Jump to content


pglovethai

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 27 พฤษภาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2557 17:41
-----

Topics I've Started

ประเทศในภาวะ 'นายกฯ หายตัว'

22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 07:52

เราลองมา "คิดด้วยกัน" ซักวัน กับสถานภาพประเทศชาติในวันนี้-ขณะนี้ ดีมั้ย?
    คือขณะนี้ ประเทศ "ว่างรัฐบาล" ด้วยรูปแบบที่เป็นอยู่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ และตัวเธอเป็นผู้ "รักษาการตำแหน่งนายกฯ"
    "ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ๒๕๕๐ กำหนดขอบเขตหน้าที่รัฐบาลรักษาการไว้ เพื่อมิให้ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าที่จำเป็น  หรือกระทำการใด อันทำให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน การงบประมาณ การบริหารงานบุคคลภาครัฐ หรือกระทำการใดๆ อันมีผลต่อการเลือกตั้ง
    คือกำหนดกรอบให้รัฐบาลรักษาการปฏิบัติหน้าที่ได้เฉพาะงานประจำ ที่มิใช่งานนโยบายอันจะมีผลผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป หรือใช้อำนาจในฐานะรัฐบาลกระทำการเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งมิได้"
    นั้นคือ อำนาจบริหารที่เกี่ยวพันนโยบาย งบประมาณ และมีผลผูกพันถึงรัฐบาลต่อๆ ไป รัฐธรรมนูญกำหนดให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.
    พูดกันตามกฎหมาย ที่รัฐบาลรักษาการยิ่งลักษณ์ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่ผ่านความเห็นชอบ กกต.ก่อน...ก็ผิด
    เที่ยวไปกู้เงิน หรือให้แบงก์โน้นซิกแซ็กปล่อยกู้แบงก์นี้ ปลายทางเงินมาที่รัฐบาลเอาไปใช้โน่น-ใช้นี่ เช่นจ่ายค่าข้าวให้ชาวนา เป็นต้น นั่นก็ผิด
    เพราะสร้างหนี้เป็นภาระผูกพันถึงรัฐบาลและงบประมาณต่อๆ ไป!
    หรือจะออกพันธบัตรเอาเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าว อย่างที่ยิ่งลักษณ์-กิตติรัตน์บอก...นั่นก็ผิด
    เพราะเท่ากับรัฐบาลรักษาการ กู้หนี้-ยืมสิน สร้างภาระหนี้ผูกพันเป็น "ขี้" ให้รัฐบาลต่อไปต้องเช็ด-ต้องล้าง!
    แล้วที่นายกฯ รักษาการยิ่งลักษณ์ ไปออกโทรทัศน์บอกว่า "หากเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะทำให้การจ่ายเงินให้ชาวนาง่ายขึ้น" นี่ก็ผิด
    เพราะการออกโทรทัศน์พูดอย่างนั้นในเขตเวลาหาเสียงเลือกตั้ง มันเป็นการพูดเพื่อประโยชน์กับพรรคตัวเอง คือพรรคเพื่อไทย และเพื่อประโยชน์ตัวเอง ซึ่งเป็นผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข ๑
    ผิด "เต็มตีน" เลยเธอจ๋า ตามตัวบทกฎหมายถึงขั้นยุบพรรค!
    นี่ยังไม่พูดถึง การใช้อำนาจบริหารอันไม่มีในตน และในรัฐบาลรักษาการ การประกาศ "ไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ" ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีโทษถึงขั้นกบฏ นั่นเท่ากับทั้งรัฐบาลและตัวนายกฯ
    มีสภาพเป็น "รัฐบาลเถื่อน-นายกฯ เถื่อน"!
    ตั้งแต่ ๙ ธันวา ๕๖ เป็นต้นมา ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้อำนาจรัฐบาลและนายกฯ รักษาการเถื่อนในทัศนคติประชาชนมาตลอด
    แต่นั่นไม่แปลกเท่า "ระบบรัฐ" ยอมรับอำนาจ โดยยอมให้นายกฯ รักษาการ "สั่งราชการ" นอกกรอบอำนาจตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ขัดขืน
    ถ้าการสั่งนอกเหนืออำนาจนั้น เป็นประโยชน์ทางสร้างสรรค์แก่สังคมประเทศชาติและประชาชน นั่นก็พออนุโลมได้
    แต่ที่นายกฯ รักษาการแถมเถื่อน สั่งให้กู้เงินมาจ่ายค่าข้าวชาวนาที่ตัวเองโกงก็ดี สั่งใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อเข่นฆ่าสังหารประชาชนที่รู้ทันก็ดี มันไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคมชาติเลย
    แต่เป็นประโยชน์กับพรรคเพื่อไทยและตัวยิ่งลักษณ์โดยตรง ในอันที่จะรักษาอำนาจในฐานะรัฐบาลต่อไป
    แต่คนรัฐ-คนหลวง กลับยอมกันได้ ทนกันได้ ผมงงในมาตรฐาน ข้า-ราชะ-การ "แกนหลักสังคมชาติ" จริงๆ บอกตรงๆ!
    เป้าหมายที่เป็นรูปธรรมของการยื้อยุดอำนาจรัฐบาลไว้ในกำมือให้นานเท่านานของยิ่งลักษณ์ ที่เด่นเห็นชัด คือ
    -ช่วยทักษิณให้กลับประเทศชนิดไม่มีความผิดใดๆ ต้องรับโทษ
    -ใช้อำนาจรัฐและเงินส่งเสริม-ซ่องสุมคนระบอบทักษิณ ค่อยๆ แทรกซึม กัดเซาะ เพื่อเปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบันประเทศ แล้วยึดประเทศ
    ใช้อำนาจบริหารฉ้อฉลเชิงนโยบายผ่านโครงการต่างๆ  เช่น โครงการน้ำ โครงการราง โครงการจำนำข้าว โครงการรถคันแรก ซึ่งล้วนเป็นโครงการ
    "กินแล้วฆ่าอนาคตประเทศ" ไปพร้อมๆ กัน!
    -นำประเทศเป็นสินค้า สมคบพี่ชายเร่ขายต่างชาติ ผ่านคำว่า "ลงทุน" ด้วยธุรกิจครอบครองทรัพยากรแผ่นดิน โดยใช้อำนาจรัฐในมือเอื้อ
    เหล่านี้ โดยจิตสำนึกเพียงพอแล้วที่คนระบบรัฐ ไม่ว่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ครู อาจารย์ จะต่อต้านด้วยรังเกียจ
    และไม่ยอมให้รัฐบาลและนายกฯ รักษาการผู้มีพฤติกรรมไม่สุจริตและเป็นภัยต่อสถาบันชาติอยู่เป็นผู้มีอำนาจเหนือประเทศ
    นอกจากไม่ยอมรับอำนาจบริหารจากยิ่งลักษณ์แล้ว จะต้องร่วมมือกัน "กำจัดภัยในแผ่นดิน" ด้วย!
    รถยนต์วิ่งได้เพราะเครื่องยนต์ เช่นเดียวกัน ยิ่งลักษณ์มีอำนาจได้ เพราะคนราชการสนองอำนาจ ทั้งที่การสั่งการหลายๆ อย่างขัดกฎหมาย ไม่ชอบธรรม แต่ก็ยอมกัน
    ยิ่งลักษณ์โกงแผ่นดิน โกงชาวนา ทุกคนในรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ  กระทรวงต่างประเทศ กระทั่งตำรวจ...รู้ดี!
    คือรู้ว่า รัฐบาลมีวงเงินกู้รับจำนำข้าว ๕ แสนล้าน เรียกว่าเงินลงทุน ในความหมาย เมื่อนำข้าวออกขาย ก็นำเงินมาหมุนเวียนซื้อในภาคการผลิตต่อๆ ไป
    ก็รู้กันหมด รัฐจ่ายเกวียนละหมื่นห้า แต่ชาวนาได้เงินเกวียนละ ๑๑,๐๐๐-๑๓,๐๐๐ บาท นี่ฟันไปต่อหนึ่งละ
    รัฐอ้างจีทูจีขายข้าว แต่ความจริงขายพวกกันถูกๆ แล้วนำมาเวียนเทียนจำนำหมื่นห้า ฟันซ้ำอีกต่อ
    ให้พวกกันเองขนข้าวเขมร-พม่า-ลาว มาจำนำ นี่ก็อีกต่อ!
    ต้นทุนตันละกว่า ๒๔,๐๐๐ แต่งุบงิบขายตันละหมื่นต้นๆ นำส่งนอก ฟันอีกไม่รู้กี่ต่อ ยังจะซิกแซ็กข้าวถุง ข้าวเวียนเทียนโรงสี สต็อกลม อีกร้อยแปด-พันเก้าวิธี สุมหัวโกงข้าว
    ๕ แสนล้าน "เงินทุน" ก็หมดไป แต่ขายเอาเงินกลับมาหมุนเวียนไม่ได้ ต้องตั้งงบกู้มาอีกร่วม ๒ แสนล้าน นั่นก็หมดไปอีก
    ๗ แสน...ร่วม ๘ แสนล้าน รัฐขายข้าวได้เงินคืนมาแค่ ๑.๘ แสนล้าน ท่ามกลางคำถามที่ไม่มีคำตอบว่า ซื้อแพง-ขายถูก แถมไม่ยอมขาย เพื่ออะไร จำนวนข้าวในโกดังกับตัวเลขซื้อ ตรงกันมั้ย? 
    ตัวเลขซื้อ-ขาย ตัวเลขสินค้าคงเหลือ กระทั้งที่ว่าขายจีทูจี ทั้งหลายทั้งปวง เงิน ๗-๘ แสนล้าน รัฐบาลไม่มีบัญชีแสดงเลย
    กะหรี่ ทักษิณยังสอนให้ทำบัญชีครัวเรือนได้คืนละกี่ประตู แต่นี่ขายข้าวเงิน ๗-๘ แสนล้าน ทักษิณไม่สอนยิ่งลักษณ์ทำบัญชีเลย!?
    นอกจาก "จำนนด้วยหลักฐาน" สารภาพว่า ไม่มีข้าวจีทูจี ก็ยังตอบไม่ได้ว่า เอาเฉพาะตัวเลขซื้อ-ขายปฐม เงินร่วม ๒ แสนล้าน
    มันหายไปทางไหน?
    โกงกันจนหมดวงเงินกู้แล้ว คลังไม่ประกันเงินกู้ให้อีก จำนำรอบล่าสุดจึงไม่มีเงินจ่าย จากเดือนตุลา ๕๖ ตัวเองยังเป็นรัฐบาลอยู่ จะคิดอ่านออกพันธบัตร หรือกู้ที่ไหน เอา ๑.๓ แสนล้านมาจ่ายให้ชาวนา
    ก็ไม่ทำ...หมกมุ่นอยู่แต่ออกกฎหมายล้างโทษให้พี่ชาย จนถึงเดือนธันวา ติดหนี้ชาวนามากว่า ๓-๔ เดือน ก็ไม่คิดอ่านอะไร
    พอจนแต้ม-จนตา มวลมหาประชาชนออกมาขับไล่ร่วม ๑๐ ล้าน รีบประกาศยุบสภาฯ ด้วยนึกว่ายุบแล้วคนจะแยกย้ายกลับบ้าน
    ด้วยฝันหวาน...เลือกตั้งใหม่ พวกเสื้อแดงหน้าโง่ก็จะเลือกพวกกู..เพื่อไทย กลับมาเป็นรัฐบาลอีก!
    แต่ฝันค้าง และถึงคราว "กรรมตามทัน" ชาวนาก็ยกขบวนกันมาตะโกน..ยิ่งลักษณ์โกง..ยิ่งลักษณ์โกง...มึงเอาข้าวพวกกู มา แล้วเงินกูอยู่ไหน?
    คำตอบยิ่งลักษณ์คือ เพราะยุบสภาฯ ขอถามว่า...แล้วใครเป็นคนยุบ คำตอบคือ อีนังตัวดียุบเอง แล้วใครโกง ก็อีนังตัวดีนั่นแหละ โกงเอง
    ต่อมาก็แถว่า เพราะกำนันสุเทพนำมวลมหาประชาชนชุมนุม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเงินค่าข้าวที่พวกมึงโกงชาวนาเขาไป?
    แถในมุกใหม่อีก...มวลมหาประชาชนไปบังคับไม่ให้ออมสิน ไม่ให้สถาบันการเงินไหนปล่อยกู้
    โธ่...อีหอยแครงดอง ถ้ามวลมหาประชาชนสั่งสถาบันการเงินได้ขนาดนั้น เขาสั่งให้ขนเงินในบัญชีตระกูลชินทุกบัญชีมาจ่ายให้ชาวนาไม่ง่ายกว่าหรือ?
    ที่สถาบันการเงินเขาไม่ปล่อยกู้ เพราะเขารู้ว่า "ผิดกฎหมาย" รัฐบาลรักษาการกู้สร้างหนี้โดยที่ กกต.ไม่อนุมัติ...ทำไม่ได้ ขืนปล่อยกู้ มีโอกาสหนี้สูญ แถมติดคุกอีกตะหาก!
    สรุปความ กรรมโดยกฎหมายไล่ล่าถึงตัว ป.ป.ช.ให้ไปรับทราบข้อหาทุจริตจำนำข้าว ๒๗ ก.พ. ซ้ำถูกชาวนารุมฟ้องแพ่ง-อาญา และที่หนักหนาชนิดคาดไม่ถึง
    เป็นจำเลย "เจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล" ร่วมกับเฉลิม-อดุลย์ อาจมีธาริตด้วย จากที่สั่งตำรวจสลายชุมนุม ฆ่าประชาชนไป ๔ ศพ เจ็บอีกร่วมร้อย ที่ผ่านฟ้าฯ วันก่อน
    สุดท้ายที่อยากบอก ณ ขณะนี้ ประเทศอยู่ในภาวะ "ไร้อำนาจบริหาร" แล้ว ยิ่งลักษณ์หายตัวไป ไม่มาทำงาน ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ ๓-๔ วันแล้ว
    การอ้างอยู่ในเซฟเฮาส์ และสั่งงานทาง fb จะทราบได้อย่างไรว่า ขณะนี้นายกฯ รักษาการยังมีชีวิตอยู่ ยังมีตัวตนอยู่  ยังไม่หนีออกนอกประเทศไปแล้ว?
    ถ้าใช้ fb บริหารราชการได้ ฝึกหมาซักตัวเล่นมือถือ ก็เป็นนายกฯ ได้ จะให้ประเทศไทย "มีนายกฯ นำร่อง" อย่างนี้หรือ?
    ประเทศมี ๓ สถาบันหลัก ขณะนี้ สถาบันบริหารอยู่ในภาวะสุญญากาศ ซ้ำตัวนายกฯ รักษาการหายไป "สถาบันนิติบัญญัติ" ไร้รัฐสภา อยู่ระหว่างเลือกตั้ง
    เหลืออยู่เพียง "สถาบันตุลาการ" เท่านั้น ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่!
    แล้วใครล่ะ...จะเป็นผู้ให้คำตอบว่า....?
    จะปล่อยให้ประเทศลอยเท้งเต้ง เหมือนเรือขาดหางเสือ ไปตามบุญ-ตามกรรมอย่างนี้น่ะหรือ หรือตกลงยกให้ เหลิม-ธาริต-อดุลย์ บริหาร รอวัน "ระบอบทักษิณ"......
    ขุดปูออกจากรู?

 

 

http://www.thaipost....ws/220214/86423


นายกฯยันไม่ผิดกรณีปปช.กล่าวโทษโครงการจำนำข้าว

20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 13:05

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2557 ที่เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ได้โพสต์คำแถลงนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณี ป.ป.ช.กล่าวโทษโครงการรับจำนำข้าว เนชั่นจึงขอคัดมาลงส่วนหนึ่งดังนี้ "พี่น้องประชาชนคะ ดิฉันขอยืนยันความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติหน้าที่ว่า ดิฉัน มิได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา จากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และข้อกล่าวหาที่ว่า ทำไมดิฉันไม่ได้ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว แต่กลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการต่อไปนั้น แม้จะถูกกล่าวหาเช่นนี้ดิฉันก็พร้อมที่จะพิสูจน์ให้ชัดแจ้งอีกครั้งว่า โครงการดังกล่าวมีเจตจำนงที่ดีต่อชาวนา และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน โครงการรับจำนำข้าวนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้กับชาวนา และแม้ว่าชีวิตดิฉัน จะต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา หรือรวมทั้งต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ตามความต้องการของผู้ล้มล้างรัฐบาลในปัจจุบัน แต่ดิฉันก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริง โดยดิฉันหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และหวังว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยอมรับฟังคำชี้แจงและพยานหลักฐาน ของดิฉันให้เสร็จสิ้น ก่อนที่จะชี้มูลความผิดกระบวนการยุติธรรมตามหลักนิติธรรมนั้น ย่อมต้องให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ตัวเองเสมอ

ที่สำคัญหากการอำนวยความยุติธรรมต่อตัวดิฉันมีจริง โดยไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆแล้วคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ไม่ควรรีบเร่ง รีบร้อน ในการไต่สวนและชี้มูลความผิด ให้เป็นไปในลักษณะที่จะถูกสังคมกล่าวหาได้ว่า เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ประสงค์ล้มล้างรัฐบาล และหากจะเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ กลับได้รับโอกาสในการได้รับการอำนวยความยุติธรรมอย่างเต็มที่ นับแต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับคำร้องที่มีการกล่าวหา ดังที่ดิฉันได้กล่าวไว้เบื้องต้นในกรณีการทุจริตในโครงการระบายข้าว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการไต่สวน รวมทั้งคดีที่ยื่นและการค้างพิจารณาอยู่อีกเป็นจำนวนมากมาย เช่น กรณี ปรส.

ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เองก็ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนต่อสาธารณชนว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ใช้อำนาจของตนอย่างถูกต้อง เที่ยงธรรม และเป็นไปตามหลักนิติธรรม ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแล้วหรือไม่"

 

http://breakingnews....p?newsid=712707

 


จำนำที่ "รัฐบาลไม่กล้าพูด" เจ๊งแล้ว

21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:02

วันนี้-๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ เป็นวัน "คล้ายวันเกิด" นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกอย่าง ทั้งลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข ท่านมีพร้อม ดังนั้น ขอส่งความปรารถนาบริสุทธิ์มอบแด่ท่าน ด้วยมงคลแห่งกำเนิดชีวิตวัน จะเป็นวันเสี่ยงทาย "ทางเดินข้างหน้า" ซึ่งนับจากนี้ไป คนอื่น ก็คือคนอื่น ตัวแห่งเรา ก็คือตัวเรา "ใจ" เป็นผู้กำหนดสรรพสิ่ง สัมมาทิฏฐิ คือฟากฝั่ง มิจฉาทิฏฐิ คือหุบเหว สิ่งมีอยู่ทั้งหมดจะรักษาไว้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "ใจพุทธะ" หรือ "ใจอธรรม" ในวันนี้...นำทาง?

    แต่ก็หนักใจแทน ในเมื่อ "วันโกนไม่ยอมละ-วันพระไม่ยอมเว้น" ทั้งที่สถานภาพรัฐบาลคลอนแคลน แทนจะสำนึก อะไรที่เป็นการสลายศัตรู-เพิ่มมิตร อะไรที่เป็นการต่อชีวิต ปล่อยสัตว์ ๒ เท้า ๔ เท้า ในวันเกิด ท่านก็ไม่ทำ

    กลับไปเชื่ออำมาตย์รอบชายกระโปรง "สร้างเวรต่อ" ด้วยการให้อุทธรณ์คดีที่ศาลปกครองกลางสั่งคืนตำแหน่งเลขาฯ สมช. ให้กับ "นายถวิล เปลี่ยนศรี"!

    นี่แหละ เขาถึงว่า เมื่อถึงคราชะตาตก-อกช้ำ ก็เหมือนมีม่านดำบังตา-บังใจ เรื่องง่ายๆ อันสว่างเป็นทางยาว ในเขตแดนอำนาจตัดสินใจตัวเองแท้ๆ กลับเลือกทางขวากหนามและมืดมิดที่ตัวเองต้องแพ้พ่ายในสถานเดียว

    ฟังนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯ อ้างเหตุที่ต้องอุทธรณ์ มีแต่คนถอนใจ ตอนทำกับคนอื่น ก็ไม่นึกถึงประเด็นที่ยกมาอ้าง ครั้นถึงคราวตัวเอง กลับยกประเด็นที่ทำกับคนอื่นไว้นั้น มาอ้างเป็นทางออก

    เออ...คนหนอคน!

    "...หากยึดแนวทางตามคำพิพากษาในประเด็นดังกล่าว จะไม่สามารถโอนย้ายข้าราชการในระดับเดียวกันจากตำแหน่งที่เป็น Actice Position ไปยังตำแหน่งที่เป็น Inactive Position ได้เลย เนื่องจากจะถือเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโอนย้ายตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก รัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ

    หรือหากมีการนำประเด็นนี้ไปเทียบเคียงกับการบริหารงานในระดับกระทรวง จะเห็นว่ามีตำแหน่งงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือมีบทบาท มีระดับความท้าทายที่ต่างกันเช่นกัน อันจะทำให้ฝ่ายบริหารไม่อาจโอนย้ายผู้ดำรงตำแหน่งอธิบดีไปเป็นผู้ตรวจราชการ หรือตำแหน่งใดๆ ที่แม้มีระดับเดียวกัน แต่มีหน้าที่แตกต่างกันได้เลย

    สำหรับตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เป็นระดับ ๑๑ กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ถือเป็นตำแหน่งที่ค่าของงานที่มีการประเมินของสำนักงาน ก.พ.ที่เท่ากัน เงินเดือนค่าตอบแทน และผลประโยชน์ต่างๆ เป็นค่าตอบแทนตามกฎหมายที่เหมือนกัน

     ดังนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจึงเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ที่เห็นเป็นการสมควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางในคดีนี้ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์เป็นการเฉพาะคดีนี้เท่านั้น แต่เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานและเป็นประโยชน์สำหรับการบริหารราชการแผ่นดินโดย รวมต่อไป..."   

    ดูความเป็นไปในกลไกระบบ ข้า-ราชะ-การ ยุคนี้แล้ว ก็อดย้อนนึกถึงบางช่วง-บางตอนของประวัติศาสตร์ชาติโบราณไม่ได้ เอาที่เห็นง่ายๆ จากหลายราชวงศ์จีน ส่วนหนึ่งที่เป็นตัวบ่อนทำลายให้ล่มสลายไปแต่ละยุค

    ก็เพราะพวกประเภท "หลี่กงกง" นี่แหละ!

    เคราะห์ดีที่ประเทศไทยเราไม่มีหลี่กงกง มีแต่อำมาตย์ เสนาบดี หมีแพนด้า ก็พออุ่นใจได้ว่า ถึงมี หรือไม่มีคนชั่วช้าสามานย์ปานใด รากฐานรัฐก็ยังจะยืนหยัดค้ำประเทศไทยให้อยู่ได้-อยู่รอด!

    ตอนไล่ที่เอาเก้าอี้เลขาฯ สมช.จากนายถวิลไปให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เพื่อทำเก้าอี้ ผบ.ตร.ขณะนั้นให้ว่าง จะได้ให้น้องเมียทักษิณ "พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์" ขึ้นมานั่ง

    นั่น...ทำไมท่านปลัดฯ ธงทองไม่ยกเหตุผลอันประเสริฐนี้ขึ้นมายึดเป็นทางปฏิบัติบ้างล่ะ เหตุผลประเด็นตำแหน่ง แอคถีบ กับ อินแอคถีบ ตามอ้างนั้น หลายคนเปรย...ฟังแล้ว

    ...อยากถีบ!

    การอ้างโดยไม่ละอาย เหมือนถ่มน้ำลายรดหน้าตัวเอง ดูเหมือนตอนนี้ระดับนายกฯ ระดับรัฐมนตรีนิยมกระทำ เช่น เรื่องการลดราคารับจำนำข้าวเปลือก จาก ๑๕,๐๐๐ ลงมาเหลือ ๑๒,๐๐๐ ตอนหมื่นห้าสารพัดจะอ้าง

    แต่ตอนลด "ต้องการรักษาวินัยการเงิน-การคลัง!?"

    ถลุงกันทั้งในและนอกงบประมาณจนประเทศจะพัง เพิ่งสำนึกต้องการรักษาวินัยการเงิน-การคลัง ผมว่าเงินแผ่นดิน "หมดถัง-หมดตูด" แล้วมากกว่า

    ไม่ต้องไปดูที่ไหนหรอก ดูที่นายกสมาคมโรงสี "นายมนัส กิจประเสริฐ" เขาแฉทางรายการวิทยุอินไซด์ไทยแลนด์ ที่ "องค์การคลังสินค้า" กระทรวงพาณิชย์ มีคำสั่งไปตามจุดรับจำนำข้าวทุกแห่ง ก็จับไต๋ได้แล้ว

    อคส.มีคำสั่งให้โรงสีหรือจุดรับจำนำข้าวในโครงการด้วย "๕ มาตรการ" ว่า

    **********************************************
    ๑.ปรับราคารับจำนำข้าวเปลือก ๑๒,๐๐๐/ตัน มีผลตั้งแต่ ๓๐ มิ.ย.๕๖
    ๒.จำกัดวงเงินรับจำนำแต่ละครัวเรือน ครัวเรือนละ ๕ แสนบาท ตั้งแต่ ๒๐ มิ.ย.เป็นต้นไป
    ๓.ปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ ๒๐ มิ.ย.๕๖ เป็นต้นไป
    ๔.ชะลอการรับจำนำข้าวเปลือก ตั้งแต่ ๒๐-๓๐ มิ.ย.๕๖ เพื่อเตรียมสำหรับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กขช. และห้ามทุกหน่วยรับฝากออกใบประทวนย้อนหลังโดยเคร่งครัด หากพบ จะถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง

    ๕.เพื่อให้ อคส.สามารถรับจำนำได้จนถึงวันที่ ๑๕ ก.ย.๕๖ (วันสิ้นสุดการรับจำนำของโครงการ) ให้จัดสรรให้ทุกหน่วยรับจำนำไม่เกินวันละ ๔๐ ตัน และไม่สามารถสะสมยอดได้

     เนี่ย...ก็สมควรให้ชาวนายกทัพวัว-ควาย และทัพอีแต๋นมาบุกทำเนียบฯ อยู่หรอก ขับเคลื่อนโครงการ ๑๕,๐๐๐ ทุกเมล็ดมาด้วยความเร็ว ๑๕๐ กม./ชม. จู่ๆ ก็เบรกพรวด

    คนที่ทำนาปรัง หวังจำนำหมื่นห้าอยู่เดือนหน้า-เดือนโน้น จะไม่โกรธจนยกทัพมาแหกอกรัฐบาลได้อย่างไร เพราะชาวนาแต่ละคนต่างมีเป้าหมาย ขายได้หมื่นห้ารอบนี้แล้วจะเอาเงินไปทำโน่น-ทำนี่ มันก็พังสลายหายวับไปกับตา!

    หายวับได้อย่างไร...ก็เห็นได้จาก ๕ มาตรการ อคส.บอกไว้ในข้อ ๕ ว่า รับจำนำได้ถึง ๑๕ กันยาก็จริง แต่ยอกย้อนซ่อนเงื่อนไว้ตั้งแต่ข้อ ๑, ๒, ๓, ๔ และ ๕ สรุปชัดๆ ในทางปฏิบัติจากทั้ง ๕ ข้อ คือ

    รัฐบาลหยุดรับจำนำ คือเลิกซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน (๒๐ มิ.ย.) ในทุกราคา!
    ถ้ายึดตามข้อ ๑ ในคำสั่ง จากวันนี้ ถึง ๒๙ มิ.ย. ยังสามารถเอาข้าวเปลือกไปจำนำได้ ๑๕,๐๐๐/ตัน จนถึง ๓๐ มิ.ย. จึงจะเปลี่ยนเป็น ๑๒,๐๐๐/ตัน

    แต่เมื่อดูข้อ ๓ บอกว่า "ปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ ๒๐ มิ.ย. "อ้าว...แล้วแบบนี้ จะให้ขนไปขายกับแม้วที่ดูไบหรือไง เพราะเท่ากับห้ามโรงสีในโครงการรับจำนำไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน

    ยิ่งมาดูข้อ ๔ ให้โรงสีชะลอรับจำนำข้าวเปลือกตั้งแต่ ๒๐-๓๐ มิ.ย. ซึ่งไม่ต้องบอกให้ชะลอหรอก เพราะข้อ ๓ สั่งให้หยุดรับจำนำไปแล้วแต่วาน

    แต่ประเด็นสำคัญคือ ตั้งแต่เมื่อวาน (๒๐ มิ.ย.) ห้ามโรงสี คือทุกจุดรับจำนำ "ออกใบประทวนย้อนหลัง" นั่นเท่ากับตอกย้ำว่า "รัฐบาลไม่รับจำนำแล้ว (โว้ย) เพราะหมดตูดแล้ว (โว้ย)!

    ที่บอกในข้อ ๒ จำกัดวงเงินรับจำนำแต่ละครัวเรือน ครัวเรือนละ ๕ แสนบาท เริ่มแต่ ๒๐ มิ.ย.เป็นต้นไป นั้นไม่มีความหมายเลย ก็จะไปจำนำใครที่ไหนล่ะ อย่าว่าแต่ ๕ แสนเลย ๕ บาท ก็ไม่มีที่จำนำ เพราะข้อ ๓ ให้ปิดโรงสีที่รับจำนำทั้งหมด แถมข้อ ๔ ห้ามออกใบประทวนย้อนหลังอีก

    และข้อ ๕ เป็นการ "ปิดฉากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ด-ทุกราคา" ไปเลย เพราะ อคส.สั่งว่า..."ให้ทุกหน่วยรับจำนำไม่เกินวันละ ๔๐ ตัน และไม่สามารถสะสมยอดได้"!

    ตรงตัว-ชัดเจน นอกจากปิดจุดรับจำนำไปตั้งแต่วานนี้แล้ว ถ้ามีโรงสีไหนตีความคำสั่งนี้ว่า ยังรับจำนำได้ โดยรับไม่เกินวันละ ๔๐ ตัน
    อย่างเก่งมีชาวนาจำนำได้รายเดียว หรือ ๒ ราย ก็ต้องหยุด เพราะแค่นั้นก็จะเกิน ๔๐ ตันแล้ว ส่วนชาวนาที่ขนใส่รถมาเข้าคิวรออยู่ล่ะ...จะทำไง ให้ขนกลับไปงั้นหรือ จะรับจำนำอีกก็ไม่ได้ เพราะ อคส.สั่งชัดเจน "ไม่สามารถสะสมยอดได้"

    สรุปแล้ว "ปิดโครงการรับจำนำ" ทั้งหมด ตั้งแต่เมื่อวาน (๒๐ มิ.ย.) คำสั่ง ๕ ข้อของ อคส.นี้ บอกตรงๆ อ่านแล้วอยากตะโกนถาม...พ่อคุณพ่อทูนหัว มั่วหรือเมาตอนเขียนคำสั่ง?

    แต่จาก "คำสั่งมั่ว" กลับประจานความจริงใสแจ๋ว "เงินหมดคลังแล้ว" เจ้าข้า!.

 

 

21 June 2556 - 00:00

 

http://www.thaipost.net/news/210613/75343


นิทาน ชาวนา กับ งูเห่า .. กลับมาเขย่าขวัญ สั่นประสาท สังคมไทย กันอีกครั้ง ..

20 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 20:19

นิทาน ชาวนา กับ งูเห่า .. กลับมาเขย่าขวัญ สั่นประสาท สังคมไทย กันอีกครั้ง ..

ภายหลังจาก รัฐบาลขี้ขังสมอง ของ ยิ่งลักษณ์น้องรักทักษิณ ประกาศตัวเลขราคารับจำนำข้าว ตัวเลขใหม่ จาก 15,000 บาท ต่อ ตัน รับจำนำทุกเมล็ด มาเป็น 12,000 บาท ต่อ ตัน ไม่จ ำนำทุกเมล็ด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา การขาดทุนจำนำข้าวเน่า และ โยนบาปกรรมการกระทำความผิดทุจริตคอรัปชั่นทั้งหมดทั้งมวล ที่โดนกระแสสังคมรุมสกรัมหนักอยู่ในขณะนี้ ให้ตกไปรวมไว้อยู่บนหัวกระบาลชาวนาผู้ยากจนข้นแค้น .. ทั่วประเทศ !! ..

นี่คือ .. ความทุเรศที่สุด หน้าด้านที่สุด กะล่อนตอแหลที่สุด และ ชั่วช้าสามานย์ สุดๆ จริงๆ !!

ความจริง ชาวนาไม่เกี่ยว จะโครงการจำนำข้าว จะโครงการประกันราคา ชาวนา คือ ผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เรื่องของ ตัวเลขเงิน แต่มันอยู่ที่ระบบที่นำมาใช้ว่า ระบบใดจะแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ตอดเล็กตอดน้อย จากเหล่า พ่อค้า ข้าราชการ นักการเมือง และ ทุนสามานย์ ได้ชะงักกว่ากัน ..

โครงการจำนำข้าว หรือ โครงการประกันราคา มันคือ โครงการประชานิยม ที่รัฐคิดค้นขึ้นมาเพื่อเอาไปช่วยเหลือชาวนาเหมือนกัน มีผลลัพธ์ คือ การขาดทุนเหมือนกัน แต่มันจะแตกต่างกันในเรื่องของ การขาดทุนมาก และ ขาดทุนน้อย และ เรื่องของ เงินที่ตกไปหาปากท้องชาวนาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือ โดนซิกแซกเข้ากระเป๋า .. แก๊งโกงข้าว !!..

คอนเซ็ปต์ ของ ประกันราคา ของ อดีตรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่เขาขาดทุนน้อย แค่ 6 หมื่นล้านบาท ต่อ 1 ฤดูกาลผลิต นั้นเพราะเขา มองไปที่ ชาวนาได้ผลประโยชน์เต็มๆ การโกง การกดราคา การเอารัดเอาเปรียบ มีน้อย ปัญหาข้าวค้างสต๊อกมีน้อย ปัญหาการระบายขายข้าวไม่มี ขายได้ตลอด เพราะขายตามราคาตลาดโลก มันเลยไม่เกิดปัญหาเงินหมุนเวียนในโครงการ หรือ ค่าใช้จ่าย เบี้ยหัวแตก และ การแดกเปอร์เซ็นต์ของพวกข้าราชการ นักการเมือง และ นายทุนสามานย์ เกิดขึ้น..

การจ่ายเงินของ นโยบายประกันราคาข้าว ของ พรรคประชาธิปัตย์ มันดูเหมือนเขาจ่ายให้ชาวนา น้อยกว่า ราคาจำนำข้าว ของ พรรคเพื่อไทย ของ ยิ่งลักษณ์ ของ ทักษิณ แต่จริงๆมันไม่ใช่ นโยบายประกันราคาเขาจ่ายให้เหมาะสมตามราคาตลาด ทั้งตลาดภูมิภาค และ ตลาดโลก มันเลยไม่มีปัญหาอื่นๆตามมา คนขาย หรือ ชาวนาไม่เดือดร้อน คนรับซื้อก็ไม่เดือดร้อน ไอ้พวกที่มัน *** เดือดร้อนในตอนนั้น ก็คือ พวกชาวนาฐานเสียงพรรคเพื่อไทย ที่รับจ้างมาก่อม็อบประท้วงราคาข้าว เพราะโดนปั่นหัวว่าจะให้มากกว่า จะให้มากกว่า จาก ขี้ข้าทักษิณ แต่จริงๆชาวนาไทยทั่วประเทศส่วนใหญ่ เขาพอใจ นโยบายประกันราคากันทั้งนั้น เพราะมันรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ขาดทุน มีเงินหมุนเวียนคล่องตัว ไม่เป็นหนี้เพิ่ม !!..

ต่างกันกับโครงการจำนำข้าว ที่ในอดีตมันก็โกงกินกันสะบั้นหั่นแหลกมาแล้วโครงการระยำนี้น่ะ ไอ้บริษัทที่มันเข้ามาโกงตอนนี้ ในอดีตมันก็เคยโกงมาแล้วในโครงการเดียวกัน แต่รัฐบาลทุนสามานย์ผลาญแดกประเทศชุดนี้ มันก็เอาโครงการระยำจำนำข้าวเน่าพวกนี้ มาประโคมข่าว ขายฝัน เพื่อหาเสียงกับชาวนา เพราะมีผลประโยชน์แอบแฝงร่วมกันกับพวกนายทุนค้าข้าวเจ้าใหญ่ๆ..

ตัวเลขที่ให้มากกว่า คือ ทีเด็ด เพราะคนพวกนี้รู้ดีว่า ชาวนา คิดไม่ทัน คำนวณไม่ทัน กว่าจะรู้ว่าโดนหลอกกัน ก็โดนสวมสิทธิ์ ก็โดนกดราคาหน้าโรงสี ก็แบกรับราคาต้นทุน ปุ๋ย น้ำมัน ค่าจ้าง ที่แพงบรรลัยหูฉี่ และ มีแค่ใบประทวนเอามาถือไว้ต่างเงินอยู่นานหลายเดือน ทำให้เงินหมุนไม่คล่องตัว กว่าจะได้เงินจำนำข้าวกลับมาก็รอเป็นชาติ ต้องไปกู้หนี้ยืมดอกเขามาหมุน ชาวนาที่มีฐานะดั่งเดิมดีอยู่ก็พอไปไหว ..

แต่ชาวนาจนๆทั่วๆไป .. ไม่ไหวก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะดันไปเลือกเขามาเป็นรัฐบาลเอง ..ก็ทนจน ทนเป็นหนี้ ดูทีวี ช่อง 3 เห็นหน้า สรยุทธ ตุ๋นข่าวเช้านี้ โปรโมตรัฐบาล อยากจะอ้วกก็อ้วกไม่ออก เพราะอ้วกออกมาหมดตอนขายข้าวเจ๊งไปหมดแล้ว พอหันไปดูจอแดงแสนรัก เห็นหน้าพวกขี้ข้าทักษิณ แกนนำแดง โผล่หัวออกมาเชลียร์ ยิ่งลักษณ์ ทักษิณ ว่าทำเศรษฐกิจดี ชาวนารวย ชาวนารวย ก็แทบจะเป็นลมม้วยมรณา เพราะว่า .. มันรวยแต่เครือ.. กันไปหมดทั้งประเทศแล้วตอนนี้ !!

ขั้นตอนที่เงินงบประมาณจำนำข้าว มันเทหาย เทหาย ไปจริงๆ มันอยู่ที่ ขั้นตอน การรับซื้อข้าว การกักเก็บข้าว และ การระบายขายข้าว มันไม่ได้อยู่ที่ขั้นตอนการผลิต ที่เป็นขั้นตอนที่ ชาวนาลงทุน ในที่นาของพวกเขา ขั้นตอนที่มีการโกงกินกันมากๆจนทำให้ จำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขาดทุนย่อยยับเกิน 2.6 แสนล้านบาท มันอยู่ที่ขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับ โรงสี โกดัง และ ที่ระบายข้าว ที่ส่งออกข้าว ที่มันเกี่ยวกับ พ่อค้าคนกลาง โรงสี ข้าราชการ นักการเมือง และ ทุนสามานย์พวกพ้องรัฐบาล เข้าไปมีเอี่ยวเกี่ยวข้อง..

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ อย่าไปลดราคาจำนำข้าว เพื่อโยนบาปไปให้ชาวนา และ สร้างกระแสโยนความผิดไปให้เป็นเรื่องของการเมือง ไปโบ้ยว่าเพราะพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านโครงการจำนำข้าว หรือ ไปสร้างอุปาทานเป่าหัวชาวบ้านว่า อำมาตย์ อยู่เบื้องหลัง ไม่อยากให้ ชาวนาร่ำรวย หรือ ไม่อยากให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก ตามที่ยิ่งลักษณ์ ชอบแหกปากพล่ามหลอกลวงชาวบ้านเขา เพราะจริงๆ จำนำข้าว ของ ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ ชาวนารับกรรมนั้น มันออกนโยบายมาเพื่อตอกย้ำทำให้ ชาวนาไทย จนลงๆ หนักกว่าเดิม !!

ชาวนาไทยส่วนใหญ่ของประเทศ คือ ฐานเสียงของ ตระกูลชินวัตร .. อย่าทำตัวเป็น พวกงูเห่า ลืมบุญคุณของพวกเขา ชาวนาเขาไม่เกี่ยว ทางออกของปัญหานี้ ถ้าตระกูลชิน ไม่ขี้ขลาด หรือ ขี้โกง จนเกินไป ควรที่จะลดความหนา ความด้าน ความดันทุรังลงมา แล้วกลับไปหา โครงการประกันราคา แบบที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้ซะ หากบริสุทธิ์ใจจริงต้องกล้าที่จะทำ เพื่อตัดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นของข้าราชการ นักการเมือง และ การเอารัดเอาเปรียบของพ่อค้าคนกลาง โรงสี ..

นี่คือ วิธีช่วยชาวนาที่ถูกต้อง ไม่ใช่ ไปลดราคาจำนำลงมา ปกติ บอกหมื่นห้า ก็รับซื้อเขามาแค่ หมื่นกว่าๆ ตอนนี้มาบอก หมื่นสอง คงรับซื้อเขาจริงๆไม่เกิน แปดพัน เงินให้ชาวนาน่ะลด แต่เงินจะเอามาแบ่งกันโกง แบ่งกันแดก ทั้งในส่วนของ พ่อค้าขี้งก ข้าราชการขี้ฉ้อ นักการเมืองขี้โกง และ ทุนสามานย์ขี้งก ขี้ฉ้อ ขี้โกงนั้น มันไม่มีวันลดกันลงมาหรอก หักเปอร์เซ็นต์เข้าพุงหมาพุงมาร เคยหักเท่าไหร่ ? เคยฉกไปเท่าไหร่ ? มันก็ฉกเอางาบเอาเท่าเดิม หรือ มากกว่าเดิมนั่นแหละ..

บทลิเกชั่วๆ มั่วไปโยนบาปให้ฝ่ายค้าน และ ผลักดันให้ชาวนาไปด่าฝ่ายค้านแทนการด่ารัฐบาลเจ้าของโครงการนั้น หยุดกระทำความระยำสิ้นคิดพวกนี้ได้แล้ว คนเขารู้ทันไปทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ม็อบทุกม็อบโผล่มาหมดแล้ว อย่าให้ม็อบสุดท้ายที่จะโผล่มาเป็น ม็อบชาวนา เลย .. เดี๋ยวจะ ฉิบหาย ดูไม่จืด !!

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝากไปถึงพวกควายแดง ที่แต่งตัวเป็น ชาวนาปลอม ไปป่วนฝ่ายตรงข้ามทั้งหลาย หัดมีสามัญสำนึกกันบ้าง หากยังแดกข้าวกันอยู่นะ ไม่ได้แดกหญ้า โปรดคิดถึงผลประโยชน์ของชาวนาให้มากๆ อย่าเล่นการเมืองแลกเศษเงินไม่กี่บาทอีกต่อไปเลย มันน่าละอาย ..

นี่มันเรื่อง ข้าว นะ ไม่ใช่ เรื่อง หญ้า อย่าทำตัวเป็น วัว เป็นควาย ..

ให้เขาหลอกเสี้ยม ใช้งานอยู่เลย .. มันบาป เข้าใจไหม ??

พวกเครือข่ายชาวนา ฐานเสียงพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน เก็บข้อมูลกลโกงของพรรคการเมืองที่ตัวเอง รักใคร่ ชื่นชอบ ไว้จนล้นโกดัง เหม็นคลุ้งไปทั่ว ก็ยังเสือกจะมามั่วข้อมูลสนับสนุนโครงการหลอกโกงพี่น้องเครือข่ายชาวนาของ ตัวเองอีก หัดมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หลงเหลือเอาไว้บ้าง เป็นขี้ข้านักการเมืองน่ะมันง่าย ไม่ต้องไปสมัคร แค่รับเงินมาป่วนอย่างเดียวก็เป็นขี้ข้าได้แล้ว..

แต่จะเป็น ไท เป็น ชาวนาไทย ที่มีคุณค่า มีจิตวิญญาณ มีศักดิ์ศรี ในวิชาชีพ ชาวนา ของตนจริงๆ..

มันก็ต้องกล้าพูดความจริง และ กล้าที่จะสู้กับ ความไม่ถูกต้อง ความทรยศ คดโกง ของ รัฐ และ นายทุน ..

แม้ว่า เราจะเลือกพวกเขามากับมือ แต่ถ้าเขามาโกงเรา เราก็ต้อง .. ไม่ยอมให้เขาโกง ..

ไม่ใช่ ปล่อยให้เขาโกง เขาหลอก พี่น้องชาวนาของตัวเอง แบบ เต็มใจให้หลอกซ้ำซาก ..

เพื่อแลกกับการเป็น ขี้ข้าทาสบริวาร ฐานเสียง ทุนสามานย์ แบบ มาราธอน ..

มันสะท้อนให้เห็น .. ความเห็นแก่ตัว ความเห็นแก่ได้ ..

ที่ไม่ใช่ คุณสมบัติของ ชาวนาที่ดี และ มีศักดิ์ศรี !!


วินเซนต์ 20 มิถุนายน 2556

 


ประกันรายได้เกษตรกร VS จำนำข้าว

15 มิถุนายน พ.ศ. 2556 - 14:33

ประกันรายได้เกษตรกร VS จำนำข้าว

 

11%2843%29.jpg

 

 

จำนำข้าวกันต่อเนื่องเลยแล้วกันนะครับ

 

สัปดาห์ที่แล้วสรุปให้เข้าใจกันง่ายๆ ไปว่านโยบายสนิมกัดกร่อนประเทศไปเรื่อยๆ รัฐบาลเองเป็นอย่างไร คราวนี้ ก็เริ่มมีประเด็นคนเอาไปเปรียบเทียบกับนโยบายเรื่องข้าวของรัฐบาลชุดที่แล้ว ผิดบ้าง ถูกบ้าง ในฐานะที่ทำงานใกล้ชิดกับหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลก่อน ทางเราขออธิบายประกอบภาพตามนี้เลย

 

ประกันรายได้เกษตรกร : ประชาธิปัตย์ VS จำนำข้าว : เพื่อไทย

 

เปรียบเทียบจำนวนเงินงบประมาณจากภาษีประชาชนที่ใช้ไปกับรายละเอียด โครงการ ดังที่เห็นในแผนภาพ ประชาธิปัตย์บริหารแผ่นดิน 2 ปีกว่า ใช้เงินงบประมาณเรื่องข้าว ปีละประมาณ 6 หมื่นล้าน สองปีก็ 1.2 แสนล้านกว่าๆ ย้ำว่า นี่ไม่ใช่ผลขาดทุน แต่เป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายเงินงบ ประมาณ แต่แท่งใหญ่ด้านขวา เพื่อความแฟร์ เราจึงเอาเลขค่าใช้จ่ายเงินงบประมาณมาเทียบเช่นกัน จะเห็นว่า แค่ 1 ปี 10 เดือนของการบริหารงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ใช้เงินผลาญภาษีประชาชนไปแล้วทั้งสิ้น สูงถึง 6.6 แสนล้านบาท ย้ำว่านี่ไม่ใช่ผลขาดทุน เพราะตัวเลขขาดทุนที่กระทรวงการคลัง รายงานคือ 2.6 แสนล้าน และผลขาดทุนนี้ ก็เยอะกว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่รัฐบาลที่แล้วใช้จ่ายทั้งโครงการด้วยซ้ำไป ลงราย ละเอียดกันดีกว่าครับ

 

พรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 

มีนโยบายเรื่องข้าว คือ “ประกันรายได้เกษตรกร” ไม่ใช่ ประกัน “ราคา” สินค้าเกษตร หลายคนเข้าใจผิดบ่อยครั้งว่าคือสิ่งเดียวกัน แต่หลักการประกัน ราคา คือจำนำนั่นเอง

 

รัฐบาลอภิสิทธิ์มีแนวคิดคือ ปล่อยให้การค้าขายข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด และไทยก็ทำได้ดีเรื่อยมาเป็นแชมป์ ส่งออกข้าว ทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ แต่เราเห็นว่า เกษตรกรยังมีรายได้ต่ำกว่าที่ควรจะใช้ชีวิตอยู่ได้ จึง “ประกัน” ว่าชาวนากระดูกสันหลังของชาติทุกคนจะต้องมี “รายได้” เพิ่ม ขึ้นจากจำนวนข้าวที่ปลูก โดยมีสูตรการคำนวณโดยรัฐ แล้วโอนส่วนต่างตรงเข้าไปยังบัญชีชาวนาผ่านทางธ.ก.ส. ไม่รั่วไหล ไม่ผ่านโรงสี ไม่มีนักการเมืองท้องถิ่นยุ่งเกี่ยว ชาวนาเข้าโครงการแทบทุกคนกว่า 4 ล้านครัวเรือน ใช้งบประมาณปีละแค่ 6 หมื่นล้านบาท และแน่นอน “ไม่มีขาดทุน” เพราะรัฐบาลไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับระบบ การซื้อ-ขายข้าวแต่อย่างใด

 

ที่กล้าพูดว่า นโยบายข้าวของรัฐบาลที่แล้วไม่มีผลขาดทุนเป็นเพราะว่า เราปล่อยให้กลไกการค้าเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ชาวนาปลูกข้าวได้ ก็เอาไปขายโรงสี โรงสีก็มีหน้าที่สีข้าว ให้เป็นข้าวขาวใส่ถุงใส่กระสอบแล้วส่งออกตามปกติ ข้าวไทยคุณภาพดีกว่าก็ขายได้มากกว่า แพงกว่าของประเทศที่ผลิตข้าวได้คุณภาพต่ำ และเราก็ขึ้นชื่อด้านคุณภาพมาช้านาน

 

ขอย้ำอีกครั้งครับว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรนี้ ไม่ได้วุ่นวายกับ “ราคา” ของข้าวแต่อย่างใดเราต้องการแก้ปัญหาข้าว ที่ตัวคนปลูกหรือเกษตรกร เขาปลูกของเขาได้ดีอยู่แล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตาม ธรรมชาติ ไม่ต้องไปแทรกแซงกระบวนการใดทางราคาทั้งสิ้น แต่ที่บอกว่าแก้ปัญหาที่ตัวคน คือ ไปเพิ่มรายได้ให้เขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแทนและการปลดแอกจากการตกเป็นทาส ของนายทุนข้าว ก็จะเป็นผลในอนาคต เมื่อชาวนาลืมตาอ้าปากได้เอง แต่...

 

พรรคเพื่อไทย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

มีนโยบายจำนำสินค้าเกษตรสืบเนื่องมาจากรัฐบาลไทยรักไทย รัฐบาลพลังประชาชน ที่มีผลภาระทางภาษีเรื่อยมา กระทั่งในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังต้องตั้งงบชดเชยจำนำข้าวสมัยรัฐบาลไทยรัก ไทยด้วยซ้ำ แต่ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ครั้งนี้สาหัสที่สุด เพราะดันไปจำนำข้าวทุกเม็ด จนทำให้ ภาระการคลัง ผลาญเงินภาษีปีกว่า บานไป 6.6 แสนล้านบาท หนำซ้ำยังทำลายกลไกตลาดการค้าข้าวของทั้งประเทศ ลดศักยภาพตัวเอง เสียแชมป์ตกไปอันดับ 3-4 ในปีที่ผ่านมาข้าวเน่าเหลือล้นในโกดัง และระบบจำนำข้าวนี้ ทำให้มีผลขาดทุนจากการคำนวณ mark-to-market หรือเทียบราคาให้เป็นปัจจุบัน แล้ว “ขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท” จากตัวเลขกระทรวงการคลังโดยรัฐบาลเอง

 

แต่ที่เป็นปัญหา เพราะกระทรวงพาณิชย์ที่มีหน้าที่ขายข้าวแล้วส่งเงินกลับมาไม่ยอมรับความ จริง เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องถกเถียงอย่างแพร่หลายในวงสังคม เพราะตัวเลขของทุกคนไม่ตรงกันเสียที คลัง พาณิชย์นักวิชาการ อดีตรมว.คลัง และฝ่ายค้าน ต่างมีข้อมูลตัวเลขในมือทั้งสิ้น ฝ่ายรัฐบาลแทนที่จะออกมากล่าวหาว่าคนอื่นมีตัวเลขใส่ร้าย แต่ตัวเองก็ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนชี้แจงเสียที เปลี่ยนตัวคนดูแลตัวเลขจำนำข้าว ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ช่วยอะไร นายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ถึงเวลาก็ไม่เข้าประชุม เหมือนจะสะท้อนกลายๆ ว่า ไม่ได้แคร์หรอกว่า 2.6 แสนล้านที่เป็นผลขาดทุนจากภาษีคนไทยทั้งชาตินั้น อยู่ในมโนสำนึกในความรับผิดชอบของนายกฯ ที่เป็นทั้งประธานนโยบาย และประมุขฝ่ายบริหาร ลอยตัวไปวันๆ แบบนี้ มาตรฐานของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยจะมีแต่ต่ำลงทุกๆ วัน

 

ย้อนกลับไปในหลักการนิดนึงครับ สาเหตุที่บอกตอนต้นว่า หลักการ “ประกันราคา” คือ “จำนำข้าว” นั้นคือ มีการบอกว่า จะรับจำนำ ซึ่งจริงๆ คือ รับซื้อโดยราคาที่ประกันขั้นสูงไว้ที่ 15,000 บาท ดังนั้นนโยบายทางการข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือการเอาข้อเสียของทั้งระบบ “จำนำ” และ “ประกันราคา” มารวมไว้ด้วยกัน โดยไม่สนใจหลักกลไกตลาด และความสามารถในการแข่งขัน...ขอย้ำอีกครั้งครับว่า ของประชาธิปัตย์คือ “ประกันรายได้เกษตรกร”ไม่ใช่ ประกันราคา ไม่ใช่ จำนำ

 

ทั้งหมดที่พยายามอธิบายก็เพื่อให้เข้าใจในพื้นฐานหลักการของสองนโยบายของสอง พรรคใหญ่ก่อน เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขและถกประเด็นกันอย่างถูกต้องในอนาคต ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของชาวนาไทย และเพื่อคนไทยที่เสียภาษีทุกคนได้รู้เท่าทันจำนำข้าว นโยบายสนิมของรัฐบาล

 

 

พัสณช เหาตะวานิช

 

http://www.naewna.co.../columnist/7172