galaxy2

คนชั่ว มีได้ทุกสาขาอาชีพ และทุกวงการ

 

จะเรียนสูงหรือต่ำ จะจนหรือรวย ก็ชั่วได้หมด

 

เพราะ ชั่วมันอยู่ที่ใจ

 

อย่าไปให้ราคาพวกมันเลย

 

น่าสมเพชมันมากกว่า

 

ที่แก่จนจะเข้าโลงแล้ว ยังมิรู้สำนึก

 

วันที่พะงาบๆ จิตจะออกจากร่าง

 

แล้วย้อนกลับมาคิดว่า ที่อุตสาห์ทำกรรมชั่วมา

 

จนร่ำรวย มียศตำแหน่ง สุดท้ายมันก็ว่างเปล่า ไม่เป็นแก่นสารอะไร

 

และถึงตอนนั้น อกุศลกรรมที่เคยทำ

 

จะบันดาลให้ตนเองคิดถึงกรรมชั่วที่เคยทำมาแล้วในอดีต

 

จะปรากฎนิมิตรถึงภพภูมิที่จะไป เช่นไฟนรก

 

แต่เมื่อถึงเวลานั้น มันสำนึกเสียใจก็สายไปเสียแล้ว

พันเอก นายแพทย์วิภู กำเนิดดี กับการไปนอนข้างถนน

Social Talk

พันเอก นายแพทย์วิภู กำเนิดดี นักร้องยอดเยี่ยมสยามกลการ พ.ศ.2536
ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์นิดหน่อยนะครับ

 

ผมตัดสินใจไปนอนค้างที่รัฐสภาเมื่อคืน เพราะดูสถานการณ์แล้ว เมื่อวานเป็นวันที่มวลชนมีผลทางจิตวิทยามากที่สุดต่อการทำงานของวุฒิสมาชิก และวุฒิสมาชิกคือความหวังของเรา

ผมเลือกทำเลตรงสามแยกถนนอู่ทอง ผมปูผ้าพลาสติก เอาฟ้อกกี้มาฉีดหน้าเพื่อดับความร้อน เอาสเปรย์ตะไคร้หอมมาฉีดกันยุง แล้วก็นอนหนุนเป้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ ผมนอนดูมวลชนเดินผ่านไปมา บางคนเดินผ่านผมแล้วยกนิ้วโป้งให้ น้องผู้ชายท่าทางโหดๆ 2 คน เดินมาขอนอนบริเวณใกล้ๆ
“พี่นอนนี่เหรอ?”
“ครับ”
“งั้นผมอยู่ด้วย นอนบนพื้นปูนมันร้อน”
ผมนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงตอนที่ยังร้องเพลงถวายสมเด็จพระนางเจ้า ผมมักจะมาที่พระที่นั่งวิมานเมฆเป็นประจำ ใส่สูทหรู ชีวิตหรูหรา วันนี้ผมกลับได้มานอนเฝ้ารัฐสภาอยู่ข้างถนนนี่เอง

แต่ผมรู้สึกภูมิใจและมีความสุข

 

ผมหลับๆตื่นๆ จนมีเสียงประกาศจากแกนนำว่า วุฒิสมาชิกปิดการประชุมแล้ว จนถึงพรุ่งนี้บ่ายครึ่ง ดังนั้นให้ทุกคนกลับไปนอนที่กองทัพธรรมหรือ คปท. ดีกว่า เพราะมีหลังคากันฝน

ผมลุกเดินตามมวลชนกลับไปราชดำเนิน รถบรรทุกเปิดเพลงมาร์ชอย่างคึกคัก มวลชนเดินกลับราชดำเนินด้วยอารมณ์แจ่มใส มีคุณป้าเต้นตามจังหวะเพลง คุณลุงคุณป้าเขย่ามือตบ ถึงตอนนี้เองที่ผมเห็นว่ามีคนที่ตัดสินใจนอนรอบรัฐสภาอยู่ราวๆพันกว่าคน

พวกเขาเป็นใครกันบ้าง?

 

มีหมดครับ คุณลุงคุณป้า คนหนุ่มสาว บางคนดูมีฐานะ ผมเดาว่าพวกเขาคงเป็นผลผลิตจากเหตุการณ์ตุลา 2516 ผู้คนมาจากต่างที่ต่างถิ่น ทั้งรวยและจน แต่มารวมกันอยู่ที่นี่ บนพื้นถนน ไม่มีอารมณ์โกรธเกลียดหรือเคียดแค้นใดๆ ทุกคนดูมั่นคง ดูมีสติและตระหนักดีว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ ผมบอกได้เลยว่าคุณไม่สามารถเอาแก๊ซน้ำตามาไล่พวกเขาได้ เพราะพวกเขาจะสู้ ไม่มีใครกลัว ต่อให้คุณเอาระเบิดมายิงใส่ เขาก็จะช่วยกันส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาล และคนที่เหลือก็จะสู้ต่อ

 

มีคนบอกว่า ในอดีตชาติพวกเขาเหล่านี้เคยเป็นทหารออกรบเพื่อรักษาชาติบ้านเมืองมาก่อน ผมเริ่มรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นไปได้ เพราะเท่าที่ผมเห็น คนเหล่านี้หวงแหนแผ่นดิน ให้นอนริมถนนพวกเขาก็ทำอย่างไม่ลังเล พวกเขากล้าหาญ มั่นคงและยิ่งใหญ่ ผมว่าหัวใจของพวกเขาทำด้วยเพชร

ผมเดินผ่านพระที่นั่งอนันตสมาคม ที่ๆผมเคยมาฟังคอนเสริตเปียโนคลาสสิก วันนั้นผมใส่ชุดทักซิโดติดเข็มกลัดหรู วันนี้ผมเดินเลาะรั้วอยู่ด้านนอก มองดูอาคารหินอ่อนที่ถูกสาดด้วยแสงไฟอย่างสง่างาม

ผมรู้สึกหวงแหน

บ้านเมืองของผมควรจะดีกว่านี้
และผมเชื่อว่าเราเปลี่ยนมันได้ ถ้าเราเชื่อพร้อมๆกัน และช่วยกันเปลี่ยนมันด้วยมือของเราเอง

ผมเดินเข้าไปในเขตของพี่น้องกองทัพธรรม มีคนนอนอยู่ในนั้นหลายพันคน นอนบนพื้นถนน ผมหาที่ว่างเล็กๆเพื่อปูแผ่นพลาสติกของผม นอนฟังดนตรีซึ่งร้องเป็นภาษาอะไรผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นที่บ้านผมคงกดรีโมทเพื่อเปลี่ยนช่องไปแล้ว แต่คืนนี้ผมกลับรู้สึกว่ามันไพเราะ ดนตรีใสๆซื่อๆออกมาจากหัวใจ คงเป็นหัวใจของคุณที่มีให้เรานั่นเอง ที่ทำให้เพลงมันเพราะขึ้นได้อย่างประหลาด

ลมพัดโชยมาบ้างเป็นครั้งคราว ถ้าคืนนี้ฝนตกผมคงไม่เปียกมากนักเพราะมีหลังคาแล้ว ผมหลับลึกอย่างง่ายดาย และนอนหลับฝันดี

บนพื้นถนนราชดำเนินนี้เอง

http://chaoprayanews...ายแพทย์วิภู-กำ/

 

 

https://www.facebook...?type=1

 

ชัยชนะ ใกล้เข้ามาแล้วครับ...  

 

ภราดรนี่มันเลียจนได้ดีจริงๆ  หลังจากถูกกฎหมายบีบให้ต้องออกจากเลขาสมช. เพื่อรับท่านถวิลกลับเข้ามา ตัวเองเลยต้องย้ายไปตำแหน่งที่ปรึกษา

แต่เส้นมันแข็งโป๊ก หวยไปตกที่ท่านปลัดกระทรวงยุติธรรม ถูกย้ายฟ้าผ่าไปแทนตำแหน่งภราดร

 

 

บ้านนี้เมืองนี้เราจะปลุกข้าราชการมาสู้กับนักการเมืองชั่วได้อย่างไร ในเมื่ออำนาจไปตกอยู่น้ำมือคน HEAR²

 

http://www.manager.c...D=9570000050269

ย้าย 3 เส้า-เด้ง “ปลัดกิตติพงษ์” ตอบแทน 2 ขี้ข้า“ภราดร-ธงทอง”เย้ยกฎหมายท้าทายอำนาจ“กกต.”

 

  
       มติ ครม.วันที่ 6 พ.ค.57 ย้ายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปนั่งตบยุงในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แทน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่รับใช้ได้ดีเป็นขี้ข้าแล้วมีตำแหน่ง รองรับขยับก้นไปเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
       
       ขณะเดียวกัน โยก ธงทอง จันทรางศุ จากปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมแทน กิตติพงษ์
       
       ถือเป็นเรื่อง “สามเส้า” อีกครั้งในแวดวงราชการภายใต้การครอบงำของระบอบทักษิณ ที่ไม่เพียงไร้สำนึกแต่ยังลุแก่อำนาจอย่างไม่รู้จบ กล้ากระทำการตามอำเภอใจ โดยไม่สนว่า ครม.รักษาการนั้นมีอำนาจจำกัดตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้
       
       แต่ข้อดีจากเหตุการณ์นี้คือ น่าจะทำให้คนที่สนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทยได้รู้เช่นเห็นชาติถึงสันดานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า ไม่เคยเห็นหัวประชาชน ไม่สนความเดือดร้อนของชาวบ้าน หากพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจ ส่งลิ่วล้อไปนั่งในตำแหน่งสำคัญ
       
       เพื่อเป็นมือเป็นไม้คอยทำชั่วตาม “ใบสั่ง”
       
       ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พิจารณาการขยับราคาแก๊สหุงต้มที่เริ่มมีราคาทิ้งห่างจากภาคขนส่ง แต่รัฐบาลอ้างว่าไม่มีอำนาจที่จะทำได้ เพราะอยู่ในช่วงรักษาการต้องรอ ครม.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นการขยับราคาแก๊สหุงต้มก็จะเต็มเพดานที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำหนดไว้พอดิบพอดี
       
       หากการเลือกตั้งสามารถเดินหน้าได้ตามที่กำหนดไว้ในวันที่ 20 ก.ค.57 คือราวเดือนกันยายน 57 เพราะตามแผนของรัฐบาลคือขยับราคาเดือนละห้าสิบสตางค์เป็นเวลา 12 เดือน เริ่มตั้งแต่ ก.ย.56 - ก.ย.57
       
       ภาระชาวบ้านไม่สนใจ ปัญหาคนจนไม่เหลียวแล อ้างว่าไม่มีอำนาจแล้วเอาความเดือดร้อนนั้นกลับมาข่มขู่ประชาชนด้วยว่า ถ้าอยากให้แก้ปัญหาให้ก็ต้องไปเลือกตั้ง
       
       แต่พอมาถึงเรื่องของ “ขี้ข้าดีเด่น” ที่ทั้งชีวิตราชการไม่เคยปรากฏผลงานรับใช้แผ่นดิน นอกจากพฤติกรรมรับใช้แบบสุดลิ่มทิ่มประตู กระทั่งทำให้จากข้าราชการทหารมาเป็นเลขา สมช.และเมื่อต้องกระเด็นไปเป็นที่ปรึกษานายกฯเพราะต้องคืนตำแหน่งให้เจ้าของเดิมคือ ถวิล เปลี่ยนศรี ที่ถูกโยกย้ายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งผลกรรมกำลังไล่ล่าให้ ยิ่งลักษณ์ ต้องพ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีจากการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในเร็ววันนี้
       
       ดูเหมือนว่า ยิ่งลักษณ์ จะไม่ได้สำนึก เพราะยังลุแก่อำนาจโยกย้ายข้าราชการตามอำเภอใจ ดันภราดร ขึ้นเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จนแจ๊กพ็อตไปตกที่ กิตติพงษ์ ที่ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมว่างลง ให้ ธงทอง ไปนั่งแทน ตามความปรารถนาที่มีมาหลายปีดีดัก
       
       การย้าย “สามเส้า” ครั้งนี้ แม้จะมีการอ้างว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะ กิตติพงษ์ อยู่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม มีการต่อวาระมา 6 ปีแล้ว จึงเป็นการโยกย้ายตามปกติ และเจ้าตัวก็ไม่ติดใจเรื่องนี้ เพราะไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งเดิมได้อีก
       
       หากการโยกย้ายครั้งนี้ ไม่มีความก้าวหน้าของ ภราดร เข้ามาเกี่ยวข้องก็คงพอกล้อมแกล้มอธิบายอย่างนี้ได้ เพราะ ชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม เคยหลุดปากมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ตอนที่ กิตติพงษ์ เปิดห้องต้อนรับ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขา กปปส.ที่กระทรวงยุติธรรมแล้วว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม แต่ไม่เป็นไรเพราะครบวาระอยู่แล้ว
       
       โดยเมื่อตรวจสอบการต่ออายุในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมของ กิตติพงษ์ ก็พบว่าเพิ่งครบในวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
       
       ในขณะที่ ภราดร เพิ่งถูกเด้งจาก เลขา สมช.อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 เม.ย.57 หลังมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ ถวิล กลับไปดำรงตำแหน่ง เลขา สมช. เท่ากับว่า ภราดรไปนั่งตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็ส้มหล่นใส่ตีนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่ใหญ่กว่าคือ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
       
       โดยมีตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมของกิตติพงษ์ มาช่วยให้การขยับขยายเป็นไปได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นพอดี
       
       นับว่าชีวิตราชการของ ภราดร ไม่ธรรมดา เพราะตำแหน่งเลขา สมช.ที่เขาเคยเป็นก็ได้มาจากการวางตัวไว้แต่ต้น มีการย้าย สมเกียรติ บุญชู จากรองเลขา สมช.ไปเป็นที่ปรึกษานายกเปิดทางให้ ภราดร เสียบแทนและอยู่ในตำแหน่งนี้เพียงแค่ 4 เดือนก็ขึ้นแท่นเป็นเลขา สมช. แทน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ได้รับการตบรางวัลจากการเป็นเด็กดีให้ไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม
       
       คนที่น่าจะผิดหวังที่สุดเห็นจะไม่พ้น พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง เลขา ศอ.บต.ที่เล็งตำแหน่งปลัดยุติธรรมมานาน สุดท้ายก็พลาด เพราะคนเคยรู้ใจไม่ใหญ่จริงเป็นแค่ตุ๊กตาเสียกบาลที่ถูกชักเชิดตามใจของนักโทษเท่านั้น
       
       งานนี้ จึงถือว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ ยิ่งลักษณ์ ต้องอยู่ในสภาพสนองตัณหาของพี่ชายที่ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ในทางกฎหมาย แต่คนที่เสี่ยงคุกทุกวันก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
       
       ที่สำคัญคือยังไม่แน่ว่า การโยกย้ายครั้งนี้จะเรียบร้อยโรงเรียนดูไบ ดังที่หวังหรือไม่ เพราะด่านต่อไปที่จะต้องผ่านคือ หลัง ครม.มีมติแล้วจะต้องเสนอไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ ก.ก.ต.เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
       
       หาก ก.ก.ต.ไม่อนุมัติ ก็ต้องกินแห้วกันไปทั้งนายทั้งบ่าว
       
       เหมือนที่เพิ่งกินแห้วไม่สามารถออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง 20 ก.ค.57 ได้ เนื่องจาก ก.ก.ต.ยังไม่เสนอร่างให้ครม.พิจารณาในวันที่ 6 พ.ค.ได้ตามที่วางแผนไว้ เพื่อให้ทันก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานภาพของยิ่งลักษณ์ เพราะศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 พ.ค.นี้แล้ว
       
       ผลจากคำวินิจฉัยไม่ได้กระทบเฉพาะตำแหน่งของยิ่งลักษณ์เท่านั้น แต่ยังสะเทือนไปถึงการกำหนดวันเลือกตั้งด้วยว่า จะสามารถออกพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งได้หรือไม่ เพราะสถานะของ ครม.รักษาการจะถูกตั้งคำถามว่าสามารถทำได้หรือไม่
       
       เมื่อกงล้อแห่งกรรมเวียนมาบรรจบ ความบรรลัยก็เริ่มปรากฏให้คนทำกรรมชั่วได้เห็นชัดเจนมากขึ้น

แหม ผิดงานแล้วป้า ป้าไม่รู้ซะแล้วว่าเค้าดูแลเฉพาะ คนที่ฝักใฝ่ กปปส และ พี่มาร์ค เท่านั้น ป้าเป็นแค่แม่นายทหารคนนึง ป้าต้องให้ลูกป้าไปไล่ยิงคนเสื้อแดง แล้วนักสิทธิมนุษยชนจะสนใจป้านะ เค้าจะกลัวป้าโดนซ้อมจากตำรวจทันที ทำใจนะป้าลูกป้าโดนไล่บิงไล่กระทืบจากฝั่ง กปปส เรื่องนี้ แก่หน้าเหี่ยวว มันไม่ออกมาหรอก

 

นั่นซีหลายชีวิตของฝ่าย กปปส ที่สูญเสียไป

 

กรรมการสิทธิมนุษยชน หายไปไหน

มันอาจไม่ใช่เสธ. จริงๆ ก็ได้ เห็นกดไลค์เพจ ญาญ่า แอฟ เจมส์ จิฯ มาริโอ้...นายทหารปัญญาอ่อนอะไร จะมีเวลามาชื่นชม ติดตามดารา

คนธรรมดา มีชีวิตปกติอย่างเราๆ ท่านๆ เวลา+อารมณ์จะดูละครหลังข่าวยังไม่มีเลย ถึงบ้านก็หลับ จริงมั้ย?

 

เห็นเค้าว่า พวกโดนคดีหมิ่น-คดีข่มขืน เวลาเข้าคุกนี่โดนจัดหนัก จริงมั้ยครับ

 

จริงครับ เพือนผมคนหนึ่งเมือก่อนเคยไปก่อคดีข่มขืนอ่ะครับ

 

ติดคุก โดนคนในคุกอัดถั่วดำแทบทุกวัน 

 

คนคุกส่วนใหญ่จะเกลียดพวกคดีข่มขืน กะ พวกหมิ่นมาก ๆ ครับ

 

 

ถึงว่าทำไม อั้ม เนโกะ หงอกเจียม ใจ พวกนี้มันถึงพยายามหมิ่นกันนักหนา เพราะอย่างนี้นี่เอง 

ท่านเจ๋งเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง ของพวกเราเสื้อแดงครับ

คนจริง ทำจริง กล้าทำ กล้ารับ ไม่ขี้ขลาดหนีหางจุดตูดเอาตัวรอด

นี่ถ้าเป็นพวกสลิ่มสงสัยหนีหายไปแล้ว..

 

ว่าแต่..มันก็มีบางคนมันชอบอ้างตัวเป็นนักประชาธิปไตย

แต่พอทำผิด มันก็หาเรื่องหนีไปต่างประเทศ ไม่ยอมติดคุก หน้าด้านสุดๆ

มันพวกขี้ขลาดรวยแต่เงิน..ปากกล้าขาสั่น  หนีหางจุกตูด

เอาเศษเงินฟาดหัวสาวกโง่ๆ ปลุกระดมคนเผาบ้านเผาเมืองก็ทำ ให้บุกโรงพยาบาลก็ทำ

ชั่วแบบบูรณาการตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ยันปลายน้ำเลย (อยากให้ท่านนายกปูมาด่ามันจริงๆ)

คนแบบนี้มันนักประชาธิปไตยจอมปลอม มีแต่คนโง่ๆเท่านั้นที่จะไปเชื่อฟังมันครับท่านเจ๋ง

 

ท่านเจ๋ง ใช้ชีวิตในคุกให้สบายเถอะครับ ไม่ต้องห่วง

อยากได้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรเพิ่มเติมก็บอกได้

จัดให้ได้ครับ..

ศาลไม่มีหน้าที่ยุติความรุนแรง
ศอรส ก็ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินคดีหรืออำนวยความยุติธรรม
แค่กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแค่นี้ก็สงบแระ

เขาแค่ประชด ไม่น่าไปแจ้งความเลยนะ

 

 

QCไหมล่ะคุ๊ณณณณ

 

เค้าก็แค่แจ้งความประชดเท่านั้นเองครับ ไม่เห็นเป็นไรเลย

เสียงข้างน้อยมีความหมายเสมอครับ

 

การทำความเห็นแย้งให้เป็นหลักฐานบันทึกไว้จึงเหมาะสมถูกต้องทุกประการ

 

แต่โดยคำพิพากษา  ซึ่งถือเป็นที่สุด  ก็ต้องว่าไปตามนั้นครับ

 

 

และมีแต่เสียงข้างมากที่ไร้คุณภาพเท่านั้นแหละครับ  ที่ไม่รู้คุณค่าของเสียงข้างน้อย

 

ตอนที่คนแทบทั้งโลกเชื่อว่าโลกแบน  เสียงข้างน้อยเคยเชื่อว่าโลกกลม

 

ตอนที่คนไทยเราแห่เลือกพรรคการเมืองนึงให้เป็นเสียงข้างมาก  

 

มันก็ไม่ได้มีอะไรยืนยันเลยว่าการเลือกนั้นถูกต้อง

 

 

รัฐบาลทั่วโลกที่ทำผิดจนมีผู้คนออกมาประท้วงขับไล่

 

ก็ล้วนมาจากเสียงข้างมากทั้งนั้นแหละครับ

ทักษิณ ขายชาติจริงฮ่ะ

 

เสื้อแดงเผาบ้านเมืองจริงฮ่ะ

 

เสื้อแดงไม่ใช่พวกล้มเจ้าทุกคนฮ่ะ แต่ทุกคนที่ล้มเจ้ามันเป็นเสื้อแดงหมดฮ่ะ

 

แบ่งแยกจริงฮ่ะ พวกเสื้อแดงทั้งนั้นที่อยากแยกประเทศ    คนดีๆเค้าไม่เอาเค้าด่า ยังเอาปืน เอาระเบิดไปไล่ปาข่มขู่ฟ่อๆฮ่ะ

 

 

อ่อ  เสื้อแดงคือสิ่งที่ต่ำสุดในชีวิตคนละฮ่ะ  ผมมีเพื่อนสนิทมา 9ปีเป็นเสื้อแดง ผมเลิกคบโดยไม่ต้องคิดฮ่ะ ให้มันเลิกเป็นเสื้อแดงก็ไม่คิดจะคบฮ่ะ 

 

อ่อ2   ถ้าคิดว่าเสื้อแดงทำดีจริง แปะป้ายบอกว่ากรู  เสื้อแดง  ร้านกรูเสื้อแดง  แล้วเรามาดูกันว่าไอ้เสื้อแดงนี่มันดีจริงป่าวฮ่ะ  แต่ที่แน่ๆ  มันคือส่วนน้อยของประเทศไทยที่คอยถ่วงน้ำหนักของประเทศ  พูดง่ายๆหนักแผ่นดินชาติไทยฮ่ะ  ไม่รู้จะเกิดมาทำไม  ไอ้เสื้อแดง

ผมกลับมองว่า มันก็เยอะในรูปแบบที่มันควรจะเป็นแล้วล่ะครับ เขารวมกันได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีแล้ว เยอะแล้ว 

 

การเรียกรวมพลแล้วคนออกมาเยอะหรือน้อยในเวลาใดเวลาหนึ่ง ผมว่ามันไม่ใช่คำตอบทั้งหมดว่าตอนนี้เขาอยู่ในสภาพขึ้นหรือลง 

 

จำกันได้มั้ยครับว่าก่อนที่จะมีเรื่องนิรโทษกรรม ฝ่ายเราเองจุดยังงัยก็ไม่ติด เรียกรวมยังงัยคนก็ไม่เยอะ มากสุดก็แค่การชุมนุมหน้ากากขาวหน่อยนึงเท่านั้น

 

อยากให้ดูคนที่ไปเลือกตั้ง ว่าเลือกพรรคเพื่อไทย จำนวนเท่าไร นั่นล่ะครับน่าจะเป็นคำตอบที่ชัดที่สุดว่ามีคนเลือกทักสินอยู่เท่าใด (ผมให้อย่างมากสุดตอนนี้ไม่เกิน 8 ล้านคน) 

 

 

ไม่อยากให้ทับถมเยาะเย้ยกันจนเกินงาม เพราะนี่ไม่ใช่ฟุตบอลแดงเดือน แมนยู-ลิเวอร์พูล เราน่าจะโฟกัสกันลงไปว่าคนที่มานี่ เขามาเพราะเขาศรัทธาจริงๆ หรือเขารับเงินมาจริงๆ แยกแล้วมีจำนวนเท่าไร ถามผมนะ ถ้าผมจนแบบคนอีสาน สภาพที่เงินสามสี่ร้อยก็มีค่ามากๆ วันนึงมีคนบอกไปชุมนุมกับเสื้อแดงสิ เขามีเงินแจก นั่นคือเขาย่อมชอบและถือเป็นบุญคุณ ไม่คิดว่าผิดอะไร  คือตรรกะความคิดของคนพวกนี้กับพวกเรามันต่างกัน

 

เรารู้ๆกันอยู่ว่า คนที่เป็นเสื้อแดงเกือบทั้งหมดนั้น เป็นพวกขาดจิตสำนึกสาธารณะ เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ไม่ก็พวกโง่ดักดาน คิดอะไรเองไม่เป็น ไม่ชอบอ่านหนังสือ ขาดการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร หูเบา  

 

นั่นแสดงว่าคนกลุ่มนี้มีจำนวนถึง 8 ล้านคนในประเทศไทย จากจำนวนประชากร 65 ล้านคน มันไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลยนะครับ

 

เราต้องมองว่าอะไรที่ทำให้ปัญหานี้เกิดขึ้นมา การศึกษาไม่ใช่คำตอบ เพราะมีคนมากมายที่ระดับการศึกษาเป็นถึงด๊อกเตอร์ แต่ก็ยังมีความคิดฝังหัวนิยมพวกชินวัตร ดังนั้นมันต้องเป็นอย่างอื่นแล้วครับ ที่เป็นรากเหง้าของปัญหา

 

ส่วนตัวผมก็ยังคิดว่าการชุมนุมของเสื้อแดงนั้น มีโอกาสที่จะจุดติด เหมือนที่เราจุดติดจาก พรบ.นิรโทษกรรม  แต่มันยังรอเหตุปัจจัยที่จะระเบิดออกมา ซึ่งผมมองว่ามีโอกาส แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ แม้จะมีเรื่องปฏิวัติก็ตาม คนเสื้อแดงก็ไม่ออกมาเยอะหรอกครับ

 

สันดอนของคนกลุ่มนี้นั้นขี้ขลาดตาขาว ถ้าหากรู้ว่าออกมาแล้วมีโอกาสที่จะถูกจับ หรือถูกปราบ คนพวกนี้ไม่ออกมาเยอะหรอก เพราะมีพวกยึดมั่นอุดมการณ์จริงๆไม่กี่พัน แต่ถ้าออกมาแล้วรู้สึกว่าชนะแน่ ออกมาแล้วได้เปรียบ พวกนี้ถึงจะออกมาครับ 

 

ผมไม่พูดถึงเรื่องแจกเงินนะ อันนี้มันเป็นอีกปัจจัยหนึ่งอยู่แล้วที่จะทำให้คนพวกนี้ออกมา แต่บางทีแจกเงินอย่างเดียวเขาก็ไม่ออก ต้องมีปัจจัยอื่นประกอบด้วย

 

ก็ลองคิดว่าถ้ามีคนมาแจกเงินแต่แรกเลย 2000 ให้ไปนั่งฟัง 4-5 ชั่วโมง คนพวกนี้ทำไมเขาจะไม่ไป แต่ถ้าไปแล้วรู้ว่าให้กรูไปตาย ไปรับลูกกระสุน เป็นผมก็ไม่ไปหรอก แต่ถ้าไปแล้วรู้สึกว่าปลอดภัย ไปแล้วมีคนไปร่วมเยอะ เราไม่เป็นคนส่วนน้อยนี่ ไปแน่ๆ

 

ผมคิดในมุมของพวกเรานี่ล่ะ ตอนก่อนมีนิรโทษกรรม ทำไมถึงจุดไม่ติด คนไม่ออกมา เพราะกระแสมันกระจัดกระจาย ความผิดของรัฐบาลมันจับต้องไม่ได้เต็มที่ แล้วก็กลัวกันว่า ไปแล้วคนจะออกมาเยอะมั้ย ที่สำคัญ ก่อนที่กำนันสุเทพจะรวมพลที่สามเสน ใครบ้างล่ะที่ออกมาเป็นผู้นำ ตอนหน้ากากขาวนี่ไม่มี ก่อนนันก็มีเสธอ้าย กับ ลุงปรีชา ซึ่งผมว่าพวกทหารแก่นี่ ไม่เหมาะจะมานำม๊อบหรอก จะมีพอเข้าท่าก็ตอนทนายนกเขา แยกกลุ่มจากลุงปรีชามารวมพลที่อุรุพงษ์นั่นแหละ

 

ในขณะที่เสื้อแดง แกนนำล้วนหมาไม่รับประทานทั้งนั้น หมดราคาแล้ว หาคนแบบกำนันสุเทพไม่ได้เลย มีอย่างเดียว ทักสินต้องกลับมานำมวลชนเองนั่นแหละ 

 

ก็มีความเป็นไปได้หน่อยนะเสื้อแดง

ถ้าจะจัดฉากคราวหน้าถ้าจะให้เนียน 3 นัด เข้าที่หัว 3 นัดหลัง มาซ้ำที่เดิม

จะเนียนกว่านี้นะ ต้องมีคนเสียสละมันจะได้เนียนหน่อยไง  5555

เป็นกรณีที่ยื่นถอดถอนได้นะครับ

 

แต่คงต้องใช้เสียงของประชาชน 20,000 คนยื่นผ่านประธานวุฒิสภา 

 

ซึ่งผมเข้าใจว่าคงต้องเป็นสภาใหม่ที่กำลังจะเลือกตั้ง

 

ผ่านวุฒิแล้วก็ให้ ปปช.ไต่สวนครับ

 

หากหลักฐานไม่พอก็คงจบตั้งแต่ประธานวุฒิฯรับเรื่อง 

 

ไปไม่ถึงชั้น ปปช.ไต่สวนด้วยซ้ำ

 

 

สังคมไทยเราใช้ระบบกล่าวหา  คือใครก็กล่าวหาได้  

 

แต่ในชั้นสอบสวน-ตัดสินก็พิสูจน์ความถูก-ผิดกันตรงนั้นครับ

 

ไม่ใช่ฟ้องก็เฮ  กล่าวหาก็เฮ

 

แต่พอแพ้บอกไม่ยุติธรรม

 

ซึ่งอันที่จริงฝ่ายไหนแพ้คดีบ่อยๆ

 

น่าจะมีปัญหาในเรื่องทำผิดกฎหมายเพราะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลนะครับ

อดีต ส.ส พรรคเพื่อไทย รวมตัว ยื่นหลักฐาน คำร้อง ถอดถอน ตุลาการ ทั้ง 6 คนที่ส่อเค้า
ตัดสินคดีไม่เป็นธรรมอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่สมัย นาย สมัคร สุนทรเวช
และ ยื่นฟ้องถอดถอน นาย สมชัย ... ที่ ปฎิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลางอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ บรรดาอดีต ส.ส ได้ยื่นเอกสารพร้อม ล่ารายชื่อ ประชาชน กว่าสองหมื่นรายชื่อประกอบคำพิจรณาแล้ว
........แหม ทำไปได้ ใครๆก็รู้ว่า ท่านๆทั้งหลาย ออกจะ ซื่อตรง เที่ยงธรรม ไม่คตโกง เหมาะที่จะกุมชะตาประเทศ อิอิ ผมว่าถ้าล่ารายชื่อจริงๆ กลัวจะได้หลายล้าน ฮ่าๆๆ

จขกท.รู้เรื่องอะไร บ้าง เช่น ใช้มาตราไหน ในการถอดถอน ต้องไปยื่นถอดถอนกับใคร ด้วยข้อหาอะไร อธิบายด้วย ว่ารู้เรื่อง