Jump to content


bird

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 1 เมษายน 2552
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2557 20:44
*****

#157659 ข่าวด่วน !!! จำคุก สนธิ ลิ้มทองกุล 40 ปี ไม่รอลงอาญา

โดย bird on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 15:54

" คราวต่อไปก็ถึงคิว ไอ้มว๊ากกกกกกกกกกกกกกก 555 "


ตื่นจากความฝันได้แล้ว...ฟ้องศาลโลกไปถึงไหนแล้วหล่ะ
เป็นคนไทยเสียป่าว...ปล่อยให้ฝรั่งหัวแดงหลอกอยู่ได้...ไม่รู้จักเข็ด

ถามจริงเถอะ...

ระหว่าง...ชนะเสียงโหวตในสภาให้เป็นนายก
กับได้อำนาจมาเพราะเผาบ้านเผาเมืองตัวเอง...อะไรน่าสมเพทมากกว่ากัน


#157601 ข่าวด่วน !!! จำคุก สนธิ ลิ้มทองกุล 40 ปี ไม่รอลงอาญา

โดย bird on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 15:17

รอฟังรายละเอียคค่ะ..

แต่ที่แน่ ๆ สุราชัย แซ่ด่าน ผิดคดีหมิ่น ม.112 รวม 3 คดี 15 ปี
สารภาพลดเหลือ 7 ปี 6 เดือน


#154580 399 กับ199 มันเป็นเผด็จการทางรัฐสภามั๊ยครับ มีใครเอาปืน..

โดย bird on 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:18

ตกลง...

วันที่โหวตเลือกคุณอภิสิทธิ์เป็นนายก..

รัฐสภา เค้าประชุมกันในค่ายทหารหรือค่ะ

ก็เห็นถ่ายทอดสด..จากห้องประชุม อาคารรัฐสภา

แล้วจะบอกว่า...จัดตั้งในค่ายทหารได้ไง...


#152097 นายกฯโพสต์เฟซบุ๊กแจงข้อสงสัย ว.5 หนีประชุมสภา

โดย bird on 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 07:57

แปลกน่ะ...

เป็นถึงระดับหัวหน้าคณะผู้บริหาร..ยังต้องหอบสังขารไปพบนักธุรกิจแบบลับ ๆ ล่อ ๆ
ถามอะไรก็อึก ๆ อัก ๆ...อ้อลืมไป...เป็นเกมส์...นี่เอง

แหม..ที่นักธุรกิจจากต่างประเทศ เรื่องอีโคคาร์ รถยนต์คันแรก ยังพบกันที่ทำงานท่านหัวหน้่าได้เลย
แล้วทำไมครั้งนี้...ต้องย่องไปพบที่เฉพาะสำหรับบุคคลที่เข้าพักเท่านั้น..แปลกน่ะ

มูมมาม..มากไประวังน่ะค่ะ...จะติดคอ...จะย่อยไม่ทัน..แล้วจะส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหาร

อย่างว่าน่ะ...ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว...ที่บ้านก็ได้น่ะค่ะ...


#145910 เอกยุทธ จวก "พรรคปชป หากินบนความเจ็บปวดของปชช."

โดย bird on 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:01

อย่ามัวมุ่งแต่ความว่า เป็นเรื่องบัดสี จนหลงลืม จริยธรรมของคนที่อยู่ในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีของประเทศ
ที่ควรจะสำเนียกว่าอะไรควรกระทำ อะไรไม่ควรกระทำ อะไรคือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีต้องพึงปฏิบัติ

แยกแยะให้ออกว่า อะไรคือผลประโยชน์ประเทศชาติ และ อะไรคือผลประโยชน์ส่วนตัว

สร้างเรื่อง ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย แล้วฉกฉวยโอกาส กระทำสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ต่อใครบ้างคน

ท่านผู้มีเกียรติ ที่ต่างทยอยออกมาปกป้อง ความประพฤติที่ไม่สมควร ไม่เหมาะไม่ควร
พยายามหักเห ว่านั้นเป็นการตีรวนเพื่อหวังผลทางการเมือง ลองมองย้อนว่า
สิ่งที่ผู้นำกระทำนั้นสมควรหรือไม่ ผิดจรรยาบรรณของผู้นำหรือไม่

พูดในแง่ของการบริหารบ้านเมือง คนระดับผู้นำ ต้องแอบพบกับบุคคลหนึ่งบุคคลใด ถูกต้องหรือไม่
หากเป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติ เหตุใดจึงไม่มาพบ ณ ทำเนียบรัฐบาล เหตุใดจึงต้องนัดไปพบ
เป็นการส่วนตัว ผู้ที่นัดพบให้เกียรติท่านนายกรัฐมนตรีหรือไม่

หรือ...สิ่งที่ต้องปรึกษาพูดคุยกันเป็นเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผยได้

และ...ถ้าคุณไม่กระทำเยี่ยงนั้น เรื่องจะบานปลายเป็นอย่างนี้หรือไม่ คุณทำตัวคุณเองทั้งนั้น


#79659 สั่งซื้อเสื้อเสรีไทยล็อตที่ ๓ ได้แล้วนะครับ

โดย bird on 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 08:39

Order..

M ผู้ชาย สีชมพู 2 ตัว
L ผู้หญิง สีชมพู 2 ตัว

ขอบคุณค่ะ :)


โอนเงินให้แล้วค่ะ วันที่ 13 ธค. 54
เวลาประมาณ 14.41 น. จำนวน 1,000.09 ค่ะ

ลูกน้องบอกว่า ให้มี .09 จะได้หาเจอได้ง่ายค่ะ :lol:


#49126 ...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...

โดย bird on 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 10:43

จากประเด็นปัญหา..เรื่องคำพิพากษา ประสาชาวบ้าน
มาจบลงที่ ประเด็นปัญหา มติขององค์คณะผู้พิพากษา...

เท่าที่อ่านมาพอจับใจความได้ว่า จขกท โต้แย้งการลงมติขององค์คณะผู้พิพากษาตามมาตรา 184
ไม่ว่าจะเป็น ประธาน หรือ เจ้าของสำนวน ลงคะแนนเป็นคนสุดท้าย และ ข้อความสุดท้ายของ
มาตรา 184 ที่ว่า
ถ้าปัญหาใด มีความเห็นแย้งกันเป็นสองฝ่าย จะหาเสียงข้างมากมิได้ ให้ผู้พิพากษาที่เห็นเป็นผลร้าย
แก่จำเลยมากกว่า ยอมเห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า

ขออธิบายอย่างนี้ค่ะ

เริ่มจากการแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษา ในการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
รัฐธรรมนูญ 2550 ระบุไว้ในมาตรา 219 (วรรค 4) ความว่า
ให้มีแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา โดยองค์คณะผู้พิพากษา
ประกอบด้วย ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาหรือ
ผู้พิพากษาอาวุโสซึ่งเคยดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนวนเก้าคน ซึ่งได้รับ
เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยวิธีลงคะแนนลับ และให้เลือกเป็นรายคดี

และถ้าจะโต้แย้งว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เชื่อถือไม่ได้ ในรัฐธรรมนูญ 2540 ได้บัญญัติไว้ในหมวด
ที่ 8 (ศาล) ส่วนที่ 3 ว่าด้วยศาลยุติธรรม ในมาตรา 272 ความว่า

มาตรา ๒๗๒ ศาลยุติธรรมมีสามชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา เว้นแต่ที่มีบัญญัติ
ไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญนี้หรือตามกฎหมายอื่นให้มีแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง
การเมืองในศาลฎีกา โดยองค์คณะผู้พิพากษาประกอบด้วยผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำรงตำแหน่ง
ไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกา จำนวนเก้าคน ซึ่งได้รับเลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาโดยวิธีลง
คะแนนลับ และให้เลือกเป็นรายคดีอำนาจหน้าที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง
ทางการเมืองและวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้
ในรัฐธรรมนูญนี้และในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง
ทางการเมือง

ดังนั้น ประเด็นที่ว่า ทำไมต้องมีองค์คณะผู้พิพากษา 9 คงตกไป ไม่น่านำมาเป็นประเด็นโต้แย้ง

หลังจากแต่งตั้งองค์คณะผู้พิพากษาตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว องค์คณะผู้
พิพากษาทั้ง 9 ท่านจะเลือกประธานองค์คณะผู้พิพากษา จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณา
คดี โดยยึดหลักระบบการไต่สวน ภายใต้ พรบ. วิธีพิจารณาคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ประเด็นก็ไม่น่าจะมีปัญหาให้ต้องชีแจงมากกว่านี้

ที่นี้ในประเด็น การพิพากษาและคำวินิจฉัย รัฐธรรมนูญ 2550 ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 278 (วรรคแรก)
ความว่า

การพิพากษาคดีให้ถือเสียงข้างมาก โดยผู้พิพากษาซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนต้องทำความเห็น
ในการวินิจฉัยเป็นหนังสือพร้อมทั้งต้องแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมก่อนการลงมติ

แล้วก็ใน รัฐธรรมนูญ 2540 ก็ได้บัญญัติในประเด็นการพิพากษาไว้ใน มาตรา 311 ความว่า

“การพิพากษาคดีให้ถือเสียงข้างมาก โดยผู้พิพากษาซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนต้องทำ
ความเห็นในการวินิจฉัยคดีเป็นหนังสือพร้อมทั้งต้องแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมก่อนการลงมติ


แปลความว่า ทั้ง 2540 และ 2550 บัญญัติไว้เหมือนกันคือ องค์คณะทั้ง 9 ท่านต้องมีความเห็น
ก่อนการประชุมลงมติ (ประธานองค์คณะ คือ 1 ในองค์คณะผู้พิพากษาเช่นเดียวกัน)

ที่นี้ก็มาถึงประเด็นการลงมติ ตาม ป.วิอาญา มาตรา 184 ที่ว่า

ในการประชุมปรึกษาเพื่อมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ อธิบดีผู้พิพากษา ข้าหลวงยุติธรรม หัวหน้า
ผู้พิพากษาในศาลนั้น หรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน ให้ออก
ความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็น สุดท้าย

การวินิจฉัยให้ถือตามเสียงข้างมาก

ถ้าในปัญหาใดมีความ เห็นแย้งกันเป็นสองฝ่ายหรือเกินกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะหาเสียงข้างมากมิได้
ให้ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็นผลร้ายแก่จำเลยมากยอม เห็นด้วยผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นเป็น
ผลร้ายแก่จำเลยน้อยกว่า

คือ การแถลงคำวินิจฉัยส่วนตัวขององค์คณะผู้พิพากษาตามมาตรา 278 ของรัฐธรรมนูญ 2550 หรือ ตาม
มาตรา 311 ของรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ใช่มาลงมติกันสด ๆ วันนั้นเดียวนั้น

แต่เป็นการมาสรุปว่าแต่ละท่านมีคำพิพากษาส่วนตัวว่าแต่ละประเด็นในคำฟ้องผิดหรือไม่ผิด..
ในประโยคที่ว่า

" หัวหน้าผู้พิพากษาในศาลนั้น หรือเจ้าของสำนวนเป็นประธาน ถามผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาทีละคน
ให้ออกความเห็นทุกประเด็นที่จะวินิจฉัย ให้ประธานออกความเห็น สุดท้าย "

หมายความว่า ในการประชุมเพื่อลงมติ ให้ผู้พิพากษาแต่ละท่านแถลงคำวินิจฉัยที่ละท่าน โดยประเพณี
ส่วนใหญ่จะเริ่มจากผู้พิพากษาทีมีอาวุโสน้อยที่สุด เรียงตามลำดับ ประธานที่ประชุม ถือเป็นตำแหน่ง
ใหญ่ที่สุดในที่ประชุม จึงสมควรแถลงคำวินิจฉัยเป็นท่านสุดท้าย

ตัวอย่างเช่น...ในที่ประชุมของบริษัท ส่วนใหญ่ บรรดาหัวหน้าแผนก ก็จะแสดงความเห็นต่าง ๆ ตาม
ความคิดเห็นของแต่ละคน สุดท้ายเจ้าของบริษัทถึงจะแถลงความเห็น เพราะอะไรรู้มั้ย

เพื่อจะได้ตัดปัญหา ข้อครหาว่า ลงมติเอาใจเจ้านาย ไง ในประเด็นนี้ก็คล้ายกัน ประธานแถลงคำวินิจฉัย
เป็นท่านสุดท้ายเพื่อจะได้ไม่มีข้อกล่าวหาว่า วินิจฉัยเอาใจประธาน รัฐธรรมนูญถึงกำหนดว่าแต่ละท่าน
ต้องมีคำวินิจฉัยเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนการลงมติ เพื่อเป็นหลักฐานการวินิจฉัย ไม่ใช่มาวินิจฉัยในวัน
ประชุมลงมติ

ส่วนที่ว่า หากหาเสียงข้างมากมิได้ ตามหลักจริยธรรมคือ ใช้หลักให้คุณต่อจำเลย ส่วนใหญ่ปัญหาจะ
เกิดในกรณีมีผู้พิพากษาในองค์คณะฯ ลาออก หรือ ถอนตัว ระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งโดยปกติจะไม่มี
การแต่งตั้งใหม่ ก็จะทำให้มีจำนวนองค์คณะเป็นเลขคู่ ที่อาจจะมีคำวินิจฉัยส่วนตัวออกมาเท่า ๆ กัน
ประเด็นนี้ให้ใช้หลักกฎหมายที่เป็นคุณต่อจำเลย...คือ

ถ้าวินิจฉัยว่า...ยกฟ้อง...เท่ากับ มีความผิด....ให้ถือว่ายกฟ้อง แต่ผู้พิพากษาที่มีความเห็นแย้งอาจนำ
สำนวนคำพิพากษารวบเข้าไว้ในสำนวนได้

ถ้าวินิจฉัยว่า...มีความผิด ด้วยเสียงข้างมาก และกำหนดบทลงโทษไว้แตกต่างกัน เช่น

ให้ลงโทษสูงสุด 10 ปี 4 ท่าน และให้ลงโทษ 2 ปี 4 ท่าน ก็จะถือว่า มีความผิดและให้ลงโทษ 2 ปี

ที่นี้ในประเด็นของ ที่ดินพิพาท พิพากษาว่าผิดด้วยเสียงข้างมาก ประเด็นเดียวเท่านั้น คือ มีความผิด
ตาม พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พศ. 2542 มาตรา 100 และ
มีบทกำหนดโทษ ตาม พรบ. มาตรา 122

ถ้ายังไงลองไปหาคำวินิจฉัยส่วนตัวของทั้ง 9 ท่านมาอ่านและวิเคราะห์ดู

หวังว่าข้อมูลข้างต้น จะให้ความกระจ่างได้บ้าง


#48084 ...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...

โดย bird on 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 15:07

ประเด็นนี้แถมให้...

ทำไมถึงไม่ซื้อในนามบริษัท ทำไมต้องซื้อในนามบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นต้นเหตุ
แห่งความยุ่งเหยิง

ถ้าซื้อในนามนิติบุคคล
- ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์คำนวณจากราคาซื้อขายจริง หรือ ราคาประเมิน
แล้วแต่ว่า ราคาใดจะสูงกว่า ในกรณีนี้เป็นการยื่นซองประมูล กุนซือเลยปล่อยตก

- ซื้อในนามนิติบุคคล ประมวลกฎหมายให้ถือเป็นสินทรัพย์บริษัท หากมีการจำหน่าย
ภายใน 7 ปีต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ประเด็นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นบุคคลก็ใช้หลักเกณฑ์
เดียวกัน กุนซือปล่อยตกไป

- ซื้อในนามนิติบุคคล ถึงแม้ว่าจะขายหลังจาก 7 ปีไปแล้ว ประมวลรัษฎากรยังกำหนดให้
ต้องนำส่วนต่างจากราคาซื้อมาคำนวณภาษีนิติบุคคลในอัตรา 30% หรือ 20% แล้วแต่
กรณี ประเด็นนี้ กุนซือคิดหนักหน่อย...20% ของส่วนต่างในอีก 7 ปีข้างหน้า..คิดหนัก

ถ้าซื้อในนามบุคคลธรรมดา
- ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ จากข้อมูลข้างต้น กุนซือปล่อยตก
- กรณีจำหน่ายภายใน 7 ปีนับจากวันซื้อ เสียภาษีเหมือนกัน กุนซือปล่อยตก
- กรณีจำหน่ายหลัง 7 ปี ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายจริง (ขายต่ำ
กว่าราคาประเมินได้ หรือ ราคาขายตามสัญญา) ที่สำคัญส่วนต่างจากราคา ณ วันซื้อไม่
ต้องนำมายื่นภาษี แต่ รายได้จากการขายที่ดิน หักลดหยอ่นตามประมวลกฎหมาย คำนวณ
แล้วน่าจะน้อยกว่าภาษีนิติบุคคลที่ต้องจ่าย..กุนซือคิดแล้วคิดอีก
- ประเด็นสุดท้าย ถ้าจัดทำโครงการภายใต้กรรมสิทธิ์ของบุคคลธรรมดา การนำส่งภาษี
เงินได้โดยหักลดหย่อนอัตราเหมา มีแนวโน้มว่าน่าจะน้อยกว่าในนามนิติบุคคล และที่สำคัญ
ยังสามารถควบคุมได้ด้วย...กุนซือ โอเค ด้วยเหตุผล 2 ประเด็นหลัง

แจ็คพ็อต ทำสัญญาในนามบุคคล แต่ กุนซือ ลืมอ่าน พรบ. มาตรา 100 วรรคสุดท้าย
ปัญหาจึงยุ่งเหยิง...ตามมาด้วย ถุงขนม 2 ล้าน..ทุกอย่างเลยเกมส์โอเวอร์

บอกแล้ว...ถ้าวันนั้นใช้กุนซือที่รอบคอบหน่อย...ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น...
อย่างว่า...คิดไม่ซื่อ กรรมจึงตามมาทัน...


#46504 ...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...

โดย bird on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:40

ปล้นชาติแล้ว คืนเิงิน ไม่ผิดกฎหมายครับนะ อย่ามาว่า ปูแปดปี ของผมนะ Bird


อุ๊ย...ไม่ได้ว่าใครนี้ค่ะ..แค่อธิบายให้ฟังตามประสาชาวบ้านเท่านั้นเอง
โธ่...ใครจะกล้าว่าหล่ะค่ะ..ออกจะบอบบางซะขนาดนั้น...ทั้งไทยและอังกฤษ :lol:


#46499 ...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...

โดย bird on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:38

ประเด็นหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านไม่เข้าใจ ข้องใจ เพราะ...

สื่อบางกลุ่ม คนบางกลุ่ม ไม่ยอมอธิบายรายละเอียดให้ครบ
ให้แต่ข้อมูลด้านเดียว...ที่ตัวเองได้ประโยชน์..

ไม่ได้บอกว่า...เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีสิทธิ์ทำนิติกรรมกับหน่วยงานที่ตัวเองมีอำนาจ
เอาแต่บอกว่า...เซ้นต์ชื่อให้ภรรยาซื้อที่ มีความผิด...

พูดแค่นี้...ใครฟังก็ต้อง งง กันทั้งนั้นหล่ะ...

ชาวบ้านเค้าไม่โง่...แต่..เค้าขาดโอกาสที่จะได้รับรู้ข้อมูลที่ครบถ้วน
ก็บังคับเค้า...อยู่หมู่บ้านนี้ต้องจานสีนี้เท่านั้น คลื่นอื่นมา..เดี้ยงหมด


#46491 ...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...

โดย bird on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:33

ง่าย ๆ สำหรับคำถามที่ว่า...

คืนเงินแล้ว คืนที่แล้ว ทำไมยังมีความผิด...

เพราะความผิดเกิดขึ้นแล้ว...ตั้งแต่วันที่เซ็นต์ยินยอมให้ภรรยาซื้อที่ดิน
ผลที่ตามมา คือสัญญาเป็นโมฆะ ตามคำพิพากษา คู่กรณีจึงต้องคืนเงิน คืนที่

แต่ไม่ได้ส่งผลว่า..การทำนิติกรรมไม่ได้เกิดขึ้น...จึงมีความผิด
คนที่อ้างแบบนี้ เค้าเรียกว่า ไม่มีอะไรจะแถ..

อย่างเช่น...

โจรปล้นเงินธนาคาร...จับได้ คืนเงินทั้งหมด...ยังติดคุก เพราะ ปล้นไปแล้ว แต่ไปไม่รอด

สั้น ๆ ง่าย ๆ...กรรมเกิดขึ้นแล้ว..โทษจึงมี


#46405 ...ที่ดินรัชดา ประสาชาวบ้าน...

โดย bird on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 17:49

ถามแบบชาวบ้าน...ก็ขอตอบแบบชาวบ้าน

ทุก ๆ วิชาชีพต้องมีจรรยาบรรณ ถูกต้องมั้ย หมอก็ต้องมีจรรยาบรรณของหมอ วิศวกรก็ต้องมีจรรยาบรรณของวิศวกร
จรรยาบรรณก็คือสิ่งที่ควรปฏิบัติ...นอกจากนี้ก็ยังมีข้อบังคับ เปรียบเทียบกับโรงงาน พนักงานทุกคนก็ต้องปฏิบัต
ตามกฎระเบียบข้อบังคับของแต่ละโรงงาน ถูกต้องมั้ย...

ข้าราชการก็มีข้อบังคับ จรรยาบรรณ และกฎหมายเหมือนกัน ในที่นี่ก็คือ กฎหมาย ปปช (มาตราอะไรค่อยว่ากัน)
กล่าวโดยรวมก็คือ ห้ามข้าราชการและคู่สมรสกระทำนิติกรรมกับหน่วยงานของรัฐที่ตนเองเกี่ยวข้องหรืออาจมี
ผลประโยชน์ (ย่อ ๆ ประมาณนี้)

หมายความว่า...ข้าราชการและคู่สมรสจะทำนิติกรรมใด ๆ กับหน่วยงานของรัฐที่อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้

ยกตัวอย่างเช่น...สามีอยู่ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง ภรรยาจะเป็นผู้ยื่นซองประมูลไม่ได้ ง่าย ๆ ประมาณนี้
ถ้าจะแย้งว่า..นี่เป็นการซื้อที่ดิน แสดงว่า เจ้าหน้าที่กรมที่ดินจะซื้อที่ดินไม่ได้...อันนี้ไม่ใช่
การทำสัญญาซื้อขายที่ดิน มีประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากรรองรับเรื่องจากชำระภาษีอยู่ และการซื้อขายที่ดิน
เป็นการซื้อขายระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือ บุคคลกับนิติบุคคล รัฐมีหน้าที่เพียงรับรองการซื้อขายและดูแลเรื่อง
กรรมสิทธิ์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องร้องและอ้างสิทธิ์ทับซ้อน

ที่นี่กรณี..ทักษิณ กับ ภรรยา...

ทักษิณ เป็นนายก ถือเป็นข้าราชการ จึงมีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามกฎหมาย ห้ามกระทำนิติกรรมใด ๆ
และการทำนิติกรรมครั้งนี้ เป็นการทำสัญญาระหว่างบุคคล คือคุณหญิง กับกองทุนฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ
ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโดยตรง...ผิดมั้ย..ผิดกฎหมายแน่นอน

อีกประเด็น ง่าย ๆ ประสาชาวบ้าน

ถ้าในหมู่บ้านของคุณ...มีคนหนึ่งประกาศขายที่ดิน แล้วมีผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าสัว พ่อเลื้ยง อาเสีย บอกว่า
" ที่ดิน แปลงนี้ อั้วจะซื้อ เมียอั้วจะซื้อ...ถามว่า จะมีชาวบ้านคนในหาญกล้าไปแข่งบารมีว่า..

ไม่ได้...ผมก็จะซื้อ ผมให้ราคาสูงกว่า..." ร้อยทั้งร้อย ไม่มีเด็ดขาด

ทั้งนั้น..ผลที่ตามมาคือ ราคาที่ผู้ขายจะได้รับ ก็อาจจะไม่ใช่ราคาขายที่ถูกต้องนัก ก็ต้องแล้วแต่ว่า
ผู้ซือจะพอใจที่เท่าไหร่...ที่ไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก

สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า...การซื้อขายครั้งนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้น ตั้งแต่ต้น และที่สำคัญ วันที่โอนกรรมสิทธิ์
ก็เป็นวันที่ตามประเพณีคือ วันหยุดราชการ และ เป็นวันสุดท้าย ในกรณีลดหย่อนภาษีโอนกรรมสิทธิ์
อะไร ๆ มันถึงได้ยุ่งเหยิง..มาจนทุกวันนี้

หากวันนั้น..ท่านมีกุนซือที่ฉลาดกว่า..ท่านอาจจะไม่ต้องพบวิบากกรรมเช่นนี้ก็ได้
ช่องโหว่มันมีอยู่ตั้งหลายช่องทาง แต่ท่านเลือกช่องทางที่อันตราย เพราะคิดว่า กุมอำนาจไว้หมดแล้ว

ส่งท้าย...

ถ้าจะว่ากันด้วยภาษากฎหมาย...วันเสาร์ค่อยว่ากัน...วันนี้กะพรุ่งนี้ มีภาระกิจต้องปฏิบัติ


#40491 ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

โดย bird on 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 14:19

ภาพสวยจริง ๆ ค่ะ การ์ตูนก็สุดยอด
สมัครแฟนคลับด้วยคน.. :wub: :wub:


#13605 รายงานสถานการณ์น้ำ

โดย bird on 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 09:54

รายงาน สถานการณ์น้ำท่วม จากฝั่งธนบุรี ค่ะ

RT @js100radio: 08.36น.สภ.พุทธมณฑล ปิดถ.ศาลายา-นครชัยศรี จากน้ำท่วมสูง
รถผ่านไม่ได้ตลอดทาง/ ถ.ศาลายา-บางเลน น้ำท่วมสูงบางจุด รถยังพอผ่านได้

8.30 น. ศาลายา-นครชัยศรี ยังไม่ท่วมนะครับ ช่วงหน้า โรงเรียนมหิดลวิทย์ แห้งสนิท
แต่เลยไปช่วง ราชมงคลเป็นต้นไป ท่วมแล้วครับ

8.30 น. ตั้งแต่หน้า โรงเรียนมหิดล ฯ ไปเรื่อย ๆ จนถึง แยกราชมงคล ไม่ท่วมครับ
แต่หลังจากนั้นจะเป็นทางลาดลงไปเรื่อย ๆ ข้าง ๆ ก็เป็นบึงน้ำ ก็คงท่วมยาวอ่ะครับ
ประมาณ ครึ่งล้อ มาหลายวันแล้ว

9.00 น. ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่ พาณิชย์จรัญ ยาวไปถึง พาต้า น้ำท่วมขังสูง 20-30 cm
บนสะพานข้ามคลองมีคนเอารถไปจอดหนีน้ำ รถเล็กหลีกเลี่ยงนะครับ

9.00 น. หน้า มหิดลวิทยานุสรณ์ ถึง กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ถนนแห้งสนิท

9.00 น. บางบอนและเอกชัย ยังปกติครับ

9.00 น. กำนันแม้น ยังปลอดภัย

9.00 น. ถนนบรมฯ ช่วงสายสามถึงตลาดพุทธเริ่มเจิ่งนองแล้ว อัดขึ้นมาทางท่อระบายน้ำ

9.00 น. สายสี่ตัดใหม่ กระทุ่มแบนก็ยังปลอดภัยค่ะ by Benchamat

9.00 น. จรัญฯ69-71 ท้ายๆซอยท่วมแล้วค่ะ

9.00 น. สาย1ไปบางแคไปสาธรขึ้นทางด่วนไปอนุเสาวรีย์ ปกติคะ

9.00 น. ด้านในสิรินธรซอย9 ระดับน้ำข้อเท้าถึงเข่าค่ะ มาเมื่อคืน

9.00 น. สี่พระยา คลองสาน น้ามเยอะค่ะ เจริญนคร ริมคั้นกั้นน้าม น้ามสูงมากกก

9.00 น. พุทธมณฑลสาย3ปรกติคับ

9.00 น. เพชรเกษมน้ำยังไม่มาคะ แต่น้ำประปาเหลืองและมีกลิ่น

9.00 น. ถนนใหญ่ หน้าซอย จรัญ 91 ท่วม ขึ้นฟุตบาทแล้วค่ะ 9.00 น. บรมราชชนนี หน้าขนส่งสายให้แห้งสนิท ถนนโล่งมากค่ะ 9.00 น. พระราม 8 ฝั่ง ธนน้ำมาตามท่อตั้งแต่ ตี 5 ไหลมาเอื่อยๆ เรื่อยๆ ประมานกางน่าแข้ง แต่ตอนนี้ ลงและแห้งไปหมดแล้ว ;9.30 น. ถนนเพชรเกษม มหาวิทยาลัยสยามยังแห้งอยู่ค่ะ

9.30 น. ตั้งแต่ซอย จรัญ 43 เลยมาทาง สะพานบางขุนนนท์ เกือบเข่า ข้ามสะพานไปแยกบางขุนนนท์ ยังแห้งอยู่

9.30 น พุทธมณฑลสาย 5 อ้อมน้อย กระทุ่มแบน แห้งสนิท คับผม

9.30 น. By : Ohmpeang เวลาประมาณ 7.30 น.เดินทางเส้นถนนจรัญฯจากแยกบางพลัด
ถึงแยกบรมราชชนนียังแห้งปกติ เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าพาต้าน้ำเอ่อฟุตบาทแล้ว หน้าพาต้ามีน้ำ
จากท่อระบายน้ำขึ้นมานิดหน่อย ตรงแยกอรุณอัมรินทร์ฝั่งพาต้าน้ำขังเล็กน้อยรถยังวิ่งได้อยู่
ฝั่งตรงข้ามพาต้าตั้งแต่แยกอรุณอมรินทร์ถึงแยกบรมฯ น้ำขึ้นสูงมากประมาณฝากระโปรง
รถแท็กซี่ (น้ำมาจากคลองบางกอกน้อย) รถเล็กไม่ให้ผ่านแล้ว รถเมล์ยังพอวิ่งได้อยู่ค่ะ

9.30 น. ถ.สิรินธร ทางไปแยกบางพลัด จากฝั่งตลิ่งชัน น้ำท่วมสูงมาก มอเตอร์ไซค์ดับหลายคัน
รถเล็กไม่ควรผ่านเลย


#10011 รายงานสถานการณ์น้ำ

โดย bird on 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - 09:55

ส่งกำลังให้ทหารทุกท่านค่ะ...

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=JgCEOvr8olQ#!