gobura

>> หยาบช้า สาธารณ์.............เพียงพาล กาลสูญ

....กักขฬะ ทราดูร...................ตระกูล จัณฑาล

 

>> เสื่อมศักดิ์ พักตรา.............บาทา กล้าหาญ

....อวรรณ ครรภ์มาร................วิบัติกาล กัปป์กัลป์

 

>> สภาไพร่ ผสมเสร็จ............จรดเจว็ด เข็ดขันธ์

....ทินศูร สืบพันธุ์....................ทุรทัณฑ์ โทษกรณ์..ฯะ

 

 

 

ตะนิ่นตาญี ชอบดู พระจันทร์ เสียเหลือเกิน ชอบดูมา แต่ไหน-แต่ไรแล้ว

 

ชอบเสียจนสงสัยอยู่ว่า ตัวเองนั้นเป็นโรคจิตชนิดไหน จะดู-จะวิเคราะห์

 

ตามแบบของ ขรัวเฒ่า Sigmund Freud ประเดี๋ยว ก็ จะกลายเป็นการตีความ

 

ใน เรื่องเพศ-เรื่องกามารมณ์ ไปเสียเปล่า ให้ต้องอับอายขายขี้หน้า คนวัยใกล้แย้มฝาโรงไปเสียสิ้น

 

เมื่อพูดถึง พระจันทร์ สวย ก็อดเสียไม่ได้ที่จะคิดถึง พระนนท์คำฉันท์ ที่เขียนไว้ว่า

 

 

หาแถงแง่ฟ้า..หาง่าย

 

เบื่อหน่ายบงนัก...พักตร์ผิน

 

หาเดือนเพื่อนเถิน...เดินดิน

 

คือนิลนัยนา...หาดาย

 

เดือนเดินแดนดิน...สิ้นหา

 

เดือนเดินเพื่อนฟ้า..หาง่าย

 

เดือนเดินแดนดิน...นิลพราย

 

เดือนฉายเวหาส...ปราศนิล ฯลฯ

 

 

ผิดถูกประการใดไม่รู้เหมือนกัน เพราะ เขียน จาก รอยหยัก ใน สมอง ซึ่งดูจะเริ่มตื้นเขินเสียแล้ว

 

แต่ที่เล่าให้ฟังเพราะมีความรู้สึกเหมือนกับว่า พระจันทร์ เมื่อก่อนนี้สวยกว่า พระจันทร์ เดี๋ยวนี้

 

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า...

 

 

ตะนิ่นตาญี เคย นั่งมอง พระจันทร์ ที่ Central Park  ดวงกลม-โต-ใหญ่ เหมือน อยู่ ใกล้-ใกล้

 

จนอาจ เอื้อม มือ ไป คว้า มา ไว้ ใน อ้อมกอด ได้ สวยเสียจน ลืม ไป เลย ว่า โลก นี้ ยัง หมุน อยู่

 

เคยเฝ้าดู พระจันทร์ สองดวง มาแตะกันที่กลาง มหาสมุทร Pacific เหมือนกับ สวรรค์ นั้น

 

ถ้ามีจริง ก็คงอยู่ตรงหน้า ตะนิ่นตาญี ตรงนั้นแหละ...

 

 

แต่ไม่ว่าจะเป็น พระจันทร์ ที่ไหน ตะนิ่นตาญี ไม่เคยเห็นสวยเกินไปกว่า พระจันทร์เสี้ยว ที่ ดอยเต่า

 

จากเสี้ยว ที่ ค่อย-ค่อย ขยับตาม เข็ม วินาที-นาที-ชั่วโมง ในห้วง ของ ความสงัด แห่ง เวลา

 

เหมือน กระโจมไฟ ขนาดใหญ่ รูปสามเหลี่ยม ที่ โผล่พ้น จาก หน้าผา ทีละนิด-ทีละนิด

 

นิรันดร์กาล ถูกหยุดอยู่ตรงนั้น ก่อให้ เกิด ความอิ่มเอม อัน ไม่อาจ แบ่งปัน ให้ กับ ใคร-ใคร ได้

 

เป็น ความสุข ที่ เกิดขึ้นเฉพาะตัว เป็น ความกระจ่างแจ้ง ด้วย ความหลุดพ้น จาก สรรพสิ่ง ทั้งปวง

 

แต่ นิรันดร์กาล นั้น ถูก จำกัด อยู่ใน เสี้ยวเวลา เมื่อผ่านพ้นมาแล้ว ก็เป็น นิรันดร์กาล ใน ความทรงจำ

 

 

เมื่อคืนนี้ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ไม่มี พระจันทร์ ครับ แต่ วันนี้ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๙ พระจันทร์ จะปรากฏขึ้น

 

เป็นเสี้ยวบางบาง ที่ ขอบฟ้า และ จะค่อยค่อย เปลี่ยนแปลงรูปสัณฐาน จน เป็น พระจันทร์ เต็มดวง ในที่สุด

 

เมื่อถึง วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔...

 

 

ความหวังที่จะได้นั่งมอง พระจันทร์ เริ่ม ใน วันพรุ่งนี้ และ เป็น พระจันทร์ แห่ง ความหวัง ครับ

 

หวังว่า ประเทศไทย จะคงไว้ ใน ความเป็น นิติรัฐ จะรักษาไว้ ใน หลักนิติธรรม ได้เฉกเช่น นานาอารยประเทศ

 

แต่ ความหวัง นี้จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อ เราต่อต้าน-เราขัดขืน อำนาจ อันไม่ชอบธรรม

 

ในความพยายาม ของ รัฐบาล ที่จะทำให้ หลักนิติธรรม เสื่อมสูญไป...

 

 

ตะนิ่นตาญี ไม่ยอมครับ ไม่ยอมรับ กับ ความไม่ชอบ ของ รัฐบาลชุด นี้ ที่จะออก กฎหมายนิรโทษกรรม

 

ดังนั้น วันนี้ ตะนิ่นตาญี จะออกไปครับ ถอด หัวโขน วางไว้ แล้ว ออกไป สู้ แม้จะรู้ว่า สู้ ไม่ได้ ก็ตาม

 

แต่เพื่อ สิ่งที่สูงส่ง กว่า ชีวิต ของ คน ธรรมดา-ธรรมดา เช่น ตะนิ่นตาญี แล้ว

 

จะเป็นอะไร-จะเกิดอะไร ก็ ช่าง หัวเผือก-หัวมัน แล้ว ครับ เพื่อนเพื่อน ครับ

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันอังคารที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๖.๒๐ นาฬิกา

>>> ไม่เป็นไร กรรมของ..มิตซูฯ

 

>>> ไม่ใช่ กรรมของ ... มิสปู....

>> เบื่อหนอ เบื่อหน้า เบื่อหมาเห่า.......น้ำเน่า เหม็นนะ ขยะแขยง

......ดึงดัน ปั้นปด บทแสดง....................ฝากแฝง แรงเล่ห์ เพทุบาย

 

>> ด่าทอ ตอแหล  แท้หน้าด้าน............ตัวการ ก่อกรรม ทำฉิบหาย

.....นี่-นั่น นิจจา  น่าละอาย....................วอดวาย วอนว่า เชิญมาดู

 

>> เสื่อมหนัก ชักนำ กันซ้ำซาก...........หลายปาก เป็นบ้า น่าอดสู

.....เลวนัก หักค่า  ภาษีกู......................ลงรู เลื้อยไป ไม่อยากมอง

 

>> เอาเสียง ส่วนมาก มาลากเลื่อน......บิดเบือน บ่นบ้า น่าสยอง

....ระยำ นำหน้า มาปรองดอง................พี่น้อง สองคน พ้นโทษทัณฑ์

 

>> กาลี หนีหน้า หาไม่เห็น...................ปานเป็น เปรตโซ มากโมหันต์

....ผิดกฏ คดคำ เรื่องสำคัญ..................ทำมัน ฉันใด ไอ้ อปรีย์

 

>> เมืองไทย ใครทำ?ระยำยับ..............เหลือรับ แลสลด หมดศักดิ์ศรี

....พอเถิด ถ่อยท้อ ไอ้ทรพี...................อย่ามี  กลียุค  ทุกข์แผ่นดิน

 

>> ดี-ชั่ว ตัวใคร  ฤๅไม่รู้.......................อดสู  อยู่ใย  ใช้หนี้สิน

....สถุลแท้ แย่โยง กันโกงกิน...............พังภินท์ เพื่อใคร ไม่เคยพอ

 

>> ปรองดอง จ้องดัน กันให้หมด.........เลี้ยวลด เล่ห์ร้าย น้ำลายสอ

....สภาพา ไพร่ผี  ขี้ข้ารอ.....................คด งอ ยอ ยุ  สดุดี

 

>> แหนแห่ แตรก้อง ท้องถนน............หวังผล ทนคอย ปล่อยภูตผี

....ถูกผิด  ฤทธา  บารนี........................ศักดิ์ศรี สุดเทวษ เศษคน

 

>> แรงรัฐฯ จัดตรง ให้ลงเหว..............สารเลว  ลับเร้น  ทุกเส้นขน

....เสียเชื้อ เสียชาติ อุบาทว์ชน............เล่ห์กล กล่าวร้าย  ขยายตัว

 

>> หมื่นล้าน แสนล้าน ก็ผลาญชาติ.....อนาถ  อนาคต  สลดสลัว

....มืดมน หมดเมือง เรื่องน่ากลัว..........หมองมัว ทั่วเขต ประเทศไทย..ฯะ

 

 

  >>>>> พระฤๅษี <<<<<

 

............๓๑/๗/๕๖...........( กลอน ๗ )      

สรุปให้ง่ายๆ ปชป ควรเอาเป็นแบบอย่าง

 

เพราะฝ่ายค้านกัมพูชา เขาไม่เคยเรียกร้องให้รัฐประหาร ปฎิวัติ หรือใช้วิธีทางตราชั่ง ทั้งใต้ดินบนดิน

รวมทั้งปลุกระดมมวลชน มาป่วนบ้านป่วนเมือง เพื่อรอเหตุการณ์วุ่นวาย แล้วตัวเอง ไปยืนใต้ต้นไม้ รอส้มหล่นเข้าปาก เพื่อจะได้เป็นนายกอีกครั้ง

 

อภิสิทธิ์เห็นการทำงานของฝ่ายค้านกัมพูชา ควรเอาไปเป็นแบบอย่าง ไม่ใช่ทำตัวเป็นลูกแง่ จะฟ้องพ่ออยู่ร้ำไป

 

อายบ้างไหม ฝ่ายค้านเพื่อบ้าน เขายิ่งเลือกตั้งที่นั่งยิ่้งเพิ่ม แต่พรรคตัวเองยิ่งเลือกตั้ง คะแนนยิ่งหด 

 

 ไม่สู่รู้, ไม่เสร่อ ไม่โยง ปชป. นี่มันจะอกแตกตายมั้ยขอรับ...

 

 กรูกระพ๊มอุตสาห์ไม่ยุ่ง ไม่แตะ แต่เมริงแม่มก็เสรือกสะเร่อแม่มไปทู๊กกกกเรื่อง... ปชป. มันไปดักตีหัวบุพการีเมริงท่านก็ไปแก้แค้น แก้ควายกันเองขอรับ... วู๊ววววววววววววว แม่มทุเรศตัวเองมั่งมั้ย... เสร่อเสนอหน้ามาให้ความเห็นควายๆ ถ่อยๆ ให้เค้าด่ากันได้ทุกวันเนี่ย...

หลังจากที่เจ้าภาพ ลับ ลวง พราง ไม่จัดงานที่มาเก๊า และ ปล่อยข่าวว่ายกเลิกงานเพราะสังเวยถังเช่า

ไม่กี่วันก่อนเริ่มงาน ผมได้รับตั๋วเครื่องบิน พร้อม จดหมายเขียนด้วยลายมือ

ความว่า "พี่ต้องมาให้ได้ ถ้าไม่มาไม่รักกันจริง เตรียมอาวุธให้พร้อม"

ด้วยรัก และ คิดถึง

.................

เราก็นึกในใจ ไหนมันบอกว่าไม่จัดแล้วไง

พอสืบข่าวไปมา ของจริง ตัวจริง เสียงจริง ปักกิ่งเท่านั้น เขาเชิญแต่ระดับคีย์แมน และ คนไว้ใจได้

ส่วนที่ฮ่องกง พวกวิ่งเต้น....!!!!!????

พอไปถึงปักกิ่งก็แบบ งงๆ มีรถมารับไปสนามกอล์ฟทันที บริการเขาดีจริงๆ เจ้าภาพ

(ทุกปี มันขี้เหนียวจะตาย) พอไปถึงจอดรถปุ๊บ มีเด็กมารับพาเข้าล๊อกเกอร์

และมีคนไทยมาคอยดูแล บอกว่า "นายรอด้านบน ในห้องไพรเวท"

พอขึ้นไปก็เจอเจ้าภาพสักที หน้าตาดูโทรมลงพอสมควร สงสัยเสพถังเช่าเกินหรือเปล่า

เข้ามากอดผมเฉยเลย บอกคิดถึงผมมาก (ปากหวานเหมือนเดิม)

ระหว่างมื้อกลางวันนั่งคุยกัน เจ้าภาพเริ่มอารัมภบทกล่าวกับผมว่า

ผมคิดถึงพี่ คิดถึงเวลาเราเคยร่วมงานกัน พี่ว่ากล่าวตักเตือนผมตรงไปตรงมาเสมอ

อะไรไม่ดี พี่ก็บอกไม่ดี ไม่เคยต้องมาเอาใจผมเหมือนคนอื่น ถ้าผมเชื่อพี่แต่แรก ผมก็ไม่ต้องมาลำบากอย่างนี้

ผมอยากให้พี่กลับมาช่วยงานผม ช่วยรัฐบาล

ผมตอบสั้นๆกับเจ้าภาพว่า "ผมพอแล้ว ผมถึงจุดเกือบสูงสุดทางการเมืองแล้ว ผมขอเลี้ยงหลานดีกว่า"

เจ้าภาพรุกต่อว่า พี่สามารถประสานงานหลายฝ่ายได้ดี หลายกลุ่มการเมือง และ พวกสื่อ

ผมเสียดายจริงๆ ถ้าพี่จะมานั่งเลี้ยงหลาน และตีกอล์ฟไปวันๆ

ผมได้แต่ตอบสั้นๆ สถานการณ์มันทำงานยาก ไร้เอกภาพ แบ่งกลุ่ม แบ่งมุ้ง ถ้าจะให้ผมทำงาน

กลุ่มมุ้งต้องสลายในสาม ถึง หกเดือน และ ตำแหน่งของผมต้องสูงสุดทางการเมืองโดยมีอำนาจเบ็ดเสร็จ

และเหตุผลเดียวที่ผมจะกลับมาทำงานคือ กลุ่มเสื้อแดง และ ม๊อบสีต่างๆต้องสลาย

ถ้ารับเงื่อนไขผมได้ ผมกล้ารับทำงานให้ เจ้าภาพคิดหนัก และ บอกต่อว่า

คนเสื้อแดง เป็นฐานมวลชนสำคัญจะสลายได้ไง และ เราจะมีอำนาจต่อรองอะไร

เหมือนทำลายกำแพงคุ้มครองตัวเรา

ผมเถียงต่อไปว่า ก็ไม่ใช่เพราะม๊อบสีเสื้อต่างๆเหรอ ถึงมีปัญหาไม่จบไม่สิ้น

นับวัน ตู่ เต้น แกนนำอื่นๆต่อรองกันไม่จบไม่สิ้น ถ้าไม่สลาย ต่อให้ไปขอใครมาทำงานก็ลำบาก

ต้องมาคอยเป็นลูกไล่ พวกอันธพาลพวกนี้ ก็ลองเอาไปคิดดูแล้วกัน

ถ้ากล้าเสี่ยงสลายกลุ่ม ผมก็กล้าเสี่ยงทำงาน ยอมถูกคนตราหน้าก็เอา

ผมขอคิดดูก่อน.......ยังไงผมก็อยากให้พี่มาทำงานด้วย ช่วยกันทำกับ......หน่อย

ผมคิดในใจ.....ว่าแล้ว ไม่พ้นหน่อย

พูดถึงไม่ขาดคำ หน่อยก็โผล่เลย เข้ามาทักทายผม และ เจ้าภาพ

พร้อมชวนออกจากห้องไพเวท บอกน้องๆรออยู่

อุ่นหนาฝาคั่งจริงๆ แบ่งก๊วนเล่นกอล์ฟกันเสร็จ ก็เริ่มออกรอบ

โดยเจ้าภาพต้องการที่จะดวลกับผมจริงๆ ผมเลยตกลง

และถามถึงกรณีถังเช่าในขณะออกรอบ

เจ้าภาพตอบสั้นๆ "โดนซะเกือบตาย พอๆ"

พอเล่นไปเรื่อยจนเสร็จ อาบน้ำขึ้นมากินเลี้ยงในห้องอาหารในสนามกอล์ฟ

เริ่มเป่าเค้ก พร้อมรับของขวัญ (และพวงหรีด)

เจ้าภาพ ตะโกนข้ามโต๊ะไป

หน่อย... งานบง งานบุญพอๆได้แล้วนะ มาช่วยงานรัฐบาลได้แล้ว

สิ้นเสียงเจ้าภาพ พวกแก๊งค์ใกล้ชิด ปรบมือกันเกรียว

แต่เจ้าแม่ก็ยังไว้เชิง ขอทำงานบุญใหญ่สุดท้ายให้เสร็จซะก่อน

สรุปเจ้าแม่ คัมแบ๊คแน่ ในขณะที่เจ้าพ่อตกกระป๋อง

ส่วนผมถ้ารับเงื่อนไขไม่ได้ ก็ขอเลี้ยงหลานเหมือนเดิม บอกตรงๆเปลืองตัว......

ตัวละคร ตัวแรกในการ์ตูนเกี่ยวกับ..
ลิเบอร์รัลชนปนดัดจริต การศึกษาดี มีรถขับ
ตัวนี้เป็นเจ้าของร้านกาแฟ..

ตัวนี้เป็นลิเบอรัลหนุ่มออฟฟิศเงินเดือนสี่หมื่นห้า..

 

ถ้าตัวเองยังไม่เดือดร้อน  ก็ไม่สน..

 

การล้มละลาย ฟังดูเหมือนแย่ แต่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีอย่างหนึ่งครับ

 

จะล้มละลายได้ต้อง "มีหนี้สินล้นพ้นตัว"  และจะต้องเป็น "คำสั่งศาล" ครับ

 

ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล เมื่อมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้

เจ้าหนี้หากต้องการหนี้สินคืน ก็จะฟ้อง "ล้มละลาย" ลูกหนี้ต่อศาล

หากศาลตัดสินให้ล้มละลาย โดยไม่มีการประนอมหนี้ ก็จะมีการพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด

และการทำธุรกรรมต่างๆในทรัพย์สินของลูกหนี้จะเป็นหน้าที่ของ "เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์"

โดยลูกหนี้ไม่มีสิทธ์ทำอะไรเลย แล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะนำทรัพย์สินเหล่านั้นขายทอดตลาด

เพื่อจัดสรรปันส่วนให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย  ถ้าเคลียร์หนี้ได้เกินครึ่งก็ปลดจากการล้มละลาย

หรือหากมูลหนี้เกิดจากหนี้ธรรมดา ไม่มีการทุจริตฉ้อโกง ก็จะปลดจากการล้มละลายหลังจากผ่านไปแล้ว 3 ปี 

กลับมาเป็นคนเดิม แต่หนี้จะมากซักเท่าใดก็อันตรธานหายไปสิ้น ครับ

 

กับเมืองดีทรอยต์ ก็เช่นเดียวกัน มี "หนี้สินล้นพ้นคัว" และไม่มีปัญญาจ่าย แต่ต่างกันที่ กฎหมายไอ้กันเปิดช่อง

ให้เมืองสามารถยื่นขอให้ศาลสั่งล้มละลายได้  หากศาลสั่งให้ล้มละลาย ก็จะต้องมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

(ในกรณีนี้ อาจเป็นอย่างอื่น) มาจัดการขายทรัพย์สินของดีทรอยต์ แล้วนำไปเคลียร์เจ้าหนี้ตามส่วน  

ซึ่งอาจได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำครับ สามารถล้างหนี้ได้หมดและกลับมาบริหารเป็นปกติ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

 

แต่ล่าสุดที่ผมตามข่าว ปรากฎว่าศาลให้เมืองดีทรอยต์ถอนคำร้องขอล้มละลายแล้ว  และอยู่ระหว่างอุทรณ์ของดีทรอยต์

เพราะกระทบต่อการจ่ายบำนาญแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งจะขัดกับกฎหมายใหญ่ของไอ้กัน

 

โดยสรุปก็คือ ดีทรอยต์ ต้องการยืมมือศาล ในการชักดาบ ล้างหนี้

หรือจ่ายหนี้เท่าที่พอจ่ายได้ นั่นเองครับ

 

 

 

พญาไม้ = ประวิตร วงสุวรรณ?

ถ้าโง่มาก....ไม่ต้องขยันครับ............

เนื่องในวันที่26กรกฎาคม จะเวียนมาบรรจบครบรอบวันคล้ายวันเกิดท่า่นนายกทักษิณอีกครั้ง

เราในฐานะจขกท.ขออวยเป็นคนแรก..

ไอแม้วเมื่อไหร่จะตายห่านไปเสียที

อยู่ไปก็รกโลก

มาจากหนังสือชื่อ "Disorder in the Courts" และเรื่องเล่าต่อไปนี้มาจากเรื่องจริงทุกคำพูด จดออกมาโดยนักข่าวคนหนึ่ง
---------------------------------------------------------------
ทนาย: เมื่อเช้า สามีคุณพูดอะไรกับคุณเป็นคำแรก?
พยาน: เขาพูดว่า "ผมอยู่ที่ไหนรึ แคธี่"
ทนาย: แล้วทำไมคุณถึงโกรธ?
พยาน: ฉันชื่อซูซาน!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณใส่เกียร์อะไรตอนรถชน?
พยาน: ฉันใส่กุชชี่สวีท กับรองเท้ารีบอค
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณยังเตะปี๊บดังอยู่หรือไม่?
พยาน: ไม่ ตอนนั้นผมโกหก
---------------------------------------------------------------
ทนาย: วันเกิดของคุณคือวันที่เท่าไหร่?
พยาน: 18 กรกฎาคม
ทนาย: ปีอะไร?
พยาน: ทุกปี
---------------------------------------------------------------
ทนาย: ลูกชายของคุณอายุเท่าไหร่?
พยาน: สามสิบแปด หรือสามสิบห้า ฉันไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่
ทนาย: เขาอยู่กับคุณมานานแค่ไหนแล้ว?
พยาน: สี่สิบห้าปี
---------------------------------------------------------------
ทนาย: โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่คุณเป็นอยู่ มันส่งผลกระทบต่อความจำของคุณหรือไม่?
พยาน: ใช่ครับ
ทนาย: แล้วมันส่งผลยังไง?
พยาน: มันทำให้ผมลืม
ทนาย: คุณลืม? ยกตัวอย่างเรื่องที่คุณลืมไปแล้วให้หน่อยได้ไหม?
พยาน: .....
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณหมอครับ มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เมื่อคนตายขณะนอนหลับอยู่ เขาจะไม่รู้ตัวว่าเขาตายจนกระทั่งตอนเช้า
พยาน: คุณสอบทนายผ่านจริงเหรอ 
---------------------------------------------------------------
ทนาย: ลูกคนสุดท้องของคุณ คนที่อายุ 20 ปีน่ะ เขาอายุเท่าไหร่?
พยาน: เขาอายุ 20 และฉลาดพอๆกับคุณ!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: (ให้ดูรูปถ่ายหน้าตรงของพยาน) คุณอยู่ในสถานที่ในรูปถ่ายใช่หรือไม่?
พยาน: นี่แกล้อฉันเล่นเรอะ!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: เวลาปฎิสนธิของทารกคือ วันที่ 8 สิงหาคมใช่ไหม?
พยาน: ใช่
ทนาย: แล้วตอนนั้นคุณทำอะไรอยู่?
พยาน: มีเพศสัมพันธ์ >///<
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณมีลูกสามคนใช่ไหม?
พยาน: ใช่
ทนาย: เป็นผู้ชายกี่คน?
พยาน: 0
ทนาย: มีใครเป็นผู้หญิงไหม?
พยาน: ศาลที่เคารพ ขอฉันเปลี่ยนทนายได้ไหม!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณเลิกกับสามีคนแรกเพราะอะไร?
พยาน: การตาย
ทนาย: แล้วใครตาย?
พยาน: ลองทายดูสิ!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คนๆนั้นหน้าตาอย่างไร?
พยาน: เขาค่อนข้างสูง และมีหนวดเครารุงรัง
ทนาย: เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย?
พยาน: ถ้าไม่มีละครสัตว์ในเมือง ฉันว่าผู้ชาย!!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: การที่คุณมาให้การในวันนี้ เป็นเพราะเอกสารที่ผมส่งให้ทนายของคุณ?
พยาน: เปล่า นี่เป็นยูนิฟอร์มทำงานของฉัน!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณหมอครับ คุณหมอชันสูตรศพคนตายกี่ครั้งแล้ว?
พยาน: ทุกครั้งน่ะแหล่ะ! คนเป็นจะโวยวายทุกครั้งที่ผมชันสูตร!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณต้องตอบปากเปล่าทุกครั้งที่ผมถาม!! เอาล่ะ คุณเรียนที่โรงเรียนอะไร?
พยาน: ปากเปล่า.....
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณหมอจำได้ไหม ว่าคุณหมอชันสูตรศพเวลากี่โมง?
พยาน: การชันสูตรเริ่มเวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง
ทนาย: เวลานั้น คุณเดนตั้นตายแล้ว?
พยาน: ถ้าเขายังไม่ตาย ผมว่าเขาคงตายตอนที่ผมแยกร่างเขาเสร็จแล้ว!!
---------------------------------------------------------------
ทนาย: คุณมีคุณสมบัติที่จะให้ตรวจฉี่หรือไม่?
พยาน: คุณมีคุณสมบัติที่จะถามคำถามแบบนี้ด้วยหรือ?
---------------------------------------------------------------
และอันสุดท้าย

ทนาย: คุณหมอ ก่อนที่คุณหมอจะชันสูตรศพ คุณหมอตรวจชีพจรหรือเปล่า
พยาน: ไม่
ทนาย: คุณหมอตรวจความดันโลหิตหรือเปล่า?
พยาน: ไม่
ทนาย: คุณหมอตรวจลมหายใจหรือเปล่า?
พยาน: ไม่
ทนาย: งั้น ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าคนไข้ยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่คุณหมอชันสูตร?
พยาน: ไม่
ทนาย: ทำไมคุณหมอคิดยังงั้น?
พยาน: เพราะว่าสมองของเขาอยู่ในขวดโหล วางอยู่บนโต๊ะของผม!!!!
ทนาย: โอ้! นั่นแสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่เขายังมีชีวิตอยู่!
พยาน: ใช่! มีความเป็นไปได้ที่เขายังมีชีวิตอยู่ และเรียนกฎหมายด้วย!!!
---------------------------------------------------------------
ที่มา: Terry Rainey (facebook.com/terry.w.rainey)
แปลโดย: แอดมินเพจ Dektalent
http://www.facebook.com/dektalentcom

https://www.facebook.com/HuaiToon

crimson tide ลึกทมิฬ หนังเก่าโคตรมันส์

พอดีเบื่อๆ เลยไปหาหนังเก่าๆมาดูก็นึกถึงเรื่องนี้ crimson tide หรือ ลึกทมิฬ ในภาษาไทย  หนังตั้งแต่ 1995 18ปีแล้ว แต่มันส์มาก นำแสดงโดย2นักแสดงโคตรเก๋า gene hackman กับ danzel washington

หนังเป็นเรื่องราวของลูกเรือบนเรือดำน้ำนิวเคลียร์สหรัฐในช่วงรัสเซียล่มสลาย เกิดกบฏแบ่งแยกดินแดนและฐานปล่อยหัวรบนิวเคลียร์โดนยึดไปได้ฐานนึง ลูกเรือ uss alabama จึงเข้าประจำตำแหน่ง พร้อมโจมตี หากฝ่ายกบฏจะปล่อยหัวรบใส่อเมริกา

เรื่องราวมาเกิดความขัดแย้งเมื่อมีคำสั่งให้ยิงหัวรบนิวเคลียร์ใส่ฐานปล่อยนิวเคลียร์ได้ แต่ระหว่างการปล่อย มีเรือดำน้ำรัสเซียที่ไปเข้ากับพวกกบฏมาโจมตี จึงต้องสู้กัน และระหว่างสู้ ก็มีคำสั่งเข้ามา ข้อความเหมือนจะสั่งยกเลิกการโจมตี แต่เสาอากาศพังไประหว่างสู้ เลยได้คำสั่งมาไม่หมด

ทีนี้กัปตันกับรองกัปตันเลยเห็นไม่ตรงกัน กัปตันบอกว่ามีคำสั่งยิงในมืออยู่ เมื่อคำสั่งใหม่ไม่สมบูรณ์ก็ไม่ต้องไปสนใจ แต่รองกัปตันบอกว่าเมื่อมีคำสั่งใหม่ทำไมไม่รอยืนยันให้เรียบร้อยก่อน ยิงซี้ซั้วได้ที่ไหน จึงได้เกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในเรือดำน้ำขึ้น

ใครหวังจะดูฉากแอคชั่นอลังการไม่ต้องมาดูนะครับ แต่ถ้าชอบหนังที่ผู้กำกับตั้งใจสร้าง เขียนบทดีๆ นักแสดงรับส่งกันแบบลื่นไหล แบบที่หนังส่วนใหญ่สมัยนี้ไม่มี เรื่องนี้พลาดไม่ได้เลย หนังจะdrama suspense คือเน้นอารมณ์ร่วมและความบีบคั้นของสถานการณ์ และการรับส่งกันอย่างยอดเยี่ยมของ2ตัวเอก

เต็ม10ผมให้9

หนังเก่าจะ18ปีแล้ว แต่ยังมันส์มากๆ ใครไม่เคยดูไปหามาดูนะ

เมื่อเช้านี้ ได้ยิน คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เล่าข่าวเรื่อง

 

อาการ เจ็บ-ไข้-ได้ป่วย ของ นักร้องลูกทุ่ง ชื่อดัง สายัณห์ สัญญา

 

ฟัง คุณสรยุทธฯ เธอ เล่าแล้ว อยากฟัง เพลงลูกทุ่ง ขึ้นมาทีเดียว

 

จนต้องไปหาแผ่น cd ของ ใหม่ เจริญปุระ ที่ ร้องเพลง ของ คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์

 

ติดรถไปฟัง...ฟังไป-คิดไป  เลยเถิดถึงขนาด นึก ชื่อ ของ เทพเจ้าแห่งการดนตรีไทย

 

มานึกขึ้นได้ก็เพราะ ไปนึกถึง เพลงยาวมโหรี ที่เคยฟังมาแต่ครั้งยังเด็กเด็ก

 

เนื้อหาที่จำได้นั้น ก็ ค่อนข้าง กระพร่อง-กระแพร่ง ผิดถูกประการใด อภัย ด้วยก็แล้วกัน

 

 

ยอกรกึ่งเกล้าบงกชเกศ.....ไหว้ไทเทเวศร์เป็นใหญ่

 

อันเรืองรู้ครูครอบพิณไชย.....สถิตย์ในช่อชั้นกามา

 

ทรงนาม ชื่อ “ปัญจสีขร”.....ได้สั่งสอนสานุศิษย์ในแหล่งหล้า

 

เป็นตำรับขับร้องสืบมา.....ปรากฏเกียรติในแผ่นดินดอน

 

ข้าขอชลีกรรมคำนับ....พระคนธรรพด้วยใจสโมสร

 

จะดีดสีขับร้องทำนองกลอน.....จงศรีสถาพรทุกประการฯลฯ

 

 

นั่นก็คือ เทพเจ้าแห่งดนตรีไทย นั้นได้แก่ พระปัญจสีขร แต่ จะเป็น

 

อีกชื่อหนึ่ง ของ พระคนธรรพ ด้วยหรืออย่างไร ตรงนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ

 

เพราะจาก เพลงยาวบูชาครูมโหรี ตามที่ อ้างมาข้างต้นนั้น ได้เอ่ย ถึง ชื่อสองชื่อ

 

ชื่อแรกคือ พระปัญจสีขร อีกชื่อหนึ่งคือ พระคนธรรพ แต่เนื่องจาก คนธรรพ นั้น

 

ถือกันว่า เป็น อมนุษย์ มีอยู่หลายตน อยู่บนสวรรค์ กับ เทวดา มีอิทธิ-ปาฏิหาริย์ เช่น เทวดา

 

มีหน้าที่ ขับร้อง-เล่นดนตรี ใน สวรรค์ ถวาย พระผู้เป็นเจ้า อยู่ประจำ

 

ดังนั้น ในชั้นนี้ ด้วยความที่ไม่แน่ใจ ตะนิ่นตาญี ขออนุญาต โมเม ไว้ก่อนว่า

 

พระปัญจสีขร กับ พระคนธรรพ เป็น คน-ละ-คน  กัน และ ครู ของ มโหรี คือ พระปัญจสีขร

 

ในการแสดง โขน-ละคร-ดนตรีไทย นั้น ยังมี เทพเจ้าอีกองค์หนึ่ง เรียกว่า

 

พระประโคนธรรพ ออกเสียงว่า พระประโคนทับ การไหว้ ครู ดนตรีไทย ทุกวันนี้

 

จะมี พระประโคนธรรพ เป็นองค์ประธาน...

 

ขอความกรุณา เพื่อนเพื่อน อย่าถามถึง ความเป็นไป-เป็นมา ของ พระประโคนธรรพ

 

เพราะว่า สติปัญญา เริ่มที่จะตื้นเขิน-จำไม่ได้แล้ว ว่า มี ที่มา-ที่ไป อย่างไร

 

แต่ยังจำได้อยู่ว่า เพลงยาวไหว้ครูมโหรี ที่เขียนมาในข้างต้นนั้นยังไม่จบ

 

ยังมีอีกท่อนหนึ่ง ซึ่ง เป็น บทสรรเสริญพระเกียรติพระมหากษัตริย์

 

เพราะใน ศิลปะไทย โดยเฉพาะ นาฏศิลป์ และ ดนตรีไทย นั้น ยก องค์พระมหากษัตริย์ ไว้ เป็น ที่ บูชา สูงสุด...

 

เมื่อพูดถึง การไหว้ครู แล้ว ตะนิ่นตาญี จะนึกถึง การไหว้ครู ที่ ตะนิ่นตาญี คุ้นเคย

 

นั่นก็คือ การไหว้ครูโขน การไหว้ครูโขน นั้น เราจะไหว้กันหลังโรง โดยมี

 

หัวครู คือ หัว-ฤๅษีหน้าทอง และ หัว-พระพิราพ ตั้งไว้ บูชา ด้วย ธูป-เทียน-ดอกไม้

 

พอ ปี่-พาทย์-โหมโรง ทำ เพลงสาธุการ ครูผู้อาวุโสสูงสุด ใน ที่นั้น

 

ก็จะจุดเทียนคู่ แล้ว จุดธูปไหว้ครู เสร็จแล้วผู้ที่เล่นโขนจะเข้าไป ไหว้-ครู ทุกคนจนครบ

 

การแสดง โขน นั้น จริงจริง แล้ว ใน สมัยโบราณ ก่อนนู้น จะเล่นกันอยู่ สาม-สี่ เรื่อง คือ

 

รามเกียรติ-มหาภารตะยุทธ-อิเหนา แต่ที่คนไทยสมัยใหม่นั้นดูจะคุ้นเคยก็เห็นจะเป็น รามเกียรติ

 

ไม่ทราบเหมือนกันครับ ว่า ทำไม...

 

การแสดง โขน-หนังใหญ่-หนังตะลุงฯลฯ เป็น ศิลปะ-วัฒนธรรม ของ ไทย ที่ ดูเหมือน

 

จะใกล้ สูญพันธ์ ไปเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วย พระมหากรุณาธิคุณ

 

อันหาที่เปรียบ ไม่ได้ ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณา

 

โปรดเกล้าฯ ให้จัด การแสดงโขน ขึ้น เป็นประจำทุกปี และ ในปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้

 

กำหนดจัดการแสดงโขน ใน ชุด ศึกกุมภกรรณ ตอน หอกโมกขศักดิ์ โดยมี กำหนดการแสดง

 

ใน วันที่ ๙ พฤศจิกายน จนถึง วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

ที่เขียนมาเสียเยอะแยะอย่างนี้ เพราะอยากให้ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ช่วย สื่อสาร-ประชาสัมพันธ์ บ้าง

 

อาจทำเป็น เบื้องหลัง การแสดง เพราะ เพียงแค่ การคัดตัวผู้แสดง  หรือ จะดัดจริต เรียกว่า casting ก็ไม่แปลก

 

ก็สุดยอดเสียแล้ว  รับรองได้ว่า ไม่มี ลูบหน้า-ปะจมูก อย่าง นักการเมือง ชั้นต่ำ ที่ดิ้นรนเอา ลูก ตัวเอง

 

ไปเป็น mascot ให้กับ ทีมฟุตบอล ของ ฟารั้ง(ถ้าจำได้ไม่ผิด คิดว่า การคัดเลือก ตัวแสดง ผ่านไปแล้ว)

 

นี่ยังไม่นับ การฝึกซ้อม-การแสดง อัน หนักหนา-สาหัส ยิ่งนัก

 

คุณสรยุทธฯ หากจะกรุณา ช่วย ทดแทน บุญคุณ แผ่นดิน นี้ บ้างจะเป็นไร ช่วย รักษา ของ ไทย ไว้

 

ก่อนที่ ศิลปะ-วัฒนธรรม ของ ไทย จะ สูญ-หาย ไป จะได้หรือไม่ครับ คุณสรยุทธฯ ครับ

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๙.๒๔ นาฬิกา

จากการเสวนาการเมืองมาระยะหนึ่งและที่หายไปนาน ขณะนี้อยู่ในเพศบรรพชิต และพักอยู่ ณ ที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งทางภาคใต้ที่จังหวัดสตูล ได้ปฏิบัติตามรอยบาทของพระพุทธองค์ ฉันภัตตาหารมื้อเดียวเน้นปฎิบัติไม่รับกิจนิมนต์และเอกลาภใดๆทั้งสิ้น และดำเนินโครงการหลายโครงการ เช่นโครงการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างไทยพุทธและมุสลิม

ด้วยภารกิจที่มีจึงทำให้อาตมาภาพไม่สามารถเสวนาทางการเมืองได้อีกต่อไปจึงขอลาสมาชิกที่คุ้นเคยกันตั้งแต่บัดนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะดำรงชีพเช่นนี้เรื่อยไปไม่มีกำหนด

  กรรมใดที่ได้เคยกล่าวและกระทำพลาดพลั้งทั้งกายวาจาใจ อาตมาภาพขอให้ทุกท่านอโหสิกรรมให้กับอาตมาภาพด้วย และเช่นกันหากมีผู้ใดที่มีกรรมติดอยู่กับอาตมาภาพ อาตมาภาพขออโหสิกรรมนั้น

                                                                                                                    เจริญพร

 

 

http://www.chaopraya...cebook-เหตุเกิ/

 

... พ่อบอกว่าการสร้างสรรค์ตัวเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม... มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว... ต้องใช้เวลา ความเพียร...

 

 

... พ่อบอกให้อดทน...

 

 

... อดทน... และไม่ย่อท้อในการทำดี...

 

 

... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ...