Jump to content


simba

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 11:14
*****

#536236 เกาะติดสถานการณ์คนกล้าอภิสิทธิ์ สุเทพ DSI มีภาพหรือข่าวสื่อไหนเชิญกระทู้นี้

โดย simba on 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:47

Suthida Plongpudsa@Suthida_NBC
ทันทีที่"อภิสิทธิ์-สุเทพ"มาถึงดีเอสไอ สื่อมวลชนต่างรีบกัน #อภิสิทธิ์สุเทพรับข้อหา เก็บภาพให้ได้ชัดมากที่สุด pic.twitter.com/ZTBLMT9G

รุมกันใหญ่.jpg

รุมกันใหญ่


#536018 ฟอร์เวอริ์ดเมล์ ที่อ่านแล้วเพลิน (เกิน 3 บรรทัด) อิอิ

โดย simba on 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:12

> จดหมายถึงนาย....


> ข้าพเจ้าเป็นชาวต่างประเทศที่ทำงานอยู่ในเมืองไทย
> มีหน้าที่รายงานภาพรวมของประเทศไทยกลับไปยังนาย คือ บริษัทแม่ในต่างประเทศ หรือ
> บางครั้งก็แอบเสนอรายงานต่อรัฐบาลประเทศของข้าพเจ้า
>
> ท่านจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ
> แต่มีการค้าประเวณี และยาเสพติดอย่างเปิดเผยทั่วไป มีการฆาตกรรมกันมาก
> การฉ้อราษฎร์บังหลวงมีอยู่ทั่วหัวระแหง ไม่เว้นแม้แต่ในโรงเรียน
> มีครูโกงเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ในวัด ซึ่งพระโกงชาวบ้าน
> หรือราชการหลอกพระและพุทธศาสนิกชน หรือที่สื่อมวลชนทำกับเยาวชน
> ตำรวจเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาสังคม ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงระบบราชการไทย
> ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นสัญลักษณ์สุดยอดของความไร้ระเบียบทางศีลธรรม-จริยธรรม
> จนกลายเป็นสาเหตุบ่อนทำลายรากฐานของสังคมไทยให้ผุกร่อน
> เห็นได้จากการที่กลไกของรัฐไม่สามารถตอบสนองต่อปัญหาสังคมและศีลธรรมได้เลย
> ผู้นำทางศีลธรรมและจริยธรรม อันได้แก่ พระ ครู สื่อมวลชน ฯลฯ
> ได้เสื่อมอิทธิพลในการนำจิตใจลงอย่างมาก เพราะถูกเงินเข้าครอบงำ
> ทั้งโดยเจตนาในทางทุจริตจริงๆ และโดยสถานการณ์บังคับ
>
> ส่วนผู้นำประเทศและชนชั้นนำในสังคมก็ล้มเหลวในทางศีลธรรมและจริยธรรมโดยสิ้นเชิง
> ดังจะเห็นได้ชัดในแวดวงการเมือง สังคมไทยยังคง “ ยอมรับนับถือ ” นักการเมือง
> และข้าราชการระดับสูงซึ่งมีประวัติไม่สะอาดหรือพฤติการณ์ที่น่ารังเกียจ
> พวกเจ้าเล่ห์เพทุบาย หรือในวงการแพทย์
> ซึ่งเคยเป็นวิชาชีพที่สังคมให้เกียรติอย่างมากกลับมีกรณีฉาวโฉ่เกิดขึ้นบ่อยๆ
> ในวงการผู้พิพากษาก็มีกรณีที่ทำให้สถาบันต้องมัวหมองอยู่เนืองๆ เชื่อหรือไม่ว่า
> คนไทยนั้น ที่หวังพึ่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างจริงจัง มีน้อยมาก
> ปัญหาเด็กหาที่เรียนในกรุงเทพฯกลายเป็นตลกเศร้าของพ่อแม่ตลอดกาลชั่วนาตาปี
> ฯลฯ
>
> ในทางกฎหมาย
> ปรากฏว่ามีความไร้ระเบียบจนการใช้กฎหมายตั้งแต่รัฐธรรมนูญลงมาถึงระดับระเบียบปฏิบัติต่างๆ
> เกิดความวุ่นวายไปหมด สิ่งที่น่าขันก็คือ ในเรื่องๆ
> หนึ่งอาจมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกันมากมายหลายฉบับและให้อำนาจบุคคลต่างๆ
> ไว้แตกต่างกัน ทำให้สังคมไทยอยู่บนช่องว่างของกฎหมายมากกว่าตัวบทกฎหมายเอง
> ตัวอย่างที่ดีก็เช่นว่า เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น
> สำนักงานการบริหารราชการแผ่นดินนายกรัฐมนตรีเกือบไม่ต้องรับผิดชอบเลย
> โดยอ้างว่าอำนาจต่างๆเป็นของรัฐมนตรี
> ส่วนรัฐมนตรีก็อ้างว่าเป็นอำนาจของปลัดกระทรวง
> ปลัดกระทรวงก็อ้างว่าเป็นอำนาจของอธิบดี อธิบดีมักจะกล่าวว่า “
> เราจะป้องกันมิให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ”
> โดยไม่มีผู้ใดแสดงความรับผิดชอบตามกฎหมายจริงๆ เลย
> และเมื่อมีผู้ถามว่าเหตุใดจึงมีกฎหมายที่ทำให้เกิดช่องว่างดังกล่าวมากเหลือเกิน
> นักกฎหมายก็จะตอบด้วยความภูมิใจว่า “
> เพื่อกระจายอำนาจและให้เกิดความคล่องตัวในทางปฏิบัติ ”
> ความไร้ระเบียบทางกฎหมายตั้งแต่ระดับกติกาสูงสุดในการปกครองประเทศลงมาถึงระเบียบจุกจิกสารพัดเรื่องในหน่วยงานราชการหนึ่งๆ
> ได้กลายเป็น “ ต้นทุน ” ในการพัฒนาของประเทศไทยยุคใหม่ ทั้งๆ
> ที่ประชาชนในยุคนี้มีการศึกษาสูงกว่ายุคก่อนๆ
> จึงนับว่าเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าเป็นอย่างยิ่ง และสะท้อนให้เห็นว่า
> มันสมองที่แท้จริงในสังคมไทยยังไม่ได้รับการพัฒนา หรือพูดง่ายๆ
> ยังไม่ได้เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์สังคมแม้ว่ากาลเวลาผ่านมาแล้วอย่างยาวนาน
>
> ในทางวัฒนธรรม อะไรเล่าคือ วัฒนธรรมไทย
> เมื่อข้าพเจ้าถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย เขาจะพาเราไปดูการฟ้อนรำที่ซ้ำๆ กัน
> ดูผ้าไหม ดูวัด และพาไปทานอาหารไทย เขาจะพาเราไปเที่ยวดูช้าง และชาวเขา
> ดูเรือในแม่น้ำและการพิธีต่างๆ มวยไทยและตลาดน้ำ เราได้ดูพระพุทธรูป
> ปราสาทราชวัง ซึ่งล้วนแต่เป็นอดีต
> แต่พวกเขาไม่เคยพาเราไปดูวัฒนธรรมในการศึกษาหาความรู้ของคนไทย
> วัฒนธรรมในการผลิตสินค้าและการให้บริการของคนไทย
> การคิดค้นสิ่งใหม่ประดิษฐกรรมและศิลปกรรม
> ข้าพเจ้าไม่เคยได้พบวัฒนธรรมที่ดีงามมากในธุรกิจของไทยและยิ่งพบเห็นได้ยาก ในระบบราชการของไทยซึ่งเน้นความเป็นเจ้าขุนมูลนายและสายสัมพันธ์มากกว่าการ มีวัฒนธรรมที่สร้างจิตสำนึกต่อสังคม
> คนไทยไม่สามารถชี้ให้เห็นวัฒนธรรมของพวกเขาในส่วนที่เป็นพลังขับเคลื่อนที่แท้จริงของชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม
> และไม่สามารถอธิบายให้น่าฟังได้ในระดับนามธรรม
> ความไร้ระเบียบทางกายภาพและทางศีลธรรม-จริยธรรม
> และความไร้ระเบียบทางกฎหมายและวัฒนธรรม
> ที่สรุปไว้ข้างต้นนี้นับว่าเป็นข้อดีสำหรับเรา ซึ่งเป็นคนต่างชาติที่มีอำนาจ
> เพราะแสดงให้เห็นว่าคนไทยนั้นอ่อนแอในทุกด้าน ผู้ใหญ่ก็อ่อนแอและเด็กก็อ่อนแอ
> คนมีความรู้ก็อ่อนแอและคนไม่มีความรู้ก็อ่อนแอ
> คนมีอำนาจหรือไม่มีอำนาจก็อ่อนแอทั้งสิ้น นับเป็นเวลากว่า 50
> ปีมาแล้วที่คนไทยไม่มีผู้นำที่สามารถและเสียสละอย่างแท้จริง
> (ยกเว้นองค์พระมหากษัตริย์) อันสะท้อนกลับมาที่ลักษณะประจำชาติของคนไทยเอง
>
> นายท่าน ! สังคมไทยเป็นสังคมที่ผุกร่อนมากแล้วรอวันแตกสลายลง
> เหมือนหินกับปูนซึ่งถูกน้ำกรดกัดกร่อนทุกวัน
> ในวันหนึ่งข้างหน้าก็จะไม่มีอะไรให้เห็นเป็นแก่นสารเลย
> นายควรที่จะพอใจว่ารัฐบาลข้ามชาติ รวมทั้งมาเฟียต่างๆ ของเรา ชาวต่างชาติ
> เพียงแต่ใช้กุศโลบายอันแยบยลอย่างเงียบๆ
> หลอกล่อให้คนไทยหลงอยู่ในความฝันว่าตนมีสติปัญญาเพียงพอแล้วโดยการเลียนแบบฝรั่งก็ใช้ได้
> ความไร้ระเบียบจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ในทุกด้าน
> สังคมไทยในที่สุดจะตั้งอยู่ได้ด้วยประชาชนที่อ่อนแออย่างหลวมๆ เพียงอย่างเดียว
>
> ไม่มีจุดเชื่อมโยงอย่างมีความหมายกับอำนาจรัฐและอิทธิพลทางจิตใจของผู้นำทางการเมือง
> สังคม สถาบันหรือศาสนาใดๆ เมื่อนั้นเราจะบังคับเอาประเทศไทยเป็นทาสอย่างง่ายดาย
> เพียงแต่รอเวลาเท่านั้น
> สิ่งที่เป็นเวทย์มนต์อันศักดิ์สิทธิ์ที่เราชาวต่างชาติจะใช้สะกดผู้นำของชาติไทยก็คือ
> จงหลอกล่อให้พวกเขาหลงใหลเข้าใจว่า
> พวกเราชาวต่างชาติจะอยู่ในระเบียบวินัยทางการค้าและการลงทุนอันเสรีในกฎเกณฑ์ที่เรานั่นเองเป็นผู้คิดค้นขึ้น
> เราจะต้องสะกดให้เขาเชื่อว่าเราชาวต่างชาติจะอยู่ในระเบียบวินัยของกฎบัตรสหประชาชาติ
> และหลักการด้านสันติภาพ ประชาธิปไตย และมนุษยธรรมต่างๆ
> รวมทั้งมาตรฐานอันสูงส่งในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
> อย่าให้พวกเขาได้มีโอกาสเรียนรู้ศาสตร์ชั้นสูงของการลูบหน้าปะจมูกหรือมือถือสากปากถือศีลของชนชาติเราเป็นอันขาด
> ชาติเล็กๆ ที่น่าสงสารชาตินี้ย่อมอยู่ในอุ้งมือของเราเป็นแน่แท้
> แม้คนอยากจะลุกขึ้นสู้ แต่พวกเขาก็มีแต่ความรักชาติเท่านั้น
> ไม่มีระเบียบวินัยและพลังภายในของสังคม
> อันเป็นจิตวิญญาณของชาติที่แท้จริงซึ่งจะผลักดันให้ต่อสู้ได้สำเร็จเลย “
> สิ่งที่พึงระวัง ”
> เราชาวต่างชาติจะต้องระวังย่างก้าวของเราบางประการเพื่อมิให้การครอบงำอย่างเงียบๆ
> นี้สะดุดหยุดลง ข้าพเจ้าขอเสนอแนวคิดต่อนายดังนี้
>
> 1.อย่าให้เมืองไทยมีผู้นำที่เข้มแข็งและเสียสละ
> สังคมไทยส่วนใหญ่ยังหวังพึ่งหัวหน้าฝูงและสิ่งที่มีอำนาจ
> เขายังไม่หวังพึ่งพาตนเองมากนัก หากสังคมไทยได้ผู้นำที่เสียสละ
> พวกเขาจะกลายเป็นชาติที่รุ่งเรืองได้ในเวลาอันรวดเร็ว
> ดังเช่นที่ปรากฏมาทุกยุคในประวัติศาสตร์ชาติไทย สิ่งที่เราควรทำคือ
> ส่งสัญญาณสนับสนุนผู้ที่จะได้รับเลือกมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากแม่พิมพ์ (
> mold ) แบบเก่าของไทย เช่น นาย ช. นาย ก. นาย บ. ฯลฯ
> หรือผู้ที่แสวงประโยชน์สูงสุดจากการเมือง
> คนพวกนี้จะช่วยให้เราชาวต่างชาติใช้เวทย์มนต์ของเราได้ง่ายขึ้นเหมือนที่ผ่านๆ
> มา
>
> 2.อย่าให้ผู้นำของไทยคิดออกนอกแนวโลกาภิวัฒน์
> เพราะโลกาภิวัฒน์คือเวทย์มนต์ของเรา จงทำให้พวกเขาหลงใหลมากขึ้นเรื่อยๆ
> ว่าโลกาภิวัตน์ที่ถูกต้อง คือ การเอาใจท้องถิ่น (localization of
> globalization)เพื่อว่าเขาจะได้แคลงใจสงสัยน้อยลง
> จงทำให้พวกเขาเชื่อว่าปัญหาต่างๆ ของพวกเขานั้น จะพึ่งพากลไกของรัฐไม่ได้
> แต่ต้องพึ่งพานักคิดแก้ปัญหาอิสระในนามผู้เชี่ยวชาญและเอ็นจีโอบางแห่งที่เราสนับสนุนอยู่
> จงจูงมือพวกเขา จงจูงใจพวกเขาและให้อามิสแกพวกเขา
> ทำให้เขารู้สึกว่าภาคประชาชนเท่านั้นที่สำคัญ
> พวกเขาจะดูหมิ่นเหยียดหยามอำนาจรัฐ พวกเขาจะเกลียดชัง พวกเขาจะเคียดแค้น
> ซึ่งจะเป็นผลดีแก่ความก้าวหน้าของเรา ขณะเดียวกัน
> เราเองจะต้องสนับสนุนให้อำนาจรัฐพัฒนาประเทศไปในแนวทางที่ประชาชนเกลียดชังมากขึ้นทีละน้อย
> โดยแสร้งทำเป็นว่าอย่าช่วยเหลืออย่างจริงใจ
>
> 3.จงเร่งให้คนไทยรู้สึกว่าพวกเขาพ้นจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว
> เมื่อพวกเขาหลงเชื่อว่าทุกอย่างดีขึ้น นิสัยประจำชาติของพวกเขาจะพลุ่งพล่าน
> พวกเขาจะลืมตัวสร้างความไร้ระเบียบมากขึ้นเป็นทวีคูณ เริ่มจากการเมืองระดับชาติ
> ข้าราชการ นักธุรกิจ ฯลฯ ลงมาจนถึงการเมืองท้องถิ่น พระ ตำรวจ ชาวบ้าน
> พวกเขาจะรีบเร่งออกกฎหมายต่างๆ จนยุ่งเหยิงไปหมด
> ไม่ทราบว่าในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะใช้กฎหมายใด ในกรณีใดเมื่อใด
> พวกเขาจะย่อหย่อนต่อวินัยทางเศรษฐกิจ การคลัง และการเงิน
> พวกเขาจะเมินเฉยต่อศีลธรรม-จริยธรรม จะฟุ้งเฟ้อ ทำตัวเป็นคางคกขึ้นวอ
> เพื่อให้เราชาวต่างชาตินิยมชมชอบ ดังนั้นพลวัตทางเศรษฐกิจเพราะความเชื่อผิดๆว่า
> ทุกอย่างดีขึ้น
> จะนำไปสู่จิตวิญญาณของชาติที่เป็นอัมพาตหนักกว่าเดิมในเวลาอันไม่ช้า
> ซึ่งจะเป็นโอกาสทองของพวกเราชาวต่างชาติอย่างแท้จริง
>
> 4.จงช่วยสนับสนุนการศึกษาของคนไทย (ให้แคบขึ้นเรื่อยๆ )
> จนคนทั้งชาติเชื่อว่า การใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น คือการไม่ได้รับการศึกษา
> พวกเขาจะชำนาญและหลงใหลได้ปลื้มกับเทคนิคต่างๆ ซึ่งนำเอาความสะดวกสบาย
> และเงินเดือนสูงๆ มาให้
> จนลืมไปว่าการสร้างชาตินั้นสำคัญกว่าการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือการส่ง
> e-mail เราทำให้พวกเขาเชื่อไปได้เปลาะหนึ่งแล้วว่าต่อไปคำว่า “
> ชาติ ” จะไม่มี เพราะinternet ได้ทำลายพรมแดนธรรมชาติลงเสียแล้ว
> ต่อไปก็ต้องทำให้พวกเขาลืม “ ความรักชาติ ” และแรงปรารถนาที่จะ “
> สร้างชาติ ” เพื่อว่าจะได้หมดความปรารถนาแบบโบราณที่จะยืนอยู่ในโลกอย่างทรนง
> เช่นเสรีชนอื่นๆ อย่าให้พวกเขาสนใจศิลปศาสตร์มากนัก
> เพราะวิชาเหล่านี้ทำให้พวกเขา “ คิดอย่างมีจินตนาการ” อย่าให้พวกเขา “ คิดได้ ”
> มากๆ หรือ “ อยากคิด ” มากๆ เพราะมันจะเป็นฐานพลังให้สังคมไทย “ คิดสู้ ”จงเน้นให้พวกเขาหลงใหลในวิชาการเทคนิคและอิเล็กทรอนิกส์เป็นสำคัญ
>
> 5.หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ระบบราชการไทย
> เพราะระบบราชการไทยนั้นล้าหลังมาก
> และเป็นทั้งอุปสรรค์ต่อการพัฒนาประเทศพร้อมๆกับเป็นเชื้อโรคที่กัดกินสังคมไทยโดยส่วนรวมมากขึ้นทุกที
> ระบบราชการไทยเต็มไปด้วยความกดดันทำลายทรัพยากรบุคคล
> เต็มไปด้วยความไร้ประสิทธิภาพ และความไร้สำนึกต่อสังคม
> ทำให้ระบบราชการไทยเป็นมหามิตรของเราชาวต่างชาติ อย่าชี้จุดอ่อนของเขา
> อย่าวิพากษ์วิจารณ์ ปล่อยให้มันเป็นตัวบ่อนทำลายคนไทยทั้งทางกายและทางจิตใจ
> ทุกลมหายใจของชีวิตจนกว่าจะหมดลม เมื่อไม่วิพากษ์วิจารณ์
> มหามิตรของเราก็จะทำงานอย่างขะมักเขม้นโดยหลงเชื่อว่าตนนั้นดีเลิศประเสริฐที่สุดในชาติ
> มีความชอบธรรมที่จะเขมือบงบประมาณแผ่นดินมากขึ้นเรื่อยๆ
> จนชาติไทยทั้งชาติเป็นอัมพาตเพราะมะเร็งร้ายนี้
> อย่าลืมว่าเฟืองตัวใหญ่ที่ขึ้นสนิมเขรอะ
> ย่อมทำให้จักรกลทั้งหมดสามารถหยุดหมุนได้
> เราชาวต่างชาติไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย นั่งยิ้มให้มหามิตรของเรา
> และยื่นหัตถ์แห่งมัจจุมิตรแก่พวกเขา จนกว่าเวลาจะมาถึง
>
> 6.จงนำรายงานฉบับนี้ให้คนไทยอ่านเพื่อทดสอบปฏิกิริยาของพวกเขา
> ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพวกผู้นำจะตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้มละไมว่า “ เพิ่งได้รับเอกสาร
> ขอเวลาให้เราแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาก่อน ” ส่วนคนไทยทั่วไปจะตอบว่า “
> ไม่เป็นไร ” แล้วหัวเราะเห็นฟันขาว นายท่านจงตระเตรียมเครื่องปรุงรสให้พร้อม
> เพื่อลิ้มรสเนื้ออันโอชะจากแผ่นดินไทย
>
> รายงานของข้าพเจ้าฉบับนี้มีเพียงเท่านี้ หากรัฐบาล
> บริษัทข้ามชาติและมาเฟียของเราวางแผนเข้ามาผูกมิตรกับคนไทยโดยมีเป้าหมายเช่นว่านั้นแล้ว
> ข้าพเจ้ารับรองว่าคนไทยจะภาคภูมิใจในการผูกมิตรกับเราเป็นอย่างยิ่ง
> เพราะพวกเขาโดยเนื้อแท้ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงมากนักและไม่ชอบคิดแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
> พวกเขาชอบการยกยอปอปั้น หลีกเลี่ยงความขัดแย้งและใช้ชีวิตตามสบาย



> ในโอกาสล่าสุดนี้นายต้องการทราบว่าควรจะดำเนินการในแง่ยุทธศาสตร์ต่อประเทศไทยอย่างไรดีเพื่อให้การครอบงำประเทศนี้สมบูรณ์ที่สุด
> ในระยะยาวข้าพเจ้าขอสนองความต้องการของนายด้วยจดหมายสั้นๆ ฉบับนี้
>
> นายที่รัก ตามที่มอบหมายให้ข้าพเจ้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทยเกือบ 20
> ปีแล้วนั้นข้าพเจ้าพอจะสรุปคำตอบเพื่อเสนอต่อนายได้ดังต่อไปนี้
>
> ภาพรวมของประเทศไทยยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ค่อนข้างยากจสังคมไทยโดย พื้นฐานมีลักษณะไร้ระเบียบกฎเกณฑ์ซึ่งเป็นอุปนิสัยประจำตัวของชนชาตินี้
>
> แม้ว่ารัฐบาลรัฐสภาและประชาชนส่วนหนึ่งได้พยายามแก้ไขกฎหมายต่างๆ
> จำนวนมากรวมทั้งรัฐธรรมนูญในการปกครองประเทศให้ดีขึ้น แต่โดยพฤติกรรมแล้ว
> คนไทยนิยมการดำเนินชีวิต ธุรกิจ และการใช้อำนาจรัฐ
> ที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ต่างๆ หรือที่มีคำกล่าวในประเพณีไทยว่า “
> ทำได้ตามใจคือไทยแท้ ” ท่านจะประมาทต่อคำกล่าวนี้ไม่ได้เลย
>
> ในทางกายภาพ
> กรุงเทพฯเป็นตัวอย่างของเมืองหลวงที่ไร้ระเบียบที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจมหาศาล
> ความไร้ระเบียบนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่หยุดยั้งหรือลดน้อยลงเลย
> เมืองเชียงใหม่ซึ่งน่าจะได้เรียนรู้บทเรียนราคาแพงจากกรุงเทพฯแต่ก็ไม่ทำ
> หรือทำไม่ได้ เมืองพัทยาซึ่งควรเป็นบทเรียนให้กับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
> แต่ก็ไม่เป็นหรือเป็นไม่ได้
>
> ระบบการจราจรและพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะก็เป็นอีกตัวอย่างที่เลวที่สุด
> นับเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติก็ว่าได้
>
> การรุกล้ำที่ดินสาธารณะ ที่ป่าสงวน เขตอุทยานแห่งชาติ ฯลฯ
> ก็เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แก้ไขไม่ได้ แม้แต่หน่วยงานราชการถึงขนาดทำเนียบรัฐบาลเอง
> ภายนอกดูสวยงามแต่ภายในนั้นไร้ระเบียบทางกายภาพอย่างน่ากลัว เช่น
> งานเอกสารที่ท่วมทางเดิน ซึ่งเป็นปัญหาของทุกหน่วยงานราชการตลอดกาลแก้ไม่ได้
> ความไร้ระเบียบทางกายภาพนี้ ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นเพียงแค่ประเทศเล็กๆ
> ที่เราควรเข้ามากอบโกยเอาผลประโยชน์เมื่อมีโอกาสและก็กลับไปยังความศิวิไลซ์ของเราโดยเร็ว
> เมืองไทยไม่ใช่ประเทศที่ควรเข้ามาปักหลักลงทุนหรืออยู่อาศัยอย่างยาวนานหรือถาวร
> เพราะเป็นการยากที่เราจะปกครองคนชาตินี้ให้อยู่ในระเบียบวินัยได้ เพราะฉะนั้น
> จึงไม่เหมาะกับวัฒนธรรมอันเจริญของเรา ความไร้ระเบียบทางศีลธรรม จริยธรรม


จริง หรือไม่จริง ตรงไหนบ้างมั้ยครับ
หรือเพื่อนสมาชิกท่านใดเคยได้รับเมล์อันนี้บ้าง....


#527888 ขอตั้งกระทู้ระบาย เมื่อเราต้องตัดเพื่อนกับคนที่หมิ่นสถาบันทางอ้อม

โดย simba on 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 08:34

60 กว่าปีที่ทรงเหน็ดเหนื่อย.... กับ 5 - 6 ปี ของการคบหา...
ไม่ต้องคิดมากครับ มันเทียบกันไม่ได้เลย...
แยะครับชีวิตผมที่คล้ายคุณ จขกท...
:rolleyes:


#513081 ซักฟอกยิ่งลักษณ์วันที่3 ลอยตัวหนีปัญหา ปล่อยให้มีการโกงชาติ คนในรัฐบาลตั้งบริ...

โดย simba on 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:53

3 ทุ่ม คุณเมียบ่น...เครียด ผมเลยปิดทีวี
เลยต้องเรียกขวัญซะหน่อย :wub: :wub: :wub:
ฮั่นแน่ คิดไรกันอยู่ อิอิ


#511039 ซักฟอกยิ่งลักษณ์วันที่3 ลอยตัวหนีปัญหา ปล่อยให้มีการโกงชาติ คนในรัฐบาลตั้งบริ...

โดย simba on 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:51

เปล่าพาออกทะเลนะครับ ระหว่างฟังไป ก็มีข่าวสัพเพเหระมารายงาน

คนรับใช้ถ้อยคำ@nantakwang
ไทยอ้วก ซีทีเอชจ่ายเงินมากถึง 9,748 ล้านบาท ! สำหรับค่าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ ลีก 3 ปี (2014-2016) มากสุดของโลก! (เมล์ออนซันเดย์)

ฟังอภิสิทธิ์ ต่อครับ


#505113 ข่าววงใน ไม่อยากให้เชื่อ ตำรวจกำลังเตรียมทำปฏิวัติ เพื่อ พาทักษิณกลับมา!...

โดย simba on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 14:20

ก็จะคอยดูครับ.... ส่วนตัวไม่เชื่อ


#504671 นับถอยหลัง&เกาะติดเหตุการณ์ วันชุมนุม ๒๔ พ.ย. ๕๕

โดย simba on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:38

แคน สาริกา@can_nw
10.20 น. "ยอมแพ้เสียแต่โดยดี คุณสู้ผมไม่ได้หรอก" เสธ.อ้าย บอกผ่านช่อง ASTV


#504512 มันเตรียมจัดฉากสร้างความรุนแรงแน่

โดย simba on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:58

"คนดีขอให้ปลอดภัย คน***ขอให้ล่มจม".... หึ หึ ครั้งแรกที่ขอสาปแช่ง


#504483 ขอถามช่องทางในการติดตามสถานการณ์ม๊อบแช่แข็งผีอิโพย

โดย simba on 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:45

แคน สาริกา@can_nw
ทีวีดาวเทียมที่เกาะติดม็อบ เสธ.อ้ายคือ ทีนิวส์, เอฟเอ็มทีวี, บลูสกาย, ช่อง 13 สยามไท และเอเอสทีวี


#436718 เตรียมตัว.......โดนเชือดได้เลย......งานนี้....พระเอกคือ.......ศาลรัฐธรรมนูญ.....

โดย simba on 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:31

เทรน ไข่ปลา มาแรงนะครับ.............. ^_^
  • ssa likes this


#414881 กรณี 911 เพื่อนสมาชิกเห็นอย่างไร

โดย simba on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:15

เรื่องนี้ยังต้องมาวิเคราะห์กันอีกเรอะ ช้าไป 10 ปีมั๊ง


หากเห็นว่า ไร้คุณค่า ไร้ประโยชน์ ข้ามไปสิครับ ว่ามั้ย ? เนอะ ;)


#414518 ทูตสหรัฐประจำลิเบีย และเจ้าหน้าที่อีก 3 คน เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยจรวด

โดย simba on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:41

ดูภาพยนตร์ เรื่องนี้ บางส่วน บางตอนแล้ว บอกได้เลยว่า บิดเบือนอย่างไม่น่าให้อภัย

แต่ถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกินเลยมั้ย

อันนี้ก็ต้องมาดูเป็นกรณี ครับ :)

แต่โดยส่วนตัวเลย คนคิด คนผลิต นี่หล่ะครับ มันน่านัก....

ละเอียดอ่อนครับ เรื่องเหล่านี้ แค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวจะยาว :lol:


#412039 กรณี 911 เพื่อนสมาชิกเห็นอย่างไร

โดย simba on 12 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:39

ค่อนข้างยาว แต่อยากให้อดทนอ่าน เพราะมีประโยชน์มากครับ ได้ข้อมูลมาจากนักวิชาการท่านหนึ่ง และเก็บข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหลายเวป มาเรียบเรียงเป็นภาษาไทยในแบบเล่าสู่กันฟัง อยากให้รู้ทันว่า สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ความจริง สิ่งที่เชื่อถือได้ อาจเป็นแค่ "ตอแหลระดับโลกเท่านั้น"

ข้อมูลข่าวสารที่เราเห็นและน่าเชื่อถือจากองค์กรต่างๆ อาจไม่ใช่ข้อมูลจริง ทุกวันนี้เราตกเป็นขี้ข้าของทุนนิยมกับกลุ่มคนที่ควบคุมโลกไว้แค่ไม่กี่คน หากใครอ่านหนังสือ คำอริยะถึงในหลวงที่ผมเขียนฉบับแรกไว้ ก็คงจะจำได้ดีว่า สินค้าหลายอย่างเราถูกเขาหลอกอย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่ยา ความรู้ทางด้านสาธารณสุข ก็แค่เครื่องมือที่ทำให้เราตกเป็นทาสทางการค้าของพวกเขาเท่านั้น หลายประเทศเข้มแข็งมาก ด้วยมีผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุด คนพวกนี้ก็จะทำทุกอย่างเพื่อโค่นล้มให้ได้ ทั้งให้ทุนสนับสนุนฝ่ายตรงข้าม สร้างข่าวลือใส้ร้ายต่างๆนาๆ แบบน่าเชื่อถือด้วยสื่อสากล นักวิชาการ นักวิจัยที่ตนเองควบคุมอยู่ ไม่แปลกใจใช่ไหมที่เราจะเห็นข่าวลือเกี่ยวกับสถาบันจนคนจำนวนมากเชื่อตามไปแล้ว หลายประเทศก็โดนแบบนี้ กัดดาฟี่เอง มีผู้ใหญ่ที่น่าเคารพท่านบอกว่า เป็นคนดีมาก (หมายถึงดีกับคนของเขาและกลุ่มประเทศของเขา คอยปกป้องผลประโยชน์ และทำทุกอย่างเพื่อคนและกลุ่มของเขา คอยขัดขวางไม่ให้คนของเขาตกเป็นขี้ข้าทุนนิยม โดนต่างชาติมอมเมา ฯลฯ และมุสลิมที่ผมรู้จักหลายท่าน ก็เป็นคนดี จิตใจดี ทั้งนั้น ส่วนใหญ่เท่าที่เจอมานะ จะเคร่งครัดในศีลในธรรมของเขา และมีเมตตาสูงมากพอสมควรทีเดียว ไปบรรยายกี่โรงเรียน ก็จะเห็นเด็กมุสลิมน่ารักและตั้งใจฟังมาก มีระเบียบวินัยและใฝ่รู้มากๆ )

ผู้นำหลายคนรู้ทันฝรั่งขี้โกงที่จะมามอมเมาประชาชนของเขาให้ตกเป็นขี้ข้าทุนนิยม และจะแอบแฝงมายึดทรัพยากรธรรมชาติผ่านกระบวนการที่เรียกว่า สิทธิเสรีภาพในทุกด้าน ซึ่งประเทศไทยก็ตกอยู่ในภาวะนั้นแล้ว ธุรกิจหลายอย่างตกเป็นของต่างชาติโดยเราไม่อาจสู้เขาได้ก็เพราะคำว่าเสรีนี่แหละ หลายประเทศที่โค่นอำนาจได้เสร็จ ก็สนับสนุนคนที่ตกลงกันได้หรือคนของตนขึ้นครองอำนาจ เพื่อจะได้สัปทานเต็มที่ ได้เก็บเกี่ยวกอบโกยเต็มที่เท่านั้น ตัวอย่างเหตุการ์ 9 11 ที่ตึกเวริ์ดเทรดถล่มก็เป็นปาหี่ระดับโลกที่ไม่น่าเชื่อ ว่าจะทำกันได้ถึงขนาดนี้แล้วหลอกคนทั่วโลกได้ซะสนิท แต่ฝรั่งเขาก็มีคนดีเยอะ ไม่ใช่จะเลวไปหมด กลุ่มคนที่เป็นคนดี จะคัดค้านการทำสงครามและรู้ทันพวกคนเลวที่มีอำนาจ ในที่สุดก็มีการจับผิดจนได้ผลว่า ที่แท้แล้วเหตุการณ์ตึกถล่ม เป็นการวางแผนเพื่อใส่ร้ายชาวมุสลิมและเพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวกตัวเองเท่านั้น

หลักฐานมัดแน่นว่าเป็นการสร้างสถาณการณ์คือ ภาพที่เราทุกคนได้ชมตอนตึกถล่ม มีคนบอกว่าออกอากาศหลังเหตุการณ์จริงถึง 6 ชั่วโมง เชื่อกันว่าเอาเวลาไปตัดต่อใส่ภาพเครื่องบินพุ่งชนตึก (ซึ่งประเด็นนี้ข้ามไปก็ได้นะ ถ้าไม่เชื่อ แต่ก็ฟังหูไว้หู ) วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องบินจะรู้ดีว่า เครื่องบินโดยสารจะถูกออกแบบให้น้ำหนักเบาที่สุด ในตอนที่เครื่องบินหมดสภาพต้องทำลาย สามารถหาคลิปดูได้ว่า มันบอบบางและแตกหักง่ายแค่ไหน และการทดลองของนาซ่า เอาเครื่องบินรบที่แข็งแรง วิ่งชนผนังปูนที่หนา 3 เมตร ปรากฎว่า ผนังไม่เป็นอะไรเลย แต่เครื่องบินแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

ให้ดูภาพที่ 1 เป็นภาพตอนก่อสร้างตึกที่ทำโครงสร้างด้วยเหล็กกล้า ซึ่งแข็งแรงมาก เปรียบเทียบวัสดุตัวเครื่องบินที่บอบบาง เมื่อพุ่งชนเหล็กกล้าหนาและเยอะขนาดนี้ ไม่มีทางเลยที่จะทำอะไรได้ ยกเว้นแค่สะกิดเท่านั้น ถ้าพุ่งชนจริง เครื่องบินต้องพับจากหลังย่นมาข้างหน้า คล้ายเราเอากระป๋องเบียร์ทุบกับแผ่นเหล็ก แล้วที่น่าแปลกใจอีกอย่างคือ ไม่มีใครพบซากเครื่องบินลำที่พุ่งชนเลย แถมรอยที่อ้างว่าเป็นรอยปีกเครื่องบินชนตึก ก็ไม่ตรงกับรุ่นของเครื่องบินที่บอก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ปีกเครื่องบินอันบอบบางจะทะลุเหล็กเป็นรอยโบ๋ได้แบบนั้น ถ้าหาคลิปการพุ่งชนของเครื่องบินรบอัดกำแพงได้ท่านจะเห็นชัดว่า เครื่องบินโดยสารบอบบางขนาดนี้ ไม่มีทางระคายผิวของตึกที่มีโครงสร้างเหล็กกล้าได้เลยครับ

ภาพที่ 2 คือภาพขณะตึกไฟไหม้ก่อนถล่ม ให้สังเกตประกายไฟที่เกิดขึ้นตรงกลางตึก ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจุดที่เครื่องบินชนเลย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า มันเป็นประกายของ Thermate ที่เป็นสารเคมีสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมหลอมเหล็ก ใช้สำหรับการตัดเหล็กกล้า (ซึ่งแข็งแรงมาก) เหล็กที่โดนสารชนิดนี้จะเกิดประกายไฟและถูกหลอมในอุณหภูมิที่สูงมากจนกลายเป็นเม็ดๆ ดังในภาพที่ 3 ซึ่งขณะเก็บซากตึก ก็พบเศษเหล็กหลอมเป็นเม็ดและบางส่วนก็ยังคงมีอุณหภูมิสูงไม่ต่างกับเหล็กที่ถูกหลอมในโรงงานถลุงเหล็กเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ไฟไหม้จากเครื่องบินชนหรือไฟไหม้ตึกเองก็ตาม ในเวลาไม่นานจะทำให้เหล็กหลอมเป็นเม็ดหรือแดงฉานได้อย่างในภาพที่ 3

สำหรับคนที่เคยดูการทำลายตึกเก่า ซี่งฝรั่งเขาทำกันเป็นประจำ จะเห็นได้ชัดว่า รูปแบบการถล่มของตึก เป็นรูปแบบเดียวกับการวางแผนทำลายตึกเก่า คือจะต้องทำลายคานในตำแหน่งที่สำคัญ และให้มันถล่มจากยอดลงสู่โคน เป็นแนวตรง อย่าลืมว่าทั้งตึกเป็นโครงสร้างเหล็ก แค่ไฟไหม้ด้านบนมันไม่ทำให้ถล่มได้หรอก และถ้าถล่มจริงก็ต้องไม่เรียงตัวลงเป็นระเบียบอย่างนี้ ภาพที่ 4 คือตัวอย่างของช่างที่จะใช้ Thermate เพื่อทำลายตึก โดยการวางแนวตัดเฉียงที่เสาเหล็กดังภาพ ซึ่งเราจะเห็นได้จากภาพที่ 5 ว่าหลังตึกแฝดถล่ม เสาเหล็กด้านล่าง ถูกตัดองศาตามหลักของการทำลายตึกไม่มีผิด ซึ่งถ้ามันถล่มเอง ไม่มีทางที่เหล็กจะถูกตัดได้ตรงขนาดนั้นและเป็นองศาที่พอดีเป๊ะ

ภาพที่ 6 คือภาพข่าวของจุดที่อ้างว่าเป็นรอยของเครื่องบินพุ่งชน ก่อน จะถล่ม ให้ดูว่ารอยตัดแต่ละรอย ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการสร้างขึ้น มีการวางแผนตัดไว้ล่วงหน้า ทั้งองศาของเสาเหล็ก ย้ำว่าเครื่องบินเป็นวัสดุที่น้ำหนักเบากว่าคานเหล็กอย่างมาก ของเบากว่าวิ่งมาแรงแค่ไหน ก็ไม่น่าจะตัดคานและเสาเหล็กได้ตรงและมีทั้งแนวนอนนและแนวเฉียงแบบนี้ได้ (การตัดเหล็กด้วย Thermate จะใช้วิธีตัดด้านล่างเฉียงขึ้น และด้านบนตัดตรง )

มีหลักฐานอีกมากที่ฝรั่งเขาจับผิดกันเอง ซึ่งสามารถหาอ่านในอินเตอร์เน็ตได้ ให้ใช้คำค้นหาว่า Inside Job ท่านจะเจอข้อมูลและรูปภาพอีกเยอะมาก มีข้อสังเกตอีกว่า น้องชายของบุชเป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัยซึ่งดูแลตึกแฝดนี้ จึงมีพิมพ์เขียวและรู้โครงสร้างของตึกนี้เป็นอย่างดี หลายคนสงสัยว่าทำไปทำไม ยิงปืนนัดนี้ได้นกหลายตัว หลังตึกถล่มก็มีข้ออ้างในการทำสงครามและกำจัดเสี้ยนหนามเพื่อยึดครองโลกใบนี้ อาฟกานิสถานเองก็เป็นจุดผ่านไปยังบางประเทศที่มีน้ำมันและแก๊สมหาศาลที่เขาได้สัมปทานไปแล้ว เป็นการเปิดทางสะดวกให้กอบโกยและทำอะไรง่ายขึ้นด้วย งบประมาณมหาศาลในการเอามาผลาญอ้างว่าทำเพื่อแก้แค้น ก็ทำให้บริษัทค้าอาวุธในเครือหรือที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับประโยชน์อย่างมากมาย และยังมีเบื้องหลังอีกมาก

โลกนี้เต็มไปด้วยมาเฟีย ใครที่ขัดขวางผลประโยชน์ของพวกเขา ก็จะโดนกำจัด ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม บริษัทเครื่องบินของรัสเซีย จะทำมาขายแข่ง ทำดีมาก ก็ยังโดนสกัดดาวรุ่ง จนบินชนเขาอย่างไม่น่าเชื่อในวันเปิดตัว เรื่องพวกนี้อาจจะดูไกลจากชีวิตพวกเรา แต่จริงๆ แล้วมันใกล้มาก เพราะกระบวนการยึดครองโลกกำลังดำเนินไป ท่ามกลางการใส่ร้ายและทำลายผู้นำทางจิตวิญญาณของแต่ละประเทศ ผมอยากให้คนที่บูชาฝรั่ง ได้มองในแง่มุมที่ถูกต้องบ้างว่า ไม่มีใครรักพวกเราเท่าคนชาติเดียวกัน หรือคนในทวีปเดียวกันหรอก พวกเราหลายคนกำลังตกเป็นเหยื่อในหลายด้าน ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือด้านการเมือง ตอนนี้ผมไม่หวังอะไรกับใครหรอก ก็ยังเชื่อแค่ว่า กฎแห่งกรรมมีจริง ภัยพิบัติธรรมชาติทั่วโลกที่เกิดขึ้น ก็ทำให้เห็นว่า ถึงจะโกงถึงจะเอาเปรียบคนอื่นไปได้ สุดท้ายพวกเขาก็เจอหายนะไม่ทางตรงก็ทางอ้อมอยู่ดี สำคัญคือ ชีวิตพวกนี้ไม่มีทางมีความสุขหรอกครับ

ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในกรรมดี คนเราถ้ามีบุญ เป็นคนดี มีศีล อะไรก็มาโกงเราไปไม่ได้ ของๆเรายังไงก็ต้องเป็นของๆ เรา ทุกวันนี้เราขาดศีลธรรมกันมาก เราเอาชีวิตไปหวังกับนักการเมืองไม่กี่คน โดยลืมไปว่า เขาก็มีกรรมของเขา เราก็มีกรรมของเรา ถ้าเชื่อมั่นศรัทธาในผลของกรรม เชื่อไหมว่า ถ้าเราดีจริง มันจะดึงดูดผู้นำดี นักการเมืองดี ผู้ว่าดี รัฐบาลดีๆ ฝ่ายค้านดีๆ มาให้เป็นที่หวังของเราได้จริงเองครับ ซานตานมันขึ้นมาปกครองเทวดาไม่ได้หรอกนะ ถ้าจะด่าว่าใครไม่ดี (ไม่ได้ว่าใครไม่ดีนะ หมายถึงถ้าคุณคิดว่าผู้นำไม่ดี) ก็โทษตัวเองกันบ้างว่า ทำความดีมีศีลกันบ้างหรือยัง เหมือนพ่อแม่ที่บ่นว่าลูกชั่วๆนะ ตัวเองก็ยังชั่ว แต่หวังจะให้ลูกเป็นคนดี เหมือนกันครับ ถ้าคุณคิดว่าผู้ปกครองบ้านเมืองในอดีตหรือปัจจุบันไม่ดี ก็ถามตัวเองว่า เราและคนส่วนใหญ่ดีพอที่จะได้ผู้ปกครองที่ดีและถูกใจเราทุกคนได้จริงหรือยัง อย่าให้อคติบังตา เขาทำชั่วเขาก็ต้องรับกรรมของเขาโดยเราไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องด่าเลยด้วยซ้ำ

ถ้าจะตำหนิก็ใช้หลักติเพื่อก่อ ทำด้วยจิตเมตตา ไม่ใช่จับผิดไปทุกเรื่อง ที่สำคัญ อย่าหลงกลฝรั่งที่มันมาปลุกปั่นให้คนไทยฆ่ากันเองแบบนี้เลยครับ เราเคยรักพ่อเรามากที่สุด ประเทศเราจึงแข็งแกร่ง แต่เราโชคร้ายที่มีนักการเมืองไม่ดีพอ และกี่พรรคเวียนเข้ามาก็เห็นอยู่ว่า มันโกงกินกันอย่างไร ประเทศถึงอยู่แค่นี้ ประเทศฉิบหายเพราะข้าราชการและนักการเมืองครับ ไม่เกี่ยวกับสถาบันที่หลายคนอาจเข้าใจผิด และเชื่อข่าวลือ เชื่อข่าวปล่อย เป็นแผนการณ์เดียวกับที่หลายประเทศโดนมาพร้อมกัน โดยเฉพาะประเทศมุสลิม ยังไม่นับกับประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ ที่เขาสนับสนุนเบื้องหลังอีกเยอะ

คิดซักนิดทำชีวิตเราให้ดี แล้วเราจะโชคดีเองครับ ถ้ายังนับถือศาสนา ก็ต้องเชื่อมั่นว่า ทุกศาสนาสอนเหมือนกันหมดคือ ถ้าทำดีต้องได้ดี ที่ยังไม่ได้ดีวันนี้ ไม่ใช่ใครมาทำให้เรา แต่เพราะเรายังทำดีไม่พอต่างหากครับ.. รักนะ จุ๊บจิ๊บ ^.^


สรุปอีกที : เครื่องบินชนตึกที่แข็งแรงขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะทำให้ตึกถล่มได้ เพราะโครงสร้างเป็นเหล็กกล้าแข็งแรงมาก เทียบความแข็งแรงกับตึกบ้านเราแล้ว แข็งแรงกว่าหลายเท่า แล้วการถล่มเป็นระเบียบเหมือนกับการถล่มตึกทั่วไป ที่หลักฐานชัดว่า เสาเหล็กด้านล่างมีรอยตัดด้วยองศาเดียวกับการใช้ Thermate ในการตัดเสาเหล็กเพื่อทำลายตึก เหล็กด้านล่างหลอมละลายเป็นเม็ด ด้วยอุณหภูมิสูง จะใครทำก็ตาม แต่ยอมรับกันเถอะครับว่า เครื่องบินอันบอบบาง มันทำให้ตึกถล่มไม่ได้ ยกเว้นไฟไหม้ด้านบน ซึ่งถ้าตึกจะถล่มเพราะไฟไหม้ด้านบนจริงๆ ก็ต้องไหม้กันนานกว่าตึกจะถล่ม บ้านเราตึกไม่กี่ชั้น ไหม้ตั้งนาน ถ้าไม่โดนน้ำสาดเข้าไปจนหนัก ตึกมันก็พังยากเหมือนกันนะครับ ก็ฟังหูไว้หู วิเคราะห์ให้ดี อย่าด่วนเชื่อ หรืออย่าด่วนปฏิเสธนะครับ ผมไม่ได้ยืนยันว่าข้อมูลตรงนี้จะถูกต้องทั้งหมด แต่แค่พยายามรวบรวมสิ่งที่หลายฝ่ายเขานำเสนอ ว่ามันสมเหตุสมผลแล้วน่าจะจริงหรือไม่อย่างไร


--------------------------------------------
ปล. ผมเขียนบทความเพื่อทวงความยุติธรรมให้พี่น้องมุสลิม เพราะอยากเห็นความสงบสุขในโลกนี้ครับ และอีกจุดประสงค์คือ อยากให้คนไทยตาสว่าง อย่ารีบเชื่ออะไรกับข่าวนัก แม้มันจะดูน่าเชื่อถือก็ตาม ให้ดูตัวอย่างว่าหลายประเทศเขาโดนแบบนี้ สินค้าหลายตัวอันตราย ก่อมะเร็ง ฝรั่งมันปล่อยมาให้เรากินกันเต็มบ้านเมือง ทุนนิยมมันน่ากลัวกว่าที่คิดครับ บทความนี้ไม่ได้โยงไปการเมืองบ้าน เรา ผมไม่ได้เข้าข้างใคร และไม่ได้ชอบพรรคไหนเลย ดังนั้นกลุ่มเสื้อสีต่างๆ ไม่ต้องเข้ามาด่านะครับ อ่านดีๆ ซิครับ ว่าผมไม่ได้เชียร์ใคร ไม่ได้ให้ร้ายใคร แต่ผมต้องการให้คนไทยรักกัน เอาเวลามาทำความดี มากว่ามานั่งวิจารณ์ว่าพรรคนั่่นดี พรรคนี้เลว เพราะมันแทบไม่มีผลอะไรกับชีวิตเราเลย ถ้าหากเรายังไม่เคยคิดจะทำความดีครับ

.. แปลกใจมากที่กลายเป็นว่า บทความนี้ทำให้คนเสื้อแดงเกลียดขี้หน้าผมมากขึ้น ทั้งที่พ่อผมนี่ก็เสื้อโคตรแดง คนที่รู้จักผมนี่แดงก็เพียบ เหลืองก็มาก ฟ้าก็เยอะ นิสัยผมนะ จะสีอะไร ถ้าทำดีก็ชื่นชมครับ ถ้าทำไม่ดีก็ต้องบอกกล่าวกัน ซึ่งหลังๆ ก็ไม่ยุ่งกับใครแล้ว บทความนี้ก็พยายามเขียนเป็นกลาง เน้นหลักความจริงที่ทุกคนพอเข้าใจ แต่น่าแปลกว่า กลายเป็นผมไปเข้าข้างนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่คุณชอบซะงั้น.. มันเกี่ยวอะไรกันเนี่ย งง



http://www.jozho.net...mo=5&qid=977907

Attached Images

  • 911.jpg



#373206 วันนี้แล้ววว..เวลาที่ทุกคนรอคอย และ คอยดู โดยเฉพาะพวกสาวกไพร่แดงสมองแพงทั้งหล...

โดย simba on 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 09:57

ศาลอาญา.jpg
เริ่มขวางถนนกันแล้ว
  • ssa likes this


#296024 จากก้นบึ้งของหัวใจ ... ฝากให้พี่น้องไทยทุกคนเอาไปคิด

โดย simba on 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 16:19

ส่วนตัวครับพี่
ผมกลับมองไปที่ "ค่านิยมที่ผิด" ของสังคมบ้านเราในยุคก่อนหน้านั้น
-บูชาค่าของเงินมากกว่าความดี
-ความไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง
-กฎหมายเองที่อ่อนแอ และล้าสมัย
จิปาถะ แยะไปหมดครับ
สิ่งเหล่านี้ต่างหาก ที่ผมมองว่า ทำให้เกิดตัวอย่างที่ไม่ดี เช่น นายทักษิณ
เพราะฉะนั้น ผมมั่นใจอย่างที่สุดว่า จบทักษิณ วงล้อเหล่านี้ยังไม่จบ
หาก "ค่านิยมที่ผิด" ยังฝังรากลึกในสังคมบ้านเรา ประเทศไทยเรา อยู่แบบนี้
ประเด็นของผมคือ
"อะไรที่เป็นสาเหตุ ทำให้เกิดคน เช่น นายทักษิณ"
ขอบคุณครับ