redspy

มักมีการกล่าวหาว่าทหารเป็นผู้ยิงคนในวัดปทุมฯ โดยอ้างว่ายิงจากรางรถไฟฟ้าบริเวณหน้าทางออกวัดปทุมฯ ( บริเวณหน้าสหกรณ์) แม้ว่าโดยหลักวิทยาศาสตร์แล้ว วิถีกระสุนไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะยิงจากรางรถไฟฟ้าตรงบริเวณทางออก วันนี้ผมเลยโพสต์แผนผังร่องรอยของกระสุน ที่หน่วยงานของรัฐเก็บได้ช่วงวันที่ 10 ตุลาคม 2553 ซึ่งจะเห็นได้จากแผนผังว่า " ไม่มีร่องรอยกระสุนตรงบริเวณทางออกวัดปทุมฯ (บริเวณหน้าสหกรณ์) จะมีแต่เฉพาะบริเวณป้ายรอรถประจำทาง(ทางเข้า)



เชิญวิเคราะห์กันครับ

เป็นภาพใหม่ที่เพิ่งเห็น เชิญวิเคราะห์กันหน่อยครับ

หลักฐานที่เจ้าหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้เก็บตัวอย่างในวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 08:30 am มีดังนี้

1) พบคราบโลหิตบนผนังภายนอกด้านหลัง ห่างจากผนังป้อมจราจรแยกเฉลิมเผ่าด้านซ้าย ประมาณ 1.5 เมตร
2) พบคราบโลหิตบนพื้นภายในป้อมจราจรแยกเฉลิมเผ่า เป็นคราบโลหิตของบุคคลมากกว่า 1 บุคคลขึ้นไป

และ
พบปลอกกระสุนปืนออโตเมติกขนาด 9 มม luger จำนวน 4 ปลอก และปลอกกระสุนปืนเล็กกลขนาด .223(5.56 มม.) บนพื้นถนนพระรามที่ 1 ด้านหน้ารั้ววัดปทุมวนารามราชวรวิหาร


ถามว่าใครมายืนยิงปืน m 16 อยู่หน้าวัดครับ !!!!!!!

และก็รู้ๆกันอยู่ว่าป้อมจราจรแยกเฉลิมเผ่าเป็นที่ซ่องสุมกำลังของเสธแดง และสั่งการจากที่นั่น

คุณสิงห์ยังไม่ยอมรับความจริงอีก ก็หมอพรทิพย์ไม่ได้เป็นคนจำลองวิถีกระสุน และไม่ได้เป็นคนวิเคราะห์วิถีกระสุน เหมือนที่คุณหมอได้ยืนยัน เพราะเจ้าหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเป็นคนจำลองวิถีกระสุน เพียงแต่คุณหมอรู้ว่าเจ้าหน้าที่สรุปว่าวิถีกระสุนมาจากรถไฟฟ้าไม่ได้
ทำไมพยายามดิสเครดิตคนที่เข้าเห็นตรงข้ามกับคุณจัง
กระสุนจะมาจากบั้นท้าย หรือหลัง จะเป็นของสตช หรือสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ไม่สามารถเกิดจากวิถีกระสุนที่มาจากบริเวณรางรถไฟฟ้าได้

ผลชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ใช้ในการจำลองวิถีกระสุนคือ ผลชันสูตรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะกรณีวัดปทุม สกาบันนิติวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นคนผ่าศพ
ผมไม่เข้าใจว่าคุณสิงห์จะพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงทำไม ก็สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เป็นคนส่งผลชันสูตรตามสำนวนซึ่งยึดตามคนผ่าศพ ก็คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการจำลองวิถีกระสุน

ยอมรับข้อเท็จจริงเพื่อหาฆาตกรตัวจริงดีกว่าครับ คุณสิงห๋สนามหลวง

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์โดย หมอพรทิพย์ ยืนยันว่า ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำหนังสือสอบถามสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ถึงความเป็นไปได้ของวิถีกระสุน สำหรับกรณีน้องเกด และทางสถาบันนิติิวิทยาศาสตร์ก็ได้ตอบกรมสอบสวนคดีพิเศษไปว่า หลังจากได้จำลองวิถีกระสุนแล้ว ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่วิถีกระสุนจะมาจากรางรถไฟฟ้า
แต่ปรากฎว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษกลับไม่นำเอกสารดังกล่าวไปใช้ อีกทั้งไม่ยอมนำไปไว้ในสำนวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ต้องตั้งคำถามว่าทำไม ?

ตอบคำถามคุณ 5 m อีกครั้ง รูปนี้เป็นรูปที่คนเสื้อแดงเอามาโพสต์ใน pantip และ เสรีไทย โดยอ้างว่าถ้าเป็นแบบในภาพ สามารถยิงจากรถไฟฟ้า ที่มุม 27 องศาได้ ผมก็เอาสมมติฐานที่ของคนเสื้อแดงคิดว่าดีที่สุด และตั้งเป็นโจทก์ ส่งให้ทาง BTS คำนวณ
คุณ 5 m ถามว่าทำไมต้องเป็น 20.85 เมตร ทำไมไม่เป็น 21 เมตร หรือ 22 เมตร หรือ 23 เมตร ผมก็เรียนกับคุณ 5 m ว่าความยาว 20.85 เมตร นั้น เป็นข้อมูลของพวกคุณเอง (ตามภาพ) ต่อให้คุณยืดไปไกลมากกว่านี้ เป็น 23 เมตร ก็ไม่สามารถทำมุมให้เกิดบาดแผลตามผลชันสูตรได้อยู่ดี

อธิบายภาษาคนแบบนี้ ไม่เข้าใจ ก็ไม่ขออธิบายแล้วครับ

คุณสิงห์ตอบ


"มีใครเอาอะไรไปยิงวัดพระแก้วครับ ?
ผมเห็นมีแต่พวกโมเมจินตนาการกล่าวหาว่ายิงวัดพระแก้ว"


ข้อเท็จจริงจากข่าวอัยการส่งฟ้องเรื่องยิงกระทรวงกลาโหม และ ศาลก็ตัดสินคดียิงกระทรวงกลาโหมเคยอ่านกันบ้างไหมครับ
อย่าเอาอ่านแต่ข่าวพาดหัวที่ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปเป็นบ้องกัญชา จากพวกสื่อชวนเชื่อนะครับ เดี๋ยวจะติดนิสัยนำมาปฏิบัติ

ทำไมด่่าคุณจตุพรล่ะครับ เพราะจตุพรเป็นคนแถลงข่าวเองว่า ยิงใส่วัดพระแก้ว ถ้าผมนำคลิปมาโพสต์ที่เสรีไทย คุณสิงห์จะยอมขอโทษไหมครับ ในเมื่อแกนนำคุณเป็นคนพูดเอง

ผมงงกับความคิดของกลุ่มคนเสื้อแดงในเสรีไทย ก็ในเมื่อมันมีความขัดแย้งในเรื่องข้อมูลของหลายฝ่าย ผมก็ให้คนกลาง คือวิศวกรของ BTS เป็นคนวัดระยะของแต่ละจุด แล้วเขาก็สรุปออกมาเป็นตัวเลขแบบนี้ ขนาดเจ้าของบริษัทฯเป็นคนให้ข้อมูลเอง แล้วพวกคุณยังไม่เชื่ออีกหรือ สำหรับกรณีภาพที่ใช้ในรายการสายล่อฟ้านั้น ผมก็ไม่เห็นมันจะแตกต่างมาก ความสูงของ sky walk (ข้อมูลสายล่อฟ้า 7 เมตร ) (ข้อมูล BTS 7.25 เมตร)
ส่วน ความสูงของรางชั้นที่ 2 (ข้อมูลสายล่อฟ้า 10 เมตร ) (ข้อมูล BTS 13.20 เมตร) ซึ่่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าคนที่ไปวัดอาจจะวัดผิดไป 3.20 เมตร ซึ่งเป็นคุณกับฝ่ายแดงที่เชื่อว่าเป็นการยิงจากรางรถไฟฟ้าที่ 2 เพราะยิ่งต่ำเท่าไหร่ ก็จะบีบองศาให้ตามที่ตัวเองได้ตั้งธงไว้เท่านั้น

แต่สุดท้าย ข้อมูลของเจ้าของ BTS เป็นแบบนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นมาตรฐานสากล และควรจะอิงไว้ใช้ในการคำนวณ ผมไม่รู้ว่า PT ที่อ้างว่าไปยิงเลเซอร์ และวัดไปแล้ว เป็นของใคร น่าเชื่อถือแค่ไหน สำหรับตัวเลขการวัดของ BTS เขาจะส่งเป็นทางการเข้ากรรมาธิการในสภาฯอีกที เพราะฉะนั้นคงไม่ใช่เป็นการบิดเบือนหรือโกหก แต่เป็นข้อเท็จจริงที่วิถีกระสุนที่เข้าน้องเกดตามชันสูตรนั้น ไม่สามารถยิงจากรางรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นชั้นไหน

ต้องขอขอบคุณทาง BTS ที่คำนวณวิถีกระสุนตามหลัก วิชาการ ตามภาพครับ

เมือเอาข้อมูลนี้ส่งให้ทาง BTS เพื่อคำนวณระยะ ผลที่ออกมานั้น ไม่มีทางที่จะเป็น 27 องศาได้ ตามรูปครับ

ความเชื่อที่ถูกปลุกฝังโดยสื่อแดง เรื่องวิถีกระสุนที่ฆ่าน้องเกดนั้นมาจากทหารบนรางรถไฟฟ้านั้น ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงมองข้ามข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ไป และบางเสื้อแดงบางท่านก็ตั้งธงไว้ล่วงหน้า พยายามทำให้วิถีกระสุนที่มาจากรางรถไฟฟ้านั้น เป็นมุมประมาณ 27 องศา โดยตั้งใจบิดเบือนตัวเลขความสูงของรางรถไฟฟ้า ดังนั้นผมจึงต้องค้นหาความจริง เพื่อหักล้างความเชื่อโดยหลักวิทยาศาสตร์

ที่มาของข้อมูล : รูปถ่ายนี้เป็นข้อมูลจากราชดำเนิน และนำมาโพสต์ในเสรีไทย ข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดคือความสูงของรางรถไฟฟ้าเพราะจริงๆสูง 13.20 เมตร ไม่ไช่ "ไม่เกิน 10.8 เมตร"

ผมว่าตรรกะของคุณสิงห์สนามหลวงเอียงมากนะครับ รถตู้คันนั้นมาส่งชายชุดดำตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว พอกลุ่มคนชุดดำลงจากรถ ก็แยกออกเป็นสองกลุ่ม โดยมีรถมอเดอร์ไซค์ โดยการประสานงานของนัทสนามหลวง รับกลุ่มชายชุดดำไปปฎิบัติหน้าที่ๆคอกวัว โดยชุดนี้มีนายหรั่งเป็นหัวหน้าชุด ส่วนอีกชุดประกอบไปด้วยนายเจมส์ นายพล และนายสุกเสข นั่งรถมอเตอร์ไซค์เช่นเดียวกันไปที่ถนนดินสอ และเข้าไปแฝงตัวในบ้านไทยโบราณ เพราะเจ้าของบ้านสนิทกับเสธแดง และขว้างระเบิด m67ใส่ทหาร หลังจากปฎิบัติหน้าที่เสร็จ ก็มารายงานเสธแดงที่ร้านแมค หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ
สำหรับชุดนายหรั่งนั้น รถตู้คันเดิมที่มาส่ง กลับมารับโดยใช้เส้นทางผ่านแยกสี่กั๊ก (ตามที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด) ตอนสองทุ่มสิบเก้านาที และเมื่อรับชุดนายหรั่งเสร็จก็ขับผ่านแยกสี่กั๊ก(ตามที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด) ตอนสามทุ่มเศษๆ
วันรุ่งขึ้นราวๆ 10 โมงเศษ นายพลกับนายสุกเสขก็กลับมาที่บ้านไทยโบราณเพื่อเก็บลูกกระเดื่อง m67 ตามคำสั่งของเสธแดง
นี่คือข้อเท็จจริง และเป็นความจริงอีกด้านที่คุณสิงห์สนามหลวงไม่พยายามที่จะรับรู้

เปรียบเทียบอีกภาพ ที่โรงแรม sc park

จตุพรพาไปมอบตัว เดือนมีนาคม 53