Mark Nazi

คุณทองแดงเค้ามาจากพรหม....ตายแล้วเค้าก้อกลับพรหม
ส่วนปวิน...ตายแล้วมีอเวจีเป็นแดนเกิด........................



...อย่าเชื่อผมน่ะ ตราบใดที่คุณยังพิสูจน์ไม่ได้
เพราะผมเองก้อจินตนาการเอา.....

สัตว์เดรัจฉานสามารถเคลื่อนภพไปเป็นเทวดาได้เพราะอาศัยแรงของกุศลจิต แต่ไม่สามารถไปเป็นพรหมได้ เพราะเกิดเป็นพรหมต้องใช้แรงของฌาณ

ถ้าตำรวจที่ตายและที่เจ็บเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมด้วยอารมณ์เป็นเหตุ ก็ถึอว่ากรรมติดจรวดและครับ แต่ยังไงก็ขอให้ไปยังที่สุขติ

ส่วนบาง ID ที่แสดงถึงความโกรธแค้น ผมเข้าใจนะ แต่คุณรู้ตัวป่าวว่า พฤติกรรมคุณเปลียนไปจากที่ผมเห็นคุณในตอนมาสมัครในบอร์ดนี้แรกๆเยอะเลย

ไม่ใช่ผลของกรรมนั้นหรอกครับ มันไม่หนักพอ เรื่องกรรมอย่าไปคิดว่าทำนี้ ๆ แล้วได้อะไร เพราะมันเป็นกรรมวิสัย รู้แค่ว่ากรรมดีย่อมส่งผลดี กรรมชั่วย่อมส่งผลชั่ว บางคนที่ทำดีแล้วยังตกยากอยู่เพราะกรรมชั่วยังให้ผลอยู่ หากหมดผลของกรรมชั่วกรรมดีก็จะส่งผลให้เห็นเอง กลับกัน บางคนที่ทำชั่วแล้วยังเสวยสุขอยู่เพราะกรรมดียังให้ผลอยู่ หากหมดผลของกรรมดีกรรมชั่วก็จะส่งผลให้เห็นเอง

เผื่อมีคนที่เข้าร่วมชุมนุมอ่าน... ให้ดูสถานการณ์ไว้ด้วย เพราะในที่ชุมนุมคนที่เชื่อใจได้คือตัวคุณเอง ไม่ใช่คนนำม็อบหรือเพื่อนข้าง ๆ ถ้าเห็นความไม่ชอบมาพากลขอให้เดินออกจากม็อบเงียบ ๆ เลย แล้วพยายามไปให้ห่าง ๆ จากที่ชุมนุม

ถ้าคุณยังไม่ได้เข้าร่วม หรือจะไปเข้าร่วม ก่อนไปขอให้สังเกตจากตึกสูงไกล ๆ ซักตึกและมองสถานการณ์อย่างใจเย็น ว่าอะไรเป็นอะไร และมองทางหนีไว้ด้วยหากยังต้องการจะเข้าร่วม

ไอ้พรรคพวกเวียตนามมันก็บอกผมมาแบบนี้แหละ แค้นมาก!!!
แต่ได้แก้แค้นไว้ล่วงหน้าละ

เล่นสาวนอกได้ใส่ถุงไหมนั่น

ขอสอบถามครับ การกระทำที่เป็นการป่วนบอร์ด มีความผิดไหมครับ ฐานที่สร้างความรำคาญแก่สมาชิก

ขอเสนอให้มีผลเป็นกฏของบอร์ด เพราะที่ผ่าน ๆ มา มีพวกสันดานชาติหมา ชอบเข้ามาก่อกวนในนี้เป็นประจำ

ทั้งนาย MARK LOVER JAGGER คุณหนูนั่งเบนซ์ Phat21 HENTAI TAM-MIC-RA

นาย '', finder นาย NOPANTAMAN AGAIN นายSON RUFER สิงห์สนามหลวง JAIDEE20

การเดินทางของหัวใจ หมูอวกาศ อ้วนประจัญบาน กาลามชน mmmmm

รวมทั้งพวกกากเดนบอร์ดแบบนายเวร ATOM หนูจินซี8 ปุ๊กลุ๊ก ที่ไม่รู้ว่าจะจองกรรมจองเวรกับที่นี่อีกนานเท่าไหร่

เพื่อไม่ให้ที่นี่กลายเป็นที่ ๆ ให้พวกนี้เข้ามาก่อกวน ของเสนอให้แบนผู้ที่มีพฤติกรรมแบบนี้เป็นการถาวร มีผลในทันทีที่ประกาศ

ปล.อ้อ ต้องเพิ่ม ดอนยอ กับปลายอ้อกอแขมด้วย

และแล้วที่นี่ก็จะกลายเป็นบอร์ดสุดโต่งแบบพันทิป

"ย้ายเมืองหลวง มิสู้สร้างเมืองศูนย์กลางตามภูมิภาคมิดีกว่าเหรอ"

ผมว่าไม่เป็นการเหมาะสม อนึ่งถ้าจะไปสร้างตามภาคเหนือภาคอีสานก็เรื่องการคมนาคมอีก เพิ่มต้นทุนการผลิตโดยใช่เหตุ การกระจายตัวประชากรกรุงเทพมหานครออกไป จะทำให้กำลังซื้อลดลงอีกด้วย

ส่วนตัวแล้ว ผมมีความเห็นว่า ควรกระจายตัวประชากรไปยังตัวเมืองรอบข้างดีกว่า แล้วสร้างระบบคมนาคมอย่างรถไฟใต้ดินเพื่อไปมาหากันในราคาถูก ประชากรในตัวกรุงเทพมหานครอาจลดลงถึงสี่ห้าเท่า แต่กำลังซื้อก็จะไม่ลดลงเพราะว่ามีระบบการขนส่งที่ไปมาหากันสะดวก ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ก็ไปเน้นเศรษฐกิจที่ตัวเมืองของแต่ละจังหวัดเอา ส่วนจังหวัดใหญ่ ๆ อย่าง อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช สงขลา กระบี่ เชียงใหม่ ก็ทำทางคมนาคมสายตรงเข้ามาในเศรษฐกิจศูนย์กลาง เพื่อรองรับความต้องการซื้อขายและสินค้า

จังหวัดแต่ละจังหวัดก็มีเอกลักษณ์ของตนอยู่แล้ว การจะพัฒนาเศรษฐกิจไม่ใช่การทำให้เมืองทุกเมืองกลายเป็นกรุงเทพมหานคร แต่เป็นการส่งเสริมจุดเ่ด่นจุดแข็งในแต่ละพื้นที่ต่างหาก

นอกจากนี้อีกเรื่องที่อยากให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติกันก็คือเรื่องภาษา ในสถาบันศึกษาในหัวเมืองศูนย์กลางในภูมิภาคและเมืองปริมลฑลรายรอบควรเปิดการเรียนการสอนภาษาของประเทศเพื่อนบ้านแบบเป็นวิชาบังคับหรือวิชาเลือกอะไรก็แล้วแต่แทนภาษาอังกฤษ เหตุเพราะเพราะโดยสภาพความเป็นจริงยกตัวอย่าง ชาวบ้านแถวสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีษะเกศ ฯลฯ พวกนี้พูดภาษาเขมรกันคล่องปรื๋อพอๆกับที่พูดภาษาไทย แต่เค้าสูญเสียความได้เปรียบในการติดต่อค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะอ่าน-เขียนภาษาของประเทศเพื่อนบ้านไม่ออกแต่พูดได้เพียงอย่างเดียว เหตุเพราะรัฐบาลควายจากส่วนกลางของประเทศเราตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันไปบังคับให้เค้าเรียนพูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษซะงั้น อันนี้ควรเลิกซะ แล้วตัวเข้ากับสภาพความเป็นจริงให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ดีกว่า

เช่นเดียวกันกับพื้นที่จังหวัดที่ติดกับ พม่า มาเลย์เซีย ลาว

ผมไม่เห็นด้วย เพราะอาจจะสร้างความแตกแยกในชาติบ้านเมืองได้

การเรียนภาษาของประเทศเพื่อนบ้านนั้นผมเห็นด้วย แต่ควรจะจัดให้เรียนภาษาที่ต่างจากวัฒนธรรมของตนเองเพื่อเป็นการลดอคติทางด้านวัฒนธรรม อาจจะยกตัวอย่างโดย
- ภาคอีสานที่พูดอีสาน และภาคเหนือ ให้เลือกเรียน ภาษาพม่า ภาษาเขมร ภาษามลายู แต่ไม่มีภาษาลาวให้เลือกเรียน
- ภาคอีสานที่พูดเขมร ให้เลือกเรียน ภาษาพม่า ภาษาลาว ภาษามลายู แต่ไม่มีภาษาเขมรให้เลือกเรียน
- ภาคใต้ที่ไม่ได้พูดภาษามลายู สามารถหาเรียนได้ทุกภาษา
- ภาคใต้ที่พูดภาษามลายู ให้เลือกเรียน ภาษาพม่า ภาษาเขมร ภาษาลาว แต่ไม่มีภาษามลายูให้เลือกเรียน

ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางที่สำคัญ ภาคการศึกษาถึงส่งเสริม แต่ส่งเสริมแบบผิด ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือดันไปคิดว่าต้องให้ทุกคนได้ภาษาอังกฤษ แต่ดันคิดไม่ออกว่าส่งเสริมแค่ให้ไม่กี่คนพูดได้จะง่ายกว่า แล้วทำการแปลองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่มีในภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย ประเทศไทยเราขาดต้นทุนองค์ความรู้ที่เป็นภาษาของเรา ภาษาอังกฤษสำคัญแค่เป็นสื่อกลาง แต่ไม่ได้สำคัญไปกว่าองค์ความรู้ หากประเทศไทยมีต้นทุนองค์ความรู้ที่มากพอ ภาษาอังกฤษก็จะไม่ใช่เรื่องที่จะสำคัญอีกต่อไป

ข้าอ่านหลายรอบแล้วว่า เอ็ง Ouote ข้อความเขาที่เกี่ยวกับการเป็นทหาร แล้วเอ็งก็บอกว่า "ใครก็หนีไม่พ้นความตาย" แล้วจะให้ข้าเข้าใจยังไงวะ ข้าก็เข้าใจว่า "เป็นทหารนี่มันเสี่ยงตายมากนะ ทุกคนอาจจะต้องเป็นทหาร เพราะหนีไม่ได้" ข้าเลยจะอธิบายทำความเข้าใจให้กับเอ็ง อย่างย่อๆ แค่สองบรรทัดเท่านั้น

แล้วเอ็งยังมีหน้าจะมาถามข้าว่า "เอ็งตกภาษาไทยรึ" !!!!

คำพูดของเองซึ่งมันเป็นคำพูดที่ไม่เข้าหูข้าเลย แล้วข้าก็ไม่รู้จึงถามว่า เอ็งนั้นมีปัญหาอะไรมากหรือเปล่า ถึงอยู่ปกติไม่ได้ ต้องมาหาเรื่องคนอื้นเค้า

ถามจริงๆเถอะ ข้าผิดตรงไหนวะ??? ข้าก็สงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมคนที่ฉลาดๆอย่างเอ็ง ปีๆนึงคนอ่านหนังสือหลายร้อยบรรทัดกระมัง ทำไม่ถึงไม่เข้าข้อความสองบรรทัดของข้า....

ผมจะแปลให้นะครับ ขอโทษที่ต้องอ้างคุณ อู๋ ฮานามิ ด้วย

ชายไทย ทุกคนมีหน้าที่รับราชการทหาร จะเรียนนายร้อย นายสิบ รด.(นักศึกษาวิชาทหาร) หรือทหารเกณฑ์(ทั้งร้องขอและจับใบดำใบแดง) ก็คือเป็นทหารเหมือนกันหมด ต่างกันที่คำนำหน้าชื่อ ว่าเป็น นตท., นนร., นนส. , นศท. หรือ พลฯ และระยะเวลาในการรับราชการ

ถึงจบ รด. ปี 3 ไปแล้ว หรือเป็นทหารเกณฑ์ กิน ฝึกอยู่ค่ายทหารไปแล้ว เดี๋ยวก็มีเรียกพลอีก

คุณ อู๋ ฮานามิ บอกว่า "เป็นทหารเหมือนกันหมด ต่างกันที่คำนำหน้าชื่อ"

ถ้าอย่างนั้น คนดี คนชั่ว ก็คงจะไม่ต่างกัน เพราะต่างก็ไม่สามารถพ้นความตายไปได้เลย

ผมจึงแซวกลับไปว่า หากเป็นทหารคือเหมือนกันแต่ต่างกันที่คำนำหน้าชื่อ ถ้าอย่างนั้นคนดีคนชั่วก็คงจะเหมือน ๆ กัน คืออย่างไรก็ต้องตาย ต่างกันแค่คำเรียก

ตามนั้นครับ ไม่มีใครหลีกหนีความตายได้หรอกครับแม้แต่พวกเราเอง

คุณ อู๋ ฮานามิ รู้ทันมุกจึงตอบกลับมาว่า ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะหนีความได้พ้นหรือ? การตอบกลับมาแบบนี้อาจจะไม่ได้หมายถึงอะไรแต่ก็อาจแฝงความหมายด้วยว่าคุณเอาเวลาไปทำอะไรอยู่ ในเมื่อชีวิตแขวนอยู่บนความตาย

แล้วลองพิจารณาข้อความที่คุณเขียนโต้ตอบ ในการอ้างการสนทนาของผมกับคุณ อู๋ ฮานามิดู

ไปเป็นทหารไม่ได้มีหน้าที่ไปตายนิครับ แต่ถ้าจำเป็นก็ยอมสละให้ได้

เป็นทหารนะครับ ไม่ได้ไปเข้าหน่วยกามิกาเซ่สักก่ะหน่อย

ผมพอจะเข้าใจสาเหตุที่ประเทศไทยจำเริญลงฮวบ ๆ อย่างนี้แล้ว
- อ่านหนังสือไม่แตก
- ขอด่าไว้ก่อน
- ไม่มีความใส่ใจกฎเกณฑ์
เป็นกันอย่างพร้อมเพียงโดยไม่แบ่งแยกสีและฝักฝ่าย

พวกเล่นไปเกรียนใส่กระดานสนทนาของเว็บราชบัณฑิตฯ กันเต็มที่เลย

http://www.oknation....2/10/01/entry-1

พวกชอบดมขี้ฝรั้งอั้งม้อดูไว้ซะ ... เนี่ย ความคิดฝรั่งมัน ... ประชานิยม ... จงเจริญ ... ฮวบๆ ... ไชยโยๆๆ

อย่าด่วนปักใจเชื่อไปสิครับ เพราะเป็นข้อความที่บุคคลที่สามอ้างมาจาก forward mail ซึ่งต้นเรื่องอาจจะเป็นฝรั่งหรือไม่ใช่ฝรั่งก็ได้

ตกลง ราชบัณฑิต กำหนดการสะกดคำใหม่ ตามสำเนียงอังกฤษ
หรือสำเนียงไทยกันแน่ครับ

สงสัยหลาย ๆ ท่านยังคงงงกับ คำทับศัพท์ และการถอดเสียง

คำทับศัพท์ คือ คำที่ยืมต่างภาษามาแล้วออกเสียงและเขียนโดยความสะดวกของคนไทย

การถอดเสียง คือ การสะกดที่ใช้ถอดเสียงภาษานั้น ๆ ให้ใกล้เคียงตามอักษรไทยที่มีอยู่

การทับศัพท์แต่เดิมจะไม่ใส่วรรณยุกต์ หากด้วยนิสัยคนไทยแล้วชอบเติมเสียงวรรณยุกต์และใส่วรรณยุกต์ให้คำทับศัพท์เหล่านั้น บ้างก็สนใจกฎเกณฑ์การใช้วรรณยุกต์ ถว่าโดยรวมแล้วหาได้มีความใส่ใจไม่ จนลามมาถึงคำศัพท์โดยปกติ

อย่างเช่น โนต โคช พีช เรด ฯลฯ คนไทยจะออกเสียงตรี ซึ่งถ้าอยากใส่ก็ควรใส่ ไม้โท เป็น โน้ต โค้ช พี้ช เร้ด ฯลฯ กลับไปเติมวรรณยุกต์อื่นเสีย

คลิก วิก ทริก คนไทยจะออกเสียงตรี ซึ่งการเขียนมันก็ออกเสียงตรีอยู่แล้ว กลับไปเติมวรรณยุกต์ซึ่งทำให้ผิดเพี้ยนไป

จนลามมาถึงคำปกติพวก คะ นะ วะ ชะ มะ ซึ่งเป็นเสียงตรีอยู่แล้ว กลับเติมวรรณยุกต์ซึ่งทำให้ผิดเพี้ยนไป

น้า ค้า ว้า ว้าก ซึ่งเป็นเสียงตรีอยู่แล้ว กลับไปเปลี่ยนวรรณยุกต์เสีย

จากการคำนวณบวกลบคูณหารแล้ว ผมว่าการใส่วรรณยุกต์จะช่วยแก้ไขการผิดพลาดได้มาขึ้น ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ จะไม่ใส่ก็ได้ หากคนไทยขยันและใส่ใจการใช้วรรณยุกต์เสียหน่อย

มาแว้ว นักวิชาการออกมาบอกแว้วว่า "วุ่นแน่ๆ"

ราชบัณฑิตยฯ แจงเขียนคำศัพท์ใหม่เน้นเสียงอังกฤษ - นักอักษรฯชี้วงการภาษาวุ่นแน่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ตุลาคม 2555 14:25 น.

ใครก็ได้ฝากไปตบเกรียนแป๊ะที

แป๊ะทีวีอีกแล้วพี่น้อง ภาษาทั่วไปเขาเรียกว่าเสี้ยม เขียนหัวข้อผิดจากเนื้อข่าวที่ราชบัณฑิตฯ บอกไปคนละทวีปเลย

คุณทักคะ..คนที่เขียนผิดเป็น ม๊าก นั้นเป็นเสื้อแดงทั้งสิ้นค่ะ

ผมฝากบอกไปถึง Q.C. บางท่านอะครับ

ผมซีเครียดกับคำว่า "ม้าร์คชั่งไข่" กับ "ม้าร์คนาซี" มากเลยนะ

แล้วไม่กลัวชาวต่างชาติที่มาเรียนภาษาไทยงงบ้างรึครับ

แล้วแต่มาตาปิตุแห่งเขาเหล่านั้นเทอญ มันเป็นภาษาไทย

¿รู้ไหมว่า? จอมพลป. คนหัวใหม่ทำเอาภาษาไทยวิบัติทั้งประเทศมาแล้วเพราะเล่นตัดการเขียนให้ง่ายเข้า จนคนที่เรียนยุคจอมพลป. ยังเข้าใจว่า ชาติ ใน รสชาติ เขียนว่า ชาด

ผมคงจะพิมพ์นั่งแก้ตัวให้ราชบัณฑิตฯ ไว้แค่นี้ ปวดตับแทนพวกท่านตั้งแต่มีคนแต่งเรื่องแท่งหรรษา ฯลฯ ที่ตลก ๆ แล้วบอกว่าเป็นราชบัณฑิตฯ บัญญัติแล้ว

มูลเหตุมันมาจากคนเติมไม้ตรีมั่ว เพราะคำทับศัพท์มันไม่มีวรรณยุกต์ และคนก็ใส่วรรณยุกต์มั่วจนลามไปถึงคำปกติในภาษาไทย เพราะไม่ใส่ใจหลักเกณฑ์ภาษา

ต้องเข้าใจก่อนว่าการเติมวรรณยุกต์ คือการเติมให้ตรงกับเสียงอ่านของคนไทย ไม่ได้สนหรอกว่าคำเหล่านั้นที่เรายืมเขามา เจ้าของภาษาเขาจะออกเสียงอย่างไร เพราะเรายืมมาพูดในภาษาเราแล้ว เราต้องเขียนตามที่ปากคนไทยจะพูดได้สะดวกและนิยมจะพูด

ย้ำอีกทีใครที่เข้าใจผิดว่าราชบัณฑิตฯ จะเปลี่ยนตามเสียงพูดฝรั่ง ให้ทำความเข้าใจใหม่ว่าเรื่องที่เสนอเข้าไปจะเปลี่ยนการเขียนไปตามเสียงที่คนไทยส่วนใหญ่อ่าน

ย้ำอีกครั้งว่าการเปลี่ยนคำทับศัพท์ จะเปลี่ยนไปตามที่คนไทยอ่าน ไม่ใช่ฝรั่งอ่าน เพราะมันเป็นภาษาไทยแล้ว

แซวนิดนะ คำว่า ก็ ผมอ่านใบลานเขาเขียนว่า "กํ" ไม่ก็ "คํ" นะ ไม่เคยเห็นใบลานฉบับไหนเติม อ อ่างให้ซักที อ้อสงสัยยึดตามฉบับจอมพลป.

อีก นิด เปลี่ยนแล้วใครจะหันมาใช้ตามครับ อย่างคำ คอมพิวเตอร์ นี่ใครจะเปลี่ยนมาเขียนแบบประหลาดอย่างราชบัณฑิตบอก บางคำเช่น ซอท์ฟแวร์ก็เขียนทับศัพท์กันมาตลอด เบื่อจริงๆ ประเทศนี้แต่ละวันมุ่งทำแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่เป็นระบบ เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ก็รีบทำ จะได้เป็นข่าว คนจะได้ไม่ลืมว่าเคยมีตัวตนอยู่

ราชบัณทิตฯ ไม่เน้นการบีบบังคับ แต่ถ้ามันจะทำให้ภาษาวิบัติกันเกินไป ราชบัณฑิตฯ ก็ต้องออกมาหาทางแก้
software = ซอฟท์แวร์

ราชบัณฑิตฯ เคยเชื่อใจคนไทยพอว่า ฉลาดพอที่จะเข้าใจอักขรวิธีของคำทับศัพท์ และคงไม่นำมาสับสนกับการเขียนทั่วไปในภาษาไทย แต่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่อย่างที่ราชบัณฑิตฯ คิด เพราะไม่ว่าจะจบจากชั้นไหนมาก็ยังใช้ผิดให้เห็นกันอยู่ ราชบัณฑิตฯ จึงต้องหาทางแก้ไขไม่ให้ภาษาวิบัติไปกว่านี้

ราชบัณฑิต ที่เคารพ...คงจะเป็นงานหนัก แสนสาหัส โดยเฉพาะภาษาวัยรุ่น
ผมคงจะเป็นครูภาษาไทย.ตกยุค แน่เลย เกือบ ๕๐% ได้ ที่ผมต้องยอมรับว่า
อ่านภาษาไทยวัยรุ่น....ไม่ออก ไม่อยากจะยกตัวอย่างเลย ไม่รู้จะแนะนำอย่าง-
ไรด้วย เพราะมันไม่ฟังเราแล้ว พวกที่ชอบเขียน.กลอน.อีก ก็มั่วทั้งเสียงทั้ง-
สัมผัส. มันลากลงเหวไปมากแล้ว คิดว่าคงเอาคืนยาก ยุคสมัยมันไปซ๊ะแล้ว
เราก็รู้สึกท้อแล้ว ก็ได้แต่แนะนำเพื่อน ๆ ไปทีละคนเท่านั้น ....น่าเสียดาย

ราชบัณฑิตฯ คงรู้สึกยะกะนังอักเสบจากการเติมไม้ตรีมั่วครับ เลยใส่วรรณยุกต์คำทับศัพท์ให้ดูซะเลย