Jump to content


PATTON

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2557 22:11
-----

#987504 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:20

ปีหน้าธุรกิจ โทรทัศน์ จะคึกคัก ???

อั๊ยย๊ะ น่าสนใจ ไหนเรามาลองดูกันครับ ว่าจะเป็นจริงตามมั้นหรือเปล่า

ความคึกคักเห็นที่น่าจะมาจากการประมูลโทรทัศน์ระบบดิจิตอล ที่ผ่านมา ซึ่งเทียบกับการประมูล 3G กายเป็นหนังคนละม้วน 

ประมูล 3G แบ่งเค้กกันง่ายๆ ราคาขยับแทบจะไม่ให้ กสทช.หน้าแตกที่เปลี่ยนเงื่อนไขกลายเป็นการแบ่งเค้กของผู้ประกอบการ ส่วนประมูลช่องโทรทัศน์ ฟันราคากันเลือดสาด ราคาขึ้นไป 5 -6 เท่าสำหรับช่องที่มีราคาเปิดต่ำๆ อย่างช่องข่าว และเพื่อสังคม 

ส่วนราคาช่อง HD ก็ทะยานไปเกิน 3,000 ล้าน จนมหาเศรษฐีอย่างเสี่ยตา เสี่ยจิกแห่ง Workpoint ถอยกรูดหลังจากเตรียมมาสู้แค่ 2,500 ล้านและอุตสาห์เคาะราคาสู้ไปถึง 3,000 ล้านบาท กับสัญญาจำนวน 15 ปี

แล้วเค้าจะคุ้มทุนมั้ย ?? นั่นคิดแทนเศรษฐีอีก 
โทรทัศน์ดิจิตอล ได้รายได้มาจากการขายโฆษณา โดยคาดว่าจะไปแบ่งเค้กมูลค่าโฆษณา 130,000 ล้านบาท ที่ผู้ผลิตสินค้าต่างๆ จ่ายให้กับสื่อในปัจจุบัน 

คำถามต่อมาคือ TV Digital ต้องแย่งเค้กมาให้ได้เท่าไหร่จึงคุ้มค่า 

มามะจะเล่าให้ฟัง ดูเรื่องแรกก่อน

"เงื่อนไขการชำระค่าสัณญาณที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้ กสทช. " 

================================= 
กสทช.แยกวงเงินจ่าย เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ตามราคาเริ่มต้นประมูล กับส่วนที่ 2 ราคาส่วนต่างที่ประมูลได้ ราคาเคาะเพิ่ม และให้แยกจ่ายแต่ละปีดังนี้ 

การชำระส่วนที่ 1 แบ่งเป็น 4 งวด ภายใน 4 ปี โดยปีที่ 1 ชำระเงินงวดแรก 50% ปีที่ 2 ชำระเงิน 30% ปีที่ 3 ชำระเงิน 10% และปีที่ 4 ชำระเงิน 10%

ส่วนที่ 2 เป็นการชำระเงินส่วนที่เกินที่เพิ่มจากอนุญาตแข่งขันการประมูล (จากราคาที่เคาะเพิ่ม) แบ่งการชำระเป็น 6 งวด คือ ปีที่ 1-2 ชำระ 10% ปีที่ 3-6 ชำระ 20% 

โดย"ราคาเริ่มต้น" ช่องวาไรตี้ HDราคาเริ่มต้น 1,510 ล้านบาท ช่องวาไรตี้ SD ราคาเริ่มต้น 380 ล้านบาท ช่องข่าวสารสาระราคาเริ่มต้นประมูล 220 ล้านบาท และช่องเด็กและครอบครัวราคาเริ่มต้น 140 ล้านบาท

ส่วน"ราคาส่วนต่าง" ของผู้ประมูลได้ ช่วงราคาของ HD 7 ช่อง อยู่ที่ 3,530 - 3,320 ล้านบาท
SD 7 ช่อง อยู่ที่ 2,355 - 2,200 ล้านบาท , ช่องข่าว 7 ช่อง ราคาอยู่ที่ 1,338 - 1,298 ล้านบาท
และช่องเด็ก 3 ช่อง ราคาอยู่ที่ 666 - 648 ล้านบาท
----------------------------------------------------------------------

คราวนี้ ผมจะคำนวน คชจ. ของช่อง HD ให้ดูโดยละเอียด 
===============================

ปีที่ 1 จ่ายค่าสัญญา 755+342.5 *(ดูอ้างอิงด้านล่าง) 
ค่าเชื่อมโยงเครือข่าย และค่าเช่าดาวเทียมเดือนละ 7 ล้านบาทปีละ 84 ล้าน
ค่าบริหารจัดการ 1,000 ล้านบาท **(ดูอ้างอิงด้านล่าง)
ค่าธรรมเนียมส่วนแบ่งกำไร 4% อันนี้คาดว่าผู้ประกอบการทำงบ ขาดทุนหรือกำไร ปริ่มๆ ไม่นับ

"รวม 2,181.5 ล้านบาท" ไม่นับ Fix cost 
แปลว่าแต่ละปี ทั้ง 7 ช่องใหม่ต้องหาค่าโฆษณา เพื่อคุ้มค่าใช้จ่าย 15,270 ล้านบาทต่อปี

ส่วนช่อง SD ค่าใช้จ่ายต่อปีถูกกว่า อยู่ที่ 1,500 ล้าน 
ทั้ง 7 ช่องต้องหาโฆษณาให้ได้ 10,500 ล้านบาท

เฉพาะช่องวาไรตี้ เม็ดเงินค่าโฆษณา ที่จะแบ่งเค้กออกมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อความอยู่รอดของอุตสาหกรรมใหม่นี้ก็เป็น 25,770 ล้านบาท หรือ 20% ของงบโฆษณาเดิม 
ไม่นับช่องข่าว 7 ช่อง และช่องเด็ก 3 ช่องที่ต้องการเงินอุดหนุนอีกกว่า 10,000 ล้านบาท

และถ้ารวมความคุ้มทุนของ Fix cost ที่ลงไปบวกกำไรที่ต้องการ คาดว่า TV Digital ต้องการค่าโฆษณา อยู่ที่ 4 - 5.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ต่อปีหรือประมาณ 30% - 45% ของงบโฆษณาที่มีอยู่
-----------------------------------------------------------------------

ในวันที่คนแบบผม (คนที่ไม่เสพสื่อโทรทัศน์ อีกแล้ว ) เพิ่มจำนวนมากขึ้น
TV Digital เพิ่มมาอีก 24 ช่อง กับความต้องการค่าโฆษณา มหาศาลเพื่อดำเนินธุรกิจให้อยู่รอด

ใครที่วิเคราะห์ว่าหุ้นของ บ.ที่ประมูลได้จะพุ่งขึ้นก็ดูยาวๆหน่อยนะครับ TV ปรกติ 6 ช่อง เรตติ้งก็ต่างกันฟ้ากับเหว ช่วงเวลาคนดู TV ในแต่ละวันมันจำกัด คู่แข่งของพวกคุณคือ Youtube นะครับ ดูที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ 

แต่ก็นะ ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจโฆษณาอยู่เก็บกินความหรูหราบนยอดสุดของธุรกิจมานาน เค้าคงมีวิธีคิดที่เราคิดไม่ถึงก็เป็นได้ ไม่งั้นเค้าไม่ขายน้ำดื่มขวดละ1 ในราคา 7 บาท ไม่ขายโลชั่นขวดละ 20 ในราคา100 กว่า ได้หรอกครับ 

ปล. ผมไม่เชื่อว่างบโฆษณาใน Free TV จะได้ผลในอนาคต 
ปล. 2 ผมเชื่อในเรื่อง Value creation และ Value Delivery มากกว่าการทำ Advertising อย่างเดียว โดยไม่สนใจปัญหาของลูกค้า 

* (ราคาที่ประมูลได้ ผมนำราคาสูงสุด + ราคาต่ำสุด แล้วหาร 2 มาเป็นราคาเพื่อการคำนวน)
** (ค่าใช้จ่าย บริหารสถานีโทรทัศน์ ผมนำตัวแบบ Thai PBS ที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ปีละ 2,000 ล้านบาท มาคำนวน และลดเหลือ 50% 1,000 ล้านบาทในฐานะ บ.เอกชนที่มีประสิทธิภาพ) 

(มาจากงบ Thai PBS ปีละ 2,000 ล้านบาท แต่นี่เป็นของเอกชนถุกกว่าครึ่งนึง

 

>>>>กล้อง ระบบบันทึกภาพ ลงทุนใหม่หมดแน่นอนครับงานนี้ ผมว่า ไม่รับรู้กำไร ก่อน 10 ปีแน่นอน

6 ปีที่ต้องจ่ายค่าสัญญาเนี่ย ขาดทุนสะสม 

แล้วก็ค่อยๆ แก้ขาดทุนสะสม อีก 4 - 5ปี




#987490 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:11

ถ้าเรายังปล่อยให้พรรคการเมืองที่ไม่มีคุณธรรม ไร้ความสามารถบริหารประเทศ บริหารประเทศต่อไป เชื่อเถอะว่าเราได้เห็น ชาวนาไทยหมดไปจากเเผ่นดินไทยเเน่นอน ต่อไปก็จะเหลือเเต่ ลูกจ้างที่รับจ้างทำนาบนที่นาที่เคยเป็นของตัวเอง  

 

 

จากการที่ราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งทำให้ปริมาณส่งออกข้าวลดลงต่อเนื่อง ในปี 2557   ข้าวขายไม่ออกเเต่คนไทยต้องทนกินข้าวเเพงเช่นเดิม

“FAO” เผย อัตราการผลิต    คาดว่าการผลิตข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้นถึง 702 ล้านตัน ในปี 2013 และ 2014 ส่วนการผลิตข้าวนั้นถูกมองว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 489.9 ล้านตัน   

 เอฟเอโอ (FAO) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงโรมของอิตาลี ได้คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณผลิตผลของธัญพืชทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 3% เป็น 2,402 ล้านตันในปี 2013 และ 2014 ทั้งนี้ผลผลิตส่วนมากที่เพิ่มขึ้นมานั้น จะมาจากความต้องการใช้ข้าวโพดเพื่อการเลี้ยงปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น และจากความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ
       
       เอฟเอโอระบุว่า คลังสินค้าธัญพืชของโลกในช่วงท้ายปี 2014 ถูกคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 11% เป็น 569 ล้านตัน ซึ่งสูงสุดในรอบ 12 ปี

นั้นอย่าคิดว่า ราคาอาหารสัตว์ในประเทศจะถูกลง เนื้อสัตว์ในประเทศจะถูกลง   ถ้าเรายังปล่อยให้พรรคการเมืองที่ไม่มีคุณธรรม ไร้ความสามารถบริหารประเทศ บริหารประเทศต่อไป เชื่อเถอะว่าเราจะได้เห็นราคาอาหารสัตว์ในตลาดโลกถูกลง เนื้อสัตว์ในตลาดโลกถูกลง เเต่  ราคาอาหารสัตว์ในประเทศเเพงขึ้น เนื้อสัตว์ในประเทศเเพงขึ้น

 

http://www.manager.c...D=9560000071435




#987487 ล้างสารพัดข้อกล่าวหาจำนองข้าวเพื่อรัฐบาลประชาธิปไตย

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:09

ถ้าเรายังปล่อยให้พรรคการเมืองที่ไม่มีคุณธรรม ไร้ความสามารถบริหารประเทศ บริหารประเทศต่อไป เชื่อเถอะว่าเราได้เห็น ชาวนาไทยหมดไปจากเเผ่นดินไทยเเน่นอน ต่อไปก็จะเหลือเเต่ ลูกจ้างที่รับจ้างทำนาบนที่นาที่เคยเป็นของตัวเอง  

 

 

จากการที่ราคาข้าวไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่งทำให้ปริมาณส่งออกข้าวลดลงต่อเนื่อง ในปี 2557   ข้าวขายไม่ออกเเต่คนไทยต้องทนกินข้าวเเพงเช่นเดิม

“FAO” เผย อัตราการผลิต    คาดว่าการผลิตข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้นถึง 702 ล้านตัน ในปี 2013 และ 2014 ส่วนการผลิตข้าวนั้นถูกมองว่าจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 489.9 ล้านตัน   

 เอฟเอโอ (FAO) ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงโรมของอิตาลี ได้คาดการณ์ไว้ว่าปริมาณผลิตผลของธัญพืชทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 3% เป็น 2,402 ล้านตันในปี 2013 และ 2014 ทั้งนี้ผลผลิตส่วนมากที่เพิ่มขึ้นมานั้น จะมาจากความต้องการใช้ข้าวโพดเพื่อการเลี้ยงปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้น และจากความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ
       
       เอฟเอโอระบุว่า คลังสินค้าธัญพืชของโลกในช่วงท้ายปี 2014 ถูกคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 11% เป็น 569 ล้านตัน ซึ่งสูงสุดในรอบ 12 ปี

นั้นอย่าคิดว่า ราคาอาหารสัตว์ในประเทศจะถูกลง เนื้อสัตว์ในประเทศจะถูกลง   ถ้าเรายังปล่อยให้พรรคการเมืองที่ไม่มีคุณธรรม ไร้ความสามารถบริหารประเทศ บริหารประเทศต่อไป เชื่อเถอะว่าเราจะได้เห็นราคาอาหารสัตว์ในตลาดโลกถูกลง เนื้อสัตว์ในตลาดโลกถูกลง เเต่  ราคาอาหารสัตว์ในประเทศเเพงขึ้น เนื้อสัตว์ในประเทศเเพงขึ้น

 

 

ธ.ก.ส.ยอมรับหมดเงินรับจำนำข้าว เหลือแค่ 26,000 ล้าน พอจ่ายชาวนาแค่สิ้นปีนี้ ส่วนปีหน้ายังวังเวง ไม่รู้หาเงินจากไหน โวยพาณิชย์ขายข้าวไม่เข้าเป้า สิ้นปีได้เพิ่มแค่ 6,000 ล้าน "ยรรยง" เดือด บอกไม่มีหน้าที่ทวงเงิน แจงสำนักงบฯเกลี่ยงบฯใหม่ให้อีก 26,809 ล้านบาท มีเงินจ่ายชาวนา 5.5 ล้านตันแรกแน่ 

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวถึงการรับจำนำข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2556/57 ว่า ขณะนี้มีปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำไว้แล้ว 5.5 ล้านตัน คิดเป็นวงเงิน 90,000 ล้านบาท แต่ ธ.ก.ส.มีวงเงินคงเหลือสามารถจ่ายได้เพียง 26,000 ล้านบาท (กรอบวงเงินตามมติ ครม. 500,000 ล้านบาท) เท่านั้น เท่ากับยังขาดวงเงินรับจำนำอยู่อีกประมาณ 64,000 ล้านบาท

 

นายยรรยง พวงราช รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณี ธ.ก.ส.ระบุไม่มีเงินรับจำนำข้าวสร้างความสับสนให้สังคมและชาวนา ทั้ง ๆ ที่เงินมีอยู่ เพียงแต่ว่าจะเอาเงินก้อนใดมาใช้ก่อนหลังเท่านั้น แต่ที่ธ.ก.ส.ไม่ยอมนำเงินสำรองมาใช้ก่อนพราะกังวลว่าจะกระทบฐานะ ขณะที่ รมว.คลังก็ยืนยันว่า จะเร่งจ่ายให้ชาวนาให้เสร็จสิ้นก่อนปีใหม่

"ธ.ก.ส.มีหน้าที่จ่ายเงินให้ชาวนาเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่ทวงเงินกระทรวงพาณิชย์" 

ล่าสุดได้รับการยืนยันจากสำนักงบประมาณแล้วว่า ได้อนุมัติให้เกลี่ยงบประมาณที่กันไว้สำหรับโครงการนี้เพิ่มอีก 26,809 ล้านบาท รวมกับเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อีก 20,176 ล้านบาท เงินจากการระบายข้าวในสต๊อกที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมคืนเงินให้คลังประมาณ 6,000 ล้านบาท และเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเพื่อชดเชยให้กระทรวงพาณิชย์ในการผลิตข้าวสารบรรจุถุงขายในโครงการธงฟ้า ร้านถูกใจ การขายข้าวให้หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ และข้าวบริจาคอีก 6,200 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 59,185 ล้านบาท เพียงพอสำหรับการจ่ายให้ชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงิน 

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าวงเงินเกลี่ยงบประมาณใหม่ก้อนนี้ "มีจริง" ก็จะพอจ่ายเฉพาะข้าวที่รับจำนำเข้ามาแล้ว 5.5 ล้านตัน ยังไม่นับรวมข้าวที่จะต้องจำนำต่อไปจนสิ้นสุดโครงการจำนำข้าวนาปี 2556/57 ที่ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาจ่ายชาวนาอยู่ดี

 

http://www.prachacha...wsid=1387130016

..............................................................................................

ส่งออกฟันธง5ปีไทยระบายสต็อกข้าวไม่หมด

นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยฟันธง 5 ปี ไทยระบายข้าวในสต็อกไม่หมด ผลพวงโครงการรับจำนำข้าว ลั่นใหญ่ขนาดใหญ่เกิน "เทวดา"ก็บริหารไม่ได้

นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าวว่า ปีพ.ศ.2556 ตลาดข้าวหอมมะลิขยายตัวมากขึ้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีต่อการส่งออกข้าวไทย เนื่องจากไทยไม่สามารถแข่งขันการส่งออกข้าวขาวได้ ในขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิพบว่าอุปสรรคยังมีน้อย คู่แข่งมีเพียงกัมพูชา ในขณะที่ข้าวนึ่งแม้ไทยจะส่งออกได้มากแต่ปริมาณเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆมา เรื่องจากมีข้าวนึ่งจากอินเดียเข้ามาตีตลาดจำนวนมากในราคาที่ถูกกว่า

 

การแข่งขันการส่งออกข้าวในตลาดโลกนั้น โดยรวมถือว่ายังมีความรุนแรงอยู่มาก การส่งออกของไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง นั้นเป็นผลมาจากโครงการรับจำนำซึ่งเป็นอุปสรรคที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มีมา จากราคาข้าวที่ตั้งไว้สูงเกินไป เป้าหมายของรัฐที่ตั้งใจจะรวมข้าวไว้ที่เดียวเพื่อต่อรองกับผู้ซื้อหรือผู้นำเข้า นั่นไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้ส่งออกส่งสัญญาณเตือนแล้วแต่รัฐบาลไม่เชื่อ

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไทยผลิตข้าวได้มากเกินความต้องการถึง 2 เท่า ต้นทุนที่แพงเกินไปกว่าผู้ปลูกข้าวทั้งหลายแม้แต่สหรัฐ ในจุดนี้ไทยพยายามจะเป็นครัวของโลก แต่ของราคาที่แพงมากทำให้เป็นไปได้ยาก ปัจจุบันทำให้ข้าวมีในสต็อกจำนวนมาก การระบาย 5 ปี ก็ไม่หมด วิธีการคือต้องหยุดสต็อก แต่รัฐต้องช่วยชาวนาเช่นเดิม ในขั้นตอนที่สั้นกระชับที่สุด จากขั้นตอนในโครงการรับจำนำที่มีขั้นตอนมากเกินไป มีขนาดใหญ่เกินไปใหญ่มากจนเทวาดาก็บริหารไม่ได้ เฉพาะโรงสี 1,000โรง ต่อให้เป็นหน่วยเฉพาะกิจ ก็นเวียนมาดูแลตรวจสอบไม่ครบ

http://www.bangkokbi...͡¢éÒÇäÁèËt.html

......................................................................................

เอามาฝากเจ๊แดง ครับ เงินไม่พอจ่ายและยังไม่รู้จะหาจากไหน ตลาดส่งออกก็ระบายไม่ออก  :) 




#987390 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:54

ส่วนเรื่องนี้ ก็ อตร.กับ เศรษฐกิจไทยเเละความมั่นคง  อย่างมาก  

 

 เราไม่ได้สู้กับทักษิณคนเดียว เราสู้กับเสือหิว อย่างมะกัน ที่ต้องการเข้ามาโกย ผลประโยชน์ในประเทศ โดย Kenneth Adelman ได้จัดตั้ง the “USA for Innovation” เมื่อปี 2550 เพื่อใส่ร้าย Thai establishment หรือกลุ่มคนไทยรักชาติ 

มาดูกันว่า USA for Innovation คืออะไร และเป็นภัยร้ายแรง ต่อประเทศมากแค่ไหน ปี 2549 นาย Adelman มีตำแหน่งเป็น Senior Counselor ของบริษัท ประชาสัมพันธ์ใหญ่ ของสหรัฐฯที่ชื่อ Edelman, Inc มีตำแหน่งเป็น Senior Counselor ทักษิณ ปรากฏชื่อโดดเด่นเป็น “Clients” หรือ “ลูกค้า” ที่มีอันดับ ของ นาย Adelman ยังมีบทบาทโดดเด่นใน องค์กร non-profit organization ที่เรียกตัวเองว่า USA for Innovation ที่ประกาศเป้าหมายว่า ต้องการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และนวํตกรรมทั่วโลก ในตำแหน่ง Executive Director ของ USA for Innovation

USA for Innovation นี่แหละที่ลงทุน ซื้อเนื้อที่โฆษณาเต็มหน้า ในหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal และ Roll Call ที่พาดหัวว่า “Slouching towards Burma” เพื่อโจมตีคว่าประเทศไทย กำลังจะโอนเอนไปเป็นอย่างพม่าแล้ว

เห็นหรือยังคะว่า โยงกับทักษิณ ทั้ง บริษัทประชาสัมพันธ์ Edelman และการรณรงค์ต่อต้านประเทศไทยอย่างไร เท่านั้นไม่จบ นาย Adelman คนนี้ยังเขียนบทความลงใน Washington Times ภายใต้หัวเรื่อง “Troubles from Thailand” ซึ่งกล่าวหาไทย ทั้งเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิบัตรยาและเรื่อง “เผด็จการทหาร” ด้วย
เรียกว่า จงใจทุ่มเทเพื่อทำลายชื่อเสียง ของประเทศไทย อย่างออกหน้าออกตา ก็เห็นจะได้

คนข้างนอกเมืองไทยที่ได้อ่านบทความ คำแถลงการณ์ และคำให้สัมภาษณ์ของนาย Adelman คนนี้อาจจะเข้าใจว่า เรื่องละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และสิทธิบัตรยานั้นเกิดขึ้น หลังจากทักษิณถูกโค่นไปเท่านั้น...เสมือนหนึ่งว่าก่อนหน้านี้ ไม่มีปัญหานี้ในเมืองไทยเลย และพอ US Trade Representative ที่ชื่อ Susan C. Schwab ประกาศเมื่อวันที่ 30 เมษายนว่าประเทศไทย ถูกเลื่อนระดับจาก Watch List ลงเป็น Priority Watch List แย่ลงกว่าเก่า นาย Adelman คนนี้ก็ออกแถลงการณ์ อ้างถึงจ ว่าสถานการณ์การละเมิด ทรัพย์สินทางปัญญาในไทย “ได้เสื่อมทรุดลงตั้งแต่รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้ง มาถูกคณะทหารปฏิวัติ ไปเมื่อเดือนกันยายนที่แล้ว...”

นาย Adelman คนนี้มีอาชีพที่ “ทับซ้อนผลประโยชน์” อยู่หลายอย่าง เป็นทั้งคนเขียนคอลัมน์ ในหนังสือพิมพ์ และเป็นที่ปรึกษาบริษัทประชาสัมพันธ์ แล้วก็ยังเล่นบทเป็น NGO อีกด้วย คนในวงการนี้เรียก ว่าเป็นพวก “neo-con” หรืออนุรักษ์นิยมกลายพันธุ์




#987381 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:49

ใครกันเเน่ กู้มาโกง ชาติ    

ถ้าเอาไปถามขี้ข้าสนับสนุนรัฐบาลก็จะได้คำตอบว่า "เเน่จริงก็เลือกตั้งให้ชนะ สิ " อิ อิ

 

เรามีหนี้สาธารณะของรัฐบาลแตะที่ 5 ล้านล้านบาท (5,011,939.840 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกของประเทศครับ 
หนี้จำนวนนี้ คิดเป็น 44.89% ของ GDP ไทย

แม้จะไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วง ก.ค.52 - พ.ย. 52 ที่หนี้สาธารณะของไทยไปแตะที่ระดับ 45%กว่าๆของ GDP (มูลค่าหนี้แตะ 4 ล้านล้านบาทครั้งแรก ส.ค. 52) และปริมาณหนี้ของไทยเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินที่เรียกว่า "เงินกู้เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ" หรือที่เรียกว่าเงินกู้ไทยเข้มแข็ง ที่เริ่มกู้ตั้งแต่ ก.ค 52 เป็นเงิน 50,000 ล้านบาท จนครบ 398,540 ล้านบาทเมื่อ ธ.ค. 53

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คืิอ แม้ประเทศจะมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นถึงกว่า 400,000 ล้านบาท หรือมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 7%ในช่วงเวลา ก.ค.52 - ธ.ค. 53 แต่ปริมาณหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศกลับมีสัดส่วนที่ลดลงกล่าวคือ %หนี้สาธารณะต่อ GDP เมื่อ ก.ค.52 อยู่ที่ 45.35% , ธ.ค.53 อยู่ที่ 42.43% และ ส.ค.54 อยู่ที่ 40.75% สาเหตุสำคัญที่ทำให้สัดส่วนหนี้ต่อ GDP ลดลง ทั้งที่มีมูลค่าหนี้เพิ่มก็คือ GDP ของไทยที่เติบโตขึ้น 10.52% ในปี 2553 หนี้เพิ่มขึ้น 7% แต่ทำให้ GDP โต 10.5 %

ถ้าเป็นการลงทุนก็ถือว่าคุ้มค่า

ผิดกับสมัยปัจจุบัน ปริมาณหนี้ของประเทศจากเตือน ต.ค.54 ที่ 4.336 ล้านล้านบาท กลายมาเป็น 5.011 ล้านล้านบาทในเดือน ส.ค. 55 หรือมีมูลค่าหนี้โตขึ้นถึง 16% แต่ GDP คาดการของปี 2555 จะเติบโตเพียง 4.5% 

เมื่อดูรายละเอียด ของหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น 16% จะอยู่ที่การค้ำ้ประกันพันธบัตรธนาคารเพื่อการเกษตร(ธกส.) ที่รัฐบาลให้นำเงินไปใช้ในการจำนำราคาข้าว ที่เพิ่มขึ้นจาก 63,172 ล้านบาท เมื่อ ต.ค.54 เป็น 261,098 ล้านบาท ในเดือน ส.ค55 และเงินกูเพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุลที่กู้มาเพิ่มอีก ประมาณ 400,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมการกู้เงินตามแผนแก้ปัญหาน้ำที่เริ่มมีการทะยอยกู้เงินล่วงหน้่าบ้างแล้ว และคาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2555-2556 จะกู้ครบจำนวน 350,000 ล้านบาท และคาดว่าต้องค้ำประกันเงินกู้ให้ ธกส.อีก 200,000 ล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าวของปี 2555/2556 ดังนั้นสิ้นปี 2556 จึงประเทศไทยน่าจะมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ทะลุ 50% อย่างแน่นอน

เมื่อเปรียบเทียบการกู้เงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2552 ที่ประเทศได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของอเมริกา ทำให้ GDP ไทยติดลบ 0.5% จน GDP ไทยบวก 10.5% ในปี 2553 กับการกู้เงินใช้จ่ายอย่างไร้ทิศทางในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม อดีตนายกอภิสิทธิ์ และ รมว.คลัง กรณ์ จึงเป็นเป้าโจมตีอย่างมโหราฬ

คำพูดที่ว่าอภิสิทธิ์กู้มาโกง กับ ยิ่งลักษณ์กู้มากระตุ้นเศรษฐกิจ จึงน่าจะกลับกันอย่างไม่ต้องสงสัย

สุดท้ายประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจในปัจจุบันคือประเทศที่กู้เงินโดยไม่คำนึงภึง GDP หรือความสามารถในการจ่ายหนี้ได้ในอนาคตทั้งสิ้น ทั้งอเมริกา กรีซ อิตาลี ดปรตุเกส สเปน รวมถึงประเทศที่อาจจะมีปัญหาตามมาอย่างเกาหลีใต้ที่วันนี้ หนี้สาธารณะรวมรัฐและประชาชนมีสัดส่วนถึง 200% ต่อ GDP

ในอนาคตการที่เรารักนักการเมืองจนหลงลืมปกป้องเค้าอย่างเมามัว จึงไม่น่าจะใช่วิถีทางประชาธิปไตยที่ถูกต้อง การตักเตือนกันทำได้ ไม่มีใครอยากล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งพอๆกับไม่มีใครอยากให้ประเทศล้มจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน




#987377 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:46

ถ้าเอาไปอ่านให้พวกขี้ข้าสนับสนุนรัฐบาลฟังก็จะได้ยินเสียงตะโกน ดังๆ ตามนี้ ว่า "เเน่จริงก็เลือกตั้งให้ชนะ สิ " อิ อิ

 

สุดโหดร้าย ...... ครัวไทยสู่ครัวโลก นาโยะไทย นอกจากทำพังเละ แผนที่ความมั่นคงอาหาร ไทยยังติดอันดับ "ความหิวโหย" .... มูลนิธิชีววิถี จัดทำแผนที่ความเสี่ยงขึ้น พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประเทศไทยนั้น ติดอันดับผู้ส่งออกอาหาร ในอันดับต้นๆ ของโลกโดยเฉพาะข้าว กุ้ง มันสำปะหลัง ไก่ ทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋องเป็นอันดับ 1 ของโลก
ส่งออกสินค้าประมง และข้าวโพดหวาน สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ส่วนยางพาราส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก 

ขณะที่ยังพบว่าบริษัทซีพี กรุ๊ปของไทย ยังเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ ของโลก สูงถึง 23.2% ขณะที่บริษัทคาร์กิล ของสหรัฐอเมริกา เป็นอันดับ 2 คือ 15.9% และบริษัทนิวโฮป ของจีนครองส่วนแบ่งการตลาด 13%

ในทางกลับกัน ไทยยังติดอันดับความหิวโหย ของโลก โดยพบว่าในจำนวนประชากร 800 ล้านคน ที่ขาดแคลนอาหารนั้นมีคนไทยถึง 4.7 ล้านคน ที่ยังหิวโหย ตรงนี้สวนทางกับ การเป็นผู้ส่งออกอาหาร เนื่องจากอาหารที่ผลิตได้ ยังขาดการกระจาย และถูกครอบครอง โดยทุนรายใหญ่

ข้อมูลแผนที่สถานะ ความไม่มั่นคงทางอาหาร ของไทยระบุว่า มีคนไทย 60,000 คน เป็นมะเร็งตาย ในจำนวนนี้ 36% พบสารพิษในเลือด อีก 25% ภาวะบริโภคเกิน และ 7.3% ขาดแคลนอาหาร ขณะที่ 60% เกษตรกรที่มีอายุ 45-51 ยังต้องเช่าที่ดินทำกิน ส่วน 90% ของพันธุ์พืช พันธ์สัตว์อยู่ในมือ บริษัทรายใหญ่ 3-4 แห่งเท่านั้น ทำให้ 32% ของพืชผัก จึงยังมีสารเคมีตกค้าง เพราะมีเกษตรอินทรีย์ อยู่เพียงแค่ 1% และสุดท้าย 75% ของร้านค้าปลีก และคอนวิเนียนสโตร์ ก็คืออาหาร




#987373 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:44

ไทยกลายเป็นคนป่วยทางเศรษฐกิจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพราะอะไร เพราะรัฐบาลไม่เก่ง รัฐบาลไม่มีวินัยทางการเงิน
เเต่ถ้าเอาไปถามขี้ข้าสนับสนุนรัฐบาลก็จะได้คำตอบว่า "เเน่จริงก็เลือกตั้งให้ชนะ สิ " อิ อิ

>>>>ธนาคารทหารไทย รายงานว่าเกิดสิ่งที่เรียกว่า สภาวะเงินสดขาดมือ ในหมุ่ประชาน จนมีการนำบัตรเครดิตไปถอนเงินสดใช้เป็นจำนวนมาก

อ่านข่าวนี้แล้วคิดอะไรกันบ้างครับ.... 

บัตรเครดิต เป็นบัตรแทนเงินสด ให้เครดิตแก่ผู้ถือบัตรใช้ซื้อสินค้าต่างๆ

การที่ผู้ถือบัตรกดเงินสดจากบัญชีบัตรเครดิต จะต้องจ่ายดอกเบี้ยทันทีและเป็นอัตราที่สูงมาก 20%++ ต่อปี หรือประมาณ 1.5% - 2% ต่อเดือน เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะคำถามสำคัญเค้าเอาเงินสดไปทำอะไร ........

"ซื้อสินค้า".... เหรอ?? 
ก็ในเมื่อมีบัตรเครดิต ก็รูดซื้อของไปสิ อีก 30 วันค่อยจ่ายด้วย ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยอีกต่างหากถ้าจ่ายตรงเวลา 

ถ้าไม่ได้ซื้อของแล้วเอาไปทำอะไร ...... 

ความเป็นไปได้คือการนำเงินสดมาเป็นเงินหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน ในที่นี้ไม่ใช่เพื่อการจับจ่ายใช้สอย แต่เป็นการนำเงินสดไป re finance หรือนำเงินสดจากบัตรเครดิตไปจ่ายหนี้ก้อนอื่น การเพิ่มหนี้เพื่อจ่ายหนี้คือวิธีการที่ผิด และเป็นการเพิ่มมูลค่าหนี้จากดอกเบี้ยอีกต่างหาก 

เมื่อหลายเดือนที่แล้วผมเตือนว่า ควรลดปริมาณหนี้ให้น้อยที่สุด ผมเองก็จำใจปลดหนี้บัตรเครดิตตัวเอง และงดการใช้บัตรเครดิต เพราะมักจะเผลอใจใช้เกินตัว 

วันนี้เศรษฐกิจประเทศ ไม่ดีอย่างยิ่ง GDP ประเทศ เติบโตต่ำกว่า 3% (ซึ่งผมคาดไว้ตั้งแต่กลางปี รัฐบาลกลับหมกเม็ดตัวเลขเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้) เงินเฟ้อ 25 แก่ๆ เศรษฐกิจทั้งโลกโต 3.5% - 3.7% ประเทศไทยเติบโตต่ำกว่าโลกแล้ว ...

ไทยกลายเป็นคนป่วยทางเศรษฐกิจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพราะอะไร 

หากใครตอบว่าเพราะความขัดแย้งทางการเมือง เพราะม้อบ ผมจะตบปากให้เพราะปี 53 เรายังฟื้นจากวิกฤติการเงินอเมริกาเมื่อ52 ด้วย GDP ที่โตกว่า 11% ทั้งที่มีวิกฤติการเมืองตลอดปี 2553 

เราป่วยเพราะรัฐบาลไม่เก่ง รัฐบาลไม่มีวินัยทางการเงิน การคลัง และที่สุดรัฐบาลมีแนวโน้มทุจริต คอร์รัปชั่น 

เงินที่คิดว่ากระจายให้รากหญ้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สุดท้ายกระจุกตัวอยู่ในผู้มีอำนาจไม่กี่คน เศรษฐกิจประเทศไม่หมุนเวียน หนี้ครัวเรือนสูงมากขึ้น 

ถ้าประชาชน เริ่มก่อหนี้ส่วนบุคคลมากขึ้นเรื่อยๆ สัดส่วนการใช้จ่ายของประชาชนก็จะเริ่มหมดไปกับการจ่ายดอกเบี้ย และจ่ายคืนเงินต้นจากการกูยืม แล้วจะเอาที่ไหนมาจับจ่ายใช้สอย จะเอาที่ไหนมากระตุ้นเศรษฐกิจ

หากใครยังมึนๆ งงๆ ถามว่าไหนหล่ะระบอบทักษิณ ผมก็จะชี้ให้ดูแล้วบอกว่านี่ไงระบอบทักษิณ กระตุ้นเศรษบกิจให้พองไว้ เพื่อให้สินค้าและธุรกิจตัวเองโต พอธุรกิจโตไม่ทันใจก็เริ่มหากินกับโครงการรัฐ โดยไม่สนใจว่าประชาชนจะอยู่รอดในระยะยาวหรือเปล่า

ใครกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้างหนี้ภาคครัวเรือน ใครกระตุ้นการใช้จ่ายรากหญ้าให้เกินตัว ใครใช้แนวคิดรัฐสวัสดิการทั้งที่ระบบภาษีของประเทศยังไม่รัดกุมและรั่วใหล ใครได้ประโยชน์จากนโยบายพวกนี้ 

และ ใครกำลังจะแย่ด้วยนโยบายพวกนี้   

 

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ข้อมูลสถิติ) EC_EI_027 เครื่องชี้เศรษฐกิจมหภาคของไทย 1/

http://www2.bot.or.t...px?reportID=409

 

http://www.manager.c...D=9560000150145

 

 

ศก.ซบเซา ผู้บริโภคกระเป๋าแห้ง แห่กดเงินสดบัตรเครดิตใช้จ่าย ยอมแบกภาระดอกเบี้ยสูงลิ�

 

http://www.manager.c...D=9560000149869




#987368 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:39

ผมเลือกบทความนี้มาเป็นบทความเเรกเพราะเข้าใจง่าย  

 

 

เรื่องจำนำข้าว ทำเราเจ๊ง GDP ทรุด
รถคันแรก ทำธุรกิจรถพังในปีต่อไป
มีการทำกำไรจากนักลงทุน จากเรื่องค่าของเงิน และข่าว QE
หนี้ครัวเรือน มีปัญหา 
ทั้งหมด รัฐบาลยิ่งลัก มีอะไรได้รับการแก้ไข บ้างครับ 
สวัดดีปีใหม่ของการทำงานวันเเรกด้วยบทความคุณภาพ โดย อจ.PAUL 

ระบบเศรษฐกิจของโลก และประเทศไม่ได้หยุดนิ่งตามช่วงเวลา แต่การกำหนดช่วงเวลาทำไปเพื่อ ติดตามดูตัวแปรทางเศรษฐกิจทั้งหลาย ให้รู้แนวโน้ม และวัฏจักรของเศรษฐกิจ
ปีที่แล้วผ่านไป ปีใหม่เข้ามา แน่นอนผลของสิ่งต่างๆในปีที่แล้ว ย่อมกระทบปีต่อไปไม่ต้องสงสัย

เราผ่านอะไรมาบ้างในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

เราผ่านวันที่ดัชนีหลักทรัพย์ (SET) ขึ้นไป "สูงสุดในรอบ 19 ปี" ที่ 1,643.43 จุด เมื่อ 21 พ.ค. 56
ก่อนที่จะปิดสิ้นปีนี้ที่ 1,298.71 จุด ลดลงจากจุดสูงสุด 344.72 จุด 
และลดลง 93 จุด เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2555 ที่ปิดที่ 1,391.93 จุด (ตลาดหุ้น 56 แย่กว่า 55ในที่สุด)

เราผ่านจุดต่ำสุดของ SET เมื่อวันที่ 28 ส.ค.56 ที่ 1,275.76 จุด 
และเรารู้ว่าต่างชาติ อำลาประเทศไทยด้วยการนำเงินออกจากตลาดหุ้น ตลอดทั้งปี 200,000 ล้านบาท

เราผ่านวันที่ค่าเงินบาทแข็งที่สุดในเอเชีย ที่ 28.56 ต่อดอลลาห์ เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 56
ก่อนที่บาทจะอ่อนตัวเป็น อันดับ 2 ของเอเชียในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และล่าสุดอยู่ที่ 33.09 บาท ต่อดอลลาห์ 

เราผ่านการลดลงของการส่งออก 10 เดือนแรกของปีลดลง 0.02% แต่ก.พาณิชย์ยังออกข่าวว่าสิ้นปีเราอาจจะส่งออกเพิ่มขึ้น 1% 
แม้เราจะส่งออกรถยนต์ได้ตามเป้า แต่เม็ดเงินจากการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยหายไป เราไม่สามารถส่งออกข้าวที่จะช่วยตัวเลขส่งออกได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

เราผ่านปีที่การผลิตรถยนต์ต่ำกว่าเป้าถึง 8% หรือประมาณ 200,000 คัน ทั้งนี้เพราะโครงการรถคันแรกที่ไม่ได้ผล ทำให้รถยนต์ค้างใน stock กว่า 130,000 คัน 

เราผ่านปีที่ทองคำกลายเป็นสินค้าที่ด้อยค่าลงเรื่อยๆ 

ปี 56 เป็นปีที่สภาพัฒน์ปรับลดเป้า GDP ลงอย่างต่อเนื่องถึง 3 ครั้ง จนคาดว่าปีนี้ GDP จะต่ำกว่า 3% ซึ่งก็ตรงกับที่หลายๆคนคาดไว้ตั้งแต่ต้นปี เพียงแต่คนในรัฐบาลไม่ยอมฟัง และยังคงให้ตัวเลขประมาณการที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง 

สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในปี 2556 คือหมุดทางสำหรับช่วงเวลาต่อไป 

2557 วิกฤติเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นหรือไม่ ???

กำลังการผลิตของประเทศ เป็น 60% ของกำลังการผลิตทั้งหมด หมายความว่า โรงงาน และธุรกิจไม่มีความจำเป็นต้องขยายตัว หรือลงทุนในเวลานี้ เพราะกำลังการผลิตที่ลงทุนไว้ยังเหลืออีกตั้ง 40% ==> การลงทุนภาคเอกชน ไม่มี

คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 ใช้เงินเกินกว่าครึ่ง เพื่อจ่ายหนี้ที่ได้ก่อไว้ รายได้ที่จะนำมาซื้อสินค้าใหม่ลดน้อยลง ==> การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง

โครงการของรัฐที่จะกู้มาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังไม่เกิด 
ภาระหนี้ ธกส.จากโครงการจำนำข้าว รัฐบาลจะจัดการเมื่อไหร่ 
ถ้ารับรู้ขาดทุนจากโครงการรัฐก็ต้องนำเงินส่วนหนึ่งวไปจ่ายหนี้ ธกส. ทำให้เสียโอกาสใช้จ่ายเงินกระตุ้น เศรษฐกิจ ==> การใช้จ่ายภาครัฐ เท่าเดิม ถึงลดลง

ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ศก.โลกเริ่มกลับมาดีขึ้น ส่งออกน่าจะดีขึ้น 
นักท่องเที่ยวปี 56 เข้ามามากกว่าประมาณการ แต่ปี 57 หากการเมืองไม่ดีนักท่องเที่ยวอาจลดลง 
ในทางกลับกัน ค่าเงินอ่อนค่าประชาชนต้องใช้พลังงานที่นำเข้าในราคาสูงขึ้น รัฐมีปัญหาการหารายได้เข้ากองทุนพลังงาน ราคาน้ำมันดีเซลมีทีท่าว่าจะปรับขึ้น ==> ส่งออก มากกว่านำเข้า รอลุ้น ไม่เปลี่ยนแปลง ถึง ดีขึ้นจากเดิม 5% - 10%

เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อว่ารัฐบาลคงพอใจให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวอยู่เช่นนี้ เพื่อการส่งออกที่เป็นความหวังเดียวของระบบเศรษฐกิจของประเทศ 

ในปี 57 ความเสี่ยงของระบบเศรษฐกิจยังมีอยูเต็มไปหมด GDP ปี 57 อาจจะดีกว่าปี 56 ที่เติบโตต่ำกว่า 3% แต่ไม่น่าจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาคึกคักได้

ความผันผวนของตลาดหุ้น และค่าเงินเกิดจากนโยบาย QE 
เราเตือนกันเรื่อง เสพติด QE ว่าถึงวันที่ QE ไม่มีเราจะอยู่อย่างไร 
ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ แต่ไม่มีการออกมาเตือนหรือหามาตรการอะไรประคับประคอง 
เศรษฐกิจปี 57 น่าจะเริ่มมีการออกมาเตือนจากหลายๆฝ่าย ถ้าไม่มีการทำอะไรเพื่อป้องกันปัญหา เราอาจเหมือนปี 56 หรือ แย่กว่า และที่แย่ที่สุดคือเกิดปัญหาหนี้สูญจากภาคครัวเรือน 

Q1 ปี 2557 นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจของไทยมีปัญหา ตลาดหุ้นจะผันผวนในแดนลบ 
มีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะหล่นไปต่ำกว่า 1,000 จุด หากวิกฤติการเมืองยังไม่มีทางออก 
ทั้งนี้ผลตอบแทนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ยังเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆจากจุดต่ำสุดที่ผ่านมา เงินที่ลงทุนในเอเชียเริ่มกลับไปอเมริกา 

ใครตามอ่านโพสต์ของผมมา ก็จะรู้ว่านี่เป็นเรื่องเบาๆ เพราะทุกคนคงคุ้นกับเรื่องที่ผมเขียนผมเตือนมาตลอดปีที่แล้ว และผลของมันก็อย่างที่เห็น ไม่มีอะไรต้องขู่ให้กลัวเกินไป

ปีนี้ได้แต่หวังว่าการเลือกตั้งจะนำไปสู่การแก้นโยบายจำนำข้าว และลดการสร้างหนี้เพื่อโครงการขนาดใหญ่ 

2557 การเมืองไม่จบ เศรษฐกิจ วูบยาว 

เอวัง และวังเวง แต่ต้นปีเลยมั้ยจ๊ะ พี่ น้องจ๋า อิ อิ อิ

Credit ขอบคุณคุณกิ๊ก คนเก่งจากเกียรตินาคิน ที่ให้ข้อมูลมากมาย ให้นำมาเขียน




#982974 ประเทศเรามีคนล้มเจ้านับสิบล้านคน?

โดย PATTON on 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 00:50

มีคนนับสิบล้านที่ล้มเจ้า เจ้าของกระทู้ พูดเกิดความจริงไปเปล่าครับ ถ้ามีขนานนั้นเขาออกตัวกันเเรงกว่านี้ไปเเล้วละครับ  คน10ล้านคนมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันมีพลังมากนะครับ ทักษิณใช้พลังเปลี่ยนประเทศไปในทางที่มันต้องการสำเร็จไปเเล้วละครับ

ถ้าจะเอายอดสมาชิกหรือยอดไลค์ เเค่นั้นเเล้วมาวิเคราะห์ไปในทิศทางนั้นก็ตามใจคุณครับ  เเต่ จะบอกว่าจำนวนคนเท่าไรนั้น ให้เเน่ก็ต้องจ้างสถาบันที่มาตราฐานสัก2-3เเห่งมา จัด โหวดทั้วประเทศเท่านั้นละครับถึงจะรู้ โดยต้องใช้บัตรประชาชนโหวดเเล้วขึ้นบนอินเตอร์เน็ดด้วยว่าใครเลือกโหวดอย่างไร >>> 2 เดือนที่แล้วผมพึ่งลองเช็คทางเฟสบุ้ค โดยเช็คจากกรุ๊ปการเมือง เพจลิเบอรัลต่างๆ เข้าไปดูรายละเอียดของแต่ละโปรไฟล์ 

นั่งเช็คยิ่งกว่าซีไอเอมะกันอีกอ่ะ 

สรุปผลว่า มีคนที่มีแนวคิดล้มเจ้า เกลียดสถาบันกษัตริย์ 1 ล้านกว่าคน ไม่นับเพจล้มเจ้าอีก 30 กว่าเพจนะยอดกดไลค์เพจละ 2000-70,000 <<<




#982383 ข้อสงสัย เรื่องตำรวจที่เสียชีวิต

โดย PATTON on 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:38

ได้รับภาพนี้มา ดูมันทำ ตำรวจไทย ข้อความประกอบภาพ "ศูนย์วิทยุรามา 15:32 มนต์ชัย ศรีประเสริฐ มีรายงานตอนนี้ว่าตำรวจได้รับบาดเจ็บถูกยิง ตอนนี้ อยู่ที่สนามกีฬาเวสน์ กำลังอยู่ระหว่างช่วยฟื้นคืนชีพ ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว จ.ส.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผบ.หมู่ สน.ตลาดพลู 15:43 ศูนย์วิทยุรามา 15:39 สว.ประชาสัมพันธ์ ตร. ที่ถูกยิง หน้าอกขวา เสียชีวิต" ถ้ามีตำรวจตายจริง ทีวีทุกช่องไม่ประโคมข่าวกันสนั่นเมืองไปแล้วเหรอ ที่ไม่เนียน คือ วิถีกระสุน ที่ต้นแขนกับฟิล์ม X-ray แต่ที่ ตลกไม่ออก กับระดับมันสมองของตำรวจไทย คือ เวลาแจ้งศูนย์วิทยุรามา 15:32 เวลาถ่ายฟิล์ม 10:10 ตำรวจที่ถูกยิงจนเสียชีวิต ชื่อ "จ.ส.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์" แต่ แต่ แต่.... ฟิล์ม X-ray ของ ร.พ. ตำรวจ เป็น "นาย ธนพล ในเปลือย" เกิดวันที่ 25/4/2531 อายุ 25 ปี ดูฝีมือ ตำรวจไทย

1526904_771576409525645_748636219_n.jpg




#982373 ข้อสงสัย เรื่องตำรวจที่เสียชีวิต

โดย PATTON on 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 14:26

กล้องวงจรปิดคงเสียหรือไม่มีเเล้วละครับหลักฐาน คนพวกนี้มืออาชีพ

ช่วยกันตรวจสอบอีกเรื่องนะครับกระสุนปืนที่ใช้ยิงกราด์. คปท.

เมื่อเช้า..วันที่.28/12/56
03:35.น.

1504090_506499796130300_1227862698_n.jpg




#979153 ผอ.รพ.ภูเก็ต และผู้อาวุโส จากเนชั่น จวก แกนนำกปปส ปลูกฝังเด็กให้เป็น นาซี(ฮิต...

โดย PATTON on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:33

เรียก ว่า   ยุวชนเรด สังสอนให้อนาคตชาติไทยเป็นขี้ข้า ได้เปล่าครับเเบบนี้ 

 

อธิบาย 2 รูปนี้ทีสิ

 

tach2-low.jpg

 

 

tach3low.jpg




#978917 ตำรวจร่วมขบวนการล่าแม่มด ใครหยามกูมึงตาย

โดย PATTON on 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 10:45

เรื่องเเบบนี้ ตร.ไทยเก่งขึ้นมาทันทีเลยนะครับ  >>>มีรายงานว่า หลังจากที่หญิงสาวทั้งสองคนได้แสดงท่าล้อเลียนหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีภาพเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบชื่อที่อยู่ ทะเบียนรถ จนได้ข้อมูล ก่อนที่ทั้งสองจะถูกคนร้ายคุกคามดังกล่าว<<< 

ที่เรื่องชายชุดดำเข้าทำร้ายคนเเก ผู้หญิง เด็ก หน้ากองปราบ จับหมาไม่ได้สักตัว ประเทศไทยจะเสียเงินจ้างตร.ไปทำไมครับ 




#974302 ดาราฮอลลีวูด "โอเวน วิลสัน" Owen Cunningham Wilson

โดย PATTON on 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 17:46

กระทู้นี้ก็จ่าหัว สร้างข่าวเหมือนกันครับ 

  " ม็อบสุเทพ ขาลง สร้างข่าวโกหก ดาราต่างชาติชื่อดัง นายโอเว่น วิลสัน ร่วมม๊อบนกหวีด " 

 

อย่างเเรกใช้คำว่า ร่วมม็อบ ทั้งๆที่ภาพที่เห็นคือ ร่วมถ่ายภาพโดยมีนกหวีดเเละสายธงชาติเเค่นั้น ก็เอาข่าวมาตีข่าวว่า ม็อบสุเทพเป็นม็อบขาลง ม็อบสุเทพสร้างข่าว ตามภาพ ภาพมันสร้างข่าวโดยตัวมันเองนั้นละครับ ถ้าตัดต่อก็ว่าไปอย่าง   เเละตามข่าวจากข่าวสด"โอเว่นเห็นภาพถึงกับตกใจและรีบชี้แจงเป็นการด่วนมายังเพื่อนๆ ให้ชี้แจงผ่านสื่อไทย" นักเเสดงระดับนี้ต้องบอกเพื่อนๆให้ชี้แจงผ่านสื่อไทยหรือครับ เห็นข่าวสดเขียนข่าวเเบบนี้เเล้วขำไม่ออกครับ คนระดับนี้เขาทำอะไรเขาผ่านผู้จัดการทั้งนั้นละครับ ถ้าเขาเห็นว่าเป็นเรื่องเสียหายเขาจะเเถลงข่าว เเต่จากเนื้อข่าวไม่มีการเเถลงก็เเปลว่า โอเว่นไม่ได้เห็นเรื่องเสียหายใดๆ  

 

ผมขอประณามคุณที่ใช้คำว่า ม็อบสุเทพครับ เพราะมันร่วมถึงผมด้วย 




#974166 ภาพมวลมหาประชาชน ทองหล่อ อโศก ราชประสงค์ สยามครับ

โดย PATTON on 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 16:32

ขอใช้บทความของ  รองศาสตราจารย์ รังสรรค์ วงษ์บุญ ตอบโต้ บทความของ  อจ.เกษียร เตชะ ตอบโต้คำ  เยาะเย้ย หน่อยนะครับ  "ผมว่า อ. ไม่ได้รู้เรื่องอย่างลึกซึ้งเลย ครับว่า จุดมุ่งหมายที่สำคัญของ กปปส คืออะไร ครับ อยากให้ อ. ตั้งใจฟังบนเวทีราชดำเนินมากๆและบ่อยๆครับ โดยเฉพาะตอนท่านกำนันและนักวิชาการที่ไม่อิงการเมืองพูดให้ความรู้ ครับ


ผมเองไม่เรียนมาทางรัฐศาสตร์การเมืองการปกครองหรือกฎหมาย ผมยังเข้าใจว่า เป้าหมายสูงสุดของพวก กปปส. ใน 18 - 24 เดือนข้างหน้าพวกเขาจะทำอะไรก่อนไปเลือกตั้ง ครับ ผมจึงเห็นด้วยและไปร่วมกับ กปปส. มากที่สุดเท่าที่สุขภาพจะเอื้ออำนวย ครับ

ไม่มีเผด็จการเสียงข้างน้อยตามที่ อ. เข้าใจเลย ครับ และ อ. อย่าไปเป็นตัวอย่างให้สังคมเขามีข้อพิสูจน์ว่าเพราะอะไรที่ทำให้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยมันตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนนับตั้งแต่พวกเราเป็นนักศึกษา ครับ"  

รองศาสตราจารย์ รังสรรค์ วงษ์บุญ   

 

 

944840_10152122867759835_1813836393_n.png  

 

 

 

ขบวนของคนที่ขาดความอบอุ่นในชีวิต

และหลอกง่าย....HA

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มาลงชื่อเยี่ยมชมครับ