antiseptic

กรณีปิดล้อม กระชับพื้นที่

นี่เป็นช่วงที่มีจำนวนผู้ตายและบาดเจ็บมากที่สุด

(ตรรกะข้อที่ 6) ผมขอถามว่าจุดชุมนุมของคนเสื้อแดงอยู่ที่ไหน แยกราชประสงค์ใช่หรือไม่ แล้วมีผู้ชุมนุมตายที่ตรงนั้นกี่คน ไม่มีเลยใช่มั๊ย (ยกเว้น 6 ศพในวัดปทุมฯซึ่งเป็นอีกกรณีหนึ่ง และไม่ใช่ผู้ชุมนุม) คนที่ตายส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่จุดประทะที่ บ่อนไก่ สามเหลี่ยมดินแดง และ ประตูน้ำ ใช่หรือไม่ ถามว่าในเมื่อจุดชุมนุมอยู่ที่แยกราชประสงค์ แล้วทำไมไปปะทะกันที่อื่น ทหารเค้ามีมาตรการแค่ไปตั้งด่านปิดล้อมเฉยๆ แต่เสื้อแดงจัดชุดฮาร์ดคอร์ไปโจมตีเองใช่หรือไม่ และทั้งๆที่ทหารได้ประกาศแล้วว่าจะต้องใช้กระสุนจริง ในเมื่อคุณมีอาวุธ เค้าก็จะไม่ยอมให้คุณเข้าใกล้ในระยะที่จะทำอันตรายพวกเค้าได้ แต่พวกฮาร์ดคอร์ก็เลือกที่จะจับอาวุธเข้าไปปะทะกับทหารเอง ในเมื่อเลือกที่จะเดินเส้นทางนี้ แล้วทำไมจึงยังคาดหวังว่าจะต้องอยู่รอดปลอดภัยกันทุกคน ตรงนี้คุณจะให้ใครรับผิดชอบ ถ้าพวกเขานั่งชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธอยู่ที่ราชประสงค์จะตายมั๊ย พวกเขามีทางเลือกนะ ไม่ใช่ไม่มี

ความจริงผมคิดว่ารัฐบาลเองก็ไม่ได้คาดหมายหรอกว่าผลจะออกมาในรูปนี้ แต่ผมว่ามันก็ดีเหมือนกันที่ออกมาโจมตีทหารเอง เพราะก่อนหน้านี้คิดกันหัวแทบแตกว่าจะแยกคนบริสุทธิ์ออกมาได้อย่างไร เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้จึงทำให้วันที่ 19 พฤษภา ที่แยกราชประสงค์เหลือแต่พวกชาวบ้านทั่วไป แล้วก็สลายไปเองก่อนที่ทหารจะเข้าไปถึงด้วยซ้ำ ก็เป็นอันว่าชาวบ้านตาดำๆไม่ตายซักคน ก็ดีแล้ว

ส่วนที่ตายไป ผมจะบอกให้ว่า เค้าเหมานักเลง มือปืนกันมาทั้งจังหวัด พวกที่ตายไปบางส่วนก็เป็นพวกนี้แหละ เสธแดงก็บอกเองว่ารับเงินทักษิณมา 12 ล้านสำหรับงานนี้ ก็คงไม่ใช่เก็บไว้คนเดียวมั๊ง พวกนี้ก็เหมือนทหารรับจ้าง ที่น่าเสียดายก็คือ คงจะมีบางส่วนที่เป็นคนทั่วไปที่เลือดร้อน ยอมสละชีวิตทั้งๆที่ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย คิดแต่ว่าทำเพื่ออุดมการณ์ คนพวกนี้เป็นเหยื่อครับ น่าสงสาร ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันก็แค่เพื่อผลประโยชน์ของทรราชคนหนึ่ง ซึ่งมาวันนี้บอกว่าสิ่งที่พวกเขาสละชีพไปนั้นเป็นเรื่องปัญญาอ่อน

ในกรณีที่ใครยังคิดว่าไอ้โม่งเป็นทหารปลอมตัวมาสร้างสถานการณ์ ดูคลิปนี้ (ของ BBC)

หลังจากเหตุการณ์ปะทะ ไอ้โม่งเดินไป เดินมาทอดน่องอย่างสบายใจ ปะปนในกลุ่มคนเสื้อแดง

สำหรับผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ก็สุดที่จะคาดเดา อาจเป็นไปได้ว่าด้วยสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า ทำให้การตัดสินใจเฉพาะหน้าอยู่ที่ผู้บัญชาการในพื้นที่ ฝ่ายทหารอาจตัดสินใจยิงตอบโต้ (หรือคิดว่าทหารควรจะอยู่เฉยให้ไอ้โม่งมันยิงเล่น) จนทำให้มีลูกหลงไปโดนคนที่ไม่มีอาวุธด้วย กว่าฝ่ายเหนือจะตัดสินใจลงมาก็คงใช้เวลาไประยะหนึ่ง หรือเป็นไปได้ที่บางศพอาจเป็นไอ้โม่งที่ถูกเอาหน้ากากและอาวุธออกหลังจากโดนยิง หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือ มีบางคนอาจโดน sniper เพิ่มก็ได้ ซึ่งอันนี้ก็ต้องสืบสวนกันต่อไป

แต่ความจริงอย่างหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือ เมื่อ พบว่าฝ่ายเสื้อแดงมีไอ้โม่งใช้อาวุธสงครามปะปนอยู่ในฝูงชนด้วย ทางรัฐบาลก็ได้สั่งหยุดปฏิบัติการ และขอเจรจา ตรงนี้ผมตั้งข้อสังเกตว่า หยุดทำไม เจรจาทำไม ถ้าเจตนาจะใช้กระสุนจริงปราบอยู่แล้ว ลำพังไอ้โม่งไม่กี่คนจะต้านทหารเป็นกองร้อยได้หรือ (ตรรกะข้อที่ 5) เพราะฉนั้นตรงนี้เห็นได้ชัดว่า รัฐไม่ได้มีนโยบายที่จะใช้กระสุนจริงตั้งแต่แรก เค้าคิดว่าจะเหมือนสงกรานต์ปีที่แล้ว ที่ใช้แก๊สน้ำตา หรือ กระสุนยาง ส่วนกระสุนจริงก็ยิงขึ้นฟ้า แล้วก็ได้ผล ไม่มีคนตาย สลายสำเร็จ แต่คราวนี้มันผิดคาด นั่นจึงทำให้รัฐบาลตัดสินใจหยุด การตัดสินใจหยุด พิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะให้มีคนตาย

สรุปกรณีนี้คือ ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดที่สลายต่อในตอนค่ำ จนติดกับฝ่ายนั้น แต่ก็เข้าใจว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นกันอำมหิตขนาดนี้ แต่ส่วนสำคัญที่สุดมาจากความจงใจของไอ้โม่งแน่นอน

คลิปต่อมา มาจาก cnn เป็นภาพการ์ด นปช ใส่ชุดคล้ายทหาร ถือ M16
http://www.youtube.com/watch?v=pHmNk4awDVU

ภาพทหารที่บาดเจ็บในวันที่ 19 พฤษภาฯ
http://numchiao.blog.../blog-post.html

หลักฐานยังมีอีกมาก แต่แค่นี้คงพิสูจน์ได้แล้ว คงไม่ต้องเถียงกันเรื่องมีอาวุธหรือไม่กันอีกแล้วนะครับ

ก่อนจะเข้าเรื่องจริงๆ มีคำถามง่ายๆก่อนว่า มันแปลกมั๊ย ในเมื่อเลือกที่จะจับอาวุธ แต่กลับหวังว่าตัวเองจะไม่มีการสูญเสียเลย หรือคิดจะให้อีกฝ่ายถือแต่กระบองเข้ามาให้ยิงเล่นกันสนุกๆหรืออย่างไร นี่เป็นตรรกะข้อที่ 1

เป็นเรื่องที่พวกเราในที่นี้ส่วนใหญ่ก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่รู้สึกเป็นสิ่งที่เสื้อแดงยังคาใจกันอยู่มาก เนื้อหาข้างล่างเป็นสิ่งที่ผมเคยเอาใช้โต้เถียงกับเสื้อแดงใน fb ช่วงที่หลังเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ผมเอามาปัดฝุ่น ปรับปรุงถ้อยคำให้เหมาะสมและ update มากขึ้น ขออนุญาตเอาโพสต์ที่นี่อีกครั้ง เผื่อว่าจะเป็นวัตถุดิบที่บางท่านจะนำไปประกอบการอธิบายกับคนที่ไม่เข้าใจโอกาสต่างๆได้ครับ

แม้ว่าจะเป็นเรื่องเดิมๆ แต่ในนี้ผมได้ชี้ให้เห็นประเด็นใหม่ๆ หลายประเด็นอยู่เหมือนกัน ซึ่งน่าจะนำไปสู่การคลี่คลายความสงสัยได้ ความจริงผมก็ไม่ได้มีข้อมูลหลักฐานเชิงลึกมากไปกว่าใครในที่นี้ เพียงแต่อาศัยการวิเคราะห์ด้วยตรรกะ ซึ่งถ้าท่านทั้งหลายลองอ่านดูจะพบว่า แค่เพียงตรรกศาสตร์นี่แหละก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความจริงในหลายๆเรื่อง

มีการใช้อาวุธสงครามในฝ่ายเสื้อแดงหรือไม่
ก่อนจะเข้าสู่การวิเคราะห์ต้องยอมรับกันในข้อเท็จจริงก่อนวว่าเสื้อแดงใช้อาวุธสงคราม คลิปต่อไปนี้ก็มีให้เห็นกันทั่วไป ผมคิดว่าทุกคนในที่นี้คงได้เห็นกันแล้ว แต่เท่าที่คุยกับเสื้อแดงมาหลายคน น่าประหลาดใจที่พวกเค้ายังบอกว่าไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าแกล้งหรือไม่รู้จริง ถ้าใครยังอยากหาหลักฐาน ก็ให้เค้าดูให้เต็มตาก่อนเลยแล้วกัน ผมพอเตรียมไว้เป็นสำเร็จรูปส่วนหนึ่ง เหล่าเทพในนี้คงมีมากกว่านี้

คลิปแรก เสื้อแดงถ่ายเอง ตอนท้ายๆจะได้ยินประโยคหนึ่งว่า “ฝ่ายเราก็มีอาวุธสงครามด้วย ยิงกันฉิบหายเลย อยากกราบคนยิงจริงโว้ย ไอ้เอี้ยเอ้ย”

http://www.youtube.com/watch?v=mkrYaYORjSI
คลิปนี้ยังมีข้อสังเกตอีกอย่างคือ คนที่ถ่ายเค้าบอว่ายิงกันฉิบหาย แต่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงกลับยืนดูกันนิ่งๆ แสดงให้เห็นว่าทหารไม่ได้ยิ่งเข้าใส่มวลชน

ภาพทหารโดน M79
http://www.youtube.com/watch?v=C3hsqv6GGrc

หลายวันก่อน ผมรู้จักจ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ จากกรณีใส่ชุดแดงเข้าสภา
หลายปากหลายเสียงวิพาษ์วิจารณ์กันพอสมควร ถึงเหตุผล
ถึงความเหมาะสม

จนถึงอีกกรณีหนึ่ง มีคำพูดของจ่าคนนี้ เป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้ง
จากคำพูดเรียก สส พรรคประชาธิปัตย์ว่า “หมา”

จ่าประสิทธิ์ เรียก หมาวรงค์ กลางสภา ทำ ส.ส.เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ ประท้วงวุ่น ก่อนที่ น.พ.วรงค์ จะสวนกลับเป็นหมาเฝ้าบ้านดีกว่าเป็นทาส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 พฤษภาคม) ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... ในวาระที่ 2 เป็นวันที่ 11 ของการประชุม ที่รัฐสภา ได้มีการพิจารณามาตรา 291/11 ที่ระบุว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญจะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลา 240 วัน นับแต่จากวันประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญนั้น โดยการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญนั้น สสร.สามารถนำรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งที่เห็นว่ามีความเป็นประชาธิปไตยสูงมาเป็นต้นแบบการยกร่างได้

ทั้งนี้ การที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ หรือมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นเหตุให้กระทบกระเทือนการปฏิบัติหน้าที่ของ สสร. รวมถึงการทำร่างรัฐธรรมนูญต้องจัดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชนในทั่วภูมิภาค สำหรับการร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขในบทบัญญัติในหมวดว่าด้วยพระมหากษัตริย์จะกระทำมิได้ ในกรณีที่รัฐสภาวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญมีลักษณะตามวรรคห้า ให้ร่างรัฐธรรมนูญเป็นอันตกไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการพิจารณามาตราดังกล่าว ได้มี ส.ว. และ ส.ส. ขอแปรญัตติทั้งหมด 90 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้แก้ไขการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 360 วัน และได้มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงหลายคน ก่อนที่ น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ จะลุกอภิปรายในประเด็นนี้ แต่ระหว่างที่ น.พ.วรงค์ กำลังอภิปรายอยู่นั้น จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงว่า น.พ.วรงค์ อภิปรายนอกประเด็น ทำให้ น.พ.วรงค์ สวนกลับไปว่า ให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไปแก้ปัญหาเรื่องราคาที่จังหวัดสุรินทร์

ทั้งนี้ บรรยากาศเริ่มตึงเครียด เมื่อ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไม่พอใจ น.พ.วรงค์ จึงตอบโต้กลับมาว่า "ที่บ้านผมเรียกคุณหมอวรงค์ว่า คุณหมาวรงค์" ทำให้ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร รองประธานรัฐสภาทำหน้าที่ประธานในการประชุม ต้องขอให้ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ถอนคำพูด ซึ่ง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ก็ยอมถอนคำพูด

ระหว่างนั้น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ลุกขึ้นประท้วง โดยระบุว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ชอบทำผิดซ้ำซาก การถอนคำพูดอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องขอโทษต่อที่ประชุมสภาด้วย แต่ พล.อ.ธีรเดช ได้วินิจฉัยว่า ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ได้ถอนคำพูดไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่พอใจได้ลุกขึ้นประท้วงอีก ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาตอบโต้เช่นกัน ก่อนที่ น.พ.วรงค์ จะอภิปรายต่อและระบุว่า "แม้เป็นหมาวรงค์ก็เป็นหมาเฝ้าบ้าน ดีกว่าคนที่คิดว่าเป็นคนแต่ทำตัวเป็นทาส" ทำให้ประธานรัฐสภาต้องตัดบท และให้ น.พ.วรงค์ อภิปรายต่อไป



จนกรณีล่าสุด คือการพูดดูถูกสถาบันการศึกษาของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์



ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงทั้งในและนอกสภากันยกใหญ่ เพราะหลายคนที่เรียนที่นั้น คงไม่พอใจ


วัชระเผยเด็กรามฯ เตรียมประท้วง "จ่าประสิทธิ์"


นายวัชระ เพชรทอง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ดูถูกมหาวิทยาลัยรามคำแหงในการประชุมสภาว่า ทราบว่าศิษย์เก่ารามคำแหงทั่วประเทศ กำลังหารือเพื่อเคลื่อนไหวประท้วงในเรื่องนี้ และที่จ.ส.ต.ประสิทธิ์อ้างผ่านสื่อว่าจบการศึกษาปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสยามนั้น ตนได้ตรวจสอบมาแล้ว ปรากฏว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไม่ได้แจ้งวุฒิการศึกษาใดๆในการกรอกทะเบียนประวัติ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และตนซึ่งเป็นส.ส.เขตภาษีเจริญ บางแค ได้ตรวจสอบไปยังอาจารย์บางท่านในมหาวิทยาลัยสยามก็ยืนยันว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไม่เคยมีประวัติจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยสยามเลย เข้าใจว่าคงไปจีบเด็กม.สยามมากกว่า "เมื่อเป็นอย่าง สมควรหรือไม่ที่นกเอี้ยงจะไปเกาะบนศรีษะของท่าน" นายวัชระ กล่าว

http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=633453

ภายหลัง จ่าประสิทธิ์ ก็ออกมาแก้ต่างถึงกรณีนี้ครับ



จ่าประสิทธิ์แก้ต่างยกม.รามสุดเจ๋ง



เช็คประวัติการศึกษาจ่าประสิทธิ์ เจ้าตัวเผยจบนิติศาสตร์ ม.สยาม แต่อดีตคณะบดีตรวจสอบไม่พบเป็นศิษย์เก่าในสารบบ ด้านปชป.เตรียมขอดูประวัติกับพรรคเพื่อไทย

จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย


จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายคนเข้าใจผิดว่าได้อภิปรายด่ามหาวิทยาลัยรามคำเเหง ทั้งที่ความจริงเเล้วในการประท้วง นายวัชระ เพชรทอง สส.พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต้องการบอกว่านายวัชระไม่น่าโง่ เพราะรามคำเเหงเป็นสถาบันที่ดี ผลิตนักการเมืองเเละผู้พิพากษาจำนวนมาก นายวัชระ จึงไม่น่าจบจากรามคำเเหง เเต่เมื่อพยายามอธิบายคำประท้วง ประธานในที่ประชุมได้ตัดบทไม่ให้พูด ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิด

“รามคำแหงเป็นสถาบันชั้นนำที่มีเเต่คนเก่งเเละฉลาด ผลิตบุคลากรชั้นนำมาก ทั้งนักธุรกิจ ผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ รวมถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดังนั้นผมจะไปว่ารามคำแหงโง่ทำไม ต้องการยกย่องมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ” สส.สุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ เรียนจบจากสถาบันใด เเกนนำเสื้อเเดงผู้นี้ ตอบว่า ไม่ได้จบสูงเหมือนคนทั่วไป เเต่มาตรฐานส่วนตัวคิดว่าไม่ควรเอาการศึกษามาวัด เพราะบางคนจบปริญญาเอก หมอ ก็ยังโง่อยู่ เช่น หมอรายหนึ่งที่ฆ่าหั่นศพ ถูกพิพากษาจำคุก การศึกษาดีเเต่ก็ยังทำผิด บางคนฉลาดเเต่เเกมโกง ส่วนตนจบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม เมื่อประมาณ 10 ปีที่เเล้ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม และอดีตคณะบดีคณะนิติศาตร์ เพื่อตรวจสอบประวัติการศึกษาของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ นายเจษฎ์ กล่าวว่าขอตรวจสอบจากฝ่ายทะเบียน ศิษย์เก่านักศึกษาคณะนิติศาสตร์ก่อน ต่อมานายเจษฎ์ได้ให้ข้อมูลว่า คณะนิติศาสตร์เริ่มทำการเปิดเรียนครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2528 เเละพบว่าไม่มีชื่อ จ.ส.ต.ประสิทธิ์เป็นศิษย์เก่าของคณะนิติศาสตร์ ถ้าจบจริงต้องเอาใบปริญญาตรีมายืนยัน

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบจาก จ.ส.ต.ประสิทธิ์อีกครั้ง โดยยืนยันเช่นเดิมว่า จบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม เมื่อประมาณ 10 ปีที่เเล้ว เเต่จำไม่ได้ว่าปีใด เนื่องจากนานมากเเล้ว ก่อนที่จะรีบตัดสายโทรศัพท์ผู้สื่อข่าวทิ้ง

นายวัชระ เพชรทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า คำพูดของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ที่ว่า “ไอ้นี่ จบจากรามคำแหง โง่จริงๆ” เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าไม่ได้ว่าตนคนเดียว แต่หมายรวมถึงผู้ที่จบจากรามคำแหงโง่ ซึ่งคำพูดแบบนี้ทำให้ลูกพ่อขุนทั้งประเทศสะเทือนใจ มีโทรศัพท์จากศิษย์เก่ารามคำแหงหลายคนโทรมาและบอกว่าเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้น รวมถึง สส.พรรคเพื่อไทย ศิษย์เก่ารามคำแหงเองที่มาบอกหลังการประชุมว่าให้ตบปากจ่าประสิทธิ์ แล้วจะเป็นคนจ่ายค่าปรับให้เอง

นายวัชระ ยังกล่าวถึง ประวัติการศึกษาของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ว่า จะเร่งตรวจสอบข้อมูล สส.ของพรรคเพื่อไทยเพื่อหาข้อเท็จจริง แต่เท่าที่เคยพบบัณฑิตคณะนิติศาสตร์ ม.สยาม ไม่เคยเห็นใครมีพฤติกรรมเหมือนจ่าประสิทธิ์มาก่อน

นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภาและศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (มร.) เปิดเผยว่า ไม่ควรนำสถาบันทางการศึกษามากล่าวอ้างเพื่อกล่าวโจมตีฝ่ายตรงข้ามในรัฐสภา โดยมองว่าสถาบันการศึกษาไม่ว่าจะเป็น จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ หรือรามคำแหงนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่าตัวบุคคล ในกรณีนี้ถือว่าผู้พูดไม่รู้จักกาลเทศะและขาดวุฒิภาวะอย่างสิ้นเชิงที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง

“การพูดแบบนี้ถือว่าดูถูกคนในสถาบันรามคำแหงทั้งหมดและก่อให้เกิดแรงต้านของคนในสถาบันด้วย ที่สำคัญคือเป็นการดูถูกคนในพรรคเพื่อไทยเอง โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรีที่จบ ดร.จากรามคำแหงเช่นกัน” นายวันชัยกล่าว

นายวันชัย ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐสภาได้กลายเป็นเวทีให้คนสร้างความเด่นดังให้ตัวเอง โดยการใช้วาทกรรมตอบโต้ คำพูดรุนแรงและเสียดสี คนที่ต้องการโด่งดังด้วยวิธีการเช่นนี้ถือเป็นคนที่มีจิตใจผิดปกติ ทำให้รัฐสภากลายเป็นสภาโจรที่ป่าเถื่อนมากกว่าสภาของผู้ทรงคุณวุฒิ

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์และศิษย์เก่านิติศาสตร์ มร. มองว่า โง่หรือไม่โง่เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลไม่เกี่ยวกับสถาบัน ดังนั้นการกระทำของ สส.ประสิทธิ์โง่หรือไม่ควรดูที่เวลาพูด ตัวแทนย่อมสะท้อนประชาชนในพื้นที่ ไม่อยากวิจารณ์มากนักเพราะไม่ให้ค่าของ สส.ประสิทธิ์นานแล้ว หากพรรคเพื่อไทยควรทบทวนว่าการให้สส.ผู้นี้ทำงานส่งผลให้ความนิยมในพรรคดีขึ้นหรือเลวลง

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนาและศิษย์เก่ารัฐศาสตร์ มร.กล่าวว่า ที่มองว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ พูดไม่เหมาะสมนั้น มองว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ต้องการสื่อความหมายว่า คนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่น่าโง่ โดยกล่าวโจมตีบุคคล แต่ไม่ได้สื่อว่าคนจบรามคำแหงโง่หรือต้องการดูถูกสถาบัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคงจะร่วมประท้วงในที่ประชุมด้วย เพราะก็จบรามคำแหงมาเช่นกัน

ทั้งนี้เห็นว่าในระยะหลังมารยาทของ สส.ในที่ประชุมทำให้เกียรติของรัฐสภาตกต่ำลง โดยเฉพาะการพูดชื่อสัตว์ของทั้งสส.ประสิทธิ์และสส.วัชระ เพชรทอง รวมถึงพฤติกรรมการปรบมือในที่ประชุมซึ่งตามสากลแล้วกระทำได้เฉพาะการให้เกียรติหรือยกย่องเท่านั้น ไม่ใช่แสดงความชอบใจส่วนตน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิษย์เก่ารามคำแหงที่สร้างชื่อเสียงในแวดวงการเมือง อาทิ นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ, นายบรรหาร ศิลปอาชา, นายชัย ชิดชอบ, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายจตุพร พรหมพันธุ์, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา, นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, พล.ต.คมสัน มานวกุล, นายปณิธาน วัฒนายากร, นายสมชาย แสวงการ, นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์, นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์, นายเทพไท เสนพงศ์, นายเจือ ราชสีห์, นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ, นายธนิตพล ไชยนันทน์, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา, นายชวลิต สุจริตกุล, นายสราวุธ เบญจกุล, นายมงคล สุระสัจจะ, นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์, นายวิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์, นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร, นายเสรี สุวรรณภานนท์ ,นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ, นายพานทองเเท้ ชินวัตร เป็นต้น

ข่าวโดย : โพสต์ทูเดย์
วันที่ 19 พฤษภาคม 2555

http://www.sooknews.com/article/14943/

ทีนี้ เมื่อเกิดข่าวนี้ ผมสงสัยครับ เลยลองหาประวัติจ่าประสิทธิ์ดู
ปรากฏว่า ไม่พบประวัติการศึกษาระบุไว้เลย จากหลายๆ แหล่งข้อมูล


จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ไชยศรีษะ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สุรินทร์ เขต 6
(1 ส.ค. 2554 - ปัจจุบัน)


ข้อมูลส่วนตัว

เกิดวันที่:

2 มี.ค. 2508

ข้อมูลติดต่อ:

บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 6 หมู่บ้าน บ้านตราด ซอย - ถนน -
ตำบล/แขวง ตาคง อำเภอ/เขต สังขะ จังหวัด สุรินทร์
รหัสไปรษณีย์ 32150

ข้อมูลการทำงาน

- ตำรวจ จังหวัดสมุทรสาคร
- แกนนำ นปช.สมุทรสาคร
ข้อมูลงานการเมือง

1 ส.ค. 2554 - ปัจจุบัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสุรินทร์ เขต 6

http://www.thaiswatc...55/info/history
http://www.thaiswatc...er/id/50/page/5


หรือแม้แต่เวปนี้ครับ
http://mp.parliament.go.th/map2550/form_search.aspx
ซ฿่งจะมีราชชื่อและประวัตินักการเมืองทั้งหมด
ตัวอย่างนะครับ




แต่เมื่อคลิกไปที่ชื่อของจ่าประสิทธิ์ กลับไม่พบอะไรเลย





ผมก็ลองหาดูที่อื่นอีกครับ


http://www.thaiswatch.com/politician/info/pid/POL0000003355

ปรากฏว่า ก็ยังไม่พบอยู่ดี
จนมาเจอข้อความในเฟสบุค ศิริโชคครับ




Sirichok Sopha
เมื่อวานได้เจอจ่าประสิทธิ์ที่สภาฯ ก็อดไม่ได้ที่จะถามจ่า ตกลงว่าจบ ม.สยาม จริงหรือไม่ ทำไม อธิการบดีถึงปฎิเสธ ก็เลยถึงบางอ้อ เพราจ่าประสิทธิ์ ตอบแบบซื่อๆ บอกนักข่าวเข้าใจผิด จ่าหมายถึง ม. สยามคูโบต้า(เป็นชาวนา) ไม่ได้หมายถึง ม.สยาม จึงแจ้งมาเพื่อให้รู้โดยทั่วกัน


ผมจึงเกิดความสงสัยครับ
จึงคิดอยากมาตั้งกระทู้ชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ชาวเสรีไทย
ลองมาสืบหาความจริงในเรื่องประวัติการศึกษาจ่าคนนี้ดูหน่อยเป็นไรครับ

ยื่นเรื่องให้ท่านตู่ "พ้นจากความเป็นคน" ได้ที่ไหนครับ ???

MEI(อีมี่) คือ หมายเลข 15 หลัก ของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะไม่ซ้ำกันกับโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่นๆ (คล้ายๆ เลขบัตรประชาชนนั้นแหละ -*-) โดยหมายเลข IMEI จะถูกกำหนดขึ้นมาจากโรงงานที่ผลิตเครื่องโทรศัพท์มือถือ และจะถูกบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่เปิดเครื่องใช้งาน หรือโทรหาใคร ไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่คุณใช้อยู่ เช่น DTAC,True,12Call เป็นต้น

วิธีดูหมายเลข IMEI : ให้กดปุ่ม *#06# แล้วมันจะปรากฏขึ้นมาเอง

ขอเสริม : ถึงหมายเลข IMEI จะไม่ซ้ำกันในแต่ละเครื่อง แต่ก็มีรายงานว่า โทรศัพท์มือถือหลายเครื่องมีหมายเลข IMEI ที่้ซ้ำกัน ทั้งจากโรงงานที่ผลิต และการแก้ไขหมายเลข IMEI ในภายหลัง

หลังจากรู้ถึงความหมายของ IMEI แล้ว เรามาดูข้อดีของหมายเลข IMEI กันดีกว่า

1. ใช้สำหรับแก้เผ็ดผู้ที่ขโมยโทรศัพท์ของเราไป โดยหลังจากที่คุณถูกขโมยโทรศัพท์ไปแล้ว ให้คุณโทรไปยังเครือข่ายโทรศัพท์ที่ให้บริการ แล้วแจ้งหมายเลข IMEI ให้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นเค้าจะทำการบล็อกโทรศัพท์ดังกล่าว ไม่ให้สามารถใช้งานโทรคุยกับใครได้

ก็อย่างที่ผมได้บอกไปตอนต้นแล้วว่า ทุกๆครั้งที่คุณเปิดเครื่องเพื่อใช้งาน หมายเลข IMEI จะถูกส่งไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ทันที แล้วถ้ามันตรวจสอบพบว่า หมายเลข IMEI ดังกล่าว อยู่ใน รายการที่ถูกขโมยไป หรือ Black List นั้น จะไม่สามารถใช้งานได้

2. ใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้ แต่!!! ผมเชื่อเลยว่า ร้อยละ 90% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไม่ค่อยจะใส่ใจและให้ความสำคัญกับหมายเลข IMEI ซักเท่าใด (รวมทั้งตัวคุณที่กำลังอ่านใช่ไหม? ผมรู้นะ ฮ่าๆๆๆ) เวลาโทรศัพท์มือถือหาย ก็ปล่อยแมร่ง หาใหม่ได้ ไม่สนใจ ไม่แคร์ ขี้เกียจ ขี้เหม็น โอ้สาระพัด

แต่!!! (รอบที่ 2) ถ้าคุณอ่านกระทู้นี้จบแล้ว โดยเฉพาะข้อความต่อไปนี้ ให้คุณระลึกเสมอว่า หมายเลข IMEI สำคัญมาก

เพราะหมายเลข IMEI สามารถปลอมแปลงได้ และถ้าหมายเลข IMEI ของคุณไปปรากฏตรงกับหมายเลข IMEI ที่กระทำความผิดในการส่ง SMS อาจจะทำให้คุณติดคุก 100% ได้ เพราะมันถือเป็นหลักฐานที่สำคัญและถูกต้องเป็นอย่างมาก หากเกิดคดีที่ใช้โทรศัพท์มือถือในการกระทำความผิด (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ถ้าเค้าไฮเทคโนโลยี เค้าจะเข้าใจว่ามันอาจปลอมแปลงได้ แต่ถ้าเค้า xxx เทคโนโลยี คุณเตรียมนอนคุกได้เลย)

ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำ คือ

1. ถ้าสมอง และมือคุณยังใช้งานได้ กรุณาบันทึกหมายเลข IMEI ไว้ในกระดาษ หรืออะไรก็ได้ สำหรับแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ของเครือข่ายโทรศัพท์ให้ทำการล็อกโทรศัพท์ดังกล่าว กรณีโทรศัพท์ถูกขโมย หรือหาย เพราะในระหว่างนั้นคุณอาจจะถูกสวมรอยเป็นคนกระทำความผิดก็เป็นได้

2. ถ้าคุณต้องเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อมที่ร้าน กรุณาบันทึกวันเวลา สถานที่ ที่ไปซ่อมด้วย โดยให้มีหลักฐานว่า คุณได้ไปซ่อมจริงๆที่ร้านดังกล่าว คุณอาจจะให้ร้านออกเอกสารที่ใช้เป็นหลักฐาน หรือ ใบนัดเอาของก็ได้ เป็นต้น ป้องกันการกระทำความผิดในระหว่างที่โทรศัพท์มือถือของคุณอยู่ที่ร้าน

3. ถ้าคุณจำเป็นต้องให้โทรศัพท์มือถือกับคนอื่นใช้งาน กรุณาติดตามดูพฤติกรรมของเขาให้ดี เพราะเขาอาจจะเอาโทรศัพท์ของคุณไปกระทำความผิดก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะเป็นคนใกล้ชิดของคุณ หรือ คนแปลกหน้าที่มักจะใช้มุขว่า “ขอโทษนะค่ะ แบตโทรศัพท์อิฉันหมดอ่ะค่ะ ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมค่ะ” (ส่วนใหญ่เหยื่อผู่ชายจะติดกับเยอะ ฮ่าๆๆ)

4. ถ้าคุณถูกใส่ร้ายป้ายสี กรุณายืนหยัดในความถูกต้อง อย่าให้คุณตกเป็นแพะรับบาปเด็ดขาด อย่าให้กฏหมายเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ หรือมีเงินทอง ในการกลั้นแกล้งหรือเอาผิดประชาชนตาดำๆอย่างพวกเรา (พูดแล้วเหนื่อยใจกับประเทศไทยจริงๆ ดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องพวกนี้)

ท้ายสุด ผมตั้งใจจะสอนวิธีการเปลี่ยน หรือการปลอมหมายเลข IMEI เผื่อบ้างคนสนใจ หรือไม่เชื่อว่ามันจะปลอมได้ แต่ก็เกรงใจพี่ๆเจ้าหน้าที่ตำรวจเหลือเกินที่จะไปรบกวนเวลาว่างจากการตั้งด่าน จับแพะ รีบไถ่ มาเชิญผมไปนอนเล่นในคุก ก็หวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะครับ ว่าผมสอนวิธีการเปลี่ยนหมายเลข IMEI ไม่ได้จริงๆ

ผมเอามาจากเว็บๆนึงมานะครับ จำไม่ได้ว่าเว็บอะไร

ผมก็ขอบอกอีกครั้งว่า กระทู้นี้ไปไกลกว่าแฮกอีมี่ ปลอมซิม หรืออะไรตามที่เขียนมานี่หมดแล้วครับ และทุกอย่างก็มัดไอ้กงจนมันดิ้นไปไหนไม่รอดแล้ว แล้วเจ้าของข้อความนี้ยังมีกั๊กอีกนะ

บอกรู้ว่าแฮกยังไง รู้ว่าแฮกได้ แต่กรูบอกมรึงไม่ได้ว่ะ กรูก็ขอฮามรึงหน่อยได้ไหมครับ ฮ้าาาาาาาาฮ่าฮ่าฮ่า

ไอ้ที่เซนรับมันแผนที่ 1ต่อ5หมื่นป่าวหา อย่ามามั่วอาจจะไม่ใช่ 1ต่อ2แสนก็ได้

อ้อแล้วศาลโลกถึงเราจะไม่เห็นด้วยแต่ศาลโลกได้ตัดสินแล้วว่าแผนที่ 1ต่อ2แสนใช้ไม่ได้เพราะไทยไม่ได้เซนรับรองถ้ามันรับรองจริงเราอาจเสียเขาพระวิหารไปหมดนอกจากแค่ตัวประสาทตั้งแต่ปี 2505แล้ว


อย่ามาสร้างตรรกะมั่วๆบิดเบือนดีกว่า

แล้วผมบอกตรงได้ว่าไทยเซ็นรับรองมิทราบ ถ้าผมส่งจดหมายลงทะเบียนให้คณ คุณเซ้นรับจดหมายนี่หมายความว่าคุณเซ้นรับรองข้อความในจดหมายนั่นรึ แล้วศาลโลกก้บอกว่าไทยรับแผนที่นั่นไม่ใช่รึ ไม่รับจะมาอยู่ในคลังแผนที่ไทยได้ไงวะ

ถ้ามีคดีขับรถชนคนตาย มีคนเห็นและจดทะเบียนรถเอาไว้

จำเลยอ้าง "ทะเบียนรถสามารถปลอมแปลงได้" เพียงเท่านี้ ก็สมควรยกประโยชน์ให้จำเลยด้วยใช่ไหมครับ?

หากไม่ใช่แล้ว ทำไม? ต้องดูหลักฐานอื่นประกอบด้วยใช่หรือไม่?

ถ้าใช่... ถามว่าคดีนายอำพลมีหลักฐานอื่นประกอบ (ร่วมกับ EMEI) ใช่หรือไม่?

ถ้ามี... นั่นแสดงว่าข้ออ้าง "EMEI สามารถปลอมแปลงได้" เอาไว้หลอกควายเท่านั้นแหละครับ

นายคนนี้ตายปุ๊ป

แผนการจะแก้รัฐธรรมนูญ

แผนสร้างความปรองดอง

แผนนิรโทษกรรม

แผนกลับประเทศแบบเท่โคตรๆ......

มลายในพริบตา

ชายวัยหกสิบที่ไม่มีค่าอะไรในแผนการของทักษิณ
ตายด้วยมะเร็งอย่างกระทันหัน
สิ่งที่เกิดตามมาก็เป็นเกมส์บังคับ
นิติราดต้องเคลื่อนไหว
นปช. ต้องแห่ศพ
เสื้อแดงต้องฉลอง

ทั้งหมดล้วนกระตุ้นความบาดหมาง
ซึ่งจะประทุต่อไปอีกอาจจะสามเดือนถึงหกเดือน
และไม่มีใครรู้ว่าจะลุกลามต่อไปในทิศทางใหน

ตอนนี้ทักขี้คงโทรสายตรงถึงเรือนจำ
นังดาจะตายไม่ได้
ถ้ามันตายหลังจากนี้อีก หกเดือน
จบกัน กรูไม่ได้กลับบ้านแน่นอน......






จบข่าวคร๊าบบบ

คน กทม ส่วนใหญ่เลือกผู้ว่า กทม แล้วครับ

ดังนั้นพวกเสียงส่วนน้อยอย่าใส่เกือก

ผมสามารถใช้ตรรก เดียวกันได้หรือปล่าว กับ กระทู้ ของแพง... ปูโพย... ปูไม่ทำงานว่า..

ชาวไทย ทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ เลือก นายกปู แล้ว ครับ
ดังนั้นพวกเสียงส่วนน้อยอย่าใส่เกือก

เปล่าครับ ผมต่างหากที่ใช้ตรรกะเดียวกับที่เสื้อแดงใช้ อย่ามั่วโมเมจะเลียนแบบผมเลย

สารภาพตามตรง ผมไม่เคยอ่าน คคห คุณ hentai แล้วเข้าใจที่คุณ hentai ต้องการจะบอกสักครั้งเดียว

(ไม่รู้ผมเป็นคนเดียวหรือเปล่า)

ถ้าเรื่อง 300 ละก็ของขึ้นแค่นี้ผมว่าคุ้มแล้วครับ.. มันเป็นการปรับฐานประเทศ..

คุณเสือเมา อยากให้ค่าเงินมันเฟ้อมากกว่านี้เหรอครับ แค่ปัจจุบันนี้มันก็เฟ้อมากพอแล้วนะครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า ไม่ควรปล่อยให้เงินลดค่าไปกว่านี้อีกแล้ว

- ถ้าผมใช้เงินวันละ 500 แล้วผมมีรายได้วันละ 500 ผลคือผมเหลือเงินเก็บ 0 บาท...
กับผมมีใช้เงิน 1500 แต่มีรายได้วันละ 1500 ผมเลือกอย่างหลังครับ... เราประหยัดเพิ่มอีกหน่อยเราจะมีเงินได้

- เคยฟัง 96.5 วีระ ธีรภัทร แกบอกว่า.. มันเป็นการปรับฐานประเทศครั้งใหญ่.. ภาษีจะเก็บได้มากขึ้น...
คงต้องรอให้มีการปรับตัวกันซักพัก..น่าจะเข้าที่เข้าทาง..

๕๕๕๕ ถ้าเชื่อไอ้กำมะลอนั่นแล้วสบายใจก็เชื่อไปเหอะ

วิธีแบบนี้เขาไม่เรียกปรับฐานหรอก เขาเรียกหลอกควาย

ประเทศเราจัดอยู่ในกลุ่มแรงงานราคาถูก แรงงานระดับนี้หาได้ถมเถไป ตามเวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย ฯลฯ

ทีนี้เราก็เพ้อฝันว่า เราอยากได้ค่าแรงราคาสูงเหมือนสิงคโปร์ เหมือนญี่ปุ่น

เราก็เลยดันค่าแรงขึ้นไปซะเลย ทั้ง ๆ คุณภาพแรงงานเรายังเหมือนเดิม เหมือนอยู่ ๆ ก็ขึ้นราคาสินค้ากันดื้อ ๆ

แล้วนักลงทุนโง่เง่าที่ไหนล่ะ มันจะอยากจ่ายแพงกว่า แต่ได้คุณภาพแรงงานเท่ากัน

ผลก็คือ เจ้าไหนที่ไปได้ เขาก็ไปต่างประเทศที่แรงงานถูกกว่า


วิธีปรับฐานประเทศมันต้องทำด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน แล้วถึงดันค่าแรงขึ้นไป

ไม่ใช่ทำโง่ ๆ แบบอีนกแก้วหน้าเหี่ยว

วีระ ธีรภัทร มีหลักของแกครับ.. ว่างๆ ก็ลองโทรไปแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้กับแกซิครับว่าไม่เห็นด้วย....อิๆ
ค่าแรงบ้านเรามัน.. เคยขึ้นชนะเงินเฟื้อหรือไม่ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา.. และแรงงานราคาถูกกว่าที่เป็นหรือไม่..
ผมว่าประเด็นนี้เถียงก็เท่านั้นมองคนละมุม

ไม่ได้มองคนละมุมเลยว่ะ

ใครบอกว่าไม่ควรขึ้นค่าแรงเหรอ

พี่ก็เห็นว่าควรขึ้น ปชป. ก็เห็นว่าควรขึ้น

ที่ต่างกันคือวิธีการขึ้นเว้ยน้อง


ขึ้นค่าแรง ยังไงมันก็ดันเงินเฟ้ออยู่้แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา

ดังนั้นเวลาจะขึ้น ก็ต้องพยายามคุมตัวแปรอื่น ๆ ให้นิ่ง เท่าที่่จะทำได้

แต่ไอ้ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะแทนที่รัฐบาลมันจะคุมตัวแปรอื่น ๆ ให้นิ่ง

มันดันทำโง่ ๆ ด้่วยการเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน จนราคาน้ำมันกระฉูดเป็นแบบนี้

แถมยังรับจำนำข้าวแบบโง่ ๆ แทนที่จะคุมตัวแปรราคาข้าวไว้ กลายเป็นดันขึ้นไปอีกตัว เพียงเพื่อพยายามหลอกควาย

ผลคือข้่าวในประเทศแพงขึ้น ข้าวส่งออกทรุดฮวบ

นี่แหละความโง่ของอีนกแก้วหน้าเหี่ยว

ตอนนี้หนังเรื่องบ่วง ผีอีแพงกำลังมาแรง แต่ดันมีคู่แข่งที่แรงกว่า