Ultramate

ผู้บังคับใช้กฏหมายทำอะไรกันอยู่ ปล่อยให้ผู้กระทำความผิดถ่ายรูปลงเฟสอวดชาวบ้านได้อย่างหน้าตาเฉย 

จับไม่ได้หาไม่เจอ หรือว่า  ไม่จับ??? ประชาชนต้องเป็นฝ่ายพิจารณากันเอาเอง!!!!

...หากกล่าวถึงความมั่นคง ก็ต้องมี ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ (ประเทศไทย) เป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มี 3 สิ่งนี้

...สาธิต เซกัล นักธุรกิจสิ่งพิมพ์ชาวอินเดีย ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าอินเดีย-ไทย และประธานสมาคมนักธุรกิจอินเดีย-ไทย เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 5 ปี ประกาศตนเองว่า “รักในหลวง” เป็นผู้ให้คำปรึกษากับรัฐบาลไทยมาหลายยุค ดึงเงินจากต่างชาติเข้าประเทศไทยกว่าหมื่นล้าน และเป็นหนึ่งในชาวต่างชาติซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ก่อนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในการประท้วงของกลุ่ม กปปส. จนถูกดำเนินการทางกฎหมาย สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทำการเนรเทศ นายสาธิต ออกจากประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

...จากสิ่งที่กล่าวข้างต้น จนถึงการกระทำของ สาธิต เซกัลป์ ทำให้แปลกใจว่าสิ่งที่ สาธิต ทำนั้นเป็นการทำลายความมั่นคงของประเทศไทยได้อย่างไร อาทิ การบอกว่า “…รักในหลวงมากที่สุด และในหลวงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลก...” และการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ก่อนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

...หากเปรียบเทียบในมาตรฐานเดียวกัน การที่นักวิชาการกลุ่มคนเสื้อแดงหลายคนไม่ว่าจะเป็น นายสมศักดิ์ เจียมฯ, นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์, นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, นายเกษียร เตชะพีระ ที่ชอบและหลงรักกับการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีสถา/#นฯ โจมตีกฎหมายอาญามาตรา 112 โจมตีผู้เห็นต่างทางการเมือง ไม่เคยเลยที่จะออกมาวิจารณ์การคอร์รัปชั่นของนักการเมืองที่ส่งผลต่อความเสียหายของชาติ และยังมองไม่ออกว่า นายสมศักดิ์ เจียมฯ, นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์, นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์, นายปิยบุตร แสงกนกกุล, นายเกษียร เตชะพีระ ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยในเรื่องอะไรบ้าง นอกจากดีแต่ติ ดีแต่วิจารณ์ เน้นทฤษฎีแต่ปฏิบัติไม่เป็น ทำไมถึงไม่มีการเนรเทศบุคคลเหล่านี้อีกนอกประเทศบ้างละทั้ง ๆ ที่มีหลักฐานมากมายแต่กลับไม่ทำ ???

...อย่าเรียกร้องมาตรฐานเดียวเลยหากทุกสิ่งทุกอย่างมันขัดแย้ง และเป็นสองมาตรฐานเห็น ๆ สุดท้ายก็แค่ทำลายคนเห็นต่างทางการเมืองเท่านั้นเอง ???? แต่ผู้หมิ่นสถาบันฯ ที่ทำลายความมั่นคงของประเทศชาติกลับลอยนวล....

...บุคคลที่อยากเด่น อยากดังในยุทธภพ นามว่าสมศักดิ์ เจียมฯ ที่ท้าตบท้าตีจนเป็นกิจวัตร โดยเฉพาะกับเรื่องโจมตีสถาบัน สมศักดิ์ ทำได้ตลอดเวลา (ถึงแม้จะเป็นข้าราชการ) อุดมการณ์เหรอไม่ต้องมีขอแค่เงินจ้างเท่านั้นละ

...หลังจากปากกล้าพูดจาโจมตีสถาบันได้แล้ว สหายแดงสายคอมมิวนิสต์ เริ่มให้ความนับถือเชิดชูสมศักดิ์ เพราะจะมีใครละที่จะกล้าโจมตีเสาหลักความมั่นคงของชาติที่ทำทุกอย่างเพื่อประชาชนแบบสมศักดิ์ ที่สามารถทำอะไรขวางโลกได้

...พอเริ่มดังในยุทธภพ สมศักดิ์ วางแผนว่าจะทำอย่างไรให้ดูเด่น เป็นนักวิชาการเหนือนักวิชาการที่จะทำให้ก้าวไกลไปสู่ความฝัน 2 อย่างเลยคือ 1.อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

...สมศักดิ์ เริ่มสร้างวิธีการสู่ฝันโดยการเลือกโจมตี นักวิชาการที่เด่นดังในช่วงเวลานั้นเพื่อหวังเกาะกระแสบรรดาผู้มีชื่อเสียงในขณะนั้น แล้วทำให้ตนเองดูเด่นขึ้นมา ฝังปมด้อยที่อยู่ในจิตใจทั้งอาการทางจิต และอาการขี้อิจฉา แต่เพื่อไม่ให้เสียลูกค้า สมศักดิ์ จึงต้องโจมตีสถาบันควบคู่ไปกับเลียแข้งเลียขานักการเมือง/นายทุน เลยเป็นที่มาของการไม่วิจารณ์นักการเมืองคอร์รัปชั่น แต่เน้นหนักไปที่การโจมตีสถาบัน

...ไม่ใช่เพียงแค่คนดัง นักวิชาการ และบุคคลในสถาบันนะที่สมศักดิ์ ไปประณามด่าว่าร้าย แม้แต่เวลาประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน สมศักดิ์ยังพยายามทำตัวเด่น ประมาณกูเก่งที่สุดในนั้น และด่าว่าบุคคลอื่นที่เป็นคณะกรรมการหมู่บ้านนั้น จนเพื่อนบ้านต่างรังเกียจและเอือมระอาสมศักดิ์

...แต่สิ่งที่กล่าวมามันเป็นอาการในลักษณะปากกล้าแต่ขานี่สั่น เพราะเคยโต้คารมกับ คุณบวร ยสินทร คนที่รู้ทันสมศักดิ์ บน facebook แล้วแพ้หมดรูปอายขายขี้หน้าบรรดาสมุนที่ให้การนับถือ ตะเกียกตะกายถอยกลับแทบไม่ทัน โดยเฉพาะเมื่อถูก คุณบวร ยสินทร ท้าโต้คารมบนเวทีที่ธรรมศาสตร์ พอ สมศักดิ์ ได้ยินแบบนั้นก็บอกว่าไม่สบาย และงานยุ่ง ติดธุระไม่ว่าง ว่าไปแบบนั้นไอ้เรานี่นั่งขำหน้าจอเมื่อได้อ่านข้ออ้างดังกล่าว

...ล่าสุดกลัวโดนทำร้ายเพราะชอบวิจารณ์/พิพากษาคนดี แต่เชิดชูนักการเมืองโกงกิน เลยจ้างสหายพวกเดียวกันไปสร้างสถานการณ์ยิงปืนถล่มบ้านและรถของตัวเอง แล้วเกรียนหนีไปดื่มเหล้ากับสหาย
เพราะเกรงว่าจากพฤติกรรมอันเลวทรามของตนเองจะมีคนมาทำร้าย จึงสร้างสถานการณ์ทำร้ายตนเองก่อนเพื่อให้เป็นข่าวใหญ่โตจะได้ป้องปรามคนที่จะมาทำร้ายตนเอง 

...สิ่งที่เห็นคือความปากดี ปากกล้า แต่ใจสั่นไม่สู้ ของสมศักดิ์ ...อันที่จริงไม่มีใครเค้าอยากทำอะไรสมศักดิ์เลยนะคุณณณณณณ เพียงแต่อยากให้คุณอยู่สุขสบายในที่ที่คุณควรอยู่คือ คุก คุก คุก นั่นแหละ

...นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ” กระเทยเถื่อนผู้ซึ่งมีแนวความคิดขวางโลก แนวความความคิดต่อต้านการปกครองระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรียกร้องให้ยกเลิกการยืนเคารพ เพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนชมภาพยนตร์ในโรงหนัง และทำตัวเหมือนคนไม่มีชาติ พยายามเปลี่ยนธงชาติไทยเป็นธงดำที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

...เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เกิดบนแผ่นดินไทย อาศัยบนดินแดนไทย มีลักษณะแนวคิดเหมือนกันกับ “อั้ม เนโกะ” แถมออกรายการทางช่อง Voice TV “อยากให้ยกเลิกเสีย ความเป็นไทย”

…เกษียร เตชะพีระ นักวิชาการแดงแนวคิดซ้ายจ๋า.. ทำตัวเป็นอาจารย์ผู้ทรงภูมิ แต่ทำไมทำตัววุฒิภาวะต่ำ พยายามโพสต์รูปล้อเลียนบุคคลในสถาบันบนเว็บไซต์ facebook ส่วนตัว (ปัจจุบันลบภาพต้นเหตุไปแล้ว) ถ้าท่านอาจารย์คิดว่าสิ่งที่ทำนั้นเหมาะสมใยต้องลบทิ้งด้วยละ ??? แต่เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่เหมาะไม่ควรต่อสถานะความเป็นอาจารย์ที่ต้องสอนสั่งนักศึกษาใช่หรือไม่ ???

…สมศักดิ์ เจียมฯ โพสต์ข้อความเสียดสีพาดพิงสถาบันทั้งในเวลาราชการและเวลาว่างใน 1 ปีไม่ต่ำกว่า 365 ครั้ง (1 ปีมี 365 วัน) ชื่นชอบนักการเมือง แต่ไม่ยึดถือสถาบัน ไม่เคารพศาสนา ยึดถือแต่ตำราชาติตะวันตกแถมซกม๊ก นำรูปตัดต่ออภิสิทธิ์ เปลือยเผยแพร่บน facebook ของตนเองหวังว่าสมาชิกที่เคารพตนเองเป็นศาสดาจะช่วยนำภาพตัดต่อนั้นไปเผยแพร่ต่อ (สุดท้ายถูก facebook ลงโทษระงับการใช้งาน)

...............................................แต่
...สาธิต เซกัล ขึ้นปราศรัยบนเวที กปปส. บอกว่ารักประเทศไทยมาก เช่นเดียวกับรักในหลวงมาก ปัจจุบันกำลังจะถูกเนรเทศ !!!!

....เปรียบให้เห็นระหว่างชาวไทยที่ไม่รักชาติ อยากเป็นอย่างเค้าแบบต่างประเทศ กับชาวต่างชาติที่รักไทย แล้วผลคืออะไร ?
...บ้านเมืองไทยกำลัง วิกฤต กับแนวคิด ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งที่ควรทำไม่ทำ สิ่งที่ไม่ควรกลับทำ นี่หรือแนวคิดประชาธิปไตย แบบมาตรฐานเดียว

หงอกเจียมควรจะพิจารณาตนเองได้แล้วนะ ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นมีแต่คนเค้าจะรังเกียจ เป็นถึงนักวิชาการ ความรู้ก็น่าจะสูง แต่ดันชอบทำตัวขวางโลก สวนกระแส อย่างเวลาไปประชุมหมู่บ้านก็มักจะมีความคิดที่ขัดแย้งกับคนอื่นๆเค้า รู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่าเพื่อนบ้านเค้าก็ไม่ชอบหงอกนักหรอก แต่เค้าไม่พูดกัน แล้วอีกอย่างที่คงจะเป็น "***" คือ"ชอบยกตนข่มท่าน" หรือเรียกง่ายๆว่าชอบดูถูกคนอื่นว่าด้อยกว่าตนเอง ทั้งๆที่แท้จริงแล้วตนเองนั่นแหละที่มีความรู้แต่เหมือนจะขาดความอบอุ่นทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ถ้าไม่ได้เสียดสีเบื้องสูงสงสัยคงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับล่ะสิ

...ผมชื่อว่า : สมศักดิ์ เจียมฯ หรือใครเค้าเรียกผมว่า “หงอก” บางคนเรียกผมว่า “กอลลัมสมศักดิ์” เพระผมคลั่งวิจารณ์สถาบัน เป็นแผ่นเสียงตกร่อง เหมือนกอลลัมที่เรียกร้องหาแหวนว่า “ของรักของข้า”

...ผมทำงาน :เป็นอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

...ผมใฝ่ฝัน : อยากเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือถ้าได้รัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการก็ดีครับ

...ผมยึดมั่นในหลักการ/อุดมการณ์ : ยึดมั่นหลักการต้องเป็นตำราต่างประเทศเท่านั้น จนหลาย ๆ คนมักมองผมว่าเป็นนักวิชาการ “ทาสตะวันตก”

…โรคประจำตัวของผม : ผมมีอาการทางจิตที่เรียกว่าเรียกว่า Oedipus Complex ตามที่มีการอธิบาย ในทฤษฎีจิตวิเคราะห์ คือกลุ่มของความคิดและความรู้สึก ที่ต้องการครอบครองบิดามารดา ในเพศตรงกันข้าม และตัดพ่อแม่ ในเพศเดียวกันออกไป จากความสัมพันธ์ เด็กผู้ชายไม่ชอบพ่อ แต่รักแม่ของตนอย่างมาก และเด็กผู้หญิงไม่ชอบแม่ แต่รักพ่อของตนเองอย่างมาก พฤติกรรมนี้จะเกิดขึ้น ในช่วงที่เรียกว่า Oedipal phase อันเป็นช่วง ของการพัฒนาบุคลิกภาพ ช่วงวัยประมาณ 3-5 ปี และในบางลักษณะ ระยะ Oedipal จะแสดงออกให้เห็นได้ก่อนหน้านั้น หากไม่มีการแก้ไขได้สำเร็จ เสียตั้งแต่ระยะแรกๆ จะกลายเป็น สิ่งที่ฝัง ในบุคลิกภาพของคน กลายเป็นความป่วยทางจิต (neurosis) 

...สิ่งที่ชอบ : วิจารณ์สถาบันฯ ไม่ว่าจะทำอะไร ผมขออย่างเดียวเท่านั่นละครับคือ ขอให้ผมได้วิจารณ์สถาบัน โดยผมเห็นว่าไอ้พวกนักการเมืองที่คอร์รัปชั่นโกงกิน มันก็มีอยู่ทั้งนั้นแหละ ประเทศอื่นก็มี จะโกงกินอย่างไรประเทศก็เจริญครับ / ที่สำคัญผมอยากบอกว่าผมชอบมากเลยรู้ไหมเล่น facebook นี่ละจนบางทีผมก็ใช้เวลาราชการ ที่ต้องวิจัยสอนสั่งนักศึกษา มาโพสต์ข้อความเหน็บสถาบันซะหน่อย

...อุปนิสัยของผม : ผมเป็นคนขี้อิจฉาครับไม่สนหรอกครับว่าคนนั้นเป็นคนเสื้อแดง หรือคนเสื้อเหลือง เกษียร เตชะพีระ ก็เจอผมวิจารณ์มาแล้ว หรือแม้แต่ใครที่ทำตัวโดดเด่นหรือดัง ผมไม่สนผมจะวิจารณ์ ประชาชนจะได้รู้เสียทีว่าผมเก่งแค่ไหน

...สิ่งเหล่านี้คือคู่มือ บ่งบอกตัวตนของผมครับเผื่อใครอยากเลี้ยงผม จะได้เข้าใจ และเอาอกเอาใจผมถูก เข้าใจ เก๊าท์บ้างนะตัวเอง

...ที่มา อาการป่วยทางจิตของผมhttps://www.facebook...&type=3

ตนเองคิดต่างบอกว่าไม่ผิด แต่พอคนอื่นคิดต่างจากตนเองมั่งกลับมาพูดจาดูถูก ตัวเองดีเลิศแค่ไหนกันเชียวหงอกเจียม ความรู้ที่เรียนมาก็สูงแทนที่จะเอาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนาประเทศชาติกลับเป็นว่าทุกวันนี้หงอกก็เอาแต่เสียดสีเบื้องสูงไม่รู้จักหยุด อยากตั้งตนเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเหรอไง ใครคิดเหมือนข้าถูก ใครคิดต่างจากข้าคนนั้นต่ำ อย่างหงอกเนี่ยแหละ เป็นคนด้อยค่าไร้เหตุผลตัวจริง

หงอกเจียมกับอั้มเนโกะ นี่มันเหมือนผีเน่ากับโลงผุซะจริง ทำตัวเสียดสีเบื้องสูงอยู่ได้อย่างตลอด ถึงขนาดถ่ายรูปแบบนั้น คิดว่าคนเค้าไม่รู้เหรอว่าทั้งสองคนต้องการสื่อถึงอะไร น่าแปลกที่มหาวิทยาลัยชื่อดังยังเก็บคนทั้งสองไว้อยู่ในมหาวิทยาลัยไม่จัดการอะไรซักอย่าง หรือว่าทียังเก็บไว้เพราะว่าเห็นด้วยกับการกระทำของคนสองคนนี้?????

หงอกเจียมนี่น่าสมเพชจริงๆ วันๆไม่รู้เอาอะไรใส่หัวลูกศิษย์บ้าง เท่าที่เห็นความคิดแต่ละอย่างมีแต่คอยโจมตีเบื้องสูง หายใจเข้าออกมีแต่เรื่องนี้ เรียนจบมาก็สูงแทนที่จะพิจารณาได้ว่าอะไรถูก อะไรควรทำ ชาวบ้านชาวเมืองเค้าออกมาปกป้องประเทศชาติกันให้เต็มพรึ่บไปหมด หงอกก็ไม่สนใจเอาแต่เหน็บแนมเบื้องสูงไม่รู้จักจบ น่าสมเพชจริงๆ นี่หรืออาจารย์มหาวิทยาลัย

ไม่ล่า “ตั้ง” แต่จะล่า “ใคร”
…“ใคร” คนนั้นคือคน “เห็นต่าง” เห็นต่างอย่างไร? 
...เมื่อ 17 ม.ค.57 นายอภิชาต อินสอน หรือดีเจอ้วน แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพร้อมสมาชิกจำนวนมากไล่ล่าตามหาตัวเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ขึ้นเวที กปปส. ที่เชียงใหม่ เมื่อเดือน ธ.ค. 56 โจมตีการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ จนทางโรงเรียนต้องขอร้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาว่าไม่ให้เข้าไปในรั้ว เขตบริเวณของโรงเรียน กลุ่มคนเสื้อแดงจึงยอมเดินทางกลับ
...น่าอนาถใจที่เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ทราบว่าแบบนี้เค้าเรียกว่าเป็นการ “รังแกผู้หญิง” หรือไม่? นี่ไม่ใช่วาทกรรมคำว่า “รังแกผู้หญิง” แต่การกระทำที่เห็น มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากไล่ล่าเด็กหญิงโรงเรียนมัธยม ที่เพียงแต่ต้องการ “เสรีภาพ” ในการแสดงออกทางการเมืองเช่นเดียวกันกับที่ กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการ (ต้องการเสรีภาพ) 
...แต่อีกเหตุการณ์หนึ่งที่บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติ อาทิ กรณี นายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ที่ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงเสียดสี/พาดพิงสถาบันฯ อย่างโจ่งแจ้ง ถูกออกหมายจับ แต่ปัจจุบันยังคงเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวยังไม่ถูกจับกุม ที่สำคัญยังได้รับการสนับสนุนจากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอย่าง เจ๋ง ดอกจิก อยากถามว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเหตุใด ? ไม่ล่า “ตั้ง” แต่จะล่า “ใคร”

ดา ตอร์ปิโด หรือ ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย และสถานีโทรทัศน์เคเบิลไทยสกายทีวี ติดคุกในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (อ้างอิง http://freedom.ilaw..../case/34#detail) พอมาตอนนี้ยื่นเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษโดยให้เหตุผลว่า ที่ปราศรัยไปทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาจะดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง

จากในคลิป ทุกคำที่คุณดาปราศรัยออกไปนั้น มันต้องผ่านขั้นตอนความคิดก่อนอยู่แล้ว อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ที่นึกอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมา ก่อนพูดไม่รู้จักคิด รับกรรมไปเสียเถอะ

และที่ขอยื่นเรื่องพระราชทานอภัยโทษเนี่ย คงเป็นความคิดของคนที่เคยได้ออกจากคุกมาก่อนหลายๆคนบอกคุณสินะ ว่าให้ยอมรับแล้วพูดเหตุผลแบบนั้นไป เพื่อที่จะได้ออกจากคุกแล้วไปเคลื่อนไหวต่อ เพราะเท่าที่เห็นคนที่ออกจากคุกมาแล้วไม่ว่าจะเป็น หนุ่ม เรดนนท์, สุชาติ นาคบางไทร, สุรชัย แซ่ด่าน ก็ล้วนแต่ไม่เคยที่จะหยุดเคลื่อนไหวพาดพิงสถาบันเบื้องสูง หรือ ยุ่งเกี่ยวกับ ม.112 แม้แต่นิดเดียว

เคนจิ แห่งบอร์ด internetofeedom โพสต์หมิ่นเบื้องสูงจนต้องติดคุกตามกฏหมายอย่างเช่นคนอื่นๆ แล้วก็ยอมรับสารภาพเพื่อรีบขอพระราชทานอภัยโทษ

ปากยอมรับจริงอยู่ แต่ในใจจะสำนึกจริงเร้อ ดูอย่างคนอื่นๆที่โดน 112 แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษ พอออกจากคุกมาก็ยังเคลื่อนไหวอยู่ 

ไม่ว่าจะเป็น หนุ่ม เรดนนท์, สุรชัย แซ่ด่าน, สุรภักดิ์ ภูไชยแสง แล้วอย่างนี้จะมีอะไรมารับประกันว่า เคนจิ ออกจากคุกมาแล้ว จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับ 112 อีก