
• แม้เป้าหมายจะสำคัญ แต่ระหว่างทางที่เดินให้สู่เป้าหมายก็สำคัญเช่นกัน ถึงจะเห็นต่างกัน ขัดแย้งกัน แต่น้ำใจไมตรีที่ยื่นมอบให้แก่กัน มีค่ายิ่ง การเสียดสีโต้ตอบเผ็ดร้อน ไม่ได้นำมาซึ่งความจริง ไม่ได้นำมาซึ่งความสามัคคี นอกจากนั้น ยังทำให้เสียเวลา และเกิดการผิดใจขยายวงกว้างขึ้น
• แม้จะมีการตอบโต้ที่ดุเดือด เผ็ดร้อนหลายคู่ แต่สิ่งที่สังเกตเห็นได้คือ การไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย การไม่ก้าวล่วงถึงบุคคลผู้เป็นที่เคารพของแต่ละฝ่าย ..... ขอชื่นชมความสุภาพของผู้ที่ออกความเห็นในกระทู้นี้
• หลังพายุฝนแห่งอารมณ์และภาพลวงตาถูกพัดพาออกไป ความจริงที่เห็นตรงหน้าแจ่มชัด ขอความเป็นกัลยาณมิตรของสมาชิก กลับคืนมา ดังเช่นคุณแมวกระป๋ิอง ได้ยื่นไมตรีให้กับคุณ SPDZ

ปล แก้ไขคำผิด

กำลังรอข้อเท็จจริงที่ตรงประเด็นค่ะ

อยากให้คุณชดตอบให้ตรงคำถาม

และก่อนจะตอบอยากให้อ่านชื่อกระทู้สัก 3 - 4 รอบ และอ่านเนื้อหากระทู้ก่อนดีไหมคะ

ประเด็นในกระทู้นี้ไม่ใช่เรื่องการต่อสู้กับสมศักดิ์หรือกลุ่มทักษิณ

แต่กำลังพูดถึงความความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่คุณเป็นคนเล่ามาด้วยตัวเอง

คุณต้องต่อสู้กับข้อเท็จจริงจาก"ยัยเหงี่ยมของคุณ" ยัยเหงี่ยมที่คุณเป็นคนลาก

เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวละครของคุณเองค่ะ

เปรียบเทียบกันแล้ว ที่สมศักดิ์ด่าธีรยุทธ ก็เหมือนหมาเห่าเครื่องบิน

ผมว่าที่ไอ้หงอกวิจารณ์เขา(ธีรยุทธ)ไป > เข้าตัวมันหมดเลย ไม่ต่างกับควายแดงตัวอื่นๆ

ผมว่ามันนี่แหละ กาฝาก 6 ตุลา 2519 ตัวจริง...
ไม่มีรายงานจากสหายเก่ารายไหน ที่บอกว่ามันเคยเข้าป่ารบจริงๆ นอกจากหนีไปหลบในวัด แล้วโดนจับติดคุก
แต่เสือกชอบคุยโวว่ารู้เรื่อง พคท.ดีกว่าใคร

*ผมเองก็เกิดไม่ทันยุคนั้น แต่อย่างน้อยก็ติดตามดูจากรายงานหลักใน นสพ.และสื่อต่างๆได้ ว่าใครเคยเข้าป่ารบจริงๆ
อย่างน้อยสื่อเหล่านั้นก็รายงานตรงกันบางเรื่อง เช่น เสกสรรค์ ธีรยุทธ จีระนันทน์ หงาคาราวาน เคยเข้าป่ากับ พคท.จริงๆ
ส่วนไอ้หงอกไม่มีรายงานเลยแม้แต่น้อย

นึกถึง จิ๊กโก๋ขี้เมาข้างซอย ที่ชอบอวดอ้างว่า เขาทรายกระจอก ไมค์ไทสันฝีมือขี้ๆ โมฮำหมัดอาลีก็ไม่เก่งจริง
แล้วก็คุยอวดสารพัดว่า นักมวยที่เก่งมันต้องชกอย่างนีๆๆๆ...แต่พอท้ามันให้ขึ้นเวทีก็หายหัว

ขอแจ้งความไปถึง สาวกของสมหงอกเจียมทุกคน

บนผืนแผ่นดินไทยนี้ ไม่ว่าจะ น้ำ ดิน อากาศ หรือทรัพยากรของชาติ ไม่ได้เป็นของกษัตริย์ไทย หากแต่เป็นของทุกคน

กษัตริย์เพียงเป็นผู้ปกครอง ทำนุบำรุงให้ประชาชนได้อยู่ดีมีสุข ตามที่พระองค์ท่านจะสามารถช่วยเหลือได้ แต่ชั่วชีวิตนึงของคนเราจะทำอะไรได้มากแค่ใหน จะเอาความทั่วถึง หรือขจัดทุกปัญหาของประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะปัจจัยสิ่งแวดล้อมมากมาย

การที่เรามีผู้นำที่ดี ก็ทำให้แผ่นดินสงบ มีความเป็นเอกราชมาถึงทุกวันนี้

เรื่องไปทำธุรกิจที่จีนเรื่องจริงครับ ห้างสรรพสินค้า จำหน่ายสินค้าการเกษตร

โรงภาพยนตร์ โรงแรม ซีพีสยายปีกไปทั่วเมืองใหญ่ๆในจีนแล้ว

แต่สำหรับรัฐบาลจีนซีพีก็ยังไม่ใช่บริษัทจีน แต่ยังคงสถานะเป็นบริษัทข้ามชาติ

ที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ แล้วสำหรับไทยล่ะซีพีเป็นเช่นไร

ก็มองแบบชาวบ้านๆก็คือบริษัทคนจีน เข้ามากอบโกยเมืองไทยส่งเงินกลับไปจีน ฮาาาา

สรุป ซีพี เป็นบริษัทแบบไหนลองคิดเอา และ คนหน้ามึนแบบหมูอวกาศ

รู้จัก "ธนินท์ เจียรวนนท์" และ "ซีพี" ดีแค่ไหนเหรอ ถึงมาตั้งกระทู้ทำนอง

ว่าเจ้าสัวสนับสนุนรัฐบาลแดง กลับกันลองให้ประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล

เดี๋ยวก็รู้ว่าเจ้าสัวออกมาชูจั๊กกะแร้สนับสนุนฝ่ายไหน ฮาาาาาา

"ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใครดอก หมูอวกาศผู้อ่อนต่อโลก"

เหอ เหอ หมูอวกาศ เชียร์คนฉลาดเพราะอยากให้ประเทศไปไกล
แต่เชียร์แล้วอย่าลืม ควบปุเลง ปุเลง ตามมันไปด้วยนะ เพราะไอ้นี่
มันไปไกลขนาดบอกให้ไทยเก็บข้าวไว้ก่อนอย่าเพิ่งขาย รอให้ตรู
ขายข้าวที่ซื้อจากเขมรให้หมดก่อน แล้วเอ็งค่อยขายก็ไม่โง่หรอก
555555555555555555555

++รัฐ ไม่ต้องเร่งระบายข้าว ส่วนกรณีที่รัฐบาลต้องแบกสต๊อกข้าวสารในเวลานี้ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านตันจากโครงการรับจำนำข้าวมองว่าไม่น่าห่วง เพราะหากต้องการความปลอดภัยทางด้านความมั่นคงด้านอาหารเราต้องเก็บสต๊อกไว้ อย่างน้อย 6 ล้านตัน หรือต้องเก็บไว้หนึ่งรอบการผลิต(4-5 เดือน) ไม่ใช่ขายจนเกลี้ยง เพราะหากมีข้าวขาดตลาดชาวบ้านเคยซื้อครั้งละ 5 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 10 กิโลกรัม หรือจาก 10 กิโลกรัม เพิ่มเป็น 20 กิโลกรัม ถือเป็นเรื่องเล็ก เวลานี้ก็มีข่าวสหรัฐอเมริกา และอินเดียเกิดภัยแล้งอาจะเป็นโอกาสของไทยการส่งออก
สำหรับ การเก็บข้าวไว้ในสต๊อก 6 ล้านตัน ถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่เกิน 2-3 ล้านตัน ถ้ายกระดับราคาข้าวไทยในตลาดโลกได้ถือว่าได้ฟรี เราอย่าไปแข่งกับอินเดีย อย่างไรก็สู้ไม่ได้ เพราะเวลานี้ค่าเงินของอินเดียลดลงไป 24% เขาขายข้าวราคาถูกกว่าไทย 24% ก็ไม่ขาดทุน แต่ของไทยยังไม่ระบาย นักวิชาการบอกว่าจะเสียหายแสนล้าน ถ้ารัฐบาลไม่เสียหายแสนล้าน ไปกดราคาต่ำไปแสนล้าน แล้วแสนล้านมาเอาจากเกษตรกร เกษตรกรเอาที่ไหนมาเสียแสนล้าน
"เรา จะทำอย่างไรไม่ให้เสียแสนล้าน ต้องเก็บข้าวเอาไว้ และทำอย่างไรให้ราคาสูง คุณขายไปก่อน ผมขายทีหลัง ผมขายน้อยได้เงินมาก ที่เกินนั้นได้ฟรี แล้วผมไปหาข้าวประเทศอื่นไปขาย เช่น ซีพีวันนี้ก็เริ่มซื้อข้าวจากกัมพูชาไปขายทั่วโลก เขาก็พอใจเพราะเราไปช่วยเขานี่คือธุรกิจสมัยใหม่ ผมจะไม่สู้กับเวียดนาม สู้กับพม่า แต่จะสู้ด้วยการเพิ่มมูลค่า สู้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ และการแปรรูป เขาขายข้าวสาร ผมขายข้าวผัด ขายข้าวสำเร็จรูป ทำไมผมต้องไปแข่งขันขายข้าวราคาถูกๆ ซึ่งผู้ที่จะเสียหายคือชาวนา และรัฐบาล"

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แถบแดงนั่น อ่านดูก็รู้แล้วครับว่า นายธนินท์คนนี้ คือปีศาจชัดๆ

แกจะเชื่อมันก็ได้นะไอ้หมู หรือถ้าแกตัดแปะกะฟันค่ากระทู้ก็อยากให้ดูตรงนี้นิดนึง เผื่อจะเปลี่ยนใจ

- ธนินท์ไม่ซื้อข้าวไทย แต่ซื้อข้าวราคาถูกจากกัมพูชา มาแปรรูปส่งออกได้ราคาสูง

- ธนินท์หลอกให้รัฐบาลค้างสต้อกข้าวไว้นานๆ และข้าวเมื่อเก่า ก็ขายไม่ได้ราคาดี มันก็จะไปช้อนซื้อมาได้ถูกๆ

- การจำนำข้าวเอาไว้ขายทีหลัง ไม่มีคำว่าขายน้อยได้เงินมาก เพราะเวียดนามปลูก เขมรปลูก ส่งออกได้ทั้งปี แข่งกับเราได้ทั้งปี

- แล้วไหนวะที่มันบอกว่า ชาวนาไทยรวยขึ้น ไอ้ตอแหล

คุณ ว.วินิฉัยกุล ตอบสมศักดิ์ กรณีความมั่วของมันที่บอกว่า จอมพล.ป.จะจับมือกับปรีดีเพื่อรื้อคดีสวรรคตผู้ตอบคือครูบาอาจารย์ตัวจริงทั้งนั้น( คุณเทาชมพูด คือ ว.วินิฉัยกุล )

paganini
ไม่นานมานี้ผมได้อ่านงานของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซึ่งพยายามชี้ชวน โน้มน้าว และในที่สุดก็สรุปว่า สาเหตุสำคัญที่ จอมพลสฤษดิ์ทำรัฐประหารจอมพล ป ก็คือ การที่จอมพล ป มีความพยายามจะรื้อฟื้นคดีลอบปลงพระชนม์ ร 8 และสมศักดิ์บอกว่า จอมพล ป ถึงกับพยายามติดต่อให้นายปรีดีกลับมาเพื่อรื้อฟื้นคดีด้วย ที่จริงแกเขียนชี้นำลึกกว่านี้อีก แต่ด้วยความเป็นนักเขียนชั้นเซียน แกเลยสื่อสารให้ผู้อ่านรู้ได้ว่าแกคิดอะไร แต่จะไปเอาผิดกล่าวหาอะไรแกไม่ได้เลย

ผมอยากเรียนถามความเห็นของ อาจารย์นวรัตน์ อาจารย์เทาชมพู และเพื่อนๆนักเรียนในห้องเรียนประวัติศาตร์เรือนไทยแห่งนี้ด้วย
ว่าถ้าประเมินจากสิ่งที่เกิดขึ้ิน สภาวะแวดล้อมในยุคนั้น รวมไปถึงเรื่องราวที่เกินความรู้นักเรียนอย่างเราแล้ว ข้อสันนิษฐานของ สมศักดิ์ เจียมฯ เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ



เทาชมพู

กลับขึ้นเรือนไทย

ขอเท้าความว่า ครั้งแรกที่ดิฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับท่านปรีดีนั้น นานมากแล้วสมัยเรียนจบใหม่ๆ หนังสือเล่มและข่าวหนังสือพิมพ์ทั้งในและนอกประเทศรื้อฟื้นเรื่องในอดีตของไทยขึ้นมามากมาย ชื่อของท่านถูกหยิบยกขึ้นมาเชิดชูเหนือกว่าใครๆ ในฐานะผู้นำในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ชื่อของพระยาพหลฯ ถูกเอ่ยไว้นิดหน่อยไม่มากนัก ชื่อของพระยาทรงสุรเดช พระยาฤทธิ์อัคเนย์ พระประศาสน์ฯ อยู่ไหนไม่รู้ ไม่ได้ยินเลยสักชื่อเดียว นโยบายเศรษฐกิจของท่านถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีก ว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของสังคมไทย
แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่แพร่หลายเท่าอีกเรื่องหนึ่ง คือกระแสที่แพร่สะพัดว่า ท่านปรีดีต้องลี้ภัยออกจากประเทศไทยเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสีกรณีสวรรคต ทำให้ผู้บริสุทธิ์ที่มีคุณค่ายิ่งต่อประเทศชาติกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้ ท่านเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าใครใส่ร้ายท่าน แต่ท่านก็ไม่พูด มีแต่คนอื่นๆพูดแทน เป็นเดือดเป็นแค้นแทนว่าท่านกลับไม่ได้เพราะถูกใส่ร้ายนี่แหละ จากนั้นก็ประณามทั้งทางตรงทางอ้อม ถึงตัวการแท้จริงที่ยังลอยนวล
แต่...สังเกตอยู่อย่างว่า ผู้เป็นเดือดเป็นแค้นแทนท่าน ไม่เคยเอ่ยชื่อจอมพลป.เลย เหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

ตอนนั้นดิฉันก็ได้แต่สงสัยไปตามประสา ว่าคนที่เชิดชูท่านก็รุ่นๆดิฉันนี่แหละ หรือไม่ก็อ่อนกว่าหลายปี เขาเกิดไม่ทันเห็นท่านปรีดีแน่ๆ เพราะท่านลี้ภัยการเมืองไปตั้งแต่พ.ศ. 2492 แล้วไม่เคยกลับมาอีก ก็แปลว่าหลังจากนั้นท่านไม่มีกิจกรรมใดๆในประเทศไทย ผลงานอะไรต่างๆในไทยก็ย่อมไม่มีโอกาสทำเช่นกัน
แล้วทำไมคนบางคนที่รุ่นดิฉันหรืออายุน้อยกว่า จึงพากันรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมยกย่องเชิดชูผลงานก่อนพวกเราเกิดกันนักหนา แม้งานของท่านจะทิ้งช่วงห่างจากสมัยพวกเราเรียนจบทำงานกันแล้วเกือบ 30 ปี ก็ไม่เห็นจะมีช่องว่างอะไรในความรู้สึกของพวกเขา งานเหล่านั้นเคยได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงในทางปฏิบัติ ก็ไม่มีใครประเมินในด้านนี้ออกมาให้ได้อ่านกันชัดๆ
แต่คนอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศไทยมาตลอดตั้งแต่ก่อนพวกเราเกิด ทำงานในประเทศไทยมาตลอดตั้งแต่พวกเราเล็กจนโตเป็นผู้ใหญ๋ มีผลงานใหญ่น้อยที่ควรจะหยิบยกมากล่าวกันได้ พวกนี้กลับไม่เคยเอ่ยถึงเลย หรือเอ่ยก็ไม่เคยเอ่ยในทางดี


เมื่อสงสัยขึ้นมาแล้ว ดิฉันก็หาคำตอบ ด้วยการไปหาครูบาอาจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์แล้วขอให้ท่านแนะนำหนังสือและเอกสารต่างๆให้ เพื่อจะหาคำตอบให้หายสงสัย ในที่สุดก็ได้ข้อเท็จจริงมาว่า
๑ กรณีสวรรคตเกิดเมื่อพ.ศ. 2489 เป็นเวลาถึง 3 ปี ก่อนหน้าท่านปรีดีจะออกจากประเทศไทยอย่างถาวร ในพ.ศ. 2492 ไม่ใช่เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน ว่าเมื่อเกิดกรณีสวรรคตแล้ว จากนั้นไม่กี่เดือนหรือไม่กี่วันท่านปรีดีก็จำต้องออกจากประเทศไทยไป เพราะถูกใส่ร้ายป้ายสี ดังที่มีเสียงกล่าวกันทั้งวาจาและลายลักษณ์อักษร ในอีก 30 ปีต่อมา ให้คนรุ่นหลังคือรุ่นดิฉันเข้าใจทำนองนั้น
๒ สาเหตุที่ท่านปรีดีออกไป มีหลักฐานชัดเจนว่าเกิดจากกบฏวังหลวง ที่ท่านและผู้ร่วมก่อการได้ยึดพระบรมมหาราชวังเป็นกองบัญชาการ ใช้อาวุธต่อสู้กับรัฐบาลของจอมพลป. แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ตำรวจทางรัฐบาลตามล่าตัวข้อหากบฏซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต เป็นใครใครก็ต้องหนี จึงไม่แปลก และไม่จำเป็นต้องมีเบื้องหลังซับซ้อน มันมีเบื้องหน้าที่เห็นอยู่โต้งๆแล้วว่าทำไมท่านจึงต้องหนีออกจากประเทศไป
๓ หัวหน้าฝ่ายรัฐบาลที่เป็นปรปักษ์โดยหน้าที่ ในกบฏวังหลวง คือจอมพลป. พิบูลสงคราม คนที่สั่งจับกุม สั่งให้ส่งขึ้นศาล คือนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ผู้อื่น เพราะในพ.ศ. 2492 ไม่มีกลุ่มอำนาจอื่นใดนอกจากนายกรัฐมนตรี หลักฐานทางฝ่ายรัฐบาลมีชัดเจนเพราะกบฏวังหลวงเป็นกบฏที่ลงมือยึดสถานที่และใช้อาวุธ ไม่ใช่กบฏประเภททางการสืบทราบได้แต่ไม่เคยลงมืออย่างกบฎนักโทษประหาร 18 คน

เอา 3 ข้อแค่นี้ก่อนนะคะ คุณ paganini คงตอบแทนดิฉันได้ว่าข้อสันนิษฐานที่คุณถาม ดิฉันเห็นว่าเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้




NAVARAT.C
ผมขอสารภาพว่าผมไม่ได้ติดตามอ่านข้อเขียนของสมศักด์เจียมแบบขาประจำ แต่พอจะรู้ว่าแกออกแนวอะไร

คนอายุเท่าๆกับผม เมื่อพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรแล้ว ตั้งแต่เด็ก เรื่องที่เคยได้ฟังฝ่ายตรงกันข้ามโจมตีพระองค์หนักๆก็เป็นเรื่องเดียวกับเรื่องที่สมศักดิ์เจียมและพวกร่วมอุดมการณ์กำลังกระทำอยู่นี่แหละ แต่พระองค์มิเคยทรงโต้ตอบ หากทรงสร้างพระบารมีด้วยการกระทำพระราชกรณียกิจต่างๆเพื่อประชาชน จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยทั้งชาติ และทรงผ่านพ้นสถานการณ์อันมิพึงปรารถนามาได้ตลอด ใครที่มาเป็นรัฐบาลก็ย่อมตระหนัก การกระทำใดๆที่เสมือนให้ท้ายพวกที่โจมตีพระองค์ คือการสร้างความแตกแยกของคนในชาติ และรัฐบาลเองนั่นแหละจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้นก็จริงของเขาส่วนหนึ่งที่ว่า เมื่อทหารการเมืองจะปฏิวัติ ก็มักจะอ้างว่ากระทำเพื่อปกป้องพระราชบัลลังก์เสมอ ใช่สิ เพราะถ้าไม่อ้างเช่นนั้นก็เท่ากับประกาศตนเป็นศัตรูของประชาชนเท่านั้นเอง

ส่วนเหตุผลที่จอมพลสฤษดิ์ปฏิวัติจอมพลป. ผมเชื่อว่าเป็นเพราะประชาชนไม่เอาจอมพลป.เพราะเกลียดเผ่า เหมือนที่ไม่เอาจอมพลถนอมเพราะเกลียดณรงค์ ครั้งนั้นประชาชนเชื่อเสียแล้วว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่สกปรก เมื่อพลังบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลทนไม่ไหวถึงกับออกมาเดินขบวนขับไล่รัฐบาล ยังไงๆก็ต้องจบที่การปฏิวัติรัฐประหาร ถ้าจังหวะนั้นสฤษดิ์ไม่ทำ เผ่าก็คงจะทำ

ส่วนคำถามสุดท้ายที่ถามมา
ผมไม่ให้ค่าต่อคนอย่างสมศักด์เจียมครับ ต่างคนต่างอยู่ที่ชอบๆก็แล้วกัน


http://www.reurnthai...cseen#msg109704

*กระทู้นี้ชำแหละสมศักดิ์เจียมฯครับ

เสาวณีย์และจีรนันท์ เป็นโฆษกคู่ของขบวนการนักศึกษา 14 ตุลา 16
วันนั้น สมศักดิ์ยังนุ่งขาสั้นอยู่สวนกุหลาบ ยังเรียนทฤษฎีมาร์กซิสต์จากเอกสารโรเนียวอยู่เลย

กว่าจะมาเป็นแกนนำธรรมศาสตร์ ก็ปี 2518 ตามรอยพิเชียรและธงชัยที่มาสร้างฐานไว้ให้
เวลา 2-3 ปีในช่วงนั้น มีนัยยะสำคัญจนเอามาเล่าปนกันไม่ได้

ความจริงน่าดีใจที่มีคนรู้เรื่องดีอย่างคุณหมีมาสนทนา...แต่ก็อย่างที่คุณเองบอกไว้แหละครับ
สมาชิกที่นี่มีมาตรฐานทางปัญญาพอที่จะกำจัดคนแอบอ้างได้เสมอ

เรื่องมันยังไม่หมดเพี่ยงเท่านี้
ประเด็น ว.5 เนี่ย มันเป็นประเด็นที่ โคตรจะน่าอับอายมากๆ
คือจริงๆแล้ว ฝ่ายนั้นเขาก็ต้องการให้เรื่องมันเงียบไปให้มากที่สุด
ไม่ต้องการให้ออกมาพูดกันมาก
และการตอบมันก็จะมีรูปแบบอยู่แล้ว ว่าต้องตอบแบบไหนที่ จะดู"แถ" น้อยที่สุด
ทีนี้ เมื่อ MiNi เปิดประเด็นที่ รัดกุมมาก ตระกองขวัญเองนั่นแหละ ที่จะต้องเงียบ
คือ ต้องใช้วิธีแบบเสื้อแดงทั้งหลาย คือ หายหัวไปเลย
แล้วก็ทำหน้าด้าน ลั้ลลา ที่กระทู้อื่นต่อ
เหมือนอย่างใจดีที่เวปนี้ หรือ ปลายแขม นั่นแหละ
แต่ตระกอง ท่าทางน่าจะโง่แต่อวดฉลาด โชว์สาวๆ (เห็นว่าชมกันว่าหล่อรากเลือด)
ก็เลยไม่ยอมแพ้ พาลเซ่อ เดินไปลง"บ่อ" ที่ MiNi ขุดเอาไว้ แล้วยังมีหน้ามาชูคอด่าเขาต่ออีกกระทู้หนึ่ง
สำหรับกระทู้ใหม่ ที่เปิดมา เพื่อ ด่า MiNi โดยเฉพาะ เพื่อรักษาแผลอายที่โดนตบกระบาล
http://www.pantip.co.../P12469015.html
นี่ก็คือความโง่แบบเซ่อๆ ตอนที่ 2 ของตระกองขวัญ
ทำไมเหรอ
เพราะประเด็นที่ MiNi ยกขึ้นมานั้น มันรัดคอตายอย่างเดียว
ดิ้นไม่หลุด
การเปิดกระทู้นี้อีกรอบ เท่ากับ ประจานความเซ่อของตัวเองอีกรอบ
ที่สำคัญคือ มัน"ประจานนายก" เจ้านายเหนือหัวมันด้วย !!!!
ประจานจนแม้แต่พวกเดียวกันยังทนไม่ได้ ต้องบอกให้มัน หุบปากได้แล้ว
"เมาก็ไปนอนซะ!!!!" (จริงๆแล้วในใจอาจจะมีสร้อยต่อท้ายก็ได้ว่า ไอ่......)

คือสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือการแถล้วนๆครับคุณศร
ผมชื่นชมคุณศรมาก ที่ อดทนตีกับไอ้พวกแถพวกนี้ได้ เพราะผมคงอดทนไม่พอน่ะครับ

มันแถมาตั้งแต่ทีมปชส.ของนายกแล้ว
ที่ต้องมาออกแบบนี้เป็นงานของที่ปรึกษานายกล้วนๆ
แล้วมันไม่มีหลักฐานหรอกครับ
สื่อมวลชนก็ไม่มีใครกล้าสืบค้น เพราะอะไรก็ไม่รู้ได้
แต่ที่สำคัญก็คือ
เมื่อมันไม่มีหลักฐานว่านายกไปคุยเรื่องอะไร
ก็ไม่มีหลักฐานว่า ผลประโยชน์ทับซ้อน ที่เอื้อให้กับบางธุรกิจนั้น คืออะไร
เสื้อแดงก็พยายามบิดเบือนข้อมูลที่คุณศรเอามา
ว่าข้อมูลที่คุณศรอ้างนั้น ไม่ถูกต้อง แค่นี้ก็จบแล้ว
ดังนั้น เราจะโยงว่า ว.5 กับ ผลประโยชน์ทับซ้อน มันก็จะเหมือนกับกรณี พรบ.ปรองดอง
ที่เรามองว่า ทักษิณได้ผลประโยชน์ แต่ทางนั้นก็จะบอกว่า คนอื่นก็ได้เหมือนกัน
เช่นเดียวกันครับ
ประโยชน์ที่จะได้กับกลุ่มธุรกิจ แสนศิริ มันก็จะต้องพ่วงไปกับผลประโยชน์ของส่วนอื่นๆหรือคนอื่นๆด้วย
ถึงจะได้ข้อมูลมา เขาก็แย้งคุณศรได้อยู่ดีว่า คนอื่นก็ได้ผลประโยชน์เหมือนกัน
เรื่องจะเอาราคาหุ้นมาเล่น ก็เช่นกันครับ
ถ้าเขาจะบอกว่า หุ้นอื่นๆมันก็ขึ้น แล้วเอาเรื่องหุ้นขึ้นไปโยงกับผลประโยชน์ที่คลุมเครือ
มันจะทำลายน้ำหนักของเราลงไปได้ครับ

เขาจะตีความน่าเชื่อถือของข้อมูลคุณเป็นอันดับแรก
จากนั้น เขาก็จะตีการโยงและสรุป เป็นอันดับต่อไป
แค่นี้แหละครับ
โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะหลังจากนั้น
จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก็จะกลายเป็น ต้องมาพิสูจน์ข้อมูลกันก่อน
กลยุทธ์นี้เป็นกลยุทธ์ที่ลากดำนาใช้กันเป็นประจำครับ
วิธีเล่นกับมันแบบตบกบาลมันได้
คือเปิดประเด็นสั้นๆ โดยใช้จุดที่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง100% แล้วตีเข้าไปตามข้อมูลที่พวกมันเชื่อๆกันอยู่
จากนั้นก็คอยคุม ไม่ให้ออกนอกประเด็นเหตุผลที่ยกมา
รับรองว่า ควายแดงต้องร้องไห้แน่นอน
เพราะพวกมันถูกสอนให้มาแสดงเหตุผลแค่ตามโพย เหมือนครูที่เข้ามาบอกว่า ข่าวใหม่ 2+2=5
เราไม่ต้องไปเถียงว่า มันเป็น 4 หรอก
แค่ถามมันว่า ไอ้ 1 ที่มันเกินมานั้น มาจากที่ไหน
เราก็จะเห็นว่ามันเริ่มตะแบง โดยบอกว่ามันเท่ากับ5 มิงมาถามอะไรกับ1 วะ

ที่น่าเบื่อก็คือ
พอโดนหลักฐาย โดนเหตุผลเข้าไป ไปไม่เป็น
ก็หนีไปตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อจะได้ไม่มีข้อความฝ่ายตรงข้ามอยู่
แล้วก็ด่าๆๆๆๆ อย่างเดียว

อีกเหตุที่น่ารังเกียจคือ
การตั้งกระทู้ด่าฝ่ายตรงข้าม โดยไม่ต้องมีหลักฐานอ้างอิง

นั่นเป็นเหตุให้ที่นั่นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
ทั้งที่คนคุณภาพเขาก็พอมีนะครับ
แต่กลับปล่อยให้ขยะลอยกองเต็มบอร์ดไม่เก็บกวาด

วิธีนึงที่ผมเห็น
คือการแบ่งเซลออกมา
พอกระทู้ไหนไปไม่เป็น ก็จะมีเซลส์ที่แตกตัวออกไป แต่ชุดความคิดเดียวกันเป๊ะเข้ามาช่วย

ผมว่า เค้าเก่งนะครับ ที่สร้างชุดความคิดเดียวกันได้ทั้งหมด
ผมไม่เคยเห็นฝ่ายเดียวกัน เถียงกันเลย มีแต่เออออห่อหมกตามกันไปหมด

นึกถึงพี่ๆ น่้าๆ ลุงๆ ที่นี่
ที่เคยถกเถียงกันเองจนหน้าดำคร่ำเครียด
เพราะมีที่มาที่แตกต่างกัน

เฮ้อ

ข้อมูล และ มุมมองด้านเดียว เกียวกับสถาบันฯ ทีใช้การบังคับ ยัดเยียด แล้วไม่อนุญาตให้ตรวจสอบ ไม่อนุญาต ให้เสนอแบบอืน

มาดูตรรกะที่รองรับประโยคเด็ดของสมศักดิ์กันหน่อย

1 มีหลักฐานหรือไม่ ว่าข้อมูลและมุมมองด้านเดียวเกี่ยวกับสถาบัน มาจากการบังคับ ยัดเยียด
ข้อนี้ สมศักดิ์สามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ โดยไม่ผิด 112 อาจจะเอาคำพูด การกระทำ หรือโครงการของตระกูลชิวัตรมาก็ได้ ใช่ใหมครับ

2 สมศักดิ์สามารถแสดงตัวอย่างของมุมมองด้านเดียวในประโยคนี้ให้เป็นรูปธรรมได้หรือไม่ เพราะที่เขาเคยบอกว่า การพูดแต่ว่าในหลวงทรงทำดีนั้น ก็ถูกพิสูจน์แล้วว่าจริง จากตัวอย่างของนักเรียนมุนหลวง ดังนั้น ข้อยึดถือนี้จึงไม่ได้มาจากการยัดเยียด แต่มาจากข้อเท็จจริง

3 ข้อที่ว่า ไม่อนุญาตให้ตรวจสอบ
อันนี้สมศักดิ์ในฐานะที่เป็นนักวิจัย คงต้องเคยทำการตรวจสอบสถาบันมาแล้ว อย่างหนัก พิสูจน์ได้จากการตั้งหน้าตั้งตากล่าวแต่แง่ลบเกี่ยวกับสถาบัน...ทว่า อาจจะมีความจริงอีกด้านแฝงอยู่ คือสมศักดิ์เคยตรวจสอบแล้ว แต่ไม่พบอะไร ....จึงได้แต่วนเวียนวิพากษ์วิจารณ์ตามรูปแบบ ไม่มีประเด็นชัดเจนให้คนอื่นได้รับทราบและพิจารณาไปร่วมกัน

4 ข้อที่ว่า ไม่อนุญาตให้เสนอแบบอื่นนั้น นิติราดก็ทำให้เห็นแล้วว่า ทำได้ เช่นอยากบังคับให้ในหลวงต้องสาบานว่าจะพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ประเด็นนี้สมศักดิ์เองก็เคยเสนอ 8 ข้อในการปฎิรูปสถาบันออกมาแล้ว ....ปรากฏชัดในสื่อทั่วไป

ดังนั้น จึงถือว่าสมศักดิ์ โกหกในการบอกว่ามีแต่ ข้อมูล และ มุมมองด้านเดียว เกียวกับสถาบันฯ ทีใช้การบังคับ ยัดเยียด แล้วไม่อนุญาตให้ตรวจสอบ ไม่อนุญาต ให้เสนอแบบอืน

ผมไม่เคยตำหนิเวปเสรีไทยในที่ไหน เนื่องจากผมก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วย

เคยมีคนตั้งกระทู้ดูหมิ่นชาวนา
ซึ่งก็เห็นว่าสมาชิกในเวปก็พลอยเห็นดีเห็นงาม ด่าชาวนาไปด้วย
ซ้ำมีลูกชาวนามาเล่นเวป ก็ยอมทนให้เขาด่าบรรพบุรุษตนเอง
โดยเพราะเห็นว่าเป็นพวกเดียวกัน
ผมก็แปลกใจ...

วันนี้ผมอาจละเมิดกฎของตัวเองบ้าง

ขอเอากระทู้นี้ ไปแปะในเวปต่างๆเพื่อให้คนอื่นได้รับทราบเรื่องนี้
เพราะผมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ

เพื่อจะได้รู้กันว่า
เพื่อที่จะทำลายคนๆหนึ่งที่ตนเองเกลียดชังแล้่ว มันทำได้ทุกอย่าง !!

ประโยคสุดท้ายคุณเอาไว้ไปเตือนพวกเดียวกันดีกว่ามั๊ง ฟังวิทยุ ดูทีวีแดง เห็นเอาทุกดอก โกหกบิดเบือนหน้าตาเฉยเลยก็มี เพื่อให้คนเกลียด

ส่วนกระทู้นี้ถ้าคุณเคยติดตามโพสต์คุณ Sigree ท่านเป็นผู้มีความรู้เรื่องศาสนาอิสลาม อ่านกระทู้แล้ว ก็คือการเตือนนายกฯ ในมุมของผู้นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้นเอง

ผมเป็นมุสลิม หากคุณสงสัยแนะนำว่าไปตรวจสอบได้ลองค้น Google ได้

ผมเขียนบทความทางศาสนาไว้มากพอสมควร

ไม่ได้พูดโดยไม่มีความเท็จและอ้างตัวบททางศาสนาหากคุณอยากได้นะ แต่อ้างมาคุณจะเข้าใจหรือปลายอ้อ?

และว่าตรงๆ ผมว่างานนี้ผมตำหนิคนรอบตัวนายกที่เป็นมุสลิมมากกว่าตัวนายกเสียอีก

ผมว่าผมตักเตีอนทุกฝ่ายเสมอที่จะใช่ศาสนาเพื่อเสียงสนับสนุน หากไม่เข้าใจความละเอียดอ่อนแล้วก็พึ่งเลี่ยงเสีย

แล้วเรื่องมุสลิมอึดอัด คุณลองไปค้นดูได้ว่าหลังเรื่องพวกนี้ออกไปมุสลิมว่ายังไง

http://www.muslimtod...article&id=2697

http://www.khaosod.c...E9PQ==&catid=07

http://www.oknation....1/06/28/entry-1

และนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เตือน ผมเตือนตั้งแต่นายกคลุมผมโดยไม่เข้าใจ การขอพรโดยไม่เข้าใจ

เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนนะ

แล้วถามจริงๆหากไม่ทราบรายละเอียดทำไปทำไม แล้วที่ทำผิดไหมละ?

คุณบอกไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง แต่ทำไมคนก่อนหน้านี้ทำไม่มีปัญหาละ?เขาทำและใช่ที่ปรึกษาที่เข้าใจไหม?

แล้วนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอและคนใกล้ชิดเธอทำ พลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าอย่างไรดี