โอกาสที่สมศักดิ์จะเข้าร่วมขบวนการในฐานะม้าใช้ ก็ คือ เหตุการณ์ในปี 16 เพราะ ในปี 19 คุณแอมป์บอกว่าสมศักดิ์ขึ้นไปอยู่ระดับแกนนำแล้ว
คุณพิงค์จะใช้จินตนาการกับประวัติศาสตร์ร่วมสมัยไม่ได้นะครับ คนในเหตุการณ์ยังมีชีวิตอยู่ พิจารณาจากความพยายามที่ทำมาข้างบน ต้องบอกว่า เป็นเรื่องตาบอดคลำช้างครับ แต่ที่คลำน่ะไม่ใช่ช้าง เป็นหมู
ผมยกตัวอย่างเรื่องเดียวให้พิจารณาก็พอ ไม่อยากทำมาก สงสาร นายชดเล่าว่า เขาถนัดวาดรูป ซึ่งมันโรเนียวไม่ได้ต้องถ่ายเอกสาร
ประโยคนี้ จะเกิดในปี 2516 ไม่ได้
ปีนั้น การถ่ายเอกสารอยู่ในระดับที่ใช้งานมวลชนยังไม่ได้ เพราะต้องใช้กระดาษเคลือบน้ำยา ราคาแผ่นละประมาณ 10 บาท ปีนั้นก๋วยเตี๋ยวชามละสองบาทนะครับ ดังนั้น สมมติฐานที่วางว่า นายชดทำงานกับยัยเหงี่ยมในปี 2516 ก็โยนทิ้งไปได้เลย เพราะคนวิเคราะห์ขาดประสบการณ์จริงในเรื่องราวที่ตนเองดึงมาใช้
ส่วนเรื่องสมศักดิ์เป็นแกนนำ ผมได้อธิบายไว้ในกระทู้ลูกจีน ซึ่งคุณพิงค์คงไม่ได้อ่าน ตอนที่เป็นคำสัมภาษณ์ของแกนนำจากเพาะช่าง ผมบอกว่า สมศักดิ์เป็นแกนนำตามการวางตัวของขบวนการ แต่มันก็ยังเด็กมาก พี่คนนั้นเล่าอย่างสงสารว่า มันนอนหมอบร้องไห้อยู่ข้างๆ แกต้องปลอบว่าอย่าร้อง อายเขา....พี่คนนั้นก็ยังบอกว่าสมศักดิ์กับธงชัยยังเด็กมาก แต่เด็กขนาดนั้นในปี 2519 ก็คือแกนนำในการตัดสินชีวิตของมวลชนนะครับ (อ่านบทความคืนที่ยาวนานฯ ในกระทู้นั้นได้)
มี 2 ประเด็นที่ต้องขออนุญาตทำความเข้าใจให้ตรงกัน
1) ขอบคุณกับคำแนะนำที่บอกว่าดิฉันจะใช้จินตนาการกับประวัติศาสตร์ร่วมสมัยไม่ได้ ดิฉันวางสมมุติฐานว่าเหตุการณ์ที่นายชดเล่าใน 10 บรรทัดนั้น อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 16 โดยอาศัยพื้นฐานจากการวิเคราะห์ของคุณแอมป์ในความเห็นที่ 198
สมศักดิ์เป็นประธานนักเรียนสวนกุหลาบ และเป็นคนทำหนังสือรุ่น สมานมิตร 17
เลขต่อท้ายบ่งบอกว่า ในปี 2516 ที่จีรนันท์/เสาวณีย์เป็นสองโฆษกให้การเดินขบวน
สมศักดิ์ยังใส่ขาสั้นเรียนที่สวนฯอยู่เลย
บทบาทของเขาก็คือ เลิกเรียนเดินมาสนามหลวง เข้าไปในธรรมศาสตร์ ร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษา ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ สองทุ่มก็กลับบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ทำอย่างเดิน ....ไม่มีที่ให้เด็กนักเรียนเข้าไปรับรู้อะไรในวันนั้น นอกจากนั่งที่สนามฟุตบอล แจกน้ำ อาหาร วิ่งเป็นม้าใช้....ห่างไกลจากห้องประชุมแกนนำมากมาย
และข้อมูลของคุณแอมป์ในความเห็นที่ 316 ที่ระบุว่าใน ปี 18 สมศักดิ์ได้กลายเป็นแกนนำแล้ว
เสาวณีย์และจีรนันท์ เป็นโฆษกคู่ของขบวนการนักศึกษา 14 ตุลา 16
วันนั้น สมศักดิ์ยังนุ่งขาสั้นอยู่สวนกุหลาบ ยังเรียนทฤษฎีมาร์กซิสต์จากเอกสารโรเนียวอยู่เลย
กว่าจะมาเป็นแกนนำธรรมศาสตร์ ก็ปี 2518 ตามรอยพิเชียรและธงชัยที่มาสร้างฐานไว้ให้
เวลา 2-3 ปีในช่วงนั้น มีนัยยะสำคัญจนเอามาเล่าปนกันไม่ได้
เมื่อเอา การวิเคราะห์ของคุณแอมป์และข้อมูลที่คุณแอมป์ให้มา ทำให้ดิฉันได้ตั้งสมมุติฐานว่าเหตุการณ์ที่นายชดเล่าไว้ใน 10 บรรทัด อาจจะเกิดขึ้นในปี 16 เอาเป็นว่าที่ดิฉันอ้างอิงเอาไว้ไม่ชัดเจนเอง จนทำให้คุณแอมป์ต้องมาวิเคราะห์แก้การวิเคราะห์ของคุณแอมป์เอง
2) เมื่อคุณแอมป์มาวิเคราะห์ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่นายชดเขียนเล่าไว้ใน 10 บรรทัดในความเห็นที่ 104 ไม่สามารถเกิดในปี 16 ได้ ดังนั้น คงเหลือเพียงสมมุตฐานเดียว คือ เป็นเหตุการณ์ช่วงปี 19 คำถามที่เกิดขึ้นคือ แกนนำเด็กแต่เป็นเด็กที่คุณแอมป์บอกว่าเป็นแกนนำตัดสินชีวิตของมวลชนได้ จะต้องเดินมาของานฝ่ายเอกสารทำหรือ ??? จะต้องสถาปนาตัวเป็นม้าใช้ให้พวกพี่ๆ ที่ทำเอกสารหรือ ทั้งๆที่ได้รับการโปรโมตไปอยู่ระดับแกนนำไปแล้ว
อย่างน้อยตอนนี้เราก็สามารถตัด choice ไปได้แล้วว่าเหตุการณ์ที่นายชดเล่าไว้ น่าจะเป็นเหตุการณ์ของปี 19 จุดบอดของเรื่องเล่าตอนนี้คือ บทบาท ของสมศักดิ์ในช่วงปี 19 ซึ่งกลายเป็นแกนนำไปแล้ว ตอนนี้ดิฉันเชื่อว่า เพื่อนๆก็คงพิจารณาความสมเหตุสมผลของเรื่องเล่าของนายชดตามข้อมูลที่ปรากฎในกระทู้ลูกจีนเนรคุณ แล้วว่าสมเหตุสมผลมากน้อยเพียงใด
ท้ายที่สุดทุกคนรอจิกซอร์สำคัญตัวสุดท้ายจากนายชด เพื่อจะได้สรุปปิดกระทู้นี้ว่าว่า สมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง จริงหรือไม่ และ นายชดเล่าเรื่องโกหกใน 10 บรรทัดแรกของความเห็นที่ 104 หรือไม่ ซึ่งนายชดควรจะมาพร้อมหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่านายชดเองไม่ได้โกหกได้แล้ว การพิสูจน์ความจริงที่ตัวเองพูดมันง่ายแสนง่าย และไม่มีใครที่จะเสียหายจากการที่นายชดสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวนายชดพูดจริงไม่ได้พูดโกหก ถ้าจะมีคนเสียหายก็แค่สมศักดิ์เจียม ที่จะต้องอับอายขายขี้หน้าเพราะปูมหลังได้ถูกขุดคุ้ยว่า เป็นเพียงเด็กซื้อโอเลี้ยง
- wewe, Yasuhiro, ใจหมาอำมหิต` and 1 other like this