เหลือแต่หัวไว้เสียบประจานก็พอ
- G.Maniac, เสือยิ้มยาก, -3- and 23 others like this
โดย จอมยุทธตะเกียบคู่ on 28 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:38
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 02:05
ดูเฉพาะบอร์ดเราก็ได้ครับ
แดงกี่รุ่นกี่รุ่น...ล้มเจ้าหมด
ตั้งแต่มะแอฯ(หายไปเลย) นายเวร หมูอวกาศ ไล่มาเรื่อย...
ต้องมีหลุดความเห็นหมิ่นเหม่ออกมาจนได้
ไม่มีสักคนที่ไม่คิดหมิ่นเหม่ต่อสถาบัน
รวมทั้ง "คนกลางกลวงลวงโลก" ด้วย
เห็นมียัยป้าจินคนเดียว ประกาศตัวว่ารักสถาบัน
(ส่วนใจดีที่บอกว่ารักสถาบัน ผมไม่เชื่อนะครับ)
โดย พระฤๅษี on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:43
โดย redfrog53 on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 07:08
โดย เดือนเอก on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 07:04
โดย Kyubey on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 06:59
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 06:45
โดย กากจริงไรจริง on 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 05:12
โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 02:06
"คนที่จะยิงได้ มีแต่คนที่เตรียมใจจะถูกยิงกลับแล้วเท่านั้น"
ผมขออนุญาตยืมประโยคนี้มาจากการที่เห็นเพื่อนสมาชิกคนใดคนหนึ่งในเสรีไทยเคยใช้ ซึ่งผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจำได้ว่าเพื่อนสมาชิกคนนั้นเป็นใคร หากแต่เพียงรู้สึกว่าได้เห็นประโยคนี้อยู่บ่อยๆจนรู้สึกว่าคุ้นตาและชอบใจอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องของแม่กะมนเกดซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากเขียนมานาน แต่ก็ไม่ได้เขียนซักที ซึ่งการที่ผมอยากเขียนเรื่องแม่กะมนเกดนั้นมันเกิดมาจากประโยคประโยคนึงที่เห็นผ่านตาจากสื่อ จาการโพสต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บ่อยๆ ประโยคนี้ครับ
"บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน"
เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้นครับที่ผมรู้สึกว่ามันถูกจริตกับอคติในจิตใจของผมอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นข้อความต่อจากนี้ไป ผมได้เขียนขึ้นมาจากอคติในหัวใจของผมล้วนๆ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีมนุษยธรรมในหัวใจและนักสิทธิมนุษยชนที่จะอ่านข้อความต่อไปนี้
ผมขอเถอะครับ "เราอย่าไปให้คุณค่ากับกะมนเกดคนนี้นักเลยครับ" จะว่าจะด่าอะไรผมก็ได้ครับหากคุณอ่านประโยคที่ผมได้เขียนเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เพราะผมบอกไว้แล้วว่าถ้าผมได้ตัดสินใจจะเขียน ผมก็พร้อมแล้วครับที่จะรับผลจากการเขียนของผมตามประโยคที่ผมได้ยืมมาจากเพื่อนสมาชิกที่นำมาอ้างไว้ข้างต้น
การสูญเสีย โดยปกติแล้วสำหรับผมเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก อย่าว่าต้องให้ถึงชีวิตเลยครับ แค่เพียงสูญเสียอวัยวะก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้คนอย่างผมได้รู้สึกสลดใจครับ แต่ความรู้สึกนี้เดียวกันนี้ที่เคยมีให้กับกะมนเกดมันเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ครับ มันคงหายไปเพราะการกระทำของแม่กะมนเกดครับ
ความตายของกะมนเกดถูกนำมาเพิ่มมูลค่าอย่างมากมายโดยมารดาของเธอครับ เพิ่มจนไม่ธรรมดา เพิ่มจนน่าเกลียด เพื่อให้กะมนเกดดูมีค่ามากมาย เพื่อให้คนต้องเสียดายเมื่อสูญเสียเธอไป เพื่อเรียกร้องเงินค่าชดเชยให้สมน้ำสมเนื้อกับคนที่แสนจะมีค่าอย่างกะมนเกด เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจากการเสียชีวิตของลูกสาวเธอครับ ทั้งๆที่จริงๆแล้วกะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่ไม่น่าจะมีคุณค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้ดูเหมือนจะเป็นหากเธอยังคงมีชีวิตอยู่ครับ
ผมไม่ได้รู้จักกะมนเกดเป็นการส่วนตัว แต่ขออนุญาตวิเคราะห์กะมนเกดจากบทความที่เคยได้อ่านมาด้วยอคติส่วนตัวครับครับ
"เกด เป็นคนพูดจาโผงผาง ปากร้ายใจดี" "เกดมีเอกลักษณ์ของตัวเองคือเสียงหัวเราะที่ดังลั่นทุ่ง" "เกดจบชั้นมัธยม เรียนพาณิชย์ได้ไม่เท่าไรก็ต้องลาออกมาเรียน กศน" สามประโยคนี้ทำให้ผมสามารถวิเคราะห์ด้วยอคติได้ว่า กะมนเกด ไม่ใช่พยาบาลที่เรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่พยาบาลส่วนใหญ่เค้าเป็นกันอย่างที่เราๆท่านๆเคยเห็นหรอกครับ ผมว่าออกจะเป็นคนเกเรเสียด้วยซ้ำ กรุณาอย่าทำให้ภาพพจน์เธอดูเป็นนางฟ้าเลยครับ
มาถึงประโยคที่ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุด และทำให้รู้สึกอคติกับกระบวนการสร้างภาพให้กะมนเกดอย่างรุนแรงก็คือประโยคนี้ครับ "บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน" ผมอยากทราบจริงๆครับว่า นศพ คนใดที่ต้องให้กะมนเกดสอนผ่าเส้นเอ็น เพราะผมเชื่อลึกๆว่าในปีแรกๆของการเรียนแพทย์นั้น นศพ ทุกคนต้องผ่านการเรียนกายวิภาคศาสตร์มาแล้วไม่ว่าทั้งภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติ แล้วเหตุใด นศพ คนนั้นจึงต้องให้กะมนเกดผู้ซึ่งเป็นเพียงผู้ช่วยพยาบาลและผมเองก็เชื่ออยู่ลึกๆว่าเธอไม่เคยผ่านการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์มาอย่างแน่นอนมาสอนการผ่าเส้นเอ็นด้วยเล่า หากผมเป็นอาจารย์ของ นศพ ท่านนั้นจะขอเขกกระโหลกซักสองสามที และจะขออนุญาตตัดคะแนน anatomy ที่คุณเรียนผ่านมาแล้วด้วยในช่วงปีแรกๆครับ เรื่องเหล่านี้คนที่เรียนแพทย์หรือเรียนวิทยาศาสตร์น่าจะรู้ดีที่สุดครับ ไม่ใช้ผู้ช่วยพยาบาลอย่างกะมนเกดซึ่งไม่เคยร่ำเรียนวิชาทางสายแพทย์มาก่อนอย่างแน่นอน นี่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กะมนเกดที่ผมรับไม่ได้อย่างมากครับ
ประโยคต่อมาคือประโยคที่ว่า "เกดมีฝันว่าต้องการไปสอบเป็ผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบก โดยประกาศเจตนาแน่วแน่ว่า ถ้าสอบติดจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" ท่านจะเห็นว่ามันน่าชื่นชมใช้มั๊ยครับ แต่ผมก็ไม่เชื่อลมที่ออกจากปากแม่กะมนเกดหรอกครับ เกดตายไปแล้วจะพูดอะไรก็ได้ครับ จะพูดให้ดูดีกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าก็ได้ครับ "ถ้าเกดยังไม่ตายจะ ..." "เกดมีฝันว่า ..." "เกดตั้งใจจะ ..." จะพูดอะไรก็พูดได้ครับ สำหรับผมมันก็แค่การสร้างราคา สร้างมูลค่าให้การตายของกะมนเกด เพื่อให้การตายของลูกทำเงินให้แม่ให้ได้มากที่สุดครับ คุณเชื่อเหรอครับว่าหากเธอยังไม่ตาย แม่ของเธอจะยอมให้เธอลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนาดไปอยู่แค่ในม็อบกบฏสีแดงแม่เธอยังไม่อยากให้ไปเลยครับ วิเคราะห์จากประโยคนี้ครับ "หลังจากเกดไปร่วมกับอาสาสมัคร เพื่อคอบปฐมพยาบาลกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอย่างเต็มตัว เกดก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ที่บ้านเพราะกลัวโดนตามตัวกลับ" ที่สามจังหวัดชายแดนมันโหดร้ายกว่าในม๊อบกบฏสีแดงหลายล้านเท่าครับ เห็นรึเปล่าครับว่ามันก็แค่การพูดเพื่อเพิ่มมูลค่าเท่านั้นเอง กะมนเกดยังไม่เคยแม้แต่จะเรียนผู้ช่วยพยาบาลด้วยซ้ำ และก็ยังไม่รู้เลยว่าจะสอบได้เป็นผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบกหรือเปล่า แต่ก็เอามาพูดสร้างมูลค่าซะใหญ่โต น่าสะอิดสะเอียนจริงๆครับ
อีกประโยคก็คือประโยคที่แม่เธอพูดเอาดีใส่ตัวที่ว่า "ดิฉันสอนลูกๆทั้งสามคนเสมอว่าครอบครัวเรามันจน มีทางเลือกน้อย หากเรียนจบแล้วมีงานทำก็ควรช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า ช่วยเหลือได้ให้ช่วยเหลือ" แต่สิ่งที่ผมได้บริโภคจากสื่อนั้นกลับพบแต่เพียงความเห็นแก่ได้ของเธอ คิดแต่เพียงจะเรียกร้องค่าชดเชยให้ได้มากที่สุด หาได้เคยเห็นถึงความสำนึกในการเสียสละตามคำสอนของเธอไม่ ในใจลึกๆก็อยากถามเธอว่า บัดนี้เธอมั่งมีแล้วจากเงินเจ็ดล้านกว่าๆ เธอได้นำเงินเหล่านั้นช่วยเหลือใครบ้างหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ให้เป็นบุญกุศลแก่วิญญาณลูกของเธอก็ยังดีครับ ถ้ายังไม่เคยนำเงินเหล่านั้นไปช่วยเหลือใคร ประโยคนี้ก็แค่อีกประโยคที่สวยหรูใช้ในการเพิ่มมูลค่าการตายของลูกเธอครับ
กะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนเสื้อแดงคนหนึ่งครับ เหมือนคนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะก่อกบฏ โดยที่ยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร บางทีอาจจะเป็นฝีมือพวกเดียวกันเองก็ได้ครับ ซึ่งก็มีอีกหลายๆคนที่เราท่านๆจำชื่อคนเหล่านั้นไม่ได้ครับ เรามาร่วมกันทำชื่อ กะมนเกด ให้เลือนหายไป และไร้ซึ่งมูลค่าใดๆเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงหลายๆคนที่เราจำชื่อไม่ได้กันเถอะครับ อย่าอุปโลกน์ให้เธอเป็นนางฟ้าเป็นพยาบาลผู้มาจิตใจเมตตาอารีเลยครับ เพราะผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองก็ต้องเป็นคนเสื้อเหลืองที่มีแนวคิดมีอุดมการณ์เดียวกัน ในหน่วยพยาบาลในการชุมนุมของ เสธ อ้าย ก็ต้องเป็นคนของ เสธ อ้าย แล้วมันจะยกเว้นคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของกบฏสีแดงไปได้อย่างไรเล่าครับ กะมนเกดก็แค่คนเสื้อแดงคนหนึ่ง กรุณาอย่าได้ให้ราคาเธอมากกว่านั้นเลยครับ เธอไม่ได้มีค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริง ก่อนนั้นเธอน่าจะมีประวัติเป็นอาสาสมัครพยาบาลในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองมาก่อนครับ เพราะนางฟ้าผู้มีจิตใจเมตตาอารีต้องไม่มีสีใดๆครับ
จากทั้งหมดที่ผมเขียนมา ผมไม่ให้ราคากะมนเกด มากเท่ากับที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ สำหรับผม เธอก็แค่คนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะร่วมกันก่อการกบฏครับ
ผมขอขอบคุณหากเพื่อนสมาชิกได้อ่านข้อความของผมจนจบ และหากใครจะว่าอะไรผมเนื่องมาจากว่ารู้สึกขัดหูขัดตาในความคิดความอ่านของผม ก็ยินดีน้อมรับฟังความคิดเห็น หรือแม้แต่จะเป็นคำด่าว่าครับ เพราะผมคิดของผมอย่างนี้จริงๆว่ามันก็แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ของแม่กะมนเกดครับ สำหรับผม แม่กะมนเกดก็เป็นเพียง พยาธิ ครับ ชื่อนี้ผมไม้ได้โมเมเอามาลอยๆครับ เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมผวนเอามาจากชื่อกับนามสกุลของเธอครับ พะยาด มาจาก พะยาด ... เฮา ซึ่งผวนมาจาก พะเยา ... ครับ ที่น่าแปลกก็คือ พฤติกรรมบางอย่างเธอคล้ายพยาธิเสียด้วยสิครับ 555
โดย คนกินข้าว on 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:16
โดย Bookmarks on 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:39
โดย ดอกปีบ on 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 09:32
"คนที่จะยิงได้ มีแต่คนที่เตรียมใจจะถูกยิงกลับแล้วเท่านั้น"
ผมขออนุญาตยืมประโยคนี้มาจากการที่เห็นเพื่อนสมาชิกคนใดคนหนึ่งในเสรีไทยเคยใช้ ซึ่งผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจำได้ว่าเพื่อนสมาชิกคนนั้นเป็นใคร หากแต่เพียงรู้สึกว่าได้เห็นประโยคนี้อยู่บ่อยๆจนรู้สึกว่าคุ้นตาและชอบใจอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องของแม่กะมนเกดซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากเขียนมานาน แต่ก็ไม่ได้เขียนซักที ซึ่งการที่ผมอยากเขียนเรื่องแม่กะมนเกดนั้นมันเกิดมาจากประโยคประโยคนึงที่เห็นผ่านตาจากสื่อ จาการโพสต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บ่อยๆ ประโยคนี้ครับ
"บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน"
เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้นครับที่ผมรู้สึกว่ามันถูกจริตกับอคติในจิตใจของผมอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นข้อความต่อจากนี้ไป ผมได้เขียนขึ้นมาจากอคติในหัวใจของผมล้วนๆ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีมนุษยธรรมในหัวใจและนักสิทธิมนุษยชนที่จะอ่านข้อความต่อไปนี้
ผมขอเถอะครับ "เราอย่าไปให้คุณค่ากับกะมนเกดคนนี้นักเลยครับ" จะว่าจะด่าอะไรผมก็ได้ครับหากคุณอ่านประโยคที่ผมได้เขียนเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เพราะผมบอกไว้แล้วว่าถ้าผมได้ตัดสินใจจะเขียน ผมก็พร้อมแล้วครับที่จะรับผลจากการเขียนของผมตามประโยคที่ผมได้ยืมมาจากเพื่อนสมาชิกที่นำมาอ้างไว้ข้างต้น
การสูญเสีย โดยปกติแล้วสำหรับผมเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก อย่าว่าต้องให้ถึงชีวิตเลยครับ แค่เพียงสูญเสียอวัยวะก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้คนอย่างผมได้รู้สึกสลดใจครับ แต่ความรู้สึกนี้เดียวกันนี้ที่เคยมีให้กับกะมนเกดมันเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ครับ มันคงหายไปเพราะการกระทำของแม่กะมนเกดครับ
ความตายของกะมนเกดถูกนำมาเพิ่มมูลค่าอย่างมากมายโดยมารดาของเธอครับ เพิ่มจนไม่ธรรมดา เพิ่มจนน่าเกลียด เพื่อให้กะมนเกดดูมีค่ามากมาย เพื่อให้คนต้องเสียดายเมื่อสูญเสียเธอไป เพื่อเรียกร้องเงินค่าชดเชยให้สมน้ำสมเนื้อกับคนที่แสนจะมีค่าอย่างกะมนเกด เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจากการเสียชีวิตของลูกสาวเธอครับ ทั้งๆที่จริงๆแล้วกะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่ไม่น่าจะมีคุณค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้ดูเหมือนจะเป็นหากเธอยังคงมีชีวิตอยู่ครับ
ผมไม่ได้รู้จักกะมนเกดเป็นการส่วนตัว แต่ขออนุญาตวิเคราะห์กะมนเกดจากบทความที่เคยได้อ่านมาด้วยอคติส่วนตัวครับครับ
"เกด เป็นคนพูดจาโผงผาง ปากร้ายใจดี" "เกดมีเอกลักษณ์ของตัวเองคือเสียงหัวเราะที่ดังลั่นทุ่ง" "เกดจบชั้นมัธยม เรียนพาณิชย์ได้ไม่เท่าไรก็ต้องลาออกมาเรียน กศน" สามประโยคนี้ทำให้ผมสามารถวิเคราะห์ด้วยอคติได้ว่า กะมนเกด ไม่ใช่พยาบาลที่เรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่พยาบาลส่วนใหญ่เค้าเป็นกันอย่างที่เราๆท่านๆเคยเห็นหรอกครับ ผมว่าออกจะเป็นคนเกเรเสียด้วยซ้ำ กรุณาอย่าทำให้ภาพพจน์เธอดูเป็นนางฟ้าเลยครับ
มาถึงประโยคที่ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุด และทำให้รู้สึกอคติกับกระบวนการสร้างภาพให้กะมนเกดอย่างรุนแรงก็คือประโยคนี้ครับ "บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน" ผมอยากทราบจริงๆครับว่า นศพ คนใดที่ต้องให้กะมนเกดสอนผ่าเส้นเอ็น เพราะผมเชื่อลึกๆว่าในปีแรกๆของการเรียนแพทย์นั้น นศพ ทุกคนต้องผ่านการเรียนกายวิภาคศาสตร์มาแล้วไม่ว่าทั้งภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติ แล้วเหตุใด นศพ คนนั้นจึงต้องให้กะมนเกดผู้ซึ่งเป็นเพียงผู้ช่วยพยาบาลและผมเองก็เชื่ออยู่ลึกๆว่าเธอไม่เคยผ่านการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์มาอย่างแน่นอนมาสอนการผ่าเส้นเอ็นด้วยเล่า หากผมเป็นอาจารย์ของ นศพ ท่านนั้นจะขอเขกกระโหลกซักสองสามที และจะขออนุญาตตัดคะแนน anatomy ที่คุณเรียนผ่านมาแล้วด้วยในช่วงปีแรกๆครับ เรื่องเหล่านี้คนที่เรียนแพทย์หรือเรียนวิทยาศาสตร์น่าจะรู้ดีที่สุดครับ ไม่ใช้ผู้ช่วยพยาบาลอย่างกะมนเกดซึ่งไม่เคยร่ำเรียนวิชาทางสายแพทย์มาก่อนอย่างแน่นอน นี่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กะมนเกดที่ผมรับไม่ได้อย่างมากครับ
ประโยคต่อมาคือประโยคที่ว่า "เกดมีฝันว่าต้องการไปสอบเป็ผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบก โดยประกาศเจตนาแน่วแน่ว่า ถ้าสอบติดจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" ท่านจะเห็นว่ามันน่าชื่นชมใช้มั๊ยครับ แต่ผมก็ไม่เชื่อลมที่ออกจากปากแม่กะมนเกดหรอกครับ เกดตายไปแล้วจะพูดอะไรก็ได้ครับ จะพูดให้ดูดีกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าก็ได้ครับ "ถ้าเกดยังไม่ตายจะ ..." "เกดมีฝันว่า ..." "เกดตั้งใจจะ ..." จะพูดอะไรก็พูดได้ครับ สำหรับผมมันก็แค่การสร้างราคา สร้างมูลค่าให้การตายของกะมนเกด เพื่อให้การตายของลูกทำเงินให้แม่ให้ได้มากที่สุดครับ คุณเชื่อเหรอครับว่าหากเธอยังไม่ตาย แม่ของเธอจะยอมให้เธอลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนาดไปอยู่แค่ในม็อบกบฏสีแดงแม่เธอยังไม่อยากให้ไปเลยครับ วิเคราะห์จากประโยคนี้ครับ "หลังจากเกดไปร่วมกับอาสาสมัคร เพื่อคอบปฐมพยาบาลกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอย่างเต็มตัว เกดก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ที่บ้านเพราะกลัวโดนตามตัวกลับ" ที่สามจังหวัดชายแดนมันโหดร้ายกว่าในม๊อบกบฏสีแดงหลายล้านเท่าครับ เห็นรึเปล่าครับว่ามันก็แค่การพูดเพื่อเพิ่มมูลค่าเท่านั้นเอง กะมนเกดยังไม่เคยแม้แต่จะเรียนผู้ช่วยพยาบาลด้วยซ้ำ และก็ยังไม่รู้เลยว่าจะสอบได้เป็นผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบกหรือเปล่า แต่ก็เอามาพูดสร้างมูลค่าซะใหญ่โต น่าสะอิดสะเอียนจริงๆครับ
อีกประโยคก็คือประโยคที่แม่เธอพูดเอาดีใส่ตัวที่ว่า "ดิฉันสอนลูกๆทั้งสามคนเสมอว่าครอบครัวเรามันจน มีทางเลือกน้อย หากเรียนจบแล้วมีงานทำก็ควรช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า ช่วยเหลือได้ให้ช่วยเหลือ" แต่สิ่งที่ผมได้บริโภคจากสื่อนั้นกลับพบแต่เพียงความเห็นแก่ได้ของเธอ คิดแต่เพียงจะเรียกร้องค่าชดเชยให้ได้มากที่สุด หาได้เคยเห็นถึงความสำนึกในการเสียสละตามคำสอนของเธอไม่ ในใจลึกๆก็อยากถามเธอว่า บัดนี้เธอมั่งมีแล้วจากเงินเจ็ดล้านกว่าๆ เธอได้นำเงินเหล่านั้นช่วยเหลือใครบ้างหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ให้เป็นบุญกุศลแก่วิญญาณลูกของเธอก็ยังดีครับ ถ้ายังไม่เคยนำเงินเหล่านั้นไปช่วยเหลือใคร ประโยคนี้ก็แค่อีกประโยคที่สวยหรูใช้ในการเพิ่มมูลค่าการตายของลูกเธอครับ
กะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนเสื้อแดงคนหนึ่งครับ เหมือนคนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะก่อกบฏ โดยที่ยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร บางทีอาจจะเป็นฝีมือพวกเดียวกันเองก็ได้ครับ ซึ่งก็มีอีกหลายๆคนที่เราท่านๆจำชื่อคนเหล่านั้นไม่ได้ครับ เรามาร่วมกันทำชื่อ กะมนเกด ให้เลือนหายไป และไร้ซึ่งมูลค่าใดๆเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงหลายๆคนที่เราจำชื่อไม่ได้กันเถอะครับ อย่าอุปโลกน์ให้เธอเป็นนางฟ้าเป็นพยาบาลผู้มาจิตใจเมตตาอารีเลยครับ เพราะผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองก็ต้องเป็นคนเสื้อเหลืองที่มีแนวคิดมีอุดมการณ์เดียวกัน ในหน่วยพยาบาลในการชุมนุมของ เสธ อ้าย ก็ต้องเป็นคนของ เสธ อ้าย แล้วมันจะยกเว้นคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของกบฏสีแดงไปได้อย่างไรเล่าครับ กะมนเกดก็แค่คนเสื้อแดงคนหนึ่ง กรุณาอย่าได้ให้ราคาเธอมากกว่านั้นเลยครับ เธอไม่ได้มีค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริง ก่อนนั้นเธอน่าจะมีประวัติเป็นอาสาสมัครพยาบาลในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองมาก่อนครับ เพราะนางฟ้าผู้มีจิตใจเมตตาอารีต้องไม่มีสีใดๆครับ
จากทั้งหมดที่ผมเขียนมา ผมไม่ให้ราคากะมนเกด มากเท่ากับที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ สำหรับผม เธอก็แค่คนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะร่วมกันก่อการกบฏครับ
ผมขอขอบคุณหากเพื่อนสมาชิกได้อ่านข้อความของผมจนจบ และหากใครจะว่าอะไรผมเนื่องมาจากว่ารู้สึกขัดหูขัดตาในความคิดความอ่านของผม ก็ยินดีน้อมรับฟังความคิดเห็น หรือแม้แต่จะเป็นคำด่าว่าครับ เพราะผมคิดของผมอย่างนี้จริงๆว่ามันก็แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ของแม่กะมนเกดครับ สำหรับผม แม่กะมนเกดก็เป็นเพียง พยาธิ ครับ ชื่อนี้ผมไม้ได้โมเมเอามาลอยๆครับ เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมผวนเอามาจากชื่อกับนามสกุลของเธอครับ พะยาด มาจาก พะยาด ... เฮา ซึ่งผวนมาจาก พะเยา ... ครับ ที่น่าแปลกก็คือ พฤติกรรมบางอย่างเธอคล้ายพยาธิเสียด้วยสิครับ 555
โดย ดอกปีบ on 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 09:11
โดย lovelygam on 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:14
โดย วะเฮ้ย on 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:41
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net