ไม่รู้ว่าในหนึ่งชีวิตเราทำสิ่งที่ไร้สาระไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
และใช้ชีวิตมีสาระไปกี่หน
แต่สำหรับชายไทยกลุ่มหนึ่ง เขาเลือกที่จะปกป้องประเทศชาติด้ามขวานไทยในนาม "ทหารหาญ"
พลทหารต่วนอัมรัน กูโซ๊ะ เลือกที่จะสมัครเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ
ตลอดระยะเวลาเพียงสองปีที่เขาภาคภูมิใจกับการเป็นทหารรับใช้ประเทศชาติ
ทำให้เขารู้ว่าชีวิตของเขาทวีคุณค่าแค่ไหน
แต่แล้วในวันหนึ่งเมื่อ 29 มกราคม ปีที่แล้ว เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว
จากกลุ่มผู้ก่อการร้าย ทำให้ร่างของเขาปลิวไปตามแรงปะทะ
และเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เขาสูญเสียขาทั้งสองข้างไปในทันที
พลทหารต่วนอัมรัน กูโซ๊ะ ในวันที่เกิดเหตุ
ต่วนเขียนบรรยายเอาไว้ใต้ภาพนี้ใน Facebook ของเขาว่า
"ถึงแม้ว่าผมจะสูญเสียทุกอย่างในชีวิตผมไป ความหวัง ความรัก หรือในด้านหลายๆ อย่างทีผมรอคอยวัน
นั้นจะมาถึง แต่มาวันนี้มันไม่มีอีกแล้ว ผมดีใจทีได้เกิดมารับใช้ประเทศชาติบ้านเมือง อาชีพ ทหารเป็นอาชีพทีผมรักมาก คือความจริงแล้ว ผมอยากทำอาชีพนี้ไปจนถึงตายแต่มาวันนี้ผมได้แค่ ทำหน้าตรงนี้แค่ 2 ปีเองผมรู้สึกว่ามันน้อยมากสำหรับผม อยากบอกถึงความรู้สึกในใจว่า อยากกลับไปรับราชการทหารต่อ เหมือนๆทีผมทำมาแต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ชาติหน้ามีจริงผมขอเกิดมาเป็นคนไทยและรับใช้ชาติแบบนี้อีกครั้ง.... ขอบคุณครับ"
23 เมษายน 2553
ในขณะที่กรุงเทพฯ กำลังคราคร่ำไปด้วยสถานการณ์ความไม่สงบจากม็อบเสื้อแดง หลายคนกำลังจดจ่อต่อคนไทยที่หันมารบกันเองเพื่อคนเพียงคนเดียวที่ราชประสงค์
ที่ด้ามขวานไทยกำลังมีทหารหนุ่มคนหนึ่งซึ่งออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตะเวน ในขณะที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น เสียงระเบิดที่ดังก้องกังวาลในใจเขาคงดังไม่พอ มาถึงพี่น้องราชประสงค์
ร.ท.พงศกร ทัพพิกรณ์ (ยศในขณะนั้น) อุ้ยสูญเสียขาไปหนึ่งข้างในทันที
ภาพในวันที่เกิดเหตุ อุ้ยยังคงมีกำลังใจที่ดีเยี่ยม
23 กันยายน 2553
หลังจากที่ชุดลาดตะเวนคุ้มครองครูของ รท.สุรเชษฐ์ ดีเอื้อ ที่แม่ลาน ปัตตานีกลับมาในพื้นที่ ออฟกับลูกน้อง โดนแรงปะทะของระเบิดแสวงเครื่อง ทำให้ร่างปลิดปลิวไปตามแรงระเบิด โชคดีที่ออฟรอดชีวิตมาได้ ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งในร่างกาย แต่ใจยังคงสู้
16 มกราคม 2554
ปีนี้ เหล่านักรบแดนใต้ทั้งสามคนและพี่น้องร่วมสนามรบด้วยกันอีกหลายนาย ร่วมกันจัดปาร์ตี้เล็กๆ บนดาดฟ้าของโรงพยาบาลพระมงกุฏ เพื่อฉลองวันเกิดให้กับ พลทหารต่วนอัมรัน กูโซ๊ะ ที่มีอายุครบ 25 ปีพอดี
แม้สภาพร่างกายของแต่ละคนไ่ม่เต็มร้อย แต่จิตใจของทุกคนเกินร้อยเสมอ
ปาร์ตี้เล็กๆ ครั้งนี้มีผู้กองอุ้ยเป็นผู้ก่อการความสุขในครั้งนี้ ผู้กองออฟและสหายนักรบเป็นผู้ร่วมขบวนการ
บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย สุกี้หม้อเล็กๆ ที่บรรเทาอาการหนาว และคลายปวดกระดูก
เคเอฟซีถังใหญ่สำหรับต่วน
น้ำอัดลมไม่กี่ขวดที่เอาไว้ชนแก้วพอเป็นพิธี
เสียงเพลงเพราะๆ จากผู้กองอุ้ย และผู้กองออฟ ที่สร้างความสนุกสนาน
พวกเราเป่าเค้กกันแบบเรียบง่าย ต่วนอธิษฐานว่า "ขอให้ชีวิตอย่าได้เจออะไรแย่ๆ อีก"
ผู้กองอุ้ยบอกกับต่วนว่า "ชีวิตมันคงไม่มีอะไรแย่กว่าที่ผ่านมาอีกแล้ว"
ระหว่างที่บทเพลงขับกล่อมอยู่นั้น ผู้กองอุ้ยหันไปบอกต่วนว่า
"จำไว้นะ คนเราต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า"
ฉันรู้สึกดีมากเหลือเกินที่มีโอกาสดีดีในชีวิตได้รู้จักเหล่านักรบเหล่านี้
มันทำให้รู้ว่าคนเราในหนึ่งชีวิตสามารถทวีคุณค่าให้ตัวเองได้อย่างไร
ถึงแม้เราจะล้ม แต่เราต้องลุกขึ้นสู้ใหม่
ถึงแม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ แต่ใจของเราเติมเต็มเสมอ
พวกเขาเกิดมาเพื่อเป็นทหารปกป้องผืนแ่ผ่นดินไทย
แล้วพวกเราที่อยู่ใต้ร่มธงไทย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนแผ่นดินขวานไทยแห่งนี้
พวกเราใช้ชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าแล้วหรือยัง? . . .
อย่างน้อยคืนนี้ฉันก็ได้รู้ว่า ทหารเหล่านี้ไม่ใช่ผู้พิการ
โจรก่อการร้ายต่างหากที่พิการ, พิการทางใจอย่างแสนสาหัส
และทหารหาญเหล่านี้ของคนไทย คือ ชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่ควรได้รับการยกย่องตลอดไป
สองนักรบร่วมรุ่น อุ้ยยังยกนิ้วท่าเดียวกับวันแรกที่โดนระเบิดเสมอ
ปล. ปัจจุบัน
- พลทหารต่วนอัมรัน กูโซ๊ะ ยังคงรักษาตัวที่ ร.พ. พระมงกุฏ ถูกตัดขาทั้งสองข้างรอทำขาเทียม
- ร้อยโท.พงศกร ทัพพิกรณ์ ได้เลื่อนยศเป็น ร้อยเอก. ได้รับการใส่ขาเทียมแล้ว และจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยทหารม้าจังหวัดเพชรบูรณ์ในสิ้นเดือนนี้
- ร้อยโท. สุรเชษฐ์ ดีเอื้อ ได้เลื่อนยศเป็น ร้อยเอก. และยังคงพักรักษาตัวที่ ร.พ. พระมงกุฏต่อไป และยังคงอยากกลับไปปฏิบัติหน้าทีี่่่ที่ใต้อยู่เสมอ
ร่วมเป็นกำลังใจให้ทหารหาญได้จาก Facebook พวกเขาที่
สุนสันต์วันเกิดต่วนอีกครั้ง ขอให้มีกำลังใจต่อสู้ชีวิตในทุกวัน
และขอเป็นกำลังใจให้ทหารหาญของไทยทุกนาย
- สงสารสาวจันทร์, nokisara, คนทุกที่ and 18 others like this