Jump to content


PATTON

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2557 22:11
-----

#1047464 "สิทธิในการใช้ชื่อสถาบันในการประท้วง...เป็นของทุกสี"

โดย PATTON on 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 02:58

"ชื่อสถาบันเป็นของทุกคนที่เป็นชาวสถาบันครับ....ใครๆ ก็มีสิทธิยกธงการเมืองได้ เรื่องอะไรก็ได้" 
ประเด็นคือ เวลาที่คุณยกธงแล้ว มีใครไปยืนอยู่ข้างหลังธงนั้นกี่คน....พอสังคมเห็นจำนวนเขาจะตัดสินเองครับ ว่ามัน Represent สถาบันได้หรือไม่. 
อีกอย่างคือ ตัวผู้บริหารมหาวิทยาลัยเข้ามาอยู่ใต้ธงนั้นหรือไม่ อันนี้สำคัญมาก จะมาในนามส่วนตัวหรือไม่ ไม่สำคัญ 
แต่ถ้ามา น้ำหนักจะชัดทันที ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในวันที่พวกเราใส่สีชมพูกันหลายพันคน เดินไปทำเนียบ 
ดังนั้นเชิญเลยครับ ชาวจุฬาฯเสื้อแดง ยกธงของท่านขึ้นมาเลยครับ ...
"นปช. จุฬาฯ"... แล้วเราจะได้รู้กันครับ ว่าจะมีคนมาชุมนุมกับคุณกี่คน 
ให้ผมเดานะ น่าจะมี....3 คนมั้ง....
เอาที่เป็นอาจารย์นะ เจ้าหน้าที่ผมไม่รู้ ผมไม่ขอเดา... 
ชั่วโมงนี้....ผมไม่คิดว่ามีอาจารย์เสื้อแดงคนไหน ที่กล้า ออกมาโบกธง นปช. แล้วเดินขบวนตอนนี้ครับ...กลางมหาวิทยาลัย 
รับรองได้ว่าโดนเป่านกหวีดแน่ๆ เหตุผลก็เป็นทั้งเรื่องความผงาดของ กปปส. 
ความโง่ของยิ่งลักษณ์ ความถ่อยของแกนนำเสื้อแดง ปนๆกัน ผสมกับความทรงจำเผาเมือง แถวสยาม นั่นละครับ Brand มัน "***" ครับ (ใช่เป็น Adjective บรรยายลักษณะ ไม่ใช่คำหยาบ) 
แล้วอีกอย่าง อาจารย์เหล่านี้ มีที่ใหม่ เท่ห์ๆ ให้ยืน.... 
ตอนนี้ อาจารย์จุฬาฯเหล่านี้ ไปเนียน อยู่ใต้แสงเทียน ของอาจารย์ เจษฎาหมดแล้ว เพราะมันเทห์กว่าเยอะ ทิ้ง Brand ถ่อยสถุลย์ไปเลย แถม มีลูกศิษย์แนวโลกสวย ล้อมรอบอีกต่างหาก ดูดีมีสกุล รักสันติค่า... 
แล้วก็จบด้วยเป้าหมายเดียวกันมาเลือกตั้งกันเถอะ.....เวรกรรม แต่รวมๆ....ผมว่าก็ Fair ออก 
อาจารย์เจษฎาก็ใช่ชื่อจุฬาฯ ก็ไม่เห็นมีใครไปด่าแกเลย (อาจจะด่าเรื่องอื่น แต่ไม่ใช่เรื่องนี้) 
เสื้อแดงก็ควรมีสิทธิใช้..... อาจารย์เจษฎา....ผมคงต้องรบกวน อาจารย์ พูด Password เหล่านี้ บ่อยๆ หน่อยว่า มีเสื้อขาวปลอม มาปนกับกับอาจารย์บ้างไหม เดี๋ยวอาจารย์จะแปดเปื้อนนะครับ 
"อีโง่" "ระบอบทักษิณ" "ชินวัตรขายชาติ" "ควายแดง" "แดงถ่อย" ประมาณนี้ละครับ พูดเป็นระยะๆ ระหว่างจุดเทียน เอาสัก Three Times ก็น่าจะโอเค 
ผมเชื่อว่าจะช่วยกรอง ขาวเทียมแดงแท้ ออกจากกลุ่มขั้วที่ 3 ของอาจารย์ ได้นะครับ ส่วนเสื้อแดง Hardcore เชิญเลยครับ ใช่ชื่อสถาบันจุฬาฯของเราไปเลย....ท่านได้สิทธินั้นมาตั้งนานแล้ว.....ท่านก็ชาวจุฬาฯคนหนึ่ง กล้าๆ หน่อยครับ นกหวีดผมพร้อมแล้ว...

ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ อาจารย์คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ




#1040433 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 31 มกราคม พ.ศ. 2557 - 23:41

เรื่องข้าว เรื่องชาวนา เกี่ยวกับ เศรษฐกิจไทย เเน่นอน

โดย อจ.หนุ่มไฟเเรง

รัฐบาลจะทำเลวกับชาวนาไปถึงไหน 
ทำนาปรังล่ม เพื่อไม่ต้องจ่ายเงินจำนำข้าว ??? 

ทราบมั้ยครับว่าวันนี้ พื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง ต้องการน้ำ 169% ของน้ำที่เก็บไว้
หมายความมว่า อย่างไร หมายความว่า น้ำในปีนี้ ไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าวนาปรังทั้งหมด และนาข้าวกว่าครึ่ง ที่ต้องการน้ำมากกว่าที่มี จะมีโอกาสล่ม และขาดทุน 

น้ำไปไหน ทำไมนาปรังไม่มีน้ำ ??? 

ปริมาณน้ำฝนในปี 2556 ปรกติ
ปี 2556 ประเทศไทยมีปริมาณน้ำฝนสะสมรวม 1582 มม. สูงกว่าปีที่แล้ว 5% สูงกว่าค่าเฉลี่ย 9% เป็นระดับน้ำฝนที่อยู่ในเกณฑ์ปรกติ 
พยากรณ์อากาศของกรมอุตอนิยมวิทยา ถึงสภาพอากาศของปี 2557 ก็ไม่ได้บอกถึงสภาพอากาศที่จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปรกติ แต่มีการเตือนถึงความเป็นไปได้ของฝนทิ้งช่วงในฤดูแล้งของปี 

แต่การเก็บน้ำในสองเขื่อนใหญ่ ไม่ปรกติ 
จากรูป ทั้งๆที่ปริมาณฝนตกในภาคเหนือ ปี 2556 (1243 มม.) สูงกว่า ปี 2555 (1226 มม.) แต่ปริมาณน้ำที่เก็บไว้ในเขื่อนสำคัญสองเขื่อนคือเขื่อน ภูมิพล และเขื่อน สิริกิติ์ กลับมีปริมาณน้อยกว่าปี 2555 อย่างเห็นได้ชัด 

กบอ. แทรกแซงการระบายน้ำ 

นับตั้งแต่ปี 2554 ที่มีน้ำท่วมอย่างหนัก กบอ.(คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ) ที่มีปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นประธาน คือคณะกรรมการใหญ่ที่ดูแล ควบคุม สั่งการการเปิดปิดประตูน้ำ ของเขื่อนทั้งหลายแทน กรมชลประทาน 

และในปี 2556 กบอ. ตัดสินใจระบายน้ำจากสองเขื่อนใหญ่ จนปริมาณน้ำต่ำเทียบเท่ากับปี 2553 ที่มีภาวะฝนแล้ง 2553 (ฝนทั้งประเทศ 1,495 มม.) 2556 (ฝนทั้งประเทศ 1,582 มม.) 

คำถาม กบอ. คาดการณือย่างไรถึงระบายน้ำออกจากสองเขื่อนหลักในปริมาณมากขนาดนี้ คิดว่า ปี 2557 จะเกิดฝนตกหนักอย่างเช่นปี 2554 หรือ แต่กว่าฝนจะตกหนักก็ต้องอีกประมาณ 5 - 6 เดือนข้างหน้า แล้วชาวนาที่ปลูกข้าวนาปรังอยู่จะทำอย่างไร เป็นไปได้อย่างไร ที่ กบอ.วางแผนจัดการน้ำเช่นนี้ 

กรมชลประทาน สังกัดกระทรวงเกษตร ดูแลน้ำ อย่างน้อยสิ่งที่เค้าคิดก็คือการหาน้ำให้เพียงพอต่อการเพาะปลูกของเกษตรกร แล้ว กบอ. เอาเกณฑ์ อะไรมาบริหารจัดการน้ำ หรือเพราะมีคำว่า อุทกภัย จึงวางแผนเก็บน้ำน้อยๆ โดยใช้ความเสี่ยงการเกิดอุทกภัยเป็นหลัก แล้วชาวนาหล่ะ ไม่เห็นหัวชาวนาเลยใช่มั้ย ใครกันแน่ที่เลวและย่ำยีชาวนา 

หรือรัฐบาล ถังแตก........
ไม่มีเงินรับจำนำข้าว จึงใช้การควบคุมปริมาณน้ำ จำกัดการเพาะปลูกข้าวนาปรังของชาวนา จะได้มีข้าวมาเข้าโครงการน้อยลง และถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่บอกตรงๆกับชาวนา ให้ชาวนาลงทุนซื้อเมล็ดพันธ์ สูบน้ำเข้านา ใส่ปุ๋ยใส่ยา ทำไม 

ลำพังเงินจำนำข้าวนาปี ที่ไม่จ่าย ชาวนาก็จะตายอยู่แล้ว นี่ถึงกับจะบังคับให้นาล่ม ทำให้เงินเก็บ เงินกู้ที่เอามาลงทุนนาปรัง สูญเสียหมดเลยหรือ 

ปรกติผมจะเขียนกล่าวหาใคร จะใช้เหตุและผล แต่วันนี้ขออนุญาตไม่มีเหตุผลมากพอ แต่ขอกล่าวหา รัฐบาลนี้ว่า กำลงัทำความเลวร้าย อย่างที่ไม่มีรัฐบาลไหนกระทำ ใช้กลวิธีทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึง ชีวิต จิตใจของประชาชน เพื่อความอยู่รอด และผลประโยชน์ของตน 
อย่ามาอ้างว่า คนเมืองไม่เอาน้ำท่วม ชาวนาเลยต้องนาล่มเพราะน้ำไม่มี อย่ามาอ้างให้ประชาชนตีกันแบบเก่าๆ เราไม่เชื่อมั่นรัฐบาลอีกต่อไป

ถึงเวลาแล้วยังที่เราต้องมาปฏิรูปประเทศ ให้เกิดความโปร่งใส การจัดการน้ำ ต้องเปิดเผย ประชาชนมีส่วนในการบริหารดูแล ไม่ใช่ทำโดยดูผลประโยชน์อื่นที่ไม่ใช่ของประชาชน 

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผมจะเดินไปเลือกตั้ง เพราะผมไม่เชื่อมั่นในการปฏิรูปโดยนักการเมือง 
ผมจะไป Vote No และผมจะผลักดัน ทุกวิถีทางให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย ให้ได้ 
ผมไม่รอใคร อีกต่อไป ผมจะลุกขึ้น ปฏิรูปประเทศนี้ ไม่ต้องการคณะกรรมการจากนักการเมืองหน้าไหนทั้งนั้น 

 

1604477_10202746429320156_134877182_n.jpg




#1023965 ผลกระทบจากม็อบสู่วินรถตู้(กระทู้กึ่งระบาย)

โดย PATTON on 23 มกราคม พ.ศ. 2557 - 10:49

รถตู้ วิน บ.ดาวเหนือ ของ อีเเดง เปล่าครับ ที่ได้รับผลกระทบ 

ผมคุยกับนายท่ารถตู้วินอนุสาวรีลูกน้อง เสธ.ดำมา เล่าให้ฟังว่า รายได้เพิ่มขึ้นครับอยากไห้มีม็อบยาวไปถึงช่วงสงกรานเลย




#1018580 วันนี้เข้าไปต้อนไอ้สมเจียม หัวหน้าเสื้อแดง 2.0 มา...

โดย PATTON on 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:20

อย่าไปรังเเก สัตว์นรกสิครับ  อิ อิ ฆ่ามันให้ตายไปเลย

1526606_496527187133309_2025326070_n.jpg




#1014458 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 18 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:49

เรื่องนี้เกี่ยวกับ เศรษฐกิจไทย เเน่นอน จากที่เอาให้ดู ม็อบไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจไทยเสียหาย 5วันก่อนเงินบาทยังเเข็งค่าขึ้นอยู่เลย จากนี้จะเป็นอย่างไรรอดูวันจัน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 มกราคม 2557 17:34:20 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.96/97บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 33.07/08 บาท/ดอลลาร์ หลังปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กปปส.) สงบเรียบร้อย ไม่เกิดเหตุรุนแรง ประกอบกับการปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้น

 http://www.ryt9.com/s/iq03/1814686

 

 

เพชร โอสถานุเคราะห์...
"......มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ ทำให้สูญเสียทางเศรษฐกิจวันละ 700-1,000 ล้านบาท
“ผมก็เลยลองประเมินความเสียหายจากรัฐบาลนี้”
ความเสียหายจากจำนำข้าว 425,000 ล้าน หมายความว่าต้องชุมนุม 400 วันถึงจะเท่ากับความเสียหายจากการทุจริตจำนำข้าว นี้ยังไม่รวม ทุจริตโครงการอื่น หรือถ้ารวมความเสียหายทั้งหมดที่ผ่านมาจาก ระบอบทักษิณ ที่เราต่างรู้กันๆ คงต้องชุมนุมปิดกรุงเทพฯ กันยาวเท่าไหร่ ถึงจะเท่ากับความเสียหายที่ ระบอบทักษิณ ทำไว้

1 ปี มี 365 วัน คงต้องชุมนุมกันเป็น 10 ปี ไม่แน่ใจว่าถึง 100 ปีป่าว... แต่ถ้าไม่ออกมาหยุด 2 ล้านล้าน คงออกมาชุมนุมแล้ว ไปเกิดใหม่ มาชุมนุมอีก ประเทศยังเสียหายไม่เท่า รัฐบาลนี้ทำเลย...."
.

 

 

 

 

 

 

 

17 ม.ค.57 ชายชุดดำลอบสังหารสุเทพทำงานพลาด ทิ้งหลักฐานอื้อ ตายน้ำตื้น

หลังรัฐแดงสั่งชายชุดดำลอบสังหารสุเทพแล้วแผนพลาด ชายชุดเขียวได้เข้าตรวจสอบบริเวณตึกร้าง ริมถนนบรรทัดทอง กทม. บริเวณด้านหน้าตึกเขียนว่าศูนย์ประสานงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ หจก.ยอดเทพประธาน ด้านในชั้นล่างเป็นลักษณะของห้องครัวพบอาวุธปืน M16 ถอดประกอบจำนวน 1 กระบอก, วิทยุสื่อสาร 4 เครื่อง, มีดสปาต้า 1 ด้าม, ป้ายคำว่า “ Police “ แปรงและยาสีฟัน , อาหารกล่อง , กางเกง, หมวกสีแดงป้ายคำว่า “ หน่วยปฏิบัติการจู่โจม” ที่เช็คแล้วหน่วยงานที่เคยแจกหมวกนี้ คือชายชุดดำในจังหวัดนราธิวาส ในหลักสูตรการฝึกอบรมปฏิบัติการพิเศษจู่โจมฯ

ด้านหน้าอาคารร้างตึกที่เกิดเหตุ พบรถตู้ชายชุดดำที่มาจอดปฏิบัติการ ทะเบียนตราโล่ห์ 19086 สีบรอนเทา ชาวบ้านแถวนั้นบอกจอดทิ้งไว้นานแล้ว มีฝุ่นจับ บริเวณหน้ากระจกมีตัวหนังสือเขียนติดกระดาษไว้ว่า ติดต่อเจ้าของรถ ร.ต.ท.เอกพล ผุดผอม รอง สว.กลุ่มงานวิจัยและประเมินผล 3 กองวิจัย สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบอร์โทรศัพท์ 02-205-3285 /094-496-7179 

สลักระเบิดที่ลอบสังหารพบชิ้นส่วนเป็นสลักระเบิดเป็นชนิด M48 มีใช้ในราชการเท่านั้น เป็นระเบิดขนาดเล็กพกสะดวก แต่อนุภาพเท่า M26 มุ่งสังหาร 5-8 คน จากรูปแบบการโจมตีของชายชุดดำที่รัฐแดงสั่งมานี้ พอจะวิเคราะห์ดังนี้

1. ระเบิดที่ขว้าง 2 ลอบสังหารสุเทพ 2 ลูกไม่ใช่เป้าหมายหลักที่แท้จริง
2. จากหลักฐานกล่องอาหารที่เขียนชื่อเล่นที่หน้ากล่อง ต้องมีชายชุดดำอีกชุดอยู่อีกตึกหนึ่งที่ไม่ใช่ตึกนี้
3. การลอบสังหารครั้งนี้ ชายชุดดำทำงานพลาด เพราะหลังจากขว้างระเบิดเพื่อให้คนล้อมตัวสุเทพแตกฮือแล้ว ไนท์เปอร์ชายชุดดำที่อยู่อีกตึกหนึ่งหาจังหวะยิงสุเทพไม่ได้ถนัด เพราะการ์ดชายชุดเขียว ชุดขาว และการ์ดอาสาของสุเทพมีถึง 40 คนที่ถูกฝึกมาอย่างดี รีบกดหัวสุเทพมอบลงทันที่และโอบล้อมตัวพาสุเทพออกไป ถือเป็นรูปแบบมืออาชีพในการรักษาความปลอดภัยมาตรฐานบุคคลสำคัญระดับชาติ

สรุป...งานนี้ชายชุดดำทำงานพลาดแถมทิ้งหลักฐานลอบสังหารสุเทพอื้อให้ตามตัวเชื่อมถึงหัวหน้าชายชุดดำและรัฐแดงได้อีก ตายน้ำตื้น

@ เสธ น้ำเงิน

 

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

 

@เรื่องขาดทุนจากนโยบายจำนำข้าว รำพึงเล็กๆ เป็นความสงสัยก่อน

ราคาน้ำมัน ขึ้นได้ ก็ลงได้. ราคาดีมันก็ผลิตมาเยอะ ซักพักก็ราคาตก

แต่ข้าวที่อยู่ในยุ้งที่จำนำมาราคาแพงๆ ขายไม่ออก ไม่ใช่ว่าอีกซักพักไม่มีกินก็มาขอซื้อ เพราะอีกไม่นานข้าวนาใหม่ก็จะออกมา แล้วทีนี้ก็รับจำนำแพงๆอีกเรื่อย เรื่อย เรื่อย

จะรับรู้ขาดทุนกันแบบไหนนะ รัฐบาลไทย

 

@ เขียน Note แจงข้อเสียจำนำข้าว  และข้อเสนอแนะควรแก้ไขอย่างไรก่อนเกิดปัญหา **

 

ขอเรื่อง ข้าว อีกครั้งนะครับ 

 

 

มีเพื่อนถามว่า ทำไมข้าวไทยถึงส่งออกลดลง แน่นอนครับเหตุผลสำคัญคือ เรื่องราคา ครับ  ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วใช่มั้ยครับว่ารัฐไทยเลือกนโยบายอุดหนุนชาวนาและเกษตรกรด้วยการรับ จำนำ ข้าว เป็นการแทรกแซงกลไกราคา สร้าง Demand เทียมขึ้นมาเพื่อยกระดับราคาขึ้นโดยหวังว่า 

 

 

1. ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 เราจะสามารถควบคุมราคาได้ เพราะมองว่าตลาดเป็นของผู้ขาย และคู่แข่งของเราเช่น เวียตินาม อินเดีย ปากี ฯลฯ ก็คงพอใจที่ราคาส่งออกได้เพิ่ม เหมือนที่เคยทำสำเร็จกับการฮั้วราคายาง

 

 

2. แต่ถ้าประเทศคู่แข้งไม่ขึ้นราคา ก็หวังว่าสุดท้ายเมื่อข้าวขาดก็ต้องหันมาซื้อข้าวจากไทย

 

 

แต่การณ์หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ 

 

 

เพราะการที่เราประกาศราคาจำนำข้าวในโลกที่ข้อมูลข่าวสารทั่วถึงกันทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทราบต้นทุนของเรา และข้อเท็จจริงที่ตามมาคือ 

 

 

1. คู่แข่งเพิ่มราคาส่งออกจริงแต่ยังถูกกว่าเรามาก ถูกกว่าตันละ 250 - 350 ดอลล่า ทั้งนี้เพราะเรากำหนดราคารับจำนำที่สูงเกินจริง โดยไม่ได้ดูที่สภาพความเป็นจริงของตลาด ว่าแต่ละประเทศผลิตข้าวได้เท่าไหร่ ต้นทุนต่อตันเท่าไหร่ (เกือบทุกประเทศมีผลผลิตต่อไร่มากกว่าเรา และไทยเป็นประเทศทีี่ใช้ปุ๋ย และสารเคมีมากที่สุดทำให้ต้นทุนต่อไร่เราสูงมาก) 

 

 

2. ข้าวไม่เหมือนกับยาง ยางพารา เมืิ่อทราบจำนวนพื้นที่เพาะปลูกแล้วจะทราบถึงปริมาณน้ำยาง ซึ่งจะออกมาสม่ำเสมอ แม้จะมีฤดูกาลก็สามารถคาดเดาได้ ผิดกับข้าว ในปัจจุบันพื้นที่เพาะปลุกในเกือบทุกประเทศสามารถปลูกข้าวได้มากกว่า 2 ครั้งต่อปี  ดังนั้นความหวังที่ว่าพอปริมาณข้าวของคู่แข่งหมดจะซื้อข้าวไทย ก็ไม่จริง เพราะคนซื้อรู้อยู่แล้วว่าต้นทุนข้าวในโกดังของไทยเท่าไหร่ และเมื่อเก็บไปนานๆ ประเทศไทยก็จะต้องขายขาดทุนออกมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง จึงกลายเป็นเกมส์วัดใจ ที่ใครทนไม่ได้ก่อนกัน (ผลผลิตข้าวทั้งโลกอยู่ที่ 400 ล้านตัน ส่งออกกันจริงๆแค่ 30 ล้านตัน ดังนั้นเราไม่ควรคิดว่าเราจะสามารถควบคุมตลาดได้)

 

 

 

ความจริงในวันนี้ที่ไทยสูญเสียโอกาสในการส่งออกข้าวไปกว่า 4 ล้านตันเป็นเครื่องยืนยันว่าเรามา "ผิดทาง"  เตือนแล้วก็ไม่เชื่อ เชื่อแต่ก็โลภมองหาช่องทางโกงกิน

 

 

ผลเสียของการจำนำข้าวในแง่อื่น 

 

 

1. เราสูญเสียความได้เปรียบของพันธ์ข้าวคุณภาพ ราคาจำนำเป็นราคาแบบเหมา ใครมีข้าวก็จำนำได้ ดังนั้นชาวนาจะไม่คัดเลือกพันธ์ ซึ่งยุ่งยาก ต้นทุนเพิ่ม ในนา 1 ไร่อาจมีพันธ์ข้าวอื่นปนมาซึ่งในความเป็นจริงทำให้เสียราคา และสุดท้ายทำให้ความได้เปรียบในเรื่องคุณภาพข้าวที่ส่งออกหายไป 

 

 

2. การจำนำราคาข้างไม่ได้ช่วยชาวน่าที่ "จน" จริงๆ มีการคาดว่าคนที่ได้ผลประโยชน์คือชาวนาที่รวยอยู่แล้ว (ผลผลิตข้าว 50% ของประเทศมาจากชาวนาจำนวน 15% ของชาวนาทั้งหมด ซึ่งเหล่านี้คือชาวนารวย)

 

 

3. มีการเอื้อประโยชน์ให้กับการทุจริต ทั้งการรับจำนำข้าวของบริษัทจากตะวันออกกลางที่มาปลูกข้าวในไทย (ไม่ต้องบอกนะว่าใครพามา) และมีการสวมสิทธิจากประเทศเพื่อนบ้านที่ข้าวห่วย แต่เป็นช่องทางโกงกิน

 

 

4. ชาวนาจะได้ประโยชน์จากการจำนำข้าวก็ต่อเมื่อมีข้าวเท่านั้น ดังนั้นเมื่อนาล่ม รัฐก็ต้องมาชดเชยอีก เงินที่ชดเชยก็ไม่คุ้มกับการลงทุนที่ผ่านมา (ประกันดีกว่า เพรามองที่ต้นทุนการผลิตเลย ไม่ใช่งบบรรเทาสาธารณะภัย)

 

 

5. กลไกราคาเสียหาย 

 

 

6. สำคัญที่สุดคือการนำเงินงบประมาณไปประกันราคาโดยไม่ตัดเป็นค่าใช้จ่าย ทำเป็นเงินยืม โดยหวังว่าจะสามารถขายข้าวเอาเงินมาคืนคลังได้ แต่ในความเป็นจริง รัฐอาจขาดทุนปีละประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรับรู้ขาดทุนแล้วเราก็จะขาดดุลเงินสด ต้องกู้มาชดเชย เกิดภาระดอกเบี้ย และจำนวนหนี้สาธารณะสูงโดยที่พยายามหลับตาไม่รับรู้มาแต่ต้น ไม่เหมือนประกันที่จัดงบประมาณเพื่อการประกันไว้เป็นรายจ่ายอยู่แล้ว

 

 

แล้วควรจำนำแบบไหน

 

 

1. อย่ามองว่าเป็นนโยบายประชานิยม หรือแจกเงินชาวนา  แต่ให้มองว่าเป็นกลไกทางเศรษฐศาสตร์ ที่รัฐเข้าแทรกแซงราคา คือแทนที่จะรับจำนำทั้งหมด ให้เลือกรับจำนำบางช่วงราคา และรับจำนำปริมาณจำกัด

 

 

2. รับประกันแบบจำกัดปริมาณต่อราย เพื่อมุ่งช่วยชาวนารายย่อยมากกว่ารายใหญ่ ชาวนารายใหญ่มาทีเดียวโควตาโรงสีบางโรงเต็มทันที

 

 

3. จัดทำฐานข้อมูลการเพาะปลูกให้เรียบร้อยตั้งแต่เริ่มฤดูการผลิต เพื่อให้ทราบถึงจำนวนข้าวที่จะออกมาและป้องกันการสวมสิทธิจากข้าวต่างชาติ

 

 

4. ผลักดันให้ผู้ส่งออกใช้กลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า และให้ชาวนาเกิดการรวมกลุ่ม เข้าไปขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ไม่ืควรให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดอย่างเดียว ควรส่งเสริมให้มีการซื้อขายล่วงหน้าจริงด้วย

 

 

 

 

สำหรับผมสิ่งที่ดีกว่าจำนำคือรับประกัน แต่เพราะมันเป็นโยบายของคนหนีทหาร สารเลวชาติชั่ว  ฆาตกรฆ่้าคนในประเทศ ดีแต่พูดดังนั้นก็ไม่ควรเอามาใช้ ดังัน้นผมจึงเสนอการรับจำนำที่ควรปรับเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้มุ่งด่าอย่างเดียว โปรดทราบ 

 

@@@ ข้อมูลตัวเลขของ ค่าใช้จ่ายของการรับจำนำข้าว ต้นทุนสี  ต้นทุนเก็บรักษา และโครงสร้างเงินกู้ ธกส.ที่นำมารับจำนำ*

 

จำนำข้าว (อีกครั้ง)

อยู่ๆ มีข้อถกเถียงเรื่อง การรับจำนำข้าว ว่า คุ้ม หรือ ไม่คุ้ม ผมเลยขอเอาข้อมูล โครงการนี้มานำเสนอ โดยขอให้ทุกท่านเป็นผู้พิจารณาเองว่า โครงการนี้เป็นอย่างไร

=== สรุปโครงการ ===

รับจำนำข้าว"เปลือก" นาปี 6.95 ล้านตัน จำนวนเงิน 118,562 ล้านบาท
รับจำนำข้าว"เปลือก" นาปรัง10.03 ล้านตัน จำนวนเงิน 148,629 ล้านบาท รวมรับจำนำข้าวเปลือก ถึงวันนี้ 16.98 ล้านตัน เป็นเงิน 267,191 ล้านบาท

ข้าวเปลือกที่รับจำนำมีการสีแปรสภาพเป็นข้าวสารแล้วทั้งสิ้น 10.68 ล้านตัน
(*** ตัวเลขข้าวสารที่สีได้ มีความผิดปรกติ เพราะสีเป็นข้าวสารได้ 62.8% ของข้าวเปลือกทั้งที่ได้ 50% ก็มากเกินปรกติแล้ว)

=== ต้นทุนอื่น และผลผลิต ===

** เงินที่ใช้ในการรับจำนำข้าว เป็น "เงินกู้จาก ธ.ก.ส. **

จ่ายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นค่าดอกเบี้ย ค่าใช้จ่าย บริหารสินเชื่อ ตันละ 595.30 บาท
จ่ายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เป็นค่าบริหารดำเนินการ, ค่าเช่าที่รับฝากข้าว, ค่าแปรสภาพข้าว, ค่ารักษาสภาพข้าวสาร ตันละ 398.33 บาท
ให้กรมการค้าภายใน เป็นค่าวางระบบติดตามรายงานผลการรับจำนำ
ตันละ 19.92 บาท 
จ่ายให้กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นค่าขึ้นทะเบียนใบรับรองเกษตรกรอีก
ตันละ 8.36 บาท
รวมต้นทุนอื่นๆ ตันละ 1022 บาท

** หมายเหตุ ต้นทุนนี้คิดถึงเดือนกันยายน 55 หากเก็บข้าวต่อต้นทุนดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้นทุนหลักคือค่าดอกเบี้ย **

ต้นทุนจากความชื้น ข้าวเปลือกที่รับจำนำจะมีมาตรฐานความชื้นที่ 15% แต่ถ้าความชื้นของข้าวมีมากกว่า 15% ปริมาณข้าวจะหายไป 15 กิโลกรัมต่อทุกความชื้นที่เพิ่มขึ้น 1 % จากความชื้น 15% (ความชื้น 20% ข้าวจะหายไป 15* (20-15) = 75 กิโลกรัม)

ผลผลิตที่ได้จากข้าวเปลือก 1 ตัน หรือ 1,000 กก. หรือ 100 ถัง สีเป็นข้าว 100% ชั้น 2 จะได้รายละเอียดดังนี้

1. ต้นข้าว 405 กก. 
2. ปลายข้าว เอ.วันเลิศพิเศษ 20 กก.
3. ปลายข้าว เอ.วันเลิศ 160 กก.
4. ปลายข้าว ซี 90 กก.
5. รำละเอียด 81 กก.
6. รำหยาบ 30 กก.
7. แกลบ+ละออง 214 กก.
(ตัวเลขโดยประมาณของสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ) 
ราคาผลผลิตจากข้าว ประเภทต่างๆสามารถสืบค้นจากอินเตอร์เนตได้

*** ประเด็นพิจารณา ***
1. รับจำนำข้าวเปลือกขายเป็นข้าวสาร
2. ต้นทุนการรับจำนำข้าวมักจะพูด เฉพาะต้นทุนการซื้อข้า่วจากเกษตรกร แต่ไม่พูดต้นทุนการแปรสภาพ(การสี) การบริหารจัดการ และที่สำคัญลืมให้ข้อมูลต้นทุนผันแปรของการเก็บรักษา stock ข้าวอย่างดอกเบี้ย ค่าเช่าโกดัง ความชื้น ค่าอบแห้ง *** รับจำนำข้าว 10 ล้านตัน ค่าดอกเบี้ยถึงเดือน ก.ย. 55 เป็นเงิน 5,950 ล้านบาท หากรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะเป็นเงิน 10,220 ล้านบาท 
3. ฤดูการรับจำนำ 55/56 จะเริ่มเดือน ต.ค. นี้ ข้าวยังอยู่ในโกดังกว่า 10 ล้านตันจะทำอย่างไร ข้าวนาปี ต.ค. 55 ถึง ก.พ.56 จะออกมาอีก และมีเป้ารับจำนำในรอบหน้าถึง 22.8 ล้านตัน
4. เดือน ส.ค. ก.ย. คือเดือนที่ supply ข้าวต่ำสุดเพราะเป็นช่วงต้นฤดูปลูกข้าวนาปี และราคาจะสูงที่สุดในรอบปี หากรัฐขายข้าวในช่วงนี้ไม่ได้ ราคาก็จะเริ่มลดเพราะผลผลิตจะทยอยออกมาตั้งแต่ ต.ค. - ก.พ. 

*** เอวัง

 

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

 

รวมงานเขียนเรื่องจำนำข้าว ของ อจ.   Paul 

 

https://www.facebook...152155257724153




#1010464 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 16 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:02

ไม่ค่อยได้เข้ามาครับไปม็อบทุกวันไหนๆก็มาเเล้วเก็บ สิ่งเล็กๆน้อยมาให้ดูครับ 

 

ตลาดหุ้นเปนไงหนอ..... ปิดกทม. มาเกือบ 5 วันแล้ว ปิดตลาดที่แดนบวก ฝรั่งยัง "งง" เลย  

อิ อิ  ช่อง3 เเหกตาดูสะ ตีข่าวอยู่ได้  ม๊อบทำให้เศรษฐกิจทรุด

 

1511699_10201284673899182_16418801_n.jpg




#998749 อ.จักร ปะทะ บก.ลายจุด&สอยุด จบภาคแล้วก็....นะ

โดย PATTON on 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 02:09

ขอพูดกลางๆ เจาะข่าวเด่นช่อง3 วันที่ 9/ 1/ 14 ตอน 

อจ.จักรขัวญใจมวลมหาประชาชน ปะทะ ลายด่างพอกันทีขอเป็นขี้ข้าตลอดไป+สรย่วยขอเป็นขี้ข้าด้วย ดิ

ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังทำสงครามมวลชน ฝ่ายหนึ่งจะออกมาไล่พรรคขี้ข้าเเม้วเพราะไม่อยากให้พรรคขี้ข้าเเม้วมีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศได้อีก อีกฝ่ายให้หยุดให้เลือกตั้ง ทั้งที่ใจลึกๆเชียร์เเม้วเเต่ไม่กล้าประกาศออกมา (ผมหมายถึง เเค่ คุณสมบัติ กับ อจ.จักร เเค่นั้น นะ ไม่ใช้อย่าร้อนตัวนะ ) ทั้งสอง สู้เพื่อหาความชอบธรรมให้ฝ่ายของตัวเอง

ผมเป็นประชาชน โดยส่วนตัว ผมก็ต้องเลือกอยู่ฝ่ายที่จะทำให้ผมได้ประโยชน์สูงสุด ตอนนี้ ค่าครองชีพสูง ของกินใช้ขึ้นทุกๆวัน ฝ่าย อจ.จักร ผมเห็นพูดถึงการทวงคืน ปตท.บ่อยๆ พูดถึงการปฎิรูปที่ดิน ปฏิรูปการเกษตร เเก้ไขความไม่เป็นธรรมต่างๆ ส่วนฝ่ายคุณสมบัติ ให้เลือกตั้งเพื่อพรรคขี้ข้าทักษิณกลับเข้ามาบริหาร ครั้งนี้หนักกว่า เพราะอาจมีเเค่ฝ่ายค้่านเทียมๆในสภา 10กว่าปีก่อนนั้นพรรคทักษิณบริหารห่วยเเตก 2ปีในการบริหารของพรรคขี้ข้าห่วยเเตกกว่า ถ้ามีเลือกตั้งนอกจากจะเสียงบประมาณจากภาษีประชาชนไปเเล้ว ยังได้พรรคห่วยเเตกกว่าๆมาบริหารงานเเผ่นดิน คุณคิดว่าผมในฐานะผู้เสียภาษีให้เเผ่นดินคนหนึ่ง เป็นเจ้าของประเทศคนหนึ่ง มีอำนาจในมือเเค่1เสียง ผมจะเลือกพรุ่งนี้ออกไปร่วมจุดเทียน หรือ จะเลือกทิ้ง1เสียงอันไร้ค่าไร้พลังเเล้ววันที่13ออกมาร่วมทวงคืนประเทศไทยดีละ 
ถ้ามีเลือกตั้งเเล้วพรรคขี้ข้ากลับมาบริหารประเทศรู้ว่ามันเป็นเเบบนี้ปี53ผมไปเป็นเรดการ์ดดีกว่ามีพี่มาชวนได้วันละ 2500 เผาเมือง เจ็บ ตาย มีเงินเยียวยาเป็นเเสนเป็นล้าน จากภาษีประชาชนให้ด้วย ไม่ต้องทนกินเนื้อหมูคุณภาพตำ่ๆตามห้างโลละ140-150 เเล้วกลางปี2013มานี้เเทบไม่มีเเล้วนะเนื้อลดราคาใกล้เน่า (อิ อิ ยิ่งคิดก็ยิ่งหิวยิ่งหิวก็ยิ่งโมโห ก็ เนื้อมันเเพงจริงๆ นิ)



http://www.youtube.com/watch?v=Q0znuWQ7Sz4 




#998736 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 01:45

บทความของ อจ.หนุ่มไฟเเรงท่านหนึ่ง

ครม.เศรษฐกิจกังวล ปี 57 GDP โต 3 - 3.5% 
อ้าง เพราะไม่สามารถ เบิกจ่ายงบน้ำ 3.5 แสนล้าน และงบคมนาคม 2 ล้านล้านได้ 

เออกลายเป็นความผิดซะงั้น 
ตกลงประเทศไทย งบประมาณแผ่นดินไม่พอให้ ศก.เติบโตใช่มั้ย 
ลำพังเงินที่เก็บจากภาษีประชาชน แล้วเอามาใช้จ่ายเนี่ย เศรษฐกิจประเทศไม่เติบโตเลยงั้นเหรอ

โหแบบนี้ก็ต้องกู้ล้างผลาญไปเรื่อยๆ สิ 

แต่เท่าที่รู้ โดยทั่วไปถ้ารัฐบาลกู้เงินหรือพิมพ์เงินเพิ่มมักจะเกิดจากสาเหตุเศรษฐกิจตกต่ำไม่ใช่เหรอ อย่างเงิน IMF เงินโครงการมิยาซาว่า ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง หรือเงินไทยเข้มแข็ง เช็คช่วยชาติ ตอนแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส 

แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มันมีปัญหาอะไร จึงต้องกู้มากระตุ้นเศรษฐกิจครับ 

ปัญหาเกิดจากปัจจัยภายนอก หรือ รัฐบาลสร้างให้เกิดปัญหาเอง 

ใช้จ่ายงบประมาณไม่มีประสิทธิภาพ จากโครงการต่างๆที่เงินไปจมอยู่กับใครบางกลุ่มจนไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเปล่า ไหนบอกว่าแต่ละโครงการจะกระตุ้นเศรษฐกิจไง จำนำข้าว รถคันแรก ค่าแรง 300 เหตุผลที่รองรับให้โครงการเหล่านี้เกิด ก็เพื่อกระตุ้น GDP ทั้งนั้นนี่ ย้อนกลับไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของคนในรัฐบาลได้เลย 

แล้วทำไมวันนี้ GDP ปี 56 ตก ปี 57 ก็คาดว่าจะตก อย่ามาอ้างม็อบนะ ปี 53 ม็อบยืดเยื้อยาวนาน GDP ยังโตเป็นประวัติการณ์เลย 

รัฐบาล เข้ามาปี 54 น้ำท่วม ไม่แก้ไข ความเชื่อมั่นนักลงทุนหาย
จำนำข้าว ทำระบบเศรษฐกิจ เสียหาย เงินงบประมาณที่ใช้ไม่มีประสิทธิภาพ กว่าครึ่งหายเข้ากระเป๋าใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่ชาวนา
รถคันแรก สร้างภาระหนี้ครัวเรือน จนไม่เหลือเงินบริโภค
สินค้าแพง ข้าวของแพง ไม่ยอมรับ ภาระค่าใช้จ่ายประชาชนสูงหมกเม็ดตัวเลขเงินเฟ้อ
ขึ้นค่าแรงแบบกระชาก เกิดภาระชะลอตัวการลงทุนเอกชน 
การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า มีการคอร์รัปชั่นส่วนต่างมากเกินไป เงินหายออกจากระบบ เพราะคนโกงกินเก็บเอาเงินสดไป 

จากสิ่งที่กล่าวมา เป็นการบริหารของรัฐบาลที่ผิดพลาดทั้งนั้น ศก.โลกกำลังฟื้นตัว ศก.อาเซียน พึ่งพิงกันมากขึ้น แต่แทบไม่ส่งผลดีต่อประเทศไทยเลยทั้งที่เราเป็นประเทศส่งออก และพึ่งพิงการส่งออกมาก 

ค่าเงินผันผวน ไม่มีการดูแล บริหารไร้ทิศทาง ไม่มีเหตุผลเพียงพอในระดับนโยบายที่ข้าราชการที่มีความรู้จะอยากเชื่อและทำตาม การส่งออกที่เคยสดใส อยู่ๆก็ชะงักในรัฐบาลชุดนี้

มาวันนี้โทษคนอื่นอีก โครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ที่เบิกจ่ายไม่ได้เพราะโดนต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่ การทำประชาพิจารณ์ตามจังหวัดต่างๆ ก็เห็นอยู่ และน่ารู้ดีตั้งแต่ต้นแล้วว่า โครงการมีปัญหาแน่นอน เพราะไม่มีการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนออกมาต่อต้านโครงการในหลายๆจังหวัด ไม่นับประชาชนส่วนกลางที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการอย่างเขื่อนแม่วงก์

โครงการคมนาคม 2 ล้านล้าน ก็ออกมาชัดแล้วว่าต้องเวนคืนอีกจำนวนมาก หากจะสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้โครงการไม่เป็นไปตามเป้า 

เรื่องพวกนี้ มีการเตือนตั้งแต่เริ่มโครงการว่าจะเป็นปัจจัยไม่ให้โครงการสำเร็จ แต่ดื้อและคิดว่าตัวเองมีอำนาจในมือจะทำอะไรก็ได้ ไม่ให้ค่าความเสี่ยงไว้ ปริหารประเทศจนเศรษฐกิจประเทศต้องพึ่งพิงเงินกู้เหล่านี้ 

เลยอยากจะย้ำและให้สังเกตุ ตลอดมาประเทศนี้เศรษฐกิจเติบโต 4% - 5% จากเงินงบประมาณที่ไม่ต้องกู้มาใช้จ่ายให้มากมายเหมือนที่รัฐบาลนี้วางแผน 

คำถามคือ เงินในระบบงบประมาณหายไปไหน ทำไมกระตุ้นเศรษฐกิจไม่พอ 

"เอาไปโกงกิน กันใช่หรือไม่ ??????? "

ประเทศนี้เจ๊งเพราะใคร ไม่ใช่เพราะม็อบ หรือประชาชนที่ออกมาตรวจสอบ และจับผิดรัฐบาล แต่อยู่ที่รัฐบาล ไม่เก่ง ทำผิด ทำพลาด และใช้วิธีการโกหกเลี่ยงประเด็น เล่นการเมือง ยุให้ประชาชนแตกแยกเพื่อหนีความผิด และป้ายสีความผิดให้เป็นของฝ่ายตรงข้าม 

นี่แหละนักการเมืองไทย และคนไทยที่กระโดดมาปกป้องนักการเมืองยิ่งกว่าคุณภาพชีวิตของตัวเอง 

สาธุให้กับความศรัทธาอันน่าทึ่ง 
หลง กับ ศรัทธา และชื่นชม มันต่างกันนะ

เอวังและวังเวง แบบไม่รู้ตัวเมื่อเขียนมาถึง ณ จุดนี้




#993291 มีเรื่องอะไรบ้างนะ ที่ พวก"พอกันที" ชอบอวยพรรคขี้ข้าทักษิณไม่คิดจะรับรู้

โดย PATTON on 7 มกราคม พ.ศ. 2557 - 03:05

ผมเห็นเรื่องหนึ่งละ เรื่องที่ ม.ราม

พอกันที นี้ รวมถึงคนพวกนี้ ด้วยเปล่าครับ คลิปชัดๆ ! "เต้น" สั่งแดงลุย เด็กราม "ตอนมาคุณเดิน ตอนกลับไม่อยากให้คุณนอน เลย" 

94230

 

 

บอก"พอกันที่หยุดการชุมนุมที่สร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง" ที่พูดมารวมเหตุการความรุนเเรงที่ ม.ราม ด้วยเปล่าครับ?

ครั้งหน้าจะได้ช่วยรณรงค์ ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน นศ.ราม ไปร่วม ชอบจังเลย* ข้อตกลงร่วมสำหรับผู้มาร่วมกิจกรรม ของพวกคุณเนีย
1. งดใช้ hate speech 
2. สงบนิ่งหากพบการคุกคาม ไม่ตอบโต้ทั้งทางกายและวาจา
3. ร่วมกันเป็นเจ้าภาพด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมมาชวนกันทำ

 

พอกันที ช่วยไปบอกคนพวกนี้ด้วย

photo.php

 

อีกเรื่องนะ เท่าที่ดูมา 2วัน เรื่องจำนวนคนมาร่วมชุมนุม  พูดเเถอยู่ได้ว่า เเค่120000 ขำ ขำ เห็นมีคนหาข้อมูลมาให้ดูก็ยังไปเเถเขาสะอีก 

เชื่อเเต่ข้อมูลลวงโลก ของ พวกขี้ข้าที่ปล่อยมาอยู่ได้ 

 

สื่อต่างชาติไม่ได้บิดเบือนแต่Thai e news. นั้นบิดเบือน

Amid protests, Thailand's PM Yingluck Shinawatra dissolves parliament

By Kocha Olarn, CNN
December 9, 2013 -- Updated 0635 GMT (1435 HKT)

Between 100,000 and 150,000 demonstrators rallied in Bangkok, with protest leaders saying their goal Monday is to storm Shinawatra's office, known as Government House.

สื่อต่างชาติไม่ได้บิดเบือนแต่Thai e news. นั้นบิดเบือนเอ่มาเล่นเป็นประเด็น เพราะเวลาที่นักข่าวต่างชาติรายงานคือเวลา13.35 น เมืองไทย จำนวนม๊อบทั้งหมดมาจากราชดำเนิน คปท กองทัพธรรม คนส่วนใหญ่ยังมาไม่ถึง และข้อมูลนี้นักข่าวทุกสำนักต้องส่งข่าวกันเช็คข้อมูลกันอย่างน้อยก็ 2 - 3 ชั่วโมง 

 

 BBC
ซึ่งแจ้งการคำนวนโดยดาวเทียมแล้วว่า มีผู้มาร่วมชุมนุมทั้งสิ้น 5,700,000 คน สอดคล้องกับของค่าย CNN ที่รายงานว่ามีเกือบ 5,000,000 คน
จึงยังไม่ใช่ตัวเลขที่ significant  

 

 http://fbcdn-video-a..._n.mp4?oh=bd7d3

 

>>>>วันที่ 9 ธ.ค.BBC ใช้ดาวเทียมสำรวจออกมาเลย 5 ล้าน 7 แสนคนดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์

ยันผลคำนวณจำนวนผู้ชุมนุมเกิน 2 ล้าน

ผมได้คำนวณจำนวนมวลมหาประชาชนที่หลั่งไหลเข้าสู่ถนนราชดำเนินและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อวันที่ 24 พ.ย.56 โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 บล็อก การคำนวณใช้แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศเป็นตัวช่วย มีขั้นตอนการคำนวณดังนี้

1.คำนวณพื้นที่ในแต่ละบล็อก
2.ประเมินความหนาแน่นของผู้ชุมนุมในแต่ละบล็อกจากภาพถ่ายทางอากาศและจากการได้สัมผัสเหตุการณ์จริง
3.หาจำนวนผู้ชุมนุมในแต่ละบล็อก โดยคูณพื้นที่กับความหนาแน่นของผู้ชุมนุม
4.หาจำนวนรวมของผู้ชุมนุมทั้งหมด โดยรวมจำนวนผู้ชุมนุมในแต่ละบล็อกเข้าด้วยกัน
5.บวกจำนวนผู้ชุมนุมที่เดินเข้า-ออก อีก 30% 

สรุปได้ยอดรวมผู้ชุมนุมทั้งหมด 2.3 ล้านคนที่ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเมืองไทย  

 

https://www.facebook...66942314&type=1

 

>>>> 22 ธ.ค.56...นับอย่างเป็นทางการ...6 ล้านคน   http://www.oknation....3/12/23/entry-1

 

 

>>>>  อีกข้อที่พวกเขาไม่อยากรับรู้

 

สภาประชาชนมีขึ้นเพื่อ? (จากเพื่อนสมาชิกเสรีไทยท่านหนึ่ง)

 
 
ทำความเข้าใจให้ดีว่า สภาประชาชนเขาไม่ได้มีขึ้นมาเพื่อบริหาร
 
ประเทศเป็นหลักนะครับ เขามีขึ้นมาเพื่อทำเรื่องเฉพาะกิจคือ ปฏิรูปประเทศ
 
เพราะฉะนั้นจะไปกำหนดกฎเกณฑ์แบบการเลือกตั้งทั่วไปคงไม่เหมือนกันครับ
ถ้าจะพูดเรื่องสภาประชาชน ต้องแยกเรื่องการบริหารประเทศออกไป เพราะการ
บริหารประเทศจะบริหารโดยรัฐบาลชั่วคราว ส่วนสภาประชาชนนั้นมีหน้าที่เข้ามา
ออกกำหนดกฎเกณฑ์ในเรื่องปฏิรูปประเทศครับ
 
สภาประชาชนผมมองว่าเขาจำลองแบบมาจากการเลือกสมาชิกวุฒิสภาครับ ไม่ได้
คิดขึ้นมาเองตามใจชอบ ต่างกันเพียงแทนที่จะเลือกแบบเลือกตั้งทั่วไป ก็เปลี่ยนเป็น
การเลือกจากตัวแทนสาขาอาชีพต่าง ๆ เท่านั้น
 
ที่เขาต้องเลือกแบบนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลในสาขาอาชีพต่าง ๆ มีโอกาสที่จะเข้า
มามีส่วนกำหนดกฎเกณฑ์ให้อาชีพของเขามีความมั่นคงก้าวหน้านั่นแหละ เพราะที่ผ่านมา
มันมีแต่นักเลือกตั้ง ที่อ้างตนเป็นลูกชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน กรรมกร เข้ามากำหนดชะตา
ชีวิตของพวกเขา โดยไม่รู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของเขาว่าเป็นอย่างไรมากกว่า
 
การสรรหาสภาประชาชน 100 คน ก็คงไม่ใช่เรื่องสรรหาพรรคพวกหรอกครับ แต่เขาจำเป็น
ต้องมีการสรรหา เพราะมันต้องมีคนรู้เฉพาะเรื่องเข้ามาทำหน้าที่ร่วมด้วย เช่น ชาวนาชาวไร่
จะเข้ามาบอกความต้องการความเดือดร้อน มันก็ต้องมีคนทำหน้าที่รวบรวมไปเขียนเป็นกฎหมาย
เป็นเรื่องเป็นราวด้วย จะให้ชาวนาชาวไร่มาเขียนกฎหมายเองมันคงเป็นไปไม่ได้
 
ส่วนมันจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ มันก็อยู่ที่วิธีคิดของคุณเองแหละครับว่าเป็นหรือไม่เป็น
เพราะคำว่าประชาธิปไตยมันไม่ได้หมายถึงการหลับหูหลับตาไปเลือกตั้งอย่างเดียวครับ การหลับหู
หลับตาไปเลือกตั้งเสร็จแล้วมานั่งภูมิใจว่าประเทศเราเป็นประชาธิปไตย ในขณะที่คนที่ถูกเลือกเข้าไป
ไปโกงกินกันจนอันดับคอรัปชั่นของประเทศพุ่งนำหน้าประเทศอื่น มันน่าภูมิใจมากหรือไงครับ หรือ
เลือกเข้าไปแล้วก็เข้าไปทำตัวกร่างอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ยอมรับแม้กระทั่งคำตัดสินของศาล แบบนี้
จะเลือกเข้าไปทำไมมิทราบครับ หรือคุณไม่รู้สึกอะไรเลย ว่ารัฐบาลอยู่เหนือกฎหมายได้แต่ประชาชน
ต้องอยู่ใต้กฎหมาย
 
ที่มวลมหาประชาชน กำลังพยายาทำอยู่นี่ เขาทำเพื่อให้ทุกคนมีสถานะความเป็นพลเมืองไทยเท่ากับรัฐบาล หรือ อภิสิทธิ์ชนผู้มีอำนาจ



#993234 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 7 มกราคม พ.ศ. 2557 - 01:31

ไปเจอบทความนี้มาเก็บเอาไว้อ่านเล่นๆนะครับ

 

มีการถกเถียงเรื่อง ชนชั้นกลางเมืองชอบดูถูกคนบ้านนอกว่าไม่จ่ายภาษี โดยยกเรื่องภาษีทางตรง ภาษีทางอ้อมมาประกอบ ว่าคนจนก็จ่ายภาษีนะ 

ผมกลัวว่าจะไปกันใหญ่ เลยขอเล่าหลักการภาษีตามประสาคนได้ D วิชานี้ อะไรผิดพลาดก็หวังว่า เพื่อนๆ ที่ได้ A ได้เหรียญทอง เหรียญตราเกียรตินิยม จะเข้ามาเสริม 

//////////////////////////////////// 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อ. ยุกติ มุกดาวิจิตร เท่มาก ฉีกกระดาษบนเวทีที่ มธ. บอกว่ามายาคติของคนกรุงที่มีต่อชาวบ้านเรืองนึงคือการดูถูกว่าไม่เสียภาษี แล้วก็ยกตัวเลขว่าภาษีทางอ้อม (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) สูงกว่าภาษีทางตรงมาก พูดเหมือนให้เข้าใจว่า ชาวบ้านต่างจังหวัดที่มีจำนวนมากกว่าคนในกรุง จ่ายภาษีมากกว่า ซึ่งผมไม่ถกเถียงเรื่องใครจ่ายมากกว่าใคร เพราะไม่อยากเป็นคนยั่วให้เกิดสังคมชนชั้น แบบ อ.เค้า

แต่ถ้าเราจะถกเถียงเรื่องภาษีทางตรง ภาษีทางอ้อม เพียงอย่างเดียว 
เราคงไม่ได้คำตอบที่ถูกต้องนัก

ภาษีที่เราจ่าย ไม่ได้ แบ่งเป็นทางตรง (จ่ายจากรายได้ของผู้เสียภาษี) , 
หรือ ทางอ้อม (จ่ายจากการซื้อสินค้ามาใช้) อย่างเดียว แต่หลักการภาษียังสามารถแบ่งเป็

หลัก use tax rule/Usage Rule กฏการจ่ายภาษีจากการใช้โดยตรง (บางประเทศเรียก sale tax ) กับหลัก Ability to pay จ่ายภาษีตามความสามารถในการจ่าย 

พอเราดูหลักคิดวิธีการเก็บภาษี เราจะเห็นความแตกต่างของภาษีทางตรง และทางอ้อม ทันที

ภาษีทางอ้อม เป็นหลักการเท่าเทียมกันของการจ่ายภาษี โดยดูจากการบริโภค อุปโภคจริง คุณซื้อสินค้ามากินมาใช้เท่าไหร่ก็จ่ายภาษีไปเท่านั้น 

ในเมืองไทยภาษีนี้เดิมเรียกภาษีการค้า พ่อค้าเป็นคนจ่ายจากกำไรของธุรกิจ แต่เกิดความซ้ำซ้อน หลบเลี่ยงภาษี จึงเปลี่ยนมาเป็น VAT เมื่อ 1 ม.ค. 35 (บางคนอาจเพิ่งเกิด แต่หลายคนจบ ปริญญาแล้ว อิ อิ)

การเก็บภาษีด้วยหลักการนี้ เป็นความเท่าเทียมกันของการจ่ายภาษีไม่ว่าคุณจะยากดีมีจนเพียงใด เมื่อคุณจับจ่ายคุณต้องเสียภาษีในอัตราเดียวกันหมด ของไทยคือ 10% แต่เราออกกฏหมายลดเหลือ 7% มานานแล้ว 

ส่วนหลัก Ability to pay เป็นหลักการเก็บภาษีแบบก้าวหน้า คนที่มีรายได้มาก ต้องจ่ายภาษีในอัตราที่มากกว่าคนอื่น ในฐานะมีความสามารถมาก

ผมถามคำถามแบบเห็นแก่ตัว แล้วเรื่องภาษีทำไมไม่ยึดหลักความเท่าเทียมกันหล่ะ ???

นาย XXX ประสบความสำเร็จในการเรียน จบออกมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ คะแนนดีเยี่ยม ได้เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 บาท นาย xxx จ่ายภาษีแล้วทันที

นาย YYY ไม่ชอบเรียน เลือกเรียนจากมหาวิทยาลัยที่จบง่าย คณะที่ไม่ยาก จบมาทำงานในวุฒิที่ต่ำกว่าที่ตนเองจบได้เงินเดือน 15,000 ไม่จ่ายภาษี 

เริ่มเห็นประเด็นกันแล้วใช่มั้ยครับ 

ภาษีตามหลักคิด Ability to pay เป็นการบังคับ ให้คนที่มีความรับผิดชอบ รับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งๆ ขึ้น เอ้านี่ผมพูดตามเนื้อผ้านะ ชวนให้คิดก่อน เดี๋ยวผมมีคำตอบให้

แท่น แทน แท๊น เอาหล่ะ ต่อจากนี้ผมจะเริ่มการจับแพะชนแกะ ให้ดู

จากหลักคิดภาษี ที่ยอมให้คนที่รับผิดชอบมากกว่า อาสาจ่ายภาษีจำนวนมากๆเพื่อคนในประเทศแล้ว ยังนำไปสู่การเกิดขึ้นของ Sense of ownership ... ความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ 

เคยเห็นวัดที่มีชื่อผู้บริจาคแปะตรงนู้นตรงนี้มั้ยครับ ทั้งที่จ่ายเงินเพื่อสาธารณะประโยชน์ แต่ก็อดที่จะแสดงความเป็นเจ้าของไม่ได้ ลูกหลานเดินไปไหนก็ภูมิใจ กำแพงยายกู ซุ้มประตูปู่ ศาลาย่าทวด 

คปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า คนที่จ่ายภาษีในอัตราก้าวหน้าทั้งหลายก็อดคิดแบบนี้ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นั้นวาทกรรม ชั้นจ่ายภาษี ชั้นมีสิทธิมากกว่า จึงไม่ค่อยจะน่ารังเกียจเท่าไหร่ ถ้า ไม่ได้เอาวาทกรรมนั้นมาดูถูกคนอื่น หรือเอามาอ้างเพื่อที่จะเลี่ยงการจ่ายภาษี และที่สำคัญ มันไม่ใช่มายาคตินะครับ อ.ยุกติ เค้าคิดอย่างนั้นได้ และเค้ามีหลักการสนับสนุนให้คิดแบบนั้นได้เช่นกัน

ในทางส่งเสริมสังคม วาทกรรม "ชั้นจ่ายภาษีมากกว่า" จะได้ผลอย่างมาก ถ้าอ้างเพื่อเรียกร้องสิทธิอะไรบางอย่าง เช่น สิทธิตรวจสอบ สิทธิตั้งคำถาม 

เจ้าอาวาสคะ ในฐานะที่หนูเป็นหลานย่าคนสร้างโบสถ์ การที่เจ้าอาวาสอนุญาตให้เณรนอนด้วยกันสองต่อสองผิดวินัยสงฆ์มั้ยคะ แต่ละคนก็ตุ้งติ้งเหลือหลาย หรือบางคืนเจ้าอาวาสไปร่วมด้วยคะ 
หรือเจ้าอาวาสคะ เงินทอดกฐินปีนี้ ทำไมเจ้าอาวาสเอาไปสร้างเทวรูป เทวดาอะไรอยู่ได้คะ โรงเรียนวัดอาคารผุพังทำไมไม่เอามาซ่อมคะ 

แบบนี้ถือเป็น มายาคติ กดคนจมดินหรือเปล่าครับ 

ความรู้สึกเป็นเจ้าของ ความรู้สึกเสียดายเงิน ความรู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบ มันรู้สึกจริงๆนี่ครับ ไม่ได้ไปมายาเสแสร้งตรงไหน 

แยกให้ออกนะครับ ว่าเค้ารู้สึกกับภาษีก้อนไหนที่จ่ายออกไป

สุดท้าย ที่ผมยั่วให้คิดข้างต้น ว่าแบบนี้คนที่ขยันทำงานเยอะๆ ก็ไม่ยุติธรรมสิ ตามมาอ่านให้จบก่อนครับ ค่อยโวยวาย

สิ่งที่เราควรคุยกันให้เข้าใจ คือเรื่องของ หน้าที่ของภาษี ในการกระจายรายได้ ของสังคม 

use tax rule ไม่ปราณีต่อคนจนนะครับ คนต้องกินต้องใช้เท่ากัน สมมุติเดือนละ 1000 บาท 
คนจนมีรายได้ 10,000 บาทจ่ายภาษี 70 บาท 0.7% ของรายได้
คนชั้นกลางมีรายได้ 15,000 บาท จ่ายภาษี 70 บาท 0.47% ของรายได้
คนชั้นกลางรวยกว่า มีรายได้ 20,000 จ่ายภาษี 70 บาท 0.35% ของรายได้

จะเห็นว่าระบบภาษีทางอ้อมแบบนี้ ทำให้คนจน มีภาระภาษีมากกว่าคนรายได้มาก 
รัฐจึงต้องลดภาระอื่นๆ ให้พวกเค้าแทน เช่น ภาระค่ารักษาพยาบาล ภาระค่าศึกษาบุตร ภาระค่าเดินทาง ฯลฯ

แล้วรัฐจะเอาเงินมาจากไหนมาแบ่งเบาภาระของคนจนหล่ะครับ รัฐก็ต้องเอามาจาก ภาษีทางตรง โดยเฉพาะคนรวยๆๆๆๆๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆๆ

เพราะคนรวยมากๆ ใช้จ่ายเงินมากไปก็จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ (อันนีไม่ค่อยใช่หรอก แต่ยกมาเพื่อเป็นข้ออ้างเก้บภาษีอัตราก้าวหน้าสูงๆ อิ อิ ) 
แต่เหตุผลที่ควรเก็บอัตราก้าวหน้าเยอะๆ เพราะการที่คนรวยยิ่งรวย ก็จะยิ่งเข้าครอบครอง ทรัพยากรการผลิตมากขึ้น ก็จะนำไปสู่การผูกขาดของทุน ซึ่งช่องว่างรายได้ก็จะถ่างมากขึ้น คนจนยิ่งจนภาระของรัฐก็หนักขึ้น

การใช้ภาษีให้เกิดประโยชน์ มากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากการแบ่งเบาภาระของคนจน ก็คือการส่งเสริมให้คนจนเข้าถึงโอกาสมากขึ้น 

คุ้นๆมั้ยครับ หลักคิดแบบนี้ ทักษิณ 1 ชัดๆ แต่หลังจาก ทักษิณ 1 แล้วหายไปไหนหมดครับ 
มีแต่มาตรการประชานิยม แจก แจก แจก คนจน ส่งเสริมคนรวยให้รวยยิ่งๆ ขึ้นไป แล้วใครซวยครับ 

ชนชั้นกลางในเมืองครับ ซวย 

เป็นชนชั้นกลาง นักวิชาการก็ด่า เสื้อแดงก็แขวะ วันดีคืนดี ก็ยุให้ชาวบ้านเกลียดอีก เค้ามีแต่สงครามชนชั้น คนจนกับพวกศักดินา นายทุนใหญ่ นี่นักวิชาการไทยสร้างสงครามชนชั้นระหว่างคนจน กับชนชั้นกลาง เฮ้อ ประเทศเอน็จอนาจใจ

ปล. บทความนี้ในแง่ความเป็นวิชาการ มีการลดทอน หลักฐาน ข้อสังเกตุ หรือ ข้อจำกัดบางเรื่องไว้ เพื่อให้การอธิบายเข้าใจง่ายๆ นะครับ 

ถ้าสนใจก็สามารถค้นหาความรู้เพิ่มเติมได้ ตามห้องสมุดทั่วไป google ไม่พอนะจ๊ะ เด็กๆ




#992503 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 6 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:43

เพิ่มเติม >>>>> Expanding rights for active citizen
การขยายสิทธิสำหรับประชาชนผู้ตื่นตัว

วิวาทะที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือการถกเถียงเรื่องความเท่าเทียมกันของสิทธิประชาชนในสังคม สิทธิการออกเสียงเลือกตั้งนั้นไม่ต้องสงสัย ควรเท่าเทียมกัน หนึ่งคนหนึ่งสิทธิ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังค้างคา คือสิทธิสำหรับคนที่ตื่นตัวทางการเมือง สิทธิคนที่รู้เท่าทันและทำหน้าที่เตือนสังคมก่อนเกิดปัญหา 

Active citizen หรือประชาชนผู้ตื่นตัว ที่ทำหน้าที่ติดตามปัญหา และตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง คนเหล่านี้ควรมีสิทธิพิเศษอะไรหรือไม่ ????

ในรัฐธรรมนูญสมัยใหม่เราให้สิทธิประชาชนผู้ตื่นตัวทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการลงชื่อเพื่อเสนอกฏหมาย ถอดถอนนักการเมือง หรือการร้องเรียนไปยังองค์กรอิสระต่างๆ หรือไม่ใช่ที่ประชาชนเหล่านี้คือผู้มีคุณูปการต่อคนในสังคม 

แต่...... กฏหมายกี่ฉบับที่ประชาชนเสนอค้างอยู่ในสภา การลงชื่อถอดถอนนักการเมืองกี่ครั้งที่ไม่เคยนำไปสู่การพิจารณา กระบวนการรับฟังความเห็นประชาชนดูถูกประชาชนผู้ตื่นตัวมากแค่ไหน 

ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม เราต้องการประชาชนผู้ตื่นรู้ ผู้ทำหน้าที่เสนอแนะ ตรวจสอบ และติดตามการทำงานของรัฐบาล 

ผมพูดเสมอว่าการเลือกตั้งคือการนับหนึ่ง เป็นกระบวนการนำไปสู่เป้าหมายที่ผู้ลงคะแนนเสียงต้องการ 

ถ้าในระหว่างการทำงานของรัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้ง มีการกระทำที่ขัดต่อเจตจำนงค์ของผู้ลงคะแนนเสียง เราจะทำอย่างไร ? 

ใครคือผู้ตรวจสอบ ใครคือผู้ส่งเสียงเตือนประชาชนด้วยกัน หากไม่ใช่ Active citizen

สิทธิการเลือกตั้งเป็นของทุกคน แต่การแสดงความละเลยต่อสังคมที่บอกว่า ก็ในเมื่อเสียงส่วนใหญ่เลือกมาก็ต้อง "ทน" จนกว่าจะเลือกตั้งใหม่ มันคือสิ่งที่ถูกหรือไม่ ?

วันนี้เราไม่ควรจำกัดสิทธิของผู้ตื่นตัวทางการเมือง ประชาชนที่ออกมาตักเตือนรัฐบาลเมื่อทำผิด ควรได้รับสิทธิพิเศษบางอย่างมากกว่าประชาชนผู้ใช้สิทธิแค่เลือกตั้ง อย่างน้อยประชาชนที่อดทนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างเดียวก็ควรเปิดโอกาส และยอมรับการมีอยู่ของความตื่นตัวทางการเมือง คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ การกระเสือกกระสนทำหน้าที่แทนคนอื่นในสังคมควรเป็นที่ชื่นชม 

เราไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องการจำกัดสิทธิการเลือกตั้ง ไม่มีการพูดเรื่องการศึกษากับการเลือกตั้ง ไม่แบ่งเขตเมืองเขตชนบท แต่เรากำลังถามหาสิทธิพิเศษสำหรับคนที่เสียสละติดตามการทำงานของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 

เราทำได้แล้วนะครับ การออกมาของประชาชนแม้จะภายใต้การนำของพรรคฝ่ายค้าน แต่วันนี้สังคมไทยเปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนเป็นที่น่าเกรงขามขึ้น คิดให้ดีเราจะปฏิรูปการเมืองด้วยการทำตัวให้เป็น active citizen หรือรอคนบางกลุ่ม บางคนที่มาทำหน้าที่แทนเรา สภาประชาชนที่มาจากการแต่งตั้งของใครบางคนสำคัญกว่ามวลมหาประชาชน เหรอ

การปฏิรูปคือการสร้างกลไกที่ประชาชนผู้ตื่นตัว มีเสียงดังกว่าที่เคยเป็น รัฐบาลต้องฟังคนกลุ่มนี้ มากกว่าคิดจะตามใจประชาชนผู้อดทนและคิดว่าสิทธิตนมีแค่ตอนเลือกตั้ง 

การที่คุณโดนจับผิดได้ คุณต้องยอมรับ อย่ามาแถว่าคุณมีเสียงจำนวนมากจากการเลือกตั้ง ช่วงเวลาเปลี่ยน วันที่คุณได้รับการเลือกตั้ง คุณไม่ได้ทำเลว แต่วันที่คุณโดนจับได้ คุณทำเลวไปแล้ว เอาการยอมรับในอดีตมารับประกันปัจจุบันไม่ได้

ผมท้าทายนักวิชาการทุกฝ่าย ว่าสิทธิของ active citizen ต้องมากกว่า ประชาชนผู้เฉยชา 
การเลือกตั้งเป็นแค่วันเริ่มต้นในการเฝ้าดูรัฐบาลที่เราเลือกมาทำงานตามเจตคจำนงค์ของเรา 

อย่ามาผิดทางทะเลาะกันเรื่องสิทธิเลือกตั้ง 
อย่ามาตั้งแง่เรื่องชนชั้น และความไม่เท่ากันของคนในสังคม 

แต่ต้องยอมรับคนที่เข้ามาทำหน้าที่บางอย่างแทนเรา ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 

ขยายสิทธิประชาชนผู้ตื่นตัวทางการเมือง สร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ลดการอ้างสิทธิจากคะแนนเสียงเลือกตั้ง 

 

เข้าใจผมนะครับ
 
>>>> ................ไม่เกี่ยวกับ เศรษฐกิจ โดยตรงหร่อกครับ เเต่ เห็นพูดกันเยอะยังเลยอยากตะโกนดังๆที่ไหนสักที่ ว่า
"1 คน 1 เสียงเท่ากันไม่มีปัญหา
 
แต่ 1 เสียงที่ทุ่มเทเพื่อการตรวสอบ ต้องมีกลไกอะไรบางอย่างรองรับ 
 
Active citizen ต้องได้รับการขยายสิทธิ 
 
คุณเลือกตั้ง แล้วอายที่เลือกคนโกงกินมา 
คุณอายจนขีดเส้นขึ้นมาเส้นหนึ่ง ปกป้องคนที่คุณเลือก ไม่ให้ใครล้ำมา 
 
แล้วก็ด่าคนที่อยู่นอกเส้น ต่างๆนานา
ผมขอตรวจสอบคุณก็ด่า มันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน
 
ประชาชนผู้ตรวจสอบต้องได้รับการยอมรับ
 
อย่าให้วาทกรรม ครอบงำนะครับ "
 
 
>>>>มีคนไม่เข้าใจอีกเยอะนึกว่า เวลานี้บ้านเมืองคนออกมาทะเลาะ กัน เเต่นั้นไม่ใช้เลย ไม่ตรงกับความเป็นจริงเลย เวลานี้ คือ >>>>"การต่อสู้ของประชาชนที่ตื่นรู้รักชาติกับระบบนายทุนนักการเมื่องที่ใช้ ปชต.เป็นเครื่องมือฉ้อฉล โกงกิน อย่างถูกกฏหมาย" ส.ศิวรักษ์ 
 
<<<< จะเเก้ปัญหาในระบบได้อย่างไร ในเมือผู้มีอำนาจใช้ระบบเพื่อหาประโยชน์ สวยงามครับ ประชาธิปไตย หลักการประชาธิปไตยคือคำตอบของทุกอย่าง ......... ??????

แต่ผมว่าคุณก็ตอบใครในสังคมไม่ได้เหมือนกันว่า เราจะแก้ไขความไม่ชอบธรรมในการบริหารประเทศ ที่ทำโดยอ้างความชอบธรรมจากกติกาประชาธิปไตยได้อย่างไร




#989930 หัวเหม่งใจเขมร ขู่ลั่น!! ม็อบชัตดาวน์กรุงเทพฯกระทบความมั่นคงรัฐฯ มีโท...

โดย PATTON on 4 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:33

สังเกตุนะครับ พวกไพร่ พรรคขี้ข้าทักษิณ พยามใช้คำนี้ Shutdown Bangkok เพื่อกล่าวร้าย พวกไพร่ พรรคขี้ข้าทักษิณ เดินเกมเเบบนี้เราอย่าไปหลงกลครับ  มา  รณรงค์  ใช้คำนี้กัน  Occupy Bangkok เริ่มจากการสื่อสารโฆษณาใช้ภาษาให้ถูกต้อง ชนะไปกว่าครึ่งเเล้วละครับ 
 
ขอให้ช่วยกันใช้คำว่า Occupy Bangkok ไม่ใช้คำว่า Shutdown Bangkok ด้วยเหตุผลดังนี้ 
1. คำว่า Shutdown มีความหมายในเชิงลบมาก ทำให้ฝรั่งเข้าใจผิดว่าจะเกิดการจลาจล มีการปิดกรุงเทพ ซึ่งความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ในขณะเดียวกันฝั่งทักษิณก็เต้าข่าวปิดกรุงเทพว่าพวกเราจะตัดน้ำตัดไฟ ปิดรถไฟฟ้า ซึ่งมันไม่จริง
2. Occupy เป็นคำที่ฝรั่งเข้าใจ เพราะเขามีคำว่า Occupy Wall Street อยู่แล้ว และโดยความหมายของคำไม่ลบเท่ากับ Shutdown ขอให้ช่วยกันแชร์และใช้ให้ถูกต้องครับผม  
 
>>>>มีกลุ่มก้าวหน้าในเมืองเบอร์ลิน ประท้วงเรื่องอิทธิพลธนาคารเหนือรัฐบาล และเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นวิวัฒนาการใหม่ในสังคม เอาเปรียบประชาชน นิยมใช้คำนี้ค่ะ "Occupy" องค์กร ที่ประชาชนประท้วงเรียกร้องให้เปลี่ยนนโยบาย ฯลฯ



#989889 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 4 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:41

TDRI บอกจำนำข้าว มีค่าเสื่อมไปแล้วหมื่นล้าน

นักวิชาการ สายสังคม สายมานุษยวิทยา ชอบด่า TDRI ว่าไปทำวิจัยอะไรมาก็ไม่รู้

ก็ไม่รู้สินะ ลองอ่านดูดิ ว่าวิจัยสายเศรษฐศาสตร์ เค้าศึกษาอะไร ทำไมสายสังคม กะ สายมานุษย์ฯ จึงกล้าวิจารณ์

 

 

>>>> “ทีดีอาร์ไอ” ประเมินค่าเสื่อมข้าวในสต๊อกรัฐบาล 2 ปีการผลิตกว่าหมื่นล้าน  ยังไม่นับรวมค่าเสื่อมจากโรงสีขี้ฉ้อบางรายที่นำข้าวใหม่ออกไปขาย เอาข้าวเก่ามาซุกแทน ด้านผู้ส่งออกลุ้นรัฐบาลใหม่กล้าเลิกจำนำข้าว หวังช่วยเพิ่มขีดแข่งขันทันที

601.jpg

ข้างนักวิชาการสั่งจับตาข้าวหอมมะลิไทยตกที่นั่งลำบาก ข้าวหอมเวียดนาม-เขมร ประกาศท้าชนเต็มสูบ โรงสีแฉแม้ยุบสภาแต่พาณิชย์ยังแอบระบายข้าวแบบลับๆ เร่งหาเงินจ่ายชาวนาโค้งสุดท้าย

ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” กรณีการประเมินค่าเสื่อมคุณภาพข้าวจากโครงการรับจำนำของรัฐบาลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณทั้งสิ้น 28.7 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.15 แสนล้านบาท หากเก็บไว้ในคลังกลางแบบปกติ คือไม่มีห้องเย็นรักษาอุณหภูมิหรือระบบ airtight จะทำให้ข้าวเหลืองและมีมอด เช่น ใน 3 เดือนแรก ดัชนีความขาวจะลดลงจาก 51.5% เหลือ 49.5% แมลงจะเพิ่มขึ้น 23.2 ตัวต่อกิโลกรัม  ถ้าเก็บไว้ 6 เดือน ความขาวจะลดลงเหลือ 49% และแมลงจะเพิ่มขึ้นเป็น 90 ตัวต่อกิโลกรัม  หากสมมติว่าปัญหาดังกล่าวทำให้มูลค่าข้าวลดลง 5% ต่อปี หากเก็บข้าวไว้เกิน 2 ปี และไม่เร่งระบายข้าวออกมาจะมีค่าเสื่อมไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท  ทั้งนี้ยังไม่นับรวมถึงกรณีที่มีโรงสีบางรายนำข้าวใหม่คุณภาพดีออกไปขาย แล้วนำข้าวเก่ามาสวมแทนไว้ในโกดัง ค่าเสื่อมจะยิ่งมากกว่านี้

ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามาหลังการเลือกตั้งที่ต้องเร่งดำเนินการคือการจัดการสต๊อกข้าว (คาดจะมีราว 17-18 ล้านตันข้าวสาร) โดยต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในรูปองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบโกดังข้าวเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลอ้างมาตลอดว่าเป็นความลับ และไม่สามารถอธิบายได้ว่าจริงๆ แล้วสต๊อกข้าวเหลือเท่าไร รวมถึงปริมาณข้าวที่หายไปจากการระบายข้าวถุง เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพผู้บริโภค อย่างไรก็ดีจากการประเมินเบื้องต้นรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา ไม่ว่าจะได้พรรคเดิม หรือได้อีกขั้วหนึ่งเป็นแกนนำ คาดว่าจะยังไม่รีบดำเนินการรับจำนำทันที  เพราะเห็นปัญหาอยู่แล้วว่าในเวลานี้โครงการขาดสภาพคล่องทางการคลังอย่างหนัก

ด้านนางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามา แม้จะได้ขั้วเดิมหรือขั้วใหม่เป็นรัฐบาล หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีการช่วยเหลือชาวนาด้วยวิธีอื่น โดยไม่รับจำนำข้าวใหม่เพิ่ม(ยกเลิกจำนำ)และปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด จะทำให้ผู้ส่งออกข้าวมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น จากที่ขณะนี้ต้องรอลุ้นว่าหลังตรุษจีนว่าจะมีออร์เดอร์เข้ามาเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะขณะนี้ราคาข้าวไทยในตลาดโลกมีความใกล้เคียงกับราคาข้าวเวียดนาม  บางช่วงราคาก็ต่ำกว่า อย่างไรก็ตามสต๊อกข้าวของรัฐบาลไทยที่ยังมีมากยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกยังทรงๆ และมีแนวโน้มลดต่ำลง

“ภาพรวมส่งออกข้าวปี 2556 ข้าวหอมมะลิ เป็นพระเอก ส่วนข้าวนึ่งมาดีในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากรัฐบาลบังกลาเทศมีการลดภาษีนำเข้า จึงเป็นตัวผลักทำให้พ่อค้ามีการสั่งนำเข้าข้าวนึ่งไทยเพิ่มขึ้น ก็หวังว่ารัฐบาลบังกลาเทศจะขยายเวลาต่อไปอีกจะทำให้ปีหน้าโอกาสข้าวนึ่งจะกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง”

ขณะที่ รศ.สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ  กล่าวว่า ปริมาณข้าวในสต๊อกของไทยขณะนี้มีอยู่ประมาณ 17-18 ล้านตันข้าวสารหรือ 17% ของสต๊อกข้าวโลก นับเป็นลำดับ 3 ของโลกรองจากจีนและอินเดีย ในแต่ละปีจะมีข้าวมาสมทบในสต๊อกเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะรัฐระบายไม่ออก หากจะเคลียร์สต๊อกให้เหลือประมาณ 2 ล้านตันได้ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5-7 ปี และหากจะล้างสต๊อกให้ได้เร็วกว่านี้ข้าวส่งออกของไทยจะต้องมีราคาต่ำกว่าราคาข้าวของเวียดนามและอินเดีย อย่างไรก็ดีคุณภาพข้าวไทยในสต๊อกของรัฐกำลังเป็นที่กังขาของผู้บริโภคภายในและต่างประเทศเป็น เครื่องบ่งชี้ว่าค่าความจำเพาะด้านคุณภาพของข้าวไทยที่เคยมีเหนือกว่าเวียดนามกำลังหายไป

“ล่าสุดกัมพูชาชนะการประกวดข้าวหอมมะลิที่อร่อยที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน เวียดนามเองก็ให้ความสนใจในการปรับปรุงคุณภาพ และขยายการผลิตข้าวหอมและรวมถึงข้าวหอมมะลิ105 ทั้งเพื่อตลาดส่งออกและตลาดภายในประเทศ ถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อข้าวหอมมะลิไทย”

ตีพิมพ์ครั้งแรก: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 22-25 ธันวาคม 2556 ในชื่อ “จำนำข้าว 2 ปี ค่าเสื่อมหมื่นล้าน”

 

 

ที่มา

http://tdri.or.th/td...rice-programme/




#988641 เพื่อนๆสมาชิกเรามารวบรวมบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ 2013-2014 ไทยเเละโลกกันเถอะอนาคตเ...

โดย PATTON on 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:43

เศร้าครับ มีเเค่สองทางให้เลือก ไม่เเพ้ คนชาติไทยก็ต้องชนะกำจัดพวกขี้ข้าพรรคทักษิณ

ให้หมดไปจากสังคมไทยเท่านั้นถึงจะพอมีความหวังแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยได้อย่างเเท้จริง

ผมใช้เวลากว่า12ชม.ถาม อจ.ท่านต่างๆ ได้คำตอบมาเหมือนๆกันว่า

จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทย อย่างยั่งยืน คนชาติไทยได้ประโยชน์สูงสุดต้องทำอย่างไร

 

ตอนนี้ บอกได้ว่า ต้องทำเรื่องการเมืองให้จบให้ได้ก่อน  

พรรคทักษิณหมดอำนาจ ได้ผู้บริหารที่เป็นคนดี มีทีมงานที่มีความสามารถ จริงใจ ประเทศไทยมีพร้อมทุกอย่าง

เเต่ขาดผู้มีอำนาจบริหารบ้านเมืองที่เป็นคนดีจริงใจกับประชาชน




#987642 ข้อสงสัย เรื่องตำรวจที่เสียชีวิต

โดย PATTON on 2 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:05

ผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับปืนหรือการซุ่มยิงที่เรียกว่าสไนท์เปอร์ช่วยทีสิครับ นี่เป็นอีกภาพหนึ่งที่ได้ถ่ายไว้ในวันที่มีการโจมตีด้วยแก๊สน้ำตา และปืน บริเวณหลังคาตึก ซึ่งในภาพน่าจะเป็นตึกหนึ่งในแห่งเดียวกันกับอาคารกระทรวงแรงงาน ลองดูและช่วยพิจารณาด้วยครับ

1525212_649010335141871_1810113250_n.jpg