ทีนี้มาเข้าเรื่องกันบ้าง
ในความเห็นของผมน่ะนะ
ปฏิวัติที่ผ่านๆมา ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กบังหรือใครก็ตาม
เขาเน้นหลัก "เมตตาธรรม" มากเกินไป
คือถ้ายึดอำนาจ
ถ้าคุณลงจากอำนาจ แล้วอยู่เฉยๆ
คุณจะยังคงมีทุกอย่าง ยกเว้น อำนาจ เท่านั้น
พาสปอร์ตนายก คุณก็ยังใช้ได้ จนกว่าจะตาย
คุณทำได้ทุกอย่าง ชีวิตเป็นอิสระ
คนที่ถูกยึดอำนาจ
ก็เข้าใจว่า โอเค "แพ้คือแพ้"
ลงจากอำนาจ ก็อยู่เงียบๆ ทำธุรกิจ เลี้ยงหลานกันไป
หรือไป เที่ยวให้รอบโลก ตามแต่ใจอยาก
ไม่กลับมายุ่งกับเรื่องการเมืองอีก
เพราะอะไร
เพราะรู้ว่า "เขาไม่ฆ่ามิง น่ะ บุญหัวแค่ไหนแล้ว"
ทักษิณ ทำให้ การยึดอำนาจ ที่ยึดหลักเมตตาธรรม ใช้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง
เพราะ แพ้ ไม่รู้จักคำว่า แพ้
ไม่รู้ว่า ที่มิงมีลมหายใจ พร้อมครอบครัวลูกเมียมิงได้ทุกวันนี้
เป็นเพราะเขา "เมตตา" เขาไม่ ฆ่า มิง
ทักษิณเข้าใจผิด คิดว่า เขารอดได้ เพราะ เขา แน่
ประกอบกับลิ่วล้อที่เป็นพวกล้มเจ้า ทั้งหลาย เป่าหู ให้สู้
มันก็เลยล้างแค้น จนประเทศลุกเป็นไฟ
คำเดียว
ถ้าทักษิณ ตาย ตั้งแต่วันที่ทำรัฐประหาร
ระดับหัวๆที่อยู่กับทักษิณ ก็จัดการ ไม่ยาก
เพียงเท่านี้ บ้านเมืองก็จะสงบสุข นับหนึ่งกันใหม่
ไม่ใช่อย่างนี้
บ้านจันทร์ส่องหล้า ลูกเมียทักษิณ ยังผยอง เชิดหน้าชูตาในสังคมได้
ไปตั้งม๊อบเผาเมืองได้
นี่คือเมตตาจาก คณะปฏิวัติ
ไม่โดนระเบิด ไม่โดนไฟไหม้บ้าน
รถไม่โดนสิบล้อชน
ยังไม่สำนึก
การปฏิวัติครั้งต่อไป
คงจะไม่มีเมตตาเหมือนเมื่อก่อน เพราะได้บทเรียนอันเจ็บแสบจากพวก หลงตัวเอง อย่างทักษิณ
มันอยู่ที่ว่า
จะเสียเลือดส่วนหนึ่งในวันนี้ เพื่อความผาสุกของชาติในวันหน้า
หรือไม่
เท่านั้น
ไม่ใช่ความเมตตาหรอกครับ....มันเป็นแผน....ไม่งั้นคนทำรัฐประหารจะไปร่วมรัฐบาลได้อย่างไร
- whiskypeak likes this