Jump to content


ไร้สีไร้กลิ่น

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 พฤศจิกายน 2553
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 07:24
-----

#1164757 ทางออกประเทศไทย ทำได้จริงไหม

โดย bird on 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:41

มาไขข้อข้องใจ...และ ความเป็นไปได้ตามที่ได้แสดงความเห็นโดยส่วนตัวไว้ข้างต้นค่ะ

 

หลังจากนำข้อข้องใจ ที่ว่า..ประธานวุฒิ จะสามารถปฎิบัติหน้าที่แทนนายกได้หรือไม่

 

bird นำข้อข้องใจดังกล่าว กับท่านผู้อาวุโสก็ได้รับคำตอบแบบนิ่ม ๆ แกมดุ มาเล็ก ๆ 

 

" เรา (bird)  มัวแต่คิดว่า วุฒิสภา เป็น 1 ในอำนาจตามระบอบประชาธิปไตย

ที่เหลืออยู่ อีกทั้ง..บรรดาสมาชิกวุฒิสภา ล้วนมาจากการเลือกตั้ง และการสรรหา

ตาม รธน ก็เลยคิดไปว่า...ประธานวุฒิ น่าจะเหมาะสมที่จะทำหน้าที่แทนนายกได้

 

ประธานวุฒิ อาจจะเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง 

 

แต่เรา (bird) ลืมไปหรือเปล่า รธน ได้เปิดช่องไว้หรือไม่

 

รธน. 2550 มาตรา 116 บัญญัติไว้ว่า 

 

สมาชิกวุฒิสภา จะเป็นรัฐมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมื่องอื่น หรือ

ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ มิได้

 

บุคคลผู้เคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงแล้ว

ยังไม่เกิน 2 ปี จะเป็นรัฐมนตรีหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิได้

 

จึงพอจะสรุปได้ว่า..

 

ประธานวุฒิ ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่แทน หรือ รักษาการณ์นายกเป็นการชั่วคราว ได้

ถ้าการทำหน้าที่แทน หรือ การรักษาการณ์เป็นการชั่วคราว คือ

 

การดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

จึงนำมาแจ้งให้ท่านสมาชิกได้รับทราบ และ

 

ขออภัยทุกท่าน ในกรณีที่แสดงความเห็นส่วนตัวไว้ โดยมิได้หาข้อมูลอ้างอิง

ให้รอบคอบเสียก่อน...

 

 

 




#1149070 แมเนเจอร์ฟันธงแล้ว อภิสิทธิ์จบอนาคตทางการเมืองเรียบร้อยแล้ว

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 11:17

ขอเปรียบเทียบระหว่าง2 สื่อ ที่บางครั้งคิดเหมือนกัน และบางครั้งต่างกันสุดขั้ว เพื่อนจะเชื่อสื่อไหนดี

 

http://www.manager.c...D=9570000048367

1 พฤษภาคม 2557 03:27 น.

 

ชาวบ้านชี้ขาด-อย่าสะเออะ !!

 

00 ได้ยินการวิเคราะห์คาดการณ์กันไปต่างๆนานา รวมไปถึงได้เห็นการเคลื่อนไหวของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่อ้างว่านี่คือการ"หาทางออกให้กับประเทศ"โดยไปพบคนนั้นคนนี้ ดูเผินๆแล้วเท่ซะไม่มีละ และแม้ว่าจะมีการเจรจาตกลงกันได้จนมีข้อสรุปออกมาก็ตาม คำถามก็คือชาวบ้านที่ออกมาชุมนุมขับไล่ระบอบทักษิณแล้วต้องการปฏิรูปประเทศเขาจะยอมหรือ ไม่มีทางหรอก เพราะชาวบ้านในนามของ กปปส.ที่นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ เขามาไกลเกินกว่าจะถอยหรือแม้แต่ประนีประนอมได้อีกต่อไป
       
       00 ยิ่งในภาวะที่ความคิดของประชาชนที่"ตกผลึก"ในเป้าหมายของการปฏิรูป โดยที่ไม่มีนักการเมืองทุกกลุ่ม ทุกพรรคไม่เว้นแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วม ความหมายก็คือไม่เว้นแม้แต่คนอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นแหละ เพราะชาวบ้านเขาเบื่อนักการเมือง เพราะมันสร้างแต่ปัญหา และถึงเวลาแล้วที่จะต้องขจัดออกไป หรือไม่ก็ถูกกันออกไปชั่วคราวก่อน เพื่อร่างกติกาที่เข้มงวดโดยประชาชนล้วนๆให้เสร็จสิ้นเสียก่อน จากนั้นจึงกวักมือเรียกให้เข้ามารับทราบ หากเห็นว่าควบคุมกันจนแทบกระดิกไม่ได้ ไม่พอใจก็ประกอบอาชีพทำมาหากินที่อื่น ความหมายก็เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ให้นักการเมืองมา"****"ปฏิรูป
       
       00 ถามนักการเมือง อย่าง บรรหาร ศิลปอาชา สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าไปหารือเพื่อหาทางออกประเทศ จะยอมให้เกิดการปฏิรูปโดยควบคุมการทุจริตคดโกงนักการเมือง จะยอมให้คดีทุจริตไม่มีอายุความเลยหรือ เพราะรับรู้กันอยู่แล้วว่าคนพวกนี้มีพฤติกรรมอย่างไรมายาวนาน มีแต่ต้องถูกกำจัดกีดกันออกไปเท่านั้น และโดยเฉพาะอย่างความคิดที่จะไปเจรจาหารือกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร ลักษณะมันก็ไม่ต่างจากการทรยศหักหลังกับประชาชนที่เคยสนับสนุนนั่นแหละ
       00 ดังนั้นไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนมากเรื่อง ว่าการเคลื่อนไหวของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีเบื้องหลังอย่างไร ต้องการจะเป็นนายกฯขัดตาทัพ ตามแรงกระสันต์ของตัวเองหรือไม่ ไม่ต้องไปสนใจแล้ว เพราะนับจากนี้ไปเขาก็จบอนาคตทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว และลองหลับตานึกภาพก็แล้วกันว่าในบรรยากาศที่ประชาชน"ตื่นรู้"แบบนี้ อย่าล้อเล่นเป็นอันขาด เพราะจะจบอนาคตทางการเมืองแบบสยดสยอง ไม่เชื่อก็คอยดู หากยังดันทุรัง หรือยังคิดใช้วาทะสวยๆหลอกต้มชาวบ้านต่อไปก็ทำไป แต่ลองเข้าไปอ่านคอมเมนต์ในโลกโซเชียลฯบ้างก็ได้ว่าพวกเขามีปฏิกิริยากันอย่างไร และขอโทษอย่าพยายามให้พวกแก๊งไอติมเด็กมาพูดจาแก้ตัว เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งสมเพช ลาออกจากหัวหน้าพรรคปชป.และยุติบทบาททางการเมืองเสียเถอะ ก่อนจะพาพังกันทั้งพรรค !!

อันนนี้ของไทยโพสต์

บันทึกหน้า 4...เพลิงทัศน์

    ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด "มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินสายหารือกับฝ่ายต่างๆ เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ถูกค่อนแคะเหน็บแหนมจากฝ่ายตรงกันข้าม หรือแม้แต่ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณ ก็วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก หาว่าอยากเป็น "พระเอก" บ้างว่าเป็นพวก "โลกสวย" ไม่เข้าใจสถานการณ์ บางคนก็ "มโน" ว่า "มาร์ค" ไปเจรจาลับกับฝั่งทักษิณโน้น...๐ คนระดับหัวหน้าพรรคการเมือง และเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยที่จะออกมาแสดงบทบาท นำเสนอความคิดความเชื่อ หาทางออกให้สังคมท่ามกลางวิกฤตการณ์ จะให้นั่ง "อมสาก" หรือทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรต่อสถานการณ์ความไม่ปกติของบ้านเมือง แบบนี้สิถึงเป็นเรื่องแปลกประหลาด...๐

ก็เหมือนผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองอย่าง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ท่านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงเชิญให้ พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานคณะรัฐบุคคลเข้าพบ เพื่อขอทราบ "แนวทาง-แนวคิด" ในการแก้ไขวิกฤตการณ์ของประเทศเท่านั้น แต่มีการนำไปขยายผล ซึ่งไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จนกลายเป็นเรื่องให้บางกลุ่มคนหยิบนำไปเป็นประเด็นโหมกระพือทำลายความน่าเชื่อถือของ "คณะองคมนตรี"...๐

จริงๆ แล้วการแก้วิกฤตการณ์ปัญหาของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องยากลำบากเหมือน "เข็นครกขึ้นภูเขา" หากแต่ง่ายยิ่งกว่า "ปอกกล้วยเข้าปาก" เสียอีก หากทุกฝ่ายเคารพกฎกติกาของบ้านเมือง ซึ่งต้องขีดเส้นไว้ใต้คำว่า "กฎกติกา" ไม่ใช่หมายถึงแค่ "การเลือกตั้ง" เท่านั้น แต่หมายรวมถึงบรรดาการตัดสินตลอดจนคำวินิจฉัยของศาลและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากมีการเคารพให้การยอมรับกันตั้งแต่ต้น สถานการณ์ของบ้านเมืองคงไม่ร้อนเป็นไฟอย่างที่เป็นอยู่ ว่าแต่ใครหรือกลุ่มบุคคลคนใดกันล่ะ ที่เป็นผู้ริเริ่มทำลายกฎกติกาของบ้านเมืองมาตั้งแต่ต้น?...๐

ดูอย่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่มิทันไรก็เตรียมปลุกม็อบกดดันให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาตามความต้องการของกลุ่มตัวเอง แบบนี้บ้านเมืองจะสงบสุขภายใต้กฎกติกาได้อย่างไร...๐

เช่นเดียวกันกับกลุ่ม กปปส. นำโดย "กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ" ซึ่งชุมนุมมาครบ 180 วันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจนถึงวันนี้ก็ยังปักชุมนุมอยู่ที่สวนลุมพินี เพราะยังไม่บรรลุเป้าหมายคือ "จัดตั้งรัฐบาลของประชาชน" เรียนตามตรงว่า เป้าหมายดังกล่าวใช่ว่าจะเป็นไปได้ง่ายๆ เผลอๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เสียด้วย หรือหากเป็นไปได้ แล้วจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นตามมา เพราะบ้านนี้เมืองนี้แยกออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน และแต่ละฝ่ายต่างมีมวลชนเป็นของตัวเองจำนวนพอๆ กัน ฉะนั้นแล้ว "กปปส." ก็ต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วย หากศาลรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วินิจฉัยคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ออกมาไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ และที่สำคัญ  "เงี่ยหู" ฟังเสียงที่แตกต่างจากกลุ่มตัวเองด้วยบ้างก็น่าจะดี...๐

แว่วว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา เพื่อให้วุฒิสภาได้พิจารณาเรื่องการแต่งตั้งบุคคล 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งกรรมการตุลาการศาลปกครอง และตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยขอให้เปิดสมัยประชุมในวันที่ 2 พฤษภาคม และปิดสมัยประชุมในวันที่ 10  พฤษภาคมนี้...๐

ขณะที่สามาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ยินว่ามีความเคลื่อนไหวล็อบบี้ตำแหน่งประธานวุฒิสภากันอุตลุต ก่อนนี้ "จองชัย เที่ยงธรรม" ส.ว.สุพรรณบุรี ท่าว่าจะนอนมา ประกาศตัวชิงเก้าอี้ดังกล่าวแต่ไก่โห่ แต่ถึงวันนี้ชักเริ่มจะไม่แน่ เพราะแว่วว่าคนของพรรคเพื่อไทยต่อสายถึง "นายใหญ่" ให้สนับสุนุน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ ส.ว.สรรหา และอดีตรอง ผบ.ตร. เป็นประธานวุฒิสภา ส่วน "กลุ่ม 40 ส.ว." ยังแข็งขันชู "สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย" เหมาะสมนั่งเก้าอี้ประธานวุฒิสภาคนเดียว ไผเป็นไผเดี๋ยวได้รู้กัน...๐

ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์ "กรือเซะ" ซึ่งครบรอบ 10 ปีพอดี เมื่อวันที่ 28 เมษายน ถือว่าผิดคาดที่กลุ่มก่อความไม่สงบไม่ออกมาสร้างความปั่นป่วน ก่อเหตุร้ายตามที่หลายฝ่ายเป็นกังวล ก็ขอภาวนาให้ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จงสงบลงและเกิดสันติสุขในเร็ววันด้วยเทอญ...๐

 




#1144840 ติดอาวุธทางปัญญา กับ Red cyber academy

โดย Quezonla on 26 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:33

อิอิ..

 

redcyber.jpg

 




#1136981 เบื้องหลังความสัมพันธ์ระหว่างหลวงปู่พุทธะอิสระกับพันธมิตรและพรรคประชาธิปัตย์ใ...

โดย kairyuramon on 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 23:23

จริง ๆ ถ้าใครได้ตามที่หลวงปู่ท่านพูดจะเคยได้ยินมาบ้างครับ แต่งวดนี้หลวงปู่ท่านเล่าสรุปรวมรวบยอดเลยครับ

 

ตั้งแต่ยุคที่ทักษิณเริ่มมีอำนาจใหม่ ๆ สมัยที่พันธมิตรออกมาสู้ สมัยรัฐประหาร สมัยพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล

 

ถ้าใครสนใจลองฟังดูได้ครับ เป็นคลิปที่หลวงปู่ท่านพูดเมื่อวาน (วันที่ 15 เมษายน) เริ่มนาทีที่ 41.50 ครับ

 




#1077095 สมเด็จ เจียม พักนี้ เงียบไปเลยนะครับ ตั้งกะบ้านโดนยิง

โดย Snow White on 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:10

ลาพักร้อนค่ะ...

คงขยาดป๊อปคอร์นไปอีกนาน...




#1075000 "เชื้อพันธ์ุชั่ว" --- เพื่อนๆอยากให้ติดคุก หรือ หนีหัวซุกหัวซุนไปเมือ...

โดย Ender on 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 14:06

อยู่เมืองไทย เก็บงาน คลีนง่าย กว่าเยอะ

ดูพี่เค้าเป็นต้น  ถ้าอยู่เมืองไทย 

 

ดัไม่ดี เจอ ป๊อปคอร์นไปแล้ว




#973073 วันที่ 2 กพ วันเลือกตั้ง เราควร?

โดย dragon baby on 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 00:14

ใครว่า กาไม่ลงคะแนน ไม่มีผล.

 

ผลทางนิตินัยของบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนน (VOTE NO)

 

เลขานุการศาลฎีกานักการเมือง ชี้ ส.ส.เขต ไม่เพียงได้คะแนนมากสุด ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ20 ของผู้มีสิทธิในเขต และยังต้องมากกว่าบัตรโหวตโน ด้วย

 

   

 ผู้คนในสังคมโดยทั่วไปส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องได้รับคะแนนเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น จะเกิดขึ้นได้เฉพาะในกรณีที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียงคนเดียวในเขตเลือกตั้งนั้นเท่านั้น มิฉะนั้น กกต.จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นใหม่ โดยสังคมไทยมีประสบการณ์จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2เมษายน 2549 ซึ่งหลายเขตเลือกตั้งมีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเพียงพรรคเดียว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชนได้บอยคอตการเลือกตั้ง (Election boycott) จนนำไปสู่ปรากฏการณ์พรรคใหญ่จ้างพรรคเล็ก และถูกคณะตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย เพราะถือว่าเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2540 มาตรา 66 (1) และเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามมาตรา 66 (3) (คำวินิจฉัยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญที่ 3-5/2550)  

     
       แท้จริงแล้ว แม้ในเขตเลือกตั้งใดมีผู้สมัครมากกว่าหนึ่งคน ผู้สมัครที่จะเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องเป็นผู้ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดแล้ว ยังจะต้องได้รับคะแนนเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้งอีกด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 89 ประกอบมาตรา 88 ซึ่งบัญญัติไว้ ดังนี้ มาตรา 89 ภายใต้บังคับมาตรา 88 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง ในกรณีที่มีผู้ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดเท่ากันหลายคน ให้ใช้วิธีการจับสลากซึ่งต้องกระทำต่อหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งตามวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
       
       มาตรา 88 ในเขตเลือกตั้งใด ถ้าในวันเลือกตั้งมีผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งคนเดียว ผู้สมัครจะได้รับเลือกตั้งต่อเมื่อได้รับคะแนนเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง
       
       ในกรณีที่ผู้สมัครได้รับคะแนนเลือกตั้งน้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น หรือไม่มากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งนั้น โดยให้รับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ และให้นำความในมาตรา 9 มาใช้บังคับ
       
       ในการเลือกตั้งใหม่ตามวรรคสอง ถ้ามีผู้สมัครคนเดียว ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม และถ้าผู้สมัครได้คะแนนเลือกตั้งน้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นอีก หรือได้ไม่มากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยให้ดำเนินการตามวรรคสองอีกครั้งหนึ่ง
       
       ในการเลือกตั้งใหม่ตามวรรคสาม ถ้ามีผู้สมัครคนเดียว ให้ผู้สมัครซึ่งได้คะแนนเลือกตั้งเป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศผลการเลือกตั้งให้ผู้ได้รับเลือกตั้งภายในระยะเวลาตามมาตรา 8
       
       ในกรณีที่มีการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามวรรคสาม หากปรากฏว่าไม่มีผู้สมัครให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม เพื่อให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และให้นำความในวรรคสอง และวรรคสาม และความในส่วนที่ 5 ผู้สมัครและการสมัครรับเลือกตั้ง 2.การสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง มาใช้บังคับโดยอนุโลม
       
       จากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่า มาตรา 89 บัญญัติให้อยู่ภายใต้บังคับของมาตรา 88 ซึ่งเป็นเทคนิคการร่างกฎหมายที่ต้องการให้มาตรา 89 นำหลักการตามมาตรา 88มาใช้บังคับด้วยโดยไม่ระบุซ้ำลงไปในมาตรา 89 อีก จึงหมายความว่า ในเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครหลายคน ผู้สมัครที่จะถือว่าเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง จะต้องผ่านองค์ประกอบของกฎหมายทั้งมาตรามาตรา 88 และมาตรา 89 กล่าวคือ
       
       1.ได้รับคะแนนเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น       
       2.ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง และ       
       3.ได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดในเขตเลือกตั้งนั้น
       
       ทั้งนี้ เนื่องจากหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย คือ การถือเสียงข้างมากของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และเกณฑ์มาตรฐานเสียงข้างมากขั้นต่ำตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 ก็คือไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น และมากกว่าจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง
       
       
ดังนั้น จำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง (VOTE NO) จึงมีผลทางนิตินัยตามบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว และหากในเขตเลือกตั้งใดมีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้งมากกว่าคะแนนเลือกตั้งของผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดในเขตเลือกตั้งนั้น ผู้สมัครผู้นั้นก็ไม่ถือว่าเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องประกาศให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งนั้น โดยให้รับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ตามมาตรา 88 วรรคสองถึงวรรคห้า
       
       
การที่มาตรา 61 ของกฎหมายเลือกตั้งดังกล่าวบัญญัติไว้ให้บัตรเลือกตั้งมีช่องทำเครื่องหมายว่าไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้งด้วยนั้น ก็เพื่อเป็นหลักประกันแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะสงวนสิทธิ์ไม่เลือกผู้ใด ในกรณีที่เห็นว่าไม่มีพรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดมีคุณสมบัติดีเพียงพอที่จะได้รับเลือกให้เป็น ส.ส. ยิ่งถ้าบรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีอยู่และลงสมัครรับเลือกตั้งในปัจจุบันได้พยายามสื่อสารกับสังคมว่าขอให้เลือกพรรคหรือผู้สมัครที่เลวน้อยที่สุด กรณีการที่มีการรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยกาบัตรเลือกตั้งในช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนน (VOTE NO) ด้วยเหตุผลว่าระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถสร้างพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ดีได้ ด้วยวาทะที่ว่า “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” และข้อกล่าวหาว่า “มีแต่พรรคการเมืองเผาบ้านเผาเมืองจาบจ้วง ล้มเจ้า พรรคการเมืองปล่อยคนเผาบ้านเผาเมืองขายชาติหลอกเจ้า และพรรคการเมืองโกงชาติกินเมืองโหนเจ้า” จึงสามารถกระทำได้โดยชอบ และมีผลต่อการเลือกตั้งตามกฎหมายดังกล่าว
       
       หากมีจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง (VOTE NO) มากกว่าคะแนนของผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดจำนวนมากๆ หรือแม้แต่คะแนนของจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง (VOTE NO) รวมกับคะแนนของผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนในลำดับรองๆ ลงไป มากกว่าคะแนนของผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุด ก็อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะได้ เพราะผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดย่อมไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนเสียงข้างมากไปในตัว และน่าจะต้องถือว่าขัดต่อหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ต้องยอมรับเสียข้างมาก แต่มีหลักประกันสำหรับเสียงข้างน้อย เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 ที่ กกต.เพียงแต่จัดการเลือกตั้งโดยหันคูหากลับด้านทำให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งที่จัดคูหาให้ผู้เลือกตั้งหันหน้าเข้าคูหาและหันหลังให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งและประชาชน ไม่เป็นการลงคะแนนโดยลับ (รัฐธรรมนูญฯ มาตรา 93 วรรคสอง) เป็นเหตุให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ
       
       (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2549) แล้ว การเลือกตั้งกรณีนี้อาจจะต้องถือว่านั้นเป็นโมฆะยิ่งกว่าบรรทัดฐานที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิฉัยไว้ดังกล่าวเสียอีก ทั้งหากพรรคการเมืองใดยังฝืนส่งคนไม่ดีที่ประชาชนปฏิเสธลงสมัครรับเลือกตั้งอีก อาจถึงขั้นถือได้ว่า เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จนนำไปสู่การถูกยุบพรรคการเมืองนั้นก็เป็นได้ (รัฐธรรมนูญฯ มาตรา 68)
       
       ท้ายที่สุดนี้ ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า บัตรเลือกตั้งที่ไม่ประสงค์จะลงคะแนนเลือกตั้ง (VOTE NO) มีผลทางนิตินัยตามกฎหมายดังที่ได้อธิบายไว้ข้างต้นอย่างแน่นอน
       
                                      อนุรักษ์ สง่าอารีย์กูล
       เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา

 

http://www.oknation....t.php?id=723014




#909611 ลายออก...เอ่เอ๊ทีวีของแป๊ะกล่าวหามาร์คทำไทยเสียดินแดน

โดย Bookmarks on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:34

เรื่องสนธิไม่ชอบปชป.น่ะ มันจริงแท้แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ แต่ตรงนั้นมันส่วนหนึ่ง

เนื้อหาข่าว ก็อีกส่วนหนึ่ง อย่าเอามาปนกัน

 

สนธิกล่าวหาปชป. เราต้องดูจากเนื้อหา ไม่ใช่ไปดูสนธิ

 

และผมอ่านดูแล้วก็ข้อมูลความจริงทั้งนั้น

คุณเชื่อมั้ย ความน่าเชื่อถือของคุณน่ะหมดราคาไปเหมือนกับไอ้แป๊ะลิ้มนั่นแหละ 




#909609 ลายออก...เอ่เอ๊ทีวีของแป๊ะกล่าวหามาร์คทำไทยเสียดินแดน

โดย V for vendettaขี่er6nไปราช on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:33

เรื่องสนธิไม่ชอบปชป.น่ะ มันจริงแท้แน่นอนล้านเปอร์เซนต์ แต่ตรงนั้นมันส่วนหนึ่ง

เนื้อหาข่าว ก็อีกส่วนหนึ่ง อย่าเอามาปนกัน

 

สนธิกล่าวหาปชป. เราต้องดูจากเนื้อหา ไม่ใช่ไปดูสนธิ

 

และผมอ่านดูแล้วก็ข้อมูลความจริงทั้งนั้น

 

จิงดิ <_<  <_<  <_< 




#909608 ลายออก...เอ่เอ๊ทีวีของแป๊ะกล่าวหามาร์คทำไทยเสียดินแดน

โดย ypk on 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:33

เหอะ เหอะ  บทความต่าง ๆ ที่เขียนลงในสื่อของ Manager มันจะมีลักษณะ

บิดเบือนความจริงเพื่อใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น โดยใช้จินตนาการและตัดตอนคำพูดบางประโยค

หรือพฤติกรรมของคนบางคน เหตุการณ์บางเหตุการณ์ มาเชื่อมต่อกันให้เป็นเรื่องเป็นราว

เพื่อให้คนเชื่อ

 

แต่ถ้าเหตุการณ์มันไม่เป็นไปตามที่เขาจินตนาการไว้ ก็จะเปลี่ยนประเด็นกล่าวหาใหม่ใน

เรื่องเดิมนั่นแหละ เพียงแต่ประเด็นที่กล่าวหาจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพราะประเด็นเดิมมันผิด

มันใช้ไม่ได้แล้ว

 

เรื่องเขาพระวิหารนี่เห็นได้ชัดเจน ตั้งแต่ยกพวกออกมาชุมนุมว่า อภิสิทธิ์ขายชาติ เพราะ ชวน

ไปทำ MOU 43 ยอมรับแผนที่ 1:200000 ทำให้ไทยเสียดินแดนกับเขมรไปแล้ว โดยเฉพาะ

พื้นที่ 4.6 ตรกม

 

แต่เมื่อเหตุการณ์มันไม่ใช่อย่างที่เขากล่าวหา เพราะความมันเริ่มปรากฎออกมาว่าตามที่เขา

กล่าวหานั้นมันบิดเบือนความจริง เนื่องจากเขมรนำเรื่องไปฟ้องศาลโลกให้ตีความว่าเดิมที่ศาลโลก

ตัดสินให้เขมรมีสิทธิเหนือปราสาทพระวิหารนั้น ขอบเขตพื้นที่มันอยู่แค่ไหน ซึ่งมันเหมือนกับเป็นการ

ตบหน้าคนพวกนี้อย่างแรงที่บิดเบือนว่า MOU 43 ยอมรับแผนที่ 1:200000 ทำให้ไทยเสียดินแดน

 

เขาเลิกพูดถึงประเด็น MOU 43 ทันที แต่เปลี่ยนประเด็นไปเป็น อย่าไปขึ้นศาลตามที่เขมรฟ้อง เพราะ

เราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ถ้าไปขึ้นศาลโลก เราจะต้องเสียดินแดน ตรง 4.6 ตรกม และก็โจมตี

ประเด็นนี้มาตลอด ซึ่งคนที่ติดตามเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า ระหว่างที่ไทยไปคัดค้านคำฟ้องของกัมพูชาใน

ศาลโลกนั้น สื่อของ Manager จะโจมตีอยู่ตลอดว่า ปชป ไปขึ้นศาลโลกตามที่เขมรฟ้องจะทำให้ไทย

เสียพื้นที่ 4.6 ตรกม

 

เขาถูกศาลโลกตบหน้าอย่างแรงอีกครั้ง เมื่อศาลโลกชี้ออกมาว่าพื้นที่ของเขมรนั้น มันไม่ครอบคลุมถึง

4.6 ตรกม

 

ซึ่งตรงนี้ผมค่อนข้างเห็นใจท่านทูตวีรชัยมาก เพราะดูแล้วท่านเหมือนจะกังวลมากในการต่อสู้คดีเพื่อรักษา

พื้นที่ 4.6 ตรกม เพราะพูดกันมากมายว่าการต่อสู้ในศาลครั้งนี้จะทำให้เราเสียพื้นที่ 4.6 ตรกม 

 

เพราะฉะนั้น เมื่อศาลตัดสินออกมาแล้ว คำแรกที่ผมได้ยินจากปากของท่านทูตวีรชัยก็คือ "เราไม่เสีย 4.6"

ผมมองว่าท่านพูดแบบภูมิใจนิด ๆ ด้วยซ้ำ

 

แต่สิ่งที่ท่านทูตวีรชัยได้รับจากสังคมคืออะไร ไม่มีใครพูดถึง 4.6 ตรกม แล้ว กลับไปโจมตีท่านเรื่องเสียพื้นที่

รอบปราสาท ทั้ง ๆ ที่เดิมนั้นก็ไม่เห็นมีใครพูดถึง แต่เน้นเรื่อง 4.6 ตรกม เท่านั้น

 

ผมว่าสังคมต้องตั้งสติดี ๆ ประเทศเรามีสื่อมอมเมา สื่อบิดเบือน สื่ออคติ มันก็ทำให้สังคมไทยเสื่อมทรามมาก

พอแล้ว ถ้าสังคมโอนเอนไปกับการบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีของสื่อเหล่านี้ จะปฏิรูปประเทศอย่างไรมันก็คงไม่มี

ผลอะไรขึ้นมาหรอก




#860046 หลวงปู่ วัดชื่อดัง ที่นครปฐม ตอบคำถามโยม ทำไมประชาธิปัตย์ แพ้การเลือกตั้ง

โดย หนูอ้อย on 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 - 19:33

เข้าไปดู..   พระอาจารย์ของใครหว่า  ..ฮิฮิ

http://www.manager.c...D=9480000101990




#850333 "ปลอด" ลั่นทำเขื่อนแม่วงก์แน่ อ้างสัตว์สร้างได้แต่ท่วมชาติอยู่ไม่ได้...

โดย phoebus on 20 กันยายน พ.ศ. 2556 - 19:03

https://docs.google....UM2NiRUZKWUE6MQ

 

ลิ๊งค์ลงชื่อคัดค้าน




#804633 ขอบคุณทุกท่าน ที่ทำให้การเดินเท้าไปสภา ของฝ่ายค้านและประชาชนเป็นที่สนใจ ของคน...

โดย juemmy on 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 12:43

น้ำด่าง น้ำแดง จะออกมาเห่าหอน ยังไง

ก็อย่าไปสนใจค่ะ

สิ่งที่พวกท่านทุกๆคนทำเมื่อวานนี้

คือมิติใหม่ของการชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ

สิ่งที่ น้ำด่าง น้ำแดง ทำไม่ได้ :D




#798828 ขอเชิญ โจโฉ นายกตลอดกาล ช่วยวิเคราะห์การเมือง นับจากนี้ไปสักนิดครับ

โดย ตะนิ่นตาญี on 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556 - 08:07

โดยส่วนตัวแล้ว...

 

ก่อนที่จะไปไหนไกล จนถึงขั้น เปลี่ยนแปลง รูปแบบ ของ การปกครอง ให้เป็นได้ดั่งใจ ของ ใคร-ต่อ-ใคร

 

ตะนิ่นตาญี คิดว่า สังคม ของ เรา ควรทำ กฎหมาย ให้ ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะเป็นไร?

 

หลักนิติธรรม และ ความ เป็น นิติรัฐ จะต้องถูกคุ้มครอง ไม่ใช่โดยแต่เพียง "ลมปาก" ของ นักวิชาการ จอมปลอม

 

"คนกระทำ ความผิด จะต้องได้รับ การลงโทษ" ไม่ใช่ "คนกระทำ ความผิด ไม่จำเป็นต้องรับโทษ เพราะ เขา มีเงิน-มีอำนาจ"

 

อย่าได้คิด "ปรองดอง" หรือ "นิรโทษกรรม" ให้กับ "ความชั่วร้าย" เป็นอันขาด

 

เพราะ เมื่อ คุณ-คุณ ทั้งหลาย ยอมให้มี "การปรองดอง" ให้กับ "ความชั่วร้าย" ให้กับ "คนผิด" แม้สักครั้งเดียว 

 

นั่นก็จะทำให้ "หลักนิติธรรม" และ ความ เป็น "นิติรัฐ" ของ ประเทศ นี้ สูญหาย ไปโดยสิ้นเชิง

 

วิธีการเดียวที่จะทำให้ สังคมไทย กลับคืนสู่ ความเจริญ-รุ่งเรือง ได้อีกครั้งหนึ่ง คือ "ต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์" เท่านั้นเอง

 

เอา พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ออกไปให้พ้นจาก สภา แล้ว ลงโทษ ผู้กระทำความผิด ในทุกกรณี โดย ไม่มี ข้อยกเว้น ครับ

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันอาทิตย์ที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๘.๐๗ นาฬิกา




#774757 จะเป็นไปได้มั้ย พธม + ประชาธิปัตย์

โดย asawinee on 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 11:23

เพื่อนพ่อเรา สองคนผัวเมีย เป็นพันธมิตร เสื้อเหลือง เข้มข้น

เปิดร้านขายของไปดู ASTV ไป แช่จอไว้ช่องเดียว

มีความศรัทธาในแป๊ะลิ้ม จำลอง และแกนนำอื่นๆ

เ้ข้าร่วมชุมนุม ของ พธม ทุกครั้ง มิได้ขาด

ล่าสุดก็ไปต้าน พรบ นิรโทษ เมื่อ พค ปีที่แล้ว

 

ทว่า ในความมีศรัทธานั้น

สองคนผัวเมียนี้ ยังไปม็อบเสธ อ้าย

โดยตัดสินใจเข้าร่วมม็อบ  แม้ พธม. จะแถลงจุดยืนไม่เข้าร่วมกับม็อบเสธ อ้าย

สองคนโดนแก๊สน้ำตาจนบาดเจ็บ ต้องหยุดร้านไปหลายวัน

 

ช่วงเลือกตั้ง แป๊ะลิ้ม เชียร์ สุหฤท

แต่สองคนนี้ กลับตัดสินใจกาเบอร์ 16 ของ ปชป

โดยให้เหตุผลว่า ยามนั้นต้องผนึกกำลังกันจึงจะชนะ คนของแม้ว

 

เราเอง เชื่อว่า มีพธม ระดับมวลชน หลายคนที่ศรัทธาในแกนนำ

ศรัทธาแบบบูชา เชือฟัง หัวปักหัวปำ อย่างที่เราเห็นในเว็บบอร์ด

 

แต่ขณะเดียวกัน ก็มี พธม อีกจำนวนไม่น้่อย

มี่แม้จะศรัทธา แกนนำ

แต่เมื่อถึงเวลา การตัดสินใจ โดยยึดเอาการต้านระบอบแม้วเป็นโจทย์หลัก

จะทำให้ พธม กลุ่มนี้ เข้าร่วมชุมนุม ต่อต้านได้กับกลุ่มอื่นๆ

แม้ แกนนำ พธม อย่างแป๊ะ จะไม่เป่านกหวีดเลย