i-mic

เด็กอนุบาลยังรู้  ว่าไข่ฮ่องกงแพงเพราะอะไร  เอามาเปรียบ  สงสาร โครตเง่าเหล่ากอจริงๆ  ที่จะต้องโดนลากมาด่า  เพราะลูกหลานสิ้นคิด

เปลี่ยนจากรถไฟฟ้า  ทำ  มอเตอร์เว   ไม่ได้หรือ  เอาแบบกรุงเทพ  -เชียงใหม่   กรุงเทพ-ขอนแก่น   กรุงเทพ-สุราช   ไปเลย    เพราะทุกวันนี้  ก็จ่ายรายทางให้ตำรวจอยู่แล้ว   สู่มาจ่ายให้มอเตอร์เวง่ายกว่าไหม    แล้วอย่างไปเทียว  ไปทำงาน   ทุกคนก็ใช้รถส่วนตัวกันส่วนใหญ่   และที่สำคุญ  อาจจะได้กินผักสด  เท่ากับรถไฟฟ้าความเร็วสูงขนด้วย  อิอิอิอิ

น้องกิตติ  ถ้ามาเรียนโรงเรียนพี่น่ะ  พี่จะให้สิทธ์น้อง  ไม่ต้องเข้าแถว   ไม่ต้องสวดมนต์    พี่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าน้องจะมีดีกว่าคนอื่นที่ทำทุกอย่างตรงไหน   

ไปเรียนเมืองนอกเลยน้อง    ไม่พอใจก็อย่าเรียนเมืองไทย    ไม่มีน้องคนนึง  คนอืนก็เรียน  แทนที่จะพูดถึงการสอนในเรื่องวิชาการ  พูดเรื่องการเปลี่ยนวิชาเรียน   มาพูดเรื่องเข้าแถวหน้าเสาธง    หรือยังอยากเรียน  ก็ไม่ต้องเข้าแถว  ไปนั่งหน้าเสาธงเลยไหม  หรือนั่งใต้ต้นไม้ระหว่างเพื่อนๆทั้งหมดเข้าแถว   ลองทำดูน่ะน้อง   แล้วน้องจะรู้  การทำตามกฎกติกาเล็กๆน้อยๆ  มันก็หมายถึงการฝึกความรับผิดชอบ  ฝึกวินัยให้ตัวเอง    หัดเข้าในใจไว้บ้าง  

เป็นไปได้หรอ  ถ้าพูดถึงเรื่องไก่  และ  สินค้าแปรรูปอย่าง  ฮอดดอก  ไส้กรอก  อะไรแบบนี้  ก็ไม่ได้ด้อยกว่า  ซีพีเลย  น่ะ    มีเหตุผลอื่นมากกว่ามั้ง

คดีนี้ฟ้องให้ตาย เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฏหมาย  ท้ายที่สุดศาลอาจพิจารณาความผิดแต่ได้รับการยกเว้นเนื่องจากเกิดขึ้นภายใต้ พรก.ฉุกเฉิน  เจ้าพนักงานไม่ต้องรับโทษ  ส่วนเหตุการณ์หลังตัดสิน พลพรรคเสื้อแดงก็คงบอกว่าเป็นศาลของอำมาตย์  เหมือนเช่นศาลรัฐธรรณูญ  แต่ใครเคยย้อนไปจำคดี  ซุกหุ้นได้ไหม  ศาลไหนหว่าที่ตัดสินให้ทักสิน บกพร่องโดยสุจริต  ไม้ใช่ศาลรัฐธรรมณูญของอำมาตย์ที่ว่าหรือ..

โดยความเห็นส่วนตัวจากหลักฐานที่ปรากฏ  คณะกรรมการชุดที่อนุมัติมีรายชื่อของ พงศ์พัศ  เพรียวพรรณ  และ อดุล  ร่วมด้วยใช่หรือป่าว

ด้วยเหตุ  ที่ คนรอบข้างเป็นครู   และไปสอบถามมาแล้ว  ว่า  ทำไมถึงต้องกู้หนี้ยืมสิน  มาเยอะขนาดนี้    ก็ได้คำตอบโดยสรุปว่า    ครูที่มีอายุตั้งแต่  45  ปีขึ้นไป  ที่เรารู้จัก  ให้คำตอบคล้ายๆกันว่า  พวกท่านเริ่มมาจากการเป็นลูกชาวนา   พ่อแม่ยากจน   มีลูกหลายคน   พอถึงจุดนึง  ที่ตัวเองมีเงินและมีกำลังซื้อ  ก็อยากหาสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ตัวเองและครอบครัว  ยิ่งโดยเฉพาะลูกครู   จะถูกเลี้ยงเป็นอย่างดี  ส่งไปเรียนโรงเรียนดีๆ  เพราะพ่อแม่เห็นว่าเมื่อสมัยก่อนนั้น  เราลำบากก็ไม่อยากให้ลูกตัวเองลำบาก  สังเกตดูครูรอบตัวท่านดูน่ะ  ว่าเป็นแบบนี้ไหม   แค่้เท่าที่สังเกตดู  เป็นเยอะมาก    โดยเฉพาะลุง  ป้า  น้า  อา  เพื่อนพ่อแม่ทั้งหลาย  เป็นแบบนี้กันทุกคน

กู้หนี้ไปใช้หนี้.............เป็นหนี้จนตาย

 

ถ้าจะช่วยครู ไม่ควรหาเงินมาให้กู้ครับ  ควรใช้วิธีลดดอกเบี้ยเงินกู้ และขยายระยะเวลาผ่อนชำระเพื่อให้ครูมีเงินเหลือพอที่จะใช้จ่ายประจำเดือน

ครูบางคนเขาพูดกับผมว่า ขอให้มีเงินให้กู้ ถึงมีกับระเบิดก็จะกู้ ถ้ามีเงินอยู่ด้วย 

มันเป็นแบบนั้นจริงๆ   ถึงครูจะมีหนี้เยอะ   แต่ทรัพย์สิน  ก็เยอะตามหนี้ไปด้วยน่ะจร้า   ครูตามต่างจังหวัดเท่าที่เห็นและรู้จัก   มีบ้านหลังใหญ่ๆ  ที่ดินเยอะมาก   รถหรูทั้งนั้นเลย  กู้ง่าย  ใช้หนี้ระยะยาว    ทำประกันหนี้ศูนย์    เป็นใครจะไม่กู้บ้างล่ะ    

น่าชื่นชมจริงๆเลยค่ะ  จากใจเลย  เก่งมาก  

http://www.youtube.c...eature=youtu.be

เก่งจริงเรื่องแบบนี้   ถ้าจัดการเรื่องปากเรื่องท้อง  ความเป็นอยู่  เอาแบบคนในชาติสุขสบายเจริญรุ่งเรื่อง    ใครเค้าจะไปหมิ่นค่ะ  มีแต่คนจะ  ชื่นชม    หรือรับไม่ได้ที่เค้าพูดความจริง

ครับตอนมาตั้งกระทู ผมก็โมโหไปหน่อย แต่พอผ่านมาสักระยะ  ผมก็ปลงตก จากคนเคยทำงาน ก็โดนปลด ไม่ให้เราทำ เราก็อยู่เฉยๆ มึนๆ รับเงินเดือนไปเดือนๆ แต่ผม สอนนักเรียน ของผมให้มีคุณภาพเต็มที่นะครับ แต่กับงานอื่น ๆในเมื่อไม่อยากให้เราทำ ก็สบายสิครับ ทนดูคนอื่นทำไปหน่อยเด๋วก็ชิน ทุกสิ่งไม่ใช่ของเรา ผมคิดแบบนี้ ผอ มาแล้วก็ไป หมดอำนาจเมื่อไร ก็หมาตัวหนึ่งครับ ผมว่างั้น อิอิ  ตอนนี้ช่างมันครับ มีครอบครัวที่อบอุ่น พร้อม มีศิษย์ที่รักเรา เชื่อฟังเรา ก็เพียงพอแล้วครับผม

จะพยายมเช่นเดี๋ยวกัน  หาวันนี้เราทำอะไรไม่ได้  แต่ในอนาคต  คนที่เราส่งเขาออกไปพร้อมด้วยภูมิคุ้มกันในเรื่องแบบนี้อย่างเต็มที่  ถึงแม้มันจะเป็นพลังเพียงน้อยนิด  ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

 

 

เอาเงินภาษีกรูคืนมา

กรูให้ไม่ได้หรอก   กรูแดรก  หมดแล้ว   (คิดว่ามันคงตอบแบบนี้)  555555555+++++++

งั้นปีนี้มาหาทางไม่จ่ายภาษีพวกมันกันเถอะ
ถ้าต้องจ่ายก็จ่ายให้น้อยที่สุด

 

 มีวิธีที่ไม่ต้องจ่ายภาษี  ให้พวกมันเยอะคือ  

1. เป็นคนไทยต้อง “ใจบุญ” บริจาคเงินทำบุญบ้าง โดยหลังจากบริจาคเงินให้แก่มูลนิธิหรือสถานที่ต่างๆ แล้ว เราสามารถนำใบเสร็จมาคำนวณหักลดหย่อนภาษี ได้เท่ากับจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ต้องไม่เกิน 10 % ของรายได้
2. ต้องเป็น “ลูกกตัญญู” หากใครมี บิดา-มารดา ที่ไม่มีเงินได้และมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กรมสรรพากรให้เราใช้สิทธิในการเลี้ยงดู บิดา-มารดา มาคำนวณลดหย่อนภาษีได้ท่านละ 30,000 บาท สรุปแล้วเมื่อนำสิทธิการเลี้ยง บิดาและมารดา มารวมกันเราสมารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาทต่อปี แต่ทั้งนี้ บิดา-มารดา จะต้องออกหนังสือรับรองด้วยว่าเราเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดู และในหนึ่งครอบครัวหากมีลูกหลายคนกรมสรรพากรให้สิทธิลูกเพียงคนเดียวเท่านั้นที่นำสิทธิการลดหย่อนภาษีนี้ไปใช้ได้ หากมีลูกหลายคนจะใช้สิทธิซ้ำซ้อนกันไม่ได้
3. รีบสละโสดทันทีที่มีโอกาส บรรดาสาวๆ หรือหนุ่มๆ ทั้งหลาย เมื่อเลือกเฟ้นคู่ชีวิตที่ถูกใจได้แล้ว ต้องรีบแต่งงานจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย เท่านี้กรมสรรพากรก็ให้สิทธิหักลดหย่อนภาษีคู่สมรสได้ 30,000 บาท และถ้ามีบุตรหรือบุตรบุญธรรมก็จะสามารถนำมาคำนวณหักลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บาทต่อคน แต่ไม่เกิน 3 คน และบุตรต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี เท่านั้น

เอาเงินภาษีกรูคืนมา

กรูให้ไม่ได้หรอก   กรูแดรก  หมดแล้ว   (คิดว่ามันคงตอบแบบนี้)  555555555+++++++

ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคงัย     สูบเลือดสูบเนื้อประเทศได้น้อย