Find content
ไม่ระบุ
นายกฯตระกูลชินวัตร
เสมอต้น : หนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ - อิสรภาพแห่งความคิด
เป็นเรื่องผิดปกติของประเทศชาติบ้านเมือง ที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และมีประชากรจำนวนมากกว่า 60 ล้านคน
แต่พบว่าตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา เราท่านทั้งหลายกลับได้ผู้นำประเทศในฐานะ “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งมาจากคนของตระกูลเดียวถึง 3 คน และอีก 1 คนซึ่งเป็นนอมินีของตระกูล
กลไกตามรัฐธรรมนูญที่ต้องการสกัดกั้นไม่ให้เกิดการ “เสพติดอำนาจ” ด้วยการกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีห้ามติดต่อกัน 8 ปี ถูกทำให้เป็นง่อยลงโดยสิ้นเชิง
“ทักษิณ” ถูกทหารรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อปี 2549 หันมาใช้บริการ “นอมินีหมัก” แทน หลังนอมินีสิ้นสภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีตามคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ก็เลือกเอา “น้องเขย” มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน
ทั้งๆ ที่แทบจะไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง หรือฝีไม้ลายมือเชี่ยวชาญในงานบริหารเป็นที่ประจักษ์ มากกว่าความเชี่ยวชาญด้านการพาหญิงสาวรุ่นราวคราวลูกเที่ยวช็อปปิ้งหาซื้อตู้เย็น
หมดยุค “น้องเขย” ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ก็หันไปเลือกเอา “น้องสาว” ของตัวเองมาเป็นนายกรัฐมนตรีผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย ถึงแม้เธอจะถนัดเฉพาะเรื่อง “เสื้อผ้าหน้าผม” หรือถามช้างตอบม้า ไปไหนมาสามวาสองศอก ก็ตามที
แต่จะไปโทษอะไรใครได้มากกว่านี้เล่า ในเมื่อหลับหูหลับตาไปเลือกเขามากับมือ ด้วยเพราะหลงใหลได้ปลื้มมาตั้งแต่ “คิดใหม่ ทำใหม่” หว่านนโยบายประชานิยม มีเงินล้านลงสู่หมู่บ้านให้ได้ใช้กันมือเติบ กู้หนี้ยืมสินมาก่อนหน้าก็ได้พักชำระหนี้ แถมยังมีบ้านเอื้ออาทรให้ได้ซุกหัวนอนอีกต่างหาก
แม้จะเป็นผู้นำประเทศเยี่ยงเผด็จการ ที่ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับพี่น้องชาวมุสลิมในเหตุการณ์กรือเซะ-ตากใบตายกว่า 100 ศพ และคนไทยอีก 2,500 ศพที่ต้องสังเวยไปกับนโยบายปราบปรามยาเสพติด โดยไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ตาม
หรือจะมีผลประโยชน์ส่วนรวมทับซ้อนกับผลประโยชน์ครอบครัว ขายหุ้นหลายหมื่นล้านบาทโดยไม่เสียภาษีสักแดงเดียว แทรกแซงองค์กรอิสระ ควบคุม-คุกคามสื่อ อยู่เหนือกลไกการตรวจสอบถ่วงดุลตามระบบรัฐสภาแค่ไหนอย่างไรก็ตาม แต่ก็ยังดาหน้ากันออกมาปกป้องยกย่องกันราวกับเป็น “เทพเจ้าองค์ใหม่” ลงมาโปรดสัตว์ในโลกมนุษย์ ยังไงยังงั้น
ครั้นถูกยึดอำนาจ กลายเป็นนักโทษหนีคุกหนีคดี ก็พากันแซ่ซ้องสรรเสริญว่าเป็น “วีรบุรุษนักสู้เพื่อประชาธิปไตย” ไปโน่น
หนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ต่างประเทศ สมคบคิดกับสมุนบริหาร ปลุกปั่นผู้คนให้ออกมาชุมนุมประท้วงโค่นล้มรัฐบาล อุปโลกน์ว่าตัวเป็นไพร่ ท้าตีท้าต่อยอำมาตย์ นำไปสู่เหตุความวุ่นวายในบ้านเมือง ก่อเหตุเผาบ้านเผาเมืองไฟลุกท่วมกรุง และมีการฆ่ากันตายร่วมร้อยศพ บาดเจ็บอีกเป็นเบือ
สิ้นเสียงปืน เปลวเพลิงมอดดับ กลับมาอีกครั้งจากเดิม “คิดใหม่ ทำใหม่” กลายมาเป็น “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ให้สมุนบริวารและน้องสาวนำไปเป็นสโลแกนหาเสียงเลือกตั้งปี 2554
“ดิฉันจะไม่แก้แค้นแต่จะแก้ไข”, “ดิฉันจะไม่ผลักดันให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ให้คนใดคนหนึ่ง” สารพัดจะรับปากต่อประชาชนคนทั้งประเทศ
แต่ออกลายทันที หลังชนะเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี สั่งย้ายข้าราชการที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ให้กับระบอบทักษิณ เด้งไปเก็บกรุไม่ให้ได้ผุดได้เกิดในตำแหน่งหน้าที่การงาน ดึงเอากลุ่มแก๊งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาบ้านเผาเมืองมาเป็นเสนาบดี มีตำแหน่งแห่งหนในรัฐบาลกันทั่วหน้า
ทั้งไฟเขียวให้ท้ายมวลชนเสื้อแดงที่สนับสนุนตัวเอง ไล่ล่าฝ่ายตรงข้ามคุกคามการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน โดยมิได้ห้ามปรามแม้แต่น้อย
สมรู้ร่วมคิดกับสมุนบริวารในพรรคเพื่อไทย ลักหลับตอนตีสี่ผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับพี่ชายตัวเอง นำมาซึ่งการต่อต้านคัดค้านจนต้อง “ยุบสภา” ไปในที่สุด และทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายมาจนปัจจุบันนี้
ถามว่าเป็นเพราะใครกัน?
คราวนี้มาใหม่ชูสโลแกนสวยหรู “ยึดมั่นกติกา รักษาประชาธิปไตย” ถ่ายรูปยิ้มแป้นปากแดงแจ๋ ติดป้ายหาเสียงเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557
“ยึดมั่นกติกา” กลับไม่ยอมรับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ โจมตีว่า "สองมาตรฐาน" หากมีคำวินิจฉัยตัดสินออกมาฝ่ายตัวเองไม่ได้ประโยชน์
“รักษาประชาธิปไตย” กลับไฟเขียวให้ท้ายมวลชนของตัวเอง ไล่ล่าคุกคามฝ่ายตรงข้าม ที่ออกมาชุมนุมใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
ชัดแจ้งในเจตนาและพฤติกรรมขนาดนี้ ถ้ามีเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แล้วยังหลับหูหลับตาเลือกให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ก็แล้วแต่สิทธิ์และความพึงพอใจของแต่ละคน จะห้ามปรามกันได้อย่างไร
เอาเป็นว่า หลังจากพ้น "ยุคน้องสาว" เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว คงถึงคิว “ยุคลูกชาย” ก็หลับหูหลับตาพากันไปเลือก “โอ๊คซุกโพยตอบ” มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของตระกูลชินวัตร ก็แล้วกัน!.
chataree
เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 เมษายน 2556ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2557 23:14
#956205 ที่ราชดำเนินมีคนตั้งกระทู้ เยาะเย้ยชาว เสรีไทย
โดย
on 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 08:55
#934289 ป๋มลู้แย้วว่า "ทำไมพวกเสื้อเหลืองแป๊ะลิ้มถึงอยากให้ ปชป. ลาออก"
โดย
on 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 17:04
จขกท ก็เก่งแต่ปาก เก่งแต่สร้างความแตกแยก เวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาระแวงตำหนิแนวร่วมด้วยกัน
ยังดีนะที่กำนัน สุเทพ ไม่ได้ฟังเสียงนกเสียงกาพวกกองเชียร์ มิงั้นพาเจ๊งแน่
ขอร้องพวกกองเลียร์อนุรักษ์นิยมของ ปชป ถ้าไม่ช่วย จงหุบปากซะ (แบบที่กำนันเทพบอกกับคุณกรณ์)
ถ้าความคิดของคุณ eAT จะสร้างความแตกแยก
กระทู้นี้มีคนเห็น (เวลานี้) 201 คนครับ
แต่ไอ้สื่อ “บ่าง” ที่สร้างความแตกแยกอันนี้
ไม่รู้เห็นกันเท่าไหร่
ทำไมไม่บอกให้พวกมันหัดหุบปากกันเสียบ้างครับ
#934672 บอกให้ประชาชนยึดโน่นนั่นนี่ ช่วยสร้างความมั่นใจหน่อยว่าจะไม่รุนแรง
โดย
on 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:21
ผมว่า ลุงกำนัน และ แกนนำ ไม่ค่อยบอกรายละเอียดนะครับ ว่า
การยึดทำเนียบ นครบาล และ สตช. นั้น ทำอย่างไร ถึงจะไม่รุนแรง ให้ความมั่นใจประชาชนที่จะร่วมสู้กับท่านหน่อยว่า ประชาชนที่ไปกับท่านนั้นจะปลอดภัย
ผมขอความมั่นใจหน่อยครับ ว่าพรุ่งนี้เป้นต้นไป เราจะปลอดภัยกันทุกคน
เพราะถ้าต้องสละชีพ ผมจะได้เขียนพินัยกรรมและสั่งเสียคนที่บ้านไว้ให้เรียบร้อยครับ
ถ้าไม่มั่นใจ จะนอนอยู่บ้านลุงกำนันคงไม่ว่ามั่ง 
#933335 โปรดช่วยเสื้อแดง และ คนกลางกรวงหน่อย..ระบบทักษิณคืออะไร
โดย
on 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:00
ระบอบทักษิณ คือ การผูกขาดในการกำกับดูแลประเทศ เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยระบบทุนนิยมเต็มตัว ซึ่งคุณลักษณะที่สำคัญ 10 ประการของระบอบทักษิณมี ดังนี้
1. ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่เรียกกันว่าซีอีโอ โดยซีอีโอจะมีอำนาจสั่งการทุกอย่างได้ดั่งใจนึก เหล่าขันทีไร้สมองจะมีหน้าที่ทำตามสั่งเท่านั้น การดำเนินนโยบายแบบ “คุณพ่อรู้ดี” โดยไม่จำเป็นต้องรับฟังความเห็นจาก สื่อมวลชน และนักวิชาการ รวมทั้งประชาชนทุกคนซึ่งมีหน้าที่เพียงกาบัตรเลือกตั้งเท่านั้น
2. ปราศจากความรับผิดชอบ โครงการ “คิดเร็วทำเร็ว” ที่ถูกคิดค้นขึ้นจำนวนมาก และใช้ภาษีอากรของคนไทย และประชาชนคนไทย เป็น “หนูทดลอง” ทำ 10 เรื่อง ผิดพลาด 9 เรื่อง ก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ ก็ของมันผิดกันได้ ส่วนเรื่องไหนที่สำเร็จ ก็ตีปี๊บให้ดัง ๆ ให้พวกรากหญ้าได้รู้กันทั่ว
3. มอบปัญหาให้ศรีธนญชัยช่วยเคลียร์ ผลประโยชน์ของธุรกิจและบุคคลในครอบครัวหลายเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย ก็ยกให้นักกฎหมายศรีธนญชัยไปหาช่องโหว่ของกฎหมาย หรือกระทั่งแก้กฎหมายบ้านเมืองให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ
4. เฉลี่ยงบประมาณนิดหน่อยเพื่อพัฒนาคน คนฉลาดปกครองยาก คนโง่ปกครองง่ายกว่า จึงไม่จำเป็นต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินจำนวนมากเพื่อการศึกษา สู้ออกโทรทัศน์แจกเงินสด ๆ อย่างรายการเรียลลิตี้แก้จนที่อาจสามารถดีกว่า ได้คะแนนเสียงมาตั้งเยอะ อนึ่ง โปรดทราบสถาบัน IMD เพิ่งลดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยลงมาถึง 5 อันดับ และที่ตกต่ำมากสุดก็คือขีดความสามารถทางด้านการศึกษาของไทย
5. อุดมไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อประโยชน์สูงสุดของพวกเราชาวไทย (รักไทย?) จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดนโยบายประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของธุรกิจครอบครัวและพรรค (พวก) โดยการให้ผู้บริหารของธุรกิจครอบครัว ไปนั่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายของชาติ
6. ลดทอนอำนาจการตรวจสอบ จากสมการที่ว่า “การทุจริต = อำนาจรัฐ – การตรวจสอบ” การที่จะทำเงินให้ได้มากที่สุดจากธุรกิจการเมือง จึงจำเป็นต้องลดการตรวจสอบทั้งจากสำนักงาน ปปช. ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และวุฒิสภา รวมไปถึงคุกคามสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นกระจกเงาสะท้อนการทำงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้
7. มอบหน้าที่สำคัญให้พี่น้องตน ใช้ระบบอุปถัมภ์ ระบบพรรคพวก ไม่ว่าจะเป็น พี่ชาย น้องชาย น้องสาว น้องเขย รวมทั้งคนใกล้ชิดให้ได้รับตำแหน่งใหญ่โตคับบ้านเมือง ใครที่มีอุดมการณ์ความคิดต่าง ก็จะถูกลงโทษโดยการโยกย้ายไม่ได้รับการเลื่อนขั้นจนกระทั่งหมดอนาคตในระบบราชการไปเลย (You are either with us or against us!) การใช้สองมาตรฐาน (Double Standards) โดยใช้อำนาจทางกฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาดกับฝ่ายตรงกันข้าม แต่กลับปิดหูปิดตาไม่ดำเนินการใด ๆ หากเป็นพรรคพวกของตน
8. มอมเมาผู้คนให้หลงประชานิยม ผ่านโครงการเอื้ออาทรต่าง ๆ โดยใช้เงินงบประมาณของรัฐบาล แต่ประชาสัมพันธ์ว่าเป็นความช่วยเหลือจากพรรคการเมือง เพื่อให้ชาวรากหญ้าซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับนักการเมือง และต้องตอบแทนด้วยการลงคะแนนเลือกตั้ง
9. ปูพรมด้วยการตลาดและประชาสัมพันธ์ นโยบายด้านการตลาดที่ตื่นตาตื่นใจที่คัดลอกมาจากตำราของปรมาจารย์ด้านการตลาดและการจัดการ อาทิ ฟิลิป คอตเลอร์ และปีเตอร์ ดรักเกอร์ ถูกนำมาใช้เป็นนโยบายของพรรคการเมือง นอกจากนั้น การทุ่มงบประมาณแผ่นดินซึ่งเป็นเงินภาษีอากรของประชาชนนับหมื่นล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลที่ประสบความสำเร็จ ทั้งหมดก็เพื่อคะแนนเสียงของชาว “รากหญ้า” ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
10. หาเงินมาลงขันด้วยวิธีการแปลกใหม่ ใช้จ่ายเงินเยอะ ก็ต้องหาเงินมาเยอะ ทั้งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณโดยใช้นวัตกรรมทางการเงิน เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน กองทุนวายุภักษ์ เงินให้กู้ยืมเงินผ่านธนาคารของรัฐ หวยบนดินและหวยออนไลน์ ฯลฯ
- Lucy Van Pelt, Pasitnat, แอบดูที่รูเดิม and 2 others like this
#930753 ไอ้ตู่ เชื่อมึงมันจะดีเร้อ
โดย
on 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 01:22
มึงบอกม็อบไอ้เทือกมันจะน้อยลงเพราะต้องกลับบ้าน
เสื้อแดงเกี่ยวข้าวแล้วจะเข้ามาเยอะ
ดูซะมันกลับไปยึดศาลากลาง เสื้อแดงถูกไอ้เทือกหลอกเข้ามาโดนนตระลบหลังเลย
แกนนำรุ่นพี่ไรของมึง จะเรียกเสื้อแดงมาอีกมั้ย ใครจะเฝ้าศาลากลาง
ทำไมไอ้เทือกมันไม่เป็นแดงว้า
- Bookmarks, PHOENiiX, tonythebest and 3 others like this
โดย #908516 ชื่อรายการสินค้า อุปโภคบริโภคในเครือข่ายทักษิณ
โดย
on 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 08:47
เอาเท่าที่ตัวผมทำ คือ
ข่าวสด และ มติชน
สรยุทธ์
ร้านค้าทุกร้านที่เห็นว่าเป็นเสื้อแดง
ปั๊ม ปตท. นี่เลิกใช้เพราะไม่เกี่ยวกับใครถือหุ้น แต่เพราะมันไปลงโฆษณาใน หนังสือเสื้อแดง ทั้งๆที่หนังสือนั้นยอดขายไม่ดีเลย เห็นได้ชัดว่าทุจริตเชิงนโยบาย
ตอนนี้เพิ่ม อิชิตัน ให้อีก
AIS นี่เลิกใช้ลำบากเพราะแถวบ้าน Dtac สัญญาณไม่ดี แต่พยายามแก้โดยมี dtac อีกเครื่องเอาไว้โทร
กรณี อิชิตันนี่ ถ้าทุกคนร่วมใจกันจะเห็นผลได้เร็วสุดครับ เพราะเพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ มันจะเป็นข่าวได้ง่าย อย่างน้อยก็ทำให้เขาต้องออกแคมเปญลดราคามากู้ยอดขาย(ซึ่งน่าจะกู้ได้)ซึ่งทำให้กำไรน้อยลงก็ยังดีครับ
#908450 เลิกโทษคนอื่น และ เลิกหวังกับ สุเทพ เทือกสุบรรณได้แล้ว
โดย
on 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 02:32
โดยส่วนตัว พอม๊อบย้ายไปราชดำเนิน ก็กังวนเรื่องการเดินทางไปม๊อบ แต่ตอนนี้เริ่มคุ้นเคยแล้ว
จากวันแรกนั่งแท๊กซี่ตลอดทาง (กับเพื่อนสองคน ประมาณ 250 บาท)
วันที่สอง ไปเองคนเดียว แท๊กซี่ + รถไฟฟ้า + แท๊กซี่ (50+52+60 = 162 บาท)
วันที่สาม รถสองแถว + รถไฟฟ้า + เดิน (7+52 = 59 บาท)
วันที่สี่ และต่อๆไป ถ้าเปลี่ยนวิธีแล้วจะมาเขียนเล่าให้ฟังอีกครับ
ส่วนขากลับ รถเมล์ตลอดสาย+แท๊กซี่ (9+60 = 69 บาท)
ปล. วันนี้แขวนนกหวีดตั้งแต่ออกจากออฟฟิตไปเลยครับ
#908414 เลิกโทษคนอื่น และ เลิกหวังกับ สุเทพ เทือกสุบรรณได้แล้ว
โดย
on 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 00:43
โดย #908368 เลิกโทษคนอื่น และ เลิกหวังกับ สุเทพ เทือกสุบรรณได้แล้ว
โดย
on 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 23:41
ตอนนี้ ผมค่อนข้างก็มั่นใจแล้วล่ะว่า คุณสุเทพ ไม่ได้เดินเกมและทำม๊อบแบบไม่คิด ทุกอย่างมันเป็น Jigsaw ต่อเชื่อมถึงกันหมด
ตอนแรกผมก็งงว่า ทำไม คุณสุเทพ ถึงไปยื่นเงื่อนไข ให้เวลารัฐบาลในการจัดการ ร่าง พรบ. นิรโทษกรรม ให้หายไปจากสภา ในขณะที่ผมเสนอให้ สส. ชั่ว ทั้ง 310 คน นั้นลาออกจากตำแหน่ง หรือ ทำให้พวกมันหายไปจากสภาแทน
แต่วันนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม เพราะ คุณสุเทพ ต้องการสร้างหลักฐานที่ชัดเจนในการถอดถอน สส. เหล่านั้นผ่าน ปปช. หากจำวันที่ สส. รัฐบาล ขอถอนร่าง พรบ. หก ฉบับที่เหลือออกจากสภา แล้ว คุณอภิสิทธิ์ ถามหาเหตุผลว่าทำไมต้องถอดออกจาก สภา
ต้องยอมรับว่า การเดินทาง นอกสภาพร้อมกับการขั้นตอนในสภา นั้นสอดคล้องกันอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นการกำจัดรัฐบาลชั่วที่ถูกต้องด้วยหลักธรรมาภิบาลโดยแท้ เรียกว่า รัฐบาลแพ้ภัยตัวเอง
ผมคิดว่า คุณสุเทพและคณะ ก็ทำได้เท่าที่ทำได้แล้วครับ ที่เหลือจะชนะหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับ การตื่นรู้ของประชาชนว่า จะฉวยโอกาสที่ สว. ซึ่งปกติไม่เคยฟังเสียงประชาชนเลย แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ สว. นั้นฟังเสียงประชาชนมากที่สุด
หากประชาชนชาวไทยที่ตื่นขึ้นมาแล้ว พอใจกับการคว่ำ พรบ. แล้วหยุดอยู่แค่นั้น สังคมไทย การเมืองไทย นักการเมืองมันก็ยังไม่เปลี่ยน แต่ถ้าเราตื่นรู้กันทั้งหมด และ ใช้พลังอำนาจของพวกเรา บีบบังคับให้ สว. ทาสทำหน้าที่ ซึ่งได้แก่
1) ตรวจสอบ ถอดถอน เครือข่ายทักษิณที่กระทำความชั่วอยุ่ในองค์กรอิสระต่างๆ
2) ตววจสอบการทำงานของ สส.
หากเราไม่ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ มัวหวังแต่พึ่งกลเม็ดของ คุณสุเทพเพียงอย่างเดียว ประเทศไทยเราก็คงสิ้นหวัง
คำประกาศชองคุณสุเทพนั้น พวกเรา สามารถช่วยกัน คนละไม้คนละมือได้ และ สุดท้าย มันจะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่จริงๆ เรารณรงค์กันผ่านเครือข่ายต่างๆ ทั่วประเทศ ให้ความรู้ประชาชน จัดกิจกรรมเข้าชือถอดถอน สส. 310 คนให้แพร่หลาย ต่อต้านร่าง พรบ. กำจัด สส. ชั่ว 310 คน ซึ่งจะต้องจัดเป็นกิจกรรมพร้อมๆกับ การเป่านกหวีดเพื่อปฏิรูปการเมืองไทย ผมมั่นใจว่า พลังประชาชนนั้นเปลี่ยนได้ทุกอย่างจริงๆ ครับ
ณ เวลานี้ ยิ่งลักษณ์ ถ้ายังมีจิตใจความเป็นแม่คน รักลูก รักผัว เธอต้องรีบยุบสภาชิงความได้เปรียบและรักษาฐานเสียงของเธอไว้ให้มากที่สุด ตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่า เกมยิ่งยืดเยื้อ นอกจากอำนาจรักษาไม่ได้แล้ว ครอบครัวของเธอ เธอก็จะรักษาไม่ได้ ชัยชนะที่ลูกสมุนพูดโกหกหลอกลวงให้เธอมีกำลังทำงานต่อไปนั้น เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น กว่าเธอจะรู้ตัวและตื่นจากความหลงนั้น ตระกูลชินวัตร รวมถึงครอบครัวทั้งหมดของเธอก็จะไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินไทยเสียแล้ว
- พายุ, isa, เพื่อนร่วมชาติ and 74 others like this
#898040 Bluesky T news ตายสนิทครับ
โดย
on 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 21:34
เซิฟวางไว้ที่ INet แบนวิทไม่พออยากติดต่อจังผมจะทำไห้ดู แบบลื่นๆ 4หมื่นคนนั่งกันแบบไม่ต้องค้าง T-T1
- tu249cm, ปุถุชน, ขี้ข้าทักษิณ and 17 others like this
#896753 เวร...สังคม
โดย
on 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 00:15
ตอนพวกเอ็งยึดถนนหัวใจเศรษฐกิจเป็นเดือน เอ็งเน้นแต่ "ความแค้นในใจเสื้อแดง" ที่ถูกปล้นประชาธิปไตย
ตอนพวกเอ็งบุกเข้าไปจู่โจมโรงพยาบาล เอ็งแก้ตัวว่าต้องป้องกันตัวเองเพราะเห็นทหารซุ่มยิงอยู่บนดาดฟ้า
ตอนเอ็งกรูเข้าล้มประชุมอาเซียน ฉีกหน้าแผ่นดินแม่ต่อสายตาชาวโลก เอ็งและพ่อเอ็งบอกว่าขอประกาศชัยชนะ
ตอนเอ็งบอกให้พรรคพวกถือไฟแช็คกับน้ำมันก๊าดมาแล้วเผาให้ราบ เอ็งบอกว่าเอ็งจะรับผิดชอบเอง
แล้วล่าสุึดที่พ่อเอ็งประกาศออกมาว่า "สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น" เอ็งก็ไม่เห็นจะบอกพ่อเอ็งว่า...หยุดเถอะ แต่เสือกบอกให้ผู้สูญเสียเขารู้จัก "เสียสละ"
แล้ววันนี้พวกเอ็งยังมีหน้ามาพลิกลิ้นสร้างวาทกรรมอีกหรือว่า
"อยากให้บ้านเมืองเดินหน้า ทำไมไม่มีคำว่าเมตตา หรือให้อภัย"???
ถามจริง เอ็งเกิดมาทำไมให้รกโลกนี้วะ?
ถุยยยยย
