Jump to content


Tom PR

Member Since 13 March 14
Offline Last Active 15 July 14 17:17
-----

#1189522 จอห์น วิญญู เงิบ!!!!!

Posted by ctpk05 on 27 May 2014 - 11:39

BokZLCPCQAMaVAz.jpg




#1170250 วัฒนธรรม แบบนี้ สมควรปกครองด้วยระบอบใด?

Posted by Bayonet on 18 May 2014 - 13:06

 

ใช้อารมณ์  มากกว่า  เหตุผล  งมงาย  อีโก้สูงจัด  ยอมรับความเปลี่ยนแปลงยาก

ขับเคลื่อนกิจการงานต่างด้วยเรื่องผลประโยชน์เป็นหลัก  ใครให้ผลประโยชน์คนนั้นดี

เล่นพรรคเล่นพวก  ตั้งแก๊ง แบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า  แสวงหาผลประโยชน์ให้พวกพ้อง

ชอบขัดแย้ง  แย่งชิงผลประโยชน์  ระหว่างกลุ่มคน  มักชอบถือว่า  เป็นเรื่องปกติทางธรรมชาติ

ที่คนแข็งแกร่งกว่าต้องอยู่รอด  และกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวมากกว่า

เลยมักคิดว่า  คอรัปชั่น  เรื่องธรรมดา  ใครๆ  ก็ทำกัน  ใครจะโกงก็เฉยๆ  

ขอแค่ไม่ทำให้กรูเดือดร้อน  รับได้หมด  ยิ่งถ้ากรูได้บ้าง  ยิ่งดี

ไม่เชื่อในระบบ  แต่ชื่นชอบในตัวบุคคลเป็นสำคัญ  

ชอบกีดกัน  เหยีดหยัน  คนที่ไม่เข้าพวก  คิดต่าง  วัฒนธรรมแตกต่าง

จิตสำนึกประชาธิปไตยต่ำ  คำนึงถึงส่วนรวมน้อย  เห็นแก่ตัวเป็นสำคัญ

........

 

นิสัย  ของชาติพันธุ์  แบบนี้เป็นกันมาก  ใน เอเชีย  ทั้งเอเชียกลาง  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  แอฟริกา  ตะวันออกกลาง  รวมไปถึงยุโรปตะวันออก

และเป็นเหตุให้ชนชาติเหล่านั้น  ล้วนไม่ใช่  " ประชาธิปไตย "   เพราะวัฒนธรรมที่ไม่เอื้อต่อความเจริญก้าวหน้าทางประชาธิปไตย  

 

แต่หากว่าเลือกจะเป็นประชาธิปไตย  ก็ต้องเป็นกลไกประชาธิปไตย  แบบพิเศษ  ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง  ไม่ว่า  จะเผด็จการรัฐสถา  ประชาธิปไตยแบบมีการชี้นำ  หรือประชาธิปไตยรูปแบบผสม  หรืออื่นๆ  ที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย  100`%   แน่นอน  หากเอาประชาธิปไตยแบบยุโรปตะวันตก  หรืออเมริกา  เข้ามาใช้  แบบทั้งดุ้น  รับรองเลยว่าเละ  หรือเหนื่อยในการลองผิดลองถูก  รวมถึงใช้เวลามาก  เพื่อวางระบบ  อย่างแน่นอน 

 

ลองย้อนมองบรรดา  ประเทศ  ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดู  รอบๆ ตัวเราสิ   มีใครเป็นประชาธิปไตย 100%  บ้าง?  ส่วนใหญ่ประชาธิปไตยรูปแบบพิเศษทั้งนั้น  ส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นประชาธิปไตยแบบ  ตะวันตกจ๋า  แต่เค้าก็ไม่ได้เจริญมากมายอะไร  ดังนั้น  ประชาธิปไตย  จึงไม่ใช่หลักประกันความเจริญแต่อย่างใด  เป็นประชาธิปไตย 100%  ก็เท่านั้น  หากยังมี่วัฒนธรรมข้างต้นอยู่  มันก็เละอยู่ดีนั่นล่ะ

 

ในประเทศไทย  มันคือการแย่งชิงอำนาจกันระหว่าง  ประชาธิปไตยแบบมีกษัตริย์ทรงเป็นประมุข  กับเผด็จการรัฐสภา  และคอมมิวนิสต์หลงยุค

ใครมาพล่ามเรื่องประชาธิปไตย 100%  หรือเชื่อว่า   ฝ่ายนั้น  ฝ่ายนี้เป็นประชาธิปไตยแบบผู้เจริญแล้ว  ไม่โง่ก็โลกสวยมาก  

 

แนะนำอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ มันเป็นแบบนี้กันทั้งโลกครับ

 

เพียงแต่บางประเทศเขาส่งเสริมให้คนเรียนรู้ ความผิดพลาดของตัวเองในอดีต

 

มีแต่บ้านเราที่บรรพบุรุษ ดีเลิศประเสริฐศรี มิมีข้อเสีย ข้อผิดพลาดให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และแพ้พม่าทั้งประเทศเพราะไส้ศึกแค่คนเดียว (เชื่อก็บ้าแล้ว)

 

 

ใคร ผู้ใด ที่ไม่มีความภาคภูมิใจในรากเหง้าบรรพบุรุษของตน .........จัดอยุ่ในพวกเนรคุณอัปรีย์จั ญไร

 

อ้อ...แม้ว่าผมจะอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ไม่มากเท่านักวิชาการ ผศ. รศ. ศจ.

 

แต่มั่นใจว่าอ่านมากกว่า PR โง่ ๆ บางตัวแน่ ........ จึงเข้าใจว่าคุณ annykun ตั้งใจจะสื่อสาร....ถึงอะไร

 

 

 

ปล. เค้าพูดถึงสภาพบ้านเมืองสังคมปัจจุบัน ....... มันจะเพ้อเจ้อไปเรื่องประวัติศาสตร์สมัยกรุงแตกทำซากไรของมัน 

 

เออ ถ้าวิเคราะห์ระบอบประชาธิปไตยไทยนับแต่ 2575 - ปัจจุบัน พัฒนาการในระยะ 80 ปี ที่ผ่านมา ก็ว่าไปอย่าง

 

.......เพ้อเจ้อมันได้ทุกครั้งที่โผล่มา -_-




#1157611 ..คำเตือน จาก นายพล ฯ ผู้เฒ่า...

Posted by พระฤๅษี on 9 May 2014 - 09:10

..... การชุมนุม เสื้อแดง ที่อักษะ..จะมี กองกำลังติดอาวุธ

 

แฝงตัวอยู่  เหมือนปี  ๕๓.  ทำให้ยากต่อการปราบ. แต่จะมี

 

กล้องมุมสูง จับหาผู้ถืออาวุธสงคราม. และอาจมีการ...

 

( เก็บทางไกล). อันนี้ไม่ยืนยันนะ... เฉพาะเรื่องเก็บทางไกล

 

..... ทหารที่ออกมา ท่านว่า ควรติดอาวุธ เพราะ บทเรียน ปี ๕๓

 

ที่ อนุสาวรีย์ ประชาธิปไตย. และเมื่อเห็นคนติดอาวุธ ในกลุ่ม

 

เสื้อแดง ให้เตือนให้เสื้อแดงจับ. ถ้าไม่จับ  ตอบโต้ทันที .....

 

..... เสื้อแดง ที่ถูกจ้างมา หรือมา แบบไหนก็ตามแต่  ถ้าปกป้อง

 

กลุ่มติดอาวุธ  จะไม่รับรอง ความปลอดภัย. และที่สำคัญ..

 

โปรดทราบ.. เสื้อแดง เสียชีวิต  จะไม่ได้  ๗.๕ ล้าน เหมือนปี ๕๓.

 

และเสื้อแดง อาจจะเสียชีวิต เพราะ กองกำลัง ที่ แฝงอยู่ ยิงกันเอง

 

..... มีข่าว จะแจ้งให้ทราบ ต่อไป......




#1157487 ผมโดนข่มขู่หลังไมค์ ใครรู้จักคนในภาพบ้างครับ

Posted by เช never die on 9 May 2014 - 05:51

เจอตัวแล้วอยากเล่นนอกระบบให้มันขรี้ขึ้นสมองเลย ก็หลังไมค์มานะครับ ทีแป็ก..


#1157291 ผมโดนข่มขู่หลังไมค์ ใครรู้จักคนในภาพบ้างครับ

Posted by Bookmarks on 8 May 2014 - 22:58

เค้าบล็อคคุณ TFEX คนเดียวมั้งคะ

เพจเค้า (?) https://www.facebook.com/tum.nirun

 

หน้าเค้า (?) 1491655_427616710698212_1184599360_n.jpg
 

 

992786_354574761335741_2099409880_n.jpg  หน

ชื่อ นิรันดร์

หน้าไม่เหมือนกับรูปที่คุณ TFEX เอามาลงเลย




#1157926 ประชาธิปไตย ส้นตีน

Posted by กรกช on 9 May 2014 - 12:12

ผมได้เข้าไปแสดงความเห็นในเพจ "สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย" คุยด้วยเหตุผล และความสุภาพ ไม่มีหยาบคาย บนพื้นฐานข้อเท็จจริง

 

แต่ขณะที่กำลังโพสต์ ผมก็ถูกแอดมินที่เพจนั้นบล็อคเอาดื้อๆ โดยไม่มีการชี้แจงอะไร ซึ่งก็คงเพราะความเห็นผม ทำให้เพื่อไทย และคนเสื้อแดงเสียหาย 

 

 

ชื่อเพจ ปกป้องประชาธิปไตย แต่พฤติกรรม เผด็จการชัดๆ กับแค่ความเห็นต่าง ยังรับไม่ได้ แต่กลับหน้าด้านเอาประชาธิปไตยมาอ้าง

 

 

ประชาธิปไตย ส้นตีน




#1150002 "เศรษฐกิจพอเพียง" มีจุดอ่อนตรงไหน ทำไมนักการเมืองไม่ค่อยจะสนับสนุนจริ...

Posted by chackrapbong on 2 May 2014 - 12:32

ตราบใดที่มนุษย์ยังมีกิเลศอยู่

ไม่ต้องห่วง ว่า จะไม่มีผู้ซื้อ

 

ที่น่าห่วงกว่า คือ จะผลิตให้เพียงพอกับกิเลศ ได้อย่างไง มากกว่า




#1147387 ชาวนาโอด"บัตรเครดิตชาวนา" หลอกชาวนาให้เป็นหนี้ธนาคาร T_T

Posted by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 29 April 2014 - 15:42

เห็นด้วย แต่ชาวนาชอบบ่นว่า ไม่มีทุน เลยไม่รวย

 

อยากทราบว่าคุณมีความเห็นอย่างไรกับคนจำพวกนี้

 

 

เนี่ยครับ ใช่เลย ประเด็น!

 

ผมมานั่งคิดนอนคิดนะ...ชาวนาทำนาทุกครั้งเป็นหนี้ทุกครั้งได้ยังไง

พอผมมาทำบริษัทตัวเองผมถึงคิดออก

 

คนปกติทำธุรกิจ บางคนก็ไม่ได้มีทุนมาก่อนนะครับ ก็กู้สินเชื่อมาเหมือนกัน  ใช่ไหมครับ

พอขายได้กำไร ก็ต้องเอาเงินที่ขายได้ไปใช้หนี้  ไม่ได้ต่างจากชาวนาครับ

 

แต่วิธีการคือ เงินที่ได้จากการขายของ เราจะเอาเป็นกำไรเลยไม่ได้ มันต้องแบ่งเป็น 4 ส่วนครับ

ส่วนแรก ใช้หนี้เก่า  (ที่ต้องใช้หนี้เลยเพราะมันมีดอกเบี้ย ถ้าไม่มีดอกเบี้ยก็ทะยอยใช้ตามงวดที่ตกลงไว้ก็ได้)

ส่วน 2 เอามาบริหารในองค์กร (ค่าออฟฟิศ ค่าเงินเดือนพนักงาน ค่าคอมนักขาย บลาๆๆ)

ส่วน 3 ชักออกมาเลย เอามาทำทุนต่อไป  (จะได้ไม่ต้องกู้ยืมซ้ำซาก ลงทุนทุกครั้ง กู้ทุกครั้ง เจอดอกกินหมด)

ส่วนสุดท้ายถึงเป็นกำไร

ส่วนไหนมากน้อยก็จัดลำดับความสำคัญไปครับ

 

ชาวนาก็ต้องทำแบบนี้ครับ  ได้เงินขายข้าวมาห้ามเอาไปใช้จ่ายเลย

ต้องหัก ส่วนแรก-ใช้หนี้คืนจนหมด

ส่วน 2-ใช้จ่ายในครอบครัว

ส่วน 3-ต้องสำรองไว้เป็นเงินทุนทำนาต่อไป (ค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าจ้างทำนา ฯลฯ) จะได้ไม่ต้องกู้อีก

เหลือเท่าไหร่ถึงกำไร ก็เป็นเงินออมไป

กำไรอาจเหลือแค่ 5% ก็ได้ในตอนแรกครับ  ทำไปเรื่อยๆกำไรมันจะมากเองเพราะไม่เป็นหนี้แล้ว

 

อย่ามาบอกว่าชาวนา่ไม่มีความรู้ %  ทำไมไ่ด้หรอก

ผมก็จะบอกว่าการจัดการเงินเข้ามาและออกไปนี่  มันเป็นความรู้แค่ระดับเลขบัญญัติไตรยางค์เองนะครับ :o 

ทุกวันนี้ผมคิด % ไม่เป็นนะครับ  ผมใช้ตั้งเลขบัญญัติไตรยางค์เอา

คือเอาเลขที่จะคิดเปอร์เซ็นต์เป็นตัวตั้ง หารจำนวนเต็ม แล้วคูณร้อย

(เช่น ยอดลงทุนทำนาทั้งหมด 50000  กำไร 10000

เอา 10000 ตั้ง หาร 50000 x 100 = 20%)

 

 

ปัญหาคือชาวนาได้เงินมา อย่าบอกว่าเอาไปใช้หนี้นะครับ  น้อยครับที่เอาไปใช้หนี้เลย มักเอาไปใช้ซื้อของที่อยากได้ก่อน

เงินมันเลยไม่เหลือ

 

ทีนี้ถ้าชาวนาบอกว่าไม่เคยได้เงินซื้อของเลย หนี้เอาไปหมด

คิดในแง่ทำการค้าแบบมีสติ ก็แปลว่าธุรกิจนี้มันไม่ "สร้างรายได้" ให้เรามากพอ  

(คนทำธุรกิจอาจใช้คำว่า business นั้นมันไม่ generate  enough income)

ก็ต้องจบและไปทำอย่างอื่นครับ  อย่าดันทุรังทำธุรกิจนั้นต่อไป เพราะมันจะมีแต่หนี้พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ




#1147365 ชาวนาโอด"บัตรเครดิตชาวนา" หลอกชาวนาให้เป็นหนี้ธนาคาร T_T

Posted by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 29 April 2014 - 15:02

ชาวนาหลายคน ไม่ต้องการ ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่ารับ ๆ ไปเถอะ จะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่ หรือจะเอาไปฉีกทิ้งก็ได้ ในบัตรเครดิตนี้มีวงเงินกู้อยู่ 50,000 บาท

^

^

ประชาชนทั่วไปก็โดนอยู่  กู้ซื้อบ้านกับสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ อยู่ดีๆแบงก์บอกว่าต้องทำบัตรเครดิตไปด้วยไม่งั้นกู้ไม่ผ่าน

แบงก์มันบอกว่า "ทำไปเถอะ ทำไว้เฉยๆก็ได้"

มันไม่เฉยครับ มันมีผลต่อการวัดความสามารถในการชำระหนี้!!

 

กรณีนี้ ที่จริงมันคือการ "ฮั้วธุรกิจ" ในธนาคารเอง บีบบังคับให้ปชช.มีผลิตภัณฑ์ของธนาคารผูกไว้เยอะๆ

ประเทศอื่นห้ามทำ เพราะผิดจรรยาบรรณ

เนื่องจากหลักการนับ "รายการหนี้สิน" จะถือว่า "บัตรพลาสติก 1 ใบ จะถูกถือว่าเป็นหนี้ 1 รายการ"

บัตรพลาสติกมี 4 ใบ เช่น บัตรเครดิต บัตรเงินสด บัตรอิออน  บัตรเซ็นทรัลการ์ด = เป็นหนี้ 4 รายการ"

แม้อีก 3 ใบจะไม่เคยใช้ ก็ยังถือว่ามีหนี้ 4 รายการ

แต่คนทั่วไปที่ไม่ใช่แบงก์ จะไม่เข้าใจ คิดว่ากู้บ้าน กู้รถ และบัตรพลาสติกตามข้างบน 4 ใบ = หนี้ 3 รายการ

แต่จริงๆแล้วมันคือหนี้ 6 รายการ

ตามหลักการขอสินเชื่อแล้ว ความสามารถในการชำระหนี้ที่ถูกต้อง แต่ละคนต้องมีหนี้ไม่เกิน 4 รายการครับ

เกินกว่านั้นถือว่าคุณเป็น "ลูกหนี้มีความเสี่ยงสูง"

 

ที่ร้ายกว่านั้นคือ วงเงินบัตรมีอยู่เท่าไหร่  หลักการธนาคารจะนับ 10% ของจำนวนวงเงินในบัตรต่างๆ เป็น "ยอดหนี้"

อย่างของชาวนา 50000 บาท 10%= 5000

มีบัตร 4 ใบ จะถูกนับว่ามียอดหนี้ 20000 ทันที

 

แล้วยอดนั้นไปไหน?  

มันก็จะเอาไปเข้าสมการ "สัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ Debt to Income ratio" ทันที

คือห้ามเกิน 36% ของรายได้

ถ้าคุณมีรายได้ต่อเดือน 20000   สัดส่วน DTI จะ = 7200

แต่คุณมีบัตรที่แบงก์ "ยัดเยียดให้" ถือไว้เล่นๆ 4 ใบดังกล่าว วงเงินบัตรเหล่านั้นที่คุณไม่ได้ใช้ จะมีหนี้รวมกัน 20000

ถือว่า "เกินความสามารถในการชำระหนี้" เรียบร้อยแล้ว

คุณจะกู้บ้านไม่ผ่าน กู้รถไม่ผ่าน ต้องอาศัยกู้ร่วมหรือมีคนค้ำประกัน

 

วิธีการแก้ก็ง่ายๆครับ  คือให้ไปปิดบัตรที่ไม่จำเป็นให้หมด เหลือเพียงใบเดียวที่ใช้ประจำ และ จ่ายเต็มวงเงิน+ตรงเวลา+ไม่เคยข้ามงวด

ใบไหนที่ผลประโยชน์สูงแต่จ่ายไม่เต็ม จ่ายขั้นต่ำ จ่ายไม่ตรง ก็ไปปิดบัญชีซะ

เหลือเฉพาะบัตรที่ประวัติการชำระหนี้ดีเยี่ยมเท่านั้น

ถึงจะกู้สินเชื่อใหญ่ๆได้ผ่านครับ

 

 

ที่จริงเรื่องบัตรเครดิตชาวนา  ผมมองออกตั้งแต่แรกและเคยเขียนไว้ตั้งแต่สมัยนั้นตอนบอร์ดเก่าแล้วว่า

เป็นกลลวงให้ชาวนาติดหนี้ แล้วยึดที่ชาวนาขายให้ต่างชาติ




#1140219 Make me a German จาก Face คุณ กรณ์

Posted by Bookmarks on 21 April 2014 - 00:14

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่างประเทศเขาทำได้ ทำไมไทยทำไม่ได้ แนะนำดูการเลือกจ่ายค่าไฟฟ้า

 

https://www.chooseen...CFRUAvAod4C0A2g

 

http://www.verivox.d...preisvergleich/

 

transmission line นั้นก็สามารถแปลรูปเป็นเอกชนได้ และสามารถรับไฟฟ้าจากหลายๆบริษัทได้ ปล่อยให้มีการเปิดกองทุนรวมเหมือนเครือข่ายโทรคมนาคมก็ได้

 

บางบริษัทเลือกวางสายไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้หน้าบ้านและเมือง ดูไม่น่าเกลียด

 

ส่วนจะอ้างว่าต้องการถูกที่สุด ดีที่สุด แนะนำว่าอาจต้องย้ายบ้าน เพราะในความเป็นจริงทุกเรื่องก็เป็นแบบนั้น

 

อยากให้ลูกหลานอยู่ในสภาวะแวดล้อมดี บางคนต้องย้ายออกจากสลัม

 

ช่วยขยายความตรงสีแดงๆหน่อยครับ

 

Transmission company in England
Before privatization
Nationalised monopoly: CEGB (England & Wales), SSEB (Scotland), NSHEB (Scotland), NIEB (N.Ireland) ทั้งหมดรัฐบาลเป็นเจ้าของ
 
After privatization
National Grid Transco, Scottish & Southern, Scottish Power, Northern Ireland Electricity (Viridian Group)

 

 

แล้วทีนี้ถ้าย้อนกลับมาที่ผมถามนะครับ  ถ้าแปรรูปแล้ว บริษัทB ได้สายส่ง(Transmission line)วงจรที่จ่ายไฟให้บ้านผม  แต่ผมอยากซื้อไฟจากบริษัท A เพราะผมศึกษาแล้วว่าบริษัทA ให้บริการดีกว่าในหลายๆด้าน  ผมเลยติดต่อบริษัทA ให้ช่วยขายไฟให้ผมหน่อย  บริษัทA จะทำไงครับ

 

เขาก็จะมาดำเนินการติดตั้งสายไฟให้ครับ ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่เขาให้บริการ เช่นเดียวกับเวลาคุณซื้อโทรศัพท์

 

บ้านน้องผม อยู่ต่างจังหวัด ไม่มีบ้านคนมากนัก เสาโทรศัพท์ยังไม่มาเลยครับ พอจะให้ติดตั้งทั้งองค์การโทรศัพท์ หรือแม้แต่ทรู ก็ไม่เข้ามาติดตั้งให้ เพราะบอกว่าไม่คุ้ม อยากได้โทรศัพท์ ต้องซื้อเสาเอง อย่าว่าแต่โทรศัพท์เลย ขนาดไฟฟ้า ยังต้องซื้อเสาเข้าบ้านเอง หมดไปเป็นแสนเหมือนกัน เปิดเสรี จะมีได้ใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์กันมั้ยครับ ถ้าเค้าบอกว่ามันไม่คุ้มที่จะให้บริการ

มันเป็นปัญหาในทุกๆระบบ ไม่เว้นแม้แต่การใช้ไฟฟ้า ปัญหาขาดแคลนแพทย์ ครู วิศวะ พยาบาล เภสัชกร น้ำประปา

 

ต้องถามว่าทำไมไม่มีคนไปอยู่มากนัก เพราะที่นั่นมีความเจริญน้อยและไม่มีงานให้ทำใช่ไหม การที่คุณจะให้ทุกคนเอาความสะดวกสะบายมาให้ตัวน้องของคุณ โดยใช้เงินของคนส่วนรวม คุณคิดว่ามันดีไหม เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามครรลองครองธรรมไหม

 

แทนที่คุณจะคิดว่าสังคมต้องช่วยเหลือน้องคุณ โดยการที่จะต้องเอาเสาไฟฟ้าและเสาโทรศัพท์มาสู่ถิ่นที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ และน้องคุณอยู่ที่นั่นเพราะตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินและสามารถทำมาหากินได้ที่นั่น ในทางกลับกันทำไมน้องคุณไม่ถามละว่าตัวเองจะทำอะไรให้กับประเทศได้

 

อ้าวไปไกลแล้วคุณ แบบนี้คนที่อยู่ต่างจังหวัด ก็ไม่ต้องใช้ไฟเลยสิ ถ้าไม่มีเงินซื้อเสาไฟฟ้าเอง โทรศัพท์ก็เช่นกัน แบบนี้ความเจริญคงไม่ต้องไปชนบทแล้วล่ะ เพราะบ้านแต่ละหลัง มันไกลกันอยู่แล้ว และผมคิดว่า ยิ่งเปิดเสรี ความคุ้มค่าในการจะลงทุนมันจะกลายเป็นเรื่องหลัก เพราะต้องคำนึงถึงกำไร ส่วนถ้าเป็นของรัฐบาล มันก็ต้องกระจายความสะดวกสบายไปทางชนบทบ้าง อ้อ น้องผมเสียภาษีให้รัฐครับ และเสียทั้งภาษีนิติบุคคล และภาษีเงินได้นะครับ

 

คุณต้องถามตัวเองว่าคุณจะลงทุนไหมถ้ามันไม่คุ้ม คุณว่าจะให้แต่หลวงใช้เงินเอาเงินหลวงมาใช้ ใช้เงินคนอื่นใครก็พูดได้ครับ

 

ความเจริญคงไม่ต้องไปชนบท คงต้องถามว่าทำไมมันไม่เจริญตั้งแต่แรก ที่ๆมันไม่เจริญเพราะคนเขาดูแล้วว่ามันใช้ทำมาหากินไม่ได้ เนื่องจากอาจเป็นภูเขา ไม่ได้เป็นท่าเรือ ไม่มีทางน้ำไหลผ่าน เป็นป่าเขา เป็นที่เพาะปลูกโดยธรรมชาติ คุณเปลี่ยนแแปลงธรรมชาติของพื้นที่ไม่ได้ และไม่ควรทำ เพราะมันเป็นการเอาเงินไปทิ้งเปล่าๆ

 

ถ้าคุณยื้อที่จะทำแนะนำให้ใช้เงินตัวเองครับ เพราะถ้ามันเจริญคุณก็จะได้ความเจริญนั้นเพียงคนเดียว 

 

คุณอ้างว่าน้องคุณเสียภาษี ต้องถามว่าแล้วคนอื่นๆเขาไม่เสียหรือ หรือคุณคิดว่าน้องคุณเสียมากกว่าคนอื่นๆ

 

ตลกแล้ว ที่ไหนไม่เจริญก็ไม่ควรเจริญ และถ้าน้องผมเสียภาษี ก็ควรได้รับบริการจากรัฐบาลครับ คุณอยู่ในที่เจริญแล้ว นั่นหมายถึงคุณได้รับบริการจากรัฐบาลแล้ว ที่ไหนไม่มี ทางรัฐบาลก็ต้องจัดหาให้ ไม่ใช่คุณเสียภาษี คุณได้รับบริการ แต่คนที่เสียภาษีอีกส่วนหนึ่งของประเทศไทย ไม่ได้ 




#1140208 Make me a German จาก Face คุณ กรณ์

Posted by sanskrit_shower on 21 April 2014 - 00:08

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่างประเทศเขาทำได้ ทำไมไทยทำไม่ได้ แนะนำดูการเลือกจ่ายค่าไฟฟ้า

 

https://www.chooseen...CFRUAvAod4C0A2g

 

http://www.verivox.d...preisvergleich/

 

transmission line นั้นก็สามารถแปลรูปเป็นเอกชนได้ และสามารถรับไฟฟ้าจากหลายๆบริษัทได้ ปล่อยให้มีการเปิดกองทุนรวมเหมือนเครือข่ายโทรคมนาคมก็ได้

 

บางบริษัทเลือกวางสายไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้หน้าบ้านและเมือง ดูไม่น่าเกลียด

 

ส่วนจะอ้างว่าต้องการถูกที่สุด ดีที่สุด แนะนำว่าอาจต้องย้ายบ้าน เพราะในความเป็นจริงทุกเรื่องก็เป็นแบบนั้น

 

อยากให้ลูกหลานอยู่ในสภาวะแวดล้อมดี บางคนต้องย้ายออกจากสลัม

 

ช่วยขยายความตรงสีแดงๆหน่อยครับ

 

Transmission company in England
Before privatization
Nationalised monopoly: CEGB (England & Wales), SSEB (Scotland), NSHEB (Scotland), NIEB (N.Ireland) ทั้งหมดรัฐบาลเป็นเจ้าของ
 
After privatization
National Grid Transco, Scottish & Southern, Scottish Power, Northern Ireland Electricity (Viridian Group)

 

 

แล้วทีนี้ถ้าย้อนกลับมาที่ผมถามนะครับ  ถ้าแปรรูปแล้ว บริษัทB ได้สายส่ง(Transmission line)วงจรที่จ่ายไฟให้บ้านผม  แต่ผมอยากซื้อไฟจากบริษัท A เพราะผมศึกษาแล้วว่าบริษัทA ให้บริการดีกว่าในหลายๆด้าน  ผมเลยติดต่อบริษัทA ให้ช่วยขายไฟให้ผมหน่อย  บริษัทA จะทำไงครับ

 

เขาก็จะมาดำเนินการติดตั้งสายไฟให้ครับ ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่เขาให้บริการ เช่นเดียวกับเวลาคุณซื้อโทรศัพท์

 

บ้านน้องผม อยู่ต่างจังหวัด ไม่มีบ้านคนมากนัก เสาโทรศัพท์ยังไม่มาเลยครับ พอจะให้ติดตั้งทั้งองค์การโทรศัพท์ หรือแม้แต่ทรู ก็ไม่เข้ามาติดตั้งให้ เพราะบอกว่าไม่คุ้ม อยากได้โทรศัพท์ ต้องซื้อเสาเอง อย่าว่าแต่โทรศัพท์เลย ขนาดไฟฟ้า ยังต้องซื้อเสาเข้าบ้านเอง หมดไปเป็นแสนเหมือนกัน เปิดเสรี จะมีได้ใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์กันมั้ยครับ ถ้าเค้าบอกว่ามันไม่คุ้มที่จะให้บริการ

มันเป็นปัญหาในทุกๆระบบ ไม่เว้นแม้แต่การใช้ไฟฟ้า ปัญหาขาดแคลนแพทย์ ครู วิศวะ พยาบาล เภสัชกร น้ำประปา

 

ต้องถามว่าทำไมไม่มีคนไปอยู่มากนัก เพราะที่นั่นมีความเจริญน้อยและไม่มีงานให้ทำใช่ไหม การที่คุณจะให้ทุกคนเอาความสะดวกสะบายมาให้ตัวน้องของคุณ โดยใช้เงินของคนส่วนรวม คุณคิดว่ามันดีไหม เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามครรลองครองธรรมไหม

 

แทนที่คุณจะคิดว่าสังคมต้องช่วยเหลือน้องคุณ โดยการที่จะต้องเอาเสาไฟฟ้าและเสาโทรศัพท์มาสู่ถิ่นที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ และน้องคุณอยู่ที่นั่นเพราะตัวเองเป็นเจ้าของที่ดินและสามารถทำมาหากินได้ที่นั่น ในทางกลับกันทำไมน้องคุณไม่ถามละว่าตัวเองจะทำอะไรให้กับประเทศได้

 

ปัจจุบันประเทศไทยมีไฟฟ้าใช้  กว่า 99% ของพื้นที่ทั้งหมด

 

เพราะ กฟภ ปักเสาพาดสายไปให้ถึงแม้ว่าจะขาดทุนครับ  ถ้าหากเป็นการแข่งขันเสรี จะมีเอกชนที่ไหนยอมขาดทุน

 

 

อีกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะน้องของคุณ bookmarks ครับ ตรงนี้นับรวมชนบทไกลๆด้วย  คุณทอมกำลังจะบอกว่าที่เหล่านี้ คนน้อย ก็ทนอยู่กันไปรับสภาพกันไปไม่ต้องมีไฟฟ้าใช้งั้นหรือ

 

 

คนเราทำทุกอย่างเองได้ด้วยมือของตัวเอง จงเลิกที่จะพึ่งหลวงเถิดแล้วปัญหาของประเทศมันจะหมดไป

 

แสดงว่านโยบายของ กฟภ ที่จะให้ประเทศไทยมีไฟฟ้า100% เป็นนโยบายที่ผิดสินะครับ




#1139857 Make me a German จาก Face คุณ กรณ์

Posted by พอล คุง on 20 April 2014 - 16:37

แล้วอีกอย่าง การแปรรูปจะต้องมีกฎหมาย ไม่ให้เครือญาตินักการเมือง ผู้ใกล้ชิดนักการเมือง เข้าไปมีส่วนร่วม ในการบริหาร

 

การแปรรูป จะต้องโปร่งใส ตรวจสอบที่มาที่ไปได้ ไม่ใช่แปรรูปแล้วเหมือน ปตท ที่ทักษิณ เอาคนของตัวเองเข้าไปนั่งในบอร์ด




#1139859 Make me a German จาก Face คุณ กรณ์

Posted by พอล คุง on 20 April 2014 - 16:40

 

 

ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับการทำ privatization

 

 

ทักษินทำ privatization แบบ incomplete เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันแพง

 

 

ปัญหา มันไม่อยู่ตรงนั้น เข้าใจด้วย ไม่สิ ต้องเรียกว่า ทักษิณใช่ช่องทางนี้ในการหาประโยชน์มากกว่า

 

ปัญหา ของมันก้อคือ การแปรรูปนะ ถ้าหากการแปรรูป แล้วทำให้เกิดการแข่งขันจริง มันก้อโอเค

 

อย่างโ่ทรคมนาคม แปรรูป แล้วมีการแข่งขันมันก้อโอ แต่เห็นไหม ขนาดโทรคมนามคม ที่มีการแข่งขันยังฮั้วได้

 

อีกอย่าง ไฟฟ้า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ ทุกคนในสมัยนี้ไปแล้ว 

 

การให้รัฐเป็นผู้ดำเนินการนะ เป็นประโยชนือยู่แล้ว เพราะรัฐสามารถขาดทุนได้

 

รัฐสามารถที่จะพยุงราคาค่าไฟได้ สามารถกำหนดค่าไฟใฟ้ไม่แพงได้

 

เอาง่าย ๆ เลยนะ ขนาดตอนนี้ การไฟฟ้า ยังเป็นของรัฐ ค่าไฟยังแพง

 

ถ้าอยู่ในมือ เอกชน คิดว่า มันจะถูกลงเหรอ เอกชน ก้อต้องขายค่าไฟฟ้าให้แพง อยู่แล้ว

 

รัฐบาลก็ขาดทุนไม่ได้ครับ ขอให้คิดดีๆ

 

และปัญหาคือถ้าปล่อยไว้ก็จะมีปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าเป็นที่ๆ ตามแต่ผู้สนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันจะเป็นใครอย่างที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้

 

 

ทำไมจะขาดทุนไม่ได้ ในเมือ รัฐบาล เป็นผู้ดำเนินงาน 

 

เหมือน ๆ กับ นโยบาย ๆต่าง ๆ จริงไหม

 

คล้าย ๆ กรณี จำนำข้าว ทำไมถึงบอกว่า รัฐสามารถขาดทุนได้

 

แต่พอเป็น การไฟฟ้า รัฐ ขาดทุนไม่ได้

 

วานตอบที




#1139855 Make me a German จาก Face คุณ กรณ์

Posted by พอล คุง on 20 April 2014 - 16:35

ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับการทำ privatization

 

 

ทักษินทำ privatization แบบ incomplete เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันแพง

 

 

ปัญหา มันไม่อยู่ตรงนั้น เข้าใจด้วย ไม่สิ ต้องเรียกว่า ทักษิณใช่ช่องทางนี้ในการหาประโยชน์มากกว่า

 

ปัญหา ของมันก้อคือ การแปรรูปนะ ถ้าหากการแปรรูป แล้วทำให้เกิดการแข่งขันจริง มันก้อโอเค

 

อย่างโ่ทรคมนาคม แปรรูป แล้วมีการแข่งขันมันก้อโอ แต่เห็นไหม ขนาดโทรคมนามคม ที่มีการแข่งขันยังฮั้วได้

 

อีกอย่าง ไฟฟ้า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ ทุกคนในสมัยนี้ไปแล้ว 

 

การให้รัฐเป็นผู้ดำเนินการนะ เป็นประโยชนือยู่แล้ว เพราะรัฐสามารถขาดทุนได้

 

รัฐสามารถที่จะพยุงราคาค่าไฟได้ สามารถกำหนดค่าไฟใฟ้ไม่แพงได้

 

เอาง่าย ๆ เลยนะ ขนาดตอนนี้ การไฟฟ้า ยังเป็นของรัฐ ค่าไฟยังแพง

 

ถ้าอยู่ในมือ เอกชน คิดว่า มันจะถูกลงเหรอ เอกชน ก้อต้องขายค่าไฟฟ้าให้แพง อยู่แล้ว




#1139845 Make me a German จาก Face คุณ กรณ์

Posted by Stargate-1 on 20 April 2014 - 16:24

 

 

 

 

ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือเปิดเสรีโดยบังคับให้ต้องมีการแข่งขัน แต่วิธีใดนั้นผมก็ยังไม่ทราบได้ คงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่ทำวิจัยหลายๆฝ่ายร่วมกัน
 
ไม่ใช่การแข่งขันแบบหลอกๆ โดย รัฐวิสาหกิจ ขายไฟให้ รัฐวิสาหกิจ ด้วยกันเอง 

ถามจริงๆ เฮอะ ไม่เคยใช้ไฟกับกฟน. หรือ กฟภ.ในประเทศไทยเลยหรือ หมายถึงจ่ายค่าบิลไฟฟ้ากับกฟน.หรือกฟภ. เพราะจ่ายไฟที่เจ้าของอพาร์ทเม้นที่ติดมิเตอร์เก็บค่าไฟเองใช่ไหม หรือ มีวิธีอื่นๆอีก ช่วยอธิบายหน่อย สงสัยมากๆเลย

 

ขอถามว่าการจ่ายไฟกับให้กับ เจ้าของอพาร์ทเม้น และการจ่ายไฟให้กฟน หรือกฟภ นั่นต่างกันหรือ

 

 

ตอนนี้จ่ายค่าไฟกับใครอยู่ ???

 

จ่ายให้ กฟน ครับ

 

เจ้าของอพาร์ทเม้นขายไฟให้ผู้เช่าในราคาไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วย เนื่องจากซื้อไฟจากกฟน.แล้วมาแยกมิเตอร์ขายไฟให้ผู้เช่า

 

การซื้อไฟจากเอกชน จะแพงกว่าซื้อกับกฟน.และกฟภ.แน่นอน เว้นแต่มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำหรือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ตามคห.นี้ http://webboard.seri...-2#entry1139799

 

ตอนนี้ก็เริ่มจากกฟผ.รับซื้อไฟจากเอกชนอยู่ แต่อย่างที่กล่าวไว้ โรงไฟฟ้าเอกชนมีแหล่งเชื้อเพลิงไม่หลากหลายเหมือนในยุโรป และ มีโรงไฟฟ้านิเคลียร์แบบในอเมริกา ต้นทุนการผลิตจึงแพงกว่าของกฟผ.

 

การรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน 
               กิจการไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภคที่สำคัญของประเทศ และแต่เดิมให้ภาครัฐเป็นผู้ดำเนินการแต่ฝ่ายเดียว โดยมีรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 แห่งคือ 
               1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ผลิตและจัดส่งไฟฟ้าไปตามสายไฟฟ้าแรงสูง เพื่อขายให้การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 
               2. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าให้ผู้ใช้ในกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ 
               3. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นผู้จำหน่ายไฟฟ้าให้ผู้ใช้ในส่วนที่เหลือของประเทศ 

               ผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตบริการของ กฟน. ต้องซื้อไฟฟ้าจาก กฟน. แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่สามารถเลือกซื้อจากผู้อื่นได้ เช่นเดียวกับผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตของ กฟภ. ที่ต้องซื้อจาก กฟภ. เท่านั้น
               การปรับโครงสร้างกิจการไฟฟ้าของประเทศไทย ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี โดยเริ่มต้นจากการส่งเสริมให้มีผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนเข้ามาผลิตไฟฟ้าได้ เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า


วัตถุประสงค์ของการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชน ในกิจการทางด้านพลังงานที่สำคัญมีดังนี้ 
               เพิ่มการแข่งขันในกิจการพลังงาน ทำให้กิจการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้บริโภคมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอในราคาที่เหมาะสม 
               1. ลดภาระการลงทุนของภาครัฐและลดภาระหนี้สินของภาครัฐ/ประเทศ 
               2. ส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นในกรณีของโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ซึ่งผลิตทั้งไฟฟ้าและไอน้ำ เป็นต้น 
               3. ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับบริการและคุณภาพไฟฟ้าที่ดีขึ้น 
               4. สนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการด้านพลังงานของประเทศ 
               5. ช่วยพัฒนาตลาดทุน 


ในประเทศไทยผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนสามาถเบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ๆดังนี้
               1. ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ (IPP)
               2. ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP)
               3. ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก (VSPP)