ความรู้ใหม่ครับ ที่แค่เอารั้วหนามไปล้อม โดยที่เขมรก็ไม่ได้เซ็นตกลงว่าให้ล้อม
แล้วศาลโลกจะใช้กฎหมายปิดปาก โดยถือว่าไม่ค้าน=ยอมรับ
ก็น่าคิดดีครับว่าทนายไทยจะเอาจุดนี้ยื่นให้ศาลหรือไม่
เอาเป็นว่ารอดูศาลโลกตัดสินกันดีกว่า นอกประเด็นไปแล้ว
สรุปว่า ต้องสู้กันวุ่นวายแบบนี้ ให้นพดลบริหารร่วม2ประเทศไปก็จบแล้ว
เห็นด้วยไหมครับ ???
เอามาให้ยังจะมาถามอีกหรือครับว่าทนายไทยเอาจุดนี้ยื่นให้ศาลหรือไม่ หรือไม่คิดจะอ่านกันมิทราบ
นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการชี้แจงต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ กรณีที่กัมพูชายื่นต่อศาลโลกให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราวบริเวณปราสาท พระวิหารว่า นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ในฐานะผู้แทนไทย ได้ชี้แจงใน 5 ข้อ ประกอบด้วย
1.ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลกปี 2505 อย่างครบถ้วน
2.คำ พิพากษาของศาลโลกเป็นเรื่องของอธิปไตยเหนือตัวปราสาท ไม่ใช่เส้นเขตแดน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมากัมพูชายอมรับเส้นขอบเขตของพื้นที่ใกล้เคียง ปราสาทพระวิหาร ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2505 เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว อีกทั้งยังนิ่งเฉย ไม่ได้ทักท้วงใดๆ มามากกว่า 40 ปีแล้ว
3. ไทยต้องการอยู่ร่วมกับกัมพูชาอย่างสันติ และพัฒนาความสัมพันธ์บนพื้นฐานของความร่วมมือและความไว้เนื้อเชื่อ ใจกัน จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะสร้างควมขัดแย้งกับกัมพูชา
4.ไทยไม่ ได้เป็นฝ่ายเริ่มให้เกิดการปะทะ ไม่ว่าจะเป็นเดือน ก.พ.2554 ที่ปราสาทพระวิหาร และเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ปราสาทตาเมือนและตาควายด้วย แต่ไทยจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง เพื่อปกป้องอธิปไตยและพลเรือนไทยที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของ กัมพูชา และ
5.กัมพูชาต้องการดินแดนที่จะใช้เป็นพื้นที่กันชนใน การจัดการปราสาท พระวิหารเพื่อให้กระบวนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดย สมบูรณ์
http://www.ryt9.com/s/tpd/1161104
แล้วไม่คิดตอบคำถามนี้หรือครับ ไทยปฏิบัติตามคำพิพากษาอย่างไร
ส่วนเรื่องนพดล ก็ไปทำแถลงการณ์ร่วมใหม่ให้ถูกขั้นตอนก็สิ้นเรื่อง

กรณีที่คุณบอกผมมาว่า
"เอามาให้ยังจะมาถามอีกหรือครับว่าทนายไทยเอาจุดนี้ยื่นให้ศาลหรือไม่ หรือไม่คิดจะอ่านกันมิทราบ"ผมไปอ่านดู ลิ๊งที่ให้ผมมาอ่าน
มันเป็นเรื่องข่าวของวันที่ 1 มิถุนายน 2554 ....มีข้อความว่า "ทีมทนายแจงศาลโลกไม่มีอำนาจตีความคำพิพากษา-เขตแดน ชี้ขัดกับแนวปฏิบัติ"
แต่อีกข้อความก็กลับปรากฏคำว่า... "นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ในฐานะผู้แทนไทย ได้ชี้แจงใน 5 ข้อ"
Ok ยังไม่เท่าไรครับ ยังมีคำว่า "ทนาย"
แต่ที่ผมจะโวยคุณคือ.... ว่านั่นเป็นบริบทตอนที่ไทยเรายื่นคัดค้าน กรณีกัมพูชายื่นต่อศาลโลกเมื่อ 28 เม.ย. 2554 โดยที่กัมพูชายื่นขอ...
1) ตีความคำพิพากษาที่ศาลโลกตัดสินไปเมื่อปี 2505 เพราะกัมพูชามองว่าไทยยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลที่ให้ถอนกำลังออกจากปราสาทพระวิหาร
และพื้นที่ใกล้เคียงปราสาท และ
2) ให้พิจารณาออกมาตรการชั่วคราวเพื่อใช้ก่อนที่ศาลจะตีความคำพิพากษาเสร็จ
ที่มา http://www.facebook....152365191500356และก็ตามผมมากัน ไปดูข้อมูลกระทรวงไทยกันอีกที http://www.mfa.go.th...37.php?id=2736213. ข้อมูลและหลักฐานที่ไทยนำไปชี้แจงต่อศาลโลกเมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคมที่ผ่านมามีความหนักแน่นเพียงพอหรือไม่
การนั่งพิจารณาของศาลโลกเมื่อวันที่ 30-31 พฤษภาคม 2554 เป็นการพิจารณาคำขอของกัมพูชาให้ศาลมีคำสั่งออกมาตรการชั่วคราวเป็นหลัก อย่างไรก็ดี ในการชี้แจงของฝ่ายไทยต่อศาลโลก คณะดำเนินคดีของไทยก็ได้มีการกำหนดประเด็นที่จะกล่าวต่อศาลอย่างเป็นระบบและครอบคลุมในทุกประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาหยิบยกขึ้น โดยเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ตัวแทนของประเทศไทยกล่าวในภาพรวมเกี่ยวกับนโยบายและท่าทีของไทย และบริบททางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยย้ำความสม่ำเสมอและต่อเนื่องของท่าทีไทย รวมทั้งความจริงใจในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งไทยไม่มีเหตุผลอันใดที่จะสร้างความขัดแย้งกับกัมพูชา ขณะที่ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ 3 คนชี้แจงในประเด็นเกี่ยวกับขอบเขตของคดีและเขตอำนาจของศาล ทั้งกรณีคำขอมาตรการชั่วคราวและคำขอตีความคำพิพากษา โดยให้เหตุผลว่าคำขอทั้งสองไม่อยู่ในเขตอำนาจของศาล เนื่องจากไทยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาเมื่อปี 2505 แล้ว จึงไม่ได้มีความเห็นต่างระหว่างสองฝ่ายที่จะต้องตีความอีก ส่วนปัญหาเรื่องเขตแดน ศาลก็มิได้ตัดสินไว้ในคำพิพากษาเดิม อีกทั้งไทยกับกัมพูชาก็ได้ตกลงที่จะเจรจาจัดทำหลักเขตแดนตลอดแนว รวมถึงบริเวณปราสาทพระวิหารแล้ว โดยลงนามในบันทึกความเข้าใจปี 2543
นอกจากนี้ ที่ปรึกษากฎหมายของไทยยังได้นำเสนอข้อวิเคราะห์เกี่ยวกับคำขอมาตรการชั่วคราวของกัมพูชา โดยได้ชี้ให้ศาลเห็นว่า คำขอของกัมพูชาไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้ อาทิ ต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนและส่งผลกระทบต่อสิทธิของฝ่ายหนึ่งอย่างไม่อาจเยียวยาได้ อีกทั้งการที่กัมพูชาขอมาตรการชั่วคราวโดยอ้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นที่ห่างจากปราสาทพระวิหาร คือ ปราสาทตาเมือนและปราสาทตาควาย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับการตีความในคดีหลัก ศาลจึงไม่ควรพิจารณาออกมาตรการชั่วคราวตามที่ฝ่ายกัมพูชาร้องขอ และด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่กล่าวมา ฝ่ายไทยขอให้ศาลยกคำร้องของฝ่ายกัมพูชาผมสรุปให้ว่า ข้อมูลhttp://www.ryt9.com/s/tpd/1161104 ของคุณSolidus เป็นการไปคัดค้านศาลโลกรับคำร้องก็แค่นั้นเอง
ดังข้อความ "คำขอตีความและคำขอมาตรการชั่วคราวนั้นอยู่นอกเขตอำนาจของศาลโลก และคำพิพากษาเมื่อปี 2505 ให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่บริเวณรอบตัวปราสาทถือเป็นความผูกพันครั้งเดียว ซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามแล้ว รวมทั้งไทยไม่ได้โต้แย้งอำนาจอธิปไตยเหนือตัวปราสาทพระวิหาร ไม่มีความเห็นต่างในเรื่องนี้" (นอกประเด็นนิด ถ้าผู้อ่านเข้าไปอ่านให้หมด จะเข้าใจที่ผมเคยบอก ว่าไทยกลัวการยื่นของเขมร)แต่ต่อมา ศาลโลกก็ไม่ได้รับฟังคำค้าน ร.บ.เด็กหนุ่มไทยติงต๊องเลย เพราะศาลโลกได้ออกคำสั่งมาตรการชั่วคราว 18 กรกฎาคม 2554 เพราะต่อมาจากนั้น จนวันที่ 18 กรกฎาคม 2554 ... ศาลโลก มี “คำสั่งมาตรการชั่วคราว” (ยังไม่ได้ตีความคำพิพากษาที่ศาลโลกตัดสินไปเมื่อปี 2505)
ที่มา http://www.learnkhme...php?topic=903.0 http://forum.seritha...php?f=2&t=39617 แต่ที่ผมคุยกัน กับ Solidus ตอนแรก เรื่อง
"รมตไทย2505 นำรั้วหนามไปล้อม เขมรก็ไม่ได้ท้วงกว่า40ปี"การคุยกันตอนนั้นมันเป็นบริบทของเรื่องที่ศาลโลกจะตัดสินชี้เขตแดน หรือศาลจะชี้องค์ประกอบนัยยะของการยอมรับแผนที่ของกันและกันอย่างไรแล้วผมก็บอกว่า ทนายไทยจะหยิบประเด็นรั้วหนามนี้ ยกไ
ปต่อสู้เรื่องเส้นเขตแดน หรือไม่ยกไปสู้ ก็คอยดูทนายไทยตอนนั้นกัน
เพราะไทยเราอาจจะมีข้อมูลเด็ดกว่า จึงไม่ต้องหยิบยกข้อนี้ก็เป็นได้
สรุปว่า ข้อมูล http://www.ryt9.com/s/tpd/1161104ที่ Solidus ยกมาโต้ผม น่ะมันคล้ายกัน แต่มันเป็นคนละเรื่องเลย
เห็นไหมว่าการมั่วบรรทัดเดียว นี่ทำให้ต้องเหนื่อยขนาดไหน ผมว่านี่คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการถกกันเลย
หรือว่าใช้วิธีการ Search กูเกิ้ลได้ปุ๊ป พอเห็นประโยคมันคล้ายๆกัน ก็หลับหูหลับตาเอามาโพสปั๊ปแถมอันเก่า Solidus นี่ก็ยังอธิบายไม่ได้ ว่า "การยื่นการดำเนินการล้อมรั้วของไทย ตาม มติ ครม 2505" แค่ส่งกลับไปให้ศาล เท่ากับเขมรยอมรับแผนที่ L7017ไทย ได้อย่างไร ในเมื่อไม่ใช่การเซ็นตกลงกันระหว่าง 2 ประเทศ ส่วนการล้อมรั้วแล้วเขมรไม่ค้านนี่น่าสนใจว่าศาลจะตัดสินอย่างไร เพราะไม่ได้ล้อมรั้วตลอดเขต L7017ด้วย (อันนี้ไม่ต้องแย้งผมกลับอีกแล้วนะ... นอกประเด็น .. รอดูศาลโลกกัน) หรือRepทั้งหมดนี้ ท่อนไหนผมอาจเข้าใจผิด ใครคนอื่นก็ช่วยชี้แจงหน่อย