Jump to content


kornthana

Member Since 5 May 13
Offline Last Active 1 February 14 23:41
-----

#1016318 แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงให้ทักษิณ และยิ่งลักษณ์

Posted by kornthana on 19 January 2014 - 13:17




#1002309 เมื่อทักษิณจนตรอก สุดท้ายก็คือการขายชาติ ขายแผ่นดิน

Posted by kornthana on 12 January 2014 - 10:38

การที่ทักษิณวิ่งเต้นเพื่อให้ UN เข้ามาแทรกแซงในไทย ถือเป็นการขายชาติ ขายแผ่นดิน เพียงถือหวังให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไป

 

แม้ที่ผ่านมา ทักษิณพยายามยกแผ่นดินไทยให้ประเทศเพื่อนบ้านทำสำเร็จแล้วบางส่วน แต่ก็ยังติดปัญหาอยู่เล็กน้อย มันทำให้เห็นธาตุแท้ของทักษิณ ที่ยอมทุกอย่างได้หากตัวเองและครอบครัวได้รับผลประโยชน์ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้จนเกิดข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองขึ้น แต่นั้นไม่ได้ทำให้ทักษิณคิดเลยแม้แต่น้อย

 

วันนี้สิ่งที่ทักษิณต้องการมากที่สุดคือทำให้เกิดสงครามกลางเมือง   เพื่อเป็นเหตุให้ UN เข้ามาแทรกแซง ทุกอย่างจึงจัดฉากไว้เรียบร้อยแล้ว กองกำลังพร้อม เงินทุนพร้อม จึงเหลือเพียงการจุดกระแสให้ลามไปทั่วประเทศ มีการปลุกปั้นคนเสื้อแดงในภาคอีสานและเหนือ โดยใช้แนวคิดในการแบ่งแยกประเทศออกเป็นเหนือและใต้ เพื่อให้คนไทยฆ่ากันเอง หลังจากนั้นก็จะให้ UN เข้ามาจัดการเหมือนบางประเทศที่ UN ทำสำเร็จมาแล้ว

 

คำถามจึงมีว่า คนไทย ยอมรับกับสิ่งนี้ได้หรือไม่ 

 

แผนของทักษิณตอนนี้ใกล้สำเร็จแล้ว เมื่อ UN โดยการชี้นำของสหรัฐ รับลูกเต็มที่ รอเพียงให้การสงครามกลางเมืองขึ้นเท่านั้น

 

งานนี้ก็คงต้องรอดูกันไปว่า ทักษิณจะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่ เพราะทักษิณคิดอย่างเดียวว่า แม้แพ้ก็ไม่มีอะไรเสีย แต่ชนะทักษิณจะได้ทุกอย่างกลับคืนมาทั้งหมด แม้จะต้องอยู่เป็นทาสสหรัฐก็ตาม  ก็คงไม่ต้องถามว่าแล้วทักษิณคิดอย่างไรกับคนไทยทั้ง 65 ล้านคน คงไม่ต้องพูดหลายคนก็คงรู้คำตอบดีว่าทักษิณไม่เคยคิดถึงใครนอกจากตัวเอง

 

แต่สำหรับผมกลับคิดว่างานนี้สงครามกลางเมืองคงไม่ได้เกิดง่ายๆ เพราะหากดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 51 - 53 ที่ตอนนั้นทักษิณดูเหมือนมีความพร้อมมากกว่าปัจจุบัน ทักษิณได้กระแสจากคนรากหญ้า คนชั้นกลางบางส่วน มีแกนนำที่มีฝีปากกล้า แถมด้วยมีกองกำลังติดอาวุธ มีกองกำลังจากตำรวจ มีนักการเมืองในสภา มีภาคธุรกิจเอกชนบางส่วนก็ตาม แต่ทักษิณก็ยังทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ผิดกับตอนนี้ที่ดูเหมือนสิ่งเหล่านี้มันเริ่มไม่ทำงานกันบางแล้ว

 

ก็คงต้องดูกันต่อไปว่า ถ้าสำเร็จคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือเสื้อสีอะไร รับผลกระทบทั้งหมด ไม่เชื่อลองศึกษาบางประเทศที่ UN เข้าไปแทรกแซงได้สำเร็จว่าประเทศนั้นเขาอยู่กันอย่างไร ที่เห็นได้ชัดคือ ตีมอ ที่พอ UN เข้าไปจัดการสิ่งแรกที่รัฐบาลทำคือ การขายทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับต่างชาติ แล้วคนในชาติเป็นทาสใช้แรงงานประชาชนถูกกดขี่ ไม่มีใครมีสิทธิเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณกับต่างชาติเหล่านั้น นี่ก็คือผลตอบแทนที่ประชาชนรบล่าฆ่าฟันกัน ก็เพื่อให้กับต่างชาติที่เข้ายึดครองทั้งหมด ติมอจึงไม่ต่างเป็นเมืองขึ้นที่ต้องส่งเครื่องบัณณาการทั้งหมดให้ไป คนในชาติไม่มีสิทธิ ไม่มีเสียง ใดๆ ที่จะออกมาเรียกร้องหาประชาธิไตยหรือแม้แต่เรียกร้องขออาหารกินประทังชีวิตด้วยซ้ำไป

 

หรือแม้แต่ในอีรัก ที่ก็ยังเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ UN ได้เข้าไปจัดการแล้วก็ตาม ประชาชนยังคงล้มตายกันแทบทุกวันจากระเบิดของแต่ละฝ่าย UN ก็ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไร เพราะหน้าที่หลักคือการคุ้มครองแหล่งน้ำมันให้กับสหรัฐ  คำถามเมื่อมีตัวอย่างอย่างนี้แล้วคนไทยจะเอาอย่างนั้นหรือ

 

แต่สำหรับผมคงคิดในทางดีว่า คนไทยทุกคนย่อมรู้และตระหนักดีว่าเมื่อมีคนชักศึกเข้าบ้าน เมื่อนั้นเราจะร่วมกันต่อต้านเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา คนไทยไม่เคยยอมตกเป็นทาสใคร คนไทยมีความเป็นไทยได้ถึงทุกวันนี้เพราะความรักความสามัคคีของคนในชาติ  แม้ผมจะคิดว่า สงครามกลางเมืองจะไม่มีความเกิดขึ้นในไทย เพียงเพราะคนๆ เดียวที่คอยปั่นหัวคนไทยอยู่ เพราะไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองคุ้มภัยอันตรายแล้ว ยังมีข้าราชการหลายนายที่ไม่ยอมให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น โดยเฉพาะทหาร ที่พร้อมจะป้องกันเหตุ และยังมีคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังยืนหยัดต่อต้านอยู่

 

ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงเจตรมณ์อันแรงกล้าของคนไทยที่จะต่อต้านสงครามกลางเมือง จึงอยากให้ทุกคนแสดงพลังต่อต้านระบบทักษิณที่กำลังจะนำประเทศไปสู้หายนะโดยเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ผมคงไม่ต้องบอกว่าวันนี้จะทำอะไร เพียงแต่ถ้าเรารวมกันมากๆ จนทำให้โลกหรือ UN ได้รู้ว่า ความต้องการของคนไทยที่แท้จริงคืออะไร ระหว่างระบบทักษิณกับประเทศชาติ

 

เพียงแต่วันนี้สิ่งที่กลัวเล็กๆ คือ วันจันทร์หากการแสดงพลังมันดูน้อย ไม่พอที่จะข่มขวัญระบบทักษิณได้ วันนั้นคงอันตรายสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ที่ทักษิณจะเริ่มแผนชั่วขึ้นมาทันที แต่หากเรามีพลังที่มากพอ ได้ส่งไปให้ UN  ย่อมส่งผลดีในหลายๆ ด้าน  ด้านหนึ่งคือ ต่างชาติจะทำอะไรไม่ได้มาก และอาจเปลี่ยนใจได้ในที่สุด และอีกด้านคือจะมีการช่วยกันระวังภัยในกันและกัน  ทุกคนที่มารวมกันจะเป็นหูเป็นตาให้กับและกัน คนที่จะเข้ามาก่อกวนหรือป่วนย่อมไม่กล้าทำอะไรแน่นอน  วันนี้มันจึงเป็นการตัดสินใจของคนไทยทุกคนว่าจะเลือกให้ประเทศไปทางไหน ระหว่างความเป็นไทกับการเป็นทาส

 

 




#986812 ของขวัญชิ้นน้อยจากป๋าเปรมที่มอบให้อีโง่ ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2557

Posted by kornthana on 1 January 2014 - 23:28

เห็นด้วยว่า คนที่สนทนากันมีอยู่ 6 คน ข้อความต่างๆ ที่ออกมาจึงเป็นเพียงบางช่วง บางตอน ที่ต่างฝ่ายต่างก็หาประโยชน์เข้าข้างตัวเอง

 

ผมว่าแม้แต่คนที่เข้าไปร่วมฟัง ให้ลองมานั่งสรุปบทสนทนาทั้งหมด ก็อาจตีความไม่เหมือนกันด้วยซ้ำ แล้วจะไปเอาอะไรกับเรื่องนี้

 

มันจึงว่า เราควรหาอะไรมาสื่อว่า ที่คุยกันนั้นหมายความว่าอะไร  กันดีกว่า

 

อีปลวกให้เจกันดอกไม้กับป๋า ผมว่าอีปลวกต้องการแสดงถึงการขอโอกาส ขอขมาที่ล่วงเกิน ซึ่งก็คงดูไม่ยาก

 

แล้วป๋าก็มอบเน็คไทให้อีปลวก อันนี้ผมว่าสำคัญ เพราะ  เน็คไท เป็นเครื่องหมายของผู้ชาย

 

ผมก็ตีความได้ว่า ป๋าก็คงรู้ว่า ดอกไม้ที่อีปลวกนำมาให้นั้น ไม่ใช่มาจากอีปลวก แต่มีคนสั่งให้อีปลวกมาเพื่อขอขมา งานนี้อีปลวกจึงมีค่าแค่เด็กส่งดอกไม้เท่านั้น 

 

มันก็เหมือนกับผมถ้าสั่งดอกไม้ให้กับใครสักคน แล้วไปให้ด้วยตัวเองไม่ได้ ก็คงสั่งให้เด็กส่งดอกไม้เอาไปให้แทน อย่างมาก เราก็คงให้แค่ทิ๊ปเป็นเศษเงินกับเด็กนั้นไป แล้วก็คงไม่พูดอะไรกับเด็กคนนั้นนอกจากคำว่าขอบใจ หรือแม้แต่เราอยากพูดอะไรฝากไป มันก็คงไม่มีค่าอะไร เพราะเด็กมันมีหน้าที่แค่ส่งของ ไม่เข้าใจความรู้สึกระหว่างผู้ให้กับผู้รับ บทสนทนาในครั้งนี้ ผมจึงว่าไม่มีอะไรมาก คงไม่ต้องไปตีความ

 

ดังนั้นแล้วของที่ป๋าฝากกลับไปให้ จึงไม่ใช่ให้กับเด็กส่งดอกไม้เป็นสินน้ำใจ แต่เป็นการฝากให้กับคนที่เอาแจกันดอกไม้มา ซึ่งก็แน่นอนเด็กส่งดอกไม้ก็คงต้องกลับเอาของนี้ไปมอบให้ผู้ชายคนนั้น อันนี้ก็คงพอเข้าใจ

 

แต่มันไม่ได้จบแค่นั้นเพราะซองใส่เน็คไท เขียนคำว่า "เกิดมาต้องรู้จักทดแทนบุญคุณแผ่นดิน" ผมว่าอันนี้ซึ้ง เพราะมันเป็นเหมือนคำสอนที่จะสื่อไปถึงผู้ชายคนนั้นว่าควรตระหนักในเรื่องนี้  ถ้าตระหนักเหตุการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง อะไรทำนองนั้นแหละ

 

ผมว่าป๋าเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือมาก  แม้ไอ้แม้วมันจะพาพวกมาด่าท่าน มาทำลายข้าวของท่าน ทำให้ท่านเสียหายหลายครั้ง แต่ท่านไม่เคยโกรธ ท่านมีแต่ให้อภัย แม้ไอ้แม้วมันจะทำกับท่านครั้งแล้วครั้งเล่า ทำที มันก็มาขอขมาที พอกลับไปมันก็ทำอีก ทำแบบนี้มาหลายสิบครั้ง จนถึงครั้งนี้ ผมว่าท่านก็ไม่เคยโกรธไอ้แม้ว ท่านเพียงแค่เตือนสติ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังหาทางออกให้มันเป็นนัยๆ ว่า ถ้าอยากกลับมาอย่างเท่ๆ ก็ควรรู้จักทดแทนบุญคุณแผ่นดิน แล้วมันก็จะสมหวังเอง

 

งานนี้ผมก็จะทายต่อไปว่า สมองไอ้แม้วมันน้อยเกินกว่าที่จะเข้าใจประโยคสั้นๆ ที่ท่านสื่อไปให้มัน 

 

เพราะงานนี้ไอ้แม้วจะกลับประเทศได้อย่างเท่ๆ ท่านคงช่วยมันไม่ได้หรอก เพราะท่านไม่มีอำนาจอะไร

 

งานนี้มันเป็นเรื่องระหว่าง ไอ้แม้ว กับ คนไทยทั้งประเทศ ต่างหาก ดังนั้นการที่จะกลับมาได้จึงต้องทำให้คนไทยเขายอมรับว่า ตัวเองได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีแล้ว เป็นเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่เขารู้จักรักแผ่นดินเกิด รู้จักทดแทนบุญคุณที่ประเทศให้ความสุขกับตัวเองและครอบครัว ไม่ใช่หลงติดห่วงเป็นทาสเงินจนต้องขายตัวขายชาติเหมือนที่ไอ้แม้วเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ แต่เชื่อเถิดงานนี้ผมว่าไอ้แม้วก็คงไม่เข้าใจอีก เพราะดูเหมือนหลังจากเด็กส่งดอกไม้ออกจากบ้านสี่เสา ก็ไปเยี่ยมตำรวจ ทำท่าคึกคักเหมือนกับว่าสนับสนุนให้ตำรวจทำเต็มที่ไปเลย ไม่ต้องกลัว ฉันมีอำนาจฉันอยู่ข้างตำรวจ

 

แล้วแบบนี้มันเป็นการส่งสัญญาณอะไร มันก็คงเป็นแบบเดิมๆ คือ เข้าไปขอขมา ออกมาก็มาด่าท่านอีกเหมือนเดิม เชื่อเถิด




#986320 แม้วเป็นผู้สั่งให้บังยึดอำนาจปี49

Posted by kornthana on 1 January 2014 - 15:16

แม้วไม่ได้สั่ง แต่เป็นการบังคับให้ทำ

 

เพราะแม้วเริ่มกลัวม็อบ เลยคิดเอาพวกตัวเองเข้ามาคุมทหาร

 

ด้วยการปลด บิ๊กบัง แต่ข่าวหลุดเข้าหู บิ๊กบังจึงออกมาปฏิวัติ

 

มันพอสรุปได้ว่า การปฏิวัติครั้งนั้น ไม่ใช่เหตุผลเรื่องทุจริต หรือการจาบจ้วงสถาบันฯ

 

แต่ถึงแม้กระนั่น บิ๊กบังก็ยังไม่พอใจกับเรื่องที่ทำ เพราะบิ๊กบังต้องการคุมอำนาจทั้งหมด แต่สุดท้ายทำไม่ได้ เพราะต่างชาติถามหาการก้าวย่างต่อไปของคณะปฏิวัติ

 

บิ๊กบังจึงต้องตั้ง รัฐบาลรักษาการ และให้รัฐบาลร่าง รธน. เพื่อคืนอำนาจให้เร็วที่สุด

 

แต่กระนั่นบิ๊กบังก็ยังหวังว่าจะทำเหมือนในอดีต ที่คอยชักใยการบริหารประเทศอยู่เบื้องหลัง

 

ที่ไหนได้ คนที่คณะปฏิวัติเลือกพลเอก สุรยุทธิ์ ที่เป็นรุ่นพี่ และมีความอาวุโส มาเป็นนายกฯ ทำให้ความหวังของบิ๊กบังหมดลง

 

บิ๊กบังโกรธมากเมื่อสั่งรัฐบาลไม่ได้ จึงได้โยนทุกเรื่องให้พ้นตัว โดยบอกว่ามีคนอยู่เบื้องหลังการปฎิวัติ จึงได้เกิดวาทะ อำมาตย์ ขึ้นนับตั้งแต่นั้นมา

 

นี่แหละคือตัวตนของบิ๊กบัง ที่เมื่อทำอะไรก็คิดถึงตัวเองเป็นหลัก แต่เมื่อทำไปแล้วก็อยากได้มากกว่านั้น เมื่อไม่ได้ก็โยนความผิดให้คนอื่น

 

คนแบบนี้จึงคิดแต่เรื่องตัวเองเป็นหลัก ดีรับไว้เอง อะไรไม่ดีโยนให้คนอื่น บ้านเมืองมันถึงได้วุ่นวายขนาดนี้ก็เพราะใคร




#984787 ตำรวจทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญและระเบียบ ใครต้องรับผิดชอบ

Posted by kornthana on 30 December 2013 - 23:38

รัฐธรรมนูญ ปี 50 มาตรา ๖๓ วรรคแรกซึ่งบัญญัติว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ" แล้วตำรวจที่ไปชุมนุมวันนี้ทำไมพกอาวุธ กันแทบทุกคน 

 

ก็เลยมานั่งดูระเบียบตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี (เครื่องแต่งกาย,ระเบียบวินัย,การพกพาอาวุธ ฯลฯ) การพกพาอาวุธปืน ดาบปลายปืน และตะบอง ก็กำหนดไว้ ดังนี้

ข้อ 1 ห้ามมิให้ข้าราชการตำรวจซึ่งแต่งเครื่องแบบก็ดี หรือมิได้แต่งเครื่องแบบก็ดี หรือที่ปฏิบัติหน้าที่ราชการต่างๆ โดยทั่วไป พกหรือพาอาวุธปืนไปในถนนหลวง ทางหลวง หรือในที่สาธารณสถาน เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
   1. หน่วยตำรวจรักษษการณืที่เตรียมตัวอยู่กับที่เป็นหมวดหมู่เพื่อป้องกันและปราบปรามเหตุการณ์โจรผู้ร้าย
   2. ตำรวจสายตรวจ ตำรวจมราปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจร
   3. หน่วยตำรวจซึ่งได้รับคำสั่งให้ไปตรวจ หรือรักษาเหตุการณ์แรมคืน
   4. ตำรวจที่ประจำตู้ยามหรือด่านตรวจ
   5. ตำรวจที่ทำหน้าที่อารักขาบุคคลหรือเป็นยามสถานที่สำคัญ ซึ่งทางราชการสั่งให้มีอาวุธปืนติดตัวได้
   6. ตำรวจซึ่งทำหน้าที่ควบคุมเงิน
   7. ตำรวจผู้ควบคุมผู้ต้องหา หรือจำเลย หรือผู้ต้องหา เดินทางไปส่ง ณ ที่ใดๆ ซึ่งเป็นทางไกลหรือทางเปลี่ยวอันจำเป็นต้องมีอาวุธควบคุมอย่างเข้มแข็ง และหัวหน้าหน่วยงานที่จัดตำรวจควบคุมไปนั้นสั่งให้ตำรวจผู้ควบคุมมีอาวุธปืนไปในการนั้น
   8. เมื่อมีกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต้องปราบปรามเหตุการณ์ด้วยการใช้อาวุธให้ตำรวจพกอาวุธปืนเคลื่อนที่ไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ต้องมีหัวหน้าเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรคุมไป ถ้าไม่มีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรที่จะจัดให้ควบคุมไปได้ จึงให้จัดนายตำรวจชั้นประทวนถัดๆ ลงมาไปเป็นผู้ควบคุม
   9. ตำรวจที่ทำการฝึกซึ่งต้องใช้อาวุธปืนตามระเบียบที่ว่าด้วยการฝึก
   10. ตำรวจที่จัดเป็นกองหมวดหรือหมู่เกียรติยศตามระเบียบที่ว่าด้วยการจัดแถวเกียรติยศ
   11. ตำรวจซึ่งทำหน้าที่นำอาวุธปืนของหลวงหรือของกลางส่งยังที่ต่างๆ ในกรณีนี้ต้องบรรจุอาวุธปืนนั้นในหีบหรือห่ออย่างเรียบร้อย
   12. กรณีพิเศษอื่นๆ ที่ผู้บังคับบัญชาตำรวจตั้งแต่ชั้นผ็กำกับการขึ้นไป สั่งให้พกอาวุธปืนไปได้
ข้อยกเว้นเหล่านี้ เมื่อเสร็จกิจที่จำต้องพกหรือพาอาวุธปืนไปในการนั้นแล้วตำรวจที่มีอาวุธปืนเหล่านั้น ต้องรีบกลับหน่วยที่ตั้งโดยเร็ว ห้ามพกหรือพาอาวุธปืนแวะเวียนไปในที่อื่นใดอีก
   ข้อ 2 ในเขตพระราชฐาน เขตทหาร ในศาล ห้ามมิให้พกอาวุธปืนเข้าไป
   ข้อ 3 ตำรวจที่รักษาการณ์โดยทั่วไป นอกจากกรณีที่ยกเว้นไว้ตอนต้นนั้นให้ใช้อาวุธดังนี้
      1. ตำรวจนครบาลให้ใช้ตะบองตามแบบของกรมตำรวจ
      2. ตำรวจภูธร ให้ใช้ดาบปลายปืนของหลวง
   ข้อ 4 ตำรวจที่เดินทางจากต่างจังหวัดหรือต่างท้องที่ โดยพกอาวุธปืนสำหรับตัวไปด้วย ให้รีบนำอาวุธปืนและกระสุนทั้งของหลวงและของส่วนตัวไปฝากไว้ที่สถานีตำรวจเจ้าของท้องที่นั้นๆ เว้นแต่การเดินทางผ่านโดยไม่พักค้างคืน

 

ดูระเบียบตำรวจ ก็ไม่ได้อนุญาตให้ตำรวจพบปืนเข้าไปในม็อบตัวเองได้อีก แถมที่สำคัญระเบียบดังกล่าวยังห้ามตำรวจพกอาวุธปืน เข้าไปในเขตพระราชฐานอีก ไม่รู้ว่าตำรวจไม่รู้ หรือว่าลานพระบรมรูปทรงม้า เป็นเขตพระราชฐาน

 

จึงมีคำถามว่า งานนี้ตำรวจพบปืนเข้าไปร่วมม็อบที่อยู่ในเขตพระราชฐานได้อย่างไร อยากให้ตำรวจออกมาตอบข้อสงสัยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ผิดหรือไม่ ถ้าผิดใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

Attached Images

  • Untitled3.jpg



#983774 โฆษก ศอ.รส.บอกว่ามวลชนยึดเครื่องแบบ โล่ห์ ตะบอง และหน้ากากจากรถตำรวจไหปทำลายร...

Posted by kornthana on 30 December 2013 - 00:19

มีอีกรูปที่แสดงว่าวันเกิดเหตุตำรวจไม่ได้ล็อครถ แถมเปิดรถทิ้งไว้ ด้วยเพราะรถทุกคันจะมีพลขับเฝ้าอยู่แต่ละคัน แต่คลิปที่สร้างขึ้นมาดันล็อคประตูขึ้นมาเสียอย่างงั่น

Attached Images

  • Untitled1.jpg



#983211 ตะกวดจัดฉาก ดูแล้วใช้วิจารณญาณกันเองนะครับ

Posted by kornthana on 29 December 2013 - 11:59

ดูภาพมุมสูงในวันเกิดเหตุ รถตำรวจไม่ได้จอดอยู่บริเวณที่จอดรถดังกล่าว แต่จอดอยู่ด้านหน้าตึกกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือจะบอกว่าคนที่เข้าไปขโมยของเลื่อนรถมาจอดบริเวณนั้น แล้วค่อยทุบรถอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็แปลกอีกว่าขนาดมีคนเลื่อนรถได้ แต่ดันทุบรถ

http://www.youtube.c...VsVIaaqaus#t=32

Attached Images

  • Untitled.jpg



#983004 จากการประมวลเหตุการณ์ ผมว่ามีขบวนการเสี้ยมให้ปชช.กะตำรวจเกลียดกัน

Posted by kornthana on 29 December 2013 - 01:49

ไม่ต้องเสี่ยมหรอก ลองถามคนทั่วไปก็จะได้คำตอบเองว่าเขาคิดยังไงกับตำรวจ

 

ส่วนตำรวจเขาจะชอบคนธรรมดาหรือเปล่าไม่รู้ แต่เจอทีไรหาเรื่องจับผิด มันตลอด อันนี้ถามคนขับรถได้ทุกคน

 

อย่างงี้แล้วจะยังให้ตีความอีกหรือ




#982998 ตะกวดจัดฉาก ดูแล้วใช้วิจารณญาณกันเองนะครับ

Posted by kornthana on 29 December 2013 - 01:28

นาทีที่ 0.99 ประตูหน้าขวา เปิดจากข้างในแสดงว่ามีคนอยู่ในรถแล้ว แล้วทุบกระจกทำไม มันแปลกดี

 

แต่ที่แปลกไปกว่านั้น วันนั้นตำรวจระดมยิงแก๊สน้ำตาตลอดเวลา ในคลิปนี้กลับไม่มีควันให้เห็น ถ้าใครเคยเข้าไปในกระทรวงแรงงาน ย่อมรู้ว่าตรงที่เกิดเหตุเป็นจุดใกล้สนามไทย ญี่ปุ่นมากๆ ยังไงกลิ่นหรือควันต้องเข้ามาบ้าง  แต่คลิปนี้ทั้งคน ทั้งสถานที่ กลับไม่มีปฏิกิริยาเลย

 

ส่วนคนพากษ์ที่เสียงแจ๊วๆ นั้น ถามอีก เกิดเหตุวันนั้นพูดกันได้แบบนี้หรือ

 

และยิ่งให้สงสัยไปอีกคือ ตึกนี้ห่างจากสนามแค่ถนน(10 เมตร) กั้นอยู่ แต่ในคลิปก็ไม่มีเสียงระเบิด เสียงยิงกันเลย

 

สรุป ถ่ายคนละวันแน่นอน

 

ดูคลิปแล้วก็ปลง นี่หรือฝีมือตำรวจไทย มันรีบมากจนไม่คิด หรือว่าที่จริงก็มีฝีมือแค่นี้

 

เป็นตัวอย่างที่ดีของระบบทักษิณ ที่วิ่งเต้นกันจนหาคนฝีมือดีๆ ไม่มี คนที่ขึ้นมาใหญ่เสียเงิน แต่ด้อยแทบทุกด้าน 




#980829 ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เจอมรสุมวันนี้ เพราะใครแช่งไว้

Posted by kornthana on 27 December 2013 - 11:34

 

เป็นไปได้หรือไม่ทักษิณมีวันนี้เกิดจากคำแช่งชักหักกระดูกของณัฐวุฒิ ที่ขึ้นเวทีสวนลุมพินี ดูเหมือนว่าทุกอย่างที่แช่งในวันนั้นได้เกิดขึ้นบ้างแล้ว

 

เรื่องแรกคือ พงษ์พัศ ไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่า กทม. แล้ววันนี้ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ วันนี้กำลังโดนมรสุมรุนเร้าแบบไม่น่าเชื่อ อันนี้คือคำสาบแช่งบางส่วนที่ณัฐวุฒิกล่าวไว้

 

"ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ฟ้าดินเป็นพยาน ให้องค์พระสยามเทวธิราช ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระแม่ธรณี พระแม่คงคา ให้ดวงวิณญาณที่มีคุณูปการต่อประเทศทุกดวง ทุกรุ่น ทุกชนชั้น ได้โปรดรับฟังสิ่งที่ผมพูด ไอ้เหตุการณ์ที่ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้า บ้านตึกรางบ้านช่องต่างๆ ในราชประสงค์ แล้วก็มายัดเยียดว่าเป็นพวกผมเป็นผู้บงการเผาบ้านเผาเมืองนั้น  เหตุการณ์ดังกล่าวถ้าพวกผมเกี่ยวข้อง ทั้งเบื้องบ้าน ทั้งเบื้องหลัง ถ้ารู้เห็นสั่งการวางแผน เตรียมการทั้งเบื้องบ้าน ทั้งเบื้องหลัง ทั้งอะไรต่างๆ ทั้งสิ้น ถ้าเกี่ยวแม้แต่นิดเดียว ขอให้พินาศ ล้มจมลงในวันนี้ พรุ่งนี้ พี่น้อง"

 

คำถามคือแล้ว คนต่อไปจะเป็นใครต่อ เพราะณัฐวุฒิใช้คำว่า พวกผม นั้นก็หมายถึง คนที่มีเกี่ยวข้อง ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ในการเผาบ้านเผาเมืองทั้งหมด ไม่เว้นใครเลยสักคน

 

ดังนั้นใครที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงต้องเตรียมตัวไว้แล้วกัน กรรมเวรกำลังไล่ล่าอย่างกระฉันชิด แล้วคนที่จะโดนหนักที่สุดก็คงไม่พ้น ณัฐวุฒิ นั่นเอง

 

อย่างงี้ พอทำให้คนเสื้อแดงตาสว่างได้หรือยัง แค่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังก็ทำให้ชีวิตตัวเองและครอบครัว ต้องพินาศ ส้มจม ตามคำแช่งของณัฐวุฒินั่นเอง

 

เพราะอย่าลืมประเทศนี้มีสิทธิศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองมายาวนาน อร้าย อรี ผู้ใดคิดชั่วกับประเทศ ย่อมหนีไม่พ้นกับคำแช่งของบรรพบุรุษ แล้วยิ่งพวกเดียวกันเองแช่งแล้วด้วยมันจะยิ่งรุนแรงขนาดไหน ก็ขอให้ดูทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เป็นตัวอย่างแล้วกัน คิดเอาเองแล้วกัน




#973107 บทวิจัยนี่จริงป่าว?ช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ

Posted by kornthana on 23 December 2013 - 00:53

อันนี้เขาเรียกว่า เป็นการวิจัยประเภทเจาะจงตัวบุคคล  หรือเรียกอีกนัยหนึ่งคือ การวิจัยแบบเอาผลมาใส่เหตุ

 

นั่นคือ ผู้วิจัยต้องการให้ผลลัพท์ออกมาเป็นอย่างไรก่อน เหมือนกรณีตัวอย่างที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกาต้องการผลวิจัยที่อ้างว่า นมถั่วเหลืองกินดีกว่านมวัว  อันนี้ก็เกิดจาก บริษัทนี้เป็นผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดในโลก จึงให้เงินสนับสนุนจำนวนมากกับนักวิจัยที่พอมีชื่อเสียงทั่วโลกที่พร้อมจะขายตัวให้กับบริษัทนี้ แล้วเขาก็ทำสำเร็จ ตอนนี้ลองอ่านดูเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วคุณจะปวดหัวว่า ตกลงแล้วอะไรมันดีกว่ากันแน่ เพราะคนทำนมวัวก็มีงานวิจัยแบบหนึ่ง ส่วนคนทำถั่วเหลืองก็มีงานวิจัยอีกแบบหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไร งานวิจัยเกี่ยวกับนมถั่วเหลืองที่ดูเหมือนว่าใครกินแล้วจะเป็น superman ขึ้นมาทันทีก็แพร่หลายมากกว่า เพราะบริษัทนี้ให้จ่ายเงินมหาศาลมากกว่า มีทีมงานที่น่าเชื่อถือมากกว่าจึงพอสรุปได้ว่า งานวิจัยแบบนี้ขึ้นอยู่กับเงินเป็นตัวตั้ง  ใครยอมจ่ายเงินมากเท่านั้น

 

เรื่องนี้ก็เหมือนกัน คือเขาต้องการให้ผลงานวิจัยออกมาว่า คนที่เลือกเพื่อไทยส่วนใหญ่จบปริญญาตรีก็เป็นเรื่องธรรมดา จริงๆ เขาเอาแบบคนที่เลือกเป็นระดับศาสตราจารย์ ยังทำได้ เพราะเขาต้องการผลของงานวิจัยออกมาแบบนี้ เขาจึงเลือกใช้กลุ่มตัวอย่างที่จะทำให้ผลออกมาเป็นแบบนี้ได้ ด้วยการใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นหัวคะแนน นักการเมือง และประชาชนบางส่วน ที่เขาเจาะจงเท่านั้น คือนอกจากนั้นเขาไม่เลือก ก็ง่ายๆ คือ ก็ถามคนของพรรคเพื่อไทย ก็จะได้ผลเป็นอย่างที่เขาต้องการแล้ว  นี่แหละคือสิ่งที่ซ้อนอยู่ที่นักวิจัยทั้งหลายใช้เป็นช่องทางในการหาเงินเข้ากระเป๋า โดยการขอเงินสนับสนุนการวิจัยตามหน่วยงานของรัฐ มาสนับสนุน งานวิจัยพวกนี้จึงทำกันง่ายๆ เพียงแต่ทำตามคนจ้างเขากำหนดให้ผลของงานวิจัยต้องออกมาเป็นแบบนี้เท่านั้น

 

พอเห็นภาพนะครับ  ก็คงไม่ต้องตอบว่างานวิจัยพวกนี้เป็นอย่างไร แต่เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า งานวิจัยพวกนี้เอาเงินสนับสนุนมาจากไหน ถ้าไม่ใช่เงินภาษีของคนไทยทุกคนนั่นแหละ ถ้าให้ผมเดา งานวิจัยชิ้นนี้น่าจะได้เงินสนับสนุนมาจาก กระทรวงมหาดไทย ราคาก็คงไม่เท่าไร สัก สองล้านห้า อย่างต่ำ และก็ไม่อยากให้สงสัยต่อไปนะครับว่า ทำไมพวกอาจารย์ตามมหาลัยถึงได้มีความคิดแบบผิดมนุษย์กันมากขึ้น คงรู้คำตอบนะครับว่า จะมีอาจารย์ดีๆ สักกี่คนที่เข้าไปก้มกราบของานวิจัยแบบนี้มาทำให้เขาเสียชื่อเสียงกันบ้าง ก็มีแต่พวกอาจารย์ที่ชอบใส่เสื้อสีแดงนี่แหละที่ผมเห็นแล้วก็อนิจจังว่า สิ่งที่พวกเขาสู้อุตสาห์เรียนมาจากเมืองนอกเมืองนา แถมประเทศส่งเสียให้เขาเรียนจบมาเป็นอาจารย์นี่นะ มันไม่ได้ทำให้คนพวกนี้มีความคิดที่จะทำดีเพื่อประเทศชาติบ้างเลยหรือไง




#972115 ทักษิณมีวันนี้เพราะคนเสื้อแดงให้ล้วนๆ

Posted by kornthana on 22 December 2013 - 11:31

เห็นจำนวนคนที่ลุกขึ้นออกมาต่อต้านระบบทักษิณแล้ว คิดไม่ออกว่าตอนนี้ทักษิณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

 

หากทักษิณยังดึงดันที่จะเลือกตั้งให้ได้ ก็ใช้ว่าทักษิณจะกลับมาบริหารประเทศได้ แล้วเมื่อเป็นแบบนั้น ก็คงมีคนถอนตัวออกจากทักษิณไปเรื่อยๆ เช่น ชัจน์ กุลดิรก ที่เป็นเรียวแรงใหญ่ในเหตุการณ์ปี 53 ตอนนี้ก็ถอนตัวออกมาแล้ว ซึ่งถ้ากระแสยังแรงแบบนี้ที่แน่ๆ ก็ไม่พ้น พวกพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นนักการเมืองที่ถือว่าเอาตัวรอดเก่งที่สุดในโลก

 

คำถามจึงว่า ทักษิณมีวันนี้เพราะใครให้

 

ด้วยนิสัยคนไทยเป็นคนรักสงบ จึงไม่คิดออกมาเรียกร้อง หรือเสียเวลากับการไปร่วมม็อบกับใคร แล้ววันนี้เกิดกระแสต่อต้านรุนแรงแบบนี้ได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เขาอึดอัดกับทักษิณมาก แล้วปัญหาอะไรละที่ส่งผลมากที่สุด 

 

ถ้าเป็นเรื่อง พรบ. นิรโทษกรรม ผมก็ว่ามันห่างไกลจากความเป็นอยู่ของคนไทย ใครจะได้เงินคืน ใครจะไม่ติดคุกก็ไม่ได้ทำให้คนไทยดีขึ้นหรือเลวลง เรื่องนี้จึงมีผลไม่มากนัก ถ้าจะบอกเป็นเรื่องกู้สองล้านๆ ผมก็ว่ามีผลมากอยู่ แต่ก็คงไม่ถึงกับให้คนไทยต้องลุกขึ้นมากมายขนาดนี้ ดังนั้นเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เกิดจากปัญหาคนเสื้อแดง โดยเฉพาะพวกแกนนำต่างๆ

 

หากย้อนไปปี 53 ผมเชื่อด้วยความสุจริตว่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์คนเสื้อแดงออกมาอาลาวาดในกรุงเทพตอนนั้น การเลือกตั้งก็คงไม่ได้เร็วหรือช้าไปกว่าเดิม นั้นแสดงว่า คนเสื้อแดงไม่มีผลต่อการเลือกตั้งหรือทำให้เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แล้วก็เชื่อว่าถ้าไม่มีคนเสื้อแดง ยิ่งลักษณ์ก็ยังได้เป็นนายกฯ อยู่ดี เพราะการชนะเลือกตั้งไม่ได้เกิดจากคนเสื้อแดง แต่เป็นผลจากนโยบายประชานิยมต่างหาก

 

นั่นก็สรุปว่า คนเสื้อแดงไม่มีผลใดต่อทักษิณ แต่ในทางตรงกันข้าม งานนั้นคนเสื้อแดงสร้างความเกลียดชังให้คนกรุงเทพที่ส่งผลโดยตรงกับทักษิณอย่างมหาศาล  นี่จึงเป็นจุดเริ่มของวิกฤตของทักษิณจนถึงทุกวันนี้  ตอนนั้นหลายพื้นที่ในกรุงเทพ เพื่อไทยแพ้เลือกตั้งแบบยับเยิน แต่ก็คงไม่มีผลมากเท่ากับ เพื่อไทยแพ้เลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ซึ่งทักษิณคาดหวังจะยึดให้ได้ เพื่อคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือ ถ้ากุมผู้ว่า กทม.ได้ นั่นคือการสกัดไม่ให้เกิดม็อบในกรุงเทพ ได้อย่างชงัดนัก

 

ก็คงต้องยอมรับว่า การกระทำของคนเสื้อแดงในปี 53 ไม่มีอะไรดีกับทักษิณเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามกับส่งผลร้ายให้ทักษิณเป็นอันมาก  แต่นั่นก็คงไม่ได้ทำให้มีวันนี้ได้ หากคนเสื้อแดงที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ และมีลูกพี่คุ้มครองอยู่ กร่างได้ทุกทีทุกทาง  ทำให้คนเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ด้วยนิสัยที่รักสงบ และไม่คิดว่าไม่เรื่องของตัวเอง ทุกคนจึงอยู่อย่างสงบมาโดยตลอด

 

จนกระทั่งเหตุการณ์ที่ไม่มีใครนึกฝันว่า วันที่คนเสื้อแดงออกมาต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมของแกนนำ เป็นเหมือนไฟเขียวที่คนเสื้อแดงส่งสัญญาณอนุญาตให้คนทั่วประเทศออกมาประท้วงได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของคนที่รู้สึกอึดอัดออกมาต่อต้านได้อย่างเสรี มีการประท้วงในหลายพื้นที่แบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

 

ถึงได้บอกว่า ทักษิณมีวันนี้เพราะคนเสื้อแดงล้วนๆ   จึงมีคำถามฝากทักษิณว่า วันนี้เสื้อแดงให้อะไรคุณบ้าง นอกจากการเรียกร้องของตำแหน่งทางการเมือง การบังคับให้ทักษิณต้องทำอย่างงั่นอย่างนี้ตามใจคนเสื้อแดง (ดูจาก พรบ.นิรโทษกรรม) แล้วก็ถามอีกนิดว่าวันนี้ที่ทักษิณต้องเสียตำแหน่งทางการเมืองไม่ใช่น้อยให้กับคนเสื้อแดง และต้องให้กันกันอีกนานแค่ไหน ในเมื่อพวกเขาจะอ้างตลอดว่า ถ้าไม่ได้เป็น สส.จะไม่ได้สิทธิคุ้มครองทางกฎหมาย แล้วยังไงต่อ ถ้าไม่ใช่ทักษิณก็จะต้องชดใช้หนี้บุญคุณต่อไปแบบนี้ไม่รู้จักจบสิ้น แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ในเมื่อตำแหน่งทางการเมืองมีน้อยกว่าจำนวนคนเสื้อแดงต้องการอยู่แล้ว ต่อให้ทักษิณยกทุกตำแหน่งให้คนเสื้อแดง รับรองได้ว่า ก็สร้างปัญหาให้ไม่รู้จักจบสิ้น  แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป การทำงานทางการเมืองจะเกิดอะไรขึ้น

 

สิ่งที่เห็นได้ชัดว่า คนเสื้อแดงวันนี้ทำอะไรให้กับทักษิณได้ดีขึ้น นอกจากทำให้ทักษิณตกต่ำลงทุกวัน ทุกวัน และทุกวัน เมื่อเป็นแบบนี้ ก็คงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ที่คนเกลียดทักษิณมากมายขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะใคร นอกจากคนเสื้อแดง

 

หากคนเสื้อแดงได้อ่านบทความนี้ ก็ขอให้อ่านอย่างเป็นธรรม และคิดว่า สิ่งที่พวกคุณทำกับคนทุกวันนี้ มันส่งผลโดยตรงกับพวกคุณนั่นเอง ผมจึงเป็นเพียงกระจบสะท้อนให้เห็น หากพวกคุณคิดว่าจะรักษาองค์กรนี้แล้ว ก็ควรเปลี่ยนกระบวนได้แล้วเพื่อเรียกความศรัทธาของคนกลับคืนมาบ้าง  ถ้าให้ชัดอีกนิด ลองเรียนรู้วิธีการของสุเทพ ก็จะเข้าใจว่า เขาทำอย่างไรถึงได้เรียกคนได้มากมายขนาดนี้

 

สุดท้ายผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่า ถ้าวันนี้ไม่มีการเลือกตั้งจะเกิดสงครามกลางเมือง เพราะเมื่อถึงวันนั้นจริง แสดงว่าระบบทักษิณจะอ่อนแอลงมากซึ่งรวมถึงคนเสื้อแดงที่ไม่มีอำนาจใดคุ้มครองได้อีก จึงจะเอากองกำลังมาจากไหน เพราะนักการเมืองที่มีมวลชนอยู่ในมือ พร้อมจะเปลี่ยนข้างสับขั่วได้ตลอดเวลา แล้วเมื่อนั่นแกนนำเสื้อแดงนั่นแหละที่จะถูกโดดเดี่ยว  หรือแม้แต่ถ้าเกิดวันนั้นขึ้นจริง ทักษิณเกิดสั่งลุยขึ้นมาจะหาแกนนำเสื้อแดงคนไหนจะว่างพอที่จะก่อสงครามได้บ้าง กลัวว่าทุกคนก็คงต้องห่วงตัวเองและครอบครัวเพื่อให้พ้นภัย

 

ก็ขอให้คิดกันใหม่ ตราบใดที่ประชาชนยังออกมามากมายขนาดนี้ ผมรับรองได้ว่า ไม่มีสงครามกลางเมืองแน่ ว่าแต่ทุกคนพร้อมจะทำให้บ้านเมืองสงบหรือไม่เท่านั้นเอง

 

 




#971819 กราบเรียนขี้ข้าแม้ว ทั้งนอกและในบอร์ดเสรีไทย ประเทศไทยจะเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ

Posted by kornthana on 22 December 2013 - 03:13

ในความคิดเห็นผมกลับมองตรงข้าม เพราะคนเสื้อแดงแท้ๆ มีไม่มากแล้ว

 

ทั้งนี้เพราะคนเสื้อแดงที่อยู่ในเขตเมืองส่วนใหญ่ก็อยู่ในเขตชุมชนแออัด คนพวกนี้จึงอยู่ในสังคมแคบๆ เป็นคนตกขอบ โดดเดี่ยว เพราะไม่เคยฟังเหตุผลอะไรนอกจากความเชื่อ เหมือนคนคลั่งลัทธินอกศาสนา ถือทักษิณเป็นพ่อ คนกลุ่มนี้ก็พอมีบทบาทอยู่บ้าง แต่จำนวนก็มีไม่มากอย่างที่คิด ก็คงยอมรับว่าคนกลุ่มนี้ยังมีบทบาทสูงในกลุ่มคนเสื้อแดง ที่พร้อมจะลุยได้ทุกเมื่อหากมีใครไปปั่นหัวเข้า แต่ด้วยศักยภาพของคนกลุ่มนี้มีจำกัด ถ้าให้ไปปาระเบิด เผารถเมล์ คงทำได้ ถ้าสูงกว่านั้นลำบาก อย่างเช่นลาก m 79 ออกมายิงทำไม่ได้แน่

 

 ส่วนคนที่อยู่นอกเขตเมืองก็ไม่ค่อยจะมีได้เห็นกันแล้ว จำนวนคนขึ้นอยู่ที่พวกของนักการเมืองท้องถิ่น  ที่เขาพูดอะไรก็เชื่อ เอาอะไรมาให้ก็เอา คนกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีความคิดเห็นอะไรมาก ทำงานทั้งวัน ไม่มีเวลาสนใจเรื่องการบ้านการเมือง แล้วถ้าไม่มีเรื่องเดือดร้อนถึงตัว อย่างเช่น จำนำข้าวไม่ได้เงิน เขาไม่ออกมาวุ่นวายกับสังคมภายนอก เพราะเขาต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว  ดังนั้นคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นคนของนักการเมืองท้องถิ่นที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงสีเสื้อได้ตามนักการเมืองหยิบยื่นให้    ทั้งหมดจึงว่าไปประเมินคนเสื้อแดงแท้ๆ สูงเกินไป

 

วันนี้ทักษิณจึงไม่แน่ใจในกำลังเสื้อแดงว่าแท้จริงแล้วมีเท่าไร หากก่อสงคราม ถ้าไม่อย่างงั่นทักษิณทำสงครามไปนานแล้ว ไม่รอถึงวันนี้  

 

ส่วนแกนนำเสื้อแดง ก็หลงว่าตัวเองมีมวลชนอยู่ในมือ แต่แท้จริงมีจำนวนไม่มาก กองกำลังที่เรียกใช้ได้ลดน้อยไปมาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไร อาจเป็นเพราะคนเหล่านี้คาดหวังมากกับแกนนำ จึงแห่กันไปขอความช่วยเหลือแบบล้นหลาม แต่แทบทุกคนผิดหวัง แกนนำปล่อยทิ้งแบบไม่เหลียวแล

 

จึงอยากบอกว่าอย่าไปประเมินคนเสื้อแดงสูงเกินไป เพราะตอนนี้กองกำลังเสื้อแดงปั่นป่วนไปหมดทั้งระบบ เพราะนักการเมืองยังไงมันก็หวังประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก หากมีปัญหาหรือความรุนแรงเกิดขึ้น คนพวกนี้เลือกที่จะยืนดูเฉยๆ จนมั่นใจว่าฝ่ายใดจะชนะ ถึงจะเข้าร่วมตอนท้าย

 

แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น คือแกนนำหลักอยู่หลังฉากแล้วทำให้ปี 53 สร้างความปั่นป่วนให้กับ อภิสิทธิ์กับสุเทพ ได้ ตอนนี้ก็ค่อยๆ ตีจาก ทักษิณ และพร้อมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับทักษิณเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่น ชัจ กุลดิรก

 

มันจึงว่า ถ้าวันนี้ลองคนออกมาเยอะดูสิ รับรองนักการเมืองส่วนหนึ่งจะหันกลับ 360 องศา เข้าข้างประชาชน พร้อมปล่อยทักษิณอยู่ตามลำพัง

 

ขออย่าหาว่าดูถูกเลยนะ (ถ้าแกนนำเสื้อแดงได้อ่าน) เพราะตอนนี้แกนนำทั้งหลายทำได้อย่างเดียวคือ หาที่หลบภัยและขนทรัพย์สินออกได้อย่างไรเท่านั้น ส่วนที่ว่าจะคิดทำสงครามกลางเมืองนั้นรับรองไม่มี แต่ถ้าต้องการยืนยันให้ชัดว่าแกนนำเสื้อแดงเป็นอย่างไร ให้สังเกตุ นายวีระกานต์ เป็นหลัก คนนี้จะออกมาร่วมเสมอหากเสื้อแดงเป็นฝ่ายได้เปลี่ยน เพราะวีระกานต์ มาจากนักการเมืองที่จะรอดูสถานการณ์ตลอดว่า ทำแล้วจะสำเร็จหรือไม่  พักนี้ถ้าสังเกตุให้ดีๆ  นายวีระกานต์ หายไปไหน คิดเอา

 

แต่นี้หมายถึงสถานการณ์วันนี้เป็นแบบนี้นะ ถ้าวันไหนลุงสุเทพอ่อนกำลัง แล้วมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กพ.นี้ รับรอง สงครามเกิดขึ้นแน่ เพราะทักษิณเหมือนเป็นพยักฆ์ติดปีก ที่จะได้นักการเมืองเข้ามาเป็นกองหน้าทันที แล้วขบวนการเสื้อแดงก็จะออกไล่ล่า คนที่คิดต่างไปทีละคน

 

ทั้งหมดนี้ถ้าไม่เชื่อ ลองเอาตัวเองเป็นตัวตั้งดูแล้วกันว่า ถ้าคุณมีพ่อเป็นตำรวจใหญ่ คุณกลัวกฎหมายไหม ในทางตรงกันข้ามถ้าวันหนึ่ง พ่อที่เป็นนายตำรวจใหญ่คนเดียวกันนั่นแหละ โดนสอบสวนเรื่องทุจริตและกำลังจะถูกไล่ออกอีกไม่กี่วัน คุณจะคิดเรื่องกฎหมายเหมือนเดิมไหม

 

ดังนั้นคนที่บอกว่า ถ้า กปปส.ทำสำเร็จจะเกิดสงคราม ผมรับรอง ไม่มีทางเกิด เพราะเมื่อถึงวันนั้น ทักษิณก็คงหาแกนนำเสื้อแดงไม่เจอแล้ว

 

วันนี้จึงเป็นโจทย์ใหญ่ให้คนไทยได้คิดแล้วว่า จะปกป้องประเทศนี้ไม่ให้เกิดสงครามการเมืองได้อย่างไร  คำตอบมันง่ายนิดเดียวคือ เพียงแค่พวกคุณก้าวเดินก้าวขาออกมาเดินบนถนน คุณก็ถือว่าช่วยป้องกันสงครามกันได้แล้ว ไม่เช่นนั้นถ้าลุงกำนันทำไม่สำเร็จละก็ ผมนึกไม่ออกว่า ทุกตารางนิ้วในประเทศนี้จะมีที่ยืนให้คนดีอยู่ไหม วันนี้จึงไม่ใช่เรื่องขอคนใส่เสื้อสีอะไรแล้ว แต่เราจะช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากสงครามกลางเมืองได้อย่างไรมากกว่า

 

อีกนิด บ้านเมืองนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พวกคุณเชื่อหรือไม่ วันนี้ทักษิณเริ่มคิดแล้วว่า ที่กลับบ้านไม่ได้ เป็นเพราะแกนนำเสื้อแดง ที่ออกมาโวยวายเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม จนเกิดกระแสลามไปทั่วประเทศ ทักษิณคิดว่าแกนนำไปเสื้อแดงไฟเขียวให้คนออกมาปฏิเสธ พรบ.นี้ได้แบบเสรี (ถ้าคิดให้ดีกระแสต่อต้านมีขึ้นหลังจากแกนนำเสื้อแดงออกมาโวยวาย แม้ตอนหลังหยุดแกนนำได้ แต่ก็สายไปแล้ว ดังนั้นต้นเหตุไม่ใช่ใคร นอกจากแกนนำเสื้อแดงล้วนๆ) อันนี้คนเสื้อแดงก็คงต้องตอบทักษิณเอาเอง แต่ก็คิดว่าจะไปห้ามไม่ให้ทักษิณคิดคงไม่ได้ เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ

 

ก็เลยอยากถามทักษิณไปว่า ลองคิดให้ดีสิว่า การมีเสื้อแดง มีประโยชน์กับตัวเองและครอบครัวไหม ถ้าปี 53 ไม่มีเสื้อแดง วันนี้ยิ่งลักษณ์ก็ได้เป็นนายกฯ อยู่ดี ต่างกันตรงที่ทักษิณไม่เป็นหนี้บุญคุณใคร ทักษิณไม่ต้องเสียเงินเสียทอง คน กทม.คงไม่เกลียดทักษิณมากขนาดนี้ แล้วทักษิณส่งพงษพัศก็คงเป็นผู้ว่า กทม. ไปแล้ว แล้วเมื่อได้ผู้ว่าฯ แล้ว ม็อบก็ไม่มีทางเกิดขึ้นใน กทม. แน่ๆ 

 

ถามต่อว่า ที่วันนี้แกนนำเสื้อแดงได้ปูนบำเหน็จนะ จะต้องปูนกันต่อไปอีกนานแค่ไหนถึงจะพอกับพวกเขา วันนี้พิสูจน์แล้วว่า ไม่ว่าจะให้ตำแหน่งไปมากแค่ไหน ก็มีปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน พูดก็พูดต่อให้ยกตำแหน่ง รมต.ให้แกนนำเสื้อแดงทั้งหมด ก็คงไม่น่า สุดท้ายก็มีปัญหาอยู่ดี ก็ยังดีที่วันนี้ทักษิณพอคิดได้บ้าง แต่กว่าจะคิดได้ก็ดูเหมือนจะสายเกินเสียแล้ว ทางที่ดีคือคงต้องคิดใหม่แล้วว่า จะทำอะไรหลังจากนี้ จะสู้แบบนี้ต่อไปเพื่อให้ปัญหาใหญ่ไปเรื่อยๆ หรือจะหยุดคิดสักนิด แล้วจะเข้าใจเองว่า ควรทำอะไรต่อไป ถ้าไม่ใช่ การไปหาความสุขในบันปลายชีวิตอย่างสงบ  




#954825 ประกาศอยู่ข้างประชาชน วิธีการโปรโมทธุรกิจแนวใหม่แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อสื่อ

Posted by kornthana on 10 December 2013 - 11:31

ความเห็น (ด้านล่าง) ของคนไทยผู้รักชาติคนหนึ่ง ใช้ชื่อ "ขอวิงวอนเพื่อชาติ" (Manager Online) คนที่อยากเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

 

ผมคงไม่ต้องพูดถึงทหาร แต่อยากพูดในส่วนภาคเอกชนที่ยังลังเลว่าจะทำตัวอย่างไรดี

 

ให้คิดแบบนี้คนส่วนหนึ่งในเสื้อแดง ไม่ใช่คนไทย มีทั้ง เขมร เวียดนาม (ดูจากสังคม online) อีกคนส่วนหนึ่งเป็นเพียงคนของนักการเมืองในแต่ละท้องถิ่นที่พร้อมจะปรับตัวเองได้หากมีข้อเสนอที่ดี (แม้แต่แกนนำเสื้อแดง พวกคุณคิดว่าถ้าทักษิณไม่อยู่แล้ว จะยังจงรักภักดีกับทักษิณอยู่)  ดังนั้นคนที่จงรักภักดีกับทักษิณจริงๆ มีไม่เท่าไร แล้วพวกคุณยังคิดมากอยู่หรือ

 

วันนี้เป็นโอกาสพวกคุณแล้ว หากต้องการให้ธุรกิจของท่านโด่งดังโดยไม่ต้องโปรโมทโฆษณาให้เสียเงิน ประกาศตัวอยู่ข้างประชาชน ได้แล้ว ไม่เชื่อลองดูสิ แค่ประกาศคำว่า "สนับสนุน ลุงกำนัน หรือ กปปส." แค่นี้สื่อ online ที่มีประสิทธิภาพเข้าถึงประชาชนมากที่สุดในตอนนี้ ก็เอาสินค้าคุณลงโฆษณาให้ฟรีๆ แล้ว

 

 

 

Attached Images

  • Untitled.png



#953650 เบื่ออ้ายนักวิชาการอ้างประชาธิปไตย

Posted by kornthana on 9 December 2013 - 16:46

ฟังบทวิเคราะห์ของพวกนักวิชาการ ที่สักแต่เรียน แต่ปฏิบัติไม่เป็น  พวกนี้มองทุกอย่างต้องเป็นไปตามตัวหนังสือ ก็อยากถามหน่อยว่า อ้ายตัวหนังสือที่ได้เรียนมานั้นมันโผล่ออกมาเหมือนเด็ก แล้วก็เติบโตได้เองตามยุคตามสมัยหรือไม่

 

ผมไม่ได้ปฏิเสธตัวหนังสือที่เรียนมา เพียงแต่ตัวหนังสือที่เรียนมา มันเป็นแค่แนวทางเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบด้วยใช่หรือไม่  แล้ววันนี้พวกนักวิชาการพวกนี้ ออกมาพูดเพียงแค่ว่า ทุกอย่างต้องทำตามตัวหนังสือที่เขียนไว้แบบเคร่งครัดอย่างงั้นหรือ 

 

คำถามวันนี้ คนที่ออกมาบอกว่าปฏิรูปประเทศไม่ได้ผิดหลักไปทุกอย่างนะ ยึดอะไร  ยึดประโยชน์ของประเทศ ยึดประโยชน์คนไทย หรือเพียงยึดแค่ตัวหนังสือที่กลูเรียนมาเท่านั้น  โดยไม่มองว่าแท้จริงของปัญหาของประเทศมันเกิดจากอะไรกันแน่ หรือคนพวกนี้อยู่ในกะลาจนไม่รู้ว่าบ้านนี้เมืองนี้มีปัญหากับทุกคน

 

อยากถามต่อว่า ที่บอกว่าทุกคนต้องหยุดแล้วเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง อยากถาม 2 ข้อ ดังนี้

1.  ถ้า ปชป. ชนะเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลได้ มีใครฟันธงได้ว่า เพื่อไทย จะไม่ใช้เสื้อแดงออกมาเดินบนท้องถนนอีก เพราะทักษิณพูดเองว่าแพ้ไม่เป็น

2. ถ้า เพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง แล้วคิดว่าคนที่ออกมาวันนี้จะหยุด จะไม่เกิดปัญหานี้อีก เพราะยังไงก็หลายคนก็เชื่อว่า คนตระกูลนี้มันมีนิสัยเป็นสันดานแล้วว่า เล่นการเมืองเพื่อหวังกอบโกย  หรือมีคนคิดว่า ทักษิณจะหยุดโกง แล้วไม่คิดนิรโทษกรรม  กลัวแต่ว่า พอเพื่อไทยชนะเลือกตั้งครั้งนี้ พรบ.นิรโทษกรรม เงินกู้ 3.5 แสนล้าน เงินกู้ 2 ล้านล้าน ก็คงถูกหยิบยกขึ้นมาทันทีหลังจากแต่งตั้งนายกฯคนใหม่ แล้วยังไงต่อไป จะมีคนออกมาแบบนี้อีกหรือไม่

 

แล้วยังไงต่อการเมืองไทย ก็ไม่พ้น ใครมาก็เป็นแบบนี้ แล้วคนไทยจะต้องทนต่อไปอีกนานแค่ไหน อยากถามอ้ายพวกนักวิชาการที่พวกนี้ทั้งชีวิตไม่เคยทำอะไรงานอะไร ไม่เคยลงมือปฏิบัติอะไร เพียงแต่อ่านหนังสือ แล้วจำมาสอนกับเด็ก เพียงแค่ต้องการรับเงินเดือนสูงๆ ไปวันๆ

 

ก็คงมีคำถามที่ว่า แล้วถ้าปฏิรูปแล้ว คนเสื้อแดงไม่ยอมรับจะทำอย่างไร  อันนี้ตอบได้ทันที่ว่า ถ้าเสื้อแดงไม่คลั่งระบบทักษิณ เชื่อว่าคนที่ได้ประโยชน์จากการปฏิรูป ย่อมได้กับคนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนเสื้อแดง

 

ก็คงมีคำถามว่า แล้วถ้าคนคลั่งระบบทักษิณไม่ยอมรับละ  อันนี้ก็เชื่อว่านักวิชาการพวกนี้ก็คงเป็นกบอยู่ในกะลาเหมือนเดิม  แท้จริงแล้ว คนเสื้อแดงไม่ใช่มี 15 ล้านเสียง คนเสื้อแดงที่คลั่งระบบทักษิณ แท้จริงแล้วมีจำนวนไม่เท่าไร เพียงแต่คนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะอยู่ในภาคอีสาน โดนทักษิณหลอกให้เลือก แล้วเขาก็เลือกตาม สส.เขตที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ดังนั้น ถ้า สส.พวกนี้ไม่มีแล้ว เอาแค่ 2-3 ล้านเสียงจะได้หรือเปล่ายังไม่รู้