Jump to content


chataree

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 เมษายน 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2557 23:14
-----

#770155 มาดูจุดเริ่มต้นไทยไฟล์ท.. เนวินกับบังยี

โดย juemmy on 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 21:20

 

 

เจอกัน วัน หงส์ทอง vs ทีมชาติไทย
2500 แถวหลังคา

โห!!คุณเคน ซื้อตั๋วเผื่อภรรยารุ่นพี่ด้วยรึเปล่าคร้า :D

แพงอ่ะ ไม่ไหว ทีม อะไรไม่รู้ ระดับ 7 ในตาราง ตั๋วแพงมากกก

 

แหม!!เด่วซีซั่นหน้าก็แชมป์แล้ว :D




#768331 ขอแชร์เรื่องการชุมนุมหน้าเซ็นทรัลสักนิดครับ มีเรื่องที่ควรแก้ไข

โดย TFEX on 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:01

คือว่าผมก็ไปถึงแต่บ่ายโมง ตอนนั้นก็ไม่มีไรครับ ปกติดี จะมีนิดๆหน่อยๆก็ตรงที่เวลาการเคลื่อนขบวนไม่ชัดเจน เปลี่ยนเวลาไปมาสองสามรอบ

 

ที่เห็น ก็จะมีพี่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ใส่หน้ากากตลอด พูดโทรโข่ง (จะมีคนตัวสูงๆคอยถือโทรโข่งให้)

 

 

พี่ผู้หญิงคนนี้ดีมาก คอยประสานงานเรื่องการจัดขบวน แต่ไม่ได้แสดงออกหรือมีท่าทีว่าตัวเป็นแกนนำไรเลย  เค้าแค่พยามให้การชุมนุมเป็นระเบียบ มีกรอบชัดเจน และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ห้างและผู้ใช้ถนน

 

อย่างตอนที่สมาคมเชียร์ลีดเดอร์เค้าจำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อทำการแสดง พี่คนนี้ก็เป็นคนเดินประกาศขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุม เพื่อเปิดพื้นที่ให้น้องๆเค้ามาเต้นกัน

 

ผมเห็นพี่เค้าใช้ได้ เลยหาโอกาสเดินไปบอกพี่เค้าว่า พี่ครับวันนี้หน้าสตช.ควรพูดเรียกร้องความยุติธรรมและความปลอดภัยให้กับพี่น้องชาววีในต่างจังหวัดที่ถูกทำร้ายและขู่เข็ญ  พี่เค้าบอกว่าโอเค

 

 

จากนั้นพอเริ่มเคลื่อนขบวนตอนบ่ายสองโมงครึ่ง  ผมเดินมาถึงกลางสี่แยกราชประสงค์ ก็ได้เห็นรถขยายเสียงคันหนึ่ง และได้ยินเค้าพูด  ใจก็นึกว่าดีแฮะ คนนี้พูดปลุกระดมได้ดี เพราะที่ผ่านมามันดูเงียบไปนิด

 

สัปดาห์ก่อนๆ พอเดินผ่านหน้าสตช.ก็ได้ยินแต่คำว่า ขี้ข้าทักษิณ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าต้องพูดเข้าประเด็นว่าทำไมถึงไปเรียกเขาอย่างนั้นด้วย 

 

 

พอถึงหน้าสตช.พี่ผู้หญิงก็บอกให้พี่น้องหยุดหน้าสตช. ผมมีโทรโข่งก็เลยช่วยประกาศว่าเงียบก่อนครับ ให้ฟังข้อเรียกร้องของเราก่อน (เพราะไม่งั้นเดี๋ยวตำรวจฟังไม่รู้เรื่อง)

 

พี่เค้าก็เริ่มพูดข้อเรียกร้องดังกล่าว  ไม่ทันไร  มีเสียงจากรถขยายเสียงคันนี้พูดไล่หลังมาจากโรงพยาบาลตำรวจ  ผลก็คือเสียงพี่ผู้หญิงถูกกลบ ฟังไม่รู้เรื่องสักนิดเดียว เพราะเค้าพูดผ่านโทรโข่งเล็กๆตัวเดียว

 

ผมก็เลยอาสาวิ่งไปบอกรถคันนั้นว่า ตัวแทนเค้ากำลังพูดข้อเรียกร้องต่อตำรวจอยู่ ยังไงก็ให้ช่วยด้วย

 

จากนั้นรถคันนั้นก็พูดต่อ สงสัยคงฟังไม่เข้าใจว่าผมบอกให้หยุดสักครู่   แต่รถคันนั้นก็ช่วยพูดในเรื่องที่ชาววีถูกทำร้าย  ก็ถือว่าดีเพราะเครื่องเสียงดังชัดเจน

 

 

จากนั้นพี่ผู้หญิงก็นำมวลชนเคลื่อนขบวน จุดหมายที่เดิมคือหอศิลป์  รถขยายเสียงก็มาอยู่จุดแทนที่พี่ผู้หญิง  และพูดอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าสตช.  เรียกร้องให้ส่งตัวแทนระดับผู้การออกมารับพวงหรีด

 

เรียกร้องอยู่นานมากก็ไม่มีตำรวจสักนายออกมารับ  ผมก็ร้อนใจ เพราะขบวนหยุดตามรถคันนี้  ทำให้ขบวนขาดตอนไปเลย  กลุ่มแรกไปถึงหอศิลป์แล้ว แต่ท้ายแถวยังอยู่หน้าหน้าเซ็นทรัล เพราะเดินมาไม่ได้เนื่องจากรถขยายเสียงไม่เคลื่อน

 

 

ผมเลยพยามบอกพี่น้องด้วยโทรโข่งว่า ให้เคลื่อนไปยังหอศิลป์เลยครับ ท้ายแถวยังมีพี่น้องอีกมากที่เดินมาไม่ได้ (ทำให้รถติดหนักมาก)   แต่ก็ไม่เป็นผล  เพราะคนหยุดฟังรถขยายเสียง และรอดูว่าตำรวจจะมารับพวงหรีดมั้ย

 

 

จากนั้นรถคันนี้ก็ประกาศว่า จะพาพี่น้องเดินไปอนุเสาวรีย์  ผมก็ไปถามเค้าว่า พี่ครับ เค้านัดรวมกันหน้าหอศิลป์นะ เดี๋ยวกลุ่มมันแตก   แกบอกว่าไม่เป็นไรหรอก

 

ผมไปบอกแกสองครั้งสามครั้ง ก็ยังประกาศเหมือนเดิม  ผมก็เลยเดินล่วงหน้าไปหอศิลป์ก่อน

 

 

พอไปถึงก็พบพี่น้องกลุ่มแรกที่มาถึงก่อน  จากนั้้นก็ทยอยตามกันมา จนครบขบวน รวมทั้งรถขยายเสียงด้วย  และมีการ์ด(น่าจะเป็นการ์ดเพราะใส่ชุดเหมือนกันหลายคน) ไปคุยกับรถคันนั้้นว่า อย่าไปอนุเสารีย์ เพราะไม่ต้องการเดินขบวนผ่านเขตพระราชฐาน

 

 

การชุมนุมก็ดำเนินผ่านไป  สักพักผมเห็นการ์ดชี้ๆ  และพูดว่า เฮ้ยรถมันไปแล้ว  (พาคนตามไปด้วยเป็นร้อย)  ไปเอากลับมาเร็ว     ..แล้วเค้าก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปตาม  แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าตามกลับมาได้เปล่า เพราะเห็นเลยสะพานหัวช้างไปแล้ว

 

ระหว่างนััน ผู้กองปูเค็มก็สลับพูดกับอีกหลายๆท่าน ที่ลานหน้าหอศิลป์ ผมก็เลยไปขอถ่ายรูปกับพี่เค้ามาด้วย ^^

 

 

ที่เล่าให้ฟังนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะว่าอะไรใครเลยจริงๆ  เพราะเชื่อว่าทุกคนรักชาติ รักในหลวงเหมือนกัน

 

แต่ที่ผมเห็นคือ  ความไม่มีเอกภาพ

 

 

จริงอยู่ชุมนุมวีไม่มีแกนนำ  แต่ที่ปฏิบัติกันมาคือ เช่นเวลาพี่ผู้หญิงเค้าจะประกาศอะไร เค้าจะออกตัวก่อนเสมอว่า  "กลุ่มได้คุยกันแล้ว..."  หมายถึง  หลายๆคนได้หารือกันและออกมาเป็นมติ  ถึงจะกระทำหรือไม่กระทำการใดๆ

 

 

ดังนั้น กลุ่มก็ควรจะฟังมติดังกล่าว 

 

 

แต่รถขยายเสียงคันนี้ ไม่ฟัง มติ ของกลุ่ม  การที่ไม่ยอมเคลื่อนขบวนจากหน้าสตช.เหมือนที่เคยปฏิบัติกันมา  มันทำให้  รถติดเป็นชั่วโมงๆ  คนด่ากันกี่หมื่นคนไม่รู้วันนี้

 

และที่ยังพาคนไปอนุเสาวรีย์อีกเป็นร้อย  มันทำให้การชุมนมไม่เป็นเอกภาพ  แล้วก็ไปผ่านเขตพระราชฐาน ซึ่งเค้าไม่ทำกัน

 

 

 

ผมว่า คราวหน้าวางแผนดีๆ  รับฟังกันมากๆ  การชุมนุมจะได้เรียบร้อย  ได้ใจคน ไม่ใช่ให้คนเกลียด  เคลื่อนขบวนใช้เวลาพอควร การจราจรจะได้ไม่ติดขัดมาก

 

เรื่องคำหยาบคายก็ไม่ควรนะครับ  รถขยายเสียงใช้เยอะไปมาก  อย่างนี้แล้วเราจะต่างอะไรกับเสื้อแดงล่ะครับ คนได้ยินเค้าก็ไม่ชอบหรอกครับ

 

ที่สำคัญที่สุด  ควรคำนึงถึงกำลังของผู้ชุมนุมด้วย  แดดร้อน ฝนตก  ดูจังหวะเวลาให้ดี  คนวัยกลางคนเยอะมาก เพราะถ้าโปรแกรมกำลังดี  คนไม่เหนื่อยมาก เค้าจะกลับมาอีกครับ

 

 

ขออภัยถ้าพาดพิงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ท่านใด/กลุ่มใดนะครับ  ผมแค่อยากให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ 

 

ท่านใดที่อ่านกระทู้นี้ และสามารถสื่อสารไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ก็กรุณาด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลเพจV กลุ่มนำ การ์ด และรถขยายเสียง

 

ขอบคุณครับ




#767412 อาทิตย์เดียว........โดนไป 2 warning............

โดย คนบูรพา on 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:53

555+........สงสัยผมมันจะถ่อยและเถื่อน.......เกินพิกัด..........

 

สมควรต้องลาไปสำนึกผิด...........สักระยะหนึ่ง...............

 

"กลับตัว กลับใจ เป็นคนสุภาพได้เมื่อไหร่แล้ว.....ผมค่อยกลับมาใหม่ คงน่าจะดีกว่าครับ"

 

ลาล่ะครับ.........พี่น้อง สรท. ทุกท่าน.......... :) 

 

a8e189855b06cf78010921044adf8017_1233658




#761792 24 มิถุนา ไม่ได้เป็นวันประชาธิปไตย เป็นแค่วันเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

โดย isa on 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 11:00

...แถมหนึ่งในคณะปฏิบัติการที่เป็นฝ่ายพลเรือน ก็เป็นคอมมิวนิสต์ยัดไส้ในประชาธิปไตยอีกต่างหาก

แถมแอบเอาแถลงการณ์คอมมูนฯยัดไส้ในรัฐธรรมนูญที่เสนอให้ร.7 ท่านเซ็นโดยที่พรรคพวกไม่ได้รับรู้

และบรรดาลูกศิษย์ของคนๆนี้ ต่อไปก็เป็นต้นเค้าในการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยชักชวนคนไทย

ให้ฆ่าฟันกันเองกับสาวกของคณะราษฎร์สายทหาร แต่ก็ยังมีความพยายามจะบิดเบือนข้อเท็จจริง

เพื่อโค่นล้มเจ้าด้วยความเชื่อฝังหัวว่าสมบูรณาญาสิทธิราชย์คือไดโนเสาร์ที่ควรจะสูญพันธ์

 

แต่ไม่ได้เคารพความจริงที่ว่า ธรรมชาติในโลกนั้น ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสายพันธ์ใดที่เคยสูญพันธ์ไปจากโลกอย่างแท้จริง

มีแต่สายพันธ์ใหม่ๆพัฒนาจากของเก่าขึ้นมาครองโลกแทน แต่สายพันธ์เก่าๆตั้งแต่ยุคบุรพชีพก็ยังอยู่กันครบ

ไดโนเสาร์ก็อยู่ในฐานะนกหลากสายพันธุ์นั่นไง  ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเจ้า นายทุน ทหาร หรือศาสนา เขาก็ปรับตัวอยู่ร่วมแชร์สังคมกับคนอื่นได้

และเล่นบทบาทของตัวเองที่ควรทำในสังคม ตัวเองต่างหากที่ไม่เข้าใจธรรมชาติสังคมมนุษย์ แล้วพยายามฝืนกฎด้วยการตามล้างผลาญคนอื่น

 

ในส่วนคณะราษฎร์สายทหาร ก็ถูกหักคอโดยกลุ่มตาอยู่คณะราษฎร์รุ่นน้องอย่างร้อยโทแปลก พิบูลสงคราม ที่ขึ้นมายึดอำนาจแทน

สุดท้ายถ้าไม่หนีกระจัดกระจายไปตายต่างแดน ก็กลายเป็นหุ่นเชิดอย่างพระยาพหล

 

ปัจจุบันเผด็จการทหารสายคณะราษฎร์ก็อ่อนกำลังไปเยอะแล้ว และถูกแทนที่โดยทหารสายพิราบที่ใฝ่ประชาธิปไตยมากขึ้น

ยังเหลือรากเหง้าชั่วร้ายที่หลงเหลือจากยุคคณะราษฎร์ก็คือ ราชการสายตำรวจที่ถูกขยายใหญ่เกินความจำเป็นโดยเลียนแบบ

การจัดตั้งองค์กรแบบทหารในยุคจอมพลผิน-เผ่า เพื่อคานอำนาจกับจอมพลสฤษดิ์สายทหาร จึงกลายเป็นโครงสร้างที่เทอะทะและ

เอื้อต่อการคอรัปชั่น ทั้งๆที่โครงสร้างตำรวจของตะวันตก หัวหน้าสถานีตำรวจมียศแค่ร้อยเอก แต่บ้านเรากลับมียศถึงนายพลเอก

จึงต้องหาส่วยเพื่อซื้อตำแหน่งกันแทบทุกระดับชั้น กลายเป็นมรดกบาปที่อยู่คู่เมืองไทยมาจนปัจจุบัน

 

และในมหาวิทยาลัยบางแห่ง ก็ยังมีสานุศิษย์ของคณะราษฎร์ที่พยายามบิดเบือนความจริง ปิดทองให้กับอดีตครูตัวเอง

พยายามบ่อนทำลายสถาบัน ศาสนา และพลังทางสังคมเพราะความหลงใหลในแนวคิดซ้ายๆที่ล้มเหลวไปแล้ว

ทั้งๆที่มีชื่อ "ธรรม" อยู่นำหน้าชื่อสถาบัน แต่พยายามนำ "การเมือง" มานำหน้าธรรม ทั้งๆที่ควรจะรู้ว่าการเมืองที่ไร้ธรรม

มันก็คือความเหลวแหลกเลวร้ายนั่นเอง ไม่เห็นแก่หน้าของศิษย์รุ่นก่อหน้านี้ที่แบกรับสังคมอยู่บ้างเลย

 

แม้ผู้ชนะจะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ แต่ประวัติศาสตร์ที่บิดเบือนก็ไม่อาจปกปิดตัวมันเองได้ตลอดไปหรอก...รวมถึงประวัติศาสตร์ของคณะราษฎร์ด้วย  -_-




#761453 24 มิถุนา ไม่ได้เป็นวันประชาธิปไตย เป็นแค่วันเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

โดย ทัชชี่ on 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 02:59

ตามที่ด๊อกฯ และบรรดาขี้ข้าตักขี้อ้างกันนักหนา ว่า 24 มิถุนา เป็นวันชาติ เป็นวันประชาธิปไตย...

 

ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า

 

ในความเป็นจริงแล้วก็คือ คณะราษฎรทำการรัฐประหารยึดพระราชอำนาจของ ร.7 มาเป็นของพวกพ้องตนเอง

 

ไม่มีใครแม้แค่คนเดียวในคณะราษฎรได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ให้ไปทำการรัฐประหารเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง

 

แล้วจะเรียกว่า ระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไรครับ ในเมื่อมันมาจากรัฐประหาร โดยคณะบุคคลกลุ่มหนึ่งแค่นั้นเอง

 

 

ประชาธิปไตยพ่องงงง...ไปยึดอำนาจคนอื่นมา




#762464 ใครทัน "ประชาธิปัตย์ผลัดใบ" บ้างครับ

โดย อาวุโสโอเค on 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:34

เจ้าของกระทู้ หมายถึง สิ่งนี้หรือเปล่าฮะ :huh:

 

ยุคที่ห้า (พ.ศ. 2544-2551) : ยุคแห่งการต่อสู้เผด็จการรัฐสภา และต่อต้านการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมเพื่อผลประโยชน์ทับซ้อน
หลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 พรรคไทยรักไทยนำโดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาลบริหาร
ประเทศ โดยมีการยุบรวมพรรคการเมืองที่มีขนาดเล็กกว่า อาทิพรรคความหวังใหม่ พรรคเสรีธรรมเข้าด้วย ทำให้พรรคไทยรักไทยมีเสียงในสภาจำนวน 294 เสียง ต่อมาภายหลังมีการยุบรวมพรรคชาติพัฒนาเข้าด้วยอีกทำให้พรรคไทยรักไทยมี ส.ส. ถึง 319 คน เมื่อไปร่วมกับพรรคชาติไทย 24 คน และพรรคความหวังใหม่ที่เหลืออีก 1 คน ทำให้ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงในสภามากถึง 344 เสียง คุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส. เพียง 128 คน ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อสู้กับระบอบเผด็จการรัฐสภาอย่างเข้มแข็ง เพื่อคัดค้านการใช้กลไกของรัฐสภาในการออกกฎหมายและต่อต้านการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เป็นธรรมและเพื่อเอื้อผลประโยชน์ต่อธุรกิจของครอบครัวและพวกพ้อง จนเป็นที่ยอมรับต่อสาธารณชน กระทั่งมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548

การเลือกตั้งในปี 2548 ถือเป็นช่วงที่พรรคไทยรักไทยมีความฮึกเหิมเป็นอย่างยิ่ง การเลือกตั้งครั้งนั้นถูกครอบงำทั้งโดยอำนาจรัฐและอำนาจเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในขณะนั้น ถูกตั้งข้อ สังเกตในความไม่เ่ป็นกลาง และเอื้อประโยชน์ใ์ห้แ้ก่พรรคการเมืองบางพรรคหลังการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้ง 377 คน พรรคประชาธิปัตย์ 96 คน พรรคชาติไทย 25 คน พรรคมหาชน 2 คน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น คือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ได้ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ได้เลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค

รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในปี 2548 นอกจากจะคุมเสียงเบ็ดเสร็จในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังพยายามดึงสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนให้มาเป็นพวกเพื่อสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล มีการแทรกแซงสื่อสารมวลชน องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในคดีต่างๆ อาทิ คดีซุกหุ้น คดียุบพรรคไทยรักไทย

พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ด้วยความเข้มแข็ง ต่อสู้กับอำนาจทั้งในระบบและนอกระบบ
อย่างกล้าหาญ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้ประกาศยุบสภาเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปให้แก่กองทุนเทมาเส็ก และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เมษายน 2549

การเมืองในช่วงดังกล่าวมีความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างหนักคดีการเลือกตั้งทุจริตของพรรคไทยรักไทยและคดีการเลือกตั้งในปี 2548
เกิดความไม่เป็นธรรมทั่วประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้ประท้วงการเลือกตั้งด้วยการไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ได้ต่อสู้ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคไทยรักไทยได้ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง จนในที่สุดศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ กกต. ทั้ง 3 คนมีความผิดทางอาญา ลงโทษจำคุก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะและให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่แล้วในที่สุดก็ได้เกิดการรัฐประหารขึ้น

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ซึ่งมี พลเอก สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกเป็นหัวหน้า ได้จัดตั้งรัฐบาลโดยมีพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศส่วน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ต้องสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ กระทั่งตกเป็นนักโทษในคดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองจนปัจจุบัน

เมื่อรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ บริหารประเทศได้ 1 ปีเศษ ก็ได้จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 พรรคไทยรักไทยซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินและมีคำพิพากษาให้ยุบพรรคได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยจำนวน ส.ส.232 คน พรรคพลังประชาชนได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ จัดตั้งรัฐบาลขึ้นบริหารประเทศ โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีจำนวน ส.ส. 164 คน เป็นฝ่ายค้านการบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่เป็นตัวแทนกลุ่มอำนาจเก่า ถูกต่อต้านจากประชาชนเป็นวงกว้างจนเกิดการรวมตัวขึ้นเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต่อมานายกรัฐมนตรีของรัฐบาลพรรคพลังประชาชน 2 คน ต้องพ้นจากตำแหน่งไป พร้อมๆ กับการถูกยุบพรรคพลังประชาชนอีกครั้งด้วยคดีทุจริตการเลือกตั้ง แล้วเปลี่ยนไปใช้ชื่อพรรคเพื่อไทย

เหตุการณ์ทางการเมืองที่ผันผวนทำให้เกิดการแตกแยกอย่างรุนแรงในประเทศ ความไม่ชอบธรรมในการบริหารบ้า้นเมืองของรัฐบาลทำให้เ้กิด วิกฤตนึ้กับประเทศไทยอีกครั้ง แต่ในที่สุดเมื่อพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนั้นประสบปัญหาจึงได้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ พรรคประชาธิปัตย์โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้รับการสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ธันวาคม 2551จึงนับเป็นการยุติบทบาทการเป็นฝ่ายค้าน 8 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์และกลับเข้าเป็นรัฐบาลของประชาชนเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศชาติในภาวะวิกฤติ มุ่งมั่นพัฒนาบ้านเมือง และสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในวันนี้

จวบจนมีการตัดสินใจยุบสภาของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 และมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ 44 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 115 คน รวมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 ระบบ 160 คน

 
 
 
 
 
 
t-h1.gif

history-01.jpg history-02.jpg history-03.jpg นายควง อภัยวงศ์
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 1
พ.ศ.2489-15 มี.ค.2511 ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 2
2511-26 พ.ค.2522 พ.อ.ถนัด คอมันตร์
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 3
26 พ.ค.2522-3 เม.ย.2525       history-04.jpg history-05.jpg history-06.jpg นายพิชัย รัตตกุล
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 4
3 เม.ย.2525-26 ม.ค.2534 นายชวน หลีกภัย
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 5
26 ม.ค.2534-6 พ.ค.2546 นายบัญญัติ บรรทัดฐาน
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 6
6 พ.ค.2546-15 มี.ค.2548         history-07.jpg     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 7
15 มี.ค.2548-ปัจจุบัน  

 

ที่มา http://www.democrat..../about/history/

 

ปูลู เอาไว้ ว่าง ๆ จะมาเล่าเกร็ดเหตุการณ์ผลัดใบในช่วงนั้นให้ฟัง เป็นการแสดงสปิริตทางการเมืองอย่างสูงส่งทั้งใบเก่าและใบใหม่เลยฮะ




#759884 แดงสุรินทร์ ลั่นล้างแค้น ปชป.ประกาศเอาชีวิตมาร์ค-เทพ

โดย สุกี้น้อย on 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:37

เสื้อแดง คิดกันไม่ได้จริงๆเหรอ 
 
สำหรับผม ถามว่ามาร์กผิดไหม ก็ผิดนั้นล่ะ 
 
แต่การกระทำเสื้อแดงล่ะ ผิดไหม ก็ผิดนั้นล่ะ
 
แต่ไม่ยอมรับกัน เฮ้อ ปวดใจกับอนาคตประเทศ ที่คนกลุ่มนี้ แสดงออก


ขอโทษนะครับ....ตามความคิดคุณ..มาร์คผิดตรงไหนครับ


#756121 กฏหมู่ vs เสียงส่วนใหญ่ . . . ดร.โสภณ พรโชคชัย ให้ความกระจ่าง

โดย วันศุกร์ on 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:44

ขอกลับไปนอนก่อนนะคะถ้ามีคำถามอะไรเพื่มเดี๋ยวมาตอบตอนเช้า ตอนนี้เวลาจะตีสี่แล้ว ตื่นมาปลอบลูกแล้วนอนต่อไม่หลับ กระทู้นี้มันคาใจอยู่ แต่ว่าจะเห็นคำตอบเรามั้ยเนี่ย ไม่เคยได้รับการตอบเลยตั้งแต่ตอบคุณมาเนี่ยหลายกระทู้แล้ว เฮ้อ


#756050 กฏหมู่ vs เสียงส่วนใหญ่ . . . ดร.โสภณ พรโชคชัย ให้ความกระจ่าง

โดย DarkSwan on 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 13:27

 

 

กรณีอะไรบ้างล่ะครับ ดร ที่ท่านบอกว่า คือเสียงส่วนใหญ่ และมันย่อมถูกต้อง

 

ขอแนะนำให้ไปอ่านกระทู้นี้นะครับ

http://webboard.serithai.net/topic/35094-เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง/

 

 

 

อ่านแร้วก็ยังไม่เห็นเรยว่า แร้วเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง ตรงไหน ?

 

 

:huh:  :huh:  :huh:

 

 

ีก็ไม่เห็นว่าเสียงส่วนใหญ่มันจะถูกต้องเสมอ ตรงไหน

แถม ด๊อกแด๊ก ยังให้คำจำกัดความ และเสกลของเสียงส่วนใหญ่ไม่ได่อีกตะหาก ถามมาไม่รู้กี่รอบแล้ว

 

ไอ้ 60-40 น่ะ มัน 60-40 ของอะไรล่ะ

 

ถ้าคน 3 คน  2-1 เคยยกตัวอย่างเรื่องเลี้ยวผิดทางมาแล้ว  มัน 66.666..... ที่ไอ้ 2 คนมัีนพาบอกเลี้ยวผิดมาแล้ว

 

จะบอกให้ฟังนะ ด๊อกแด๊กน่ะ ไม่สามารถจะกำหนด Scale Limit ของ ตรรกะของตัวเองได้เลย ว่าง่ายๆ พออันไหนมันผิด ก็เลือกบอกว่าไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ พออันไหนดีก็บอก เนี่ย เสียงส่วนใหญ่ จะยกตรรกะเลื่อนลอยพรรค์นี้มาอ้าง ไม่มีใครเชื่อถือ

 

ที่สำคัญ ด๊อกแด๊ก กำหนดสิ่งที่เรียกว่า "เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้องเสมอ" มันเป็น "กฏ" เมื่อเป็น "กฏ" หมายถึง มันต้องเป็นอย่างนั้นเท่านั้น ไม่ว่าอะไรก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น คนต้องตาย  วัตถุทุกชนิดต้องตกลงจากที่สูงลงที่ต่ำ หากไม่มีแรงต้าน หรือแรงผลักในทิศทางตรงกันข้าม สัตว์ต้องหายใจ พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก ตกทางตะวันตก แม่เหล็กมี 2 ขั้ว เหนือกับใต้  เป็นต้น

 

แต่นี่ พอมีปัจจัยมากระทบ บอกว่า เสียงไม่บริสุทธิ์ ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ มติของโจรก็ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ ไอ้กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช้เสียงส่วนใหญ่เื่มื่อเทียบกับอะไรที่ใหญ่กว่า บ้าเหรอครับ? 

แถมยังกำหนดเลือกเอาด้วยอคติตามใจกรู อีกตะหาก แบบนี้ไม่เรียกว่า กฏหรือ ทฤษฏี เรียกว่า เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคล เท่านั้นแหละ

 

นี่แสดงว่า ถ้ามีปัจจัยอื่นเข้ามาคิดรวม ผลของ กฎที่ว่า เสียงส่วนใหญ่ถูกต้องเสมอก็ไม่ถูกต้องเสมอไป

 

ถ้าอย่างนั้น ถ้าด๊อกแด๊กจะตัดสินอะไรสักอย่าง ไม่ต้องวัดเสกลจาก คนทั้งโลกเลยเรอะ ความเชื่อ ศาสนา ตรรกะ ภูมิปัญาที่ต่างกัน 

ใครจะถูกใครจะผิดล่ะ ศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาไหน ศักดิ์สิทธิกว่ากัน ดีกว่ากัน จะวัดจากอะไร จำนวนคนที่ศรัทธามากกว่ากันงั้นเหรอ?

 

คุยแล้วเหนื่อย บ่ายโมงครึ่ง ได้เวลาทำงานแล้ว เดี๋ยวเย็นๆ แวะมาดูใหม่

<_<




#753764 แจ๊ดสยามโปรดักชั่น เสนอละคร "ฆ่าชิงทรัพย์โดยทำร้ายอัณฑะนะจ๊ะ" ตอน: ไอ...

โดย Moon on 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 18:29

 

ดูท่าทางจะไม่จบง่ายๆแล้ว

เพราะมี ตำรวจ 1 ท่านออกมายื่นหนังสือแล้ว

ว่าเจอเอกยุทธตอนเดือน เมษายน เอกยุทธเล่าให้ฟังว่ากำลังถูกปองร้ายโดยคนในรัฐบาล

โอ้วววว

อย่างนี้คนเขียนบท เหนื่อยอีกแว้ววววว

อดีตตำรวจสันติบาลตัวนี้ อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลชัดเจน แถมถ้าจำไม่ผิด เป็นทนายความแก้ต่างให้บริษัท PCC ที่ประมูลสร้างโรงพักตำรวจ อยู่้ด้วยขณะนี้

 

 

แสดงว่าตำรวจคนนี้เป็นคนดีไว้ใจได้

 

ขอให้คิดโดยอัตโนมัติไปได้เลยว่า

ใครที่อยู่ตรงข้ามกับฝ่ายรัฐบาลชัึดเจน

เป็นคนดีมีคุณธรรมหมดทุกคน




#748523 หลักฐาน World Expo 2020 เพราะใคร

โดย โคนัน on 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:26

 

 

 

งาน EXPO ต้องลงทุนมหาศาล มีปัญญาจัดให้ได้ตามสัญญาเหรอ แค่ฟุตซอลโลกหนองจอก ยังอับอายกันไม่พออีกเหรอครับ พรรคประชาธิปัตย์

 

 

นี่โง่กันขนาดด่ารัฐบาลอีปูโบถอกดื้อๆ อย่างนี้เลยหรือ

สรุปว่ายังสู้ปชป. ที่ทำสนามฟุตซอลไม่ได้

 

 

คงจะทำได้แค่ปลัก ค ว า ย........กร๊ากกก

 

 

อภิสิทธิ์ กำหนดพื้นที่ศิลปาชีพบางไทร จัดงาน พื้นที่เล็กแบบนั้นพอหรือ ?

 

ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธาณูปโภคอีกมากมาย เพื่อให้ได้มาตราฐานเดียวกับประเทศอื่นที่เคยจัด ทำได้ไหม

 

เงินไข BIE ที่กำหนด ต้องมีโรงแรมขนาดใหญ่ โรงพยาบาล และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่กำหนดตามเงื่อนไข ทำได้ไหม

 

ต้องสร้างทางด่วน8เลน เชื่อมกทม ไปถึงสถานที่จัดงาน ต้องสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ให้สามารถขนส่งคนจำนวนมาก ไปงานรววดเร็ว ทำได้ไหม

 

ต้องสร้างโรงไฟฟ้า ขนาดใหญ่เพื่อป้อนกระไฟฟ้าให้พอ ต้องตั้งศูนย์โทรคมนาคม ระบบสื่อสารให้ทันสมัย

 

และต้องเสร็จก่อนเปิดงาน 1ปี ให้ทันก่อนปี 2020 ทำได้จริงหรือ ?

 

งบประมาณเกิน 30,000ล้านบาท บานแน่นอน

 

แถมโฆษณาเว่อร์ จะมีคนเข้าชม 35 ล้านคน

 

 

ทำได้สิเทอว์ ขนาดกู้2ล้านล้านมาขนเศษผักเศษหญ้าให้ควายกิน อิปูยังจะดัดจริตยืนยันจนเหนียงคอขึ้นว่าทำได้เลยคะ

 

 

 

ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรมีพื้นที่กว้างใหญ่นับพันไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นักท่องเที่ยวสามารถชมการสาธิตการผลิตสินค้าของศูนย์ศิลปาชีพ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของศูนย์ฯ รวมทั้งยังมีสถานที่น่าสนใจ เช่น วังปลาน้ำจืด สวนนก เป็นต้น ในช่วงเทศกาลลอยกระทง ทางศูนย์ฯ จัดงานลอยกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นงานใหญ่ประจำทุกปี ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วไป

 

 

http://en.wikipedia....rld_expositions  ล่าสุดเกาหลีใต้ จัดในพื้นที่ 25 Ha คิดเป็นประมาณ 160 ไร่ ยังจัดได้เลย หึหึ

 

 

 

 

ของไทยเสนอจัด 2020 มีเวลา 7 ปี  ไม่มีปัญญาทำอะไรเลยหรือไง หึหึ  และสิ่งที่เหลือจากการสร้างนู้นนั้นนี้ หลังจากงานจบ ก็คือ คนในชาติได้ใช้  ตอนสงครามโลก เยอรมันจะคิดไหม สร้างรถไฟไปรบ แต่ปัจจุบัน เอารางรถไฟ เป็นศูนย์กลางในยุโรป นี้คือประโยชน์ที่เกิดขึ้น

 

 

เอาแค่ง่ายๆ เอาคนต่างชาติเดินมาประเทศไทยซัก 5 ล้านพอ พกเงินมาคนละ 50000 บาท คิดเป็นเท่าไรละ 2.5 แสนล้าน ที่สะพัดในประเทศไทย  50000 บาท นี้แบบกระจอกๆเลยนะ รวมค่าเครื่องไปกลับ ค่าที่พัก ค่ากินไปด้วยเลย 




#737095 เอามั้ง........... "สังเกตได้เลยว่าคุณเป็นพวกไหน" ........

โดย สุกี้น้อย on 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 22:22

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม...ไม่ลุกออกมาป้องสิทธิ์ของตัวเอง...ไม่ปกป้องสิ่งที่ถูกต้อง....และไม่ปกป้องสิ่งที่เราเทิดทูน :mellow:

 

 

บอกไว้เลย...ต่อให้ผมเดินสู้ตามลำพังผมก็จะเดิน... :angry:




#723783 ขอโทษ tonythebest ด้วยครับ

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:01

Mod รู้ช้าจัง

รู้เป็นคนสุดท้ายในบอร์ดเลย  :D 

 

 

พาดหัวเสรีไทยวันนี้

ตัวร้ายขโมยอัตลักษณ์สมาชิกแล้วสวมรอย

ล็อกพลิก ถูกพวกเดียวกันชี้เบาะแส

ที่แท้เป็นแผนทำลายชื่อเสียงพระเอก

ยอมรับสิ้นไส้  "ม็อดรู้เป็นคนหลังสุดได้ไง"

ถูกแบนถาวรพร้อมมาร์ชเมลโลว์ชิ้นสุดท้าย

เย้ ปรบมือดีใจ.gif



#723699 ขอโทษ tonythebest ด้วยครับ

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:21

แจ้งเพื่อทราบ mod ไม่ทราบว่าใครคือเจ้าของกระทู้หรอกน่ะ

แต่แบนนายลีด้วยคดีค้างเก่า เพราะบังเอิญเจอจำเลยซึ่งหน้า

ต้องขอบคุณท่าน hentai เป็นอย่างมาก ก่อนนี้ก็ไม่รู้ใครเป็นใคร

แต่ ท่าน hentai ช่วยขุดบ่อล่อ เมื่อเป้าหมายปรากฏตัว ก็ต้องทำตามกฏบอร์ด

เพราะเขาไม่ยอมรับกติกา สมัครสมาชิกใหม่หลายครั้งหลังถูกแบนชั่วคราว จนต้องถูกโทษแบนถาวร

 

 

อ้าววววววววววววววววววว  เฮนไต

สวยเลย  สวย!

 

ลีสิ้นชีวิตเพราะอิเห็นช่วยชี้เป้านี่เอง!!!

 

โอย.........ขำจนปวดม้ามไอ้ปิ๊ก-ฮาตายหงายหลัง.gif




#724149 คนสองยุค

โดย kornthana on 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:51

คนที่ด่าท่านทักษิณ เคยคิดไหมว่า ถ้าประเทศนี้ไม่มีท่านทักษิณหรือคนในตระกูลชินวัตรเข้ามาบริหารประเทศ ๆ นี้จะแย่แค่ไหน

 

ดูจากนโยบายที่จับตั้งได้ จนมีคำกล่าวถึงนโยบายต่างๆ ที่ผลุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ไม่ว่า 30 บาทรักษาทุกโรค จำนำข้าว  รถคันแรก การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน การเปิดโอกาสให้คนเข้าถึงแหล่งเงินกู้สารพัด  และอื่นๆ อีกมาก ที่ดูเหมือนคนทุกคนได้ประโยชน์จากนโยบายเหล่านี้กันถ้วนหน้า

 

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับอนิงสงค์ส่วนบุญส่วนกุศลไปตามด้วย ก็คงมีบางคนที่ฐานะดี ถึงดีมาก ก็คงบอกว่า ฉันไม่ได้ต้องการนโยบายเหล่านี้ แต่ฉันต้องการให้ประเทศมั่นคง เงินที่เอามาจ่ายเป็นนโยบายก็ควรทำเป็นแบบสร้างคน สร้างงาน หรือสร้างสาธารณประโยชน์ ให้  คนจน คนด้อยโอกาส  การเอาเงินมาเหวี่ยงแหแบบนี้มันดูไม่มีประโยชน์ แถมอนาคตประเทศจะเกิดวิกฤติได้  อันนี้ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไร

 

ทำให้ผมนั่งคิดเปรียบเทียบ ช่วงเวลาที่ผมเคยจนแบบดักดาน แบบไม่มีข้าวจะกิน ด้วยมีพี่น้องหลายคน พ่อซึ่งเป็นกำลังหลักของครอบครัวป่วยจนทำงานไม่ได้ มีเพียงแม่ที่ความรู้น้อยมาก ต้องทำงานหาเลี้ยงลูก 5 คนที่ต้องเรียนหนังสือกันหมด  นั่งนึกไปว่าตอนนั้นแม่ผมสอนอะไรกับลูกๆ จนลูกๆ ทุกคนตั้งใจเรียนจนจบ ปริญญาโท ปริญญาเอกกัน  แล้วผมซึ่งมีความรู้ก็มากมาย เงินเดือนสูงพอควร แต่รู้สึกลำบากถึงแม้มีลูกแค่ 2 คน   ก็พยายามนั่งนึกถึงเรื่องในอดีต  ตอนนั้นพ่อที่มีอาการป่วย ก็ต้องเข้า รพ.รักษาตัว แต่บ้านไม่มีเงิน  ทุกครั้งที่พ่อไปหาหมอ หมอก็รักษาด้วยดีและไม่เคยคิดค่ารักษาพยาบาล  ก็คงติดปัญหาเรื่องค่ายา ค่าห้องพัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ครอบครัวก็มีตังค์ไม่พอจ่าย  นั่งคิดก็เศร้ากันทั้งแม่ลูก  พยาบาลซึ่งดูเหมือนดุหน่อย  มาเห็นก็บอกว่า ถ้าไม่มีตังค์ รพ.มีหน่วยสังคมสงเคราะห์ที่จะดูแลเรื่องพวกนี้ไม่ต้องกังวล แม่ไม่รีรอที่เข้าไปรออนุเคราะห์  ไม่น่าเชื่อใช้เวลาเพียง 10 นาที ครอบครัวเราก็ได้รับการอนุมัติเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (ไม่ได้เป็นเงินสด แต่ได้รับยาที่มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่คนมีเงินได้รับ เบ็ดเสร็จรวมแล้วเป็นเงินเกือบ 3 หมื่น เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว)

 

พอท่านทักษิณมาบริหารประเทศ ก็พลิกประเทศ เกิดนโยบาย 30 บาท ผมเข้าใจหัวอกคนจนที่ต้องเข้ารักษาตัวใน รพ.  แต่เท่าที่ฟังและสัมผัสเอง ก็พบว่านโยบายนี้สร้างปัญหาให้กับคนจนมาก  เพราะนั่นหมายความว่า หน่วยสังคมสงเคราะห์ตาม รพ.คงไม่ต้องทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือคนจนอีกต่อไปแล้ว  คนจนทุกคนจะถูกผลักไปที่ 30 บาททั้งหมด ซึ่งถ้านโยบายนี้ดีก็คงช่วยให้สังคมไทยดีขึ้น แต่ผลที่ได้รับคือ นโยบายนี้ทำให้คนจนที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีกลายเป็นคนชั้นล่างสุดไปเสียแล้ว  นโยบายมีการปรับเปลี่ยน เปลียนแปลง จำกัดจำนวนยา ระบุชนิดยา ซึ่งการกำหนดเรื่องพวกนี้ถือเป็นปัญหามาก เพราะยาแรงไม่พอที่จะรักษา หรือตัวยาเสื่อมคุณภาพ (ยาทุกชนิดจะถูกกำหนดจาก สปสช. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้)  ดังนั้นการที่หมอจะสั่งยาที่รักษาให้ตรงกับโรคจึงทำไม่ได้  หมอที่ดูเหมือนกระอักกระอ่วนใจ แต่เมื่อนโยบายเป็นแบบนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก  ซึ่งก็ต่างจากอดีตที่หมอมีโอกาสสั่งยาได้อิสระ ถ้าคนไข้ไม่มีตังค์ก็เข้าไปขอความช่วยเหลือได้  บางคนอาจคิดว่าหน่วยงานนี้มีเงินมากขนาดพอช่วยเหลือคนจนทั้งประเทศได้หรอ  ขอบอกว่าต่อให้คนจนในประเทศนี้มีมากกว่านี้อีก 10 เท่า เงินนี้ก็พอรับได้ เพราะเงินนี้เป็นเงินที่ได้รับการอุดหนุนจากหลายหน่วยงาน รวมถึงคนที่มีจิตศรัทยามาบริจาคด้วย

 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเมื่อเพื่อนแม่ผมคนหนึ่ง ป่วยเป็นมะเร็งปอด ระยะ 2  เข้ารักษาตัวใน รพ.รัฐแห่งหนึ่ง หมอทำการผ่าตัดให้อย่างดี  หลังจากนั้นหมอเรียกญาติเข้าไปพบบอกว่า ถ้าใช้สิทธิ 30 บาท ทางการระบุให้จ่ายยาชนิดนี้ แต่ถ้าให้หมอแนะนำอยากให้ใช้ยาอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งคงต้องหาซื้อเอง โดยหมอจะสั่งจ่ายยาให้  แต่ยาตัวนี้มีราคาแพงอาจต้องใช้เงินถึง 7 หมื่นบาท  ผมฟังเพื่อนเล่าผมก็บอกให้เพื่อนไปติดต่อสังเคราะห์ รพ. เหมือนตอนสมัยพ่อผม เพื่อนผมบอกว่าเขาไม่รับแล้วเพราะเขาถามว่าทำไมไม่ใช้ 30 บาท (เป็นไงละไปไม่ถูกเลยเพื่อนผม)  จึงต้องยอมรับยา 30 มากิน  กินได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ แม่เพื่อนตาย

 

ในใจคิด ถ้าวันนั้นไม่มีท่านทักษิณมาบริหารประเทศ แล้วหาเสียงกับความตายของคนไทย ปานนี้ระบบสาธารณะสุขไทยก็คงยังให้สิทธิคนจน คนรวย ที่มีสิทธิเข้าถึงยาเท่าเทียมกัน แม้ไม่มีตังค์เลยก็ตาม  แม่เพื่อนผมก็คงไม่ตายเร็วขนาดนี้  แล้วคำถามใหญ่ในหัวตอนนี้คือ เพื่อนผมซึ่งตอนนี้อพยพครอบครัวไปอยู่เชียงใหม่ เป็นคนเสื้อแดงขนาดแท้จะรู้ไหมว่า แม่เขาตายเพราะอะไร  แต่ผมว่าเพื่อนผมมันคงไม่รู้หรอก เพราะขนาดแม่มันตายมันยังให้รีบเผาศพแม่มัน (แม่อยู่กรุงเทพ) เพื่อไปให้ทันเลือกตั้ง  กลัวเจ๊แดงญาติทักษิณไม่ได้เป็น สส.

 

ส่วนผมซึ่งพอมีพอกินอยู่บ้าง ก็คงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมกันนโยบายนี้  ที่บ้านพอใครไม่สบายก็จะไป รพ.เอกชน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าท่านทักษิณจะกรุณาคนชั้นกลางอย่างผมมาก เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนทนายท่านทักษิณก็ซื้อกว้านซื้อกิจการ รพ. นั้นไปหมดแล้ว  ทำให้ตอนนี้ค่ารักษาแพงมาก ขนาดลูกเป็นหวัด พาไปตรวจให้แน่ว่าไม่ใช่โรคร้าย หมอจับตรวจจมูกและเจาะเลือด  ผลตรวจจมูกออกมาเป็นไข้หวัด  ส่วนเลือดที่เจาะหมอบอกไม่ได้ตรวจ (เอาไปทิ้ง) จึงถามว่าแล้วทำไมไม่ตรวจจมูกก่อน ถ้าไม่เจอค่อยเจาะเลือด  หมอตอบทันทีว่ามันเป็นแพ็คเกต ที่ รพ.บังคับไว้ นั่นก็คือ ทุกคนที่ไป รพ.จะโดนกันหมด ถามว่า ระบบนี้คนที่คิดเขาเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า  แต่ผมก็ต้องยอมเพราะไม่มีทางเลือก แล้วสุดท้ายผมก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเกือบ 3 พัน เพื่อให้พวกมันได้ดูดเดือดครอบครัวผม  อันนี้ยังไม่นับรวมที่แฟนผมปวดท้องขี้ไม่ออก หมอ รพ.เดียวกัน จับส่องกล้อง หมดไปเกือบ 4 หมื่น เพื่อแลกกับคำพูดของหมอที่ว่า ดีใจด้วยคุณไม่เป็นมะเร็งลำไส้ 

 

นี่เอาแค่นโยบายเดียวผมก็ว่า ประเทศไทยถ้าไม่มีท่านทักษิณมาบริหารประเทศ คนไทยคงมีสุขภาพแข็งแรงได้มากกว่านี้ เพราะระบบต่างๆ ของ รพ.รัฐแต่ละแห่ง เขาก็ดูแลคนจนด้วยดีตลอดมา  มาวันนี้คนจนถูกหลอกว่าจะรักษาฟรี มันกลายเป็นการจำกัดคนจนให้ตายหมดประเทศไป ส่วนคนชั้นกลางที่ดูเหมือนมีปากมีเสียงมาก ก็กำลังถูกลดระดับฐานะให้เป็นคนจนอีกไม่ช้า เพราะทักษิณยึด รพ.เอกชน ผูกขาดการรักษาพยาบาลคนไทยไปแล้วนั้นเอง

 

นี่ยังไม่กล่าวถึงนโยบายอื่นที่ผมว่า ตอนนี้ผมมีลูก 2 คน ค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูกแต่ละเดือนไม่พอกับรายรับ  ทำให้นั่งถึงแม่ผมซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ต้องดูแลสามีและลูก 6 คน ทั้งที่เงินเดือนน้อยมากแถมการศึกษาก็แทบไม่มี  ผมว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะรุ่นแม่ผมไม่มีนโยบายของทักษิณที่เอาเงินมาแห่แจกกันสนั่นเมือง แต่เขามุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับคนในชาติ ที่คนจนรัฐบาลให้ความช่วยเหลือมากกว่าคนรวย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ มันต่างจากทักษิณ ที่คิดว่าคนในชาติคือ แหล่งผลประโยชน์มหาศาลที่ต้องตักตวง คนจนจึงถึงบังคับให้กินยาเสื่อมคุณภาพ เพื่อเอาเปอร์เซ็นต์เข้ากระเป๋าตัวเอง คนชั้นกลางและคนรวยก็ถูกบังคับให้เข้า รพ.ของทักษิณ  อย่างงี้แล้วผมจะต้องบอกพวกคุณไหมว่า ถ้าทักษิณไม่เข้ามาบริหารประเทศ ประเทศนี้จะแย่แค่ไหน  แต่ไม่ว่าตอบกันยังไง ผมคิดว่าผมโชคดีที่ผมเป็นคนจนในสมัยที่ยังไม่มีทักษิณ  ไม่เช่นนั้นปานนี้ครอบครัวผมคงไม่ได้อยู่กันครบหน้ากันแบบนี้ ปานนี้ผมคงถูกหลอกให้ไปกู้เงินมาขับมอไซค์รับจ้างแล้วบอกว่าจะไม่ให้มีมาเฟียมาเก็บค่าคุ้มครอง แต่ผลที่ได้คือ การส่งพวกตัวเองมาเก็บแทนที่ต้องจ่ายสูงกว่าเก่า หรืออาจต้องไปขับแท๊กซี่ ซึ่งก็หลอกให้ใช้บัตรเครดิต ที่ให้แน่ใจว่าคนขับจะมีเงินจ่ายค่าแก๊สที่สูงขึ้นเท่าตัว หรือผมอาจเป็นชาวนาที่บอกว่าปลูกข้าวแล้วจะให้ราคาสูง แต่เขาก็ส่งพวกพ้องมาโกงเอาไปหน้าด้านๆ

 

ผมเป็นคนหนึ่งที่เกิดมามองเห็นภาพ 2 ยุค คือ ยุคก่อนทักษิณ ที่คนเสื้อแดงเรียกว่ายุคอำมาตย์ กับยุคทักษิณและพวก  มองเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน  ยุคก่อนทักษิณ ไทยเรามีนักการเมืองที่ถึงแม้เลว แต่พวกเขาก็ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง พวกนี้จึงคิดทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศพัฒนา  โดยที่ตัวเองคอยแต่หาเศษหาเลยกับโครงการต่างๆ  ต่างกับยุคทักษิณที่ทำอะไรนึกถึงตัวเองและครอบครัวเป็นหลัก โดยให้ประชาชนไปหาเศษหาเลยกันเอาเอง จึงไม่ต้องแปลกใจว่ายุคทักษิณมีความคิดแปลกๆ ไม่ว่าการซื้อที่รัชดา  ที่ก่อนซื้อจะต้องทำราคาที่ดินให้ตก เพื่อจะได้ซื้อราคาถูก พอซื้อได้ก็ทำให้ราคามันสูง จนประชาชนไม่มีโอกาสได้ซื้อ หรือแม้แต่การที่ตัวเองใช้อำนาจกำหนดความเป็นไปของประชาชนได้หมดในประเทศนี้ ประชาชนคนไทยจึงตกเป็นคนคอยรับเศษรับเลยจากทักษิณกันไป

 

มีสิ่งหนึ่งที่อยากฝากคนรักทักษิณไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าคนเสื้อแดงเป็นทักษิณ อายุ 60 กว่าๆ รวยระดับแสนล้าน  จะมีใครสักกี่คนที่ยังคิดโกงประเทศกันอยู่อีก ผมว่าอาจไม่มีเลย เพราะอายุที่เหลืออยู่ ต่อให้ต้องยืนยาวไปอีก 100 ปี เงินที่มีอยู่คงยังใช้ไม่หมด แม้แต่จะทำตัวรวยแสนรวยอย่างไรก็ตาม  แต่ทำไมทักษิณทำไม่ได้  ถ้าไม่ใช่ทักษิณเป็นคนโรคจิตที่มีจิตใจไม่เอื้อเฟือเพื่อนคนไทยด้วยกัน แม้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่จะใช้มันไม่หมด  แต่ทักษิณก็เลือกที่จะไม่แบ่งให้ใคร มันก็จึงเหมือนสุภาษิตไทยที่ว่า ขี้ไม่ให้สุนัขกิน อย่างงี้แล้วยังมีคนไทยยังเชื่อมันได้อีกหรือ 

 

ผมยังไม่รู้ว่าตอนนี้พวกคุณสรุปได้หรือยังว่า ถ้าประเทศนี้ไม่มีพวกทักษิณมาบริหารประเทศ ประเทศจะแย่แค่ไหน  แต่ในฐานะที่ผมเป็นคนสองยุค  ฟันธงได้ว่า ถ้าวันนี้ประเทศไม่มีทักษิณและพวกมาบริหาร ปานนี้คนจนที่ยังจนดักดานเหมือนผมสมัยก่อน คงได้ลืมตาอ้าปากกันได้บ้าง แต่ทุกวันนี้คนจนนอกจากจะรวยกันไม่ได้แล้ว ยังหลงติดกับดัดที่ทักษิณวางไว้ ด้วยการสร้างหนี้ให้กับคนไทย เพื่อทักษิณจะได้ผลประโยชน์จากหนี้เหล่านั้น  มันก็เหมือนการให้คนไทยไปกู้เงินมาให้ทักษิณใช้ ผลที่ได้คือ ทักษิณรวยขึ้นทุกวัน แต่คนไทยกับจนลงทุกนาที นั่นเอง