อากงได้รับความเป็นธรรมตามสมควรไปแล้วครับ ฝากจัดที่ทางรอรับไอ้ไว้ตั้งด้วยแล้วกัน
- bookboong likes this
โดย นายชม on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:02
บทความนี้เปรียบเทียบได้ชัดเจนดีครับ เคยนั่งเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างระบออบการปกครองของอเมริกาและจีน
สรุปสุดท้าย ผมกลับชอบแบบญี่ปุ่นที่คุณภาพของคนและระบอบสอดคล้องกัน จะเห็นว่าประเทศเค้าพัฒนาแบบมั่นคงและยั่งยืนมาอย่างยาวนาน ในขณะที่อเมริกาและจีนมีขึ้นมีลงไม่สม่ำเสมอ
ระบอบที่ให้เสรีภาพกับคนจะดีและมีคุณภาพ ตัวคนในระบอบนั้นๆต้องตระหนักถึงทั้งสิทธิและหน้าที่ของตัวเอง
จะเลือกเอาแต่สิทธิซึ่งเป็นด้านที่ตัวเองได้ประโยชน์อย่างเดียวคงไม่ได้มันจะเละเทะอย่างที่เห็นๆในบ้านเราตอนนี้นี่แหละครับ
โดย นายชม on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 12:10
สังคมจีนเป็นประชาธิปไตยแค่ไหน?
โดย : อาร์ม ตั้งนิรันดร
คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เรามักสอนกันตามตำราและตามมาตรฐานฝรั่งว่าจีนปกครองด้วยระบบเผด็จการพรรคคอมมิวนิสต์ จึงไม่ใช่สังคมประชาธิปไตย หากความเป็นจริงซับซ้อนกว่านี้มาก จีนอาจไม่ใช่สังคมประชาธิปไตยตามรูปแบบที่มักเข้าใจกัน แต่โดยเนื้อแท้แล้ว สังคมจีนมีสาระที่เป็นประชาธิปไตยไม่น้อยเลยทีเดียว
ในบทความนี้ เราจะลองพยายามวัดระดับความเป็นประชาธิปไตยของสังคมจีนด้วยการเปรียบเทียบกับสังคมประเทศ A แต่เพื่อความสนุกสนานและท้าทายท่านผู้อ่าน เราจะค่อยเฉลยว่าประเทศ A ที่ยกขึ้นมาเปรียบเทียบคือประเทศใดในตอนท้ายของบทความ พยายามทายให้ถูกนะครับ
ปัจจัยที่เราจะใช้วัดระดับความเป็นประชาธิปไตยของสังคมมี 5 ข้อ ดังนี้
ข้อแรก สังคมประชาธิปไตยต้องมีการหมุนเวียนผู้นำประเทศในแง่นี้ ในรอบสิบห้าปีที่ผ่านมาประเทศ A มีการเลือกตั้งก็จริง แต่ผู้นำคนเดียวหรือเครือญาติของผู้นำคนเดียวชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง จุดมุ่งหมายของการเลือกตั้งจึงไม่ใช่การหมุนเวียนผู้นำประเทศ แต่กลายเป็นการสร้างความชอบธรรมที่จะหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนผู้นำต่างหาก สำหรับสังคมจีน แน่นอนครับไม่มีพรรคการเมืองใดกล้ามาแข่งบารมีกับพรรคคอมมิวนิสต์หรอก แต่กลุ่มผู้นำสูงสุดของจีนได้รักษาคำมั่นที่จะอยู่ในอำนาจไม่เกิน 10 ปี ก่อนที่จะถ่ายโอนอำนาจไปสู่กลุ่มผู้นำใหม่อย่างสันติดังที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว คนจีนเข้าใจดีว่าถ้าอำนาจไม่เปลี่ยนมือเลย จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ จึงพยายามพัฒนาระบบการปกครองแบบคณะบุคคลที่พร้อมจะถ่ายโอนอำนาจทุกสิบปี และหลีกเลี่ยงการให้ผู้นำคนเดียวหรือตระกูลเดียวมีอำนาจเบ็ดเสร็จ
ข้อสอง สังคมประชาธิปไตยต้องรับฟังเสียงจากประชาชนแม้ประเทศ Aจะเปิดให้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังจากที่เข้าบริหารประเทศแล้ว กลับขาดระบบการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคมอย่างเพียงพอ ในขณะที่ในประเทศจีน แม้จะไม่มีการเลือกตั้ง แต่มีการวางระบบการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเมนูนโยบายและร่างกฎหมายต่างๆ จากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ยังมีความพยายามให้รัฐบาลท้องถิ่นจัดทำระบบรับฟังความคิดเห็นออนไลน์จากประชาชนในท้องถิ่น ทั้งยังให้ความสำคัญกับผลการสำรวจความคิดเห็นทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในประเด็นนโยบายสาธารณะ
ข้อสาม สังคมประชาธิปไตยต้องอดทนและเปิดรับความเห็นต่างในประเทศ A คุณสามารถตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาแข่งขันกับพรรครัฐบาลระดมมวลชนออกมาประท้วงรัฐบาล และเขียนบทความโจมตีให้รัฐบาลลาออก เพียงแต่ผลลัพธ์คือรัฐบาลกลับไม่เคยทบทวนนโยบายตามความเห็นหรือข้อแนะนำของฝ่ายค้าน ในขณะที่ในจีน แม้คุณจะไม่สามารถตั้งพรรคการเมืองมาค้านได้ ไม่อาจระดมมวลชนออกมาประท้วงรัฐบาลกลางได้ ไม่อาจเขียนโจมตีไล่พรรคคอมมิวนิสต์ออกนอกประเทศได้ แต่กระบวนการตัดสินใจทางนโยบายของรัฐบาลกลับให้ความสำคัญกับความเห็นต่างและข้อวิจารณ์นโยบายสาธารณะจากทีมงานข้าราชการ นักวิชาการและภาคส่วนต่างๆ ค่อนข้างมาก มีตัวอย่างที่รัฐบาลทบทวนหรือปรับปรุงนโยบายหลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง การมีความเห็นต่างในเรื่องนโยบายสาธารณะจึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลจีนพร้อมเปิดรับ ตราบเท่าที่คุณไม่ได้มีความเห็นว่าควรจะยุบพรรคคอมมิวนิสต์ทิ้งไป
ข้อสี่ สังคมประชาธิปไตยต้องช่วยผลักดันให้คนดีมีความสามารถได้ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง ในเรื่องนี้ หากเราเปรียบเทียบรายชื่อรัฐมนตรีจากประเทศ A กับรัฐมนตรีจากประเทศจีน เราก็จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน มีผลการวิจัยว่ารัฐมนตรีจากประเทศ Aรวมไปถึงบอร์ดบริหารรัฐวิสาหกิจทั้งหลายส่วนใหญ่จบการศึกษาจากสองมหาวิทยาลัยสำคัญเท่านั้น (จึงเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันหมด) นอกจากนั้น ส่วนใหญ่ยังเป็นคนในเมืองหลวงหรือภาคกลาง และรู้จักหรือมีสายสัมพันธ์กับท่านผู้นำในช่วงที่ท่านทำธุรกิจอยู่ก่อนที่ท่านจะเข้ามาเล่นการเมือง ขณะที่ในประเทศจีน คุณจะต้องเป็นนักศึกษาดีเด่น หรือเป็นนักกิจกรรมที่โดดเด่นจึงจะได้รับคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ (ไม่ใช่ใครๆ ก็สมัครเข้าพรรคได้) และการแต่งตั้งสมาชิกพรรคเข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ก็ดูกันที่ผลงานที่ผ่านมาเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญกับการกระจายตำแหน่งต่างๆ ในส่วนกลางไปยังสมาชิกพรรคที่มาจากภูมิภาคและพื้นฐานสังคมที่หลากหลาย
ข้อห้า สังคมประชาธิปไตยต้องเป็นสังคมที่เปิดพื้นที่ให้มีการทดลองทางนโยบาย ในประเทศจีน การปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจไม่ใช่เพียงข้อเสนอด้วยน้ำลายหรือบนกระดาษเท่านั้น แต่ต้องมาจากผลการทดลองจริงว่าใช้ได้ผลหรือไม่กับบริบทของประเทศจีน โดยอาจเป็นการทดลองในเขตพื้นที่เล็กๆ พื้นที่หนึ่งก่อน หากใช้ได้ผล จึงจะนำไปขยายผลปรับใช้ทั่วประเทศ สังคมจีนจึงเป็นสังคมที่มีการกระจายอำนาจและเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นทำการทดลองและแข่งขันกันในเรื่องนโยบาย ขณะที่สังคมของประเทศ A กลับเป็นสังคมรวมศูนย์จากส่วนกลาง มักถกเถียงเรื่องนโยบายกันบนกระดาษหรือผ่านเวทีปราศรัย แต่ไม่เปิดโอกาสให้มีการทดลองปฏิรูปอะไรใหม่ๆ เลย
มีหลายคนกล่าวว่าสังคมจีนยุคใหม่เป็น “คอมมิวนิสต์แต่เปลือก” เราก็สามารถกล่าวว่าสังคมประเทศ A ก็เป็น “ประชาธิปไตยแต่เปลือก” เช่นเดียวกัน ถึงตรงนี้ เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเดาออกแล้วว่าผมกำลังเปรียบเทียบประเทศจีนกับประเทศใดถูกต้องครับ ประเทศ A ก็คือประเทศรัสเซียไงครับ (อย่าคิด “ใกล้” เกินไปครับ !!) โดยที่ประธานาธิบดีปูติน ก็คือผู้นำเผด็จการในคราบประชาธิปไตย และจริงๆ การเปรียบเทียบดังกล่าว ก็เป็นผลการศึกษาของนักวิชาการชื่อดังด้านรัสเซียศึกษาชื่อ Ivan Krastev
Krastev อธิบายว่า ในช่วงปี ค.ศ. 1989 - 1991 ผู้นำของทั้งรัสเซียและจีนต่างเห็นตรงกันว่าการปกครองแบบคอมมิวนิสต์เป็นการปกครองที่ล้มเหลว เพียงแต่ทั้งสองมองเห็นสาเหตุแตกต่างกัน ประธานาธิบดีกอร์บาชอฟของรัสเซียเห็นว่าสิ่งที่ล้มเหลวคือ พรรคคอมมิวนิสต์ และต้องเร่งปฏิรูปการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งตามตะวันตก ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกลับเห็นว่าสิ่งที่ล้มเหลวไม่ใช่การปกครองเผด็จการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่เป็นรูปแบบเศรษฐกิจแบบวางแผนจากส่วนกลาง จึงต้องเร่งเปิดและปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิม แต่พยายามปฏิรูปสาระให้เป็นไปในแนวทางประชาธิปไตยมากขึ้น ผลก็คือความสำเร็จในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การดูว่าประเทศใดเป็นประชาธิปไตยแค่ไหน ต้องไม่ใช่เพียงพิจารณาจาก “รูปแบบ” ของสถาบันทางการเมืองในประเทศนั้น แต่ต้องดูถึง “สาระ” นั่นคือสถาบันทางการเมืองเหล่านั้นเนื้อในเป็นอย่างไรด้วย รัสเซียเป็นประเทศที่มีรูปแบบการปกครองเป็นประชาธิปไตย แต่ภายใต้รูปแบบดังกล่าว กลับเปี่ยมด้วยกลเกมกลโกงสารพัด ขณะที่จีนนั้นโดยรูปแบบเป็นเผด็จการพรรคคอมมิวนิสต์ แต่โดยสาระอาจมีความเป็นประชาธิปไตยยิ่งกว่าประเทศที่เรียกตนว่าเป็นประชาธิปไตยอีกหลายๆ ประเทศ
http://www.thaisocia...tiy_kh_hin.html
โดย นายชม on 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 09:04
ถ้าคิดว่าจัดฉากก็ขอให้ได้เองสักฉากนะครับ
อาสาสมัครผู้ชายที่อยู่ในรถเป็นคนที่เคยเห็นกันครับ ที่บ้านทำกิจการส่วนตัวอยู่ ปกติเค้าทำสื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา
อย่าเอาใจแบบของคุณมาบิดเบือนเรื่องนี้เลยครับ
อันนี้เจ้าตัวโพสเพิ่มเหตุการณ์ก่อนถูกทุบ
"คลิปนี้ถ่าย 5 นาที ก่อนรถจะถูกทุบครับ จะเห็นว่ารถกระบะเพิ่งจะเข้าจอด ยังมีเสียงปืนดังสนั่นอยู่ไกลๆ มีเสียงตะโกนมาว่า "มันใช้กระสุนจริงแล้ว ถอยๆๆ" เราเอาของมาช่วยผู้บาดเจ็บก็เลยลังเลว่าจะเอาไปลงตรงไหนดี แล้วตำรวจก็เดินล้อมเข้ามา จากนั้นคนก็หายเกลี้ยงเลย จึงให้ผู้หญิงเข้าไปหลบในรถ เพราะคิดว่าเราไม่ได้ทำตัวเป็นภัยอะไรไม่น่าจะถูกทำร้าย แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาและเริ่มทุบรถก็เริ่มไม่แน่ใจและ แต่คงเป็นอย่างที่คาด เพราะเราไม่มีอาการคุกคามเขาเลยเดินจากไป มีรถคันข้างหน้าเป็นรถญาติเพื่อน เอาน้ำเกลือไปบริจาค เค้าว่าโดนทุบรถแล้วถูกขโมยเงิน 3 หมื่นบาท พร้อมไอแพดไปด้วยครับ"
https://www.youtube....h?v=d2H6_Frt6zk
อันนี้จากมือถือคุณผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในรถ
https://www.facebook...707651299254793
โดย นายชม on 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:21
อย่าลืมท่อนท้ายของแถลงการณ์นะครับ นายกหญิงคนแรกของประเทศไทยพูดไว้ว่า
"...เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และมีรัฐบาลหลังการเลือกตั้งแล้วนั้น จะมีการกำหนดไว้ด้วยว่า เมื่อคณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดิน ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบให้การปฏิบัติงานตามคำสั่งนี้ดำเนินต่อไปอย่างสืบเนื่องตามเจตนารมณ์และแนวทางที่ทุกฝ่ายให้ความเห็นชอบแล้ว ..." (http://www.ryt9.com/s/iq02/1804633)
คำว่า "พิจารณาให้ความเห็นชอบ" ข้อเสนอจากกรรมการชุดต่างๆที่เสนอมามีความหมายว่ายังไง คงไม่มีใครเข้าใจซาบซึ้งเท่า อ.คณิต ณ นคร อดีตประธาน คอป. ที่รัฐบาลรีบพิจารณาให้ความเห็นชอบ "จ่ายเงินชดเชยเยียวยา 7.5 ล้าน" อย่างรวดเร็ว และ "พิจารณา" ซุกส่วนอื่นๆเข้าลิ้นชัก
อ่านคำสัมภาษณ์ของประธาน คอป. ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เคยใช้เป็นกันชนกับฝ่ายต่อต้าน...จะรู้ว่าข้อเสนอต่างๆเมื่อหมดประโยชน์ก็ไม่เคยหยิบมาใช้อีกเลย อย่าถามเลยครับว่าข้อเสนอของ "สภาปฏิรูป" ฉบับปาหี่จะมีจุดจบอย่างไร
"...ข้อเสนอ คอป.ที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ปี 2553 ซึ่ง "คณิต" เชื่อว่า เป็นหนทางนำไปสู่การปรองดอง ลดดีกรีความขัดแย้งของประเทศ มีตั้งแต่เสนอให้รัฐบาลยกเลิกการตีตรวนนักโทษ ชดเชยเงินเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบเป็นงวด จัดระเบียบกระบวนการยุติธรรมใหม่ทั้งโครงสร้าง
กระทั่งเรียกร้องให้ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ผู้ที่เขาเชื่อว่าเป็นเชื้อไฟแห่งความขัดแย้ง ยุติความเคลื่อนไหวโดยให้นึกถึง "ปรีดี พรมยงค์" อดีตนายกรัฐมนตรีที่ลี้ภัยการเมืองจนจบชีวิตที่ประเทศฝรั่งเศสมาเป็นเยี่ยงอย่าง
แต่เรื่องราว ข้อเสนอ และความเห็น ของ "คณิต" ผ่านหนังสือ "ด่วนที่สุด" ของ คอป. 6 ฉบับ ที่ส่งตรงถึงตึกไทยคู่ฟ้า ผ่านสายตา 1 คู่ 2 ข้างของนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" นั้น "คณิต" เชื่อว่ารัฐบาลไม่เคยปฏิบัติตาม..."
(เสียง "คณิต" หลังม่านปรองดอง ถึง "ยิ่งลักษณ์และพวก" "เขาแค่ใช้ผมเป็นเครื่องมือจ่ายเงิน 7 ล้าน" http://www.prachacha...wsid=1365590852 )
อ่านถึงตรงนี้อย่าสงสัยแต่จงมั่นใจเถอะครับว่างานนี้ แค่เวทีหลอกประชาชนเป็น มวยล้มต้มคนดูเช่นเคย
โดย นายชม on 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:33
อยากไปสมัครสมาชิกบอร์ดนั้นเพื่อเอาลิงก์ข่าวนี้ไปให้อ่านจริงๆเลย รับจำนำข้าวเค้าไม่จ่ายเงิน แต่ถ้าเจ้าหนี้เงินขาดมือมีให้กู้นะครับ...
"...ชาวนายังต้องลุ้นต่อเงินจำนำข้าว วงในระบุกว่า 2.7 ล้านรายต้องร้องเพลงรอยาว หลังจากเงิน ธ.ก.ส.หมดหน้าตักเหลือสุทธิแค่ 2.6 หมื่นล้าน จ่ายได้แค่ 3 แสนราย เหตุรอบนี้ส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิต้องจ่ายราคาสูง "ยรรยง" ยันมีเงินเหลือจ่ายจริงอีกกว่า 6 หมื่นล้าน คาดเคลียร์หนี้ที่ค้างได้ก่อนสิ้นปี
ขณะ ธ.ก.ส.ฉวยจังหวะชาวนาเงินขาดมือ ออกแคมเปญกู้ดอกเบี้ยพิเศษวงเงินหมื่นล้าน..."
http://www.thannews....2-45&Itemid=417
โดย นายชม on 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:41
เมื่อคืน search หาเรื่อง ธกส.เจ๊งจำนำข้าว ไปเจอเพจนี้เข้าเลยเข้าไปอ่าน แอบเห็นแสงสว่างรำไรบ้างแล้วประเทศไทย
"Baby Old : ถ้าเป๋นจะอี้ หมู่เฮาจะเยี๊ยะใดดี เอาเข้าไปขายแล้วธกส.บ่อมีเงินจ่าย ข้าวโฮงสีก่อเอาไปแล้ว ขยิบตาต๋อนนี้ข้าว กข.15 ก่อเริ่มเกี่ยวกั๋นแล้ว #ขยิบตา
sabaidree : ถ้าเฮาเกี่ยวแห้ง กะปอจะเก็บไว้ก่อนได้ แต่ถ้าเฮาใจ้รถดูดเอาก็อิ๊ดอยู่ครับ
ไผ่จะว่าจะไดกะจ่างสมัยหน้าผมบ่เลือกแล้วเน้อพรรคนี้ โดนมานักแล้วคับหมู่เฮา
Snoopymomo : เหนื่อยคับเหนื่อย ยะนามาอิดหิมต๋าย ต้องมาเจอจ๊ะอี้แห๋ม จะขายฮื้อโฮงสีก่อถูกจะเข้าโครงก๋านจ๋ำนำก่อบ่าได้ตังค์ขายข้าวไปเป๋นเดือนแล้ว
Wavelap : จะเอาราคาดี ต้องใจเย็น หรือจะเอาราคาประกัน ที่ส่วนต่างสองสามร้อยครับ ได้เงินไม่พูดถึงความดี พอทีเสียว่าซะเสียๆหาย
yano : ถึงเวลาจาวนาเฮาหูต๋าสว่างได้แล้วครับ #ขยิบตา
sabaidree : จาวบ้านเขาบ่ฮู้ข้อมูลผมกะปอว่า แต่หมู่เฮาเข้าถึงข้อมูล(net) น่าจะผ่อออกแล้วครับว่าแต้ๆแล้วบ้านเมืองเป๋นจะได #ร้องไห้
constantine : อิดใจ๋แต้ ใครทำกะหวังได้น่อ #ลังเล "
ที่มา http://www.chiangrai...?topic=509582.0
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net