Jump to content


Strangerman

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 4 เมษายน 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 02:40
*****

#433002 ต้าย ทหารจะปฎิวัติอีกแล้วนะคร่ออออ

โดย redfrog53 on 29 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:18

กินยาแล้ว ไปนอนสะ
Posted Image


#430528 5 หมื่นเตรียมไว้เลย ถ้าจะด่าอภิสิทธิ์

โดย คนกรุงธน on 27 กันยายน พ.ศ. 2555 - 13:10

มันรอลงอาญาได้กี่รอบกัน เอะอะก็ รอลงอาญา -_-

ใจเย็นๆ ต้องเข้าใจก่อนครับ...ต้องดูวันที่เกิดเหตุกระทำความผิด...สมมุติ
เกิดเหตุครั้งที่ 1 วันที่ 1 ม.ค.53
เกิดเหตุครั้งที่ 2 วันที่ 1 ก.พ.53
เกิดเหตุครั้งที่ 3 วันที่ 1 มี.ค.53

สมมุติคดีสิ้นสุดแล้วทุกๆศาล
ศาลตัดสินคดีที่ี1 วันที่ 20 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ศาลตัดสินคดีที่ี2 วันที่ 21 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ศาลตัดสินคดีที่ี3 วันที่ 22 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี

คือนับจากวันตัดสินคดีที่คดีสิ้นสุดแล้ว ถ้าคดีไหนสิ้นสุดแล้ว ก็เริ่มนับวันรอลงอาญา
..คือ..
ศาลตัดสินคดีที่ี1 วันที่ 20 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.55 ถึง 19 ก.ย.57 คือภายใน 2ปีนี้ ไอ้ตู่ห้ามทำความผิดข้อหานี้อีกไม่ว่าจะกับใครนะ จะไม่รอลงอาญาแล้วครับ

ศาลตัดสินคดีที่ี2 วันที่ 21 ก.ย.55 คุก6ด.ปรับ 5หมื่น รออาญา 2ปี
ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.55 ถึง 20 ก.ย.57 คือภายใน 2ปีนี้ ไอ้ตู่ห้ามทำความผิดข้อหานี้อีก

เห็นมั๊ยครับ คดีที่2 กับคดีที่3 วันที่เกิดเหตุ มันอยู่นอกเวลาที่รอลงอาญาครับ
แล้วก็จะเรียงกับแบบนี้ทุกคดีครับ


#430405 5 หมื่นเตรียมไว้เลย ถ้าจะด่าอภิสิทธิ์

โดย RiDKuN_user on 27 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:07

มันรอลงอาญาได้กี่รอบกัน เอะอะก็ รอลงอาญา -_-


#430399 5 หมื่นเตรียมไว้เลย ถ้าจะด่าอภิสิทธิ์

โดย amplepoor on 27 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:03

วันนี้ ศาลอาญาตั้งราคาค่าด่าอภิสิทธิ์ว่า "สั่งฆ่าประชาชน" ไว้ 5 หมื่นบาท
จึงขอเรียนเตือนพี่น้องเสื้อแดงว่า ราคานี้ ไม่ได้เผื่อต่อนะครับ ปรับจริง จ่ายจริง
ที่พันทิพคงจะต้องลบกระทู้กันจ้าละหวั่นละทีนี้


อ้อ
มีคุกแถมอีก 6 เดือนด้วยนะ ถ้าเข้าเกณฑ์



จะมีใครอกแตกตายใหมน่ะ

----------------------
http://www.dailynews...th/crime/157637
คุก6เดือน"ตู่"หมิ่น"มาร์ค"สั่งฆ่าประชาชน
วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน 2555 เวลา 11:14 น.



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่ห้องพิจารณา 801 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา โดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาล เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2553 ระบุความผิดสรุปว่า

เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2553-15 ก.พ.2553 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยได้กล่่าวปราศรัยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อ หน้าประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง และประชาชนที่รับฟังและชมโทรทัศน์ช่องพีเพิล แชนแนล ที่มีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ ทำนองว่า โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีที่สั่งฆ่าประชาชนและหลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร และข้อ ความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ

การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดู หมิ่น เกลียดชังว่าโจทก์เป็นคนมีจิตใจโหด***ม สั่งฆ่าประชาชน หนีทหาร เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328,326,332 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า ที่จำเลยปราศรัยว่า โจทก์หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารนั้น ยังไม่มีความชัดเจน ขัดแย้งกันในบางส่วน จึงถือว่าจำเลยติชมด้วยความสุจริตเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะโจทก์เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ตามความเหมาะสม

ส่วนที่จำเลยปราศรัยว่า โจทก์เป็นนายกรัฐมนตรีที่สั่งปราบปรามและเข็ญฆ่า ประชาชน เห็นว่า จำเลยมีเจตนาเพื่อยั่วยุปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ได้ติชมด้วยความสุจริตใจ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง เห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง มาตรา 328 จึงพิพากษาให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2555 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้จำคุกนายจตุพร ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี ฐานหมิ่นประมาทนาย อภิสิทธิ์ ทำนองว่า นายอภิสิทธิ์ ทำตัวเสมอพระเจ้าแผ่นดิน ในการเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานมาแล้วด้วย.


#422213 ด่วนมาก..จะมีการเขียนประวัติศาสตร๋์ ชาติไทยใหม่หมด....

โดย ธงไชยคนเขียนโพย on 20 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:52

สนับสนุนเปลี่ยนแค่นี้เท่านั้น


Posted Image


หนับหนุนฮะ แค่นี้ก็เปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้แล้ว ฮ่า ๆๆๆ


#425079 ด้านได้ อายอด!!!!!

โดย juemmy on 23 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:56

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
ด้านได้ อายอด : จากทักษิณ ถึงยงยุทธ, สรยุทธ์, คำรณวิทย์ ฯลฯ

Posted Image



สังคมไทยกำลังอยู่ในยุค “ด้านได้ อายอด” อย่างสมบูรณ์แบบ
คนระดับนำในสังคมเริ่มเนืองแน่นไปด้วยคนชั่ว ที่ไม่กลัวบาปกลัวกรรม ไม่มีศีลธรรมจรรยา สามารถสร้างวาจาบิดเบี่ยงเลี่ยงเส้น “ศีลธรรม” ได้อย่างไม่ต้องสะทกสะท้าน
คนพวกนี้ กำลังเติบโตและได้ดิบได้ดีในสังคมที่อ่อนแอ ไม่เอาจริงเอาจัง สังคมที่มักคิดว่า อาการ“ธุระไม่ใช่” คือ “ความเป็นกลาง”
กะอีแค่อะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด ไม่กล้าออกมาชี้ มาตัดสิน ได้แต่นั่งขมิบดาก จีบปากท่องคาถา “อย่าทะเลาะกัน...อย่าทะเลาะกัน” แล้วบ้านเมืองมันจะสงบได้อย่างนั้นหรือ?!
ผมกำลังครุ่นคิดว่า คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร, ยงยุทธ วิชัยดิษฐ, สรยุทธ สุทัศนะจินดา หรือกระทั่งคนอย่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนี้ เป็นดุจ “เชื้อโรค” ของสังคมไทย หรือเป็น “เนื้อแท้” ของสังคมไทยที่เผยตัวออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมกันแน่
ไม่ประหลาดใจกันหรือครับ สังคมที่พยายามประกาศว่าเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา ดิ้นรนจะบรรจุในรัฐธรรมนูญให้ได้ว่า มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ กะอีแค่ “หิริ-โอตัปปะ” ยังไม่รู้จักกันเลย ขณะที่ประชาชนจำนวนมากก็ให้ท้าย คนที่ทำผิดแล้ว “ไม่อาย” ได้แต่นั่งสุมหัวนินทากันอย่างเงียบเชียบ!!
1.ทักษิณ ชินวัตร : หัวเชื้อ “ศรีธนญชัย”
เพียงเพราะเชื่อกันว่า ทักษิณ “พอแล้ว” หรือ “รวยแล้วไม่โกง” คำว่า “บกพร่องโดยสุจริต” ในคดีซุกหุ้น 1 จึงปรากฏขึ้นอย่างน่าทุเรศ การจงใจซุกหุ้น ถูกทอนน้ำหนักให้เบาลงเป็น “ความบกพร่อง” ไม่มีเจตนา จึงเป็นการกระทำที่ “สุจริต” สังคมไทยปั่นป่วนรวนเรกับการชั่งน้ำหนัก ข้างหนึ่งมีความหวังว่าทักษิณจะเข้ามาบริหารบ้านเมืองให้ผู้คนอยู่ดีกินดี มั่งคั่งเหมือนเขา อีกด้านหนึ่งบอกว่า จนหรือรวยไม่สำคัญเท่าดีหรือเลว จึงจับตาดูทักษิณมาตั้งแต่นั้น
และในที่สุด “เชื้อทักษิณ” ก็กระจายฟุ้งในหมู่นักการเมือง ข้าราชการ สื่อสารมวลชน และคนไทย
2.สรยุทธ สุทัศนะจินดา : ผมคืนเงินเขาแล้ว ไม่มีความเสียหายใดๆ
สรยุทธ์เป็นสื่อที่นิยมทักษิณคนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาแทบไม่เคยขุดคุ้ยและวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของทักษิณอย่างเอาจริงเอาจังเลย ทั้งๆ ที่เขาทำความเสียหายให้แก่ประเทศมากมายเหลือคณานับ แต่กรณี “ควายหาย” สรยุทธ์ใช้เวลาหลายวันช่วยตามหา เงินของประเทศชาติหายไป กับการใช้อำนาจหน้าที่นายกรัฐมนตรีเข้าเอื้อประโยชน์ สรยุทธไม่เคยช่วยชาติตามหาหรือทวงถาม
เขาเข้าร่วมทำรายการกับช่อง 9 อสมท. ด้วยข้อตกลงแบ่งรายได้จากการขายโฆษณา คนละ 5 นาที โดยราคาขายต้องไม่ต่ำกว่านาทีละ 2 แสนบาท บ.ไร่ส้มของสรยุทธ ขายโฆษณาเกิน 5 นาที กินเวลาในส่วนโฆษณาของ อสมท. ไป ยังไม่รวมการเอาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาวางมาแสดง หรือติดอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะจัดรายการอีก ซึ่งถือว่าผิดข้อตกลง เป็นทรัพย์ที่ไม่ควรได้
อสมท. ใช้เวลาระยะหนึ่ง ถึงรู้สึกผิดสังเกต ว่าทำไมรายการอื่นๆ จึงมาช้ากว่าเวลาในผัง โดยเฉพาะข่าวเที่ยงคืน มาช้ามาก จึงตรวจสอบไล่เวลาดู ถึงได้รู้ว่ามีโฆษณาเกินเวลาในรายการของสรยุทธ ก็ตั้งกรรมการตรวจสอบ โดยมี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน ทั้งนี้ก็เพื่อให้การตรวจสอบนั้น เป็นไปอย่างโปร่งใส แน่นหนา น่าเชื่อถือ
เมื่อผลสอบออกมา พบว่า มีการยักยอกเงินจากการขายโฆษณาเกินเวลา โดยมีพนักงาน อสมท. รู้เห็นเป็นใจด้วย จึงดำเนินการแจ้งความเอาผิดที่ สน.ห้วยขวาง และเรื่องยังเข้ากรอบที่จะต้องส่งต่อไปยังองค์กรอิสระ หรือ ปปช. ช่อง 9 ก็ส่งต่อ ปปช. ก็ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นไต่สวนทวนความ แล้วมีมติออกมาว่าผิดจริง กรรมการ ปปช. พิจารณาซ้ำ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งผลให้คนพุ่งเป้าไปยังนายสรยุทธ์ ว่าจะรับผิดชอบกรณียักยอกเงิน 138 ล้านบาทนี้อย่างไร
สรยุทธ์ก็สุดยอด ใช้เวลา 6 นาทีกว่าๆ ในรายการทางช่อง 3 คลุกประเด็นหลายๆ เรื่องเข้าด้วยกัน โดยชูประเด็นที่สำคัญคือ “เพราะฉะนั้น ขอย้ำนะครับ ท่านผู้ชมนะครับ ว่า เงินจำนวน 138 ล้านเศษๆ นั้น ได้ชำระให้ อสมท ครบถ้วน จึงไม่ได้มีความเสียหายกับ อสมท. ในส่วนนี้ ในแง่ของจำนวนเงิน”
คำถาม ก.) เอาของเขามาทำไมตั้งแต่ต้น ทำไมไม่ตรงไปตรงมา เงินค่าโฆษณาที่ขายได้เกินเวลา 5 นาที ทำไมไม่นำส่ง อสมท. แล้วหักค่านายหน้าขายโฆษณาให้สุจริตเสียตั้งแต่แรก ทำไมนำส่งเมื่อเขาตรวจสอบพบและแจ้งความเอาผิด
ข.) เมื่อนำส่งเงินแล้ว ไม่มีความผิดติดตัวเลยหรือ? อุปมาเหมือนคนล้วงประเป๋าเอาเงินคนอื่นเขาไป โดยที่เจ้าทรัพย์เขาไม่รู้ตัว จนเมื่อเขาเอะใจ ตรวจสอบ รู้ตัว จึงบากหน้าเอาเงินไปคืนเขา แน่นอน...ครบตามจำนวน แต่คุณขโมยของเขามาไม่ใช่รึ?
ค.) ที่สรยุทธพยายามจะบอกว่า “เมื่อ อสมท เรียกเก็บเงินโฆษณาส่วนเกินของบริษัท และ อสมท ยืนยันว่าบริษัทต้องชำระเงินโฆษณาส่วนเกินให้กับ อสมท เมื่อได้ตรวจสอบแล้ว ผมก็ได้มีการชำระไปจนครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว แต่ขณะเดียวกัน ในส่วนที่ อสมท ได้ลงเงินโฆษณาเกินโควตาของ อสมท ในความเข้าใจของบริษัท ซึ่งมีข้อตกลงระหว่างกัน ว่าแบ่งอัตราโฆษณา 50:50 อสมท ปฏิเสธที่จะชำระให้บริษัท ซึ่งผมในนามของบริษัทไร่ส้มฯ ก็ได้ฟ้องร้อง ขอพึ่งศาลปกครอง ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง” แน่ใจหรือว่าควรใช้คำว่า “เรียกเก็บ” เขาแจ้งความเอาผิดครับ เพื่อจะเอาเงินส่วนที่ถูกยักยอกไปคืนมาเป็นของเขาตามสิทธิ ส่วนเงินที่คุณอ้างว่า ก็ถูก อสมท. ขายเกินเวลาเหมือนกัน แล้วคุณฟ้องร้องอยู่นั้น มันคนละเรื่อง จะเอามาอ้างเพื่อหวังสื่อสารว่า “อสมท. มันก็ไม่ได้ดีไปกว่าผมเลย” ก็ไม่มีผลช่วยให้คุณสุจริตขึ้นมาหรอกครับ
ง.) สรยุทธบอกด้วยว่า “ป.ป.ช.มีมติว่าบริษัทและผม ยังมีความผิด เพราะคำให้การของพนักงาน อสมท ระดับธุรการคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่า ดำเนินการตามคำแนะนำของผม ผมก็มีหน้าที่จะไปพิสูจน์กระบวนการยุติธรรมต่อไปเนี่ยนะฮะ ว่าผมไม่ได้รู้เห็น ไม่ได้ให้คำแนะนำ ไม่แม้กระทั่งจะไปรู้จักกับพนักงานคนนี้ และก็ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยว ผมก็จะไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของผม ในขั้นตอนของศาลต่อไป” นั้น
คำถามที่สำคัญที่สุด คุณไม่คิดจะหยุดทำรายการด้วยตัวเองบ้างเลยหรือ ในเมื่อคุณถูกตรวจสอบและจับได้ไล่ทันว่ามีพฤติกรรมยักยอกเงิน คุณเอาไปคืนเขา เท่ากับคุณยอมรับว่าคุณเอาเงินเขามา ส่วนประเด็นเรื่อง ขั้นตอนการเอามา จะเอามาอย่างไร รู้จักพนักงานที่คุณย้ำเหลือเกินว่าระดับธุรการคนนั้นหรอืไม่ คุณก็ไปสู้กับเขาต่อไปในศาล เพื่อทุเลาหรือเอาชนะความผิดอาญาของคุณเท่านั้นเอง
แต่ความผิดคุณมันสำเร็จแล้ว และคุณก็ยอมเอาเงินไปคืนแล้วไม่ใช่หรือ ไม่ผิดก็ต้องเก็บเงินไว้สิ แล้วสู้ความกัน แต่นี่เอาเงินไปคืน มันก็ยอมรับอยู่ในตัวอยู่แล้ว เมื่อผิดแล้ว รู้สึกผิดบาปบ้างไหม อายคนดูบ้างหรือเปล่า เท่านั้นแหละ ที่สังคมเขาเฝ้าจับตาดูอยู่ ซึ่งผมก็เชื่อว่า คนส่วนใหญ่เคลิ้มไปกับสรยุทธแล้วล่ะ ว่าคืนเงินแล้ว จบแล้ว ส่วนยายพนักงานธุรการคนนั้นฉันไม่รู้จัก ฉันจะไปสู้ แล้วฉันก็จะฟ้องเอาเงินจาก อสมท. ที่โฆษณาเกินเวลาฉันด้วยเหมือนกัน สุดยอดไหมครับ
3.พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง : เขาเป็นพี่ที่เคารพ ผมเอารูปเขามาติดในห้องทำงาน เพื่อระลึกถึงสิ่งดีๆ ที่เขาสอน มันผิดตรงไหน
จนบัดนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และตำรวจทั้งเด็กและแก่จำนวนมาก ยังตีมึน ทำเซ่อ แยกประเด็นไม่ออก ว่าการที่สังคมเขาถามว่า คุณเป็นตำรวจ บินไปพบผู้ร้าย มีหมายจับ ต้องคำพิพากษาศาลให้จำคุกแล้วหลบหนีไป มันสะท้อนว่า คุณละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ใช่ไหม


ก.) คุณรู้ที่อยู่ผู้ร้ายชื่อทักษิณ กระทั่งบินไปพบกันได้ คุณแจ้งแก่ทางการไหม ไม่ต้องอ้างว่าไม่มีอำนาจจับกุมในต่างประเทศ ไม่ต้องจับกุมก็ได้ แต่แจ้งแก่ทางการไทยไหม ว่าพบกับผู้ร้ายที่ทางการต้องการตัว
ข.) ทักษิณจะเป็นที่เคารพรักของคุณปานใดก็ตาม ตราบเท่าที่คุณยังเป็นตำรวจ กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน คุณไปพบโดยนัดหมายกันกับผู้ร้ายไม่ได้ นอกจากนี้ คุณยังภาคภูมิใจ ไม่เกรงใจสังคม เอารูปมาติดประจานตัวเองไว้ในที่ทำงาน ซึ่งก็เกิดจากภาษีของประชาชนอีกเช่นกัน มันเนเครื่องยืนยันว่า “กูไม่สน” คุณยกทักษิณไว้เหนือกฎหมาย และคุณไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย สังคมก็ต้องซักไซ้คุณ
ค.) ไม่มีใครสน ว่าคุณรักทักษิณแค่ไหน เขาแค่ต้องการให้ “ตำรวจคนหนึ่ง” ทำหน้าที่ “รักษากฎหมาย” ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องออกไป ถ้าทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกตรวจสอบ แต่พอถูกตรวจสอบ กลับปลุกม็อบลูกน้องให้ไปกดดันที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์เสียอย่างนั้น มันสะท้อนถึงความ “กร่าง” อย่างเห็นได้ชัด
4.ยงยุทธ วิชัยดิษฐ : "ไม่ตอบ..เป็นเรื่องของเรา"
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย เกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวว่า อนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อกพ.) กระทรวงมหาดไทยได้ประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ย.2555 กรณีที่ดินอัลไพน์ ที่ป.ป.ช.มีมติว่านายยงยุทธ ในครั้งที่เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ซึ่ง อกพ. มีมติกำหนดโทษให้ "ปลดออก" นายยงยุทธ กล่าวว่า "ไม่ขอตอบ.. มีเบอร์แฟกซ์หรืออีเมลไหม เดี๋ยวเราจะส่งข้อเท็จจริงให้อ่าน"
เมื่อถามว่า อกพ.มีมติให้ "ปลดออก" จะตัดสินใจอย่างไร ยงยุทธ ตอบว่า "ไม่ตอบ..เป็นเรื่องของเรา" และวางสายไปทันที
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว ป.ป.ช.มีมติด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 3 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ชี้มูลนายยงยุทธมีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งในส่วนโทษทางวินัยนั้น จะมีเพียง "ปลดออก" "ให้ออก" หรือ "ไล่ออก" เท่านั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโทษใด จะส่งผลให้นายยงยุทธ ขาดคุณสมบัติในการเป็น ส.ส.และ รมต.ทันที
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวใกล้ชิด นายยงยุทธ เปิดเผยว่า มีช่องทาง พ.ร.บ.ล้างมลทินที่สามารถช่วยนายยงยุทธได้ โดยทันทีที่ทาง อกพ.กระทรวงมีคำสั่งปลดออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะย้อนหลังไปมีผลตั้งแต่ 2545 ก็เท่ากับนายยงยุทธได้รับโทษไปแล้วส่วนหนึ่ง พ.ร.บ.ล้างมลทินก็จะสามารถช่วยได้ทันที "เคยมีแนวคำอธิบายของ ก.พ.เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว" แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ ในเนื้อหาของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน ปี 2550 ในมาตรา 5 กำหนดเกี่ยวกับเรื่องการล้างมลทินกรณีโทษทางวินัยไว้ว่า "ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัยในกรณีซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 และได้รับโทษหรือรับทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อนหรือในวันที่ พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับโดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้นๆ"
ด้าน นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน อกพ.กระทรวงมหาดไทย ซึ่งตามข่าวได้เป็นประธานที่ประชุม อกพ.เมื่อวันศุกร์ และมีมติให้ "ปลดออก" นายยงยุทธ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยบอกว่า "เราอยู่กระทรวงเดียวกัน อย่าให้พูดอะไรเลย กราบเป็นกราบ มันเป็นเรื่องข้อกฎหมาย" และตัดสายโทรศัพท์ของผู้สื่อข่าวทันที
ทั้งหมดทุกคนที่ผมยกตัวอย่างมานี้ ล้วน “ไม่รู้ร้อนรู้หนาว” ต่อความผิดและการตรวจสอบ สามารถคัดง้างประเด็นตรวจสอบแบบข้างๆ คูๆ บิดๆ เบือนๆ ได้อย่างทะนงองอาจ บางคนมีกระบวนการของพรรคพวกเข้ามาปกป้อง ช่วยเหลือเสียด้วย
ถึงได้บอกว่า หากผู้คนในสังคมไทย ยังนั่ง “กลวงๆ” อยู่ ไม่กล้าออกมาชี้ถูกชี้ผิด ให้คนเหล่านี้รู้สำนึก ได้อาย และพ้นไปจากอำนาจและประโยชน์ที่มี ประเทศไทยไม่มีวันเจริญและผาสุกได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้แน่นอน!!
ที่มา:http://www.naewna.co.../columnist/3315


#418255 "เชื่อว่า คนเสื้อแดง ทักษิณ จะเกลียดผมเข้าไส้"

โดย 55555 on 17 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:28

กรณีศาลอาญาระหว่างประเทศ ....

การกล่าวหา มาร์คและเทือก คงทำไรไม่ได้ เพราะประเทศไทยไม่ได้ลงสัตยบรรณ อันนี้ชัดเจน..มาร์คไปเรียนอังกฤษ ก็ขอวีซ่าเข้าประเทศด้วยพาสปอร์ตไทย

แต่การที่ ปชป. ไปยื่นเรื่องฆ่าตัดตอนนั้น ยังสรุปยาก....เพราะทักษิณ ได้แสดงตัวชัดในการเดินทางเข้าหลายประเทศด้วยพาสปอร์ตมอนเตรเนโกร ซี่งได้ให้สัตยบรรณรับรองเขตอำนาจแล้ว....รอดูกันต่อไป

:D


#422232 อุ๊ยลูกพรรคใครหน้าแหก กลับบ้านไม่ถูกเลยการุณพาพวกบุกกทม.

โดย kokkai on 20 กันยายน พ.ศ. 2555 - 18:16

ถ้าไม่โง่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเผาไทย

โดนตอกหน้ากลับแบบนี้ แทนที่กทม.จะเสีย

กลับเป็นรัฐบาลของมันเองเสียหน้า

ก่อนมาน่าจะสืบข้อมูลมาก่อน โง่ได้ถ้วยจริงๆ


#422207 อุ๊ยลูกพรรคใครหน้าแหก กลับบ้านไม่ถูกเลยการุณพาพวกบุกกทม.

โดย MIXIM55 on 20 กันยายน พ.ศ. 2555 - 17:50

วันที่ 20 ก.ย.2555 เมื่อเวลา 14.00 น. ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายวิชาญ มีนชัยนันท์,นายสุรชาติ เทียนทอง,นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ และนายการุณ โหสกุล ได้เดินทางมายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อยื่นหนังสือสอบถามม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ถึงความล่าช้าการจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนในกรุงเทพฯ และสอบถามถึงแผนการระบายน้ำกทม.ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ ภายหลังจากเกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่

โดยนายวิชาญ กล่าวว่า ขอมายื่นหนังสือทวงถามการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมตามหลักเกณฑ์ 20,000 บาท ถึงแม้ที่ผ่านมากทม.จะทำหนังสือของบประมาณจากรัฐบาลแล้ว แต่ประชาชนในหลายเขต ไม่ได้รับเงินเยียวยาดังกล่าว ส่วนปัญหาการระบายน้ำโดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออก มีความเดือดร้อนจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทั้งๆที่ยังไม่มีน้ำเหนือไหลเข้ามา แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังหลายชั่วโมง จึงต้องการให้กทม. อธิบายว่างบประมาณที่ได้รับจากรัฐบาล 1,900 ล้านบาท ได้ดำเนินการแก้ปัญหาในพื้นที่เรียบร้อยหรือไม่ นอกจากนี้ยังพบว่าคลองแสนแสบยังไม่ได้มีการขุดลอกคลองด้วยกัน จึงขอให้ผู้ว่าฯกทม. ดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วย

ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยา จำนวน 20,000 บาทนั้น ที่ผ่านมากทม.เคยทำหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อของบประมาณจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนจำนวน 3 แสนคน โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณมาให้ 1.9 พันล้านบาท ซึ่งกทม.ได้ดำเนินการจ่ายให้ประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นรัฐบาลก็เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ตกสำรวจและขอยื่นอุทธรณ์ขอรับเงิน เยียวยารอบใหม่ภายในวันที่ 10 ส.ค. ซึ่งก็มีประชาชนกว่า 130,000 คน มายื่นอุทธรณ์ กทม.จึงประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม อีก 1.1 พันล้านบาทเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอรัฐบาลพิจารณา อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้ประสานให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลกำลังเร่งพิจารณา ดังนั้นหากกทม. ได้รับเงินจัดสรรแล้วจะนำมาจ่ายให้กับประชาชนทันที


http://breakingnews....p?newsid=650809

หลังจากเมื่อวันก่อนพาพวกไปปิดถนน ดอนเมือง วันนี้พาพวกไปบุกกรุงเทพ แต่หน้าแหกกับมาเป็นแถว สุขุมพันธุ์ บอกก็ รัฐบาลไม่อนุมัติมาจะจ่ายยังไง 5555+เล่นปาหรี่หลอกปชช.แท้ๆในเมื่อพวกมันเองก็เป็นรัฐบาลอยู่แล้วน่าจะรู้ปัญหาดี กลัวคะแนนเสียงเขตดอนเมืองตกละซิถึงเล่นทำแต้มแบบโง่ๆๆจัง คุณเก่ง


#422635 ////////// ไม่ไหวแล้วโว้ยยยย ตูไม่อยู่แล้วกรุงเทพ น้ำท่วมมันทุกวัน หนีไปตายเอ...

โดย puggi on 21 กันยายน พ.ศ. 2555 - 07:49

เงินเดือนหมื่นห้า แค่ยื่นภาษีเงินได้ ยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษี ไอ้ ค ว า ย


#416813 Update...สถานการณ์น้ำ 2555

โดย overtherainbow on 16 กันยายน พ.ศ. 2555 - 14:52

ทำไงดีคนจะรู้ว่าการเอาน้ำมาทางเจ้าพระยา ไม่ไปบางปะกงและท่าจีน

เค้าทำอะไร

คิดอะไรอยุ่


#415012 กรณี 911 เพื่อนสมาชิกเห็นอย่างไร

โดย amplepoor on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 15:42

งง ทำไมของขึ้น

ไอ้พวกที่ออกมาโจมตีอย่างปญอ. เราก็อ่านขำๆ
แต่มันมีพวกที่เป็นนักวิชาการ เขาเห็นว่ารัฐบาลหลอกประชาชน
หรือพูดอย่างสุภาพ เขาก็บอกว่า เขาต้องการความจริง

พวกนี้รวมตัวกันเข้มแข็งและไม่เคยเอาเรื่องมั่วมาใช้
เพราะเป็นสมาคมวิชาชีพ อาจารย์และพวกเคลื่อนไหวภาคประชาชน

จุดที่เขาต้องการคำอธิบายมากที่สุดก็คือ กรณีตึก 7 ที่ไม่โดนอะไรเลย ทำไมถึงยุบตัว
และเป็นการยุบตัวที่งดงามเหมือนการล้มตึกที่ทำกันโดยมืออาชีพ

ทำไมเขาถึงต้องการความจริง
ตอบว่าเพราะเขาเป็นสถาปนิกและวิศวะ พวกเขามีอาชีพสร้างตึกให้แข็งแรง แต่กรณี WTC ทำให้อาชีพเสียหาย เพราะตึกที่สร้างด้วยมาตรฐานสูงสุด ไม่สามารถทนการชนของเครื่องบินได้ ทั้งๆ ที่เป็นอาคารระฟ้าที่ใช้โครงเหล็ก ซึ่งถือว่าทนต่อเหตุไฟไหม้ที่สุด และไม่เคยถล่มเพราะไฟไหม้มาก่อนเลย

ตึกสูงในประเทศเขา ล้วนแต่ใช้โครงสร้างแบบนี้ทั้งนั้น คำอธิบายว่าเพราะความร้อนรุนแรงนั้นฟังไม่ขึ้น ที่บอกว่าน้ำมันเป็นร้อยตันลุกไหม้ก็ไม่จริง เพราะส่วนมากกลายเป็นลูกไฟในวินาทีแรกๆ ที่เกิดระเบิด สำหรับวัสดุในอาคารก็มีกฏหมายเรื่องการทนไฟบังคับอยู่ เช่นวอลเปเปอร์ต้องชื่อศิริโชค...เอ้ย ไม่ใช่ ต้องไม่ติดไฟ อิอิ และมันมี 7 ตึกในกลุ่มอาคาร มีไฟไหม้แค่ 2 อีก 5 ยุบตามเพราะอะไร คำถามพวกนี้ ไม่เคยมีคำตอบที่น่าเชื่อ...ขอย้ำว่าสำหรับพวกเขานะครับ เราอยู่เมืองไทยจะพอใจคำอธิบายก็เป็นเรื่องของเรา แต่พวกเขาที่อยู่กับปัญหา ต่างไม่พอใจทั้งนั้น

ผมขอให้คิดเปรียบเทียบว่า พวกเราเคยพอใจกับคำอธิบายของเจ้าหน้าที่และเสื้อแดงว่าน้องโบว์พกระเบิดจนตัวเองตายใหมครับ

รัฐโกหกพลเมืองก็ต้องตรวจสอบ
มันคนละเรื่องกับพวกบ้าทฤษฎีลวงโลกนะครับ ที่จริงมันเป็นตัวอย่างของการสู้กับอำนาจรัฐด้วยพลังราษฎรของแท้ทีเดียว


#413224 กรณี 911 เพื่อนสมาชิกเห็นอย่างไร

โดย ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 12 กันยายน พ.ศ. 2555 - 22:29

แม้ผมจะเกลียดอเมริกามากขนาดไหน แต่ผมไม่เชื่อว่าอเมริกันที่เป็นชาติซึ่งรักชาติสูงมากชาติหนึ่งในโลกจะกล้าฆ่าประชาชนและเจ้าหน้าที่ของตัวเองได้ลงคอ
ถ้าหากเคร่องบินไปชนตึกในประเทศอิรักเกิดจากฝีมืออเมริกาละผมเชื่อครับ แต่ให้เชื่อว่ารัฐบาลอเมริกันลงมือสังหารคนชาติเดียวกัน ผมไม่เชื่อเด็ดขาด

นี่คือสาเหตุว่าทำไมผมเกลียดทักษิณและตระกูลชินวัตรอย่างที่สุด
ตรงที่...มันสามารถใช้เงินมาทำร้ายประเทศชาติให้พังพินาศ และสังหารผลาญชีวิตประชาชนชาติเดียวกับมันได้ลงคอ

เทียบความชั่วของสหรัฐกับทักษิณแล้ว สหรัฐแพ้ตระกูลชินวัตรไม่เห็นฝุ่นเลยครับ


#412135 กรณี 911 เพื่อนสมาชิกเห็นอย่างไร

โดย RiDKuN_user on 12 กันยายน พ.ศ. 2555 - 09:45

มาจาก palungjit.com รึเปล่าครับ -_-


#415390 หิ้วเธอไปทิ้งซะ อย่าให้รกหูรกตาท่านนายกฯ

โดย juemmy on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:56






จากเพจของTukta Pearce ได้แบ่งปัน รูปภาพ ของ Man Springker's Fanpage
เธอ นิ่ง... เธอไม่โต้แย้ง ใคร เพราะเธอรู้ว่า จะมีคนคอยกำจัด ปัดกวาดสิ่งที่เธอทำสกปรก ... ทิ้งไว้ ไปทิ้งให้เธอ.....นี่แค่เบาะๆ สื่อทีวี รูดซิปปากแน่น ไหนจะเรื่องมีชู้อีก โธ่เอ๊ย.... อีสันขวาน..ยิ่งลักษณ์


Posted Image


เวลา 09.40 น. วันที่ 14 กันยายน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะออกเดินทางไป ตรวจสอบโรงสีข้าว ส.ธนวัฒน์พืชผล โดยมีชาวนาสาธิต ต้องแต่จอดรถบรรทุกข้าวเปลือก ขับเข้าไปตราชั่งน้ำหนักรถบรรทุกข้าวเปลือก ตามขั้นตอนรับจำนำข้าวเปลือก ยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำ พร้อมมีหนังสือรับรองเกษตรกร สุ่มเก็บตัวอย่างข้าวเปลือก ตรวจสอบความชื้นและสิ่งเจือปนของข้าวเปลือก จัดทาเอกสารใบรับฝาก กระทั่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมอบใบประทวนสินค้าให้แก่เกษตรกร อ.บางระกำ จ.พิษณุโลกจำนวน 10 ราย ซึ่งครั้งนี้ มีชาวนาบางระกำ 1 ใน 10 รายขายข้าวได้สูงสุด 12,600 บาทต่อตัน
แต่ระหว่างที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวกับ ชาวบางระกำนั่งเต็นท์ต้อนรับกว่า 500 คน ถึงข้อดีของการรับจำนาข้าว ทันใดนั้น นางปราณี พูนสวัสดิ์ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 106/1 หมู่ 1 ต.ปลักแรต อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ลุกขึ้นถามนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเลี้ยงเป็ดน้ำท่วมเสียหายไป 2 ล้านบาท แต่กลับถูก อบต.บึงระมาณ อ.บางระกำ เรียกเก็บภาษี ถึง 8 หมื่นบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเสียภาษีแค่ 1.8 หมื่นบาท ถามว่า ทำไมเก็บภาษีแพงนัก อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือเกี่ยวกับการขูดรีดภาษีที่สูงเกินจริงด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกฯต้องรีบบุกไปกันตัวออกจากบริเวณงานทันที
จากนั้น นายบุญชู ศรีบัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ปลักแรต อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รีบคว้าไมค์ กล่าวชื่นชมว่าโครงการรับจำนำ กับประกันรายได้ ตนมองว่า การรับจำนำข้าวดีกว่ามาก ผลประโยชน์เกินขึ้นกับประชาชน แม้ว่าข้าวจะขายไม่ได้ถึง 15,000 บาท/ตัน แต่ส่วนใหญ่จะได้เกินตันละหมื่นกว่าบาท ซึ่งตนก็พอใจแล้ว หลังจากนั้น นายกเทศมนตรีบึงระมาณ และนายกเทศมนตรีปลักแรต พร้อมนายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกพร้อม น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ โฆษกรัฐบาลต่างรีบมาสอบถามสาเหตุถึงนายปราณี เสียภาษีอะไรถึงแปดหมื่นบาท ซึ่ง น.ส.ศันนีย์ นาคพงษ์ บอกเพียงว่า เป็นเรื่องของท้องถิ่น ไม่ใช่รัฐบาล
นางปราณี เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงเป็ดจำนวน 5 หมื่นตัว แต่ปีที่ผ่านมา น้ำท่วม เป็ดล้มตาย เสียหายไปร่วม 2 ล้านบาท แต่สงสัยว่า ทำไม ทางเทศบาลปรักแรตถึงเรียกเก็บภาษี 83,000 บาท ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาตนนำเงินไปจ่ายแล้ว 3 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือให้ทางเทศบาลปรักแรตไปฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินภาษีจากตนเอง เพราะชาวบ้านอย่างเราไม่มีเงินมากขนาดนั้น ยิ่งหากเทียบกับปีที่ผ่านมา มีการเรียกเก็บภาษีเพียงแค่ 1.8 หมื่นบาท สงสัยว่า ทำไมเก็บภาษีแพงนัก ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ตนมีใบแจ้งหนี้ทวงค่าภาษีจากท้องถิ่น 8 .3หมื่นบาทจริง ซึ่งที่มาก็เพียงแต่อยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือ เพื่อความเป็นธรรมเท่านั้น

ที่มาhttp://www.naewna.com/politic/22194