Norachon

เถกิง สมทรัพย์

ขิง + ตั๊น
รักแท้..หรือแค่..โปรโมท...

เมื่อครั้งที่ยังชุมนุมที่สวนลุมพินี...ผมมักจะเดินไปบอกกับใครต่อใครว่า ผมจะเปิดรับพนันแล้วล่ะว่า ขิงกับตั๊น รักกันจริงๆ...
คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย หัวเราะเล็กๆแล้วบอกผมว่า...พี่เถกิงโดนกินแน่ๆ
คุณแทน เทือกสุบรรณ บอกผมว่า เขาเป็นเพื่อนกันแต่เด็ก ..
โดยสรุป...ไม่มีใครคิดไปไกลขนาดที่ผมคิดในตอนนั้น คือ ความสัมพันธ์ของขิงกับตั๊นเป็นเพียง..รักโปรโมท
ณ ตอนนั้นผมก็คิดแบบนั้นแหละ...ผมก็เลยช่วยเขาโปรโมทไปด้วย เจอทั้งคู่ที่ไหนก็ถ่ายภาพอัพรูปบ่อยๆ แต่ผมก็ไม่เคยเขียนว่า ทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์มากไปกว่าเพื่อนรัก
ผลก็คือใครต่อใครก็พากันเริ่มสงสัยว่า จริงเหรอ..รักจริงเหรอ...(ดังที่เขียนไว้ในบทความชื่อ เขาเรียกผมว่า ป๋าดัน...)
แต่คนใกล้ชิดทั้งสองฝ่ายยังยืนยันว่า...แค่รักโปรโมท
ผมก็เกือบจะเชื่อแล้วว่าเป็นเพียง รักโปรโมท....
ยิ่งได้ยินตั๊นเรียกขิงแบบเพื่อนสนิทว่า...ไอ้ขิง....ผมก็เกือบจะเชื่อสนิทใจว่า เขาเป็นเพื่อนกันจริง
จนกระทั่ง...วันหนึ่ง...ไม่สิ..คืนวันหนึ่ง...เที่ยงคืนเศษ
เหตุการณ์ที่ทำให้ผมไม่เชื่อก็เกิดขึ้น....
มี LINE มาถึงผมข้อความนึง...

( รออ่านตอนต่อไปนะครับ...พอดีนักข่าวญี่ปุ่นมาเยี่ยมที่บลูสกาย)

 

 

มาปล่อยให้อยากแล้วจากไปซะงั้นอ๊ะค่ะ <ขออนุญาตเพิ่มภาพคะ ชอบอันขวานี้ >

ผมคิดว่า นักการเมืองแบบอภิสิทธิ์ เนี่ย สงบปาก สงบคำ หน่อยก็ดี  อยากให้เขาสำนึกความผิดพลาดของเขาซึ่งนำพาบ้านเมืองมาถึงจุดนี้

 

หากเทียบกับ กำนันสุเทพ ผมถือว่า ลุงกำนัน ได้ทำความดี ทดแทน ความผิดพลาดในอดีตไปแล้ว แต่สำหรับคุณอภิสิทธิ์ ผมคิดว่ายังไม่ทำ และ ยังไม่เห็นอะไรที่จับต้องได้ นอกจาก การออกมาพูด เสนอความเห็นแบบนักการเมือง

 

ณ เวลานี้ คนไทย เบื่อแล้ว กับ ความเห็นของนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็น พรรค ปชป. หรือ พรรค เพื่อไทย เพราะ หลายสิบปีที่ผ่านมา พวกคุณทั้งสองพรรคก็ได้ทรยศความไว้วางใจของประชาชนหมดสิ้น

 

พรรค ปชป. เอง พันธมิตรต้องสละชีพตั้งเท่าไหร่ เพื่อให้ คุณได้มีอำนาจ ได้มีโอกาสบริหารประเทศ แต่คุณก็ทำลายโอกาสที่ พี่น้องพันธมิตรเขาสละชีพ เสียหายหมด คุณไม่เด็ดขาด ปล่อยให้ ระบอบทักษิณเจริญเติบโต สุดท้ายก็หวนกลับมาทำให้ประเทศไทยเสียหาย

 

ตอนคุณมีอำนาจ คุณก็แทบจะไม่ขยับเรื่องของการปฏิรูปเลย มีแต่ให้คนศึกษาเป็นปีๆ สุดท้าย พอจะได้ทำ คุณก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล โครงสร้างตำรวจที่มีปัญหา คุณก็ไม่ได้ทำ

 

ผมคิดว่า คุณอภิสิทธิ์ ควรจะหยุดให้ความเห็นทางการเมือง จนกว่า รัฐบาลใหม่ได้บริหารงานสักระยะ ก่อน

 

ไม่งัน้จะเหมือนกับ แม่ปู สอนลูกปู ตัวเองก็เดินเอียง แต่ยังทะลึ่งไปสอนลูกให้เดินตรง เข้าใจไหมครับ

 

นี่ผมแสดงความเห็นสุภาพมากแล้วครับ

 

อ่านความเห็นของคุณ arch_freeman แล้ว โอเค เห็นด้วยหลายประเด็น

แต่มีข้อหนึ่งซึ่งคิดว่ายังไม่ถูกต้องกับประโยคต่อไปนี้

 

พรรค ปชป. เอง พันธมิตรต้องสละชีพตั้งเท่าไหร่ เพื่อให้ คุณได้มีอำนาจ ได้มีโอกาสบริหารประเทศ

 

ตามข้อเท็จจริง

 

พันธมิตร สละชีพเมื่อไหร่ และเพราะอะไร

เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม ในวันที่ 7 ตุลาคม 2551

ในสมัยรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์

 

อภิสิทธิ์เป็นนายกได้อย่างไร

เหตุการณ์หลังจากปฏิวัติ 19 กย 49  เมื่อรัฐบาลสุรยุทธ หมดไป มีการเลือกตั้ง พรรค พลังประชาชนได้รับเลือกด้วยเสียงข้างมาก

สมัคร สุนทรเวช เป็นนายก จากนั้นก็ถูกถอดถอนด้วยข้อหารับเงินค่าจ้างออกรายการทีวี ขณะเป็นนายก

สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกคนถัดมา จากนั้นก็ต้องหลุดจากตำแหน่ง เพราะพรรคพลังประชาชนถูกยุบ เนื่องจากการซื้อเสียงของยงยุทธ ติยะไพรัช

เมื่อมีการโหวตนายกคนใหม่ในสภาขณะนั้น อภิสิทธิ์ ชนะ ประชา พรหมนอก ในการโหวต โดยที่ พรรคภูมิใจไทย ร่วมสนับสนุน

อภิสิทธิ์ ได้รับเลือกเป็นนายก ในเดือน ธันวาคม 2551

 

จะเห็นได้ว่า อำนาจในการบริหารประเทศ ของ ปชป ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสละชีพของพันธมิตรแต่อย่างใด

การสละชีพของพันธมิตร ไม่ได้ทำให้รัฐบาลสมชายต้องพ้นจากอำนาจบริหาร

แต่ต้องพ้นไปเพราะการทุจริตของกรรมการพรรคเอง

และศาลรัฐธรรมนุญ ไม่ได้ตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนเพราะการเสียชีวิตของ พธม

พธม ไม่ได้มีส่วนในการทำให้พรรคภูมิใจไทยหันมาสนับสนุน อภิสิทธิ์เป็นนายก

ตรงข้าม แป๊ะลิ้ม กลับกระแนะกระแหน ภาพการยืนกอดกันของเนวินและอภิสิทธิ์ เสียด้วยซ้ำ

 

กรุณาอย่าเอาเหตุการณ์สองอย่างมาปะปนกัน

มันคือวาทกรรมที่สร้างความเข้าใจผิด

 

ผู้กล้า ของ พธม ที่เสียสละชีวิต ได้ทำหน้าที่พลเมืองดีที่ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณอันชั่วร้าย

ไม่ได้ออกมาเพื่เสียสละชีวิตให้ ปชป มีอำนาจบริหาร เป็นรัฐบาล

 

 

 

ใครจะด่าผมก็ตามสบาย แต่ผมเห็นด้วยกับคนที่บอกว่าอภิสิทธิ์ควรจะงดมาพูดเรื่องทางการเมือง แล้วหันมาลงมือมีส่วนช่วยในการทำงานเพื่อปฎิรูปประเทศเสียยังดีกว่ามาโพสต์แสดงความเห็นแบบเชิงการเมืองอุดมการณ์แบบเก่าๆอยู่ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานกับคณะก็ได้ แต่ก็ลงไปดูแลชาวบ้าน ลงมือตรวจสอบงานอะไรให้มันเห็นเป็นรูปธรรมบ้าง ไม่ใช่ทำแบบที่ผ่านๆมา เล่นการเมืองกับใจเย็นมากเกิน ฟังแต่เสียงรอบข้างแล้วหวังอะไรลมๆแล้งๆ ที่คุณถูกปรามาสไว้ว่าเป็นพวกดีแต่พูดน่ะ มันไม่ใช่เกินเลยหรอก บุคลิกความเป็นผู้นำคุณมีจริง แต่ความเด็ดขาดกับการแก้ปัญหาเนี่ย หลายอย่างมันยังไม่พอ คุณยังติดกับการเล่นการเมืองแบบอุดมคติในตำราเกินไป จนไม่ดูความเป็นจริงของการเมืองไทยว่ามันเน่าแค่ไหน ถ้าคุณยังไม่ปฎิรูปตัวเองกับพรรคไปด้วย ถึงเพื่อไทยกับบรรดาสมุนของทักษิณจะตายหรือโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองถาวรยังไง ก็ไม่เห็นแนวโน้มที่พรรคคุณจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้เลย

เดี๋ยวก็รู้ เราเคยโดนมาแล้ว อิ อิ

 

 

เราเห็นด้วยกับคุณbarroc นะ ที่อภิสิทธิ์ ควรออกไปดูแลชาวบ้าน ติดตามตรวจสอบ

 

แตในฐานะหัวหน้าพรรคเก่าแก่ ซึ่งยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ยึดมั่นในระบบรัฐสภา

หัวโขนซึ่งสวมอยู่ย่อมบังคับไม่ให้ยินดีปรีดากับรัฐประหาร

และการออกมาแสดงจุดยืนต่อการรัฐประหาร สักครั้ง

ย่อมดีกว่าปล่อยเงียบ ให้บางฝ่ายโจมตีว่า ปชป ตามน้ำ ชอบเผด็จการ  อิงแอบกับทหาร รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ไหนว่ารัก ปชต ไง ฯลฯ

 

ตามหน้าที่จึงต้องออกมาแสดงจุดยืน

 

ส่วนคำแนะนำนั้นมีประโยชน์เราสนับสนุนความคิดนี้

 

 

คุณ Jedihan

 

เราอ่านความเห็นของคุณที่มีต่อพรรรค ปชป

อ่านความเห็นที่ขัดแย้งกับคุณจากสมาชิกหลายๆท่าน

ซึ่งเป็นความเห็นที่คิดต่างกันได้

ทำไมคุณต้องอ่อนไหวกับการโพสต์ข้อความแล้วมีคนไม่เห็นด้วยล่ะคะ

 

 

อันที่จริงคุณน่าจะไปตั้งกระทู้ใหม่ในกรณีนี้

เพื่อให้เกิดการถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์กันโดยตรง

วิธีตั้งกระทู้

ให้กลับไปที่หน้า สภากาแฟ

เหนือกระทู้ต่างๆด้านขวา จะมีข้อความบนพื้นดำ "ตั้งกระทู้" ให้คลิก

แล้วใส่หัวเรื่อง เนื้อความ แล้วโพสต์ได้เลย

 

ลองดูนะคะ การถกเถียงจะได้แตกหน่อขยายความ

แยกแยะได้ว่า สิ่งใดที่เป็นวาทกรรม สิ่งใดที่เป็นความจริง สิ่งใดที่เป็นความเห็น

                     และก็เพราะ  ..ไอ่เชี่ย แม้ว..  ด้วยครัช  ตัวดีเลยมัน  น่ะ  

บิ๊กตู่มาแล้ว...

 

ไม่เคยเล่นกำนันของอันนี้แทนแล้วกัน   

 

จะไปหรือไม่ไปร่วมงาน ผมถือว่าเป็นสิทธิ์ในการพิจารณา ตัดสินใจของแต่ละคนนะครับ ผมไม่ก้าวล่วง

แต่ที่ผมเอามาโพสท์เนี่ย ผมมีข้อสังเกตุบางประการคือ

 

ภายหลังตั้งแต่เกิดรัฐประหาร จนกระทั่งมาเป็น คสช ... สหรัฐก็เป็นเดือดเป็นร้อน ตัดงบช่วยเหลือต่าง ๆ นา ๆ  ยกเลิกการฝึกซ้อมร่วม แม้กระทั่งยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนของ ผบ สส ของไทย อีกทั้ง ผู้บริหารระดับสูงทำเนียบขาว ต่างออกมาประนาม ฯลฯ 

 

แต่ในอีกสถานะการณ์หนึ่ง เมื่อถึงเวลา "ขายของ" หารายได้ สร้างภาพลักษณ์ ของประเทศตัวเอง ทำไมสหรัฐถึงยังคงเดินหน้าจัดงาน ใช้สถานที่ในประเทศที่ตนประนาม ต่อไป

ผมมองว่า มันน่าตะขิดตะขวงใจนะ ด้านหนึ่งไปด่าบ้านเค้า แต่อีกด้านหนึ่ง กลับใช้บ้านเขา ในการประชาสัมพันธ์ประเทศของตัวเอง นี่หรือประเทศที่ได้ชื่อว่าอยู่ในระดับท็อปของโลก ผมว่า สหรัฐทำตัวเช่นนี้ เกียรติยศต่าง ๆ ที่ประเทศอื่นๆ มอบให้ มันจะเสื่อมลงในไม่ช้า ไอ้อาการ หยิ่งผยอง ลืมตัว ไม่เห็นหัว คนอื่น ๆ  นี่มันทำให้ล้มทั้งยืน โดยเจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว ... ตัวอย่างก็มีให้เห็นอยู่แล้ว ./ 

 

ตามมาด้วยครับ กว่าจะอ่านที่โน่นจบที่นี่ก็ไปไกลละ
ขอแสดงความเห็นนิดนึงสำหรับคนที่ต่อว่าเรื่องไหปลาร้าแตก
อยากให้นึกถึงคำพูดของคนอมฮอลล์เรื่องกองกำลังสามฝ่าย
หนึ่งคือ พรรคการเมือง
ต้องคิดย้อนด้วยว่า พรรคไหนที่ออกมาตีแผ่ความจริงจากกทม.ไปทั่วประเทศ
ยืนหยัดห้ามปรามอย่านิรโทษคนโกงเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะออกมานำมวลชนต่อต้านนอกสภาฯทันที
แต่พวกกำแพงหนาช้างยอมก็ยังทำ คือออกพรบ.ลักหลับ นั่นคือจุดเริ่มต้นของ
สอง มวลมหาประชาชน
เมื่อประชาชนเข้าร่วมมากขึ้น จากเดิมที่เป็นคนของพรรคการเมืองก็เปลี่ยนเป็นมวลมหาประชาชนจากหลายกลุ่มหลายก้อน
ทำให้กำนันต้องยอมทิ้งสิ่งที่รักและทำมาเกือบทั้งชีวิตมานำทัพด้วยตัวเอง ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างจนสุดท้ายจะมอบตัวยอมติดคุกแล้ว
ถึงตอนนั้น กลุ่มไหปลาร้าแตกและลุงเขียวเห็นว่าต้องช่วยกำนันให้มากกว่านี้
โดยกลุ่มแรกเข้าหานักการเมืองทุกกลุ่มเพื่อหาทางออกร่วมกันให้ได้
แต่ไม่เป็นผลแม้บางคนเห็นด้วยแต่ก็โดนปลาไหลขัดขา
ส่วนกลุ่มลุงเขียวยอมเปิดทำเนียบให้ลุงกำนันประกาศให้ผู้นำหน่วยงานรัฐบาลเข้าพบเพื่อหาทางออก
แต่ปรากฏว่าไม่มีใครกล้าเข้าพบ แม้สภาสูงยังแตะเบรคเข้าเกียร์ถอย นั่นจึงเป็นที่มาของ
แก้วประการที่สาม กองทัพ(ใหญ่กว่ากองโจรติดอาวุธของชายอมฮอลล์มาก)
ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าน่าจะคุยกันได้ สุดท้ายก็อย่างที่รู้พวกกำแพงหนาช้างยอม มีอย่างเดียวที่พังได้คือ
การรวมพลังกันของสี่เหล่าทัพ
ดังนั้นแล้วอยากให้ทุกท่านทุกฝ่ายร่วมมือกันเหมือนเดิม ไม่ทำอะไรก็อยู่บ้านเฉยๆอย่าไปขัดแข้งขัดขากันเลยครับ
ปล.พิมพ์โดยมือถือติดๆขัดๆขออภัยด้วยครับ

มันมาอีกแล้ว 

 

ขอให้ร่ำรวย
ผู้คน ไหลมา เทมา
และปลอดควาย

เพิ่งเป็นสมาชิกบอร์ดเสรีไทยก็เพราะลุงกำนันคะ ขอบคุณที่ให้ข่าวสารมากมาย

จะเก็บไว้เป็นประสัติศาสตร์เลย กระทู้นี้ยาวหน้าที่สุดเป็นพัน

คิดแล้วใจหายเหมือนกัน แล้วจะตามไปกระทู้ใหม่

 

ขอบคุณอีกครั้งคะ น้ำใจคนไทยด้วยกัน

กระทู้นี้ผมอ่านประจำ ไม่ใช่สิ เสรีไทยทั้งบอร์ดเลย อ่านตลอด แต่เพิ่งสมัครสมาชิกเขียนไรมั่ง

ผมเป็นคนอยู่กลางดงลิเบอรัลโลกสวยงาม พูดจาบางทีก็ไม่เข้าหูเล้ย เคยได้ยินได้ฟังก็ได้แต่ถอนหายใจ ทำไมคิดแต่มุมนี้ ก็ต้องมาเข้าชายคาเสรีไทย มาหาข้อมูลดูข่าวสารเป็นการแก้เซ็ง 555 เข้ามาแวะชมสภากาแฟของปัญญาชนผู้ที่ต้องการให้ประเทศไทยใสสะอาดก้าวหน้าสู่การปฏิรูป สลับไปกับการไปช่วยลุงกำนันทุกครั้ง พลาดแค่หนนึงเพราะไปเมืองนอก มาไม่ทัน รองเท้าผ้าใบ ใจถึงๆ แต่ครั้งหนึ่งลืมใส่ผ้าใบ เดินไปตรงบางรัก เตะทางเท้าเลือดสาด 555 ต้องออกไปทำแผล พอทำเสร็จ กลับออกไปเดินใหม่ทั้งๆที่แผลเพิ่งทำ 555 แต่ก็ยังไม่ได้ลงเป็นสมาชิกเพราะไม่ค่อยได้เล่นบอร์ดอยู่แล้ว ไม่ค่อยถนัด

พอเล่นปุบ ลากระทู้เลย 555 ไม่เป็นไรไปตามอันใหม่ก็ได้ ก็ขอลาที่นี่ที่ได้อ่านมานาน เม้นได้ไม่กี่วัน แล้วขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

ขอให้การปฏิรูปประเทศไทย ล้าง ซ่อม ประเทศไทย จงสำเร็จ จงสำเร็จ จงสำเร็จ
เพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่สมบูรณ์พร้อมไปด้วยจริยธรรมและธรรมาภิบาล

ปิดให้มันเป็นตำนาน ดีกว่าลากยาวไม่รู้จุดจบ

เก็บให้เป็นความทรงจำ ให้เป็นแหล่งอ้างอิงของประวัติศาสตร์  เพราะกระทู้มันได้เดินทางมาถึงจุดที่ทรงคุณด่า และสมควรที่จะปิดตัวลงได้อย่างสง่างาม

ยาวไปกว่านี้ ก็เกรงว่าจะออกอ่าวออกทะเลไปเยอะ เสียคุณค่าของกระทู้ไปเสียเปล่า

 

นอกเหนือจากเรื่องราวที่มากไปกว่านี้ ก็น่าจะไปตั้งกระทู้ใหม่ ประเด็นใหม่ จะโดยท่านกบแดง หรือ สมช ท่านอื่นก็ได้

สถานการณ์ใหม่ จะเป็นตัวแปรให้กระทู้ใหม่มีคุณค่าขึ้นมาแทน

 

ขอกล่าวคำอำลาแด่กระทู้นี้ครับ

ขอขอบคุณท่านกบแดงผู้ตั้งกระทู้

 

 

 

ใครจะด่าผมก็ตามสบาย แต่ผมเห็นด้วยกับคนที่บอกว่าอภิสิทธิ์ควรจะงดมาพูดเรื่องทางการเมือง แล้วหันมาลงมือมีส่วนช่วยในการทำงานเพื่อปฎิรูปประเทศเสียยังดีกว่ามาโพสต์แสดงความเห็นแบบเชิงการเมืองอุดมการณ์แบบเก่าๆอยู่ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานกับคณะก็ได้ แต่ก็ลงไปดูแลชาวบ้าน ลงมือตรวจสอบงานอะไรให้มันเห็นเป็นรูปธรรมบ้าง ไม่ใช่ทำแบบที่ผ่านๆมา เล่นการเมืองกับใจเย็นมากเกิน ฟังแต่เสียงรอบข้างแล้วหวังอะไรลมๆแล้งๆ ที่คุณถูกปรามาสไว้ว่าเป็นพวกดีแต่พูดน่ะ มันไม่ใช่เกินเลยหรอก บุคลิกความเป็นผู้นำคุณมีจริง แต่ความเด็ดขาดกับการแก้ปัญหาเนี่ย หลายอย่างมันยังไม่พอ คุณยังติดกับการเล่นการเมืองแบบอุดมคติในตำราเกินไป จนไม่ดูความเป็นจริงของการเมืองไทยว่ามันเน่าแค่ไหน ถ้าคุณยังไม่ปฎิรูปตัวเองกับพรรคไปด้วย ถึงเพื่อไทยกับบรรดาสมุนของทักษิณจะตายหรือโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองถาวรยังไง ก็ไม่เห็นแนวโน้มที่พรรคคุณจะกลับมาเป็นรัฐบาลได้เลย

ลาออกจากสส. ทั้งพรรคนี่ยังไม่เด็ดขาดอีกหรือครับ อย่ายกย่องคนโดยการเหยียบอีกคนเลยครับ มีวันนี้ได้เพราะหลายฝ่ายร่วมมือกันทำครับ ทุกคนต่างเล่นในบทบาทของตัวเองทั้งนั้นถ้าขาดปัจจัยใดปัจจัยนึง มันไม่มาถึงจุดนี้หรอกครับ ลองทบทวนดูเอาเองครับ ว่าใครที่คัดค้าน พรบ นิรโทษกรรม เดินสายทั่วประเทศ เป็นแม่เหล็กในการเริ่มม็อบ ทำหน้าที่ในสภา จนเกิดสูญญากาศ ทั้งประธาน สว. สส. ลาออกจากสส. ทั้งพรรคเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ไม่ลง สมัคร สส. รวมถึงแสดงเจตจำนงค์ชัดเจน ว่าจะต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง บทบาทที่เขาต้องเล่นเขาก็ทำได้สมบูรณ์แล้วครับ การแสดงความเห็นแนวนี้ก็เป็นอีกบทบาทที่จำเป็นต้องแสดงออกครับ

 

 

ไม่ยักกะรู้ ว่าแค่คนเป็นนักการเมือง พูดสิ่งที่คิดในใจตามมุมมองของนักการเมือง จะถูกด่าเหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนี้

อภิสิทธิ์สู้มาเท่าไหร่ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายถูกตีในรถ ถูกตามขู่ฆ่าเท่าไหร่ เค้าก็สู้ในมุมของเค้า ในฐานะเค้าเป็นนักการเมือง

การจัดเวทีสัญจรเรื่องต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อปูพื้นฐานของการชุมนุม เค้าก็เป็นคนทำ

ลาออกทั้งพรรค ลากกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าศาลรัฐธรรมนูญ ก็ทำแล้ว โดนข้อหาต่างๆ ตั้งกี่ข้อหา

เพียงแค่วันนี้ เค้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจในฐานะนักการเมืองตามอาชีพที่เค้าเป็น พวกคุณก็ด่าเค้าเหมือนหมูเหมือนหมา เพราะเค้าพูดไม่ถูกใจคุณแค่นั้น

ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้อภิสิทธิ์ไม่ควรเกิดเป็นคนไทยด้วยซ้ำ ถ้าสันดานคนในประเทศนี้ยังเป็นแบบนี้

 

 

จริงๆแล้วถ้าคุณ barroc สนใจติดตามข่าวของคนในพรรค ปชป บ้าง แล้วคุณจะทราบว่าถึงแม้พวกเค้าจะไม่ได้เป็น สส.แล้วแต่ก็ยังคงทำงานต่อเนื่อง คุณลองเปิดใจอ่านจากเฟสคุณกรณ์หรือคุณอรรถวิทย์ดูก่อนก็ได้ เช่นเมื่อเร็วๆนี้น้ำท่วมซอยลาดพร้าวคุณอรรถวิทย์แกยังไปยืนตากฝนช่วยเหลือและประสานงานให้ประชาชนอยู่เลย ทั้งๆที่ไม่จำเป็นต้องทำหรือจะปฏิเสธก็ได้  ส่วนคุณกรณ์นี่ทำงานเยอะและหนักกว่าตอนเป็น สส.อีกมั้ง เพียงแต่เค้าไม่ได้ออกข่าวก็แค่นั้น ในโลกนี้บางทีสิ่งที่คุณไม่ได้เห็นมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีจริงนะคะ

 

ตอนเช้าต้องเข้ามาติดตามข่าวสารเป็นประจำ 

ตลอดช่วงเจ็ดเดือน มีทั้ง รอยยิ้ม เสียงหหัวเราะ และน้ำตา

คุ้นชิน กับหลวงอา คุณเสือฯ น้านิ่ม แพท  ธีรเดช  ฯลฯ  (กล่าวนามได้ไม่หมด)

แต่ก็ไม่กล้าเล่น กำนันมาแล้ว.....ได้แต่ชมและเชีบร์ และยิ้ม

 

ใจหาย...เหงาๆ  ตั้งแต่ ไม่มี ที วี สีฟ้า

แล้วก็รู้สึกใจหาย อีกครั้ง  ที่กระทู้นี้ จะปิดลง

แต่ก็คิด คิด อีกรอบ  ดีเหมือนกัน  ปุ่ม F5  จะได้อยู่ยั้งยืนยง

เพราะบางวัน F5  รัวเป็นชุดๆๆ

จนกระทั่งวันหนึ่ง ตัดสินใจ สมัครสมาชิก และโพสต์ไป 2 ครั้ง 

หลังจากที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่น้ำท่วม (รู้จักเสรีไทย  ตอน น้ำท่วมใหญ่)

สาเหตุที่ไม่สมัครสมาชิก ก็เพราะว่า

สมัยเด็กๆ และวัยรุ่น  เพื่อนๆ ชอบแซวว่า  แกไปเชียร์อะไร  อ่านอะไร เขา ไปหมด

อิอิ   ท่าจะจริงบ้าง  เชียร์กีฬาสีโรงเรียนก็แพ้   ก็เลยปิดปากเงียบ

เป็นสมาชิกนิตยสารที่เปิดหัว(ตัวใหม่)  ได้ไม่นาน เขาก็ปิดตัวลง

เพื่อนก็เลยบอกวิธีแก้เคล็ดว่า  ให้เขาตั้งเนื้อตั้งตัว ได้ก่อน ถึงเข้าไปร่วม  ไม่งั้นวงแตก

 

.........

Thank you 3 times แอนด์ เอฟเวอรี่ดอร์ เอ๊ย เดย์ 

 

รักกระทู้นี้ค่ะ

จะอยู่ในความทรงจำ ตราบนานเท่านาน

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณทุกคน ที่ร่วมกันมาถึงหน้าหนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบแปด (กว่าเจ็ดหมื่นความเห็น) ถ้าเป็นไปได้จัดมิตติ้งสักครั้งนะคะ อยากเห็นหน้าหลายคนเลย