Jump to content


korn-online

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 พฤศจิกายน 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2556 22:38
-----

#925247 ช่อง 3 ช่อง 9 ถ่ายทอดข่าวจากม็อบราชดำเนินแล้ว....

โดย ปุถุชน on 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 06:50

พงส.นัดนักข่าวเยอรมันให้ข้อมูลเพิ่ม 21 มิ.ย.

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 18:48 น. ข่าวสดออนไลน์


จากการณีที่นายนิก นอสทิส ผู้สื่อข่าวอิสระชาวเยอรมัน เข้าพบพ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวน สน. พญาไท เพื่อติดตามข้อมูลของผู้ชุมนุมเสื้อแดงรายหนึ่ง ซึ่งนักข่าวเยอรมันรายนี้แจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ได้ภาพถ่ายชายคนหนึ่ง ขณะถูกยิงล้มลงที่หน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนราชปรารภ อยากทราบว่าขณะนี้มีชะตากรรมเป็นอย่างไร ตำรวจจึงนำแฟ้มผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์มาให้ดูและพบว่าชายคนดังกล่าวคือนาย ชาญณรงค์ พลศรีลา อายุ 45 ปี จากสภาพศพเมื่อมาประกอบกับภาพถ่ายของนายนิก ปรากฏว่าเป็นรายเดียวกัน


ความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันที่ 18 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบพ.ต.ท.เทพพิทักษ์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีโดยทาง พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ กล่าวว่า นายนิก นิสทอส ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน ได้เข้าพบเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. เพื่อขอดูรูปภาพถ่ายของนายชาญณรงค์และยืนยันว่าเป็นรูปเดียวกับที่ตนบันทึก ภาพไว้ได้ โดยนายนิก ได้ยืนบันทึกภาพอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ หลังจากสอบถามเบื้องต้นแล้ว ได้ให้นายนิก ไปรวบรวมภาพถ่ายที่ทางนายนิก สามารถยืนยันได้ว่า คนตายที่อยู่ในภาพนั้นเป็นนายชาญณรงค์ จริงและได้นัดให้มาพบอีกในวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย. เวลาประมาณ 09.00 น. โดยขณะนี้ยังมีผู้ที่เสียชีวิตจากอาวุธปืนอีก 4 คน เป็นผู้ชาย 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายอายุประมาณ 13 -14 ปี และเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอีก 1 คน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีญาติพี่น้องมาติดต่อแต่อย่างใด จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นญาติพี่น้องที่หายตัวไปสามารถของ ดูภาพถ่ายได้ที่สน.พญาไท

Nick Nostitz

http://asiapacific.a....-killing-zone/

16800482.jpg


ตามหาชายที่ถูกทหารยิง บันทึกนักข่าวเยอรมัน ในเขตสังหาร-15พ.ค. ภาพ-เสียงร้องยังติดตา

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7143 ข่าวสดรายวัน

คอลัมน์ แฟ้มคดี

นิก นอสติทซ์, 15 พฤษภาคม 2553


เบื้องหลังความรุน แรงและความตายของประชาชน 90 ศพ ล้มเจ็บอีกกว่า 2 พันรายจากเหตุการณ์ พ.ค.เลือด ยังคงทยอยปรากฏออกมาเรื่อยๆ หาได้เงียบหายไปกับการเก็บกวาดเช็ดล้างท้องถนนสายมรณะเส้นต่างๆ แต่อย่างใด

ไม่มีอำนาจใดปกปิดความจริงได้

รวมถึงกรณีล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ได้มี นายนิก นอสติทซ์ ผู้สื่อข่าวอิสระชาวเยอรมัน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อติดตามข้อมูลชะตากรรมของผู้ชุมนุมเสื้อแดงรายหนึ่ง ที่นิกถ่ายภาพเอาไว้ได้เมื่อ 15 พ.ค. หลังถูกยิงล้มหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ถ.ราชปรารภ กทม. กระทั่งทราบว่าชายคนดังกล่าว คือ นายชาญณรงค์ พลศรีลา คนขับแท็กซี่ อายุ 45 ปี

นายชาญณรงค์ พลศรีลา เป็นคนเดียวกับที่นางสุริยัน อายุ 45 ปี ผู้เป็นภรรยา เคยเปิดเผยกับ "ข่าวสด" ว่า มารู้ว่าสามีเสียชีวิตเพราะเห็นภาพถ่ายคนช่วยกันพยุงร่างเปื้อนเลือดของสามี ในข่าวสด ฉบับวันที่ 17 พ.ค. นั่นเอง!

"เสียใจมากที่ชายคนนี้ตาย ทั้งภาพและเสียงร้องขอความช่วยเหลือยังติดตามาตลอด หลังชายคนนี้ถูกยิงล้มลงก็พยายามคลานเข้าไปหลบในปั๊มแล้วปีนข้ามกำแพงปั๊มไป หลบในบ่อบัวของบ้านหลังหนึ่ง ผมเห็นกับตาแม้อยู่ในน้ำแล้วแต่ทหารยังปีนตามมาลากตัวออกไป ทั้งยังด่าว่าอย่างหยาบคาย จากวันนั้นพยายามตามหาเพราะอยากรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จนมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ไม่เข้าใจว่าทหารไทยทำแบบนี้ได้อย่างไร พร้อมเป็นพยานกับตำรวจเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ตาย" นิก ระบุ

ก่อนหน้านี้ นายนิกได้เขียนบทความบรรยายเหตุการณ์ปราบปรามผู้ชุมนุมบริเวณ ถ.ราชปรารภในวันดังกล่าวเอาไว้ด้วย ใช้ชื่อว่า"In the killing zone"(ในเขตสังหาร) นำเสนอผ่านเว็บไซต์ข่าวนิวมันดาลา(asiapacific.anu.edu.au/newmandala) และถูกศอฉ.สั่งบล็อก แต่ล่าสุดทางเว็บนำมาเผยแพร่ใหม่อีกครั้ง

"สฤณี อาชวานันทกุล"บรรณาธิการโอเพ่นออนไลน์ (onopen.com) แปลและเรียบเรียงไว้ ดังนี้

l ในเขตสังหาร

ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่บ้าน สงสัยว่าวันนี้ วันที่ 15 พ.ค. เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า หรือเป็นแค่ฝันร้ายน่าสยดสยองเท่านั้น ตลอดชีวิตผมไม่เคยรู้สึกกลัวตายเท่าวันนี้

ช่วงเที่ยงที่ผ่านมาผมไปสังเกตการณ์การชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง มีผู้ชุมนุมอยู่ประปราย อย่างมากไม่กี่ร้อยคน มีเศษชิ้นส่วนที่หลงเหลือจากการปะทะกันเมื่อคืนจำนวนมาก รถบรรทุกทหารที่ถูกเผาคันหนึ่งยังคุกรุ่น ผู้ชุมนุมขนยางรถยนต์มาสุมเป็นด่าน เอารถฉีดน้ำของเทศบาลเข้ามาคันหนึ่ง

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ชุมนุมย้ายรถฉีดน้ำไปตาม "ถนนราชปรารภ" มุ่งหน้าไปทางแนวของทหาร เพื่อใช้เป็นด่านป้องกันการยิงจากกองทัพ ผู้ชุมนุมบางคนย้ายยางรถยนต์หลายสิบอันมากองสุมเป็นด่าน คนหนึ่งชูหนังสติ๊กเล่นหน้ากล้องของพวกเราเหล่าช่างภาพ



"เห็นไหม นี่ไงอาวุธที่เราใช้สู้กับทหาร"

ผู้ชุมนุมย้ายยางรถยนต์ไปตามถนนอีก ไปกองหน้า "ปั๊มน้ำมันเชลล์" ใกล้กับซอยรางน้ำ ผมหาที่กำบังในปั๊มเผื่อกองทัพจะเริ่มยิง และกองทัพก็เริ่มยิงทันที บนถนนถัดจากผมไปประมาณ 5 เมตร ผู้ชุมนุมกลุ่มเล็กๆ ติดอยู่หลังกองยางรถยนต์ขณะที่กระสุนวิ่งผ่านหัว มันทำเสียงน่าสะอิดสะเอียนเวลาแล่นโดนผู้ชุมนุมที่เพิ่งพูดเล่นกับเราเมื่อ ไม่กี่นาทีก่อน เข้าที่แขนและหน้าท้องของเขา ผู้ชุมนุมบางคนที่หลบอยู่ข้างเดียวกับเรา พยายามโยนเชือกเข้าไปช่วยดึงผู้บาดเจ็บออกมา แต่ทำไม่สำเร็จ การยิงไม่เคยหยุดชะงักลงเลย

ผู้ชุมนุมอีกคนหนึ่งที่พยายามคลานหนีออกมา ถูกยิงที่ขาและไหล่ ผู้ชุมนุมคนหนึ่งวิ่งมาทางเราได้สำเร็จ ผมเริ่มสูญเสียความรู้สึกว่าเวลาผ่านไปนานเพียงใด ผู้ชุมนุมอีกคนข้ามมาทางเราได้ อีกคนถูกยิงที่แขน หลังจากนั้นอีกพักหนึ่งคนสองคนที่บาดเจ็บไม่มากวิ่งมาทางเรา คนหนึ่งล้มลงและคลานต่อไปจนถึงที่ปลอดภัย ผมเกรงว่าเขาจะถูกยิงอีกแล้ว

ข้างหลังของปั๊มน้ำมันมีห้องสุขาซึ่งกลายเป็น "โซนปลอดภัยชั่วคราว" ผู้ชุมนุมที่มีแผลที่ไหล่และขาได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เขาและผู้ชุมนุมอีกคนหนึ่งที่ถูกยิงที่แขน พร้อมด้วยนักข่าวอีกสองสามคนปีนข้ามกำแพงออกไป ผมกลับไปที่จุดเดิมเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับ

ผู้ชุมนุมที่ยังติดอยู่หลังกองยางรถยนต์ ผู้ชุมนุมอีกคนหนึ่งหลบไปสู่ที่ปลอดภัยได้ เขาวิ่งผ่านหน้าปั๊มน้ำมันไป

ผมตระหนักด้วยความหวาดหวั่นว่าทหารเริ่มเคลื่อนมาทางเราและยิงเข้ามาในปั๊ม ผมแอบอยู่ข้างหลังรถที่จอดอยู่ที่นั่น แต่รู้สึกแย่มากๆ ว่าผมอยู่ผิดจุด และผมต้องออกไปจากที่นั่นให้เร็วที่สุด ผมวิ่งกลับไปที่ห้องสุขาประมาณ 40 เมตรถัดไป รู้สึกว่าผมถูกไล่ยิงขณะวิ่ง ขาของผมล้าจนแทบล้มลง ความกลัวที่เปล่าเปลือยและน่ากลัวอย่างเหลือเชื่อ

ทันทีหลังจากนั้น ก็มีคนลากผู้ชุมนุมที่ถูกยิงที่ท้องเข้ามา ผมถ่ายรูปสองสามใบ และปีนกำแพงหนีออกไปเหมือนกันกระโดดลงไปในสวนสวยๆ หลังบ้านแห่งหนึ่งที่ขนาบข้างด้วยบ้านไม้ขนาดเล็กสองหลัง หลังบ้านนี้มีนักข่าวและผู้ชุมนุมกลุ่มย่อยมาออกันอยู่ คนที่อยู่ในบ้านนั้นเอาน้ำออกมาให้เรา ผมเห็นว่าที่กำแพงมีคนพยายามยกตัวคนเจ็บออกมา ผมไปที่กำแพงเพื่อพยายามช่วย หลังกำแพงผมได้ยินเสียงทหารวิ่งมาทางปั๊ม คนสองคนที่ช่วยกันยกตัวคนเจ็บพ้นกำแพงวิ่งไปทางบ้าน ผมมองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว กดตัวเองแนบกับพุ่มไม้หลังกำแพง ผมเห็นคนเจ็บหลบเข้าไปในทะเลสาบเทียมที่กำแพง ห่างจากผมไปประมาณ 10 เมตร



ผมได้ยินเสียงทหารตะโกนจากหลังกำแพง พวกเขาอยู่ที่ปั๊ม ผู‰ชุมนุมบางคนต้องยังอยู่ที่ห้องสุขา ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงปืนรัวติดกันหลายนัด เห็นปลอกกระสุนบินข้ามกำแพงมา ได้ยินเสียงร้องขอชีวิต เสียงตะโกน และเสียงที่เหมือนกับรองเท้าบู๊ตเตะเนื้อคน ผมกลัวชนิดที่ไม่เคยกลัวมาก่อนในชีวิต ติดอยู่หลังกำแพงนั่น ผมภาวนาว่าขออย่าให้มีใครโทร.เข้ามือถือผมเดี๋ยวนั้นเลย ผมกลัวมากว่าทหารจะยิงข้ามกำแพงมา เพราะพวกเขาต้องรู้ว่ามีคนปีนข้ามมาทางนี้

ผมได้ยินเสียงทหารสั่งว่า ให้ออกมาไม่อย่างนั้นจะยิงตาย ตอนแรกผมนึกว่าหมายถึงผม แต่แล้วผมก็เห็นหัวทหารโผล่พ้นกำแพง ตะโกนใส่คนที่อยู่ในน้ำ (ชาญณรงค์ พลศรีลา) ผมตัดสินใจว่าผมควรจะแสดงตัวเลยตะโกนออกไปว่าผมเป็นนักข่าวต่างชาติ ขอร้องว่าอย่ายิงผม ผมชูมือให้เห็นว่าว่างเปล่า เขาสั่งให้ผมเดินออกมา ผมเดินไปหาเขาและอธิบายว่าคนที่อยู่ในน้ำ ถูกยิงที่ท้องและแขน อาการสาหัส เขาลอยตัวอยู่ในน้ำ หน้าและท้องของเขาอยู่ปริ่มน้ำเท่านั้น

ทหารคนนั้นสั่งให้ผมดึงชายผู้นั้นขึ้นมา ทหารอีกคนหนึ่งกระโดดข้ามกำแพงมา คนที่สามเฝ้าอยู่เหนือกำแพง ขณะที่ผมพยายามดึงตัวคนเจ็บออกมาจากน้ำ เขาวิงวอนด้วยเสียงอ่อนว่าเขาทนไม่ได้แล้ว ตัวของเขาหนักเกินไป ผมขอให้ทหารคนหนึ่งมาช่วยผม ได้โปรดเถอะครับ ขณะที่กระชากตัวคนเจ็บขึ้นมา ทหารก็ตะโกนว่าชายผู้นี้ควรตาย พวกทหารจะต้องพาเขาไปโรงพยาบาลเพราะเขาไม่ตาย บอกว่าเขาสมควรตาย เสร็จแล้วทหารคนนี้ก็เดินจากไป

ชายคนเจ็บหล่นลงน้ำไปอีกครั้ง ทหารคนที่สองช่วยผมดึงตัวเขาขึ้นมา ขณะที่ทหารคนแรกยังตะโกนไม่หยุด ทหารคนที่สามที่กำแพงสั่งให้ผมดูแลคนเจ็บ ผมตอบว่าผมไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไร เขาถูกยิงสาหัสที่หน้าท้อง ผมเลิกเสื้อชายผู้นี้ให้ดูรูกระสุนเล็กๆ ที่ท้อง ผมคุกเข่าลงกับพื้น คนเจ็บขอให้ผมชูแขนที่บาดเจ็บและพลิกตัวเขาไปอีกข้างหนึ่งเพราะเขาหายใจไม่ ออกแล้ว ผมทำตามที่เขาบอกขณะที่เขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

ทหารสั่งเอาเปลหามเข้ามา และสั่งไม่ให้ผมถ่ายรูป ทหารคนแรกเดินไปที่บ้าน ผมบอกเขาว่าในนั้นมีนักข่าวต่างชาติอยู่หลายคน ทหารเอาปืนจี้สั่งให้นักข่าวออกมา และสั่งให้พวกเขาหามคนเจ็บออกไปทางประตูบ้าน ไปทางปั๊มน้ำมัน ผมทรุดตัวนั่งอยู่ที่บ้าน รู้สึกใกล้จะสลบ มือสั่นทั้งสองข้าง

ผมใช้เวลานานมากกว่าจะรวบรวมสติได้ เราได้ยินเสียงหวอของรถพยาบาล และเสียงปืนที่ยิงจากทหารในปั๊มน้ำมัน

ผมโทรศัพท์หาภรรยาและเพื่อนร่วมงานข้างนอก บอกพวกเขาว่าผมปลอดภัย เราได้ยินข่าวว่านักข่าวบางคนได้รับบาดเจ็บ บทสนทนาผ่านมือถือว่าจะเอาพวกเราออกไปอย่างไรนั้นกินเวลาหลายชั่วโมง เสียงปืนดังไม่หยุด มองออกไปไกลๆ ทางเวที เราได้ยินเสียงระเบิดเอ็ม 79 จากทิศสามเหลี่ยมดินแดง เราไม่ได้ยินเสียงปืนเลย


ดูเหมือนว่า ศอฉ. รวมทั้งนายกฯ จะมีการประชุมเกี่ยวกับพวกเรา คนที่อยู่ละแวกนั้นทำอาหารเย็นให้เราทาน เจ้าของบ้านออกมาพูดภาษาเยอรมันคล่องมาก บอกว่าเขาอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว ที่ทำงานอยู่ห่างจากอพาร์ตเมนต์ไป 10 นาที

หลังจากที่เราทานอาหารเย็นเสร็จ เราก็ได้รับคำแนะนำให้ออกมาทางประตูหน้า เดินผ่านปั๊มไปทางทหารที่อยู่ที่ซอยรางน้ำ เราขอให้ทหารมารับเราได้ไหมเพราะเราไม่เชื่อมั่นพอที่จะเดินออกไปในที่แจ้ง คำตอบคือถ้าทำอย่างนั้นทหารก็จะกลายเป็นเป้า ดังนั้นพวกเขาจึงมารับเราไม่ได้ เราตัดสินใจกันว่าเราต้องหาทางปีนกำแพงหลังออกไป ถึงตอนนั้นก็มืดแล้ว เราได้รับการบอกเล่าว่ามีสไนเปอร์อยู่บนตึกสูงแถวนี้ทุกตึก มีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่อาจจะโจมตีทหาร จึงเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะมารับเรา

เราโทรศัพท์กันอีกหลายครั้งและปรึกษาว่า ทางไหนจะปลอดภัย สุดท้ายเราปีนบันไดข้ามกำแพง มีชายคนหนึ่งรอรับเราอยู่ เสียงปืนดังขึ้นอีก ครั้งนี้ค่อนข้างใกล้กับจุดที่เราอยู่ จนเราต้องย้ายไปยังจุดที่ปลอดภัยกว่าที่อพาร์ต เมนต์แห่งหนึ่ง หลังจากปรึกษากันอีกสักพัก เราตัดสินใจว่าจะเดินไปทางไหน ปีนข้ามกำแพงอีกกำแพงหนึ่ง ลงไปในซอยเล็กๆ ที่มีคนอยู่ เราถามหาทางออกที่ปลอดภัยที่สุด สุดตรอกนี้มืดมาก มืดมากจริงๆ ผุ้ชุมนุมเสื้อแดงบางคนอยู่ตรงนั้น เรามาถึงใต้สะพานลอยรถข้ามที่สามเหลี่ยมดินแดงพอดี

ผมมองเข้าไปในซอยทางขวามือ มันเหมือนกับจ้องมองเข้าไปในหุบเหวลึก ควันและความมืดสนิทที่สะพานลอยหายเข้าไป เราเดินไปทางซ้าย ไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คนไม่กี่คนซ่อนตัวอยู่ในเงามืด สักพักเราก็ออกมาถึงที่ที่ไฟสว่างกว่าเดิม ชาวบ้านหลายคนอยู่นอกบ้าน เมื่อผมเดินไปถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิผมก็ได้ยินเสียงสวดมนต์ของพระ

พระสงฆ์กว่า 100 รูปนั่งอยู่ที่อนุสาวรีย์ ภาวนาให้การฆ่ากันยุติ ผมนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลับบ้าน เพราะต้องทิ้งจักรยานยนต์ของตัวเองไว้ในซอยแห่งหนึ่งในเขตสังหาร

หน้า 2

http://www.khaosod.c....dOaTB5TUE9PQ==

ต้นฉบับ Nick Nostitz

http://asiapacific.a....-killing-zone/

__________________

 

 

 

 

 

นายนิก นอสติทซ์ ผู้สื่อข่าวอิสระชาวเยอรมันที่มีเรื่องกับม็อบเมื่อวานนี้ที่หน้า บชน. ได้แจ้งความตำรวจแล้วว่าถูกชกที่ท้อง....

เป็นที่เข้าใจว่าเขาเป็นนักข่าวอิสระ แต่ชอบทักษิณ ชอบอีเพ็ญ......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า




#835605 อยากทราบราคาเบียร์ลีโอจากที่ต่าง ๆ ครับ

โดย เดือนเอก on 6 กันยายน พ.ศ. 2556 - 12:02

บริษัทยังตกลงราคาไม่ได้

ช้างเปิดก่อน ลีโอก็จะเปิดราคา ไม่ให้ห่างมาก กันไม่ให้อีกฝ่ายขายได้

 

สุดท้ายก็ยังไม่เปิดรับสั่งและส่งสินค้า

 

ร้านต่างๆ รับข้อมูลฐานภาษีสูงสุดที่ปรับ มาคิดราคากันขาดทุน

โดยคิดเต็มฐานที่รัฐเปิดข้อมูลมา ลังละ 60 บาท 

ถ้าขึ้นไม่เต็มฐาน ก็ค่อยปรับลด ดีกว่าขายแล้วซื้อเข้าแพงกว่าเดิม

 

ร้านผมปรับตาม ค้าส่งขนาดกลาง ที่ 30 บาท/ลัง




#835279 อยากทราบราคาเบียร์ลีโอจากที่ต่าง ๆ ครับ

โดย อาบังคนเหนือ on 6 กันยายน พ.ศ. 2556 - 10:03

ส่วนกระผมไม่ใช่คนค้าคนขายนะครับ..........แต่รู้สึกว่า

 

เหล้าเบียร์เวลาดื่ม ขวดแรก มักรู้สึกว่าแพงเสมอ

 

แต่ขวด สองสามสี่ห้า มันถู๊กถูกกกกกกกกกกกกกก

 

กรั่ก กรั่ก กรั่ก

 

:lol: :lol:




#834604 นึกแล้วครับ.. ว่ามันต้องมาบิดเบือน ไอ้ขาดทุนกำไรเนี่ย.. ช่วยสงเคราะห์หยาบๆ...

โดย Majestic on 5 กันยายน พ.ศ. 2556 - 17:18

 

 

 

 

1233607_655253031166149_1391621326_n.jpg

เมิ/งเอาต้นทุนปีนี้สิครับ สัส
เอาปี 50 มาทำพ่องหรอครับ พ่องย้อนเวลาไปตัดยางหรอครับ
เหอๆ

 



อ้าว ไอ้เวร ไม่แหกตาอ่าน เจือกมาด่าคนอื่นเขาอีก :D

 


ได้แค่นี้หรอควายแดง สถุนนน
เด่วเขียนสกู๊ปให้ครับ ดังแน่นอน เหอๆ

 

 
 
อย่างเอ็งเนี่ยนะ เขียนสกู๊ป
 
กลับไปหัดเขียนหนังสือให้อ่านรู้เรื่องก่อนเหอะ   :D 

 


hpara.png
แม้ว่าจะเห็น % กำไรสูง แต่ต้องเข้าใจว่า ยางไม่สามารถกรีดได้ทั้งปี
แรงงานคนนึง กรีดยางได้พื้นที่ไม่มาก และต้องกรีดในเวลากลางคืน ซื้งมีความเสี่ยงกว่าการทำงานเวลากลางวัน




#824417 พรรคแมลงสาป เอาคนใต้ดีๆไปแอบอ้าง เพื่อทำร้ายประเทศไทย และพี่น้องปักษ์ใต้ด้วยก...

โดย Stargate-1 on 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:56

น้ำมันดิบ-ยาง.JPG

 น้ำมันดิบ เทียบกับ ราคายาง

 

รัฐบาลที่ชอบอ้างโน้นอ้างนี่ เหมือน

นักธุรกิจทำบ.โฆษณาเจ๋งก็อ้างโน้นอ้างนี่

ความจริงแล้ว ไร้ฝีมือเสียมากกว่า

คนมีฝีมือต้องพลิกแพลงทำได้กำไรในทุกสถานการณ์

ไม่อาศัยสัมปทานผูกขาด หรือ โชคช่วย




#820751 กระทู้ส่งท้าย: จากนี้ต่อไปทุกสิ่งอย่างจะถาโถมมาสู่คุณอภิสิทธิ์และปชป. .. ขอเป...

โดย ดอกปีบ on 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:46

ดอกปีบเชื่อและศรัทธา ในอุดมการณ์ทางการเมือง และคุณธรรมจริยธรรมของท่านอภิสิทธิ์ค่ะ

 

เมื่อแป๊ะลิ้มประกาศเลิกสู้แล้ว... ต่อไปสิ่งเลวร้ายหรือขอกล่าวหาอันเลวร้ายทุกอย่างจะตกมา ถาโถมมาที่คุณอภิสิทธิ์..

 

 

เชื่อว่าท่านไม่ย่อท้อ และต่อสู้ โดยไม่ยอมก้มหัวต่อความไม่ถูกต้องทั้งหลาย

 

ดอกปีบเชื่อว่า ท่านจะกลับมาเป็นนายกอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่ปกติ ที่คนไทยกลับมารักกันเหมือนเดิม

 

ท่านจะเกษียณจากการเมืองอย่างสง่างาม และเดินรอยตามท่านพลเอกเปรมในการรับใช้เบื้องพระยุคลบาท

 

 

รักและศรัทธาต่อท่านอภิสิทธิ์เสมอค่ะ :)

 

a571cfbfa438cdf5adee263cff9c1270_12335614631.gif imagesCAR8EDYZ.jpg

 

*******************************************************************************************

 

ขออนุญาตินำข้อเขียนของท่านชูชาติ ที่ชื่นชมคุณอภิสิทธิ์มาเผยแพร่อีกทีนะคะ

 

 

จากFBของท่านชูชาติ ศรีแสง 

 

Chuchart Srisaeng
 
 
.....เมื่อคืนวันที่ 16 สิงหาคม 2556 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ด่าคนที่รักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า งมงายเหมือนสัตว์เด-รัจ-ฉาน

.....เป็นคนหนึ่งที่รัก ชื่นชมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพราะเห็นว่า เป็นคนเก่ง เป็นคนดี มีความตั้งใจแน่วแน่ที่เข้ามาทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจริง ๆ ไม่ได้ต้องการเข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์เพื่อตนหรือพวกพ้อง
 
.....ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกเมื่อการเลือกตั้งในปี 2535 ครั้งแรกในช่วงที่ ปชป กำลังตกต่ำใน กทม แต่ก็ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ของ ปชป ในจำนวนไม่กี่คนที่ได้รับเลือก

.....สมาชิก ปชป เลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเพราะเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถทั้ง ๆ อาวุโสยังน้อยถ้าเปรียบเทียบคนอื่น ๆ 

.....ตลอดระเวลา 20 ปีเศษที่เข้ามาทำงานการเมืองและ 2 ปีเศษในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีรอยด่างพร้อยในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
 
.....นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คู่สมรมรส ทั้งบิดามารดาของตนเองและของคู่สมรส ต่างก็ไม่ได้ประกอบธุรกิจใด ๆ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องขัดกันแห่งผลประโยชน์ หรืิอเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

.....ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีการตัดสินใจทำหรือไม่ทำอะไร ไม่อาจเป็นที่พอใจของทุกคนได้ แต่ในสภาพที่ถูกรังควานมุ่งหมายเอาชีวิตจากกลุ่ม นปช จนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัย จนต้องไปพักอยู่ในค่ายทหารอยู่ระยะหนึ่ง จึงไม่อาจทำอะไรได้มากนัก

.....เมื่อเข้ามารับตำแหน่งประเทศชาติกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจนนักเศรษฐศาสตร์ นักการเงินการธนาคาร และนักธุรกิจ หวั่นวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยปี 2540 แต่ก็สามารถแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยม เพราะนอกจากไม่เกิดปัญหาอะไรแล้ว เมื่อพ้นจากตำแหน่งมีเงินคงคลังและเงินสำรองที่เป็นเงินตราต่างประเทศสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด

.....นโยบายเรียนฟรีจนจบมัธยมศึกษาและครูพันธุ์ใหม่ คือสิ่งที่จะสร้างคนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติในระยาว

.....โครงการเงินออมแห่งชาติที่จะช่วยให้คนยากคนจน ผู้ประกอบอาชีพอิสระมีโอกาสที่จะได้ออมเงินเพื่อรับบำนาญในบั้นปลายของชีวิต และกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้วแต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ยอมดำเนินการตามกฎหมาย

.....โครงการออกโฉนดที่ดินให้แก่ชุมชน ที่ช่วยให้ประชาชนมีที่ทำกิน แต่ที่ดินไม่มีทางที่จะเปลี่ยนมือเป็นของนายทุนได้

.....ตลอดเวลาที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลเพียงมีข่าวที่ส่อว่าอาจจะมีการกระทำที่ไม่สุจริตก็จะเข้าไปดูแลตรวจสอบทันทีทุกเรื่อง ไม่ได้นิ่งเฉยตีหน้าตายทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนคนที่เป็นอยู่ในขณะนี้

.....ให้รัฐมนตรีลาออกเมื่อส่อว่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่รัฐมนตรีไม่มีส่วนรู้เห็น เรื่องปลากระป๋องเน่าเสีย รมต กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต้องลาออก กรณี รมต กับ รมช กระทรวงสาธารณะสุข ต้องลาออกทั้ง ๆ ที่มีการกล่าวหาว่าข้าราชการประจำตั้งงบประมาณเกี่ยวกับอาคารและเครื่องมือที่ใช้ในการรักษาพยาบาลสูงกว่าปกติ แต่ต่อมากลับปรากฎว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงคิดตัวเลขผิดไปจากความเป็นจริง

.....แน่นอนว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ใช่อริยะบุคคล เป็นไปไม่ได้ที่จะดีจนไม่มีที่ตำหนิ แต่มันอยู่ที่ว่า ดีกว่าชั่ว หรือเลวมากกว่าดี 

.....อนาคตไม่อาจทราบได้ แต่ที่ผ่านมายังเห็นว่า ดีกว่าเลว เก่งฉลาดมากกว่าโง่ ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนส่วนรวมมากกว่าโกงกินเพื่อประโยขน์ส่วนตัวและพวกพ้องบริวาร

.....ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็เห็นว่า ปชป เป็นพรรคการเมืองที่แท้จริงเพียงพรรคเดียวตามความหมายของพรรคการเมืองและไม่ผู้ใดเป็นเจ้าของพรรค สมาชิกทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ผู้ใดมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับของสมาชิกก็มีโอกาสเป็นหัวหน้าพรรคได้ 

.....นายชวน หลีกภัย ส.ส. ต่างจังหวัดที่ไม่มีทรัพย์สินเงินทองอะไร จึงได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรคเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคและได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่งของประเทศไทย

.....กลุ่มการเมืองอื่น ๆ อ้างว่าเป็นพรรคการเมืองนั้น ตามความเป็นจริงไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็นเหมือนบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจการเมือง สมาชิกได้รับค่าจ้างให้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร ส.ส.ในพรรคเป็นเพียงลูกจ้างของเจ้าของบริษัท อำนาจที่แท้จริงขึ้นอยู่กับเจ้าบริษัทเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะสั่งให้ทำหรือไม่ทำสิ่งใด

.....แน่นอนเช่นเดียวกันว่า ใน ปชป มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่ถ้าเปรียบกับกลุ่มการเมืองอื่น ๆ บุคคลาการของ ปชป มีคนดีมีคนเก่งมีความสามารถมากกว่า คนอย่างนายศุภชัย พานิชภักดิ์ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ซึ่งต่างประเทศทั่วโลกให้การยอมรับ นายกรณ์ จาติกวณิช ขณะดำรงตำแหน่ง รมต กระทรวงการคลัง ได้รับเลือกให้เป็นรัฐมนตรีคลังของเอเซียและรัฐมนตรีคลังของโลก ส.ส.ของพรรคในปัจจุบันโดยรวมก็มีคุณภาพมากกว่าของกลุ่มการเมืองอื่น ๆ

.....มีคนบางกลุ่มคอยทวงบุญคุณว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะพวกตนนั้น น่าจะเป็นเรื่องเจตนาบิดเบือนความจริง หรือมีการเข้าใจผิดสำหรับบางคนเพราะเชื่อตามที่คนอื่นบอก

.....ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษาว่า นายยงยุทธ ติยะไดรัช ซึ่งเป็นกรรมการบริหารของพรรคพลังประชาชนทุจริตในการเลือกตั้งในปี 2550 จึงเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายุบพรรคพลังประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 237

.....เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบ ส.ส. ของพรรคต้องไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นซึ่งส่วนใหญ่เข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่ิอไทย แต่มีกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แยกไปเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย

.....เมื่อมีการเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคเพื่อแผ่นดิน สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงเป็นผลให้มีคะแนนเสียงชนะพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก

.....การได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงได้มาจากการเลือกของ ส.ส.ในการประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 

.....ไม่ใช่ได้มาเพราะกลุ่มบุคคลหนึ่งกลุ่มบุคคลใดเป็นผู้บรรดาลให้ได้เป็นดังที่มีการกล่าวอ้างกันและทวงบุญคุณกันตลอดมา

.....เคยชื่นชมนายสนธิ ล้ิมทองกุล ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่่อต้านทักษิณ เคยสนับสนุนโดยการบริจาคเงินช่วยในการชุมนุมและบอกรับบริการ SMS จากเอเอสทีวี เพื่อช่วยไม่ให้จอมืด

.....นายสนธิ ลิ้มทองกุล เคยประกาศบนเวทีการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงโดยสาบานต่อพระแก้วมรกตว่า จะไม่แสวงหาตำแหน่งทางการเมืิอง

.....แต่เมื่อมีคนสนับสนุนจำนวนมากบริวารที่ใกล้ชิดก็จัดตั้ง "พรรคการเมืองใหม่" โดยมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นหัวหน้าพรรค

.....หลังจากนั้นกระบวนการด่า ปชป ด่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและด่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เริ่มข้ึนและหนักขึ้นเรื่อย ๆ

.....ย่อมเข้าใจได้ว่า พรรคการเมืองใหม่รู้ดีว่าการจะแย่งคะแนนเสียงจากผู้ที่สนันสนุนทักษิณหรือกลุ่มการเมืองของทักษิณคงทำได้ยาก ต้องแย่งคะแนนเสียงจากผู้ที่สนับสนุน ปชป หรือ ผู้ที่ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใดโดยเฉพาะเจาะจง จึงต้องด่า ปชป นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ 

.....พรรคการเมืองใหม่เร่ิมชิมลางด้วยการส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. แต่คนกรุงเทพใจร้ายมาก ผู้สมัครของพรรคการเมืองใหม่ ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ก.แม้แต่คนเดียว

.....นายสนธิ ลิ้มทองกุล ลาออกจากหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ หลังจากนั้นก็เกิดมีวาทะกรรมที่ว่า นักการเมืองทุกคนเลวหมด ต้องกำจัดนักการเมืองให้หมด ต้องปฏิรูปประเทศไทยกันใหม่ และเป็นที่มาของการโหวตโนในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 

.....ณ ปัจจุบันนี้ ทั้ง ๆ ที่ ปชป และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้เป็นรัฐบาลทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง แต่ก็ถูกด่ามากกว่ารัฐบาล พรรคเพื่อไทย และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มากนัก

.....แม้คนที่รักนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังต้องถูกด่าด้วยว่า งมงายเหมือนสัตว์เด-รัจ-ฉาน

..........ขอยืนยันข้อเท็จจริงที่กล่าวมาและเป็นการพูดของมนุษย์คนหนึ่งที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนบริบูรณ์ มีวุฒิภาวะ มีปัญญาที่รู้จักคิดด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้งมงายเยี่ยงสัตว์
เด-รัจ-ฉาน ครับ ! ! !



#814448 ช่วงนี้ฝั่งเสื้อแดงพยายามหากินกับศพชาวอียิปต์กันใหญ่

โดย ypk on 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:48

เหอะ เหอะ  ภราดรภาพมุสลิม มีความชอบธรรมที่จะทวงอำนาจคืนจากการถูกยึดอำนาจ

                   โดยฝ่ายทหารซึ่งเป็นการกระทำนอกกฎกติกา 

 

                   แต่

 

                   แดงเผาเมือง ไม่มีความชอบธรรมใด ๆ ที่จะออกมาทวงคืนอำนาจ เพราะรัฐบาล

                   อภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลที่มาตามกฎกติกา การกระทำของแดงเผาเมืองจึงต้องอาศัยความหน้าด้าน

                   ไร้ยางอาย ล้วน ๆ เพราะถ้าไม่มีตรงนี้ จะไม่มีมนุษย์หน้าไหนกล้าทำได้

 

                    การทวงคืนอำนาจของภราดรภาพมุสลิมมีทางเลือกสองทางคือ ทวงคืนโดยสงบ กับ

                    ทวงคืนโดยใช้กลุ่มสาวกเป็นเหยื่อเพื่อให้ได้อำนาจคืน แต่เมื่อคุณเลือกวิธีใช้สาวก

                    เป็นเหยื่อ คุณก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการตายของบรรดาสาวกของคุณด้วย เพราะ

                    ตอนคุณถูกทหารยึดอำนาจ คุณก็ให้เขายึดไปโดยดี ไม่มีการสูญเสีย แต่ตอนคุณมา

                    ทวงคืน คุณกลับใช้สาวกของคุณมาเป็นเหยื่อทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่า การกระทำแบบนี้

                    มีแต่สูญเสีย และไม่มีทางที่จะเอาชนะกองทหารไปได้

 

                    ซึ่งมันเหมือนกับ

 

                    การออกมาทวงคืนอำนาจแบบหน้าด้านไร้ยางอายของแดงเผาเมืองที่มีพรรคการเมือง

                    ไร้คุณธรรมหนุนหลัง เพราะเขาก็เลือกใช้วิธีการให้สาวกเป็นเหยื่อ ในการทวงคืนอำนาจ

                    ของเขาอย่างไร้คุณธรรมที่เห็นชีวิตมนุษย์เป็น ผักเป็นปลา เป็นวัวเป็นควาย ที่จะส่งไป

                    เข้าโรง เชือด เมื่อใดก็ได้

 

                    การบาดเจ็บล้มตายของสาวกภราดรภาพมุสลิม น่าจะสะท้อนให้เป็นถึงความแตกต่างกัน

                    ระหว่างการใช้กำลังทหารในการปราบปรามของรัฐบาลอียิปต์ กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้อย่าง

                    ชัดเจนว่า การเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของแต่ละรัฐบาลมีความแตกต่างกันอย่างไร เพราะ

                    ความจริงแล้ว แดงเผาเมืองควรตายเป็นใบไม้ร่วงตั้งแต่การบุกเข้าไปล้มการประชุมอาเซียนแล้ว

                    ถ้าผู้ปกครองขณะนั้นไร้คุณธรรม เห็นเรื่องการประชุมสำคัญกว่าชีวิตเพื่อนร่วมชาติ เห็นแก่หน้าผู้นำ

                    ต่างประเทศมากกว่าชีวิตเพื่อนร่วมชาติ แต่ผู้นำที่มีคุณธรรมเลือกใช้วิธีให้ตนเองเสียหน้าดีกว่า

                    ที่จะเห็นคนตายเป็น ผักเป็นปลา เป็นหมูเป็นหมา

 

                     กระนั้นก็ตาม พวกแดงเหยื่อความโลภของนักการเมืองผู้มีแต่ กิเลส ตัณหา ก็ยังมิได้สำเหนียกถึงความ

                     ถูกต้องดีงาม กลับพกเอาความโง่เขลาเบาปัญญาที่ถูกยัดเยียดมาจากบรรดาแกนนำ ให้กระทำผิด

                     กฎหมายทุกอย่าง ทำตัวเป็นอันธพาลใหญ่คับบ้านคับเมือง ปิดถนน ระรานชาวบ้าน ก่อการจลาจนเผาบ้าน

                     เผาเมือง  แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ประชาชนและพวกแดงเหยื่อของนักการเมืองไร้คุณธรรม

                     กลับเทียบกันไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อียิปต์

 

                     เพราะฉะนั้น หากแดงเผาเมืองเหยื่อของนักการเมืองไร้คุณธรรม จะนำเรื่องอิยิปต์ ไปกล่าวขานวิพากษ์วิจารณ์ก็ย่อมได้

                     แต่เขาจะเอาไปกล่าวขานวิพากษ์ วิจารณ์ แบบ โง่เขลาเบาปัญญา หรือกล่าวขานแบบ ฉลาดมีสติปัญญา ก็เป็นเรื่องที่

                     ทุกคนต้องพิจารณาเอาเอง




#814378 ช่วงนี้ฝั่งเสื้อแดงพยายามหากินกับศพชาวอียิปต์กันใหญ่

โดย bangkaa on 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 11:05

ให้แทน มอร์ซี  ด้วย แม้ว

แทน ภราดรภาพมุสลิม ด้วย เสื้อแดงเพื่อแม้ว

จะทำให้เห็นภาพเปรียบเทียบได้ดีขึ้น

 

พวกเสื้อแดง จะมองว่า ภราดรภาพมุสลิม มีความชอบธรรม ที่จะต่อต้านการรัฐประหาร...

มีความชอบธรรมที่จะก่อความวุ่นวายให้คนตายเป็นเบือ ด้วยอารมณ์ความแค้น

ซึ่งเป็นความคิดที่ อคติ เห็นแก่ตัวเอง อ้างโน่นนี่บ้าบอคอแตก โดยไม่ใส่ใจถึงเหตุผลอื่นๆ

 

 

เหตุการณ์รุนแรงจะไม่เกิด จะไม่รุนแรง หากแกนนำบอกให้หยุด

สิ่งที่ควรทำคือ มอร์ซี (หรือแม้ว) จะต้องบอกมวลชนของเขา ให้หยุด ให้พอ ทำไปก็มีแต่คนตายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ผู้นำสองฝ่าย มาคุยกัน เห็นแก่ส่วนรวม มากกว่าเห็นแก่ตัว

ไอเหตุผล เพื่ออำนาจของตนต้องละทิ้งให้หมด

ไม่ต้องมาอ้าง บ้าบออะไรทั้งสิ้น ทั้งเรื่องประชาธิปไตย การเลือกตั้ง รัฐประหาร เรื่องศาสนา ต่างๆ ฯลฯ

 

 

แต่ที่ไม่ทำ ก็เพราะหวังให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้ชนะการช่วงชิงอำนาจให้ตนเอง

คล้ายๆ กับ แม้ว เผาเมือง เพื่อให้ฝ่ายตนเองชนะนั่นล่ะ

โดยไม่คิด ไม่คำนึง ถึงผลเสียที่จะเกิดกับใครทั้งสิ้น

 

 

ประชาชนที่โง่ งม งาย ถูกชักจูง ก็กลายเป็นแค่เครื่องมือบูชายัญ ให้กับ ไอพวกนักการเมืองพวกนี้เท่านั้น

 

 

 

ประเทศไทย ก็สามารถเกิดเหตุการณ์ แบบอียิปต์ นี้ได้เช่นกัน จากสภาพปัจจุบัน

ตัวแปรสำคัญ อยู่ที่ แม้ว และ กองกำลัง ของเขา....

ถ้าเขาคิดได้ ยังมีความดีอยู่บ้าง เขาจะไม่ทำแบบที่ มอร์ซี ทำอยู่ตอนนี้...

 

 

 

ผมไม่ได้ สนับสนุนการรัฐประหาร

ผมบอกมาตลอดว่า การเลือกตั้งชั่วโดยแอบอ้างประชาธิปไตยเลวๆแบบที่เป็นอยู่ กับ การรัฐประหาร มันก็แย่พอกัน

จะต้องไม่มีทั้งสองสิ่งนี้พร้อมกัน....

เพื่อไม่ให้เกิดการแอบอ้างว่า เราต้องมีการเลือกตั้ง มีรัฐสภาชั่วๆ เพื่อหยุดการรัฐประหาร

หรือ เราต้องมีการรัฐประหาร เพื่อหยุด การเลือกตั้งชั่วๆประชาธิปไตยเลวๆ

ต้องละทิ้งให้ได้




#808182 ถามเสรีไทย..ในเมื่อ ปชป สู้ในสภา สู้อย่างไรก็แพ้.. จะสู้ไปทำไม

โดย tonythebest on 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 16:27

ผมอยากจะบอกเหลือเกิน
ผมมองว่าการต่อสู้ภาคสนามของมวลชนคนรัก ปชป
และคนรักชาติกลุ่มอื่นๆ ทั้งหมดทั้งสิ้น
ไม่มีทางที่จะเป็นพลังได้มากพอที่จะกดดันรัฐบาลหน้าด้านได้
อาจทำให้รัฐสะอึกได้บ้าง
แต่ถ้าสุดท้าย รัฐเอาคนเสื้อแดงออกมาชน
หรือแม้เพียงกลั่นแกล้งเล็กๆ น้อยๆ
ก็ยากจะต่อกรด้วยกำลังกันแล้ว

สิ่งที่คนหน้ากากขาวหรือกลุ่มอื่นๆ ทำได้
ก็เพรยงแสดงพลังให้โลกเห็น ให้คนไทยอื่นๆ เห็น
แต่หากวันนึง ถึงขั้นมีตีกันจริงๆ
คิดว่าการต่อสู้บนถนนนี้ จะได้รับชัยชนะหรือครับ

ผมไม่ได้ดูแคลนกันเอง
แต่อยากให้มองความจริงกันให้มาก
ในขณะที่หากยังมีน้ำหนักอยู่ทั้งสองฝั่ง
ในและนอกสภา มันจะไม่ยิ่วเป็นการเสริมกันได้หรืออย่างไร

ถามตัวเองซิว่า การต่อสู้ทางบู๊ในอดีต
มันเคยสำเร็จกันหรือไม่
หากไม่มีคำสั่งศาล
ยิ่งไปกว่านั้น
อดีตหอมหวานแบบที่พันธมิตรเคยมีคนเข้าร่วมเป็นหลักแสน
มันจะสามารถเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่

ผมเคยใช้คำว่า การเอา สส ปชป มาเป็นแค่แกนนำม็อบ
มันเป็นเพียงการ "ลด" บทบาทลง
เพราะไม่มีอาวุธอื่นใดในมือเหลือ นอกจากกำลังคน
ทำไมไม่แยกกันเดิน รวมกันตี
เพื่อจุดหมายหนึ่งเดียวกันเล่าครับ

อ้อ ลืมไป อ่านความเห็นบางคน มันชี้ให้เห็นจุดหมายคนละอย่างกันนานแล้ว

เหลือแค่ยอมรับความจริงของตนเอง



สู้ในสภายังไม่ชนะ
แล้วนอกสภา จะเหลืออะไรให้ชนะ


#800556 รัฐบาล ปู อำมาตย์ขนาดไหน ติดแอร์ให้ขยะ ด้วย

โดย 3x3eyes on 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 18:41

ห้องขยะในอาคารติดแอร์เป็นเรื่องปกตินะครับ จากประสปการณ์ อาคารสำนักงานหรือคอนโดทั่วไปก็มีระบบนี้ B)




#801594 รัฐบาล ปู อำมาตย์ขนาดไหน ติดแอร์ให้ขยะ ด้วย

โดย นิจนิรันดร์ on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 13:58

 

ติดแอร์ไม่ใช่ประเด็นครับ ถ้ากันของเน่าก็คงติดได้

 

น่าจะสนใจประเด็นอื่นมากกว่า เช่น ว่าจ้างเอกชน 2.8 ลบ/8 เดือน, นาฬิกาเรือนละห้าหลัก หรืองบต้อนรับหลักแสนมากกว่านะครับ

 

ห้องขยะในอาคารติดแอร์เป็นเรื่องปกตินะครับ จากประสปการณ์ อาคารสำนักงานหรือคอนโดทั่วไปก็มีระบบนี้ B)

 

อ่าน คห 2คนนี้แล้ว เล่นเอาคุณ นิจนิรันดร์ เขางอกไปเลย  :lol:

 

 

แล้วตัวสีแดง ที่ผมเน้น ท่านหมื่นขาไข่ไก่เค็ม  มีความคิดเห็นอย่างไรครับ

หรือว่าเขาบนหัวของท่านมันมีมากจนคิดอะไรไม่ออก

:D




#798758 ขอเชิญ โจโฉ นายกตลอดกาล ช่วยวิเคราะห์การเมือง นับจากนี้ไปสักนิดครับ

โดย ไร้สีไร้กลิ่น on 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 00:27

- คุณ bangkaa บอกว่าอ่านหนังสือแล้วเข้าใจ ผมว่าหลายคนอ่านแล้วก็เข้าใจ แต่จะเข้าใจอย่างเดียวกันรึเปล่าไม่ทราบ

 

แล้วจะแก้ปัญหาเหล่านั้นกันได้อย่างไร?? (ถ้าเข้าใจกันจริงทำไมยังแก้ไม่ได้ หรือแปลว่ายังไม่เข้าใจ)

 

แล้วปัญหาต่างๆในหนังสือนั้นมันแก้ได้ด้วยโหวตโนจริงเหรอครับ ผมคนล่ะที่หนึ่งเห็นว่าโหวตโนไม่ใช่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ (โหวตโนมันสำหรับภาคประชาชนผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ตอนนี้มันเป็นแบบนั้นหรือ ที่แน่ๆพวกแดงเขาตกเป็นทาสนักการเมืองไปแล้ว เขาไม่สนประโยชน์ประเทศชาติ เขาสนแต่ทักษิณจะกลับมาให้ประโยชน์เขา ดังนั้นจะมาใช้โหวตโน ก็เท่ากับทำให้ทักษิณแข็งแกร่งขึ้น ไร้คู่แข่ง นี่คือสิ่งที่หลายคนพยายามบอกเสื้อเหลืองมาตลอด)

 

- ลองดูสิ่งที่คุณเน้นด้วยตัวแดงก็ได้ครับ

ไม่ใช่แค่เรื่องที่จะต้องมาโทษมาเถียงกัน มาแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าคนนั้นคนโน้นคนนี้เป็นสาเหตุทำให้ประเทศชาติเสื่อมถอย

สนธิเองยังบอกว่าประเทศต้องมีคนเสื้อเหลืองไว้(ไม่ยอมสลายสีเสื้อ) ด่านักการเมืองเลวหมด ขายชาติหมด แล้วทำไมคุณ bangkaa ยังสนับสนุนเขาอยู่ 

ทั้งที่ในความเป็นจริงก็ย่อมมีทั้งคนดี คนเลว เราต้องรู้จักแยกแยะให้ได้และสนับสนุนให้คนดีได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ(แม้แต่ในหลวงก็เคยตรัสไว้) ถ้ารอให้นักการเมืองเป็นคนดีทั้งหมด จะรอกี่ชาติครับ

 

ใครไม่ใช่พรรคพวกตนเอง ก็เลว ก็แย่ ก็เป็นปัญหาหมด...

 ใครเป็นพรรคพวกตนเองก็ดีไปหมด ทำผิดก็แก้ตัวให้

ความเห็นแก่ตัวทำให้มีอคติไม่สามารถใช้ตรรกะเหตุผลมองเห็นปัจจัยสาเหตุของปัญหาประเทศที่แท้จริงได้

คำพูดนี้คงไม่ได้หมายถึงเฉพาะฝ่ายพรรคการเมือง แต่รวมถึงทุกกลุ่มที่ยังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ดังนั้นตราบใดยังแบ่งสี ใครมาด่าสีเราไม่ได้ หัวหน้าสีพูดอะไรต้องทำตามหมด ต้องเชื่อตามแกนนำสี มันจะไปแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ยังไง 

 

- เรื่องนักการเมืองชั่วมันก็มีมานาน กี่พันกี่หมื่นปีมันก็มีของมันมาแบบนี้ ทุกคนต่างก็ปรารถนาให้มีแต่นักการเมืองที่ใสสะอาด ซึ่งเป็นโลกในอุดมคติ ผมว่ากลับมามองปัญหาในปัจจุบันที่เป็นสิ่งเร่งด่วนก่อนดีกว่ามั้ย (อยู่กับปัจจุบันกันก่อน)

 

ปัญหาตอนนี้คือ ทักษิณกำลังจะให้มีนิรโทษกรรม คุณ bangkaa เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่เห็นด้วยจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

 

ที่แน่ๆโหวตโนตอนนี้คงไม่ได้เพราะยังไม่มีเลือกตั้ง

 

ปล. ใครเป็นคนที่ตัดสินว่านักการเมืองคนไหนดีไม่ดี สนธิเหรอ อย่างพวกแดงเขาก็มองว่าทักษิณดี เขาก็เลือก

ถ้าเหลืองบอกโหวตโน รอคนดี เกณฑ์ของคนดีแบบเหลืองคือยังไง แล้ววัดกันยังไงว่าดีจริง เพราะแม้แต่ผมเองยังมองว่าสนธิไม่ใช่คนดี 

นี่จึงเป็นที่มาของระบอบประชาธิปไตย คือตัดสินกันที่เสียงข้างมาก ปัญหาคือ ประชาชนมีข้อมูลที่ถูกต้องดีพอในการตัดสินใจแค่ไหน หรือโดนผลประโยชน์บังหน้า เกิดการแบ่งพวกเลือกเฉพาะคนของตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มาแก้กันด้วยโหวตโนเลย มันต้องเริ่มตั้งแต่ก่อนยังไม่เลือกตั้ง แล้วหลังเลือกตั้งก็ต้องมีการตรวจสอบ ลงโทษอีก ... 

 

แล้วทำไมจึงยังได้หลงอยู่กับคำว่า โหวตโน อยู่ได้ มันไม่ได้ต่างอะไรกับคนเสื้อแดงที่หลงอยู่กับคำว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย เลยครับ




#768190 จวกมิตซูโอะทำเสีย ชาติพระ พระพยอมสวดยับ

โดย isa on 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:20

กรณีของอดีตหลวงพ่อมิสึโอะ ผมอยากจะตบท้ายเพียงแค่นี้...

 

1.      ท่านไม่ใช่คนไทยเสียด้วยซ้ำ ท่านเป็นคนญี่ปุ่น

 

2.      ตลอดหลายปีที่ท่านอยู่ในผ้าเหลือง ท่านไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย

 

3.      หลายปีที่ท่านบวช ท่านทำประโยชน์ให้กับศาสนาพุทธมากมาย ก่อสร้างวัดหลายแห่ง ก่อตั้งมูลนิธิมายาโคตมี ที่ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กยากไร้ถึง 6000 กว่ากองทุน

การสอนศิลปะผ้าทอมือ ที่สร้างรายได้ให้ผู้คนมากมาย ...ท่านสร้างสิ่งดีๆไว้ให้กับเมืองไทย "ที่ไม่ใช่แผ่นดินเกิดของท่านด้วยซ้ำ!"

 

4.      คำสอนหลายๆอย่างของท่าน ช่วยเยียวยาจิตใจของคนที่เหนื่อยล้าในสังคมมามากมาย ในคำสอนในหนังสือท่าน ท่านไม่เคยอวดอ้างเป็นผู้บรรลุ

ท่านสอนเพียงหลักในการบำรุงจิตใจให้มีพลังต่อสู้ชีวิต ...เราจะตำหนิท่านว่าหลอกลวง สอนในสิ่งที่ท่านไม่เป็นจริงๆได้อย่างไร

 

5.      ท่านจะรู้จักกับสีกามานานแค่ไหนเราไม่ทราบ แต่การที่ท่านสละผ้าเหลืองแทนที่จะดื้อดึงครองต่อไปอย่างที่อลัชชีไทยแท้ๆหลายๆคนทำอยู่ แสดงให้เห็นถึงจิตสำนึกที่ดีของท่านต่อศาสนา...

แม้แต่พระที่ต้องปาราชิก นักศึกษาศาสนาหลายๆท่านก็ยืนยันตรงกันว่า ถ้ายังดื้อครองผ้าเหลืองต่อไป จิตใจจะวุ่นวายเดือดร้อนตลอดเวลา ไม่อาจก้าวหน้าในศาสนา

แต่ถ้าสึกไปเป็นอุบาสกและปฏิบัติต่อ ก็มีโอกาสที่จะก้าวหน้าในธรรมะไปถึงขั้นอนาคามี

 

...การที่คนๆหนึ่งที่ไม่ใช่คนเชื้อชาติเดียวกับเรา มาอุทิศเวลาหลายๆปีให้กับศาสนาพุทธ ให้กับการทำสิ่งดีๆให้กับสังคมของเรา แม้ในตอนจบของมัน อาจจะไม่ได้งดงามอย่างที่เราคาดหวัง

แต่อย่างน้อยท่านก็สมควรจะได้รับความเคารพและยกย่องในที่สิ่งที่ท่านทำทิ้งไว้ให้กับเราไม่ใช่หรือ ผมเห็นความเห็นบางแห่งพูดราวกับว่าวัด หรือมูลนิธีที่ท่านสร้างไว้ให้ กลายเป็นภาระของพระศาสนา

ไปเสียหยั่งงั้น แทนที่จะถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่มีปัญญาบำรุงรักษาสิ่งที่มีคนอุตส่าห์มาสร้างไว้ให้ จะต้องรออัศวินม้าขาวมาอุทิศตัวเองให้ทั้งชีวิตเลยหรืออย่างไร ถ้าเขาทำให้ไม่ได้อีก ก็ก่นด่าไล่หลัง
คนไทยเรามีความสามารถเพียงแค่นี้เองหรือ? 

 

...ข้อเสียอย่างหนึ่งของคนไทยเราก็คือเราหิวกระหายคนดีที่มีแต่ให้ไม่หยุดยั้งอย่างพระเวสสันดร เราแสวงหาคนดี พอได้คนดีมาเราก็เชิดชูและช่วยกันสูบพลังงานและทรัพยากรทุกอย่างจากเขาจนเหือดแห้ง

หากเขาปฏิเสธที่จะให้ หรือหากเขาให้ไม่ได้อีกต่อไป เราก็จะก่นด่าเขาว่าไม่ใช่คนดีอีกต่อไป ...ท้ายที่สุด เราจึงมีแต่คนดีที่จากไปแล้วและกำลังจะจากไป คนดีที่เสียแล้ว

และคนดีจอมปลอมหน้าไหว้หลังหลอกแบบที่สร้างความวอดวายให้กับสังคมไทยในปัจจุบัน...แล้วเมื่อไหร่เราจะเรียนรู้กันเสียที "ว่าแทนที่จะหาคนดี

เราช่วยมาเป็นคนดีกันคนละเล็กละน้อย เพื่อให้สังคมไทยดีขึ้น เพื่อให้คนดีที่เรามีอยู่น้อยคนเต็มทีไม่เหนื่อยจนเกินไป หรือไม่เหนื่อยหน่ายจนตัดสินใจเลิกเป็นคนดีไม่ดีกว่าหรือ"

 ในหลวงเองท่านก็เตือนผ่านเรื่องมหาชนก ให้เป็นสังคมที่สร้างสรรค์ด้วยความเพียรแบบมหาชนก เลิกเป็นสังคมพระเวสสันดรแบบดั้งเดิมที่ถือกันแบบผิดๆ
ที่มีแต่ผู้ให้ถาวร กับผู้ขอถาวรที่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้ให้ จนกลายเป็นเสพย์ติดประชานิยมแบบปัจจุบันเสียที ถ้าเราเองที่เป็นคนชั้นกลาง
ยังผิดหวังที่ไม่ได้ประโยชน์จากคนต่างชาติคนหนึ่งเท่าที่เราหวังไว้ แล้วเราจะหวังให้รากหญ้าเปลี่ยนนิสัยได้อย่างไร

 

คนใกล้ตัวผมหลายๆคนรวมทั้งคนที่ทำงาน วิจารณ์ท่านมิสุโอะกันอย่างมันปาก ราวกับว่าท่านเป็นอลัชชีรูปหนึ่ง ทำให้ผมสะท้อนใ

...คนที่พูดเองหากไปเทียบกับท่านแล้วก็ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้กับสังคมอะไรมากมาย และความรู้ทางศาสนา ก็ไม่ได้เท่าสะเก็ดเล็บของท่าน

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ท่านเคยเป็นพระนักปฏิบัติ และแม้จะออกมาเป็นฆราวาสครองเรือน ผมก็เชื่อว่าท่านจะปฏิบัติต่อไป และนักปฏิบัติที่ทำความดีมามากมาย

และมีความก้าวหน้าในระดับหนึ่ง หากเราที่มีคุณความดีน้อยกว่าไปวิจารณ์นินทาด้วยวจีทุจริต ก็สร้างบาปสร้างกรรมใส่ตัวเปล่าๆ

 

...ท่านมิสุโอะอาจจะหมดบุญกับผ้าเหลือง แต่ใช่ว่าท่านจะหมดบุญกับศาสนาพุทธ ด้วยความรู้พุทธเถรวาทที่ท่านเรียนรู้ไป เส้นทางธรรมะก็ยังรอท่านอยู่ทุกเสี้ยววินาที

แค่มีสติรู้สึกตัวทั่วพร้อมเท่านั้นก็หวนกลับสู่เส้นทางได้อีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ท่านจะเดินไม่ใช่ในฐานะพระ แต่เป็นฐานะฆราวาส

และผมเชื่อสิ่งที่ท่านหลวงพ่อพุธ ฐานิโยท่านกล่าวไว้ว่า "จิตรู้คือพระพุทธ จิตที่รู้ดี-ชั่วคือพระธรรม จิตที่ตระหนักรู้และหลีกเลี่ยงความชั่วสร้างความดีคือพระสงฆ์"

ผ้ากาสาวพัตรเป็นแค่ยูนิฟอร์ม คนที่ประพฤติธรรมไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด แต่งกายแบบใด ก็ประพฤติธรรมได้ทั้งสิ้น

 

 

ในที่นี้ ผมขออนุโมทนากับท่านมิสุโอะ สำหรับสิ่งดีๆในหลายปีมานี้ที่ท่านทำให้กับสังคมไทยมากเท่าที่คนต่างแดนคนหนึ่งจะทำให้ได้

และจากผลของสิ่งดีๆที่ท่านทำไป ขอให้ท่านประสบความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมในอนาคตครับ (-/\-)

และขออภัยถ้าโพสต์นี้กระทบใจบางท่านด้วยครับ




#768189 จวกมิตซูโอะทำเสีย ชาติพระ พระพยอมสวดยับ

โดย คนไทย916 on 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:19

แล้วท่านจะพูดไปเพื่ออะไรครับ 

 

ท่านสึกก็หมายถึงว่าท่านไม่สามารถครองตัวเป็นพระต่อไปได้ท่านจึงสึก ไม่ดีหรือ 

ดีกว่าไม่สึก แล้วทำให้ ศาสนา เสื่อม 

แล้วพระ พยอม พูด ยังกะชาวบ้านทั่วไป ที่เรียก ว่าคน ล้ม แล้ว กระทืบ ซ้ำมากกว่า

แทนที่พระพยอม จะให้พร ในการครองฆราวาส ที่ดี 

 

พระพยอมท่านก็บวชมาหลายสิบปี ท่านใยกระทีบ ซ้ำ




#768331 ขอแชร์เรื่องการชุมนุมหน้าเซ็นทรัลสักนิดครับ มีเรื่องที่ควรแก้ไข

โดย TFEX on 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 01:01

คือว่าผมก็ไปถึงแต่บ่ายโมง ตอนนั้นก็ไม่มีไรครับ ปกติดี จะมีนิดๆหน่อยๆก็ตรงที่เวลาการเคลื่อนขบวนไม่ชัดเจน เปลี่ยนเวลาไปมาสองสามรอบ

 

ที่เห็น ก็จะมีพี่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ใส่หน้ากากตลอด พูดโทรโข่ง (จะมีคนตัวสูงๆคอยถือโทรโข่งให้)

 

 

พี่ผู้หญิงคนนี้ดีมาก คอยประสานงานเรื่องการจัดขบวน แต่ไม่ได้แสดงออกหรือมีท่าทีว่าตัวเป็นแกนนำไรเลย  เค้าแค่พยามให้การชุมนุมเป็นระเบียบ มีกรอบชัดเจน และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ห้างและผู้ใช้ถนน

 

อย่างตอนที่สมาคมเชียร์ลีดเดอร์เค้าจำเป็นต้องใช้พื้นที่เพื่อทำการแสดง พี่คนนี้ก็เป็นคนเดินประกาศขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุม เพื่อเปิดพื้นที่ให้น้องๆเค้ามาเต้นกัน

 

ผมเห็นพี่เค้าใช้ได้ เลยหาโอกาสเดินไปบอกพี่เค้าว่า พี่ครับวันนี้หน้าสตช.ควรพูดเรียกร้องความยุติธรรมและความปลอดภัยให้กับพี่น้องชาววีในต่างจังหวัดที่ถูกทำร้ายและขู่เข็ญ  พี่เค้าบอกว่าโอเค

 

 

จากนั้นพอเริ่มเคลื่อนขบวนตอนบ่ายสองโมงครึ่ง  ผมเดินมาถึงกลางสี่แยกราชประสงค์ ก็ได้เห็นรถขยายเสียงคันหนึ่ง และได้ยินเค้าพูด  ใจก็นึกว่าดีแฮะ คนนี้พูดปลุกระดมได้ดี เพราะที่ผ่านมามันดูเงียบไปนิด

 

สัปดาห์ก่อนๆ พอเดินผ่านหน้าสตช.ก็ได้ยินแต่คำว่า ขี้ข้าทักษิณ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าต้องพูดเข้าประเด็นว่าทำไมถึงไปเรียกเขาอย่างนั้นด้วย 

 

 

พอถึงหน้าสตช.พี่ผู้หญิงก็บอกให้พี่น้องหยุดหน้าสตช. ผมมีโทรโข่งก็เลยช่วยประกาศว่าเงียบก่อนครับ ให้ฟังข้อเรียกร้องของเราก่อน (เพราะไม่งั้นเดี๋ยวตำรวจฟังไม่รู้เรื่อง)

 

พี่เค้าก็เริ่มพูดข้อเรียกร้องดังกล่าว  ไม่ทันไร  มีเสียงจากรถขยายเสียงคันนี้พูดไล่หลังมาจากโรงพยาบาลตำรวจ  ผลก็คือเสียงพี่ผู้หญิงถูกกลบ ฟังไม่รู้เรื่องสักนิดเดียว เพราะเค้าพูดผ่านโทรโข่งเล็กๆตัวเดียว

 

ผมก็เลยอาสาวิ่งไปบอกรถคันนั้นว่า ตัวแทนเค้ากำลังพูดข้อเรียกร้องต่อตำรวจอยู่ ยังไงก็ให้ช่วยด้วย

 

จากนั้นรถคันนั้นก็พูดต่อ สงสัยคงฟังไม่เข้าใจว่าผมบอกให้หยุดสักครู่   แต่รถคันนั้นก็ช่วยพูดในเรื่องที่ชาววีถูกทำร้าย  ก็ถือว่าดีเพราะเครื่องเสียงดังชัดเจน

 

 

จากนั้นพี่ผู้หญิงก็นำมวลชนเคลื่อนขบวน จุดหมายที่เดิมคือหอศิลป์  รถขยายเสียงก็มาอยู่จุดแทนที่พี่ผู้หญิง  และพูดอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าสตช.  เรียกร้องให้ส่งตัวแทนระดับผู้การออกมารับพวงหรีด

 

เรียกร้องอยู่นานมากก็ไม่มีตำรวจสักนายออกมารับ  ผมก็ร้อนใจ เพราะขบวนหยุดตามรถคันนี้  ทำให้ขบวนขาดตอนไปเลย  กลุ่มแรกไปถึงหอศิลป์แล้ว แต่ท้ายแถวยังอยู่หน้าหน้าเซ็นทรัล เพราะเดินมาไม่ได้เนื่องจากรถขยายเสียงไม่เคลื่อน

 

 

ผมเลยพยามบอกพี่น้องด้วยโทรโข่งว่า ให้เคลื่อนไปยังหอศิลป์เลยครับ ท้ายแถวยังมีพี่น้องอีกมากที่เดินมาไม่ได้ (ทำให้รถติดหนักมาก)   แต่ก็ไม่เป็นผล  เพราะคนหยุดฟังรถขยายเสียง และรอดูว่าตำรวจจะมารับพวงหรีดมั้ย

 

 

จากนั้นรถคันนี้ก็ประกาศว่า จะพาพี่น้องเดินไปอนุเสาวรีย์  ผมก็ไปถามเค้าว่า พี่ครับ เค้านัดรวมกันหน้าหอศิลป์นะ เดี๋ยวกลุ่มมันแตก   แกบอกว่าไม่เป็นไรหรอก

 

ผมไปบอกแกสองครั้งสามครั้ง ก็ยังประกาศเหมือนเดิม  ผมก็เลยเดินล่วงหน้าไปหอศิลป์ก่อน

 

 

พอไปถึงก็พบพี่น้องกลุ่มแรกที่มาถึงก่อน  จากนั้้นก็ทยอยตามกันมา จนครบขบวน รวมทั้งรถขยายเสียงด้วย  และมีการ์ด(น่าจะเป็นการ์ดเพราะใส่ชุดเหมือนกันหลายคน) ไปคุยกับรถคันนั้้นว่า อย่าไปอนุเสารีย์ เพราะไม่ต้องการเดินขบวนผ่านเขตพระราชฐาน

 

 

การชุมนุมก็ดำเนินผ่านไป  สักพักผมเห็นการ์ดชี้ๆ  และพูดว่า เฮ้ยรถมันไปแล้ว  (พาคนตามไปด้วยเป็นร้อย)  ไปเอากลับมาเร็ว     ..แล้วเค้าก็รีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปตาม  แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าตามกลับมาได้เปล่า เพราะเห็นเลยสะพานหัวช้างไปแล้ว

 

ระหว่างนััน ผู้กองปูเค็มก็สลับพูดกับอีกหลายๆท่าน ที่ลานหน้าหอศิลป์ ผมก็เลยไปขอถ่ายรูปกับพี่เค้ามาด้วย ^^

 

 

ที่เล่าให้ฟังนั้น ไม่ได้มีเจตนาจะว่าอะไรใครเลยจริงๆ  เพราะเชื่อว่าทุกคนรักชาติ รักในหลวงเหมือนกัน

 

แต่ที่ผมเห็นคือ  ความไม่มีเอกภาพ

 

 

จริงอยู่ชุมนุมวีไม่มีแกนนำ  แต่ที่ปฏิบัติกันมาคือ เช่นเวลาพี่ผู้หญิงเค้าจะประกาศอะไร เค้าจะออกตัวก่อนเสมอว่า  "กลุ่มได้คุยกันแล้ว..."  หมายถึง  หลายๆคนได้หารือกันและออกมาเป็นมติ  ถึงจะกระทำหรือไม่กระทำการใดๆ

 

 

ดังนั้น กลุ่มก็ควรจะฟังมติดังกล่าว 

 

 

แต่รถขยายเสียงคันนี้ ไม่ฟัง มติ ของกลุ่ม  การที่ไม่ยอมเคลื่อนขบวนจากหน้าสตช.เหมือนที่เคยปฏิบัติกันมา  มันทำให้  รถติดเป็นชั่วโมงๆ  คนด่ากันกี่หมื่นคนไม่รู้วันนี้

 

และที่ยังพาคนไปอนุเสาวรีย์อีกเป็นร้อย  มันทำให้การชุมนมไม่เป็นเอกภาพ  แล้วก็ไปผ่านเขตพระราชฐาน ซึ่งเค้าไม่ทำกัน

 

 

 

ผมว่า คราวหน้าวางแผนดีๆ  รับฟังกันมากๆ  การชุมนุมจะได้เรียบร้อย  ได้ใจคน ไม่ใช่ให้คนเกลียด  เคลื่อนขบวนใช้เวลาพอควร การจราจรจะได้ไม่ติดขัดมาก

 

เรื่องคำหยาบคายก็ไม่ควรนะครับ  รถขยายเสียงใช้เยอะไปมาก  อย่างนี้แล้วเราจะต่างอะไรกับเสื้อแดงล่ะครับ คนได้ยินเค้าก็ไม่ชอบหรอกครับ

 

ที่สำคัญที่สุด  ควรคำนึงถึงกำลังของผู้ชุมนุมด้วย  แดดร้อน ฝนตก  ดูจังหวะเวลาให้ดี  คนวัยกลางคนเยอะมาก เพราะถ้าโปรแกรมกำลังดี  คนไม่เหนื่อยมาก เค้าจะกลับมาอีกครับ

 

 

ขออภัยถ้าพาดพิงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ท่านใด/กลุ่มใดนะครับ  ผมแค่อยากให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ 

 

ท่านใดที่อ่านกระทู้นี้ และสามารถสื่อสารไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ก็กรุณาด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลเพจV กลุ่มนำ การ์ด และรถขยายเสียง

 

ขอบคุณครับ