ท่านสรุปความให้ฟังว่า หลังจากมีข่าวเผยแพร่ว่าอีป้่า จะเดินทางออกนอกประเทศในไฟลท์ของท่าน
มีผู้ใหญ่โทรมาหาด้วยความหวังดี ว่าท่านควรจะป่วยหรือติดธุระ ให้ไปทำการบินไม่ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นเผือกร้อนที่ต้องรับปัญหา และเป็นข่าวโดยไม่จำเป็น
ในวันเดินทาง ขณะที่นั่งรถรับส่งลูกเรืือไปยังเครื่องบิน ท่านได้สอบถามหัวหน้าพนักงานต้อนรับ และผู้จัดการเที่ยวบินว่า มีใครได้รับทราบข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับป้าท่านนี้บ้าง
และมีลูกเรือท่านใด ได้รับการอบรม การจัดการกับบุคคลวิกลจริตในเที่ยวบินหรือไม่
หลังจากเดินทางมาถึงเครื่อง ระหว่างการตรวจสอบเครื่องบินและ เตรียมการบิน พนักงานภาคพื้นได้รับคำไหว้วานจาก ตม. ให้มาสอบถามว่า จะมีอีป้า ไปกับเที่ยวบินนี้ด้วย กัปตันจะรับหรือไม่ ถ้ารับจะให้ ตม.พาผ่านช่องทางพิเศษมาที่เครื่องเลย โดยมีผู้จัดการเที่ยวบิน หัวหน้าพนักงานต้อนรับ และนักบินที่สองอาวุโส ได้ยินรวมทั้งหมดสี่คน
ท่านตอบกลับไปว่า ผู้โดยสารท่านนี้ เป็นบุคคลวิกลจริตจริงหรือไม่ ถ้าเป็นขอเอกสารยืนยัน ถ้าไม่เป็นขอใบรับรองแพทย์ยืนยันอีกเช่นกัน
เนื่องจากมีข่าวออกทางหน้าหนังสือพิมพ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารท่านอื่น ท่านต้องมั่นใจในผู้โดยสารที่จะเดินทางไปในไฟลท์ ว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารท่านอื่น
และท่านยังพูดเพิ่มเติมอีกว่า ตามข่าวที่เกิดขึ้นผู้โดยสารรายนี้ มีพฤติการณ์ที่ไม่บังควร หมิ่นเหม่ต่อกฎหมายและศีลธรรม ซึ่งผู้โดยสารที่ตามข่าวสารสามารถรับรู้ได้โดยทั่วไป
เพื่อเป็นการยืนยันต่อผู้โดยสารท่านอื่นๆ ท่านขอให้ทางตำรวจ ทำเอกสารยืนยันเป็นลายยลักษณ์อักษรว่า ป้าคนนี้ ทำจริงหรือไม่จริง มีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ และการส่งตัวออกนอกประเทศจะขัดต่อกฎหมายข้อใดหรือไม่
ปรากฎว่า หลังจากพนักงานภาคพื้นนำคำกล่าวของท่านไปบอกต่อคนไหว้วาน แล้วก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีก
ทั้งนี้ ท่านพูดชัดเจนว่า เพื่อความปลอดภัยของเที่ยวบิน ถ้าไม่สามารถยืนยันได้ ท่านไม่ขอบินเที่ยวบินนี้ มีท่าน ไม่มีป้า อยากให้ป้าไป เรียกคนอื่นมาบินแทนผม
แต่ถึงท่านอื่นมาทำแทน ก็มั่นใจได้ว่า ไฟลท์นี้มีปัญหาแน่ เพราะพนักงานต้อนรับทั้งไฟลท์นี้ ไม่สามารถทำการบินกับผู้โดยสารวิกลจริตได้.....
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ท่านได้เขียนรายงานตามจริงส่งต่อผู้บังคับบัญชาแล้ว
ผมเสนอท่านว่า จริงๆควรให้ป้ามาที่เครื่อง จะได้เห็นตัวเป็น ไม่ใช่แค่มาแต่เสียงลอยลม
ท่านบอกว่า ถ้าเป็นแบบนั้น คนที่จะซวย คือพนักงานภาคพื้นที่รับเช็คอินให้ป้า และ ตม.ตัวน้อยๆที่ถูกส่งมาพาเข้าเครื่อง
ตัวใหญ่ๆ คนสั่งการ ก็นอนสบายเหมือนเดิม เพราะทุกอย่างมาปากเปล่า คนปฏิบัติที่จะโดนสอบสวน
และ หลังจากเหตุการณ์ พนักงานภาคพื้นได้ถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอให้ไปให้ปากคำ ซึ่งพนักงานภาคพื้นวันนั้น ได้ให้ปากคำว่า ไม่เคยถามเรื่องจะให้ป้าไปหรือไม่
แต่ทางท่านกัปตันเอง มีพยานบุคคล สามคนที่ได้ยินกับหู
นี่แหละครับเมืองไทย รีบกลบขี้ ลบรอยกันใหญ่....
เขามาเป็นกระบวนการ ทำแล้วหนี ทำบ่อยๆ ทำให้คนชาชิน แล้วต่อไปก็ทำหนักขึ้นเรื่อยๆ
.
.
เท่าที่ผมได้มีโอกาสสนทนากับท่าน ท่านเป็นผู้ใหญ่ อารมณ์ดี ใจเย็น พูดเพราะ สุภาพ และตอบคำถามได้หลักแหลมมาก
โชคดีที่มีคนไทยดีๆ ไม่ท้อแท้ แม้ระบบจะบิดเบี้ยว
ท่านยังฝากมาบอกว่า ใจเย็นๆ ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ อะไรที่คดงอ สุดท้ายจะแพ้ภัยตนเอง
Edited by zeedzaad, 10 August 2012 - 15:20.