รูเฝอ ไม่นับ เพราะอับปัญญาสม่ำเสมออยู่แล้ว...
แต่ปลาอ้อ นี่ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าจะโง่ และอับปัญญา มากกว่าที่คิด
ที่ลากดำนาก็โชว์คะวาย แต่งนิทานหลอกแฟนคลับไปวันๆ
เอาความจริงมาคุย มาถามก็ดันทำมองไม่เห็น ปล่อยกระทู้ตกซะงั้น
เดี๋ยววันหลังจะตั้งกระทู้ประจานซะที ดีไหมละ ปลายอ้อ 555++
เอาเรื่องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แล้วกันครับ เห็นคะวายชอบเห่ากันจัง
ว่าตั้งโดย คมช.
28 ก. พ.51 เชี่ยแม้วกลับเมืองไทย ที่มาก้มกราบเหยงๆ ให้เป็นเสนียดจันไรแผ่นดินไทยนั่นแหละ
สตอนนั้น สมัคร เป็นนายกแล้ว
มีนาคม 51 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดปัจจุบันได้รับการสรรหา
28 พ. ค.51 มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งฯ
มิ. ย.51 เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ฯ เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
แล้วมันมีช่วงไหนที่เกี่ยวข้องกับ คมช. ว่ะ ปลายกะดอ...
เมื่ิอวานผมตอบคุณในพันทิป..เป็นคอมเม้นท์ที่ยาวมากสำหรับผม ที่เคยตอบ
แต่ถูก "ลบ"ไป ซึ่งผมก็เข้าใจได้ว่า admin ไม่อยากให้ทะเลาะกัน
คณเล่านิทานให้ผมฟัง ผมก็เล่าเรื่องราชสีห์กับหมู..ให้คุณได้ฟังบ้าง
เรื่องเป็นอย่างนี้...เรื่องมีอยู่ว่า
วันหนึ่ง ราชสีห์เที่ยวหาอาหารกินอิ่มแล้วได้มาดื่มน้ำที่สระนั้น ขณะนั้นมีหมูป่าอ้วนตัวหนึ่งเที่ยวหากินอยู่ริมสระนั้นพอดี
ราชสีห์พอเห็นหมูนั้นแล้วก็นึกในใจว่า
"สักวันหนึ่ง เราจะมาจับหมูตัวนี้กิน แต่ถ้ามันเห็นเรา มันจะไม่มาที่นี่อีก"
เพราะกลัวหมูนั้นเห็น จึงหลบไปเสียอีกทางหนึ่ง
ฝ่ายเจ้าหมูตัวนั้นพอเห็นราชสีห์แอบไปข้างหนึ่ง กลับคิดว่า
"ราชสีห์ตัวนี้กลัวเรา พอเห็นหน้าเราแล้วก็วิ่งหลบหนีไป วันนี้เราจะต่อสู่กับราชสีห์ตัวนี้ละ"
มันชูหัวร้องเรียกราชสีห์ให้มาต่อสุ้กันว่า
"สหาย เราก็มี ๔ เท้า ท่านก็มี ๔ เท้าเหมือนกัน กลับมาสู้กันก่อนเถิด ท่านกลัวเราหรือจึงวิ่งหนีไป"
ราชสีห์พอได้ฟังคำท้าของหมูป่านั้นก็พูดขึ้นว่า
"เจ้าหมูป่าเพื่อนเกลอ วันนี้เราไม่สู้กับท่านหรอก แต่อีก ๗ วัน เรามาสู้กันที่นี่ก็แล้วกันนะ"
ตกลงกันตามนั้นแล้วก็กลับเข้าป่าไป ฝ่ายเจ้าหมูป่ารู้สึกเบิกบานใจที่จะได้ต่อสู้กับราชสีห์ จึงเรื่องนี้กลับไปเล่าอวดพวกพ้องเป็นการใหญ่
พวกหมูป่าตกใจด่ามันว่า
"เจ้าหมูอ้วนบ้า เจ้าหาเรื่องฉิบหายมาให้พวกเราเสียแล้ว เจ้าไม่เจียมหัวกบาลตัวเอง ไปท้าสู้กับเจ้าไพร ราชสีห์จะมาเขมือบพวกเราก็ครั้งนี้ละ"
มันพอทราบว่าเป็นความผิดร้ายแรงที่ไปท้าสู้กับราชสีห์ก็กลัวตาย ถามว่า
"แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีละท่านทั้งหลาย" พวกหมูป่าจึงแนะนำมันว่า
"เพื่อนเอ๋ย เจ้าจงไปที่ถ่ายอุจจาระของพวกฤาษี แล้วเกลือกตัวด้วยอุจจาระ ปล่อยให้แห้งติดตัวสัก ๗ วัน พอถึงวันที่ ๗ ก็เกลือกตัวให้ชุ่มด้วยน้ำค้างตอนเช้า แล้วไปยืนอยู่เหนือลมก่อนราชสีห์จะมา ชีวิตเจ้าจะรอดมาได้" มันได้ทำตามนั้น
ในวันนัดต่อสู้ ราชสีห์พอมาถึงได้กลิ่นตัวหมูป่านั้นก็พูดขึ้นว่า
"เจ้าหมูป่าเพื่อนเกลอ ท่านช่างคิดหาชั้นเชิงได้ดีมาก หากท่านไม่เปื้อนอุจจาระ เราจะเขมือบท่านเสียตรงนี้แหละ เราขอยอมแพ้ ให้ท่านเป็นฝ่ายชนะก็แล้วกัน" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"สุกร..เจ้าเป็นสัตว์สกปรก มีขนเหม็นเน่า มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไป สหาย... หากท่านประสงค์จะสู้กับเรา เราขอยกชัยชนะแก่ท่าน"
ว่าแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว
เจ้าหมูป่าก็รีบกลับไปบอกถึงชัยชนะของตนแก่พวกพ้อง แล้วก็พากันอพยพหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวราชสีห์จะมารังควาญ
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
ในท้ายที่สุด ผมสรุปไว้ประมาณ 4 ข้อ (จำไม่ได้แล้ว) แต่ข้อสดท้ายประมาณว่า
"ตอนนี้ ไม้ที่ผมถือ มันยังสั้นเกินไป แต่ผมพยายามต่อไม้ให้ยาวกว่าเดิม เพื่อจะ "รัน"กับคุณ
คุณศร
ผมจำได้ว่า ผมไม่เคยใช้คำหยาบคายอะไรกับคุณนะ
เพราะเห็นกระทู้แรกที่ท้าท้ายผม
ผมดูว่าก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี ผมก็ให้เกียรติ แม้จะต่างความคิด
จึงไม่อยากตอบ เพราะผมรู้ว่า ความเห็นไม่เหมือนกัน ..ก็ไม่ว่ากัน
ต่างคนต่างแสดงความเห็น..ว่ากันไป
ที่พูด มิใช่มาเรียกร้องคำสุภาพใดๆนะครับ
คุณกับผม ไม่รู้จักเป็นส่วนตัวกันอยู่แล้ว