silence

ขอความกรุณาลบเถอะค่ะ  อย่านำภาพพระองค์ท่านมาตัดข้อความใส่ เพื่อกล่าวหากันแบบนี้เลย

แจ้ง mod ด้วยนะคะ

 

 

 
บันทึกลับ!! ร.อ..วัชรชัย ผู้ลอบปลงพระชนม์ ร.๘????
ได้มีโอกาสเจอคุณลุงท่านหนึ่ง(ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ที่เป็นคนในครอบครัวของ ศ.น.พ.ชุบ โชติกเสถียร หรือฉายา " หมอสปัสซั่ม " ศัลยแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผู้ชันสูตรพลิกพระศพของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ ๘ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ท่านเป็นหมอที่ยืนยันว่านอกจากจะมีการลอบปลงพระชนม์ด้วยอาวุธปืน " พาราเบลลั่ม(Parabellum) "แล้ว ยังมีการวางยาในหลวง วางยาต้นห้อง
คุณลุงนั่งกินหมูกระทะกับผมโดยบังเอิญ ที่หน้าสถานีวิหคเรดิโอ เชียงใหม่ เมื่อ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพราะท่านมาวันเกิดลูกของน้องชายผม เลยคุยกับแบบถูกคอเรื่องบ้านเมือง ในอดีตจนถึงปัจจุบัน คุณลุงเล่าให้ฟังเรื่องการลอบปลงพระชนม์ ร.๘ ว่า ศ.น.พ.ชุบ โชติกเสถียร ผู้เป็นบิดา จะไปเป็นพยานในศาลคดีลอบปลงพระชนม์ ปรีดีได้มาเจรจา เพื่อให้ยอมไปให้ปากคำว่า เป็นการปลงพระชนม์ตัวเอง โดยยื่นสินบนด้วยคำพูดว่า "จะเปิดคลังหลวงให้และให้เอากระเป๋าไป ๒ ใบ ใส่เงินเท่าที่ใส่ได้ ให้ไปกินอยู่ตลอดชีวิต แค่อย่าให้ปากคำกับศาลว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์"
ในสมัยนั้นถ้าใครไม่ยอมทำตาม ก็จะมี "เก๋งดำ" หรือรถยนต์เก๋งสีดำ มาจอดหน้าบ้าน นั่นหมายถึงว่าตายทุกราย จนข่าวนี้โด่งดั่ง เกิดข่าวลือว่า ศ.น.พ.ชุบ ตายแล้ว อันที่จริง ศ.น.พ.ชุบ ได้จ้างทหารมาเป็นยาม ถือปืนลูกซองอยู่ในบ้าน ใครเข้ามา "ยิงทิ้งทันที" จากนั้นก็ไปให้ปากคำกับศาลยืนยันว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์จริง ระบุว่าในการตรวจพระศพยังพบว่ามีการ "ลอบวางยา" ต้นห้องของในหลวงรัชกาลที่ ๘ และในพระวรกายของพระองค์ท่านยังพบว่า มีการพบ "น้ำมันละหุ่ง" ในปริมาณมากผิดปกติ จนทำให้เกิดอาการ "มึนงง" ก่อนการลอบปลงพระชนม์
คำว่าหมอ "สปัสซั่ม" สื่อมวลชนในสมัยนั้น ได้ให้ฉายา กับ ศ.น.พ.ชุบ เพราะคำให้การที่อธิบายถึงคนที่จะยิงตัวตายได้ จะต้องมีอาการเกร็ง หรือ "สปัสซั่ม(Spasm)" แต่ในหลวงรัชกาลที่ ๘ ไม่มีพระอาการดังกล่าว นั่นยิ่งแน่ชัดว่าเป็นการลอบปลงพระชนม์ ที่ ศ.น.พ.ชุบไม่ให้ปากคำตามที่นายปรีดีต้องการ เพราะท่านได้ทุนเจ้าฟ้าฯเรียนในประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี มีพี่น้องคือ ๑. หลวงประเสริฐไมตรี โชติกเสถียร ๒. พลเอกหลวงสุระณรงค์ โชติกเสถียร สมุหราชองครักษ์-องคมนตรี ๓. ศ.น.พ.ชุบ โชติกเสถียร ๔. ท่านผู้หญิงศิริ สารสิน เป็นบุตรของ ทูตพระสัมผกิจปรีชา โชติกเสถียร และคุณหญิงฉลวย โชติกเสถียร ซึ่งพลเอกหลวงสุระณรงค์ โชติกเสถียร คือ สมุหราชองครักษ์ ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็น "องคมนตรี"
โดยได้รับใช้ดูแลในหลวงรัชกาลที่ ๘ และรัชกาลที่ ๙ พระพี่นางฯ สมเด็จย่า มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กในประเทศไทยตอนยังไม่ได้ครองราชบัลลังก์ ก่อนเสด็จฯไปประเทศสวิส ทำให้ ตระกูล "โชติกเสถียร" มีความใกล้ชิดและจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีเป็นอย่างมาก พอเกิดการเปลี่ยนแปลงจากคณะราษฎรยึดอำนาจกันเอง ทำให้นายปรีดีหมดอำนาจ จากฝีมือจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ชีวิตของ ศ.น.พ.ชุบ จึงรอดเงื้อมมือมัจจุราชมาได้ และได้ก่อตั้งโรงพยาบาล หน่วยแพทย์อาสา จนสิ้นอายุขัยด้วยวัยชรา
ลุงตั้งข้อสงสัยว่าทำไมสำหรับ ใจ อึ้งภากรณ์ ลูก ดร.ป๋วย มาใส่ร้ายโจมตีรัชกาลที่ ๙ กล่าวหาว่าเป็นผู้ลอบปลงพระชนม์รัชกาลที่ ๘ เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์นั้น ผมอธิบายกับคุณลุงนิต ตามหลักยุทธศาสตร์การเมืองว่า เป็นเรื่องที่ไม่แปลก เพราะทั้ง ดร.ป๋วย ทั้ง ใจ เป็นฝ่ายซ้ายนิยมในคอมมิวนิสต์ แม้ ดร.ป๋วย จะเป็นเสรีไทยสายอังกฤษ แต่ก็ไม่นิยมเจ้าจึงเป็นพรรคพวกเดียวกับอำมาตย์ตรีปรีดี การปล่อยข่าวทำลายสถาบันกษัตริย์ เป็นหลักในการล้มล้างการปกครองในประเทศฝรั่งเศส ที่จะปล่อยข่าวทำลายราชวงศ์ก่อนที่จะมีการโค่นล้ม โดยมีรากเหง้ามาตั้งแต่ ประชาธิปไตยเกิดขึ้นนครรัฐกรีกโบราณ ช่วงศตวรรษที่ ๕ ก่อนคริสตกาล ยุคเมโสโปเตเมีย(Mesopotamia) ฟินิเซีย(Phoenician)และอินเดีย(India) ที่มีนักปราชญ์ที่รู้จักกันในนาม "เพลโต้" democracy ในภาษาอังกฤษมีรากศัพท์มาจากภาษากรีกโบราณว่า "ดีมอคระเทีย" หลังการลอบปลงพระชนม์สมัยนั้น
คดีลอบปลงพระชนม์ ถูกรื้อฟื้นอีกครั้ง หลังจาก จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจจอมพล ป. สำเร็จ โดยถือหลักคิดโจโฉ ถือธงนำหน้า ปกป้องพระเจ้าแผ่นดิน ส่วนวาทกรรมที่ว่า "ปรีดีฆ่าในหลวง" ที่มีการประกาศในโรงภาพยนตร์สมัยนั้น เกิดจากประชาชนที่อดรนทนไม่ไหว กับการยึดครองอำนาจของคณะราษฎร เกิดการทุจริต คอร์รัปชัน(corruption) เข่น ฆ่าประชาชน ฆ่ารัฐมนตรี รัฐประหารกันเองหลายสิบครั้ง ปลงพระชนม์ในหลวง ต่างหาก
แต่ฝ่ายซ้าย หรือฝ่ายคอมมิวนิสต์จะเอามาโจมตีว่าเป็นฝีมือของ “พรรคประชาธิปัตย์” พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นโดย นายควง อภัยวงศ์ พระอนุชาของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ ๖ โดยเจตนาโจมตีป้ายสีในหลวงรัชกาลที่ ๙ ว่าเป็นผู้ลอบปลงพระชนม์ ให้เกิดเป้าหมายสูงสุด คือ ปลุกให้ประชาชนไม่พอใจ ลุกฮือเปลี่ยนแปลงการปกครอง เหมือนที่เกิดในฝรั่งเศส รัสเซีย ฯลฯ
การสอบสวนคดีลอบปลงพระชนม์ ร.๘ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รื้อฟื้นขึ้นเมื่อ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ มีการแต่งตั้งให้ พล ต.ต. พระพินิจชนคดี กลับเข้ารับราชการทำหน้าที่สืบสวนกรณีสวรรคตเสียใหม่ หลังถูกปลดออกในช่วงรัฐบาลจอมพล ป.(นอมินีปรีดี) บทสรุปบันทึกจากทั้งฝ่ายคอมนิวนิสต์ คือ ฝ่ายผู้แพ้ ฝ่ายขวา คือ ฝ่ายชนะ และคนกลาง ตรงกัน คือ ในหลวงราชการที่ ๘ ถูกลอบปลงพระชนม์จริง
จากพยานที่ถูกบันทึกไว้ทั้ง ๓ ฝ่าย ระบุตรงกัน รวมทั้งคำพิพากษาศาลฎีกาคดีลอบปลงพระชนม์ว่า เพราะในหลวงรัชกาลที่ ๘ จะทรงมาลงเลือกตั้งแข่งขันเป็นนายกรัฐมนตรี และจะให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เป็นในหลวงแทน จากการสอบสวนและบันทึกส่วนพระองค์พบว่า ร.๘ พระองค์ทนไม่ได้ที่ถูกปรีดี ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผู้สำเร็จราชการ ริดรอนพระราชอำนาจ กดขี่ จนมีบันทึกในประวัติศาสตร์ไว้ว่า " แม้แต่รถก็ไม่มีให้ใช้ หากแม่เราป่วยจะไปโรงพยาบาลจะไปอย่างไร "
จากผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า ผู้ลงมือลอบปลงพระชนม์คือ " ร.อ.วัชรชัย " อดีตรองราชเลขาสำนักพระราชวัง คนสนิทปรีดี ที่ทำหน้าที่เป็นรองราชเลขาสมัยนั้น ที่เริ่มให้ ร.๘ ซ้อมยิงปืน เมื่อเกิดเหตุจะได้ไม่มีใครสงสัย ลอบสังหารต้นห้อง 2พี่น้อง นายสินกับนายทรัพย์ จนเสียชีวิต จากนั้นเข้าไปวางยา ร.๘ แล้วจึงลอบปลงพระชนม์ด้วยอาวุธปืน เมื่อสำเร็จ ก็หลบหนีไปร่วมกับอำมาตย์ตรีปรีดียังประเทศจีน แล้วกลับมาร่วมกันก่อกบฏวังหลวง กบฏแมนฮัตตัน กบฏเมษาฮาวาย แต่ไม่สำเร็จ
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้อำนาจศาลสั่งประหาร นายเฉลียว ปทุมรส อดีตราชเลขานุการในพระองค์ นายชิต สิงหเสนี และนายบุศย์ ปัทมศริน สองมหาดเล็กห้องพระบรรทม ในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยทำให้เกิดการลอบปลงพระชนม์ และเกี่ยวพันการลอบปลงพระชนม์ ส่วน ร.อ.วัชรชัย ที่หลบหนีไปกับปรีดีหลบซ่อนในจีน ได้ขอให้ทางการจีนสังหารให้ตายตกไปตามกัน ส่วนปรีดี โจวเอินไหล เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เชิญให้ออกจากประเทศ ไปลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งเสียชีวิตบนโต๊ะทำงานด้วยโรคหัวใจ
เรื่องการใส่ร้ายป้ายสีสถาบันกษัตริย์ ฝ่ายคณะราษฎร ได้เริ่มกระทำการปลุกปั่นอย่างหนัก มาตั้งแต่เริ่มทำการปฏิวัติสยาม ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ และทำหนักป้ายสี ร.๙ ในยุคจอมพล ป. เพื่อหวังยึดอำนาจการปกครองให้เบ็ดเสร็จ แต่ถูกจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐประหาร จึงมีการรื้อคดีลอบปลงประชนม์ขึ้นมา ต่อมาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หรือขบวนการก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ได้นำหลักนี้มาป้ายสีอีก ก่อนเกิดเหตุการณ์วันเสียงปืนแตก คือ วันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ ซึ่งเป็นวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ใช้อาวุธโจมตีกองกำลังของรัฐบาลไทยเป็นครั้งแรก
จนกระทั่งมาในยุคขบวนการแบ่งแยกดินแดนเสื้อแดงก็นำวิธีเดียวกันมาใช้ ตั้งแต่ ราว ๑ มกราคม ๒๕๕๒ ก่อนเกิดเหตุการณ์เมษาจราจล ๑๒-๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ เพราะกลยุทธ์ดังกล่าวในการป้ายสีสถาบันกษัตริย์ คือ หนึ่งในหลักล้มล้างการปกครอง ที่มีต้นแบบมาจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ระหว่าง ค.ศ. ๑๗๘๙-๑๗๙๙ เป็นยุคสมัยแห่งกลียุค (upheaval) ที่นิยมกระทำกันมากหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ประเทศถึง ๑ ใน ๓ ของโลก กลายเป็นคอมมิวนิสต์
สิ่งเหล่านี้คือประวัติศาสตร์ กลยุทธการเมือง ที่สลับซับซ้อน ที่เป็นรากเหง้าของประเทศไทย ที่ได้ค้นคว้าจากคำบอกเล่าจากคนมีชีวิต และบันทึกของทั้งฝ่ายคอมมิวนิสต์ คนกลาง และฝ่ายชนะ อันจะเป็นบทเรียนสำหรับคนไทยทั้งชาติได้จดจำ รู้ข้อเท็จจริง มิให้เกิดขึ้นอีกในภายหน้า สิ่งหนึ่งที่ได้จากประวัติศาสตร์ คือ ผลของกรรมที่เกิดจากการกระทำ ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน ผลกรรมยุติธรรมเสมอ ทำกรรมใดไว้ก็จะได้รับผลกรรมตามนั้น
“ รู้จักแผ่นดินถิ่นกำเนิด รู้จักเทิดองค์กษัตริย์ของรัฐถา รู้จักคำสั่งสอนขององค์พระศาสดา จนรู้ซึ้งคำว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆ “
บทกลอนในหนังสืออำนาจที่ยิ่งใหญ่ โดย ไกรสร ตันติพงศ์ ปรมาจารย์การเมือง
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
วันจันทร์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๗
ข้อมูลอ้างอิง
๑. คำบอกเล่าจากผู้ที่มีชีวิตหลายท่าน ลุงมานิต - ไกรสร ตันติพงศ์ ปรมาจารย์การเมือง 
๒. หนังสือของฝ่ายคอมมิวนิสต์-คนกลาง-เหตุการณ์หลังปฏิวัติสยาม ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕
๓. บันทึกลับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ 
๔. บทความเรื่องเล่าลุง... ลอบปลงพระชนม์ ร.๘ เมื่อ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ร่วมสนับสนุนสถานีวิหคเรดิโอ ถ่ายทอดสด เวทีมวลมหาประชาชน รับฟังทาง 89Mhz -www.vihok.com App thairadio บัญชี สโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือ 457-1-00409-2 กสิกรไทย
 
อ่านกันเพลินๆ หลังมื้อเที่ยงครับ

เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเรียกยุค ร.8 ว่ายุคทมิฬ. มันเลว ชั่ว ได้ถึงกึ๋น

ไม่นึกว่าคนพวกนี้จะกล้าทำร้ายสถาบันกษัตริย์อันเป็นที่รักของชาวไทยได้มากมายขนาดนี้

 

 

 

อ่านหนังสือเการเมืองเก่า ๆ พบว่า

 

 

ช่วงนั้นมีการเลือกตั้งด้วย เป็นการเลือกตั้งซ่อมในเดือนสิงหาคม 2489 แน่นอนประเด็นที่ไฮไลต์เด็ดก็คือ กรณีนี้

 

ปชป. ชนะถล่มทลายทันทีในการเลือกตั้งครั้งนั้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่อะไร เพราะชาวบ้านร้านตลาดคนที่ไหน ๆ ก็รู้กันดีอยู่ว่า อะไรมันเป็นอะไร 

 

เห็นว่าตอนนั้น ปชป. ปราศัยที่ถนนราชดำเนิน ตามตึก ตามอะไรต่าง ๆ บนถนน คนเป็นหลักหมื่น คิดดูแระกัน 60 กว่าปีก่อน คนหลักหมื่น มันจะเยอะขนาดไหน

 

ถึงขนาดว่า บนถนนจุไม่พอ ต้องปีนขึ้นไปฟังถึงดาดฟ้าบนตึก

 

กระนั้น ก็ยังมีคนขับรถบรรทุกบรรจุอาวุธสงครามต่าง ๆ จะบุกเข้ามาพังเวที คือ นายไต๋ ปาณิกบุตร  แต่คนที่มาฟังปราศรัยนี่แหละ ไม่ยอม คุ้มกันให้ปลอดภัย มี ทร.มาช่วยเป็นการ์ดให้ มี นศ.ถือขวดน้ำอัดลมเปล่า ๆ คอยคุ้มกันให้ก็ยังมี จึงป่วนไม่สำเร็จ

 

 

ปชป.โดนจัดหนักมากกกกกกกกก ทั้งโดนฝ่ายรัฐบาลเอาใบปลิวโจมตีมาโปรยด้วยเครื่องบิน เรียกว่า ผลงานโบดำ ทั้งระเบิดปาลงที่วงเวียนเล็ก ไถง สุวรรณทัต ต้องขาขาด อินทร สิงห์เนตร ส.ส.เชียงใหม่ ก็โดนยิงตาย สื่อมวลชนดี ๆ ที่มีอุดมการณ์ไม่ใช่ขี้ข้าเหมือนสมัยนี้อย่าง ชื้น โรจนวิภาต พี่ชายของ พายัพ โรจนวิภาต ผู้เขียนหนังสือเรื่อง แดน ๖ ในคุกบางขวาง หรือตีพิมพ์ใหม่ในชื่อว่า ยุคทมิฬ ก็โดนยิงตายคาสะพานเทเวศน์ เพราะไปเปิดโปรงกรณีคอร์รัปชั่นต่าง ๆ ในรัฐบาล บางคนก็โดนจับติดคุก หาว่าเป็นกบฏต่อชาติ บางคนโดนกระสุนเฉียดหน้ากระจกรถเป็นรอย บางคนโดนซัลโวจะ ๆ กลางสะพาน แต่เคราะห์ดีที่โดดหลบได้ก่อน อะไรงี้

 

สองพี่น้องราชสกุลปราโมช มีลูกศิษย์ลูกหาที่เป็น ตร. โทรมาบอกว่าให้ระวังตัว หม่อมพี่ เสนีย์ ปราโมช ขับรถไปทำงาน คนบนรถเมล์ยังตะโกนบอกให้ ระวังตัว

 

 

ก็ 60 กว่าปีผ่านมาแระ

 

60 กว่าปีที่ผ่านมา  สถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง

ฝ่ายรัฐบาลก็ยังคงใช้อำนาจมืด และกระทำตัวเป็นนักเลงอันธพาล ข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม เหมือนเดิม ทุกประการ

 

จขกท ไม่เคยไปกะคนอื่นเลยเหรอ

 

รักเดียวใจเดียวหรือเสื่อมสมรรถภาพล่ะ

มันไม่มีปัญญาหามากกว่าครับ ใครๆก็คงไม่เอามัน

 

เม้นท์แบบนี้ เค้าจะได้ตังค์ป่ะคะเนี่ย

เอาเม้นท์แบบนี้ไปช่วยแปะๆให้กระทู้พวกเค้าหน่อยก็ดีนะคะ ซักคนละเม้นท์ น่าจะได้หลายอยู่ นึกว่าช่วยๆหยอดตังค์ใส่ขัน

 

ค่อยๆอ่านไปนะครับ มีสองส่วน ส่วนแรกทำนายไว้ก่อนหน้าแล้วเมื่อ 16 กรกฎาคม 2556

http://www.thaipost....ws/240713/76853

เปลว สีเงิน

Wednesday, 24 July, 2013 - 00:00

เทวาสุรสงคราม 'สยามประเทศ'

   เอาละครับ...ท่านไปทำบุญเข้าพรรษา เที่ยวเตร่สนุกสนานกันมาหลายวัน ท่านกลับ ผมก็ไปมั่ง แต่ไปชั่วคราวน่ะ ไม่ค้างคืน ฉะนั้น วันนี้อ่านบทวิเคราะห์และถอดรหัสดาวช่วงนี้ของ "เจ๊ฟองสนาน" ของผมให้สบายอก-สบายใจก่อนรัฐสภาจะเปิดต้นสิงหา ความจริง ท่านที่อ่านก็มีหลายท่านเก่งด้านโหราศาสตร์ เช่น คุณเวหา เวหา เป็นต้น อยากเสนอมุมมองบ้าง ก็ยินดีครับ
    ฝ่ายไหนจะชนะในศึกดวงเมืองแตกรอบนี้
    ฟองสนาน จามรจันทร์….โหรสมัครเล่น
    ในที่สุดคำทำนายที่ผู้เขียนเพียรพยายามพลิกตำราบอกกล่าวสังคม เรื่องดวงเมือง-ดวงโลกแตกสองชั้น อันเนื่องมาจากพระเสาร์ (๗) เทพเจ้าแห่งความระทม และพระราหู (๘) เจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา การเปลี่ยนแปลงและพลิกล็อกเดินสวนทางในราศีตุล ช่วยกันเล็งลัคนาและพระอาทิตย์ (๑) ของดวงเดิม หรือแผนที่ชีวิตของเมืองที่ราศีเมษมาตั้งแต่ ๗ กันยายน ๒๕๕๕ และ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ก็พิสูจน์ว่าเป็นจริงมาตลอด ตามลีลาการบีบเข้าใกล้เรื่อยๆของดาวทั้งสองดวง
    ยิ่งใกล้กันก็ยิ่งจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดของทั้งดวงเมืองและดวงโลกที่ลัคนาต่างสถิตที่ราศีเมษ
    ช่วงแรกๆ ยังเป็นแค่หนังตัวอย่างตามบทความที่ตีพิมพ์ในคอลัมน์คุณเปลว สีเงิน ก่อนหน้านี้ เรื่องเมษายนแค่อุ่นเครื่อง ของจริงจะตามมาเป็นระยะ เพราะเดือนเมษายนที่บางคนกลัวจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่นั้น
    เป็นแต่เพียงจุดเริ่มของการจะเปลี่ยนแปลงในบ้านเมือง  ยังไม่ใช่ของจริงเนื่องจากพฤหัสบดี (๕) เทพเทวาคุ้มครองดวงเมืองจรยังสถิตราศีพฤษภนำหน้าลัคนา และทับพระอังคาร (๓) ตัวแทนดวงเมืองยังพอคุ้มครองได้อยู่
    ครั้นหลัง ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ พฤหัสบดี (๕) จรเข้าราศีมิถุน ภพที่สาม หรือสหัชชะ โยคหน้าซึ่งเป็นเชิงมุมที่ดีกับลัคนาและพระอาทิตย์ (๑) คู่มิตรใหญ่ที่สถิตที่ราศีเมษ แต่แทนที่จะให้คุณช่วยกันกับพระอาทิตย์ให้ความเข้มแข็งกับลัคนาดวงเมืองคาน อำนาจพระเสาร์ (๗) และราหูจรที่จรเล็งใส่ปลายคางลัคนา กลับยิ่งซ้ำสถานการณ์ร้ายหนักขึ้นไปอีก!
    ทั้งนี้ เป็นเพราะพฤหัสบดีจรที่มิถุนนี้ เล็งใส่พระเสาร์เดิมของดวงเมืองที่สถิตราศีธนู ขณะที่พระเสาร์จรที่ราศีตุลทำมุมฤทธิโยคถึงพฤหัสบดีเดิมของดวงเมือง ที่สถิตราศีธนูมาตั้งแต่ ๗ กันยายน ๒๕๕๕ แล้ว
    สรุปคือ ดาวใหญ่สองขั้ว คือพฤหัสบดีอันเป็นดาวนำดาวฝ่ายดี กับพระเสาร์ตัวแทนโทษทุกข์ เทพเจ้าแห่งความระทม ดาวนำฝ่ายร้าย ทำมุมตรึงกันที่ภาษาโหรเรียก สมาสัปต์ หรือควั่นกันเป็นเกลียวเชือก คือพฤหัสบดีจรถึงพระเสาร์ในดวงเดิม และพระเสาร์ถึงพฤหัสบดีในดวงเดิมมาตั้งแต่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖
    ผลคือ แม้พฤหัสบดีและพระเสาร์ถึงกันนี้ ครูโหรบอกว่าเป็นคู่วิวัฒนาการหรือคู่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสมาสัปต์กันจะหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงใหญ่ไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงมักรุนแรงบีบคั้น เท่าที่สังเกตมา หากเป็นดวงชะตาคนแล้วล่ะก็ รับรองถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลืองให้เดินในทางแคบๆ อึดอัดใจ ไม่มีทางเลือก แต่หลังจากผ่านพ้นไปแล้ว  ชีวิตจะพัฒนาไปในอีกขั้นหนึ่งในทางที่ดีขึ้น
    อดีตผู้บังคับบัญชาของผู้เขียนคนหนึ่ง เคยเจอปรากฏการณ์นี้ ได้ลาออกจากราชการโดยไม่แคร์บำเหน็จบำนาญ เหตุผลเพราะไม่อยากเดินตามหลังนักการเมืองบางคน หลังจากนั้นอีกประมาณสองปีท่านก็ได้เป็นรัฐมนตรี  พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง
    ฉันใดก็ฉันนั้น เมื่อปรากฏการณ์นี้เกิดกับดวงเมืองไทยแล้ว เมืองย่อมถูกบีบคั้นให้สะท้านหัวใจจนแทบไม่มีทางออก  เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่มาตั้งแต่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ แล้ว และรอเวลาสัประยุทธ์จากดาวฝ่ายดีและร้ายที่ขนาดเล็กกว่ามาช่วย จนผลออกมาว่าฝ่ายใดจะชนะ ฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำ
    ซึ่งจุดระเบิดของเหตุการณ์ชัดเจน จะเกิดระหว่างกันยายน-ตุลาคม ๒๕๕๖ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เป็นเพราะ
    ๑.จากปฏิทินดาวจรในเดือนกันยายน นอกจากพฤหัสบดีจะสมาสัปต์กับพระเสาร์แล้ว ดาวอื่นต่างสมาสัปต์หลายคู่ได้แก่ พระอาทิตย์กับพระพุธ พระอาทิตย์กับพระศุกร์ พระอาทิตย์กับพระราหู พระเสาร์ยังถึงพระจันทร์ แล้วรอเพียงพระจันทร์ที่เดินเร็วผ่านหนึ่งราศีสองวันครึ่งมาถึงพระเสาร์ใน ดวงเดิมสมาสัปต์เพิ่มอีกหนึ่งคู่
    นอกจากนั้น ฝ่ายดาวดีก็เพิ่มพลังสู้สองเท่า คือพฤหัสบดีจรเล็งใส่พฤหัสบดีในดวงเดิม ฝ่ายร้ายก็เบ่งพลังขึ้นเป็นสองเท่ามาสู้ คือพระเสาร์จรที่ตุลส่งกระแสถึงพระเสาร์ในดวงเดิม เป็นเรื่องของกรรมเก่าล้วนๆ!
    มุมของดวงเช่นนี้ รับรองการเปลี่ยนแปลงใหญ่มีขึ้นแน่ๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเกือบทุกด้าน ทั้งกฎหมาย รัฐสภา ศาล องศ์กรอิสระ ที่พฤหัสบดีเป็นตัวแทน และรัฐบาล การบริหารประเทศ ชาวนา เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน สาธารณูปโภค "กรรมเก่า" เรื่องต่างๆ ที่พระเสาร์เป็นตัวแทน
    ที่สำคัญ การสมาสัปต์กันรอบนี้ของพระราหู เจ้าของการเปลี่ยนแปลงพลิกล็อก กับพระอาทิตย์อันหมายถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผู้นำองค์กรสำคัญๆ ผู้มียศศักดิ์ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดไหน เกินจินตนาการของผู้เขียนที่ความรู้ด้านโหรมีจำกัดจะบอกได้ 
    แต่รับรองได้ว่า สิ่งที่ไม่เคยเห็น ก็จะได้เห็น อะไรที่ไม่เคยเกิด ก็จะเกิด!?
    ๒.ปรากฏการณ์พระเสาร์และพระราหูที่ร่วมราศีตุลมาตั้งแต่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ จะเคลื่อนเข้าใกล้กันเรื่อยๆ ทำให้เกิดเหตุการณ์แปลกๆไม่คาดฝันมาตั้งแต่บัดนั้น เร็วๆ นี้ก็กรณีเณรคำ อดีตพระมิตซูโอะ คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ รีไทร์นิสิตย้อนหลังเป็นปี การเสียชีวิตของคุณเอกยุทธ อัญชันบุตร แบบไม่คาดฝัน พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งซ่อมที่ดอนเมืองอย่างไม่น่าจะเป็น และการได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมผู้หญิงเป็นครั้งแรก ฯลฯ
    ดวงโลกเช่น นายกรัฐมนตรีหญิงออสเตรเลียตกจากตำแหน่ง กลับไปได้นายกรัฐมนตรีชายคนเดิม ที่อียิปต์ประชาชนแตกเป็นสองขั้ว จนเสี่ยงจะเกิดสงครามกลางเมืองอยู่ในขณะนี้หากทหารคัดท้ายไม่ดี ฯลฯ
    แต่ทั้งหลายทั้งปวง ที่ผ่านมาเป็นเพียงตัวอย่างเด็กๆ เพราะยิ่งดาวสองดวงเคลื่อนเข้าใกล้กัน เหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเขม็งเกลียวและถี่ขึ้นเรื่อยๆ และจุดองศาใกล้กันประมาณ ๕-๓-๐ (ทับกันสนิท) แล้วแยกห่าง ๓-๕ องศา คือช่วงระยะเวลาของจุดระเบิดเหตการณ์ ตามตำราของครูโหร เทพย์ สาริกบุตร
    เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๖ พระเสาร์-ราหู สถิตและสวนในราศีตุลห่างกันประมาณ ๕ องศา
    -วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๕๖ ห่างกัน ๓ องศา
    -วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ ทับกันสนิทที่ประมาณ ๑๔ องศาของราศีตุล
    -วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ ห่างกันประมาณ ๓ องศา ๓๘ ลิปดา
    สรุปคือ ระหว่างกันยายน-ตุลาคม ๒๕๕๖ เราจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยพบเคยเห็น แต่ยืนยันว่าเมื่อผ่านพ้น ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ที่พฤหัสบดียกเข้าราศีกรกฎแล้ว จึงจะค่อยหายใจหายคอคล่องขึ้น เพื่อเข้าสู่วิวัฒนาการยุคใหม่ต่อไป
    สุดท้ายคือ "ศึกดวงเมืองแตก" คราวนี้ใหญ่หลวงนัก แล้วฝ่ายใดจะชนะ...? เพราะฝ่ายสองเกลอดาวร้ายที่ระรานดวงเมืองอยู่เข้มแข็งมาก คือพระเสาร์จรสถิตราศีตุลได้มาตรฐานอุจ แปลว่าสูงส่ง มีพลัง ส่วนพระราหูเป็นเจ้านักเลง คนต่างประเทศด้วย เป็นคู่มิตรอยู่ตุลได้มาตรฐานราชาโชค น่าจะชนะใช่หรือไม่?
    ขณะที่พฤหัสบดีเทพเทวาคุ้มครองดวงเมืองโยคช่วยลัคนาอยู่มิถุน ได้มาตรฐานปรเกษตร แปลว่าอ่อนแอ อาภัพ ป่วย ทำดีไม่ได้ดีน่าจะแพ้ใช่หรือไม่?
    ช้าก่อน คำตอบคือไม่ใช่ โดยขอพลิกตำราการคานอำนาจของดวงดาวที่อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร รวบรวมไว้มาตอบให้เห็นจะจะคือ
    -ดวงชะตาใดหากพระราหูกับพระพุธให้โทษ หากพระเสาร์ให้คุณ ก็อาจคุ้มภัยได้
    -ดวงชะตาใดหากพระราหู พระพุธ พระเสาร์ให้โทษ หากพระอังคารให้คุณ ก็อาจคุ้มภัยได้
    -ดวงชะตาใดหากพระราหู พระพุธ พระเสาร์และพระอังคารให้โทษ หากพระศุกร์ให้คุณอาจคุ้มภัยได้
    -ดวงชะตาใดหากพระราหู พระพุธ พระเสาร์ พระอังคารและพระศุกร์ให้โทษ หากพระจันทร์ให้คุณ ก็อาจคุ้มโทษได้
    -ดวงชะตาใดหากพระราหู พระพุธ พระเสาร์ พระอังคาร พระศุกร์และพระจันทร์ให้โทษ หากพระอาทิตย์ให้คุณ ก็อาจคุ้มภัยได้
    และดวงชะตาใด หากพระราหู พระพุธ พระเสาร์ พระอังคาร พระจันทร์ พระอาทิตย์ คือทั้งหกดวงให้โทษหมด หากพฤหัสบดีดวงเดียวให้คุณ ก็คุ้มโทษได้
    สรุปคือ พระราหูและพระเสาร์ที่ระรานดวงเมืองอยู่นั้น  ศักดิ์ของดาวต่ำสุด หรือภาษาชาวบ้านพูดคือกระจอกสุด อาจมีฤทธิ์เดชอาละวาดบางครั้งพอให้เครียดและรำคาญ เช่นที่ผ่านมาและขณะนี้ ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะอ่อนแรงแพ้ภัยไปเอง!
    คำถามคือ แพ้ภัยใคร...? คำตอบคือ แพ้ภัยแก่พฤหัสบดี เทพเทวาคุ้มครองดวงเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ กฎบัตร กฎหมาย  ฝ่ายคุณธรรม ศาสนา ฯลฯ ที่จริงขณะนี้ท่านป่วยอ่อนแอ อาจคุ้มครองดวงเมืองไม่ได้เต็มที่
     แต่โปรดเหลือบดูพระอาทิตย์ ตัวแทนผู้มียศศักดิ์- ตำแหน่งสูง-ผู้นำองค์กรต่างๆ ดาวศักดิ์สูงอันดับสอง และคู่มิตรใหญ่กับพฤหัสบดี ที่ตั้งแต่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๐๖.๕๕ น. - ๒๑ เมษายน ๒๕๕๗ เวลา ๐๖.๕๔ น.
    ท่านเป็นศรี หรือสิริมงคลตามระบบทักษา จรเข้าภพไหน ดวงเมืองไม่มีเสีย มีแต่จะคุ้มภัย เข้าภพอริก็ชนะศัตรู เข้าภพมรณะก็จะได้มรดก อะไรที่เสียไปจะได้กลับมา จรเข้าภพวินาสน์ ก็คุ้มภัยไม่วินาสน์ คอยคานอำนาจเสาร์-ราหู
     แถมยังมีพระจันทร์อันหมายถึงประชาชนที่เข้มแข็ง เป็นฝ่ายดาวดี ช่วยคานอีกชั้นหนึ่ง!
    สรุปคือ ฝ่ายธรรมะไม่แพ้อธรรม!
     เพียงแต่จะชนะอย่างไร เมื่อใด และต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างมาก ไม่เช่นนั้นก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังแบบไม่เห็นฝุ่น เพราะสังคมวิวัฒนาการไปแล้วจากคู่พฤหัสบดีและพระเสาร์สมาสัปต์กัน ดังที่บอกไว้แต่ต้น.

                                             ฟองสนาน  จามรจันทร์
                                16 กรกฎาคม 2556

 

**************************************************************************************************************************************************************

04-04-14 00:07

"โหรฟองสนาน"ฟันเปรี้ยง!!! ดวงเมือง 17 มิ.ย.ชัดหมู่หรือจ่า แต่ระวัง 10-12 ก.ค.ส่อเดือดซ้ำ???

http://www.tnews.co....

%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87!!!%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87-17-%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-10-12-%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%B3.html

สนธิญาณ : ไอ้นี่พูดถึงเรื่องเสื้อแดงเขาจะจัดชุมนุมกันที่ ถ.อักษะ หรือว่ายังไง

 

ฟองสนาน : ไม่ทราบ แต่ว่าเห็นพูดกันถึงเรื่องวันที่ 5 เม.ย. เป็นเสาร์ห้าไงคะ ไม่ใช่ค่ะทางวันดีเนี่ย วันอมฤตโชค เนี่ยไม่ใช่ เพราะว่าวันเสาร์ห้าเนี่ยต้องตรงกับวันเสาร์แล้วก็ขึ้นหรือแรม 5 ค่ำถึงจะเป็นเสาร์ห้า ทีนี้วันเสาร์ที่ 5 เม.ย.2557 เนี่ยตรงกับขึ้น 6 ค่ำเนี่ยไม่ใช่ แต่วันที่ 19 เม.ย. 2557เป็นวันซุปเปอร์เสาร์ห้า คือ วันเสาร์แรม 5 ค่ำแล้วก็เดือน 5 ด้วย ร้อยปีมีครั้ง เสียดาย คุณสนธิญาน ปลุกเสกอีกรอบ

 

ฉัตรชัย : เอาเชื่อ ไม่ใช่อะไรผมเนี่ยไหว้พระทุกวัน ปลุกเสกตัวเองทุกวันในห้องพระ เอามาแล้วเนี่ยมาช่วยเฉลยหน่อยสิ กำนันประกาศว่า เมษา นี้น็อคแน่ ปกตินะ พี่ฟอง เป็นแบบนี้นะ ลุงกำนัน นะไม่เคยประกาศนะว่าทนสู้กันไปนี่เมษาเนี่ยประกาศ เป็นไงเนี่ย

 

สนธิญาณ : คือ ก่อนจะประกาศเนี่ย คุณสนธิญาณ น้องอุ๋ยเชื่อไหมคะ ที่จำได้ไหมคะ ที่ใครคนหนึ่งที่โทรมาจากต่างประเทศให้สัมภาษณ์ไทยรัฐทีวี บอกว่ามีบางคนเชื่อโหรจะล้มล้างรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ให้ได้ภายในวันที่ 8 ตุลาคม 2556

 

สนธิญาณ : ใครเนี่ยใคร ทักษิณ เอ่ยชื่อไปเลย

 

ฟองสนาน : โอยเกรงใจท่าน ปรากฏว่าทุกคนก็ลุกดิฉันว่าไม่เห็นว่ามันจะเกิดอะไรเลย แล้วดวงเมืองมันจะแตกยังไงอุส่าห์พิมพ์หนังสือมานะ โอโห คุณอุ๋ย นะถึงเลาขึ้น มาเท่านั้นแหละ พอวันที่ 7 ต.ค.นะตามเทวสุรสงครามสยามประเทศเด๊ะเลย กปท.ไม่ยึดประตูสามทำเนียบ แล้วยุบออกมากลายเป็น คปท. กลายเป็นสามเสน แล้วก็กลายเป็น กปปส. เห็นไหมในหนังสือ เทวสุรสงครามสยามประเทศ หรือดวงเมืองแต่ภาคแรกบอกเลยว่า เสาร์ราหูสวนกันวันที่ 8 ต.ค.แล้วฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลเนี่ยจะเข้ม แข็งแล้วเกิดเหตุการณ์ใหญ่ เป้นไปตาม เทวสุรสงครามสยามประเทศ คือวันที่11 พ.ย.2556 ค่ะทายไว้ใน เทวสุรสงครามสยามประเทศ ทายไว้ว่าวันนั้นถ้าเปรียบเทียบ กับสงคราม 9 ทัพ คือวันที่เราชนะศึกรากหญ้า วันที่วุฒิสภาคว่ำพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม คือ วันเดียวกัน เสาร์กับราหูทำมุมเดียวกัน  เทวสุรสงครามสยามประเทศ ทายถูกเด๊ะเลย เขียนไว้ชัเลยว่าวันที่วุฒิคว่ำ พ.ร.บ.นั่นแหล่ะนะคะ วันนั้นยกแรกเลยปรากฏว่าเท่านั้นไม่พอในหนังสือ เทวสุรสงครามสยามประเทศ เล่มแรกบอกเลยว่าประมาณ วันที่ 5-9 จะเหมือนเราชนะศึกถลาง

 

สนธิญาณ : ศึกที่ไม่ใช่เปลี่ยนตัวนายก หรือนายกหมดอำนาจ

 

ฟองสนาน : ยุบสภา แม่นไหมหล่ะ

 

สนธิญาณ : แม่น แต่ว่าทำให้ผมดีใจค้าง ก็บอกว่านายกไปแน่ๆๆ

 

ฟองสนาน : อ้าวก็ไปรึเปล่าหล่ะคะ ยุบสภา เพราะฉะนั้นขอคุยหน่อยนะคะว่าโหรสมัครเล่นก็ดีใจนะ

 

สนธิญาณ : อ่ะ เอาภาคสองเลย ภาคแรกแม่นทุกคนเขารู้

 

ฟองสนาน : ทุกคนรู้แต่ประเด็น คือ ดวงเมืองแตกสองชั้นเนี่ย มันเป็นมาตั้ง ก.ย. 2555 ใช่ไหมคะ ประมาณแล้วมันตวรจะจบตั้งแต่ประมาณกลางเดือน ธ.ค.2556 แล้วศึก ครั้งนี้ ศึกดวงเมืองแต่คือคนไทยแตกกันเอง เราไม่มีศึกพระเจ้าปดุง คราวนั้นเนี่ยเสาร์กับราหู สวนกันในภพที่ 10 ดวงเมืองคือการบริหารราชการแผ่นดิน ตอนนี้เสาร์ราหูภพที่ 7 ดวงเมืองเล็งใส่พระอาทิตย์จิตใจคนไทย จิตใจคนไทยแตกกันเป็นเสี่ยงๆ นี่คือดวงเมืองแตก แตกกันเพราะว่าคนไทยแตกกันเอง ไม่มีใครมาทำให้เราแตกแต่เราแตกกันเองนี่ ดวงเมืองอกแตกกันเป็นสองฝั่งเลย

 

สนธิญาณ : แต่ผมเนี่ยไม่แตกนะกับคนไทยเนี่ย ผมแตกกับ ทักษิณ คนเดียวนะ พี่ฟอง

 

ฟองสนาน : ก็เลยเป็นสองซีกไง

 

สนธิญาณ : เฉพาะ ผมกับทักษิณ กับตระกูลชิน เนี่ย กับเสื้อแดงผมไม่เคยแตกนะ

 

ฟองสนาน : อย่าไปแตกกับญาติพี่น้อง เพราะเขามีอุดมคติของเขาเราต้องให้เกียรติเขา

 

ฉัตรชัย : ไปอย่างนี้เลยได้ไหมครับ เพราะว่าหลายคนเนี่ยเฝ้ารอแล้วว่า เดือน เมษา เนี่ยเป็นยังไง

 

ฟองสนาน : เดี๋ยวใจเย็นๆ เพราะว่ามันมีปรากฏการณ์ทางโหร เดี๋ยวบางท่านบอกว่าพูดอะไรฟังไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่าภาษาโหรมันพูดยากมาก คือ มันควรจะจบตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. แล้วช่วงนั้นเหมือนเราชนะศึกปากพิง เหมือนเราชนะศึกตีบไปหมดทุกที่แล้วมันควรจะจบได้แต่มันจบไม่ได้ ท่านผู้ชม เพราะว่ามันมีปรากฏการณ์หนึ่งซึ่งพูดมา คุณสนธิญาณ ไม่ฟังหรอก เพราะ คุณสนธิญาณ จะถามอย่างเดียวว่าเมื่อไหร่ คุณทักษิณ จะแพ้ ปรากฏการณ์นั้นคือ ดาวสองขั้วตรึงกัน ดาวพฤหัส กับดาวเสาร์ ดาว แห่งความดีกับดาวแห่งความร้ายตรึงกันในดวงเมืองมาตั้งแต่ 30 พ.ค. 2556 ตรึงกันมาดาวสองขั้วมันไม่ยอมที่จะชนะกันหน่ะ หลายคนถามว่าเมื่อไหร่จะชนะๆ ดิฉันบอกว่าไม่อ่ะจนกว่าจะ 17 มิ.ย.57 ในหนังสือ เทวสุรสงครามสยามประเทศ เขาบอกไว้ ผลแพ้ผลชนะเห็น

 

สนธิญาณ : คือมันจะเห็นคนแพ้ คนชนะ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศนี้

 

ฟองสนาน : ใช่ การเปลี่ยนแปลงนี้จะคอยอีกจังหวะหนึ่งแต่ว่า 2 ดวงนี้จำนำพาไปสู่การปฏิรูปของประเทศไปสู่ยุคใหม่ต่อไปในวันที่ 21 เม.ย. 2558 เพราะหลังวันที่ 17 มิ.ย.57 คือกระบวนการเปลี่ยนผ่าน

 

สนธิญาณ : อ๋อ ก็อาจจะในช่วงเวลาปฏิรูปอย่างที่ ลุงกำนันว่า 12 เดือน

 

ฟองสนาน : ดิฉัน พยายามที่จะไม่เอาสถานการณ์มาจับพูดแต่ในแง่โหรเพื่อจะได้ไม่แกว่ง

 

สนธิญาณ : อ๋อ อันนี้ผมพูดในแง่นักข่าว ผมเอาสถานการณ์มาจับเอง

 

ฟองสนาน : ทีนี้ 17 มิ.ย.57 ดวงเมืองหยุดตรึงเห็นชัดเจน แต่เกรงว่าช่วงเปลี่ยนใหญ่ จดไว้เลยค่ะคุณผู้ชม ดิฉันกลัวว่าวันที่พระอังคารดาวประจำเมืองของพวกเรา ดาวลัทธิ ทหาร การทะเลาะวิวาท ระเบิด ยาพิษ ผ่าตัด ดาวของความรุนแรงนี่นะคะสวนกับพระราหูดิฉันกลัวว่าวันนั้นเนี่ยจะเกิดเรื่อง ร้าย วันที่ 10-12 ก.ค. บวกลบหน้าหลัง 7 วัน

 

สนธิญาณ : อ่าวหลัง มิ.ย. แล้วแล้วมันไปทำอะไรหลัง ก.ค.

 

ฟองสนาน : คือ มันจะมีเห็นผลแล้ว ก็จะไม่ยอมกันไง

 

สนธิญาณ : อ๋อ ศาลอาจจะตัดสินโน่นนี่นั่นแล้วไม่ยอมก็ยิงกันแบบนั้นหรอ

 

ฟองสนาน : ไม่ๆคือเห็นผลแพ้ชนะ แต่เห็นเรื่องอะไรไม่ทราบ คุณเคยเห็นบอลแพ้แต่กองเชียร์ไม่แพ้เปล่า คุณนึกถึงภาพที่ต่อยกันเสร็จแล้วกลับไปบ้านแล้วเอาปืนมายิงกันหน่ะ

 

สนธิญาณ : อ๋อ 17 มิ.ย. แต่ไประเบิดระเบ้อกันประมาณ 10-12 ก.ค.

 

ฟองสนาน : 17 มิ.ย.เห็นผลแล้วว่าใครเป็นยังไงหมู่หรือจ่าออกมาแต่ว่าช่วงเปลี่ยนใหญ่ของ เดือนเนี่ยระวังนะคะ 10-12 ก.ค.เนี่ย เพราะว่า มันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่มากๆแล้วควันไฟระเบิดเนี่ยมันจะเห็นในดวงเมืองค่ะคุณสนธิญาณ คุณอุ๋ย ตามโหรนะ

 

สนธิญาณ : อ่ะว่ากันตามโหร แต่ผมเมื่อกี้เนี่ย พี่ฟอง ทายแบบนี้เริ่มสงสาร ลุงกำนัน อีกแล้ว เพราะแกก็บอกว่ามานี่จะ 6 เดือนแล้วนะ จะครึ่งปีแล้วนะเนี่ยนะเทศกาลอะไรก็ผ่านมาหมดแล้ว นี่จะเลยไปถึง มิ.ย. ก.ค. เลยหรอ

 

ฟองสนาน : พวกที่อยู่บนเวทีก็เพื่อนกันทั้งนั้นแหละโกรธดิฉันทุกคนแหละ แต่ในที่สุดทุกคนก็ก้มหน้ารับชะตากรรม เพราะว่าไม่เคยพลาดเป้าหน่ะคุณสนธิญาณ ตำราก็เป็นไปตามตำรา เอาปืนมาจี้หัวดิฉันก็จะทายอย่างนี้หลายคนก็ไปด่าดิฉันในเฟสบุ๊คปากเสียบ้าง โหรมองโลกในแง่ร้ายบ้าง โหรซาดิสต์บ้าง โหรไม่หวังดีกับดวงเมืองบ้าง แต่ ทีนี้ก่อนที่จะไปถึงวันที่ 17 มิ.ย.57 มันจะมีกระบวนการของการไปสู่จุดนั้นเราจะเห็นชัยชนะของฝ่ายธรรมะเรื่อยๆ แต่ว่าบอกท่านผู้ชมเลยว่า เหมือนศึก 9 ทัพ เราต้องรบจนกลั่นอะ ดรีนาลีน เนี่ยจนหยดสุดท้ายมาใช้ แล้วในที่สุดท่านผู้ชมจำคำฟองสนานไว้นะ ศัตรูที่เป็นอริราชศัตรูของดวงเมือง คนที่เป็นศัตรูกับดวงเมือง คนที่ทำให้ดวงเมืองเกิดปัญหาเขาจะแพ้ภัยตัวเอง

 

สนธิญาณ : นี่หมายถึง ทักษิณ หรือเปล่า

 

ฟองสนาน : คุณก็แปลเอาสิ อาจจะหมายถึงคุณก็ได้

 

สนธิญาณ : ผมไม่เคยเป็นอริกับดวงเมือง ไม่เคยคิดจะทำร้ายทำลายบ้านเมือง

 

ฟองสนาน : เป็นอย่างนี้ตลอดค่ะ คุณสนธิญาณ ดูพระเจ้าปดุง นะคะ รบจนขนาดวังหน้าพระยาเสือเนี่ยจะต้องเอาครก เอาไม้ตี เอาสากใหญ่เนี่ยมาไว้หน้าค่าย ใครหนีทัพกูจะตำมันให้แหละ ซึ่งคนไทยเนี่้ยฮึดสู้ สู้จนอยากจะหมดแรง แล้วในที่สุดชัยชนะเราพระเจ้าปดุงทรงมีปัญหาภายในยกทัพกลับเอง อริวินาศดวงเดินดวงเมือง  อริวินาศปัญหาศัตรูถูกวางไว้ในหลังลักขณาคือภพวินาศ ในที่สุดพวกที่เป็นศัตรูกับดวงเมือง จำคำฟองสนานไว้เถอะ ระวังเงาหัวตัวเองดีๆ

 

สนธิญาณ : เอาๆหยุดก่อนต้องแปล คือ วันที่ 17 มิ.ย.แพ้ชนะ 11-12 ก.ค.อาจจะมีการปะทะนองเลือด แต่อย่างไรก็ตามแต่ตามดวงที่วางเอาไว้เนี่ยไอ้พวกที่คิดร้ายกับบ้านเมืองจะแพ้ภัยไปเอง และท้ายที่สุดเงาหัวจะไม่มีถูกต้องไหม

 

ฟองสนาน : ถูกต้อง ต้องเรียนท่านผู้ชมว่า พระสยามเทวาธิราช ไม่เคยแพ้เหมือนที่ดิฉันพูดในฐานะอดีตข้าราชการบนเวที กปปส.เมื่อวานนี้ พระสยามเทวาธิราช ไม่เคยแพ้ เราไม่เคยแพ้มาตลอดศึก 9 ทัพ เห็นไหมคะหลังจาตั้งกรุงทั้งหมด 3 ปีมาแล้ว 2 ต่อ 1 เราก็ไม่แพ้ ท่านผู้ชมดูนะคะตอนสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ภูมิภาคแทบนี้เสียเอกราชหมด เราเสียแต่ดินแดนแต่เราอยู่ได้ นี่คือสิ่งที่บ่งบอกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางคนมายึดพวกเราเขาแพ้สงครามแต่คนไทยชนะ สมัยคอมมิวนิสต์ คุณสนธิญาณ ก็รู้ตอนนั้นเราเรียนมหาวิทยาลัยทุกคนเครียดหมดเลย รบกันจนเลือดคนไทยนองอยู่แถวเพชรบูรณ์

 

สนธิญาณ : ผมเข้าข้างคอมมิวนิสต์ตอนนั้น

 

ฟองสนาน : เออ คุณไปเข้าข้างได้ยังไงก็ไม่รู้ คุณก็เคยทำดวงเมืองแตก เพราะฉะนั้นสมัยนั้นนะคะ บางคนเป็นเศรษฐีขายสมบัติหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้วนะ เพราะว่าทำท่าว่าเราจะล้มเป็นโดมิโน่ แต่ในที่สุดพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเนี่ยแตกกันเอง

 

สนธิญาณ : ไอ้ที่ย้ำเนี่ยก็คือจะบอกว่า เดี๋ยวพวก ทักษิณ ก็แตกกันเอง แพ้ภัยตัวเอง

 

ฟองสนาน : เอ่อ ดิฉันไม่พูดว่าพวกไหนนะ เอาเป็นพวกที่เป็นศัตรูกับดวงเมืองจะแพ้ภัยตัวเองได้ไหม ไม่หลงกลค่ะ

 

สนธิญาณ : แล้วผมจะรู้ได้งัยว่าผมเป็นศัตรูกับดวงเมืองหรือเปล่าผมเนี่ย

 

ฟองสนาน : ก็เมื่อไหร่ที่คุณทำเพื่อประเทศชาติ เมื่อไหร่ที่คุณคิดว่าทำเพื่อทุกสถาบันคุณเป็นฝ่ายธรรมะ เป็นฝ่ายพฤหัสบดีดวงเมืองซึ่งพยายามจะสู้อยู่ตอนนี้

 

สนธิญาณ : อ่าวเขาก็ทำเพื่อประเทศชาตินะ ณัฐวุฒิ จตุพร เขาก็ทำเพื่อประชาธิปไตย สร้างสรรค์ชาติเหมือนกัน

 

ฟองสนาน : คือ ก็ตีความกันไป แต่ในที่สุดความจริงคือความจริง

 

สนธิญาณ : เพราะฉะนั้น ความจริงของ พี่ฟอง ที่พูดเนี่ย วันที่ 17 มิ.ย. ต้องรู้แน่

 

ฟองสนาน : รู้ผลแล้วเราจะหายอึดอัดใจ

 

สนธิญาณ : แต่นี่ผมถามหน่อยสิ คือผมเนี่ยชอบอ่านคอลัมน์พี่เปลวทุกวัน ก็จะมีบรรดาโหรสมัครเล่นนะเขาไปเขียนอยู่เรื่อยนะ ผมเห็นคนหนึ่งชื่อคุณเวหา เวหา เขาบอกวันที่ 14 เม.ย.มันมีอะไรนะ

 

ฟองสนาน : มันมีค่ะ มันมีดิฉันก็เขียนไว้นะคะ ดิฉันลงเหมือนกันในเฟสบุ๊คท่านผู้ชมลองไปอ่านดูนะคะ ดิฉันมีแฟนเพจ "ฟองสนาน" นี่แหละกดไลค์แล้วอ่านได้เลย 14 เม.ย.มันมี ปรากฏการณ์ตั้งแต่ตอนนี้เลย เดือนเมษา เนี่ยเป็นวันที่พระอาทิตย์มาทับพระอาทิตย์เดิมเนี่ยมันก็จะร้อน คือคนที่คล้ายวันเกิดทุกคนเนี่ยมักจะมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ

 

สนธิญาณ : พ้นดวงเมือง คือวันเกิดดวงเมือง คือวันที่

 

ฟองสนาน : 21 เม.ย.2325 พระอาทิตย์อยู่ที่ลักขณาราศีเมษ ช่วงสงกรานต์พระอาทิตย์ก็กลับมาที่เดิมมักจะมีเรื่องร้อนๆ เพราะฉะนั้นที่ถามว่า เมษา ร้อมไหม ร้อนๆแล้วมันมีปรากฏการณ์ นำด้วยนะน้อง อุ๋ย ปรากฏการณ์ที่ทำให้เห็นว่า เรื่องของรัฐบาลเริ่มถอยมันเริ่มมาตั้งแต่ 7 มี.ค.ไม่รู้ว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายธรรมะ หรือ ฝ่ายอธรรม

 

สนธิญาณ : ฝ่ายธรรมมะ อ่ะผมนี่แหละฝ่ายอธรรม

 

ฟองสนาน : ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.เป็นต้นมามีปรากฏการณ์พระเสาร์ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลเนี่ยเดินถอยหลัง ตั้งวันแรกเลยเจอเรื่องคุณถวิล เปลี่ยศรี ดิฉันเขียนทำนายไว้ในเว็บไซต์ ไทยโพสต์ ว่าจะมีเรื่องที่รัฐบาลต้องถอยกรูดๆๆไปจนถึงวันที่ 12 ก.ค.57 พระเสาร์เดินถอยหลังแล้วตามด้วยเรื่องของ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ตามด้วยเรื่องการเลือกตั้งเป็นโมฆะ มันมีปัญหาตั้งแต่วันแรก วันที่ 15 เป็นต้นมาฝ่ายกฎหมายจะเข้มแข็งแบบปุๆปะๆ เข้มแข็งไปขู่เขาไป ถูกเขาขู่ไป ถูกเขาเอาอึ๊ไปปาใส่

 

สนธิญาณ : แล้วฝ่ายทหารหล่ะเป็นยังไง

 

ฟองสนาน : ฝ่ายทหารตอนนี้อ่อนแอค่ะ เพราะว่าทหารเป็นปราชญ์พระอังคารจรเป็นปราชญ์ที่ราศีตุลย์ ท่านทำอะไรไม่ได้

 

สนธิญาณ : ท่านทำไม่ได้หรือท่านไม่ทำ

 

ฟองสนาน : ท่านทำก็ไม่ถูกโฉลกดวงเมือง

 

สนธิญาณ : เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทหารรักษาตัวไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ทำหน้าที่ดูแลปชช.

 

ฟองสนาน : เอ่อ ทำไปตามหน้าที่ เพราะว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของท่านที่จะมาเกี่ยวข้องกับการเมือง อันนี้คุณจะว่ายังไงก็ตามแต่ ซึ่งดิฉันได้พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ใครอยากแพ้ก็ปฏิวัติตั้งแต่ปีที่แล้ว ดิฉันก็ยังยืนยันเหมือนเดิม

 

สนธิญาณ : ถ้าปชช.จะปฏิวัติเองมั่งหล่ะ ไม่เกี่ยวกับทหาร

 

ฟองสนาน : เอ่อ ปชช.ทำไปให้เต็มที่ของตัวเองจนเงินหมด เสื้่อเต็มตู้

 

สนธิญาณ : เดี๋ยวนะพี่ฟองผมขัดนิดหนึ่งนะ แล้วที่ลุงกำนันพูดว่า น็อคๆๆ ชนะๆๆ ข้าราชการออกมาร่วมดูข้าราชการไหน ถ้าข้าราชสำคัญก็ต้องข้าราชการทาร พลเอกประยุทธ์ ท่านก็บอกแล้วว่าท่านต้องทำหน้าที่นี้ไป

 

ฟองสนาน : ดวงเมืองเล่นเกมนี้ไม่ได้ ค่ะ น้อง อุ๋ย ขา

 

ฉัตรชัย : ดวง ผบ.ทบ. เป็นยังไง

 

ฟองสนาน : เอ่อ อย่าเพิ่งไปดูดวงท่านเลย เพราะท่านจะเกษียณแล้ว เพราะว่าไม่ได้ดูไม่ได้บอกก่อน แต่ประเด็น คือ ดวงเมืองเดิมของทหารเนี่น เมื่อไหร่ยุ่งการเมือง ยุ่งทันทีแล้วไม่จบดี

 

ฉัตรชัย : คือตอนนี้เนี่ย คือบอกว่า 17 มิ.ย. เนี่ยมันหมายความว่าจะชนะกันยังไง

 

ฟองสนาน : ในที่สุด เราสู้กันเต็มที่ เสื้อแดงซื้อเสื้อกันเต็มตู้ กปปส.ก็ซื้อเสื้อให้เต็มตู้ในที่สุดฝ่ายที่เป็นอริราชศัตรูดวงเมือง คนที่ทำดวงเมืองเดือดร้อนจะแพ้ภัยตัวเอง ยืนยัน

 

สนธิญาณ : อ่ะ นี่คือข้อสรุปนะ

 

ฟองสนาน : ทีนี้วันที่ 7 มี.ค. รัฐบาลถอยกรูด วันที่ 15 มี.ค. ฝ่ายกฎหมายสู้แบบปุๆปะ เพราะว่ามีแต่หลักกฎหมายที่จะสู้ เพราะฉะนั้นถามว่าจะทำยังไง ก็ทำอย่างนั้นแหละค่ะสู้แบบนัก กฎหมาย สู้แบบพระสยามเทวาธิราช คือ ไม่พยายามทำร้ายใครยกเว้นแต่จำเป็นจริงๆ ครั้นวันที่ 6 เม.ย. อันนี้สำคัญที่คุณถามว่า ทหารจะเป็นยังไง ก็ทหาร กลับจะเข้มแข็งขึ้นมาอีก 6 เม.ย. เป็นต้นไปหน่ะ ทหารจะเข้มแข็งนะคะ ดวงเมืองจะเริ่มเข้มแข็ง แต่ตามมาด้วยการทะเลาะวิวาทการเผชิญหน้ากัน จะมีการมาที่เขาเรียกว่า หนูท้าราชสีห์ ระวังฝ่ายกองทัพจะถูกท้า

 

สนธิญาณ : อ๋อ แน่นอน เพราะว่าฝ่ายเสื้อแดง เขานัดชุมนุมกันที่ ถ.อักษะ วันที่ 5-6 เม.ย.นี่เขาประกาศนะ เช้าวันที่ 7 เม.ย.ก็จะเลิกราไป จะมาท้าวันนั้นหรือเปล่า

 

ฟองสนาน : เริ่มวันที่ 6 เม.ย. ค่ะ พระอังคารมหาจักร ฟักตัวขึ้นเป็นใหญ่ก่อนที่จะต้องบุกบั่นฟันโฉงเฉง จะมีปรากฏการณ์ดวงเมืองเริ่มเข้มแข็ง ทหารจะถูกท้ารบ และอีก หนึ่งปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นคือ ปรากฏการณ์ที่จะหลอกใช้กันจะหลอกใช้กันทางการเมือง ใครจะหลอกใช้ใคร จะหลอกคนที่หลอกใช้ให้คนอื่นไปตายแทนตัวเอง แล้วในที่สุดตัว เองก็จะตายเอง ใครที่ไปหลอกให้ใครไปทำอะไรแทนตัวเองเนี่ยในที่สุดก็จะแพ้ภัยตัวเองจะสูญ เสียอย่างใหญ่เลยนะคะ ทีนี้ประเด็นที่น่าสนใจนะคะ เป็นไป เรื่อยๆจนกว่าพระอังคารจะเข้มแข็งไปอีกนาน ทีนี้ประเด็นที่คุณถาม 14 เม.ย. ปรากฏการณ์มันมีพลิกดูดวงรัฐบาล ลักขณาราศีกันย์ นะคะวันที่คุณปู ได้รับการเป็นรัฐบาล ลักขณาราศีกันย์ ปรากฏว่า วันที่ 17 เม.ย. พระพุธดับ พระพุธเป็นตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนการงานรับบาลดับ บวกลบหน่อยนะ 7 วัน วันที่ 17 ดาวตัวแทนรัฐบาลดับ การงานดับ คาดว่าช่วงนั้นรัฐบาลต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่มันก็มีอะไรให้คิดเหมือนกันว่าดวง กปปส. ก็ดับเหมือนกัน

 

สนธิญาณ : ทำไม กปปส. ตั้งวันที่เท่าไหร่ เขาตั้งวันที่ 31 ต.ค.

 

ฟองสนาน : ดิฉันใช้เวลาที่ กำนัน ประกาศวันนั้นที่ใช้เวที ศูนย์ราชการหน่ะค่ะ คือถ้าจะพลาดก็พลาดจุดนี้แหละค่ะ ว่าจุดกำเนิดที่แท้จริงเป็นยังไง

 

สนธิญาณ : กำเนิดแท้จริงต้องวันที่ 31 ต.ค.

 

ฟองสนาน : อ่ะ เพราะฉะนั้นอาจะพลาดไป งั้นของ กปปส.ขอหยุดไว้เดี๋ยวผิด แล้วดิฉันได้เตือนมาตั้งแต่แรกแล้ว แล้วถ้านายก ปู เชื่อดิฉันจะเป็นอย่างนี้ไหม

 

สนธิญาณ : เขาไม่เชื่อใครหรอกเขาเชื่อ ทักษิณ คนเดียว อ่ะสรุป

 

ฟองสนาน : สรุปนะคะ ระวังความสุ่มเสี่ยงที่จะปะทะกันช่วงเมษา แต่หลังวันเกิดดวงเมือง 21 เม.ย.2557 จนถึงวันที่ 17 มิ.ย. 2557 ทักษาเมืองเปลี่ยนจะเป็นช่วงเวลาที่จากร้ายสถานการณ์จักเป็นดี กับบ้านเมือง เห็นไหมคะโอกาสดีๆที่จำทำอาจจะเตรียมการเลือกตั้ง อาจจะเตรียมการหานายก ดวงช่วงเดือนเมษามีโอกาสที่จะสุ่มเสี่ยงกันที่ จะตึ๊บกันนะคะ แต่ตั้งแต่ 11 , 21 เม.ย. เป็นต้นไปถึง 17 มิ.ย. 2557 สถานการณ์ ดวงเมืองจะจากร้ายกลายเป็นดีเหมาะที่จะทำอะไรอย่างยิ่ง เหมาะที่จะปฏิรูป การที่จะทำไรที่จะเป็นประโยชน์กับประเทศ อย่างมากๆ เพราะหลังจากนั้นมันก็จะมีความรุนแรงต่อไปจนถึง ก.ค. แล้ว ก.ค. เป็นต้นไปดวงเมืองหยุดแตกขั้นที่ 1 เราจะเลิกทะเลาะกันแต่ว่าจะตามด้วยปัญหาเศรษฐกิจ แล้วก็จาก 26 พ.ย. ดวงเมืองหยุดแตกขั้นที่ 2 แล้วก็เข้าสู้ยุคใหม่ 21 เม.ย. 2558 ค่ะ

 

สนธิญาณ : รัตนโกสินทร์ ยุคใหม่นะครับก็ "ดวงเมืองแตก" ช่วยสนับสนุนพี่ฟอง และช่วยสนับสนุนผมด้วย

 

ฉัตรชัย : เป็นที่ชัดเจนนะครับว่าก็ได้ความว่าท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไร แต่ที่สุดว่าจะไปจบเดือน มิ.ย. 57 เห็นผล อาจจะมีควันหลง แล้วก็จะไปเริ่มยุคใหม่ในเดือน พ.ย. ก็ตามที่พี่ฟอง ทำนายไปตามตำรานี่บวกลบ 7 วัน ตามวันเวลาที่ได้แจ้งไป เพราะว่าเวลานี่ใกล้มากแล้ว เอาหล่ะครับขอบคุณพี่ฟอง พี่ต้อย มากครับ วันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีครับ

 

 

โดย    สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม

 

ชอบคุณสนธิณาณอะ  ซักไซ้ไล่เรียงสมกับเป็นนักข่าวจริงๆ

..... พวกเรา ผู้เฒ่า ก็วิเคราะห์กัน ตามเนื้อผ้านะครับ..จากการให้สัมภาษณ์บ้าง 

 

จาก คลิปถั่งเช่าบ้าง แลจาก สิ่งแวดล้อมของการเมืองปัจจุบันนี้บ้าง.. มันมีแนวโน้ม

 

ไม่ ปกติ. ถ้าใครเคยศึกษา ( ฝ่าย อักษะ...ฝ่าย พันธมิตร )..เมื่อ ๗๐ กว่าปีก่อน. ก็น่า

 

ห่วงนะ. เพราะเรื่อง มันเริ่มจาก ( ฉันมาจากการเลือกตั้ง ) แล้ว ไม่ยอมรับใด ๆ ใน -

 

กระบวนการยุติธรรม ทั้งสิ้น ที่สุด เยอรมัน..เป็นประชาธิปไตย  แบบไหน  คงรู้กันดี

 

พวกเราเกรงว่า..เมื่อทำผิดมาก ๆ หลายเรื่อง จนหมดทางแก้ตัว แล้วก็ ออกมา คุกคาม

 

กระบวนการยุติธรรม ถึงกับไม่ยอมรับอำนาจศาล. นั่นเขาเริ่มต้นแล้ว.. มาดู..กลุ่มแดงอักษะ

 

ที่นี่ มีแต่ โจ๊ก นักโต้วาที.. นักบิดเบือน. จะเป็นแค่....ฉากหน้า...  หรือเปล่า..???

 

.... มี ๒-๓  นายพล และนาย กี้ ขวดน้ำมัน.... เขาทำอะไรอยู่..?? ที่ไหน..?? นั่นแหละคือ

 

สิ่งที่เราต้องระวัง... พวกผู้เฒ่าอย่างผม จึงคิดกันว่า  อาจเป็นไปได้ เมื่อ ปฏิเสธ กระบวน-

 

การยุติธรรม.. ทุกอย่าง  เพราะจำนนต่อหลักฐาน.. กระบวนการ อักษะ ก็อาจปฏิวัติตัวเองได้

 

เพราะมีอยู่ ทางเดียวที่เขาจะ ( หนีเพื่อคงอำนาจไว้)...

แล้วก็จะจบลงเหมือนฝ่ายอักษะใน ww2 

 

ทำไมผมอ่านแล้วผมสะดุดกับประโยคนี้ล่ะครับ ว่าถ้า "อ่านระหว่างบรรทัด" นัยมันชัดมากเลยนะครับ

 

คำสัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. (2 เม.ย.57)

สำหรับกรณีที่มีการเรียกร้องให้กองทัพอย่ายอมรับอำนาจของรัฐบาลรักษาการนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งคิดพักใหญ่ก่อนกล่าวว่า มันไม่ใช่ในระบบ ถามคำถามที่ตอบยาก ตอบไม่ได้ เพราะถ้าตอบ ก็จะไปอยู่อีกข้างหนึ่ง สมมุติว่า ท่านทำงานในบริษัทหนึ่งและท่านประท้วงเจ้าของบริษัท ถามว่า ทำได้หรือไม่ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับผู้บริหารของคุณ คุณกล้าไล่เขาออกหรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องทำหน้าที่ของคุณ เมื่อเขาให้ตนทำหน้าที่อะไร ก็ทำตามหน้าที่ จะไม่วิพากษ์วิจารณ์ให้เกินเลย เพราะจำเป็นต้องรักษาสถานภาพของตน เพื่อทำงานทุกงานให้ได้

 

ส่วนจะผิดหรือถูก จะรับหรือไม่รับ ก็ต้องไปว่ากันมา

 

 

เพราะจำเป็นต้องรักษาสถานภาพของตน เพื่อทำงานทุกงานให้ได้

 

 

 

เหมือนตอนที่แป๊ะเรียกร้องให้ปชป.ลาออกป่าวคะ

 

การจะรบกับคนหน้าด้านแบบนางโจรนี่ ต้องทำทุกวิถีทางค่ะ ทั้งในสภา นอกสภา กฏหมาย และ เสียงมวลชน

 

ถ้ากปปส.ไม่ออกมา นางโจรคงไม่ยุบสภา เมื่อนางโจรไม่ยุบสภา ทหารยิ่งทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากรัฐประหาร

 

เมื่อกปปส.ออกมา เกิดระเบิด ยิงถล่มรายวัน  ก็ยังมีหน่วยข้าวโพดออกมาป้องกัน คุ้มกัน ทำให้มวลชนไม่สูญเสียมากมาย

 

และเพราะกปปส.ออกมา ทุกฝ่าย ที่มีความกล้าหาญ ก็เดินหน้าออกมาด้วย

 

 

 

 

แต่ผบทบ. คงจะเป็นเป้าใหญ่เกินไปมั้งคะ ทำให้ขยับลำบาก ได้แต่ส่งสายตา

 

 

เวทีราชดำเนิน

กรณีคุณนิวัฒน์ธำรง และคุณกิตติรัตน์ จะให้การเป็นพยาน ในคดีจำนำข้าว น่าจะมีความสำคัญทีเดียว

คดีนี้ ปปช จะพิจารณา ว่า นายกยิ่งลักษณ์ ละเลยหรือไม่ ที่มิได้ป้องปรามการทุจริต

และการทุจริตดังกล่าว เกี่ยวเนื่องกับการขายแบบ G to G เพื่อหลีกเลี่ยงการประมูล (แต่ไม่ใช่ G to G จริงๆ)

พยานทั้งสอง เป็นรองนายก และ รมว พาณิชย์ คนหนึ่งปัจจุบัน และอีกคนหนึ่งอดีต และเป็นกรรมการนโยบายข้าว (กขช) ด้วย ทำหน้าที่ประธานการประชุม กขช บ่อยครั้ง

ส่วนนายกเป็นประธาน กขช

ถ้าพยานทั้งสองยืนยัน ว่าทั้งสองคน เป็นผู้อนุมัติ สั่งการขาย G to G ดังกล่าว โดยทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบเอง ไม่ได้เสนอให้นายกรับทราบ หรือขอให้นายกมีส่วนร่วมตัดสินใจ

ถ้าพยานยืนยันดังนี้ นายกก็จะไม่ถูกชี้มูล

แต่ทั้งนี้ ปปช ก็จะต้องชี้มูลบุคคลทั้งสองแทน

คือบุคคลทั้งสอง จะเปลี่ยนจากพยาน ไปเป็นจำเลย

แต่ถ้าพยานบอกว่า ได้เสนอเรื่องการขาย G to G ให้นายกอนุมัติ หรือรับทราบแล้ว ภาระก็จะกลับไปอยู่ที่นายก

สรุปว่า ความรับผิดชอบการขาย G to G หากมีการทุจริตนั้น

ถ้าไม่อยู่ที่นายก ก็จะต้องตกไปอยู่ที่รองนายก

หรือถ้าไม่อยู่ที่รองนายก ก็จะต้องกลับไปอยู่ที่นายก แบบอัตโนมัติ

จะโยนกลองไปให้แก่ข้าราชการเพียงฝ่ายเดียว คงฟังไม่ขึ้น

ธีระชัย ภูวนาทนรานุบาล
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
๓ เมษายน ๒๕๕๗

------------------------------

 

ฟังแบบนี้แล้วสะใจ ขอให้โดนทั้งโขยงทีเถิด

 

ไม่อยากให้โดนแค่ ว้ายลาย  มันจะโดนหรือไม่ ไม่สนอะ  ต้องให้นางโจรนรก.500 โดนชี้มูล จึงจะถูกต้อง

ถ้ามันโดนชี้มูล แล้วนางโจรไม่โดนนี่  จบเลย ปชช.

นึกถึงตอนที่ ผบทบ.พูดตอบเรื่องบังเกอร์ทหารแล้วพวกเราเฮกันสิคะ

ตอนนั้นพวกเราถูกใจกันมาก  กับวลีที่ว่า จะผูกผ้าสีชมพูให้บังเกอร์ หรือบังเกอร์ไม่ใช่เวทีลิเก

แล้วท่านก็ยืนหยัด ไม่ถอนบังเกอร์ทหาร แถมยังปลูกดอกไม้ ดอกไร่ซะสวยงาม

ท่านอาจพูดผิดไปบ้าง ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ชอบใจกับคำเปรียบเทียบของท่านหรอกค่ะ แต่ก็อย่างที่คุณ blue อธิบาย

ทหารถืออาวุธอยู่ในมือ จะทำอะไรออกนอกหน้ามากเกินไปก็ลำบาก แค่ปอปคอร์นนี่ก็โดนครหาซะ ... 

ไม่เหมือนอย่างเสื้อแดงนี่คะ ที่สามารถมีอาวุธร้ายแรงไว้ขู่กปปส.ได้ เป็นโจรนรก500 เต็มรูปแบบ แต่ก็ยังได้รับความเอ็นดูจากเป็ด

 

 

ดูเหมือนว่ารัฐบาลนี้จะไม่ยอมรับการตรวจสอบ หรือคำตัดสินของศาลนะครับ

แต่ผมว่า รัฐบาลเอง ก็ไม่สามารถ ฝืนคำตัดสินได้ครับ

ถึงปากจะว่าไม่ยอมรับ แต่ถ้าศาลตัดสิน ให้สิ้นสภาพ ยังไงก็ต้องไปอยู่ดีครับ

คิดว่าทุกคนก็คงเห็นระบบการตรวจสอบที่กำลังทำงานไล่บี้รัฐบาลกันอยุ่ตอนนี้แล้วครับ

ระบบน่าจะยังไว้ใจอยู่ได้พอสมควรนะครับ

 

แล้วยังไงครับ มันก็เอามวลชนตัวเอง (ซึ่งบ้างก็จ้างมา บ้างก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน บ้างก็โง่จนทุกวันนี้ยอมรับว่าตัวเองเป็นควายแล้ว บ้างก็ถูกหลอกให้หลงให้เชื่อ) มากดดันศาล กดดันองค์กรอิสระ

มาประท้วงว่าโดนกลั่นแกล้ง โดนมือที่มองไม่เห็น บอกว่าคนที่ตรวจสอบตนเป็นอำมาตย์ เผด็จการ บลาๆๆๆ

คิดว่าคนอย่างนี้ใช้วิธีการตามกฎหมายจะยอมออกหรอครับ

 

 

ระบอบทักษิณจะอยู่หรือไปไม่ใช่ประเด็นผม

แค่เกรงว่าการแก้ปัญหา ที่ไม่ตรงจุด จะสร้างปัญหาไม่รู้จบ

ยังไงเราก็ต้องยึดหลักอะไรซักอย่าง เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสงบ

 

คุณก็รู้ว่าเขามีมวลชนนี่ครับ จะโง่ หรือไม่ มวลชนมวลนี้ สร้างปัญหาได้แน่นอน

ถ้าระบอบทักษิณเลว ก็มวลชนมวลนี้แหละ ที่เลือกระบอบเลวๆเข้ามา

ผมว่า นี่แหละคือปัญหา ถ้าคุณบอกเสื้อแดงโง่ ควาย เลว ก็ต้องแก้ที่คนพวกนี้ครับ

ไล่รัฐบาลไป ล้มการเลือกตั้ง แล้วปฏิรูป คนพวกนี้ยังอยู่และเป็นเหมือนเดิมครับ

เขาทำไม่ดีมาเราก็รู้ ก็อย่าไปทำเหมือนเขา

ผมแค่อยากจะบอกว่า

ปัญหาที่หนักหนาที่สุดของประเทศเราตอนนี้ไม่ใช่รัฐบาลโกง หรือ กบฏ กปปส.

แต่ปัญหาคือคนไทยแตกคอกันครับ

ผมไม่ได้บอกว่าต้องเลือกตั้งนะ แค่น่าจะมีวิธีกลางๆ อย่างประชามติ หรืออะไรก็ตามที่เปิดทางให้คนได้เลือก

สิ่งที่กปปส. ทำมา 4-5 เดือน ผมว่าหลายคนเห็น และรับรู้ ไม่เสียเปล่าแน่นอน

ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเองครับ คงต้องเริ่มจากที่ไหนซักที่

 

คล้ายกับเอาปืนมาขู่ บอกให้ยอมจำนนนะคะ

แต่กำนันก็บอกแล้วว่า ถ้าเสื้อแดงจะใช้กำลังลุยจริงๆ กำนันก็จะกลับ ไม่เสี่ยงให้มวลชนต้องสูญเสียแน่นอน

แล้วเรื่องการเลือกตั้งที่เป็นปัญหา  ก็นี่ไงคะ แค่นางโจรนรก.500 ยอมลาออกพร้อมรมต.ทั้งคณะ เรื่องก็จบแล้ว

ต่อไป ถ้านายกคนกลาง หรือการปฏิรูปไม่ถูกต้อง ก็ว่ากันอีกที เสื้อแดงออกมาตอนนั้นก็ยังไม่สายนี่คะ  ดีกว่าที่จะดื้อดึงในขณะนี้ ดิสเครดิตตัวเองให้เป็นโจรนรก500 ไปเรื่อยๆ

หรือเราต้องยอมจำนนกับคำขู่เผาบ้านเผาเมือง ก่อสงครามกลางเมือง หรือแบ่งแยกประเทศ

.เฉลิม..วอนขอความเห็นใจจากประชาชนอย่าประนาม เสื้อแดงนปช.กวป.ที่พกอาวุธจนถูกจับกุม...ต้องเห็นใจเสื้อแดงเค้าๆทำเพื่อ ประชาธิปไตย ตอนนี้พวกเสื้อแดงมีจำนวนเหลือน้อยจำเป็น ต้องมีอาวุธติดกายไปไหนมาไหน...ไม่ได้มีเจตนาพกไปทำร้ายใคร..กฏหมายก็น่าจะ ยกเว้นได้ลบางกรณี..เขาพกอาวุธร้ายแรงบางชนิดเพื่อขู่กปปส.ที่มีจำนวนมากมาย จะรุมทำร้าย...ควรเข้าใจพวกเขาบ้างเพื่อบ้านเมืองจะได้สงบสุข

อึ้ง  ทึ่ง  หัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก

กปปส.พกหนังสะติ๊ก เป็นข่าวซะใหญ่โต เหมือนจับโจรก่อการร้ายได้ แต่เสื้อแดงพกอาวุธ ทำระเบิดหล่นจนตัวตาย บอกว่าน่าเห็นใจ

บ้านนี้เมืองนี้ พกอาวุธร้ายแรงเพื่อขู่กันได้โดยไม่ผิดกฏหมายใช่มั้ย  ???

แล้วที่รุมทำร้ายพระที่ไม่มีอาวุธคืออะไร  หรือไม้เท้าคืออาวุธที่ร้ายแรงกว่า ปืนและระเบิด

คือคนเรามันต้องมีศรัทธาต่อคนอื่นบ้างล่ะ  แต่ละคนไม่เหมือนกัน

ถ้าคิดว่าคนที่เขาศรัทธา  ไม่ใช่คนเดียวกับเราศรัทธา  แล้วคนนั้นเป็นควายเป็นหมา

ถ้าคิดแบบนี้กันหมด  บ้านเมืองนี้ไม่มีคนแล้ว  มีแต่สัตว์

แปลกใจค่ะ ที่เสื้อแดงรักประชาธิปไตยนักหนา  แต่รักทักษิณมากกว่า จึงให้ทักษิณสั่งได้ทุกอย่าง ราวกับว่าทุกคนคือข้ารับใช้

แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี  ก็ให้ทักษิณตั้งน้องสาวตัวเองที่ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่าง (อายมากที่เห็นรูปนางนั่งก้มหน้าอ่านโพยคุยกะอองซาน ในขณะที่อองซานนั่งตัวตรง หลังตรง มองนางอย่างสมเพช)

ประชาธิปไตยตรงไหนเหรอคะ น่าศรัทธาตรงไหนเหรอคะ

อนาถจิต  จิตอนาถ

เชื้อไม่ทิ้งต้นเลย แถมยังอ่อนด้อยกว่าต้นพันธ์อีก

สรุปว่าบ้า

อนาคตอาจได้เห็น นายท่านสั่งเหล่าเสื้อแดงตัดผมทรงเดียวกะเสี่ยไอซ์ก็ได้นะคะ 

อออ แล้วก็ต้องมีไอซ์ให้เหมือนเสี่ยด้วยมั้ง จะได้เหมือนๆกัน เป็นณ. ชินวัตร อย่างที่ต้องการ 

Siriwanna Jill

ต้องรีบเปิดโปง ก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย ช่วยกันกระจาย หน่อยคะ ....เหตุระเบิด ที่มีนบุรี ที่มีโจ๋ 2 คนโดน จยย บอมบ์ ระเบิด ขาด 2 ท่อน เกิดเพราะพระสยามเทวาธิราชฯ ช่วยไว้ จากการข่าวพี่ทหาร ตรวจพบแล้วว่า จะเอาไปส่งที่เวที กปปส .สวนลุมฯ และเวที หลวงปู่ เพราะมีคำสั่งตาย บรรดาแกนนำ ออกมาพร้อมค่าหัว เบอร์ 1 ในลิสต์ คือหลวงปู่ ค่าหัว 5 แสนบาท
หลังเกิดเหตุุมีการสนธิกำลัง พี่ทหารกับหมาต๋า ตรวจสอบบ้าน เช่า พบหลักฐานที่มัดมือคนเสื้อแดง ชัดเจน แต่หมาต๋าแอบเม้มไว้ ยังไงก็ไม่รอดสายตาพี่ทหาร เสื้อยืดแดง มีคำว่า Truth today ตราประจำประธาน นปช. คางคก ปี 53 ผ้ายันต์สีแดงที่คนเสื้อแดงพกติดตัว เสมอ ทีทำเอาตกใจขนหัวลุก พบอุปกรณ์ ประกอบระเบิดที่หลงเหลือ จากการประกอบระบิดแล้ว จำนวนมาก อาทิ เช่น กระเดือง หัวถังแก๊สที่ถูกตัดออกไป สายไฟ เศษตะปู ที่ถูกตัดไว้แล้ว ทิ้งในถังขยะ ปะเมินจากเศษเหลือ ว่าน่าจะมีการผลิตระเบิด ไปแล้วอย่างน้อย 10 ลูก คาดว่าได้มีนำไปส่ง ให้ทีมปฎิบัติการคนเสื้อแดง ที่กำลังเตรียมเคลื่อนพล และจัดตั้งกองกำลังในภาคอิสาน

มันดูถูกหลวงปู่จัง  เบอร์ 1 ค่าหัวแค่ 5แสนเนี่ยนะ บร๊ะเจ้า  แล้วกำนันจะเหลือเท่าไหร่ล่ะเนี่ย