Jump to content


กระต่ายหมายจันทร์

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 2556
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 05:39
*****

#1163610 หมดสิ้นแล้ว..เมื่อกี้ดูช่อง 9 ทิศทางประเทศไทย ในรายการถามว่า"คิดว่านานาชา...

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:42

 

 

องค์กรอิสระในที่นี้คือ ตุลาการ กกต ผลออกมาเชื่อมั้น 4%ไม่เชื่อมั่น 96% ดับแล้วองค์กรอิสระ ขนาดคนในประเทศยังไม่เชื่อมั่น เอาอะไรกับต่างประเทศ อิอิ

แล้วคนอย่างมึ-ง มันน่าเชื่อเถิอแค่ไหน
ไอ้บั๊ฟฟาโลและลิตเติ้ลค็อกเกอร์ไดเอ๊ย
โคตรฟาเธอร์โคตรมาเธอร์ มึ-ง เอ๊ย
ไอ้แอนนิมอล..........

คิ้งค่อง... เชิญช่องสองฮะ

ขอเชิญกลับไปช่องคลอดมารดาคุณเถอะ

เสนียดและอุบาทว์สังคมสุดๆ




#1163559 ศัพท์ใหม่ยิ่งลักษณ์ "I am Virgin" พูดจริงหรือไม่ครับ ?

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:21

I  am  vergin  and

My name  is Maria  Osawa

ยิ่งลักษณ์เคยว่าไว้ตอนไหนก็ไม่รู้

;)  :angry:  :o  B) 




#1163549 กบฎสุเทพยึดรัฐสภาพาพวกประชาธิปัตย์ออกมาสร้างความอัปยศ

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:16

ยึดยังไงวะ ตอบหน่อยสิ อย่ามาหลังไมค์ ไร้สาระ ตรงนี้แหละ
ไอ้บัวเต่าถุย

 

ใจเย็นๆ ท่าน  อย่าวู่วาม

เอามันให้ถึงตายคาที่เลยนะ

ฝากด้วย อยากดูควายถูกเชือด




#1163527 หมดสิ้นแล้ว..เมื่อกี้ดูช่อง 9 ทิศทางประเทศไทย ในรายการถามว่า"คิดว่านานาชา...

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:03

องค์กรอิสระในที่นี้คือ ตุลาการ กกต ผลออกมาเชื่อมั้น 4%ไม่เชื่อมั่น 96% ดับแล้วองค์กรอิสระ ขนาดคนในประเทศยังไม่เชื่อมั่น เอาอะไรกับต่างประเทศ อิอิ

แล้วคนอย่างมึ-ง  มันน่าเชื่อเถิอแค่ไหน

ไอ้บั๊ฟฟาโลและลิตเติ้ลค็อกเกอร์ไดเอ๊ย

โคตรฟาเธอร์โคตรมาเธอร์ มึ-ง เอ๊ย

ไอ้แอนนิมอล..........




#1161962 " พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" โปรดเกล้าฯ "พระคาร์ดินัล"เข้าเฝ...

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:18

หลักความเชื่อของนิกายโรมันคาทอลิก
                นิกายโรมันคาทอลิกยึดถือหลักความเชื่อดั้งเดิม 6 ประการ ดังกล่าวและเน้นในข้อเพิ่มเติมต่อไปนี้
                1. พระผู้เป็นเจ้ามีแต่เพียงพระเป็นเจ้าเดียว มีธรรมชาติเป็นแต่เพียงหนึ่งเดียว แต่ในพระเป็นเจ้าเดียวนั้น มีสามพระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต และสามพระบุคคลนี้รวมกันเรียกว่า ตรีเอกานุภาพ (Trinity) บางท่านแปลว่าตรีเอกภาพตรี แปลว่า สาม เอก แปลว่า หนึ่ง จึงแปลรวมกันว่า สามพระบุคคลในพระเจ้าเดียวกัน
                2. พระเยซูคริสต์ทรงมี 2 สภาวะ คือ ทรงเป็นพระเจ้าแท้ และเป็นมนุษย์แท้ พระเยซูได้เสด็จลงมาจากสวรรค์มารับเอาธรรมชาติมนุษย์ เพื่อทรงไถ่บาปแทนมนุษย์ด้วยการยอมรับการทรมาน และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน สามวันหลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระองค์ได้ฟื้นขึ้นและประทับอยู่กับสาวกเป็นเวลา 40 วัน เมื่อครบ 40 วันแล้ว พระองค์ก็ได้เสด็จขึ้นสวรรค์
                3. ยกย่องพระนางมารีย์ (หรือมาเรียหรือมารีอา) เป็นพระมารดาของพระเจ้า เรียกโดยทั่วไปว่าแม่พระ และถือว่าก่อนที่พระเยซูจะเสด็จขึ้นสวรรค์ได้ทรงสถาปนาพระนาง ให้เป็นแม่พระของคริสต์ศาสนิกชนทุกคน พระนางได้ถูกยกขึ้นสวรรค์ทั้งร่างไปรับมงกุฎ เป็นพระราชินีแห่งเทพเทวาและนักบุญทั้งหลายในสวรรค์ ทรงเป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับคริสต์ศาสนิกชน ชาวคาทอลิกเชื่อว่าการสวดขอพรต่อแม่พระ ให้พระนางช่วยเสนอขอพระพรจากพระเป็นเจ้าจะได้รับผล
                4. ยกย่องโยเซฟ (บิดาเลี้ยงของพระเยซู) เป็นนักบุญ และยกย่องนับถือสหพันธ์นักบุญ (Communion of Saints) คำว่านักบุญ (Saint หรือ St.) เป็นคำใช้ในคริสต์ศาสนา สำหรับบุคคลที่กระทำความดีพิเศษในศาสนา เช่น ได้เสียสละชีวิตให้แก่ศาสนา เสียสละความสุขช่วยเหลือคนจำนวนมาก บุคคลที่จะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักบุญ จะต้องเป็นผู้ที่คณะสงฆ์ที่โรมประกาศว่าเป็นเซนต์ และกว่าจะได้รับการประกาศยกย่องเช่นนั้น ก็มักจะเป็นเวลาล่วงไปหลายสิบปี หรือถึงร้อยปีหลังจากบุคคลนั้นสิ้นชีวิตไปแล้ว ชาวคาทอลิกเชื่อว่านักบุญเป็นที่รักของพระเยซูเจ้า เมื่อเราไปสวดภาวนาขอต่อนักบุญก็เท่ากับเราไปขอให้ท่านช่วยเสนอต่อพระเป็นเจ้าอีกทีหนึ่ง ให้ประทานพระคุณแก่เรา แทนที่เราจะสวดขอต่อพระเป็นเจ้าโดยตรง
                5. เชื่อในเรื่องแดนชำระ คาทอลิกเชื่อว่าเมื่อคนตาย ขณะที่สิ้นชีวิต วิญญาณจะถูกพิพากษาเป็นรายบุคคลไป ผู้ที่ทำบาปหนักวิญญาณก็ไปนรก ผู้ที่บริสุทธิ์หรือได้ใช้บาปหมดแล้วก็ไปสวรรค์ ส่วนวิญญาณของผู้ที่ไม่มีบาปหนัก แต่ก็ไม่บริสุทธิ์ จะไปสู่สถานที่สำหรับชำระวิญญาณเรียกว่า "แดนชำระ" ก่อน คือยังไม่ไปสู่นรกหรือสวรรค์ วิญญาณจะไปสู่สถานที่นี้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะชดใช้โทษบาปหมดแล้ว จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าสวรรค์ได้
                6. ชาวคาทอลิกถือว่าพระสันตะปาปา ผู้ดำรงตำแหน่งประมุขของคริสต์ศาสนิกชนประจำอยู่ที่กรุงโรม เป็นผู้รับทายาทสืบต่อจากเซนต์ปีเตอร์ (เปโตร) อัครสาวกของพระเยซู เพื่อปกครองคริสต์ชนในมนุษย์โลกแทนองค์พระเยซู เพราะพระเยซูประทานอำนาจนี้ไว้แก่อัครสาวกเปโตร อำนาจนี้สืบทอดกันมาทางสายพระสังฆราชแห่งโรม ดังนั้นจึงถือว่าพระสันตะปาปาเป็นประมุขของพระศาสนจักรคาทอลิก พระองค์ไม่รู้จักผิดพลั้ง (infalliable) หมายความว่า คำสั่งสอนของพระสันตะปาปาในตำแหน่งหน้าที่ประมุขของศาสนาจะผิดพลั้งไม่ได้ เฉพาะเรื่องที่เน้นการใช้อำนาจนี้เป็นครั้งๆ ไป
นี่คือหลักความเชื่อของคนคาทอลิกที่ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหนๆ ก็จะประพฤติปฏิบัติกันแบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไทย องค์ในหลวงเป็นที่เคารพรักของชาวคาทอลิกไทยและทั่วโลก

เราเคยเห็นชาวคาทอลิกไทยมีปัญหาขัดแย้งกับชาวพุทธไทยหรือไม่ ลูกสาวผมก็เรียนโรงเรียน

คาทอลิก วัดที่ผมเคยบวชก็มีกำแพงติดกับสังฆมณฑล พอวันพระ ครูและคณะผู้บริหาร(ซิสเตอร์)

โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนอยู่จะพานักเรียนที่เป็นพุทธเข้าวัดฟังเทศน์ธรรมจากพระสงฆ์ ครั้นถึง

เวลาที่สังฆมณฑลมีงานทางศาสนา ชาวพุทธอย่างผมและชาวบ้านแถวนั้นก็มาร่วมงานอย่างไม่

รังเกียจรังงอน มีอยู่ครั้งหนึ่ง  ผมเห็นพระหลวงตา(วัดที่ผมเคยบวชอยู่)นำข้าวปลาอาหารที่ได้จาก

บิณฑบาตมอบให้โยมผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคาทอลิกไปทานต่อ ผมก็ได้ถามพระหลวงตารูปนั้นว่า

ทำไมหลวงตาถึงทำอย่างนี้ หลวงตาท่านตอบผมว่า"นี่คุณ ในหลวงเราถึงแม้ท่านจะเป็นพุทธมามกะ

แต่ท่านทรงดูแลทุกศาสนาที่อยู่ในประเทศเราอย่างเท่าเทียม เสมอภาค แล้วทำไมผมจะทำอย่างนี้

ไม่ได้ละคุณ "  ผมไม่มีคำถามอีกแล้วสำหรับพระองค์ท่านตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

+หมายเหตุ หญิงคาทอลิกคนนั้น ชวงนั้นแกประสบปัญหาชีวิต ไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ติดหนี้

ติดสินมากมาย แต่รู้จักหลวงตามานาน




#1161828 อภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ บลูมเบิร์ก

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:27

สงครามสื่อ สงครามประชาชน

สำนักข่าวซินหัวของจีนพาดหัวข่าว “การชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯ” ส่วนสำนักข่าวอัล-จาซีราห์ พาดหัวข่าวว่า “การประท้วงที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์”

อัล-จาซีราห์ของประเทศกาตาร์ ถือว่าเป็นสำนักข่าวของกลุ่มประเทศมุสลิมที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำสงครามข่าวสารต่อกรกับสำนักข่าวต่างๆ ของโลกตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นเอพีรอยเตอร์ และเอเอฟพี ที่ครอบงำข่าวสารโลกมาเป็นเวลานาน

พาดหัวและรายละเอียดเนื้อข่าวของสำนักข่าวจากประเทศเอเชีย สองแห่งนี้ ให้น้ำหนักและความสำคัญแก่ฝ่ายผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลมาก ถ้าเปรียบเทียบสื่อตะวันตกแทบทุกสำนัก ยกเว้นสำนักข่าวบลูมเบิร์ก กับไทม์ออนไลน์ และเทเลกราฟที่เสนอข้อมูลวิเคราะห์เจาะลึกถึงความผิดพลาดด้านนโยบายของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สร้างความเสียหายให้กับสถานะทางการคลังของประเทศหลายแสนล้านบาท และให้รายละเอียดถึงความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นเหตุให้มีการชุมนุมต่อต้านครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย

สื่อตะวันตกที่เหลือแทบทุกสำนัก เสนอข่าวการชุมนุมที่ให้น้ำหนักไปทางรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ ให้ความสำคัญกับการชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณของประชาชนน้อยมาก ตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมเมื่อสามอาทิตย์ก่อน จนกระทั่งถึงวันที่ประชาชนเข้ายึดสำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังด้วยมือเปล่า สำนักข่าวตะวันตกถึงได้ตื่นตัวขึ้นมาเสนอข่าวรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงภายในกันครึกโครม แต่ก็อีกนั่นแหละรายละเอียดของข่าวก็เสนอไปทำนองว่า “รัฐบาลประกาศใช้กฎหมายมั่นคงภายใน หลังจาก
ฝ่ายต่อต้านใช้กำลังเข้ายึดสถานที่ราชการ” (Forced in to seize government offices) แล้วบรรยายต่อไปว่า กฎหมายนี้ให้อำนาจรัฐบาล ประการใช้เคอร์ฟิว ใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชนได้ เหมือนกับที่ทหารเข้ากวาดล้างผู้ชุมนุมเมื่อปี 2553 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 90 กว่าคน

ต่อมาสำนักข่าวตะวันตกก็มีสูตรตายตัวโดยไปสัมภาษณ์ขอความคิดเห็นจาก นายฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักวิชาการผู้เข้าใจเสื้อแดงและระบอบทักษิณอย่างลึกซึ้งถึงแก่น และสื่อตะวันตกทั้งหลายมักจะตามด้วยการบรรยายในภูมิหลังว่า ทักษิณ เป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนยากจนในชนบท แต่เขาเป็นที่รังเกียจชิงชังของคนชั้นกลางในเมือง ทักษิณถูกปฏิวัติในปี 2549 ด้วยข้อกล่าวหาว่าคอร์รัปชั่น หนีไปอยู่ต่างประเทศ หลังจากศาลตัดสินจำคุกสองปี

ส่วนพลังมวลมหาประชาชนที่ลุกขึ้นต่อต้านและขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณนั้น สื่อตะวันตกเสนอข่าวอย่างดูแคลนตลอดมา พวกเขาให้ตัวเลขของการชุมนุมไม่เคยเกิน 6,000 คนจนถึงวันที่ 24 ที่มวลมหาประชาชนกว่าล้านคนออกมาชุมนุมเต็มบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ สื่อตะวันตกให้ตัวเลขแค่หมื่น 50,000 บ้าง 40,000 และ 75,000 บ้าง

มากไปกว่านั้นสำนักข่าวต่างประเทศอย่างเอพี ยังเสนอข้อมูลด้านดีของรัฐบาลอย่างประหลาดใจโดยเสนอข่าวโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วยเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่จะนำมาสร้างรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯถึงชายแดนลาวจากกรุงเทพฯถึงชายแดนมาเลเซีย กรุงเทพฯถึงเชียงใหม่ กรุงเทพฯ-เขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ว่าต้องเจอกับอุปสรรคทางกฎหมายเมื่อพรรคฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายซึ่งผ่านสภาไปแล้ว โครงการสร้างรถไฟสี่เส้นทางเชื่อมประเทศอาเซียนแขวนไว้ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน นอกจากนั้นยังบรรยายถึงความดีของเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อย่างเลอเลิศประเสริฐศรีราวกับว่าถ้าฝ่ายค้านไม่เข้ามาขวาง โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็จะดำเนินไปอย่างราบรื่น

เห็นไหมสื่อตะวันตกมันเห็นคุณความดีของโครงการเงินกู้สองล้านล้านที่สร้างหนี้ให้คนไทยไปอีกสองชั่วคน รถไฟที่ไปถึงแค่โคราชนั้น มันเขียนให้เชื่อมประเทศอาเซียนได้

ยกประเด็นขึ้นมาเขียน เพราะอยากให้เข้าใจกันอย่างถ่องแท้ของสงครามสื่อ สงครามข่าวสารระหว่างสื่อตะวันตกกับสื่อตะวันออก ซึ่งห้ำหั่นกันเอาเป็นเอาตายในทุกมุมโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในซีเรีย เรื่องราวในประเทศอียิปต์ สื่อตะวันตกกับอัล-จาซีราห์และซินหัวของจีนห้ำหั่นกันแบบนี้เหมือนกัน แต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคือ ประชาชนของประเทศที่กำลังสู้กับเผด็จการทรราชพลเรือนอย่างประเทศไทยทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการนำเสนอข่าวที่ลำเอียงของสื่อตะวันตก ยังมีสื่อสากลอีกหลายสำนักที่นำเสนอข่าวให้น้ำหนักกับผู้ชุมนุมและเปิดโปงความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ เช่น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ไทม์ออนไลน์ ซีซีทีวีของจีน ซินหัวและอัล-จาซีราห์ สื่อเหล่านี้รายงานข่าวให้น้ำหนักมาทางประชาชนบ้างเหมือนกัน

สื่อที่กล่าวถึงเหล่านี้ได้รายงานวิเคราะห์เจาะลึกถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณส่วนใหญ่จะสรุปในรายงานว่า ถึงแม้จะมีอิทธิพลอยู่เหนือรัฐบาลของน้องสาว แต่โอกาสที่ทักษิณจะได้กลับมายิ่งใหญ่ในประเทศนี้อีกมีน้อยเต็มที

ถ้าจะให้วิเคราะห์ว่า ทำไมสื่อสากลจึงมีท่าทีต่อการต่อสู้ของประชาชนครั้งนี้แตกต่างกันอย่างที่เห็น พอจะสรุปได้คร่าวๆว่า การเมืองระหว่างประเทศมีอิทธิพลสำคัญต่อการนำเสนอของสื่อตะวันตก ไม่ว่า ซีเอ็นเอ็น เอพี และเอเอฟพี ดูได้จากท่าทีของสหรัฐอเมริกา ที่ทำเนียบขาวแสดงอาการอุ้มรัฐบาลตั้งแต่ไก่โห่ เพียงแค่พี่น้องประชาชนเข้าไปยึดกระทรวงการคลังด้วยมือเปล่าด้วยความสงบ ทางกระทรวงต่างประเทศอเมริกาถึงกับออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่ส่อจะนำไปสู่ความรุนแรง วิงวอนให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี

การประท้วงของมวลมหาประชาชนในประเทศไทยที่ทำด้วยความสงบ มีดตัดเล็บสักอันยังไม่ได้ออกมาใช้ อเมริกาทำหน้าตื่นแถลงการณ์แสดงความกังวล แต่วันที่ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลของนายโมซี่ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวอียิปต์ จับประธานาธิบดีและคนใกล้ชิดไปขังคุก สื่อตะวันตกกลับเสนอข่าวว่า “ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่เรียกเหตุการณ์ในอียิปต์ว่าปฏิวัติรัฐประหาร และชื่นชมทหารอียิปต์ที่เป็นผู้ผดุงไว้ซึ่งความมั่นคงในภูมิภาค”การนำเสนออย่างนี้ทำให้เห็นถึงธาตุแท้ของสื่อตะวันตก

รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีนโยบายเอนเอียงไปทางอเมริกามาก ไม่ว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะยกสนามบินอู่ตะเภาให้อเมริกามาตั้งฐานทัพ เพื่อกันท่าจีนในภูมิภาค เรื่องความร่วมมือการปราบปรามผู้ก่อการร้ายสากล เรื่องปัญหาทะเลจีนใต้ เมื่อรัฐบาลเอนไปซบอเมริกา สื่อตะวันตกพวกนั้นก็ต้องรายงานข่าวเอียงไปทางรัฐบาล

สแกนดูการนำเสนอของสื่อต่างประเทศแล้ว ลองหันกลับมาดูบทบาทสื่อในประเทศ ในภาวะสงครามสื่อสงครามประชาชนครั้งนี้ เราจะพบว่าสื่อกระแสหลักทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นวิทยุ ทีวี.และหนังสือพิมพ์เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เสนอข่าวไปในทำนองเดียวกันกับสื่อตะวันตก ส่วนใหญ่ คือให้น้ำหนักและเอนเอียงไปทางฝ่ายรัฐบาลที่มีอำนาจทุกอย่างอยู่ในมือ แต่ในท่ามกลางความเชี่ยวกรากของสงครามประชาชน ยังมีสื่อทางเลือกที่เป็นความหวังของประชาชน เช่น ทีวีดาวเทียม เอเอสทีวี บลูสกาย ทีนิวส์ สุวรรณภูมิ และเอฟเอมทีวี ลุกขึ้นมาต่อสู้ทำสงครามข่าวสารกับสื่อกระแสหลักอย่างเป็นระบบ จนทำให้สื่อทางเลือกเหล่านี้ กลายมาเป็นที่นิยมอย่างมากของประชาชน ในช่วงเวลาของการต่อสู้เพื่อขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ

นอกจากสื่อทางเลือกที่กล่าวมาแล้วเรายังมีโซเชี่ยล มีเดียหรือสื่อสังคมไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไลน์ และอินสตาแกรม สื่อที่เป็นปัจเจกเหล่านี้ ต่างก็กระโจนเข้ามาสู่สงครามสื่อท่ามกลางสงครามประชาชน และมีแนวโน้มว่า สื่อสังคมเหล่านี้กำลังได้รับชัยชนะ ได้รับความนิยมจากประชาชน มากกว่าสื่อกระแสหลัก

ข้อความที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนบางข้อความได้ส่งต่อกันไปเป็นแสนๆ คน ความรวดเร็วของสื่อสังคม ทำให้สื่อกระแสหลักต้องคอยติดตามความคืบหน้าข่าวสารจากสื่อสังคม ปัจจุบันนี้ในประเทศมีผู้เข้าถึงและใช้สื่อสังคมอยู่เป็นประจำไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าล้านคน ทำให้มีความมั่นใจว่า

 

สื่อสังคมเหล่านี้คือ ปัจจัยสำคัญในชัยชนะของสงครามประชาชนในครั้งนี้

จากคอลัมน์วิภาคสื่อเทศ  วิเทศสื่อไทย โดย สุทิน  วรรณบวร

สื่อฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดกว่าสื่อไทยหรือเอเซียหรอก  มันโง่เพราะยึดติดใน

ผลประโยชน์จากทุนนิยมสามาน  บอกได้เลยว่าบางทีฝรั่งเลวร้ายกว่าไทย

หรือจีนหรือแขกมากมาย  ใครจะเชื่อสื่อฝรั่งหน้าโง่ก็เชื่อไป สำหรับผมไม่มีทาง




#1160638 สมพร กระทู้เติมเงิน

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:41

สามทู้ร้อยแล้วยังไง  มันก็ยังเป็นสวะที่ไร้ค่าอยู่ดี

มันกำลังทำตัวเองให้อยู่ในระดับเดียวกับสัตว์เซลเดียว

มันคงไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉานที่เห็นแก่ตัวเองมากกว่า

ประโยชน์ส่วนรวม  โง่ซ้ำซาก  โง่ไม่สิ้นสุดคงเหมาะสม

สำหรับมัน  ปล่อยมันไปเถอะ ให้มันตายไปจากความ

เป็นจริงที่มันไม่เคยสำนึกผิดชอบ ชั่วดี มันตายไปแล้ว

จากความเป็นมนุษย์  ไอ้ที่โพสต์อยู่มันเป็นเดรัจฉานเท่านั้น




#1158956 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:55

images_23919515481341342359655.jpg

ต้อนรับหน้านี้ด้วย (คนบุรีรัมย์ใครว่าเสื้อแดงเยอะ ผมขอเถียงสุดใจขาดดิ้นว่าไม่จริง และความจริง

อีกอย่างที่พวกเราควรรู้ คือ คนบุรีรัมย์ส่วนมากรักเทิดทูนสถาบันยิ่งกว่าชีวิต ไม่เชื่อไปถามคุณเนวินได้)




#1158948 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:54

ถึงแม้ลิเวอร์พูลจะไม่ได้แชมป์ในวันพรุ่งนี้ ก็ไม่เสียใจ

เพราะวันนี้ผมมีความสุขมากที่สุดที่ได้เห็นชัยชนะของ

มวลมหาประชาชน ชาติต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด




#1158893 ช่อง11ถูกบล๊อคได้แล้ว..พยายามจะถ่ายสเ ศอรฉ..แล้วก้หนุยุด

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:36

ระวังบลูสกายเจอบ้างละ  :lol: ได้เห่ากันเป็นทอดๆ

แล้วเป็นยังไงบ้างละครับ บ้านและครอบครัวของคุณปลอดภัยดีหรือเปล่า

ยังไงๆ ก็ช่วยกลับไปดูแล ซ่อมแซมบ้านของคุณให้ดีด้วยละ ได้ข่าวว่า

หลังแผ่นดินไหวไปเมื่อวันที่ ๕ พ.ค.๕๗ ที่ผ่านมา มีอาฟเตอร์ช็อคตั้ง

สี่ร้อยกว่าครั้ง  ขอให้คุณพระคุณเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคุณและ

ครอบครัวด้วย  หวังว่าเมื่อคุณผ่านพ้นเคราะห์ภัยครั้งนี้แล้ว เราคงได้มา

แลกเปลี่ยนความเห็นทางการเมืองกันนะครับ ถึงแม้คุณกับผมความคิดเห็น

จะไม่ตรงกันซักเท่าไหร่  ผมรอคุณอยู่




#1158846 ผลการโวตประธานวุฒิสภา...

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:19

ผมมีข้อสังเกตุอยู่อย่าง ไม่ทราบว่าเกี่ยวกันหรือไม่

๕ พ.ค. ๕๗  เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

๗ พ.ค. ๕๗  ศาล รธน.มีมติ ๙-๐ ตัดสินนังยกพ้นตำแหน่งพร้อมพวกอีก ๑๐ คน จากกรณี

                   โยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี(ว่ากันว่าเป็นคำวินิจฉัยที่สมบูรณ์แบบในประวัติศาสตร์)

๘ พ.ค. ๕๗  ปปช.ลงมติ ๗-๐ ตัดสินรัฐบาลผิดจากกรณีจำนำข้าวแบบเต็มประตู

๙ พ.ค. ๕๗  ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเลือกสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัยเป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่

                   เหนือกว่า พล ต อ จงรักฯ ด้วยคะแนน ๙๖-๕๑

ชัดเจน รุนแรง ต่อเนื่องสำหรับระบอบแม้ว นี่คือรางวัลอันล้ำค่าของมวลมหาประชาชนที่ต่อสู้

ด้วยความอดทน อดกลั้น และเสียสละมาตลอด




#1154884 พวกมึงต้องตาย!! คราวนี้พวกมึงจะเจอทั้งคนกลางและคนของกู กรี้ดดดดดดดดด...

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 14:53

  องค์อิสระพวกกูขึ้นมาทำสงครามแล้วค่ะ อิดอกก!!   ผู้ฃุมนุมจะต้องตายกันหมด ผู้ที่ใช้อำนาจพิเศษเพื่อเป็นรัฐบาลจะต้องแพ้ กร้ากกๆกกกกกๆๆๆ โฮ่ะๆๆๆๆๆ กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

 

 

เจ๊จ๋าเจ๊  กรี๊ดซะดังเชียว   มังคุดหน่อยมั๊ย  บ้านผมมีีเยอะ

สำหรับเจ๊ผมให้กินฟรี  ส่วนพวก นปช กวป จะเอาไปปาหัวมัน

:D  :P  :angry:  :(  :wub:

a59bcec43a1ae12483216e3313ddfa8f.jpg




#1154737 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 14:09

ชัยชนะของมวลมหาประชาชน เริ่มต้นแล้ว

ที่ หน้า 1200



#1154456 ประชาธิปไตย ส้นตีน

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 12:32

อยากจะถาม จข กท ง่ายๆ สั้นๆ

มีวิธีการ/แนวทางไหนที่จะนำ ปตท

กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจได้บ้าง และ

มีมาตรการอะไรที่จะจัดการ/ควบคุม

พวกเหลือบสูบเลือดจากพลังงานไทย

อ้อ อีกข้อเราสามารถยกเลิกการอ้างอิง

ราคา ณ โรงกลั่นสูตรของสิงคโปร์ได้หรือไม่

ขอความเห็นจากท่านผู้รู้ด้วย คนบ้านเดียวกัน




#1150994 ดร.สุรินทร์ เชือดนางโพยได้เลือดสาดดีจริง ๆ

โดย กระต่ายหมายจันทร์ on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 18:13

พรรคเก่าแก่ เล่นการเมืองมา 62ปี สร้างอะไรให้บ้านเมืองเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง .. ควาย.. ไปตอบเรื่องเพชรซาอุ ให้ได้ก่อน

เดี๋ยวปั๊ด ตบกะโหลกแตก ควายนะเป็นคุณ  ดูนี่

  

  การขโมยเครื่องเพชรคดีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการที่นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ซึ่งได้เดินทางไปทำงานยังซาอุดิอาระเบีย และถูกทาบทามให้เข้าไปทำงานในพระราชวังของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกรได้ขโมยเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด (Prince Faisal Bin Fahd Bin Abdul Aziz) แห่งราชวงศ์ไฟซาลของซาอุดิอาระเบียมาได้ถึง 2 ครั้ง โดยที่ด่านศุลกากรของทั้งสองประเทศไม่สามารถตรวจสอบได้ โดยเครื่องเพชรดังกล่าวถูกนำมายังจังหวัดลำปาง[1] หลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย จึงประสานมายังรัฐบาลไทย ขอให้ติดตามเครื่องเพชรประจำราชวงศ์ส่งคืน การสืบสวน[แก้]

 

เครื่องเพชรบลูไดมอนด์ ถูกหยิบยกขึ้นมาจากสื่อประเทศไทยฝ่ายเดียวตั้งแต่เริ่มมีเรื่องนายเกรียงไกรใหม่ๆ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร.เจ้าของคดี ทราบเรื่องนี้ดีเพราะเป็นถามสื่อมวลชนเอง ว่า ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อนเลย จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้นใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่งสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นรูปคล้ายอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงาน หนึ่ง แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซอล

เรื่องนี้ได้มีการพิสูจน์กันสองทางคือ ประการแรกตำรวจได้ส่งภาพถ่ายดังกล่าวไปให้สถาบันอัญมณีในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรวจพิสูจน์ ได้ข้อยุติว่า วัตถุที่ว่าเป็นอัญมณีสีน้ำเงินแล้วอนุมานว่าเป็นนเพชรบลูไดมอนด์ ไม่ใช่เพชรหรืออัญมณีแต่อย่างใด แต่เป็นวัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง ผลพิสูจน์นี้อยู่ ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจ เพราะมีหนังสือตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ ประการที่สอง บุตรชายของสุภาพสตรีท่านนั้นได้นำสร้อยและจี้ที่ปรากฏในภาพถ่ายมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับผลตรวจพิสูจน์ของสถาบันในลอนดอน

ข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้อีกประการหนึ่งก็คือ ผลการสอบสวนนายเกรียงไกรพบว่า นายเกรียงไกรได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็น ทั้งไม่รู้ด้วยว่าแบ่งเครื่องเพชรชนิดและประเภทใดให้เพื่อนไปบ้าง นอกจากนั้น เจ้าตัวมีความรู้เรื่องอัญมณีน้อยมาก เมื่อนำเครื่องเพชรทั้งหมดกลับมาที่บ้านใน จ.ลำปาง ก็ได้ทำการแยกชิ้นส่วนเอาเพชรกับทองแยกออกจากกัน เพราะรู้จักแต่ทองว่ามีค่า โดยนำทองไปขายที่ร้านทองใน จ.แพร่ และ จ.ลำปาง ผลการสอบเจ้าของร้านทองก็ไม่ปรากฏว่าพบเห็นหรือรู้เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ส่วนเพชรนายเกรียงไกรก็ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเพชรมีความแข็งมากจึงลองทุบบางส่วนดู เม็ดไหนแตกก็ทิ้งไป เม็ดไหนไม่บุบสลายก็แยกไว้ แต่ไม่ได้ทุบไปเสียทั้งหมด จากนั้นได้นำเพชร พลอย อัญมณีอื่นๆที่แยกออกจากทองแล้วไปฝังดินไว้บางส่วน บางส่วนทยอยขายให้แก่นายสันติ ศรีธนขัณฑ์ เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ซึ่งบางส่วนถูกนำไปขายต่ออีกทอดโดยมี พล.ต.อ.คนหนึ่งซึ่งเป็น อดีต รอง ผบ.ตร.และชอบค้าของเก่าและของมีค่าร่วมมือกับนายสันติขายเพชรซาอุด้วย แต่หลักฐานสาวไปไม่ถึงจึงลอยนวลอยู่จนทุกวันนี้

การให้การของนายเกรียงไกรกรณีเพชรบลูไดมอนด์มีลักษณะไม่ชัดเจน เหมือนว่าขโมยมาแล้วขายให้นายสันติ แต่นายเกรียงไกรก็ไม่เคยยืนยันอย่างหนักแน่นกับพนักงานสอบสวนในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่มีความมั่นใจ เพราะนำเครื่องเพชรออกมาเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ครบถ้วน

พนักงานสอบสวนและราชสำนักซาอุดิอาระเบียประมาณการณ์ว่า เพชรซาอุถูกขายไปประมาณ ๒๐ % ทั้งนายสันติ และภริยา ต่างยืนยันว่า ไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ ความตายของนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนขันฑ์ เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า ผู้รับซื้อเพชรซึ่งมีอยู่รายเดียวจากนายเกรียงไกร ต่างไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ มิฉะนั้นคงรับสารภาพและคืนให้ไปแล้วเมื่อเห็นความตายและความเดือดร้อนของตนเอง ครอบครัว และบุตรอยู่ตรงหน้า

ผลสรุปของการสอบสวนคดีเพชรซาอุ มีข้อยุติว่า ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์อยู่ในเครื่องเพชรที่นายเกรียงไกรขโมยมา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเพชรบลูไดมอนด์ไม่เคยมีอยู่ในประเทศไทย การกล่าวหากล่าวอ้างว่าบุคคลนั้นบุคคลนี้ครอบครองเพชรบลูไดมอนด์ไว้ จึงไม่เป็นความจริง

ประการที่สองเจ้าชายหรือเจ้าหญิงของซาอุดิอาระเบียไม่รู้ว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีชนิดหรือประเภทใดอย่างครบถ้วนเพราะเครื่องเพชรมีเป็นจำนวนมากที่อยู่ในครอบครองและที่ถูกขโมยมา ทั้งยอมรับว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีทั้งของจริงและของปลอมที่ซื้อจากห้าง May Flower ซึ่งทำอัญมณีประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงมาก ทั้งไม่ทราบว่าเครื่องเพชรอันใดเทียมหรือจริง ข้อตำหนิเรื่องส่งคืนเครื่องเพชรปลอมและไม่ครบถ้วนจึงสามารถทำความเข้าใจที่ชัดเจนได้ในเวลาต่อมา

การจับกุมผู้ต้องหา[แก้]

อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบพื้นที่ในเขตภาคเหนือ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย หลังจากนั้นเมื่อนายเกรียงไกร ถูกชุดสืบสวนของ พล.ต.ท.ชลอ จับกุมและนำตัวมาสอบสวนจนยอมรับสารภาพ และให้การถึงบุคคลที่รับซื้อเครื่องเพชรไป เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับส่งไปดำเนินคดีที่ซาอุฯ ซึ่งมีโทษเพียงสถานเดียว คือ "แขวนคอ" ทำให้ศาลพิพากษาตัดสินจำคุกนายเกรียงไกร เตชะโม่งในข้อหาลักทรัพย์ 7 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษเหลือ 3 ปี 6 เดือน

ในช่วงเวลานี้ยังมีนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียคนหนึ่งซึ่งมีความใกล้ชิดกับราชวงศ์ได้เดินทางมายังกรุงเทพมหานครเพื่อสืบสวนหาเครื่องเพชรดังกล่าว แต่บุคคลนั้นถูกลักพาตัวและถูกฆ่า อีกสามเดือนต่อมา เจ้าหน้าที่สามคนจากสถานทูตซาอุดิอาระเบียถูกยิงเสียชีวิต และมือสังหารก็ยังคงลอยนวลมาจนถึงปัจจุบัน[2]

การจับกุมนายเกรียงไกร ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบีย เริ่มดีขึ้น โดย พล.ต.ท.ชลอ ได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ และถูกยกให้เป็น "ชี้ค" อีกด้วย

หลังจากนั้น ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบียอย่างเป็นทางการ แต่กลับถูกทางการซาอุดิอาระเบีย ตอบกลับว่า "คุณเอาเพชรปลอมมาคืน แถมชุดที่เหลือยังหายไปอีกมาก แบบนี้แล้วเราจะสานความสัมพันธ์กันได้อย่างไร" ส่งผลให้ฝ่ายไทยต้องตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา ตามหาเครื่องเพชรอีกครั้ง

การตามหาเครื่องเพชรของจริง[แก้]

การย้อนรอยตามหาเพชรฯ โดยคณะทำงานของ พล.ต.ท.ชลอ เริ่มต้นที่กลุ่มญาติของ พล.ต.อ.แสวง แต่ภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบไม่พบว่ามีมูลความจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ นักการเมือง ตลอดจนคุณหญิง คุณนาย และ "คนมีสี" หลายคนก็ถูกกล่าวหาว่ามีการจัด "ปาร์ตี้เพชรซาอุฯ" ในสโมสรแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้น นายโมฮัมหมัด ซาอิค โคจา อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ได้ว่าจ้าง "ชุดสืบสวนพิเศษ" เพื่อแกะรอยอย่างลับ ๆ ตามหาเครื่องเพชรราชวงศ์แห่งซาอุดิอาระเบีย

สำหรับเครื่องเพชรชุดที่ทางการซาอุดิอาระเบียต้องการมากที่สุด คือ เพชรสีน้ำเงิน หรือ "บลูไดมอนด์" เนื่องจากเป็น "เพชรอาถรรพณ์" แม้กระทั่งช่างที่เจียระไนก็ต้องมีอันเป็นไปสาบสูญไปจากโลก จึงเป็นเพียงเพชรชุดเดียวที่มีอยู่ในโลก และไม่ว่าจะตกไปอยู่ในมือใคร กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียก็จะทรงจำได้เสมอ เพราะมีการทำตำหนิไว้ด้วยแสงอินฟราเรดอยู่ภายในใจกลางของเม็ด แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครหาพบ ซึ่งนายเกรียงไกรสารภาพกับนายโคจาว่า ได้โจรกรรมมาจริง แต่จำไม่ได้แน่ชัดว่าอยู่ในมือใครระหว่างพ่อค้าเพชรกับชุดจับกุม

กรณีตระกูลศรีธนะขัณฑ์[แก้]

พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ กลับมาทำคดีนี้อีกครั้งหนึ่ง โดยใช้ได้ทุกวิถีทางในการนำเพชรที่เหลือกลับคืนมาให้ได้ จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ เสี่ยเจ้าของร้านเพชร ซึ่งภายหลังถูกตำรวจในทีม พล.ต.ท.ชลอ ข่มขู่คุกคาม แต่นายสันติก็ไม่ยอมคืนเพชรให้

ในที่สุด พล.ต.ท.ชลอ ก็ตัดสินใจให้คณะทำงานตั้งด่านตรวจ หน้าซอยบ้านนายสันติ ระหว่างที่ภรรยาของนายสันติคือ นางดาราวดี กำลังจะไปส่งลูกชาย ด.ช.เสรี ศรีธนะขัณฑ์ ที่โรงเรียน ทีมของพล.ต.ท.ชลอ ก็ได้จับทั้งคู่ไปกักขัง เพื่อบังคับให้นายสันตินำเพชรส่วนที่เหลือมาคืน ซึ่งนายสันติก็ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าลูกและเมียถูกอุ้ม แต่ขังไว้นานเป็นเดือน ย้ายที่กบดานไปหลายแห่งก็ยังไม่ได้เพชรคืน ซ้ำตำรวจคนหนึ่งยังได้ข่มขืนภรรยาของนายสันติ ทีมตำรวจชุดนี้จึงฆ่าปิดปากสองแม่ลูก แล้วอำพรางคดีให้เป็นเหมือนกับเกิดอุบัติเหตุรถชน

ต่อมา ทีมสอบสวนชุดใหม่กลับสืบพบว่าเป็นการอุ้มฆ่า จึงได้ทำการจับกุมตัว พล.ต.ท.ชลอ และลูกน้องทั้ง 9 คน มาดำเนินการทางกฎหมาย พล.ต.ท. ชลอถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานออกคำสั่งฆ่าสองแม่ลูกในปี พ.ศ. 2538[3] และในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาให้ประหารชีวิต พล.ต.ท.ชลอ และศาลฎีกาก็ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิต ทำให้คดีขโมยเครื่องเพชรราชวงศ์ไฟซาลแห่งซาอุดิอาระเบียถูกปิดลงอย่างเด็ดขาดในทางกฎหมาย[4] และสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศเรื่อง มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดอดีตข้าราชการตำรวจออกเสียจากยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งบุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทาน เนื่องจากต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษประหารชีวิต จำนวน 1 ราย คือ พลตำรวจโทชลอ เกิดเทศ[5]

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ[แก้]

ซาอุดิอาระเบียยกเลิกการทำวีซ่าทำงานให้กับคนไทย และประกาศเตือนคนในประเทศไม่ให้เดินทางมายังกรุงเทพมหานคร ทำให้จำนวนคนงานไทยในซาอุดิอาระเบียลดลงจาก 150,000 คน ในปี พ.ศ. 2532 เหลือเพียง 10,000 คน ในปี พ.ศ. 2549  

 

http://th.wikipedia....ะเบีย_พ.ศ._2532

ทีหน้าทีหลังจะเขียนอะไร กรุณาศึกษาให้ดีเสียก่อน 

อย่าประจานความโง่ของตัวเองแบบนี้ ปี 32 ใครเป็นรัฐบาล

อย่าให้เห็นอีกนะครับ  มันไม่ดี