รักชาติจนน้ำตาไหล
- ซีมั่น โลช่า likes this
โดย คนกินข้าว on 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:58
โดย คนกินข้าว on 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:45
กำนันเริงร่ารอเวลาเชือด : ขยายปมร้อน โดยศรุติ ศรุตา
สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.เหมือนจะอยู่ในภาวะทรงๆ จัดงานเล็กๆ น้อยๆ ไปเรื่อยๆ รอการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากองค์กรอิสระ ที่บัดนี้เริ่มเรียงลำดับเวลาในการพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับอดีต ส.ส.รัฐบาล และรักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เรียกได้ว่า กปปส.เข้าสู่โหมด "วิชาการ" ไปพลางๆ ก่อน เพื่อตรึงอารมณ์ของผู้ชุมนุมให้อยู่ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นพาเดินชนนั่นนี่ก็ตาม
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าแนวความคิดดังกล่าวนั้น มีบางส่วนในแกนนำกลุ่ม กปปส.ไม่ค่อยพอใจเท่าใดนัก เนื่องจากเห็นว่า แนวทางนี้ ยากที่จะนำพาความสำเร็จมาสู่ผู้ชุมนุม
แต่การเลือกเส้นทางเดินของการชุมนุมไปในแนวทางนั้นก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น การชัตดาวน์กรุงเทพฯ ในก่อนหน้านี้ ก็อยู่ในระนาบใกล้เคียงกัน เพียงแต่ยังคงอยู่ในจุดที่ควบคุมได้
เพราะจะว่าไปแล้ว สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ไม่เห็นด้วยกับการเดินแรงเพื่อแตกหักกับรัฐบาล เพราะมองเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่า การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.นั้น ไม่ได้มีพลังมากพอที่จะโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่แรก
แม้ในวันที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ยังไม่ใช่อยู่ดี
สิ่งที่สุเทพ ประกาศว่า หลังการชุมนุมครั้งนี้ จะวางมือทางการเมือง ไม่ยอมรับทุกตำแหน่งใดๆ ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า สุเทพ มองเห็นแต่แรกแล้วว่า การชุมนุมไม่อาจล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขณะเดียวกัน การเดินไปในลักษณะท้าทายความรุนแรง จะนำไปสู่การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของ กปปส.กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาล โดยเฉพาะคนเสื้อแดงที่วันนี้มีหลายพื้นที่ได้เริ่มรับสมัครผู้คนเพื่อจัดตั้งกองกำลังกันแล้ว เพียงแต่ว่า จุดเริ่มต้นนี้ จะสามารถเดินไปจนถึงวันรวมพลใหญ่แล้วเคลื่อนพลลงมายังเมืองหลวงได้หรือไม่เท่านั้น
บทสรุปที่ว่าทำให้ สุเทพ ไม่ได้สถาปนาตนเองเป็นองค์รัฐาธิปัตย์ ดังที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เมื่อการชุมนุมมาถึงจุดที่เชื่อมั่นว่า รัฐบาลไม่สามารถสั่งการบริหารประเทศๆ ได้แล้ว จะยึดอำนาจมาเป็นของมวลมหาประชาชน
ผลจากการไม่ใช้ความรุนแรง ก็เลยทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงยากที่จะหาเหตุปัจจัยให้เข้ามาได้ และยากที่จะรวมพลเป็นกลุ่มก้อน เพราะเป้าหมายในเมืองหลวงไม่ชัดเจน
ตรงจุดนี้ ไม่เพียงแค่ กปปส.เท่านั้นที่ดูแลการชุมนุม แม้จะเป็นที่ปิด แต่ก็ทำได้อย่างง่ายดาย ยิ่งเมื่อมีกองทัพตั้งด่านใต้เหตุผลว่า เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ตั้งบังเกอร์อยู่รายรอบพื้นที่ชุมนุมด้วยแล้ว การก่อเหตุรุนแรงจึงลดลงอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะเหตุจากกระสุนวิถีโค้งอย่างเอ็ม 79
ยิ่งมีการปรับบังเกอร์ให้มีทัศนียภาพให้สอดรับกับความต้องการของรักษาการนายกฯ ที่อ้างถึงอารมณ์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็ยิ่งทำให้ "บังเกอร์" กลายเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุมกลุ่ม กปปส.
ทั้งที่ความจริงแล้ว การตั้งบังเกรอ์รายล้อมพื้นที่ชุมนุมนั้น เป็นไปตามหลักยุทธศาสตร์การเข้ายึดพื้นที่และควบคุมจุดสำคัญและจุดที่ล่อแหลม
อย่างที่รับรู้กันในก่อนหน้านี้ว่า สิ่งที่สั่นคลอนหรือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลขึ้นได้มีอยู่สองส่วนด้วยกัน
หนึ่งก็คือ "กองทัพ"
อีกหนึ่งก็คือ "กฎหมาย"
การตั้งบังเกอร์นั้นเป็นไปตามนโยบายของกองทัพบก ซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งวางจุดตามยุทธศาสตร์ของทหาร เพื่อควบคุมพื้นที่ในการที่จะรองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในอนาคต ไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะนำไปสู่เหตุการอะไรก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็น สงครามกลางเมือง วินาศกรรม หรือเหตุจลาจล !
เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่า อีกไม่นานจากนี้ คดีความที่เกี่ยวข้องกับ รักษาการนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะค่อยๆ ทยอยออกมา
ทุกคำพิพากษา ทุกคำวินิจฉัย ล้วนส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยหากเกิดเหตุเช่นนั้นจริง เมื่อควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์เอาไว้แล้ว ก็เหลือแค่ว่า การประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก เพื่อเปิดทางให้กองทัพเข้ามาควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเหตุในเมืองหลวงหรือเหตุที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัด
คงไม่ต้องถามว่า สถานการณ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลนั้นเป็นอย่างไร ถ้าหากรู้ว่า การประชุม ครม.เศรษฐกิจที่เดิมจะไปประชุมกันที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี แต่ก็ต้องย้ายไปยังโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน ด้วยเหตุผลที่ว่า "ไม่สะดวก"
เข้าสู่ช่วงกลางเดือนมีนาคมก็ต้องเรียกว่า งวดเข้ามาทุกขณะแล้ว
โดย คนกินข้าว on 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:14
ใครเขาจะกล้ากับข้าวโพดคั่วแทนเอ็งเล่า
โดย คนกินข้าว on 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:25
โดย คนกินข้าว on 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:24
มาตรา ๒๐๙ ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๒๑๐ ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค ๒ นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
ฝากไว้ด้วยนะถึงเวลาจะได้รู้ข้อหาตัวเอง
โดย คนกินข้าว on 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:31
วันที่ 9 มี.ค. บีบีซีรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาประชาชนสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ โดยประชาชนเกาหลีเหนือออกไปใช้สิทธิ์อย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ทางการได้จัดการแสดงเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนไปเลือกตั้งตามท้องถนนและตามสื่อโทรทัศน์ของรัฐ นับเป็น"การเลือกตั้ง" ที่จัดขึ้นครั้งแรกหลังนายคิม จองอึน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือเมื่อปี 2555
อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งดังกล่าวถูกวิจารณ์ไปทั่วโลก เนื่องจากมีผู้สมัครเพียงคนเดียวในแต่ละเขตเลือกตั้ง และล้วนแต่เป็นบุคคลที่รัฐบาลคัดสรรมาแล้ว ทำให้ตัวเลือกมีเพียงแค่ รับรอง และ ไม่รับรอง เท่านั้น ซึ่งทางการเกาหลีเหนือได้กำชับให้ประชาชนทุกคนรับรองผู้สมัครให้ครบทุกคน เพื่อแสดงความสามัคคีแด่นายจองอึน ทั้งนี้ การเลือกตั้งสภาประชาชนในครั้งที่แล้วเมื่อปี 2551 มีผู้มาใช้สิทธิ์ร้อยละ 99 และทั้งหมดร้อยละ 100 ต่างเลือกลงคะแนน รับรอง ผู้สมัครเป็นเสียงเดียว
ทั้งนี้ มีรายงานว่านายจองอึนลงสมัครเองด้วยในเขตเลือกตั้งภูเขาปักดู ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวเกาหลีเหนือ
โดย คนกินข้าว on 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:57
มาตรา ๒๐๙ ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๒๑๐ ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค ๒ นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด ที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท
โดย คนกินข้าว on 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:04
หลังจากที่นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ อพปช. ได้เปิดรับสมัครชาย-หญิง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็น อพปช.ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.) ล่าสุดนายเสนอ นันทน์ธนกุล ผู้อำนวยการรับสมัคร อพปช.จังหวัดนครราชสีมาเปิดเผย เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ว่า การรับสมัครเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา มีชาย-หญิง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา นำบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายมาเพื่อขอสมัครเป็น อพปช.จำนวนกว่า 600 คน และหลังจากนี้ก็จะให้แกนนำคนเสื้อแดงแต่ละอำเภอ ไปเปิดจุดรับสมัครในพื้นที่ของตน ให้ครอบคลุมทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป ซึ่งคาดว่าจังหวัดนครราชสีมาจะได้ อพปช.ไม่น้อยกว่า 2,000 คน ตามที่ตั้งเป้าไว้ และในช่วงเดือนเมษายนนี้ อพปช.ประมาณ 2 แสนคน ทั่วประเทศ จะมารวมตัวกันที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อสวนสนาม และรับนโยบายการปฏิบัติหน้าที่จากมติที่ประชุมของแกนนำ อพปช. หลังจากนั้นก็จะแยกย้ายไปทำการฝึกยุทธวิธีต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดของตนเองต่อไป นายเสนอฯ กล่าว.
----------------------------------
พิทักษ์ประชาธิปไตย ต้องมียุทธวิธึในการพิทักษ์ด้วยเว้ยเฮ้ย....
โดย คนกินข้าว on 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:26
เอ็งมาบ่นกับตรูทำไมวะเนี่ย เอ็งไม่บอกกับคนที่เอ็งเห็นนั่นเล่า
โดย คนกินข้าว on 7 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:16
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net