พูดถึง อนิเมะญี่ปุ่นแล้วขอ เอาการ์ตูนอนิเมะฝีมือคนไทยมั่งว่าผมอยากให้เอามาเป็นตลาดหลักเหมือนกันนะประมาณว่าลายเพส้นอนิเมะเนื้อเรื่องคนไทย และปรับในแบบคนไทย มีเรื่องไรมั่งจะเอามาให้ดูละ ถ้าทําได้จริงการ์ตูนไทยคงไม่ได้ติดหล่มแต่วรรณคดีไทยหรือตัวละครสามมิติ ธรรมดาๆ นะคงจะมีสีสันขึ้นกว่าแต่เดิมแน่ เพราะมีจินตนาการทําเรื่องใหม่ๆมากขึ้น
executional
send back
orge king
ของเนชั่นนะ
พยันต์
และเรื่องนี้ หาชื่อไม่ได้แต่ก็ลงใน jiroนะ
และยังมีอีหลายเรื่องนะ ของทั้งสองค่ายเนี่ยรู้สึก โคว์ต้าเล่มแบบสุดสัปดาห์ของการ์ตูนไทยจะลงได้สัปดาห์ละเรี่องสัปเปลี่ยนกันไป
คลื่นอันร้อนแรง 'การ์ตูนไทยยุคใหม่'
โดย : ปริญญา ชาวสมุน
จากสื่อเพื่อความบันเทิงในสายตาผู้คน กลายมาเป็นสื่อที่สร้างวัฒนธรรมและแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่ได้
วันนี้ 'หนังสือการ์ตูนไทย' พิสูจน์ให้บรรณพิภพเห็นแล้ว ด้วยพื้นที่บนแผงเป็นกิจลักษณะตลอดจนกระแสนิยมซึ่งมากขึ้นทุกขณะจิต
แม้ความเชื่อในอดีตของผู้คน 'หนังสือการ์ตูน' จะเป็นเพียงสื่อชั้นสอง ชั้นสาม ถูกตีค่าราคาให้เป็นเพียงสื่อบันเทิงเริงใจประเภทหนึ่งเท่านั้น แต่ด้วยเหตุใด วันนี้หนังสือการ์ตูนไทยที่ใครๆ ก็ว่าไม่น่าจะไปรอด ได้พุ่งทะยานสู่การยอมรับในวงกว้าง หนังสือซึ่งเคยหาแผงวางไม่ได้ กลับกลายเป็นหนังสือที่ยึดครองพื้นที่แผงได้เด่นชัด มิหนำซ้ำยังสร้างกระแสความคลั่งใคล้ได้ในวงกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นนักเขียนการ์ตูนไทยหลายคนเก่งกาจถึงขนาดไปสร้างชื่อเสียงละบือไกลถึงเมืองนอกเมืองนา
อะไรคือแรงผลักดันให้การ์ตูนไทยไปได้ไกลถึงเพียงนี้ จุดประกายวรรณกรรม มีคำตอบจากปากเซียนการ์ตูนไทย คนหนึ่งคือ ทรงศีล ทิวสมบุญ นักเขียนการ์ตูนผู้เบิกทางวงการการ์ตูนไทย เจ้าของผลงาน ถั่วงอกกับหัวไฟ, Improvise, Nine Live ฯลฯ อีกคนคือ ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี บรรณาธิการนิตยสารการ์ตูนไทย LET'S COMIC นิตยสารที่เปิดทางให้นักเขียนการ์ตูนได้มีเวทีปล่อยของ ที่สำคัญนี่คือแหล่งเพาะพันธุ์นักเขียนการ์ตูนร่วมสมัยคุณภาพเยี่ยมแห่งหนึ่ง
0ทรงศีล ทิวสมบุญ วิเคราะห์วงการการ์ตูนไทย
ตอนนี้วงการการ์ตูนไทยมีพัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้นนะครับ มีกิจกรรม มีสปอนเซอร์ มีกลุ่มคนติดตามมากขึ้น เรียกว่าน่าจะเป็นยุคที่เรากำลังพัฒนาไปสู่จุดที่น่าจะมีอะไรตื่นเต้นมากกว่านี้ ในหลายๆ ปีหลังจากนี้
0ย้อนไปในอดีต มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ?
อย่างแรกที่มองเห็นได้ชัดเลย ผู้ผลิตหนังสือหรือสำนักพิมพ์ นายทุนอะไรต่างๆ มีความกล้าที่จะลงทุนกับงานลักษณะนี้มากขึ้น เพราะเป็นงานที่มีกลุ่มคนติดตามอย่างจริงจัง บางครั้งยอดขายของการ์ตูนหรือนิยายภาพในปัจจุบันมากกว่าหนังสือบางแนวที่เราคิดว่าเป็นหนังสือ mass อีกนะ หลายๆ สำนักพิมพ์ก็เพิ่งรู้ข้อมูลนี้ และกล้าลงทุนมากขึ้น เรียกว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หลายคนก็มองเห็นจุดนี้
0เพราะสังคมเครียด การเสพการ์ตูนจึงมากขึ้น ?
ผมคิดว่าเป็นเพราะรูปแบบสังคมของเราตอนนี้ ข่าวสารค่อนข้างมาก และเราก็มีเวลากับบางอย่างน้อยลง เพราะสื่อมีมากขึ้น เพราะฉะนั้นการอ่านการ์ตูนซึ่งทำให้ย่อยง่าย และใช้เวลาสั้นๆ ก็อ่านได้ เหมือนการอ่านเฟซบุ๊ค มันค่อนข้างเหมาะกับวิถีชีวิตของคนยุคสมัยนี้
0จุดเด่นของการ์ตูนไทย ?
ผมคิดว่ามันไม่ได้อยู่ที่รูปแบบ ไม่ได้อยู่ที่ฟอร์ม ไม่ได้อยู่ที่ลายเส้น แต่อยู่ที่เนื้อหาซึ่งจะมีแนวคิดแบบคนไทย แน่นอนว่าเราเป็นเมืองพุทธ เรามีขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมบางอย่าง ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ คาแร็กเตอร์ก็จะผ่านคนเขียนลงไปในการ์ตูน แม้ว่าลายเส้นจะเป็นญี่ปุ่น เป็นฝรั่ง แต่เนื้อหาก็จะมีการกระทำของตัวละคร เหตุการณ์อะไรก็ตาม จะมีความเป็นไทยๆ อยู่
0จุดอ่อน ?
ถ้าเป็นจุดอ่อน คิดว่าตรงนี้เป็นเหมือนดาบสองคม คือเป็นได้ทั้งข้อดีและข้อไม่ดี ในทางหนึ่งมันเป็นจุดอ่อนคือระบบเราไม่แข็งแรง การ์ตูนที่ได้รับความนิยมปุ๊บ ถ้าเป็นเมืองนอกจะมีของเล่นตามออกมา เป็นแอนิเมชั่นตามออกมา คือระบบได้เตรียมรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าในบ้านเราพอได้รับความนิยมปุ๊บ ก็จะยังนิ่งๆ อยู่ สปอนเซอร์ก็ยังงงๆ กลุ่มผู้ผลิตของเล่น ผลิตสินค้าอื่นๆ ก็ยังงงๆ อยู่ ยังไม่รู้ว่าตรงนี้มูลค่าเอาไปทำงานอื่นๆ ได้
0ทำให้คนเขียนการ์ตูนต้องทำอย่างอื่นตามมาเอง ?
ใช่ เราต้องทำงานหนักขึ้น เราต้องคุยกับสปอนเซอร์เอง เราไม่มีเอเจนซี่ ไม่ระบบนั้นเลย ทุกอย่างต้องตรงมาที่นักเขียนเลย
0อะไรที่วงการการ์ตูนไทยยังต้องการ ?
ผมคิดว่าเราต้องการความเข้าใจและการมองเห็น คือถ้าเข้าใจปุ๊บว่างานลักษณะนี้มีคุณค่า และมองเห็นว่าจะร่วมงานได้อย่างไรบ้าง เราไม่ต้องการการสนับสนุนชนิดที่โยนเงินมาให้ แต่เราต้องการการร่วมงานกัน เพราะเราทำงานกันได้เองอยู่แล้ว ต้องการถ้ามีลักษณะโครงการอะไรที่เหมาะสมก็ชวนไปร่วมงานกัน ผมว่าน่าจะเหมาะ
0มองนักเขียนการ์ตูนไทยรุ่นใหม่อย่างไร ?
ตอนนี้มีนักเขียนเรามีนักเขียนที่ทำงานด้านภาพได้ดีเยอะพอสมควร แต่ก็อยากให้ทุกคนขัดเกลาเรื่องเนื้อหาให้มาก เพราะเนื้อหาเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การ์ตูนมีคุณค่าและอยู่ในกาลเวลาได้ยาวนาน
0คิดอย่างไรต่อทัศนคติของคนที่มองการ์ตูนว่าไร้สาระ ?
อาจจะมีบางกลุ่มที่เป็น old school ที่ยังรู้สึกว่ามันยังเป็นเรื่องไร้สาระอยู่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ครับ เพราะทุกวงการก็จะมีทั้งน้ำดีและน้ำเสีย แต่ตอนนี้ผมคิดว่าการ์ตูนไทยค่อนข้างจะมีน้ำดีเยอะกว่า
0การ์ตูนไทยจะก้าวไปได้ขนาดไหน ?
ไม่มีขอบเขตนะครับ ถ้าต่างประเทศทำได้เท่าไร เราก็จะทำได้เท่านั้น ถ้าเกิดเราทำให้ถูกว่าจะทำอย่างไร
0สุดท้ายก็จะวนมาที่คนสนับสนุน และสังคมแวดล้อม ?
ใช่ครับ โดยตัวเนื้อหาตอนนี้มีงานที่ดีๆ อย่างงานที่จะแปลไปต่างประเทศได้ มีอยู่เต็มเลย แต่ก็ต้องรอจังหวะเวลาและอะไรหลายๆ อย่าง
0แฟนคลับนักเขียนการ์ตูนไทยเยอะไหมครับ ?
เยอะนะครับ เดี๋ยวนี้นักเขียนการ์ตูนบางคนเวลาไปงานอะไรกัน ถ้าเราดูไกลๆ จะนึกว่ามีวงดนตรีหรือดารามานะ เพราะจะมีคนต่อคิวยาวเหยียด มันมียุคแบบนั้นเกิดขึ้นมาแล้วครับ ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ
0เป็นอย่างนี้นานหรือยัง ?
ผมคิดว่าเป็นหลายๆ ปีหลังจากนี้ครับ พเราะเรามีหนังสือ มีการ์ตูน และมีนักเขียนเยอะขึ้นด้ววย คนอ่านก็คงรู้สึกสนุกสนาน ครึกครื้นที่จะติดตาม
0แนวโน้มในอนาคต ?
ตรงนี้ขึ้นอยู่กับหลายๆ ส่วนในวงการ อย่างพวกเรา นักเขียนการ์ตูน ตัวผมเองและคที่รู้จัก ทำงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยส่วนตัวผมวางแผนไว้ได้สองถึงสามปีเลยว่าจะมีอะไรออกมาบ้าง และจะมีกิจกรรมอะไรตามออกมาบ้าง ซึ่งก็ขึ้นยู่กับผู้สนับสนุนหรือกลุ่มต่างๆ จะกระตือรือร้นไปกับเราด้วยหรือเปล่า
0ในระบบความเชื่อของสังคมไทยที่ว่านักเขียนการ์ตูนมักจะไส้แห้ง จริงไหม ?
ทุกอาชีพจะมีคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องปกติ การ์ตูนไทยก็เหมือนกัน หลายๆ ครั้งมันขึ้นอยู่กับคุณภาพด้วย ผมเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จและทำเป็นอาชีพได้โดยที่ไม่มรู้จักทำว่าไส้แห้งแล้ว ต้องมาด้วยงานที่มีคุณภาพ คนที่งานดีๆ หลายๆ คนออกจากงานออฟฟิศ ออกจากงานโฆษณา ออกจากงานอะไรก็ตาม เพื่อจะทำแบบนี้อย่างเดียว เพราะชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่า อิสระกว่า
0หมายความว่าอนาคตการ์ตูนไทยยังสดใสอยู่ ?
ถ้ารู้ว่าจะอยู่กับมันอย่างไร และทำให้ถูก ผมว่าคำว่าไส้แห้งมันค่อนข้างเชยแล้ว
0จุดเด่นที่บอกไปตอนแรก คือ แก่นเรื่อง แล้วลายเส้นการ์ตูนไทยล่ะ ?
ก็ยังสามารถพัฒนาได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าตอนนี้นักเขียนการ์ตูนไทยทำงานเองแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ หนึ่งเรื่องนี่ทำคนเดียวทั้งเรื่องเป็นส่วนใหญ่ เราไม่มีทีมงาน ไม่มีระบบแบบนั้น ก็จะทำให้ต้องทำงานหนักพอสมควร คุณภาพงานก็อาจจะลดลงนิดหน่อย
0ต่างประเทศมีทีมงาน ?
มีครับ เป็นเรื่องปกติ เขียนเรื่องไปเลยคนหนึ่ง ลงสีคนหนึ่ง วาดคนหนึ่ง แต่ตรงนี้ก็เป็นข้อดีในทางกลับกัน คือมันทำให้งานมีเอกลักษณ์เพราะเป็นการตัดสินใจของนักเขียนร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าเราทำให้ดีตรงนี้ก็กลายเป็นจุดแข็งได้เหมือนกัน
ต่อไปถึงทีของฝ่ายบรรณาธิการบ้าง มุมมองจากผู้ผลิตจะแตกต่างจากผู้ควบคุมการผลิตอย่างไร โปรดติดตาม...
เรามีโอกาสพบ ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี ในงานมอบรางวัล LET'S AWARD ครั้งที่ 2 จึงอดไม่ได้ที่จะคว้าตัวเขามาชำแหละความในใจให้ได้รู้กัน
0ทำไมต้องมอบรางวัลให้นักเขียนการ์ตูนไทย ?
ผมรู้สึกว่านักเขียนการ์ตูนของไทย สิ่งที่ขาดไป คือไม่ค่อยมีสื่อหรือกระแสอะไรสนใจเท่าไร อาจเพราะมันเพิ่งตั้งต้น เพิ่งเริ่ม อาจเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ไม่เยอะ ผมมองว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นนะ อันดับดับแรกคือการที่ธุรกิจนั้นไปได้ เราต้องทำให้คนเห็นก่อนว่าเรามีศักยภาพแค่ไหน การเปิดตัวออกมาทำอะไรที่มากกว่าทำหนังสือ ผมมองว่ามันช่วยได้เยอะมากพอๆ กับทำคุณภาพงานออกมาให้ดีเลย อีกจุดหนึ่งผมมองว่ามันน้อย แทบจะไม่เคยเห็นการมอบรางวัลการ์ตูนไทยเท่าไร หรือถึงจะมีก็เป็นงานเชิงกราฟฟิก งานเชิงศิลปะ แต่นี่เป็นงานการ์ตูน ภาพประกอบ ผมมองว่ามันอาจจะเป็นสื่อที่ใหม่ไปหน่อย คนจึงไม่ได้ให้รางวัลมัน
0การ์ตูนเป็นสื่อใหม่หรือ ?
ที่ผมบอกว่าใหม่คือการที่มันมีพัฒนาการมา ตอนนี้เหมือนว่ามันผสมผสานการ์ตูนญี่ปุ่น ผสมผสานกับวัฒนธรรมกับหลายๆ ประเทศเข้ามา ความร่วมสมัยหรือการ์ตูนไทยที่ร่วมสมัยมันหายไปนานมาก มันเพิ่งกลับมาเมื่อประมาณไม่ถึงสิบปีนี้เอง ที่การ์ตูนไทยร่วมสมัยเริ่มมีคนกลับมาทำมากขึ้น นอกเหนือจากที่แต่ก่อนเราจะมองว่านักวาดการ์ตูนอยู่ไม่ได้ หรืองานสายอาชีพการ์ตูนไม่ค่อยมีคนรู้จัก ตอนนี้เริ่มมีนักวาดการ์ตูนที่ทำเงินได้
0วิเคราะห์วงการการ์ตูนไทย ?
มันอยู่ในช่วงที่บูมขึ้นมานิดหนึ่ง คนเริ่มสนใจกัน มันเหมือนกับอะไรที่หายไปนาน คนก็ต้องมองเห็นช่องทางว่า มันหายไปนานต้องมีใครลองเล่นมันบ้างสิ ซึ่งความจริงมันมีมาเป็นพักๆ แล้วครับ มีเล่มนู้นเล่มนี้ลองมาเล่นแล้วก็หายไป เพียงแต่ว่า Let ทำแล้วมันอยู่ได้นานกว่าที่ใครคิด ทำให้เห็นว่ามันพัฒนาขึ้น มันเติบโตขึ้น จากยุคแรกๆ ที่ง่อย เราสามารถทำหนังสือ จัดงานได้ มีพื้นที่บนแผงหนังสือชัดเจน คนก็เริ่มหันมาเห็น ทำให้คนในวงการการ์ตูน เด็กๆ เริ่ม ในยุคผมจะมีแต่คนวาดลอกดราก้อนบอล แต่เดี๋ยวมีคนก็อปลายเส้นตามเดอะดวง ผมว่ามันดีนะ เหมือนกับวัฒนธรรมของเรากลับมาอีกครั้งหนึ่ง
0แปลว่าการ์ตูนไทยพัฒนาขึ้นไหม ?
จะเรียกว่าพัฒนาขึ้นไหมก็ไม่เชิง อาจเหมือนกับว่ามีจุดยืนมากขึ้น เหมือนมีที่ให้เขาลง ผมมองว่าเรื่องการพัฒนาเป็นขั้นต่อไป พอเราอยู่ได้โดยมั่นคงแล้ว ค่อยมองว่าเราจะทำอย่างไรให้มันขึ้นไปอีก ณ ตอนนั้นเราพยายามหาจุดยืนให้นักเขียนการ์ตูนอยู่ได้โดยมั่นคงในอาชีพก่อนครับ
0เราเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้นักเขียนการ์ตูนยึดอาชีพนี้ได้ ?
ใช่ครับ นี่เป็นจุดประสงค์หลักของสำนักพิมพ์เราที่คิดไว้ตั้งแต่แรก เราไม่อยากทำสำนักพิมพ์ที่โตแต่สำนักพิมพ์ เราอยากให้ไปด้วยกัน สำนักพิมพ์ก็อยู่ได้ นักเขียนก็อยู่ได้ เพราะไม่งั้นสักวันหนึ่งมันก็จะล้ม ถ้าสำนักพิมพ์อยู่ได้แต่นักเขียนอยู่ไม่ได้ คุณภาพงานก็จะไม่เดิน หรือถ้านักเขียนอยู่ได้แต่สำนักพิมพ์อยู่ไม่ได้ก็เหมือนกัน ความเป็นกลุ่มก้อนก็จะไม่มี
0ตลาดการ์ตูนไทยโตขึ้นหรือไม่ ?
ผมเชื่อว่าโตขึ้นนะ ดูจากผลประกอบการ ดูจากการตื่นตัวของหลายๆ เจ้า หลายสำนักพิมพ์แต่ก่อนไม่เคยทำการ์ตูนไทย เขาก็ลงมาเล่นการ์ตูนไทยกัน หรือบางที่ที่เคยทำการ์ตูนไทยอยู่แล้วก็ลงมาทำให้ชัดเจนขึ้น ออกอมาในรูปแบบของเล่มที่ดูดีขึ้น แต่ถ้าเทียบกับตลาดของต่างชาติก็ยังเล็กกว่าเขาอยู่
0อนาคตตลาดการ์ตูนไทยเป็นอย่างไร ?
ผมมองว่าน่าสนใจนะ มันต่อยอดได้เยอะมาก ผมมองว่าไม่ใช่แค่การ์ตูน มันเป็นเรื่องของเรื่องราว คาแร็กเตอร์ พอคนจำคาแร็กเตอร์อย่างของเดอะดวง จำตัวละครของเขาได้ มันเอาไปขายอย่างอื่นได้อีก เอาไปทำตุ๊กตา ทำเสื้อได้ ถ้ามันเติบโตได้ดีจริงๆ ในยุคนี้ทำอย่างเดียวอาจไม่สนุก อยู่ยาก อาจทำหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน และอาจทำให้น้องๆ หลายคนมีต้นแบบ ทำให้เขามองเห็นว่าการที่เขาอยากทำแบบนี้มีช่องทางอย่างไรให้เขาทำได้
0อะไรที่ทำให้การ์ตูนไทยได้รับความนิยม ?
พอเราทำให้สายส่งเขาเชื่อว่าเราออกหนังสือได้มีคุณภาพ ตรงต่อเวลา มียอดขายดี ก็จะเริ่มมีแผงวาง คนก็เริ่มเห็น เขาก็จะรู้ว่ามันขายตรงนี้ ก็กลับมาซื้อตรงนี้ ถ้าอยากขายก็มาวางอยู่ด้วยกัน ความเป็นกลุ่มก้อนทำให้ตลาดการ์ตูนไทยเดินไปได้ ถ้าเป็นแต่ก่อนต้องยอมรับว่ามันไม่ต่อเนื่อง งานเรานานๆ จะเห็นการ์ตูนไทย บางทีก็แทรกอยู่กับการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วก็หายไป นี่คือเราสร้างจุดยืนมันขึ้นมาใหม่ และเติบโตขึ้น ความจริงมันจะเติบโตขึ้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่ว่านี่ทำให้คนเห็นว่ามันเติบโตขึ้น
0ผู้บริโภคการ์ตูนไทยคือกลุ่มไหน ?
ผมว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่รักงานศิลปะนิดหนึ่ง คือคนจะชอบมองว่าคนที่รักงานศิลปะเป็นคนกลุ่มเล็ก ซึ่งแต่ก่อนมันเล็กจริง แต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ คือเป็นยุคที่ต่อให้คนกลุ่มเล็กแค่ไหน ถ้าเราจับกลุ่มเขาได้จะเป็นคนที่มีพลังได้
0คุณภาพของนักเขียนการ์ตูนไทยเป็นอย่างไร ?
นักเขียนการ์ตูนไทยเก่งๆ มีมานาน เพียงแต่ว่าสิ่งที่ขาดไปคือพวกองค์กรที่ส่งเสริมให้งานเหล่านี้ดูดีขึ้น อย่างเราจบศิลปะมาจะรู้ว่าจะจัดวางอย่างไรให้งานออกมาดูดี เราจะจัดงานนิทรรศการอย่างไรให้ตรงกลุ่ม บางบริษัทผู้บริหารไม่ได้จบมาโดยตรงก็อาจไม่เข้าใจทีเดียว หรือบางทีเข้าใจ แต่เป็นคนละแบบ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมตอบโจทย์กลุ่มคนที่อ่านหนังสือผมได้เต็มที่
0ปัจจุบันยังมีคนมองว่าการ์ตูนไร้สาระ ?
เป็นเรื่องธรรมดาครับ การ์ตูนมีดีกับไม่ดี หนังก็เหมือนกัน ก็มีห่วยมีดี เพียงแต่ว่ายุคนี้คนอายุ 20-30 เติบโตมาด้วยการ์ตูน คนเหล่านี้จะเข้าใจว่าการ์ตูนก็เหมือนสื่ออื่นๆ มีดีมีเลว มีสาระมีไร้สาระ ในอนาคตต่อไปถ้าเราเติบโตต่อไปเรื่อยๆ ทัศนคติต่อการ์ตูนน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ
0ความนิยมการ์ตูนบ่งบอกว่าคนไทยกำลังเครียด ?
บางทีผมทำการ์ตูนก็รู้สึกนะว่าเราจะทำให้คนขี้เกียจอ่านหนังสือหรือเปล่า แต่จริงๆ ผมก็ไม่เชื่อนะ อย่างผมอ่านการ์ตูนเยอะก็จริงแต่ผมชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน การคิดว่าถ้าเขาอ่านการ์ตูนจะเป็นคนขี้เกียจอ่านหนังสือ เผลอๆ ต่อให้เขาไม่อ่านการ์ตูนก็ไม่อ่านหนังสืออยู่แล้ว เพียงแต่ว่าการที่เขาอ่านการ์ตูนมันเป็นจุดเริ่มต้นนะให้เรารักการอ่าน ต่อไปพอเราเจอเรื่องราวที่น่าสนใจ ก็เหมือนการ์ตูนแหละเพียงแต่ไม่มีรูป ถ้าเราทำงานให้คุณภาพดีจะส่งเสิรมการอ่านมากกว่า
0วงการการ์ตูนไทยขาดอะไร ?
ความต่อเนื่องครับ ยังเป็นสิ่งที่เราต้องทำต่อไป ถ้าเราสำรวจดู การ์ตูนญี่ปุ่นออกมาสม่ำเสมอมาก แต่ละปี นักเขียนออกมากันรายสัปดาห์ แต่ของไทยยังทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะด้วยต้นทุน ด้วยยอดพิมพ์ที่มาก ของเรายังไม่ก้าวไปสู่จุดนั้น ทำให้การ์ตูนไทยออกเฉลี่ยต่อเดือนยังน้อยอยู่ถ้าเทียบกับเขา เพียงแต่เราหาจุดยืนด้านเอกลักษณ์งานได้ คือ คุณภาพได้แล้วแต่ปริมาณยังไม่ได้
และเรื่องของการจัดกิจกรรมส่งเสริมก็จำเป็น แบรนด์ของการ์ตูนไทยไม่ได้มีการสร้างมานานมาก เราควรทำให้สำนักพิมพ์พัฒนาไปพร้อมๆ กับนักเขียน
0ใครจะมีส่วนทำให้เรื่องนี้เป็นจริง ?
ทั้งนักเขียนเองด้วย นักเขียนก็ต้องเข้าใจสำนักพิมพ์ แต่ก่อนเราจะเห็นว่าสำนักพิมพ์เปลี่ยนนักเขียนบ้าง เราก็ต้องเปิดใจ นักเขียนต้องมั่นใจสำนักพิมพ์ สำนักพิมพ์ต้องมั่นใจนักเขียน เราทำงานด้วยกัน ไปด้วย เราต้องขึ้นเวทีด้วยกัน มันต้องทำอย่างนั้นให้ได้
ความสามัคคีจำเป็นมาก ไม่ใช่แค่กับหนังสือ กับประเทศเราด้วยครับ0
http://www.bangkokbi...34198/news.htmlอื่นๆก็นี่เลยครับ
http://www.skyscrape...=508228&page=11
Edited by phat21, 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 13:36.