slow แบบ HD
- ประชาราบ and Francis Drake like this
GODarmy hasn't added any friends yet.
Posted by GODarmy on 18 February 2014 - 21:41
Posted by GODarmy on 5 February 2014 - 21:50
Posted by GODarmy on 5 February 2014 - 14:51
จำได้ตอน ปชป ยุบสภา
คุณอภิสิทธิ์ ก็แถลงเรื่องการเงินออกทีวีนะครับ
รัฐบาลปู แถ แถลงไหมผมไมแน่ใจ
Posted by GODarmy on 21 January 2014 - 10:27
http://www.manager.c...D=9570000007595
3 คนร้ายขับเก๋ง ยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม กปปส.อนุสาวรีย์ชัยฯ กลางดึก 3 นัด ก่อนพยายามขับรถแหกด่านหลบหนี แต่ติดแนวผู้ชุมนุม จึงทิ้งรถวิ่งหนีใต้ทางด่วนพหลโยธิน การ์ดควบคุมตัวไว้ได้ 1 เป็นหญิง
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันนี้ (21 ม.ค.) ร.ต.ท.พีระกิตต์ หาญเวช พงส.สน.พญาไท รับแจ้งมีเหตุยิงด้วยอาวุธปืนเข้าใส่ที่ชุมนุม กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บริเวณถนนพหลโยธินขาออกบริเวณใกล้กับทางด่วนพหลโยธิน แขวงสามเสนนอก เขตพญาไท จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รอง ผบก.น.1
ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้วินรถตู้ห่างจากจุดชุมนุมประมาณ 300 เมตรพบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน กฉ 5906 ตรัง สภาพรถมีรอยกระสุนถูกยิงที่ด้านข้างรถเหนือยางขวา 1 นัด และที่ทะเบียนหลังอีก 1 นัด โดยการ์ด กปปส.สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือน.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 26 ปี
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีพยานเห็นรถคันดังกล่าวขับมาจากถนนพญาไท และขับวนอนุสาวรีย์ฯ 2 รอบ โดยภายในนั่งกันมาทั้งหมด 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 ก่อนจะยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 3 นัด ก่อนพยายามขับหนีไปทางถนนพหลโยธิน แต่ติดด่านที่ผู้ชุมนุมตั้งไว้ จึงจอดรถทิ้งไว้โดยชายทั้ง 2 คนได้วิ่งหนีหายเข้าไปบริเวณใต้ทางด่วนพหลโยธิน โดยรูปพรรณของชายผู้ก่อเหตุรายแรกรูปร่างอ้วน สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวขี้ม้าทับเสื้อยืดสีฟ้า สวมกางเกงขายาวสีเทา ซึ่งทางการ์ดยืนยันว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงปืนครั้งนี้ ส่วนอีกรายเป็นชายรูปร่างผอม ไม่ทราบลักษณะการแต่งกาย ด้าน น.ส.อรวรรณ พยายามวิ่งไปฝั่งตรงข้าม แต่พบกับการ์ดที่เฝ้าอยู่พอดีจึงถูกควบคุมตัวไว้ได้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจจะเป็นผู้ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ ซึ่งจะเร่งสอบปากคำและหาหลักฐานเพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
----------------------------------------------
ข่าวเก่า
http://mgr.manager.c...D=9560000066959
กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรีปิดเมืองกลางดึกล่า 2 หนุ่มสาวขับรถโชว์ปืนหราหน้าผับ และข่มขู่นักท่องเที่ยว หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรอกซอกซอย สุดท้ายจนมุม ตรวจค้นพบปืนเถื่อนพร้อมเครื่องกระสุนเพียบ เงินหมุนเวียนในบัญชีนับแสน สารภาพรับจำนำปืน และปล่อยเงินกู้ให้นักพนันบ่อนเมืองสุพรรณบุรี
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (4 มิ.ย.) พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่เข้าเวรทุกสายช่วยกันสกัดจับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒษ 1973 กทม. หลังจากมีเรื่องชกต่อยกันที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่งแล้วได้ขับรถหลบหนีไป โดยหญิงสาวที่อยู่ภายในรถใช้อาวุธปืนออกมาโชว์เพื่อข่มขู่นักท่องเที่ยวบริเวณหน้าผับ
หลังจากนั้น พ.ต.อ.พงษกร จึงได้วิทยุสั่งการด้วยตนเองโดยให้ พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.สุชาย เทศัชบุตร สวป.สภ.เมืองกาญจนุรี พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจกระจายกำลังออกติดตามจับกุม และปิดล้อมถนนสายหลักและสายรอง รวมทั้งซอยต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี โดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย ร.ต.ท.กฤติกร อุณหกานต์ ร.ต.ต.เสถียร กุลพาณิช ร.ต.ต.เอกสุวรรณ เกาะแก้ว ด.ต.สุชาติ เรณู ด.ต.นิรันดร คำฟอง ด.ต.เอกราช เรืองฤทธิ์ ด.ต.ศุภกร เนตตะสูต ด.ต.สยามรัฐ แก้มทิมบุตร ด.ต.รัชศักดิ์ สารดี ด.ต.นครชัย ประเสริฐสุข ด.ต.กิตติศักดิ์ สุขสำราญ ด.ต.บุญเลิศ ทรงเหม็น ด.ต.สุวัฒน์ พัฒนมาศ และ ด.ต.ปราศัย ปฐมเพทาย ขณะเจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่าอยู่นั้นปรากฏว่า ผู้ต้องหาได้ปิดไฟรถยนต์แล้ววิ่งฝ่าความมืดเพื่อหลบหนี เมื่อมาถึงซอยหัวนา ต.ปากแพรก ซึ่งเป็นซอยขนาดเล็ก ผู้ต้องหาเป็นหญิงได้โยนอาวุธปืนพกสั้นทิ้งข้างทาง แต่เจ้าหน้าที่ติดตามเห็นเสียก่อน และเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
การติดตามไล่ล่าในครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง โดยในจุดที่ พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป. นำกำลังไปสกัดบริเวณท้ายซอยหัวนา ที่จะมุ่งหน้าออกถนนสายบายพาส โดยใช้รถยนต์สายตรวจปิดกั้นปากซอยเอาไว้ ทำให้ผู้ต้องหาไม่สามารถขับรถมุ่งหน้าขึ้นบนถนนสายบายพาสได้ แต่ก็พยายามขับรถถอยหลังหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามมาถึงพอดี จึงสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่เป็นชายเอาไว้ได้ 1 ราย ส่วนผู้ต้องหาเป็นหญิง เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ที่บริเวณโค้งแก้มลิง ถนนพัฒนาการ เนื่องจากผู้ต้องหาชายได้จอดรถ และให้ลงเดินเท้าหลบหนี จากนั้นจึงคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมทั้งตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย
ทราบชื่อคนขับคือนายอดิศร หรือเอ้ จันทบูรณ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/5 หมู่ 5 ต.เขาสามสิบหาบ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี สภาพใบหน้าบริเวณขมับขวาแตกมีเลือดไหลอาบทั่วใบหน้า ซึ่งเป็นบาดแผลจากการชกต่อยกันที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ยี่ห้อวอลเทอร์ ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 3 นัด และ น.ส.อรวรรณ จาบกัน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/6 หมู่ 4 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี แฟนสาว
จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายสีดำ พบอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ยี่ห้อ เบาเซอร์ ขนาด 9 มม. ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 5 นัด อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ยี่ห้อโคลท์ ขนาด .38 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 มม. จำนวน 21 นัด
สำหรับอาวุธปืนชนิดดังกล่าวเป็นกระบอกที่ผู้ต้องหาโยนทิ้งข้างทาง นอกจากนี้ ภายในรถยนต์ยังพบอุปกรณ์เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ กล้องถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่ง มียอดเงินหมุนเวียนในการโอนเข้าออกมากกว่า 1 แสนบาทต่อครั้ง และยังพบบัญชีรายชื่อลูกค้าที่กู้เงินนอกระบบเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังพบถุงพลาสติกใสคล้ายถุงบรรจุยาไอซ์ จำนวน 2 ถุง ภายในยังมีเศษของยาไอซ์อยู่เล็กน้อย และหลอดที่ใช้สำหรับเสพยาไอซ์ 1 อัน
เบื้องต้นนายอดิศร รับสารภาพว่า ได้เสพยาไอซ์จริง ส่วนอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก มีนักพนันที่บ่อนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี นำมาจำนำเอาไว้ สำหรับบัญชีรายชื่อที่พบเป็นรายชื่อลูกหนี้ที่บ่อนพนันเดียวกันมากู้ยืมเพื่อนำเงินไปเล่น และรับสารภาพอีกว่า เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย ในท้องที่ สภ.ท่ามะกา ศาลตัดสินจำคุก 7 ปี และพ้นโทษมาได้ประมาณ 5 ปี ส่วน น.ส.อรวรรณ เป็นภรรยา อดีตเคยทำงานเป็นพนักงานที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง
ส่วนสาเหตุที่หลบหนีเนื่องจากตนกับภรรยาได้ไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณถนนเลียบริมแม่น้ำ และได้เกิดมีเรื่องชกต่อยกับนักท่องเที่ยวที่อยู่ภายใน จนได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ขณะเกิดเหตุชุลมุนตนและภรรยาจึงได้วิ่งออกมาที่รถแล้วขับหลบหนีออกมา แต่ไม่ทราบว่าภรรยาได้คว้าอาวุธออกมาขู่ใครหรือไม่ เนื่องจากไม่ทันสังเกต อีกทั้งอาวุธปืนที่มีไม่ได้หวังจะเอามาก่อเหตุร้ายกับใคร แต่จากการสอบถามภรรยาก็ยืนยันว่าไม่ได้ถืออาวุธปืนไปข่มขู่ใครตามที่ตำรวจได้รับแจ้ง
ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ กล่าวว่า ถึงแม้ผู้ต้องหาทั้งสองจะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาปืนไปขู่ใครก็ตาม แต่หลักฐานที่ค้นพบมีทั้งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ และซองเปล่าที่ใช้สำหรับบรรจุยาไอซ์ และภายในซองยังมียาไอซ์เหลืออยู่ และนายอดิศร ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยาไอซ์จริง
ส่วน น.ส.อรวรรณ ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยาไอซ์เข้าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเพราะมีอาการเหมือนคนเสพยา จึงให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจปัสสาวะ โดยครั้งแรกผู้ต้องหาไม่ได้นำปัสสาวะมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจ แต่นำน้ำเปล่าใส่ขวดมาให้แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ จึงให้ น.ส.อรวรรณ นำปัสสาวะมาตรวจอีกครั้งหนึ่งซึ่งปรากฏว่าพบเป็นสีม่วง จึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน และรับว่าเสพยาไอซ์เข้าไปจริง โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลพหลฯ เพื่อให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง
เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาบุคคลทั้งสองร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณในยามวิกาลโดยผิดกฎหมาย และไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) และหลบหนีการจับกุมของเข้าหน้าที่ ส่วนอาวุธปืนที่พบจะนำไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ว่าเคยนำไปก่อเหตุร้ายที่ใดมาก่อนหรือไม่ รวมทั้งจะถูกดำเนินคดีในข้อหาปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดอีกด้วย
รูปใน ข่าวตอนโดนจับที่กาญ Posttoday ชัดโคตรๆ
Posted by GODarmy on 19 January 2014 - 20:20
เค้าบอกว่าเป็นคนละคนนะ
ที่มา
https://www.facebook...54655537&type=1
Posted by GODarmy on 28 December 2013 - 15:44
ฝากรูปนี้ไปแปะในลากดำนาหน่อยครับ
พวกมันไล่ลบจนหมดทุก Sever แล้ว
ฝากไว้ที่นิคงไม่โดนลบนะ อิอิ
Posted by GODarmy on 30 November 2013 - 23:41
Posted by GODarmy on 22 July 2013 - 18:57
Posted by GODarmy on 17 July 2013 - 20:12
Posted by GODarmy on 9 July 2013 - 20:16
Posted by GODarmy on 2 January 2013 - 21:28
Posted by GODarmy on 24 November 2012 - 22:54
Posted by GODarmy on 24 November 2012 - 22:45
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net