น้อยๆ กระจายๆแบบนี้แหละดี ยิ่งกระจายมากๆโดยไม่มีผู้นำเลยผมว่ายิ่งดีใหญ่ เพราะมันบอกความรู้สึกของคนในหลากหลายอาชีพและฐานะได้
- อู๋ ฮานามิ, แม่รำพึง and ดอกปีบ like this
Lucy Van Pelt hasn't added any friends yet.
โดย Lucy Van Pelt on 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 23:53
น้อยๆ กระจายๆแบบนี้แหละดี ยิ่งกระจายมากๆโดยไม่มีผู้นำเลยผมว่ายิ่งดีใหญ่ เพราะมันบอกความรู้สึกของคนในหลากหลายอาชีพและฐานะได้
โดย Lucy Van Pelt on 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:46
เพิ่งดูข่าวข้นช่อง Nation โอยยย ไม่มีปัญญาตอบนี่หว่า
ทำบัญชีแบบไหนว๊ะ ไม่รู้ว่าณ.ตอนนั้นขาดทุนกำไรเท่าไหร่
ต้องขอชมนักข่าวว่าถามได้ตรงประเด็นมาก
โดย Lucy Van Pelt on 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 21:37
ผมไม่ได้ดูเทิดเทิงอยู่แล้ว พอเข้าใจว่าเค้าต้องพูดไปตามน้ำครับ เป็นการแสดงอย่างนึง
แต่พูดอย่างงั้นก็ต้องรับผิดชอบกับคำพูดไป
โดย Lucy Van Pelt on 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:12
ผมเพิ่งได้อ่านกระทู้นี้ ยินดีกับคุณ Tony ที่ได้จักรยานเป็นของตัวเอง ผมก็อยากขี่นะครับ แต่จริงๆชอบวิ่งมากกว่า
ช่วงพักร้อนเมื่อเดือนที่แล้ว เห็นคนขี่จักรยานบนวิภาวดีบ่อยๆทั้งกลางวันและกลางคืน เลยรู้สึกว่ามีคนขี่กันพอสมควรแล้ว
เลยจะ share สิ่งที่พบที่อเมริกาบ้าง ผมอยู่ในบริเวณ Bay Area ทางตอนเหนือของ California ที่นี่ถ้าไม่ใช่ทางด่วน ถนนจะมีเลนจักรยานเสมอ คนขี่จักรยานเป็นเรื่องธรรมดา แต่อีกด้านนึงที่ผมรู้มาจากเพื่อนผมก็คือในเมืองที่มีคน(รถ)มากๆอย่าง San Francisco จะมีอุบัติเหตุของจักรยานเกือบทุกวัน เพียงแต่ไม่ออกข่าวเท่านั้น ในห้อง ICU ของโรงพยาบาลนี่ถ้าไปนั่งในนั้นเต็มวัน จะต้องเจอเรื่องเกี่ยวกับจักรยานเสมอ แต่ถ้าไม่ใช่เมืองที่มีการจราจรหนาแน่นมากก็ไม่ค่อยมี ซึ่งผมคิดว่าไม่แปลก
สิ่งที่แตกต่างกันแบบเห็นๆของผู้ขับขี่ในอเมริกากับเมืองไทยคือ ที่อเมริกา คนเป็นใหญ่ ที่เมืองไทย รถเป็นใหญ่ ผมเคยขับรถที่ทางแคบๆ พอดีมีคนเดินอยู่ด้วย ผมก็ขับช้าๆผ่านไป แต่ใกล้กับคนเดินพอสมควร ปรากฏว่าเจอคนเดินถนนตำหนิว่ารอหน่อยไม่ได้เหรอ? คนกำลังเดิน เลยนึกว่าถ้าอยู่เมืองไทยนี่ คนขับรถคงด่าคนเดินว่าไม่เห็นรถหรือไงว๊ะ ดังนั้น ด้วยทัศนคติของคนขับรถในเมืองไทยยังเป็นแบบนี้อยู่ คงต้องระวังตัวมากๆถ้าจะใช้พื้นที่จราจรร่วมกับคนขับรถยนต์
โดย Lucy Van Pelt on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 22:57
โดย Lucy Van Pelt on 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 01:27
จาก Yahoo.com ครับ
http://finance.yahoo...-091917915.html
โดย Lucy Van Pelt on 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 08:45
ผมว่าคนที่เสียความมั่นใจเองอาจจะเป็นคุณผู้หญิงเองถ้าเจ้าตัวไม่ดูแล ส่วนผู้ชายนี่ก็คงจะหลบสายตาไป ไอ้จะตะลึงนี่คงเป็นอย่าหลังที่ท่าน SPDZ วาดมากกว่า
ที่อเมริกาก็มีโฆษณาขี้เต่าเนียนเหมือนกันนะครับ จำไม่ได้ว่าอะไร น่าจะ Dove มั๊ง นานๆจะเจอโฆษณานี้ซักที
โดย Lucy Van Pelt on 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:38
เมื่อก่อนจักรภพเคยชมสรยุทธ์นะครับ เมื่อ 4-5 ปีก่อนที่ยังจัดรายการกับพิชัย วาศนาส่ง (ผมดูรายการนี้บ่อย) ประมาณว่าสรยุทธ์เป็นนักเล่าข่าวที่จับประเด็นข่าวได้ดี
จริงๆ 4-5 ย่อหน้าแรกผมเห็นด้วยนะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะคนดูข่าวเยอะๆนี่ก็รู้อยู่แล้วว่าช่อง 3 เป็นไง
ย่อหน้าหลังๆนี่เขียนสนองอารมณ์ตัวเองเห็นๆ
โดย Lucy Van Pelt on 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 06:50
ตอนนั้นผมจำได้ว่าช่วงหลัง 19 กย. หมวดเจี๊ยบนี่ทำผิดวินัยหลายอย่างตอนที่ไปสัมภาษณ์ทักษิน แต่ตอนนั้นกลับไม่ถูกให้ออกจากราชการหรือสั่งย้าย ไม่รู้ว่าทำไม? แล้วเรื่องก็เงียบหายไปจนกระทั่งมาได้ดิบได้ดีเอาตอนพลังประชาชน/เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล
โดย Lucy Van Pelt on 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 03:10
ภาษาอังกฤษนี่ต้องใจรักจ้าาา ผมเรียนมาสายวิทยาศาสตร์ แต่เผอิญชอบภาษาอังกฤษ เลยโชคดีหน่อย ช่วงจบมาแรกๆอ่านกับเขียนทำได้ไม่ลำบากเท่าไหร่ ฟังพอไหว พูดได้บ้างไม่ได้บ้าง จนกระทั่งมาทำงานต่างประเทศ แรกๆก็แย่เหมือนกัน อาศัยดูทีวีที่มี close caption ซึ่งช่วยได้เยอะ เพราะได้ฟังและอ่านในเวลาเดียวกัน รู้ตัวอีกทีว่าฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องก็ตอนขับรถแล้วเปิดเพลงฟัง ฟังไปเรื่อยๆมาพบว่า เอ๊ะ เรารู้เรื่องสิ่งที่เพลงมันร้องออกมาหมดเลยนี่หว่า ตอนนั้นดีใจมาก
โดย Lucy Van Pelt on 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:29
จากประสบการณ์ของผมที่สัมภาษณ์เด็กเข้างานมาน่ะครับ ถ้าเป็นพวกจบใหม่ๆ ภาษาไทยที่พอสื่อสารได้ก็ประมาณห้าในสิบ คือพูดจารู้เรื่อง รู้ว่าถามอะไร ตอบแล้วฟังเข้าใจ ส่วนภาษาอังกฤษนี่ สองสามคนในสิบคน ที่พูด/ฟังรู้เรื่อง
ถ้าเป็นพวกที่มีประสบการณ์ประมาณ 4-5 ปี ส่วนมากจะพูดภาษาไทยรู้เรื่อง ส่วนภาษาอังกฤษก็ห้าในสิบที่พูด/ฟังรู้เรื่อง
ผมคิดว่าภาษามาเลย์อาจได้เป็นภาษาที่สองของอาเซี่ยน เพราะคนอินโดนีเซียก็ใช้ภาษาเดียวกัน จำนวนคนสองประเทศนี้รวมกันเยอะกว่าประเทศไทยมาก อีกอย่างนึงคือเค้าใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ และโครงสร้างของภาษาก็คล้ายๆกับภาษาอื่นๆในภูมิภาคนี้ด้วย
ส่วนตัวผมแพ้ทางอินเดียครับ ถ้าเวลาเถียงกับพวกอินเดีย ถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเองถูกจริงๆจะไม่ค่อยต่อล้อต่อเถียงเท่าไหร่ เพราะเวลาเถียงกันนี่คนอินเดียพุดบรื๋อๆ ฟังไม่ทัน
โดย Lucy Van Pelt on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:43
โดย Lucy Van Pelt on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:13
อันนี้จากที่ผมอ่านมานี่บอกว่า คำพูดนี้ "Let them eat cake!" (Qu'ils mangent de la brioche.) ตัว Marie Antoinette พูดตอนที่ยังเป็นเด็กอยู่ครับ ซึ่งยังไม่ได้อภิเษก จึงกลายเป็นเรื่องล้อเลียนกันมากกว่า
แต่คำพูดอะไรประเภทนี้ที่ได้ยินมาไม่นานมานี่คือคำพูดของสมัคร สุนทรเวช ตอนเป็นนายกและมีนักข่าวถามว่าหมูแพงแล้วควรทำยังไง สมัครตอบว่า หมูแพงก็ไปกินไก่สิ แต่ไม่แน่ใจว่ามีพูดต่ออีกหรือเปล่าว่าถ้าไก่แพงก็ไปกินเห็ดแทน ช่างสื่อถึงสิ่งที่อยู่ในสมองของคนพูดจริงๆ
โดย Lucy Van Pelt on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:01
นี่คือสภากาแฟ เพราะงั้นคุยกันเรื่องกาแฟก็ไม่น่าจะถือว่านอกเรื่องนะเนี่ย
โดย Lucy Van Pelt on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 23:23
ผมเลิกหมดแล้วครับ บุหรี เหล้า หมอสั่งห้าม อีกอย่างนึงคือต้องซ้อมวิ่งเพื่อลงวิ่งมาราธอน ของพวกนั้นมันไปไม่ได้กับการซ้อมเลย ยกเว้นไวน์อาจจะดื่มบ้างกับอาหาร โดยเฉพาะไวน์ฟรีจะอร่อยเป็นพิเศษ
การแฟนี่มาดื่มเอาตอนที่ย้าย office แล้วโรงอาหารที่โรงงานไม่ค่อยจะมีอะไรให้กิน (โรงเก่ามีผลไม้ถาด แก้หิวดี) ตอนนั้นน้ำหนักขึ้นพรวดๆๆ เพราะเล่นกาแฟ กับชาเขียวขวด เป็นประจำ พอต้องมาทำงานที่ site ของลูกค้าที่อเมริกาก็เลิก ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว น้ำหนักลดไปหลายกิโล เข็มขัดจากรูสุดท้ายย้ายเข้ามาอีก 3 รู ดีใจมากๆ
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net