Jump to content


pglovethai

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 27 พฤษภาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2557 17:41
-----

Posts I've Made

In Topic: ข่าวมูดี้ส์ จะปรับลดเรทติ้ง ไม่มีใครคุยบ้างหรือ

5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 09:01

คลัง-พาณิชย์ดิ้นพล่าน

ไม่มีข้อมูล

แจงมูดี้ส์เจ๊งจำนำข้าว โทษกันนัว”หมก”ตัวเลข “ปู”ปรี๊ดแตกใส่”บุญทรง” ธปท.-เอกชนผวา”หายนะ”

 

หลังสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสระบุ ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวในปีการผลิต 2554-2555 และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการที่รัฐบาลยืนยันเดินหน้าโครงการ ดังกล่าวต่อไป ทำให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายงบประมาณสมดุลภายในปี 2560 ได้ยาก และเป็นปัจจัยลบต่ออันดับเครดิตของไทย ซึ่งแนวโน้มมีเสถียรภาพ

 

นายกฯสั่งคลังส่งข้อมูลแจงมูดี้ส์

 

               น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนว่า ได้ยินจากข่าวและสั่งให้กระทรวงการคลังติดตามการวิเคราะห์ของมูดี้ส์อย่าง ใกล้ชิด เราพร้อมให้ข้อมูล โดยจะให้หน่วยงานต่างๆส่งข้อมูลไปให้ครบถ้วนในวันที่พิจารณา ซึ่งไม่ทราบว่าข่าวนี้ออกมาอย่างไร

 

                ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงไม่ชี้แจงตัวเลขขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรที่เป็นทางการ ต้องรอกระทรวงพาณิชย์ส่งรายงานมา

 

อ้าง“บุญทรง”ยันตัวเลขเคลื่อน

 

                ถามต่อว่าก่อนหน้านี้มีข่าวโครงการจำนำข้าวขาดทุนถึง 2.6 แสนล้านบาทจริงหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ได้ยืนยันในที่ประชุมรัฐสภาแล้วว่าตัวเลขไม่ตรงกัน ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ  เพราะอย่างไรก็ต้องทำสรุปมาทีหลัง

 

                เมื่อถามย้ำว่านายกฯสนใจตัวเลขขาดทุนโครงการจำนำข้าวหรือไม่ และรายงานมาที่นายกฯหรือไม่ นายกฯกล่าวเสียงเข้มว่า “ก็ยังไม่มีไงค่ะ ต้องให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องตรวจสอบก่อน”

 

“ปู”ฉุนบุญทรงหมกเม็ดจำนำข้าว

 

            หลังประชุมครม. รท.หญิงสุนิสา เลิศภควัต  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีสั่งให้ทุกกระทรวงที่ถูกฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงระหว่างการประชุม พิจารณา ร่าง พ.ร.บ งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2557 รวบรวมข้อมูลแถลงต่อสื่อมวลชน เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

 

          แหล่งข่าวจากทำเนียบฯเผยว่า ก่อนประชุมครม. นายกรัฐมนตรีมีท่าทีเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด และระหว่างประชุมได้สอบถามรมว.พาณิชย์ว่า ได้แถลงชี้แจงประเด็นที่ฝ่ายค้าน และมูดี้ส์โจมตีโครงการจำนำข้าวหรือยัง พร้อมถามหาเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยว่าส่งมาให้หรือยัง ซึ่งนายบุญทรงไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่กล่าวว่า “จะเร่งส่งมาให้ครับ” ทำให้นายกฯไม่พอใจมาก  เมื่อให้สัมภาษณ์หลังประชุมในเรื่องจำนำข้าว นายกฯชี้แจงเพียงสั้นๆว่า ยังไม่ได้รับรายงาน

 

           แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า  การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยวันก่อน  ได้ขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงประเด็นที่ฝ่ายค้านโจมตีโครงการจำนำข้าวขาด ทุนถึงขั้นย้ายรองปลัดกระทรวงการคลังที่ดูแลข้อมูลตัวเลขส่วนนี้  แต่เลขานุการ รมว.พาณิชย์ก็ไม่มีการแถลงข่าวหักล้างประเด็นฝ่ายค้านแต่อย่างใด

 

เปิดทำเนียบฯให้ชาวนาเข้าพบ

 

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังประชุมครม. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรฯนำผู้นำชาวนาจากทั่วประเทศ เข้ารับฟังนโยบายข้าวจากนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ปี 2556 ที่ทำเนียบฯ โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับชาวนา พยายามยกระดับความเป็นอยู่ และรายได้ให้ดีขึ้น โดยนำระบบจำนำข้าวมาใช้ เพื่อให้ราคาข้าวเหมาะสมกับต้นทุนการผลิต ชาวนาได้รับเงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย และยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปพัฒนานโยบายที่เป็นประโยชน์

 

                จากนั้นนายกฯเดินพบปะพูดคุยกับตัวแทนชาวนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็นกันเอง ขณะที่ตัวแทนชาวนาได้ขอบคุณรัฐบาลที่มีโครงการรับจำนำข้าว และสนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการต่อ พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลผลักดันพ.ร.บ.ส่งเสริมการประกอบอาชีพชาวนาไทย พ.ศ. .....ซึ่งนายกฯได้รับไว้พิจารณา

 

 “บุญทรง”พล่านสั่งเช็คข้อมูลจำนำข้าว

 

                ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงถึงตัวเลขโครงการจำนำข้าวขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทว่า  นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ มีคำสั่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล หลังกระทรวงการคลังรายงานและจัดทำข้อมูลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวแล้ว โดยระบุผลการดำเนินโครงการขาดทุนสะสมกว่า 2 .6 แสนล้านบาท  นอกจากนี้ ได้ขอให้รมว.คลังจัดส่งข้อมูลดังกล่าวมาให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อนำมาตรวจสอบและเปรียบเทียบข้อมูล คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานใช้ฐานการคำนวณที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนของข้อมูลปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว จึงต้องนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกัน

 

“เต้น”โต้ขาดทุนไม่ถึง2.6แสนล.

 

                ส่วนรายงานสรุปของกระทรวงการคลังที่ระบุโครงการจำนำข้าวขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนยังไม่เห็นเนื้อหารายงานดังกล่าว แต่ยืนยันได้ว่า ไม่เป็นตัวเลขที่คำนวณได้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงของโครงการ  เพราะจนถึงขณะนี้สามารถคืนเงินให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จากการระบายข้าวไปแล้วประมาณ 1.4 แสนล้านบาท บวกกับปริมาณข้าวที่อยู่ในโกดังของโครงการที่กำลังเร่งเจรจาขาย ก็น่าจะได้ตัวเลขอีกจำนวนหนึ่ง จึงเป็นไปไม่ได้ที่โครงการรับจำนำข้าวจะขาดทุนสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท ต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลัง  ซึ่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ว่า พยายามขอข้อมูลมาตลอด แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไม่ได้เป็นความลับ จะมีแต่เพียงคนในพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่าโครงการจำนำข้าว ขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับรายงานของกระทรวงการคลังอ้างถึง ทำให้ตนแปลกใจทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงรู้ข้อมูลได้รวดเร็วขนาดนั้น

 

ชงจำนำข้าวสัญจรกลบกระแสเจ๊ง

 

                นายณัฐวุฒิกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวมาจากหลายฝ่าย  ทำให้สังคมสับสน ตนจึงหารือกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสนอโครงการรับจำนำข้าวสัญจร จับเข่าคุยเกษตรกรชาวนาไทย โดยรัฐบาลจะตระเวนลงพื้นที่ทั่วประเทศ ชี้แจงข้อมูลโครงการจำนำข้าว ซึ่งนายกฯเห็นชอบอนุมัติแล้ว โดยจะเริ่มโครงการนี้ที่จ.พิษณุโลกแห่งแรก เพราะจะมีประชุมครม.สัญจรวันที่ 9-10 มิถุนายนนี้

 

คลังกุมขมับไม่มีข้อมูลแจงมูดี้ส์

 

            ขณะที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว เพื่อชี้แจงต่อมูดี้ส์ที่สอบถามเข้ามา โดยระบุว่าอาจมีผลต่อการปรับลดเครดิตของประเทศไทย เพราะเห็นว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นภาระการคลัง ทำให้หนี้ของประเทศเพิ่มขึ้น

 

            แหล่งข่าวกระทรวงการคลังยอมรับว่า ข้อมูลจำนำข้าวจะเป็นปัญหากับเครดิตของประเทศหากไม่เปิดเผยก็ถูกสถาบันจัด อันดับมองด้านลบ หากเปิดเผยว่าเสียหายมาก ทำให้สถาบันจัดอันดับใช้เป็นเหตุผลลดเครดิตทันที    สำหรับตัวเลขขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวปีแรกที่มีข่าวระบุสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ออกมายืนยันว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อน แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริง และการจำนำข้าวปีที่ 2 ของรัฐบาลก็ยังไม่มีรายงานผลขาดทุน ทำให้กระทรวงการคลังไม่มีข้อมูลชี้แจงมูดี้ส์

 

แฉพณ.-ธ.ก.ส.อ้างความลับปิดข้อมูล

 

            แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ การรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำเป็นเรื่องยาก เนื่องจากกระทรวงการคลังรู้แต่ข้อมูลเงินกู้ที่ใช้ในโครงการนี้จำนวน 4.1 แสนล้านบาท และสภาพคล่องของธ.ก.ส.อีก 9 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 5 แสนล้านบาท  ต่อมาธ.ก.ส.ใช้เงินเกินสภาพคล่อง ที่ได้รับความเห็นชอบจากครม. แต่ไม่ยอมเปิดเผยจำนวนเงิน เพราะอยู่ระหว่างเสนอให้ครม.เห็นชอบการใช้เงินย้อนหลัง ทำให้คลังไม่มีข้อมูลแท้จริงว่าโครงการจำนำข้าวใช้เงินไปเท่าใด

 

            ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการระบายข้าว โดยอ้างเป็นความลับ ที่ผ่านมากระทรวงการคลังเสนอให้กระทรวงพาณิชย์รายงานข้อมูลการรับจำนำข้าว ให้ครม. รับทราบทุกสัปดาห์เหมือนโครงการไทยเข้มแข็ง แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่เห็นด้วย ทำให้การติดตามความคืบหน้าของโครงการเป็นไปได้ยาก   อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังต้องหาข้อมูลชี้แจงมูดี้ส์ให้ได้ว่า การรับจำนำข้าวรอบใหม่จะใช้เงินเท่าใด เพราะมูดี้ส์จับตามองว่าถ้าต้องกู้เงินเพิ่ม ทำให้ฐานะการคลังของประเทศมีปัญหา ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ลดเครดิต แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

แบงค์ชาติผวาภาคเอกชนอ่วม

 

                ทางด้านนางผ่องเพ็ญ  เรืองวีรยุทธ  รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หากมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไทย ผลจากโครงการจำนำข้าวขาดทุน ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท  รวมถึงต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น เพราะการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหมายความว่าไทยมีความเสี่ยงทาง เครดิตเพิ่มขึ้น ต้องถูกชดเชยด้วยผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม คงต้องรอฟังผลการพิจารณาอย่างเป็นทางการ

 

หอค้า-สภาอุตฯชี้โดนหั่นพังแน่

 

                มีความเห็นจากนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยว่า หากมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของไทยจะมีผลต่อต้นทุนการกู้ยืมเงิน ของประเทศและภาคเอกชน ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น เพราะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในไทย เนื่องจากนักลงทุนจะใช้อันดับความน่าเชื่อถือเป็นตัวชี้วัด ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยด้วย ซึ่งในบริษัทเอกชนก็มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ถ้าบริษัทใดได้ความน่าเชื่อถือระดับ A จะทำให้การขอสินเชื่อได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าระดับ B

 

                สอดคล้องกับ นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศมีผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะความเชื่อมั่นที่ดีกว่าจะทำให้ได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่า แต่ต้องรอดูประกาศอย่างเป็นทางการของมูดี้ส์ก่อนว่าใช้เหตุผลอะไรในการ พิจารณา

 

ปชป.แฉไอ้โม่งจ้องฟันส่วนงบรถตู้

                วันเดียวกันนายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวพร้อมนำใบเสนอราคาของรถตู้โดยสาร 16 ที่นั่ง หลังคาสูง รุ่นคอมมูเตอร์ อยู่ที่ราคาคันละ 1,164 ,000บาท และรถตู้หลังคาเตี้ย 12 ที่นั่ง รุ่นไฮแอท อยู่ที่ 962,000บาท มาแสดงกับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ราคาถูกกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอให้สำนักงบประมาณพิจารณา โดยตั้งราคาครั้งแรกไว้สูงถึงคันละ 2.3 ล้านบาท แต่รมช.ศึกษาธิการชี้แจงว่าพิมพ์ผิด ข้อเท็จจริงราคาคันละ 1,232,400 บาท เมื่อเทียบราคาตลาดอยู่ที่คันละ 962,000 บาท พบว่าราคาต่างกันถึงคันละ 270,000 บาท พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้ได้ประโยชน์จากส่วนต่างจากการจัดซื้อรถตู้จาก โครงการนี้หรือไม่ และขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาดูแล อย่าลอยตัวเหมือนปัญหาอื่น

 

http://www.naewna.com/politic/54406


In Topic: ปลอดประสพบอกว่า ศูนย์ประชุมที่ภูเก็ตยังไม่สร้าง ไม่มีอารมณ์จะทำ จนกว่าคนภูเก็...

4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:26

วันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 14:14:52 น.

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายแชนแนล ถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ปราศรัยที่งาน "เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย" ของพรรคเพื่อไทย ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยต่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุม ในการประชุมผู้นำด้านน้ำเอเชีย-แปซิฟิกด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า การปราศรัยแบบนี้เรียกว่าหยาบคาย เป็นเรื่องที่ไม่สมควร และการที่นายปลอดประสพไปปราศรัยให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องศูนย์การประชุม จ.ภูเก็ต โดยระบุไม่มีอารมณ์สร้างและต้องเลือกคนของตัวเองก่อนถึงจะให้นั้น ตนเห็นว่า เรื่องลักษณะนี้จะเป็นต้นตอความขัดแย้ง และนำมาสู่ความเลวร้าย เพราะในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยบอกว่า ที่ไม่เลือก ส.ส.พรรคตัวเองแล้ว รัฐบาลจะไม่ทำงานให้ อีกทั้งการที่นายปลอดประสพระบุว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยกเลิกการสร้างศูนย์ประชุม จ.เชียงใหม่ ก็เป็นการกล่าวเท็จ ซึ่งศูนย์ประชุมเชียงใหม่มีปัญหาหลายเรื่อง แต่ว่าพวกตนก็ไม่เคยคิดว่าจะไม่ให้และทำการสานต่อ ไม่เช่นนั้นวันนี้ศูนย์การประชุมเชียงใหม่ก็คงไม่แล้วเสร็จ ขณะที่รัฐบาลชุดนี้กลับยกเลิกการสร้างศูนย์การประชุม จ.ภูเก็ต ดังนั้น ถ้าทัศนคตินายปลอดประสพสะท้อนเช่นนั้น ก็จะมีปัญหาการแบ่งแยกประชาชน เลือกทำงานให้กับประชาชน และดูถูกปลุกระดมให้คนมาเกลียดชังประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง

 


In Topic: 'หน้ากากขาว' โผล่กลางกรุง! รวมตัวต่อต้านระบบทักษิณ

4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 03:04

972361_395499627229315_2067769628_n.jpg


In Topic: **มีใครอยู่สุพรรณฯ บ้างไม๊คะ วันนี้เวทีชาวบลูไปผ่าความจริง ปิดถนน 4 เลนกันเลย...

2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 00:35

ขอยืมภาพมาจากลิงค์ของคุณ lovelygam

 

post-9619-0-52610800-1370106249.jpg


In Topic: 'กรณ์'ทิ้งปริศนาไฟดับทั่วใต้ เจตนาผุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน?

22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 15:47

 22 พ.ค.56 นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์ปัญหาไฟฟ้าดับในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ เนื่องจากสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเชื่อมโยงจากภาคกลางไปสู่ภาคใต้ช่วงจอมบึง-บาง สะพาน 2 ขัดข้อง ทำให้ กฟผ. ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าจากภาคกลางสู่ภาคใต้ได้

               ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวต่อว่า สายส่งที่จ่ายไฟฟ้าไปยังภาคใต้มี 4 เส้น คือ สาย 500 kV จำนวน 2 เส้น และสาย 230 kV จำนวน 2 เส้น โดยในช่วงเช้าเวลา 8.00 น. ของวันเกิดเหตุ กฟผ. ได้ปลดสายส่ง 500kV จำนวน 1 เส้น เพื่อทำการซ่อมบำรุง อย่างไรก็ตาม ในเวลา 17.26 น. สายส่ง 500 kV เส้นที่ 2 เกิดการชำรุดคาดว่า เกิดเนื่องจากฟ้าผ่าทำให้ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าลงภาคใต้ได้ จึงจำเป็นต้องจ่ายไฟฟ้าผ่านสายส่งเส้น 230 kV ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ทำให้สายส่งจ่ายไฟฟ้าเกินกำลังส่งผลให้สายส่งหลุดจากระบบ ประกอบกับจากการที่ภาคใต้ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอและต้องพึ่งพาการส่ง ไฟฟ้าจากภาคกลางผ่านสายส่งดังกล่าว โดยความต้องการใช้ไฟฟ้า ณ วันที่ 21 พ.ค.56 มีสูงถึง 2,200 เมกะวัตต์ ในขณะที่มีโรงไฟฟ้าภาคใต้เดินเครื่องอยู่ 1,600 เมกะวัตต์ทำให้โรงไฟฟ้าอื่นในภาคใต้ อาทิ โรงไฟฟ้าขนอม โรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้าเขื่อนรัชประภา ถูกปลดออกจากระบบโดยอัตโนมัติเนื่องจากความถี่ไฟฟ้าลดลงต่ำกว่ามาตรฐาน 50 (เฮิร์ต) Hz เพื่อความปลอดภัยของโรงไฟฟ้า โดยกฟผ.ได้เร่งแก้ไขสถานการณ์ ด้วยการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าทุกโรงในภาคใต้อย่างเต็มกำลังการผลิต รวมทั้งยังเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันดีเซลที่ จ.สุราษฎร์ธานี และทางมาเลเซียได้ส่งไฟมาช่วยอีก 200 เมกะวัตต์ทำให้สามารถจ่ายไฟให้ประชาชนได้ทั้งหมดเมื่อเวลา 23.00 น.

               “กฟผ.ขออภัยประชาชนต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบสายส่งไฟฟ้าภาคใต้ทั้งหมด เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก” นายสุทัศน์ กล่าว

               นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน ความต้องการไฟฟ้าในภาคใต้เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 6 ต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดชายฝั่งอันดามัน ขณะที่ระบบผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ต้องพึ่งการส่งกระแสไฟฟ้าจากภาคกลางบาง ส่วน แต่ระบบส่งที่ส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปภาคใต้มีลักษณะเป็นคอขวดตามภูมิประเทศใน ช่วงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีความเสี่ยงต่อระบบส่งไฟฟ้าค่อนข้างสูง ดังนั้น กฟผ. จึงมีแนวทางในการพัฒนาโรงไฟฟ้าหลักในพื้นที่ภาคใต้ และขยายระบบส่งเพิ่มขึ้น ได้แก่ การก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะนะแห่งที่ 2 ที่กำลังก่อสร้างและจะจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในปี 2557 และขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้า กระบี่ ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินนำเข้า รวมทั้งการปรับปรุงระบบส่งให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นหลักประกันและลดความเสี่ยงต่อระบบไฟฟ้าให้แก่ภาคใต้ในระยะยาว