NoOaK

สุเทพจะตกม้าตายก็เพราะข้อเรียกร้องให้ตั้งสภาประชาชนนี่แหละ

 

เป็นความคิดที่เพ้อฝันเกินจะทำได้

 

พรรคพวกเพื่อนผมถึงแม้ต่อต้านแม้วแต่หลายคนก็คิดว่าสภาประชาชนมันทำไม่ได้

 

การตั้งสภาประชาชนนั้นมีแต่จะทำให้ปัญหาไม่จบ

 

เพราะควายแดงคงไม่เอาด้วยแน่นอน

 

พวกมันคงออกมาปฏิวัติกันบ้างละทีนี้ วุ่นวายไม่จบเหมือนเดิม

 

ผมคัดค้าน ไม่เห็นด้วยกับการตั้งสภาประชาชน

 

เพราะมันเป็นไปไม่ได้

 

ให้นายกยุบสภาเท่านั้นคือทางเลือกที่ดีที่สุด

 

เอาการเลือกตั้งเป็นตัววัดใจคนไทยทั้งประเทศเลยดีกว่า

 

ถ้าทำให้พรรคควายแดงแพ้เลือกตั้งได้ ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายลงเยอะมาก

^

^

ดีใจที่มีส่วนทำให้ท่านไม่เอาโอ๊ค "เผยตัว" ฮับ  ฮิฮิ

YES แดงนี้เป็นแดงที่ผมรักหนักหนาแบบเข้าเส้นเสียด้วย ดีใจจริงๆ

วันนี้ขอให้ชนะ ยิงให้พรุนเลยนะ หงส์แดง อิอิอิ

กับคนเลวๆเยี่ยงนี้ผมเห็นว่าสมควรแล้วที่าออกไป

ตัวอักษรที่ตกไป คือ

กับคนเลวๆเยี่ยงนี้ผมเห็นว่าสมควรแล้วที่ลาออกไป
อย่าไปบริการเลยครับ จะเป็นมลทินชั่วลูกสืบหลาน
มันสมควรหรอที่ปล่อยให้มีการคุกคามน้องแอร์แบบนี้เกิดขึ้น
ถ้าปล่อยไปแบบนั้น บ้านเมืองจะมีขื่อมีแปตรงไหน
ที่สำคัญควรแจ้งตร.จับพ่อมันด้วย

เพื่อนๆในบอร์ดคงจำกันได้ ผมเลือกปชป. ส่วนแม่ผมแดงอ่อนๆ แต่รักทักษิณยิ่งชีพ
อย่างไรก็ตามผมก็ไม่เคยทะเลาะกับแม่ คุยกับแม่ได้ว่าทำไมรักทักษิณ ตามหลัก "รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง"
แม่เล่าให้ผมฟังหมดว่ากองทุนหมู่บ้านกลายเป็นแหล่งเงินกู้ของวงศาคณาญาติอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านยังไง
แล้วเงินนั้นไม่เคยตกถึงมือ "คนที่ไม่ใช่พวก"

ช่วงก่อนเลือกตั้งแม่ผมเถียงหัวชนฝาว่านโยยาบต่างๆของทักษิณต้องทำได้แน่นอน "คุณทักษิณเขาเก่ง"
ผมก็ยกทุกโครงการที่มันทำเจ๊ง แต่แม่บ่เจื้อข้อย

พอหลังน้ำท่วมแม่เริ่มเสียงอ่อนลง ไม่ชมเพื่อแม้วเหมือนก่อน
แต่ก็ยังไม่เคยชม "อภิสิทธิ์"
โปรดสังเกต คนที่แก้ตัวว่าไม่แดง มักเรียกแม้วว่า "คุณทักษิณ" และเรียกมาร์คว่า "อภิสิทธิ์" เฉยๆ
ไม่เรียกท่านทักษิณก็เพราะ "กลัวมันชัดเกินไป")

ทีนี้เมื่อวันก่อน ผมถูกเรียกให้เข้าประชุมกับอาจารย์สส.ผุสดี ตามไท โดยมีคุณอภิสิทธิ์แลกเปลี่ยนนโยบายอยู่หัวโต๊ะ
โดยเป็นการประชุมระดมปัญหาและความคิดจากหลายๆหน่วยงาน
(ตอนแรกผมนึกว่าคนจะเป็นร้อย แต่เอาจริงมีไม่กี่สิบคนเองครับ เพราะที่ประชุมจะแบ่งเป็นองค์คณะๆไปในแต่ละวัน)
เพื่อช่วยกันแสดงปัญหาของประเทศและออกความเห็น
คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะนำเอาทั้งหมดที่เราคุยกัน "ร่างนโยบาย 10 รากฐานของประเทศไทย"

แม่โทรมาหาผมว่ากำลังจะไปไหน ผมก็บอกว่าจะไปทำอะไร
แม่ผมพูดขึ้นมาเลยทันที "ระวังนะ พรรคนั้นเขาจะหลอกลูกไปร่างนโยบายโจมตีพรรคฝ่ายตรงข้าม"

ประโยคของแม่ทำให้ผมสะท้อนใจได้เลยทันที...ว่าปัญหาแตกแยกในประทศของเราแก้ไม่ได้แล้วละครับ
เพราะคนกลุ่มหนึ่งในประเทศ ถูกฝังรากความเกลียดและความระแวงไปแล้วเรียบร้อย
เป็น toxic mind หรือ "จิตเป็นพิษ" ที่ใช้ยาขนานใดก็ "รักษาไม่ได้"

ผมอาจมองโลกแง่ร้ายเกินไป เลยต้องเอามาถามเพื่อนๆเสรีไทย
คิดว่าปัญหานี้มันจะแก้ได้ไหมครับ


ส่วนเรื่องที่ 2 ที่ผมอยากเล่าสู่ให้เพื่อนๆฟังคือ
ขณะที่คุณอภิสิทธิ์รับฟังความเห็นและปัญหาอย่างตั้งใจมาก จดทุกอย่าง ถามคำถาม
ผมสังเกตว่า เขายังอธิบายให้ฟังด้วยว่าไอเดียนี้ถ้านำไปปฏิบัติจริงจะเกิดปัญหาอย่างไร ต้องคิดแนวทางป้องกันล่วงหน้าอย่างไรบ้าง
ผมก็เลยนึกถึงการที่มีคนต่อว่าคุณอภิสิทธิ์ "คิดช้า"
แต่ที่จริงเขาไม่ได้คิดช้าครับ เขาคิดข้ามช็อตไปจนจบกระบวนการแล้ว มันถึงดูช้า


เรื่องที่ 3 ระหว่างที่นั่งประชุมกันอยู่ประมาณ 3 ชม.ครึ่ง (จนผมหิวหน้ามืด)
ผมก็คิดถึงเรื่องนายกปู รัฐบาล และการโหวตโน
นายกปูจะทำแบบ"พวกเขา" ที่นั่งอยู่กับเราแล้วรับฟังความเห็นรวมทั้งซักถามอย่างตั้งใจหรือ?
หรือถ้าเราโหวตโนไปแล้วเท่ากับเราไม่ได้นักการเมืองคนไหนมาเลย มันช่วยอะไรกับปัญหาประชาชนได้งั้นหรือ?


เล่าสู่กันฟังกับพี่น้องเสรีไทยแต่เพียงเท่านี้ครับ

จริงๆผมมีคำถามส่วนตัวอยากถามถึง "มหาศาสดา" มากกว่า

คำถามเงินล้านเลยนะคำถามนี้

"ใครคือซ้อเจ็ด!!!???"

พวกคุณอาจจะ โกรธ เกลี่ยด หนูเบนซ์ น๊ะค๊ะ ที่ขัดเเย้ง กับพวกคุณ

อาจจะว่า.... หนูเบนซ์ ตอเเหล เลว

เเต่ลอง ไตร่ตรองดู สิ่งที่ หนูเบนซ์ เตือน บอก ไปเนี่ย สุดท้าย เป็นผลดีกับ พวกคุณ เเละเว็บนี้ หรือเปล่า???

อย่ามาดัดจริตเลย (ผู้หญิงจริงรึป่าวยังไม่รู้เลย แต่การพิมพ์ขี้โม้ กะแหนะหะแน อวยศาสดา นี่พฤติกรรมคุ้นๆกับใครน๊า) ขัดแย้งหรือเห็นต่างนะไม่มีใครว่าหรอก ลองดูหลักฐาน ความจริงที่คนอื่นเสนอ แล้วลองเปรียบเทียบดูว่าจริงไหม ไม่ใช่กะจะเลียโดยไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ แล้วการตอบแบบฟลัดกระทู้นะเลิกๆซะทีเถอะ เห็นแล้วน่ารำคาญ

ความจริงคืออะไร? ความจริง คือสิ่งที่ พวกคุณชอบ สิ่งที่พวกคุณเชื่อหรือ?

ถ้า หนูเบนซ์ โพสต์อวย ท่านปิ๊สิด พวกคุณจะด่า หนูเบนซ์ ไหม???

เชื่อว่าพวกควายแดงมันถ่อยของจริง ภาพก้อมีปรากฎอยู่ หรืออะไรปิดหูปิดตาถึงมองไม่เห็น
ไม่จำเป็นต้องเชียร์หรอก นี่ก้อยังไม่เคยพิมพ์เชียร์อภิสิทธิ์เลย ยิ่งนายกขวัญใจควายแดง ยิงรัก ยิ่งไม่เคยเชียร์

ผมได้อ่านกระทู้
พิษรถคันแรก ออกดอกแล้ว

ผมเห็นประเด็นและวิธีน่าสนใจ นั้นคือการที่ภาครัฐจะอนุมัติการจ่ายข้าวแทนเงินในทุกๆกรณี ...........

เงินเดือนละ 15000 บาท จ่ายเป็นข้าว 1 ตัน(วันสิ้นเดือนกรุณานำรถกะบะไปทำงาน)

ค่าแรงรายวัน วันละ 300 บาท จ่ายเป็นข้าว 20 กิโลกรัม

เวลาเราจ่ายเงินให้เด็กๆไปโรงเรียนก็ให้ข้าวไปแทน วันละ 7.5 กิโลกรัม เด็กๆจ่ายให้ ขสมก เป็นค่ารถเมลล์ครั้งละ 3 ขีด

ฯลฯ

เราจะไม่กังวลเรื่องไซโล เก็บข้าวอีก ผมนึกถึงเงินคืนเรื่อง รถคันแรก 100 000 บาท ที่รัฐบาลบอกไม่มีเงิน


.........หากใช่วิธีผม จ่ายคืนไปเป็นข้าว 7-8 ตัน

เห็นไหมง่ายๆ

เท่านี้ไม่เกินมีนาปีหน้า ทุกไซโล เราจะว่าง

จริงใจแนะนำครับท่าน

ผมว่า โค้ก มันหวานไปนะ ... พยายามแล้ว แต่ถ้าเป็น โค้กแคน ก็ซ่าใช้ได้ ทำให้ลืมความหวานไปได้หน่อย

บิ๊กโคล่า ไม่อร่อยเลย น้ำท่วมปีทีแล้ว ทั้งเซเว่นมีแต่ บิ๊กโคล่า โอ้ย หลอนๆ


สไปร์ท พอได้ แต่แสบท้องชิปเป๋ง

ส่วนตัวชอบ เป๊ปซี่ทวิส แต่ไม่เห็นมีขายเลยวุ้ย = =

ขออ้างอิงข้อของคุณพระฤาษีความแต่ไม่โคเต้นะครับ(อิอิ)

เนี่ยล่ะครับคือสิ่งที่ผมมองว่าคือเอาความมักง่ายมาทำลายแบบทดสอบ

เพราะเมื่อก่อนจะแต่งกลอนได้ต้องนั่งคิดหาสัมผัศตามฉันทลักษณ์กันหัวแทบแตก

เพราะฉนั้นการที่คน 1 คน จะผ่านบททดสอบแห่งการเป็นกวี ต้องคิดคำคล้องจองมาไม่รู้เท่าไหร่

แต่ไอ้พวกกวีกลอนเปล่าเนี่ย เขียนแค่คำพูดลอยๆมา ก็กล้าเรียกตัวเองว่ากวีแล้ว โอ๊วววววมายพระพุทธเจ้า

แล้วถ้าผมเขียนแบบนั้น แล้วมาอ่านด้วยท่าทางจะเป็นจะตาย ผมจะเป็นกวีมั้ยครับ ฮาาา

ว่าแล้วเอาหน่อยแล้วกัน อิอิ ...


โอ้ววววบ้านเมืองฉัน เหลือบไรบินว่อน (ฮือออ)

เหล่าแมลงวันหัวเขียวยกย่อง พวกชอบตอมขี้อย่างตัวมัน (ฮือออ)

บางคร้ังฉันดูอภิปราย เหมือนดูฝุ่นทรายใต้ทะเลแอตแลนติก (ฮือออ)

แล้วฉันหยิบคีย์บอร์ด มาเขียนราวกับเป็นปากกาสวรรค์ (ฮือออ)

อย่างนี้ผมเป็นกวีกลอนเปล่าหรือยังครับ 555+

ว่าจะไม่เขียนแล้ว เพราะพูดไปก็ไร้ประโยชน์ เดี๋ยวนี้เขามี..กวี..(เรียกว่าอะไรดีล่ะ)

ที่..ไร้ฉันทลักษณ์ ..ได้ไม๊ ? ตามแต่จะคิดเห็น เรียกกัน ก็ตามใจ แล้วแต่สะดวก ..แต่

อยากจะบอกว่า. แต่โบราณ.มา ท่านครูก็แยก ( กวี.เป็น ร้อยแก้ว.กับร้อยกรอง ) เห็น

ว่าเพื่อความสะดวกของผู้..ชอบเขียน .ไม่อยากกล่าวความให้ยาวไกลไปถึง ยุคพระ-

มหาราชครู. ศรีปราชญ์. ขอกล่าวช่วง ( รัชกาลที่ ๒-๓ และ ๕-๖ ) เท่านั้น สมัย

รัชกาลที่ ๒-๓ มีกวีเอกคือ. รัชกาลที่ ๒. สุนทร ภู่. คุณพุ่ม.นายมี.ฯลฯ มีวรรณกรรม

อยู่มากมาย. ทั้งบทละครนอก.ละครใน. กลอนนิราศ. รวมถึง.กลกลอน ( กลบท )

( กลบท มีจารึกหินอ่อนอยู่ตามเสาระเบียง ว้ดโพธิ ) ปัจจุบันหาผู้แต่งเกือบไม่ได้แล้ว

บทกลอนยุคนี้ ก็ถือเป็น ( กลอนชั้นครู ) ต่อมา ( สมัย รัชกาลที่ ๕-๖ ) ก็มี กวีเอก-

ที่วางหลักการเขียน การแต่งไว้ เป็นรูปแบบที่ มีแผนผังแน่นอน จนใช้เป็นแบบเรียน

ม. ปลาย. ที่มีอยู่ ๔ บท ( ๑.อักขระวิธี.๒.วจีวิพากย์.๓วากยสัมพันธ์.๔ ฉันทลักษณ์ )

ผู้ที่ชำระหลักภาษาไทยนี้คือ ท่าน ( หลวงธรรมาภิมณฑ์ ) สมัยนั้น มีกวีเด่นอยู่ท่านหนึ่ง

คือ ( นายชิต บูรทัต ) ผู้เขียน ..สามัคคีเภท คำฉันท์ ..ซึ่งน่าจะเป็นกวีที่เขียนคำฉันท์

เป็นท่านสุดท้าย ในสยาม..และใช้ คำฉันท์ ที่ท่านหลวงธรรมาภิมณฑ์ ชำระไว้ เพราะคำ-

ฉันท์รุ่นเก่า ( สมุทรโฆษ คำฉันท์ . เสือ โค คำฉันท์ ) ยังใช้ สระ หลายตัว เป็น คำ ลหุ.

แต่หลวงธรรมาภิมณฑ์. วางแบบให้เป็น..เสียง ครุ. หมด.(นี่คือ ความยาก ) ของผู้ประพันธ์

เพราะ. คำฉันท์. ต้องเป็น.. ทั้งผู้แต่งและผู้อ่าน. ( เกรงว่าจะหาผู้แต่งได้ยากลงไปทุกที)

......พูดถึงกลอน ท่านครูก็วางหลักไว้ ๑๐ ชนิด . ตั้ง ( กลอนแปดสุภาพ ) ขอกล่าวแค่นี้

คนที่เขียน..ผิดฉันทลักษณ์..มักจะเป็นคนดัง. แล้วใครท้วงติงก็ไม่ฟัง คนรุ่นหลังที่ชอบ

เขียนกลอนก็เอาอย่าง..คนดัง..โดยไม่ได้ศึกษาฉันทลักษณ์ ..บทกลอนที่ออกมาจึงมั่วไปหมด

แล้วฉันทลักษณ์ บทกวี มันจะเหลืออยู่ไม๊ ? แบบแผนที่วางหลักไว้ตั้งแต่ รัชกาลที่ ๕-๖ มัน

ยังจะมีอะไรเหลืออยู่ ( อาศัยชื่อเสียงที่มีอยู่ ทำลาย ฉันทลักษณ์ ) ที่วางหลักไว้หรือเปล่า ??

อย่ามาพูดเลยนะว่า เป็นรูปแบบใหม่. หลักของ.กวี. ท่านครูก็วางไว้แล้ว ( ร้อยแก้ว ก็คือ ร้อยแก้ว )

( ร้อยกรอง ก็คือ ร้อยกรอง ) เห็นมีแต่เอา ( ร้อยกรอง ไปเขียน.นอกกฏ ) แล้วเพ้อว่า นี่คือ --

รูปแบบใหม่.(คนพวกนี้ แค่จนปัญญา เร่หาสัมผัส ไม่แตกฉานอักขระวิธี)ก็ทำลายร้อยกรอง

จนแทบไม่เหลือความไพเราะอยู่อีกแล้ว ( ผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีก นอกจากมีผู้ถาม ) จบ

จริง ๆ จะหยาบคาย ก้าวร้าว หรือ พูดเพราะ มีเหตุ มีผล นี่หนะ

มันขึ้นกับตัวบุคคล ไม่ใช่หรือครับ

ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน มันก็มีบุคคล 2 แบบ ทั้งนั้นล่ะ มันไม่ได้ขึ้นกับว่า อยู่ฝ่ายไหนแล้วต้องมี พฤติกรรม แบบใด ซักหน่อยนะครับ

ส่วนตัวผมเอง ตั้งแต่สมัครเป็นสมาชิก เวบเสรีไทย ก็พยายามตรวจสอบตัวเองตลอด ไม่ใช้คำหยาบ ก้าวร้าว และไม่ด่า คนอื่น แม้อยู่กันคนละฝั่ง ซึ่งผมก็เห็นว่า ก็มีหลายคน ที่พยายามรักษา กิริยามารยาท

แต่ถึงอย่างไร เรื่องแบบนี้ ก็เป็นที่ตัวบุคคล ขึ้นกับ ความพอใจของแต่ละคนเองด้วย

ทำไมต้อง พยายามเบี่ยงเบน ให้คนเข้าใจด้วย ว่า ถ้าอยู่ฝั่งนี้ รักในหลวง แล้วต้องด่า พวกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตลอด มันใช่ที่ไหนล่ะ

ผมคนหนึ่งละ ที่ไม่ยอมรับแน่ ๆ

วัดจากคอมเมนท์ ของคนที่บอกว่า
"รักประชาธิปไตย" หรือเอาอุดมการณ์เสรีภาพมาอ้างในการทำสิ่งผิดกฎหมาย
สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและสร้างความเสียหายกับประเทศชาติ

ดูเหมือนว่า บรรดาคนที่อวยนักการเมือง กลุ่มการเมือง บางคนบางกลุ่ม และคนที่แอบอ้างอุดมการณ์

ส่วนหนึ่งจะหยาบคาย ก้าวร้าว
และรักความรุนแรงมากถึงมากที่สุด

ส่วนหนึ่งดูเรียบร้อย แต่แฝงด้วยอคติอันเข้มข้น

เพิ่งเข้าใจว่า คุณสมบัติของคนที่รักประชาธิปไตยแต่ปาก เป็นเช่นนี้เอง


อู๋ ฮานามิ

ถ้าผมดัดจริต บอกว่า ผมอ่าน ความเห็นท่านไม่เข้าใจเลย... ผมตั้งกระทู้เรียกร้อง มอด ดูหน่อยว่า ก่อกวนหรือไม่....
มันตลกตั้งแต่... อ่าน ความเห็น ไม่เข้าใจ... แล้ว โวยวายแล้ว....


เกิดมีคน โพส์ท เป็น ภาษา ปะกิต... ผมโง่เอง จบอนุบาลเนินสูง... ไม่เข้าใจ.... ผมโวยวายว่าไม่เข้าใจ ให้เค้า โพส์ทภาษาไทย.. แล้วให้ มอดจัดการให้...
ถามจริงๆว่า ... ท่านจะด่าใคร...

โอลืมไป... มันไม่เหมือนกัน ใช่ไหม... . เหอๆๆ

ผมมองว่า 2 เรื่องนี้มันไม่เหมือนกันนิดนึงนะครับ อย่างถ้าเป็นภาษาอ่ะครับ ผมว่าผมยังไปเอาdictมานั่งแปลได้นะครับ แล้วคงยังพอกล้อมแกล้มไปได้

แต่ไอแปะรูปภาพไว้เฉยๆแล้วหายไปเลย ไม่อธิบายอ่ะครับ มันเหมือนการกระทำที่ อยากอวดภูมิหรืออะไรประมาณนั้นมากกว่านะครับ หรือถ้าไม่ใช่ยังไง

ท่านเฮนไตได้โปรดแย้ง ขอบคุณครับ

ผมยกตัวอย่าง ภาษาเพราะ เป็น extreme case ที่เข้าใจง่ายที่สุด... จริงครับ..มันอาจไม่ตรงนักแบบที่ท่านว่า แต่ท่านน่าจะมองออก...
ถามว่า สิ่งที่ เค้า ส่งมา ทุกอย่างอ่านไม่รู้เรื่องหรือไม่.... ผมว่าไม่ อย่างน้อย เค้าก็ช่วยแก้ไขจุดที่ผมเข้าใจผิดใน กระทู้ คุณ วสันต์ได้... ถ้าเข้าพูดไม่รู้เรื่อง ผมคงไม่เข้าใจ...
ถามว่า สิ่งที่ เค้า ส่งมา ผมอ่านรู้เรื่องหมดหรือไม่... ผมก็ว่าไม่... เพราะ บางอย่างผมก็ไม่เข้าใจเช่นกัน...

ผมว่า มันเป็น สิทธิของคนที่แสดงความเห็นว่า จะ อธิบายต่อหรือไม่...
ผมว่า มันเป็น สิทธิของคนที่แสดงความเห็นว่า จะ แสดงความเห็นอย่างไรให้คนอ่านเข้าใจแค่ไหน...

ถ้าท่านไม่ชอบ... ก็อย่าไปสนใจ... มันก็จบ...
ถ้าเค้าไม่ปรับปรุงการ สือสาร... สารเค้าก็ไม่ถึงคนรับ... เป็นปัญหาของเค้า... ไม่ใช่คนรับ...

16. นึกอะไรไม่ออก... ท่องคาถา... สนธิรับเงินแม้ว... สมาชิก 60% จะอยู่ข้างท่าน...
17. นึกอะไรไม่ออก... ท่องคาถา... แดงควาย... สมาชิก 99% จะอยู่ข้างท่าน...
18. ถ้าเถียงด้วยความจริงไม่ได้.... หยาบคายเข้าไว้... เพื่อนจะเยอะ....
19. ถ้ามีคนขอหลักฐาณ อย่าลืม magic word... "ใครๆก็รู้"
20. ถ้าเจอความเห็น ด่าปู ด่าแม้ว... กด LIKE ไว้ก่อน... สมาชิก 90% จะอยู่ข้างท่าน...
21. ถ้าเจอผู้อาวุโสประจำบอร์ด... จัดคำชมเค้าไว้... ว่าติดตามมานาน และนับถือในความเห็น.... สมาชิก 90% จะอยู่ข้างท่าน...
22. อย่า สมมุติ กับ แมลงสาป.... เพราะ สมองแมลงสาป แก้ปัญหา โจทย์ สมมุติไม่ได้....
23. อย่าให้ความเห็น ตรงไปตรงมา ในเรื่อง สถาบัน... เพราะ จะกลายเป็น แดงล้มเจ้า...
24. ถ้าอยากเป็น บัตรเติมเงิน... ลองวิจารณ์ม้าก หรือ ชมปู... ท่านจะได้สิทธินั้น ทันที...
25. สามารถด่าพ่อล่อแม่ สมาชิกท่านอื่นๆ้ได้... ถ้าท่านทำเป็น และเนียนพอ และต้อง มี เพื่อนเยอะพอ....

ผมไม่นิยมให้ใครด่าใครเท่าไหร่ ถ้ามันไม่สุดๆจริงๆนะครับ แต่ที่คุณเฮนไตบอกว่า ด่า แดงควาย แล้วมี 99%เข้าข้างเนี่ยเยอะมากเลยนะครับ
แต่ตัวท่านเองคงลืมไปว่าท่านเลยเป็นเศษที่เหลืออยู่อีก 1 % ท่านก็เลยเป็นไอแดงควายอย่างที่ท่านว่าไปล่ะสิ

แต่ผมดีใจนะ ไม่ได้เห็นท่านเฮนมานานมาก ดีใจจริงที่ท่านยังอยู่นะครับ ผมชอบตรรกะแปลกๆของท่านครับ

ดุ #18 นะครับ... ไำม่ซ้ำ...

ผมไม่ได้ไปไหน แค่ long vacation + สะสางงาน ค้าง...