Jump to content


kairyuramon

Member Since 11 December 13
Offline Last Active 25 August 21 22:09
*****

#1170259 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 18 May 2014 - 13:18

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

 

17 พฤษภาคม 2557 ช่วงค่ำ เวทีแจ้งวัฒนะ

หลวงปู่พุทธะอิสระ
(ช่วงก่อนปฏิบัติธรรม)

มีแต่คนมีบุญอยู่นะในนี้ กลางวันก็ทำบุญครึ่งวัน ตกเย็นก็มานั่งปฏิบัติธรรม เจริญธรรม สุโขสโมสรจริงๆ น่าอยู่จนแก่ (ฮา)
หลวงปู่ไม่ได้ภาคภูมิใจเลยกับการที่ลูกหลานมาอยู่บนถนนนานๆ มีความภาคภูมิใจที่เราได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำทางจิตวัญญาณอย่างสำเร็จงดงาม ได้ผลว่าสำเร็จหรือไม่ดูจากพฤติกรรมของลูกหลาน มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีสติปัญญา
ความสำเร็จของผู้นำทางโลก คือเป็นผู้นำในการต่อสู้ ในการรบกับระบอบทักษิณ เราก็ไม่เคยผิดพลาดเสียหายชนิดที่ทุกคนผิดหวังในพฤติกรรมการนำแต่ละครั้ง เหล่านี้เป็นประวัติ เอาไปเขียนให้คนชั้นหลังๆ ให้คนได้อ่านเป็นประวัติของประเทศว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเราได้มาสัมผัสกับนักบวชที่เป็นผู้นำ อย่างชนิดที่โลกไม่ให้ช้ำธรรมไม่ให้ขุ่น

วันนี้มีนักข่าวต่างประเทศเขามาถ่ายหลวงปู่สอนปฏิบัติธรรม แล้วพรุ่งนี้จะไปถ่ายโรงสี และพรุ่งนี้จะเป็นอโรคยาคลินิก สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในการต่อสู้ ในโลกนี้ ไม่มี มีอยู่เวทีเดียวที่เวทีแจ้งวัฒนะแห่ง นี้ จริงๆ ลูก เห็นแก่ๆ อย่างนี้ฤทธิ์เยอะนะ ไม่รู้จักมะพร้าวห้าวเสียแล้ว แก่มะพร้าวนี้ยิ่งแก่ยิ่งมัน แต่อย่าแก่นานเกินไปเดี๋ยวมันงอกไม่ได้ไปไหนเลย

เอ้า..วางให้หมด พอเราเลิกวางเราก็ต้องหยิบมาใช้ เหมือนท่ีหลวงปู่เขียนโศลกว่า "ลูกรักคนฉลาดใช้กิเลส คนโง่โดนกิเลสใช้"

เพราะทุกสิ่งมันเป็นกิเลสทั้งหมด แต่มันเป็นกุศล เป็นกิเลสที่สัมปยุตด้วยกุศล เพราะไม่ได้ต้องการเอา ต้องการให้แบ่งปัน อีกพวกหน่ึงที่แสวงหาแย่งชิง และจ้องที่จะทำร้ายทำลาย สนใจแค่กูดี กูได้ นั่นก็เป็นกิเลส แต่สัมปยุตด้วยอกุศล เราเป็นคนฉลาด เรามีสติปัญญามากพอที่จะใช้ เหมือนสตังค์ในกระเป๋าใช้ถูกก็เป็นประโยชน์ใช้ผิดก็เป็นโทษ เหมือนงู มันทำให้เรามัวเมา เอาชีวิตแลกมาเสียอวัยวะเพื่อมัน ทำลายชีวิตคนอื่นเพื่อมัน แต่ถ้าเราใช้มันเป็นก็ใช้มันรักษาชีวิตเรา รักษาชีวิตคนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อม อย่างนี้เรียกว่าผู้ฉลาดใช้กิเลส

ตอนนี้เราจะวางให้หมด วางมัน แต่อย่าไปทิ้งไกล เดี๋ยวเราต้องหยิบฉวยมันมาใช้ เอาเป็นว่าเราอยากว่างเพื่อให้เรามีกำลังมาขึ้น เพื่อให้ตัวเราไม่มีพันธนาการในสิ่งใด เพื่อเราจะได้เบาสบายมากขึ้น เพื่อให้กำลังวังชาเราคืนกลับมาและมีอิสรภาพเหนือสิ่งต่างๆ และเมื่อเป้าประสงค์เราเป็นอย่างนี้ก็เริ่ม โดยรวมกายและใจมา ปล่อยให้มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย จนเหลือแต่ความว่างอย่างเดียว
เริ่ม :

ที่วางยังไม่ได้น่ะ มันเหลือกี่เรื่อง บางคนในหนึ่งอึดใจคิดร้อยเรื่องพันเรื่อง แต่เราเหลือแค่เรื่องสองเรื่อง นั่นถือว่าเราวางได้ในระดับหนี่งแล้ว แม้ยังไม่ได้เข้าถึงความว่างก็ยังดีกว่ายังวางไม่ได้ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปลูก อย่างที่บอกว่าเราใช้เวลาเป็นอสงขัย เป็นเดือนเป็นปีในการผูก ยึด สั่งสม ผูกพัน การมาวางมันไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องที่วางได้ง่ายก็วางเสียก่อน เรื่องที่วางได้ยากก็ค่อยสั่งสมอินทรีย์ อินทรีย์ 5 คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา มีศรัทธาตั้งมั่น มีความเพียรต่อเนื่อง ใช้สติพิจารณา สมาธิเป็นเครื่อง
สนับสนุน ค่อยๆ วางมันทีละเรื่องสองเรื่อง วันนี้วางได้หนึ่งเรื่องครึ่งเรื่อง ฝึกวางไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็วางได้หมดเอง ถ้าหลวงปู่เป็นคนวางไม่ได้ ป่านน้ีหัวระเบิดตาย มีทั้งเรื่องยินดี ไม่ควรยินดี เรื่องสุขไม่ค่อยมี มีแต่เรื่องทุกข์ ถ้าเราไม่รู้จักวาง จะเอาสติกำลังปัญญา ยุทธวิธีมาจากไหน สุดท้ายเราจะโดนขยะถมจนตาย ตัวเราแท้ๆ ไม่รู้อยู่ตรงไหน เราต้องค่อยๆ ลอยตัวขึ้นมาเหนือขยะให้ได้ แล้วค่อยๆ กำจัดขยะออกไป
หลวงปู่เขียนบทโศลกไว้ว่า "ลูกรัก กิจในพระศาสนานี้ กำจัดขยะเก่า ไม่เพิ่มขยะใหม่ ทำสิ่งที่ดีให้ผ่องใส" เราต้องไม่ระคนปนเปื้อนอยู่ในกองขยะ สุดท้ายแยกไม่ได้ว่าอะไรคือขยะ สุดท้ายตัวกูเป็นขยะเสียเอง การค้นหาตัวตนคือการค้นหาเพชรในกอง ขยะที่สูงเท่าภูเขาเลากา ขอเพียงค่อยๆ กำจัดขยะไปทีละนิดๆ บางคนขยะมีน้อย พอบอกให้วางก็โยนทิ้งได้เลย บางคนเขาบอกให้วาง ไม่รู้วางอะไรก่อนดี ไอ้โน่นก็ของกู ไอ้นี่ก็ของกู สุดท้ายขยะมากขึ้น เรื่องของเรื่องที่จะวางได้คือ "ไม่ใช่ของกู" ไม่ใช่ของกูก็คือไม่ต้องยึดถือแล้ว จะเข้าใจอย่างนี้ได้..ไม่ง่าย ต้องเป็นคนสั่งสมเรียนรู้ ละเอียดอ่อน ชัดเจน ทีละนิดทีละหน่อย ไม่เป็นไรวางไปเรื่องๆ เพราะขยะมันเป็นกองๆ วันนี้ได้นิด พรุ่งนี้อีกหน่อย เรายังอยูกันอีกนานไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวตอนท้ายให้คนที่ไปประชุมกับลุงกำนันมาเล่าให้ฟัง

________
(ช่วงสนทนาประจำวัน)

ทุกคนสบายดีไหมลูก ดูยังระริกระรี้หน้าระรื่นอยู่นะ เห็นลูกหลานมีความสุขก็ดีแล้ว ไม่งั้นจะกังวลเล็กๆ ว่าเมื่อไหร่จะจบ เมื่อไหร่ก็เมื่อน้ันแหละ พวกเรามีขันติไหม มีขันติความอดทน เราไม่ใช่จัดตั้ง เรามาด้วยแรง ด้วยจิตใจ ด้วยความเสียสละต่างจากม็อบจัดตั้งที่มาด้วยตังค์ ฝั่งตรงข้ามเขาใช้ตังค์ตลอดเวลา เรามีทุนในหัวใจก็มาได้ตลอดเวลา ของเขาจ่ายตังค์ก็มาไม่จ่ายตังค์ก็ ไม่มา ดีไม่ดี มาแล้วไม่จ่ายตังค์ อ่านหนังสือพิมพ์ มีรถตู้มาจากปราจีน ทีแรกว่าให้พันห้า สุดท้ายต้องไปขอเส้นหมี่วัดกิน ค่ารถตู้ก็ไม่จ่าย นักสู้อย่างเรามีต้นทุนคือต้นทุนหัวใจ แต่นักสู้อย่างเขามีต้นทุนคือการจ้าง วันนี้มีพี่น้องจากสระบุรีมาไหม มา..ข้ึนเวทีมาเลย เขาเอาอาหารมาเลี้ยงด้วย แล้วมันเอามาตอนเย็นๆ หลวงปู่จะได้ฉันมั่ง ชอบเอามาตอนเย็น (ฮา) เอ้ามาจากพุทธบาท แกนนำมา

จะได้กลับไม่มืดเกินไป เห็นว่ามาตั้งแต่บ่าย ขึ้นมาแสดงตัวว่า กูยังมีชีวิตอยู่
นี่รวมๆ กันแล้วได้เป็นพันนะเนี่ย ไม่ใช่จำนวนคนนะ อายุ (ฮา)

________
ผู้แทนพันธมิตรพุทธบาท สระบุรีพูด :
________

หลวงปู่ : ส่งสัญญาณไปยังพี่น้องพันธมิตรเก่าในพื้นที่ว่าเตรียมพร้อม พุทธะอิสระเป่านกหวีดเมื่อไหร่มาพร้อมกันทันที คราวที่แล้วให้ลูกศิษยฺนำ คราวนี้อาจารย์นำเอง (เฮ)
ตอนนี้ กปปส เราไม่ใช่ 7+2 แล้ว แต่+ 3 4 5 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขอบคุณมากๆ ลูก คอยฟังเสียงนะหลวงปู่ส่งสัญญาณ ไม่หลายวันลูก มาเข้าค้างคืนหนึ่งแล้วก็กลับ ไม่หลายวันลูก เปลืองข้าว(หัวเราะ)

วันนี้ คงจะเข้าบรรยากาศพอดี หลวงปู่เขียนบทความช่วงเช้า
มันมีเรื่งการ์ด ที่ข่าวว่าไปทำร้ายคน คนไม่รู้เรื่องก็ว่าการ์ด กปปส ดุโหด ถ้ามันมาดีๆ ไม่ขับเข้ามา พยานเขาก็ยืนยันว่ามันขับมาด่าหลวงปู่ ยกนิ้วให้ของลับ การ์ดมันทนไมได้ก็ตามไปเฉ่งให้

เสือกมายกกรวย ก็เลยต้องซวยอย่างที่เห็น

... หรือที่หน้า ศอรส ทีมีการฉีดแกสน้ำตาใส่ฉัน และต่อมาก็ยิงแกสน้ำตา ทั้งๆ ที่เขาต้องการไปแจ้งความคดีชาวนา และการยิงเอ็ม 79 ใส่เวทีแจ้ง ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดอยู่ ก็มีรถฝ่าด่านเข้ามาทั้งๆ ที่มีรถคันอื่นจอดรออยู่ แต่ก็มีรถฝ่ามาคันเดียว หากคุณเป็นคนดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เช้า อดข้าวอดน้ำ แต่โดนถ่วงเวลาให้ชาวนาและประชาชนต้องยืนตากแดดนานห้าชั่วโมงกว่าๆ ถ้าเป็นพวกคุณจะทำอย่างไร การที่เราไป ศอ.รส. เพราะเราเชื่อในสิทธิตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 40 ที่ว่าด้วยประชาชนมีสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ฯลฯ ด้วยความเชื่อดังกล่าวเราจึงไปหา ศอ.รส. และนายธาริต
พอ ปปช. ชี้มูลว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีความผิดจริง เราก็เดินทางไปขอให้ธาริตรับคดีจำนำข้าวเป็นคดีพิเศษ คงเป็นเพราะเราไม่มีเอกสิทธิ์พิเศษ แบบนายชูวิทยย์ กมลวิศิษฐ์ ที่ยิ่งใหญ่รำ่รวยจากการค้ากามและอาศัยชายกระโปรงผู้หญิง คุณชูวิทย์คงไม่เข้าใจ เพราะหากินบนเรืองร่างมนุษย์ตลอดเวลา กระทำตัวเยี่ยงแมงดาตลอดเวลา (เฮ)

ส่วนนายณัฐวุฒิ วันๆ ไม่ต้องทำห่าอะไรจ้องจะขึ้นเวที นปช อย่างเดียว ไม่มีสติปัญญาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เลย แม้เรื่องราคายางที่เคยรับปากตอนรับตำแหน่ง ตอนนี้เหลือราคาโลละ 5 บาท และเอาเงินภาษีของเราไปอุดหนุนราคายางหลายพันล้านบาท แต่ยังช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าเงินไปไหน ซ้ำยังโกหก ไปขโมยลิขสิทธิ์เพลงเขามาขายโชว์ห่วย จนต้องเลิกใช้เพราะกลัวเขาฟ้อง จนโกหกเป็นสันดาน คนอย่างพวกคุณไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ฉัน พวกคุณต้องรู้ว่าชั่วชีวิตฉันไม่เคยหากินบนหลังคน ไม่เคยทุจริตหลอกลวง ประจบประแจงเลียแข้งเลียขานายใหญ่ที่ไหน ไม่เคยสั่งให้ใครไปเผาบ้านเผาเมือง สั่งไพร่พลไปปิดล้อมโรงแรมที่มีผู้ นำต่างประเทศ มาประชุมในประเทศไทย ไม่เคยทรยศต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่มีสำนึกต่อประเทศไทย คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า ฉะนั้นพวกคุณไม่มีสิทธิ์เอามาตรฐานของคุณมาวิจารณ์ฉัน พวกคุณไม่มีค่าพอจะวิจารณ์เราหรอก

ระวังจะตกนรกนะคุณชูวิทย์ ที่แน่ๆ ค้ากามมันตกนรกแน่ๆ ไอ้เงินค้ากามที่ได้จากผู้หญิงจนๆ แล้วคุณมีหน้าอะไรมาวิจารณ์ผู้คนที่เสียสละให้แผ่นดิน ถามจริงๆ ว่าคุณเสียเสียสละอะไรให้แผ่นดินบ้าง พวกแกนนำ นปช. บ้านเที่เคยซอมซ่อเป็นรังหนู วันนี้เป็นคฤหาสน์ สำหรับฉันถ้า ศอ.รส. จะมายึดทรัพย์ฉัน ไม่มีอะไร มีแต่สากกะเบือ และจีวรเก่าๆ

ขออภัยไม่ได้เขียนนาน ระบายหนักไปหน่อย (เฮ)

วันนี้มีนักข่าว ตปท. มาสัมภาษณ์ เขาสงสัยมาถาม พี่น้องมุสลิมเขาเห็นหลวงปู่ แล้วเขายังน้ำตาไหล แต่ไอ้****** ศอ.รส. มันเป็นพุทธยังไม่รู้สึกอะไรเลย ฉะนั้นนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องเอาคืน แต่อย่างไรติดตามตอนต่อไป เราจะไม่เอาคืนตำรวจที่มาขอขมา เพราะเรารักษาสัจจะไม่คืนคำ แต่เราจะเอาคืนนายธาริต และศอ.รส. (เฮ)
_________

คุณอรรถพล กปปส ปทุมธานี :
ครับ วันนี้เป็นอีกวันที่หลวงปู่ส่งตัวแทน กปปส แจ้งวัฒนะร่วมประชุมกับเวทีใหญ่ ที่ทำเนียบรัฐบาล เดี่ยวน้ีเขาไม่เรียกว่าทำเนียบรัฐบาลแล้วนะเรียกว่าทำเนียบประชาชน
เมื่อถึงวันสำคัญ วันที่ต้องระดมมวลชน เข้าไปร่วมระดมพลัง กำหนดจุดสุดท้าย ช่วงสุดท้ายมามากแล้ว ทางกำนันได้ประกาศมาอย่างแน่ชัดว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป วันที่ 18 แกนนำ กปปสใหญ่ จะเชิญสหภาพรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ประชุมหารือกันเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป
และจะเชิญอดีตข้าราชการที่เกษียณแล้ว ที่ซื่อสัตย์ และรักบ้านเมืองให้ออกมาประชุมร่วมกันทุกกรมกอง ท่านเหล่านี้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ท่านเหล่านี้จะมาช่วยกัน
วันจันทร์ขอให้พี่น้อง กปปส.ทั่วประเทศออกมาแสดงตัวตนช่วยกันที่ราชดำเนิน ตั้งแต่จันทร์ที่ 19 - ศุกร์ที่ 23 จะเป็นการเชิญชวนหัวหน้าหน่วยราชการให้มาแสดงตัวตนช่วยกันทั่วประเทศ

ภารกิจของเราคือ การติดตามหา 24 รมต ที่เหลือ เราจะบอกเขาว่าท่านหัวไม่มีแล้วหางต้องออกไป
วันที่ 24- 25 จะมีการกำหนดรายละเอียดที่กำนันจะพูดต่อไป
จันทร์ที่ 26 ประกาศชัยชนะพี่น้องครับ
ถ้าเที่ยวนี้ไม่สำเร็จ กำนันจะมอบตัวในวันอังคารที่ 27 ครับ เราต้องออมาช่วยกันเยอะ ๆๆ

ส่วนเวทีเราตั้งแต่วันจันทร์เราจะทำงานช่วยเวทีใหญ่ เดี๋ยวหลวงปู่จะอธิบายภารกิจ ขอให้พี่น้องที่ออกมาช่วยเวทีแจ้ง ออกมาให้หมดครับ รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องชาวนาต้องออกมาทั้งประเทศ เวทีนี้เราเคยช่วยเหลือชาวนาร่วมมือกันมา ครั้งนี้หลวงปู่คงต้อขอความรวมมือให้เอารถอีแต็กอีแต๋น เข้ากรุงเทพอีกครั้งครับ
วันนี้กำนันได้ถามในที่ประชุมว่า วันนี้ถึง 26 มันนานไปไหม ก็มีการแลกเปลี่ยนกันว่าทำไมต้องกำหนด 26 บางคนก็บอกว่าเหมาะสม บางคนก็บอกว่ามันนานเกินไปแล้ว
ผมก็เสนอโจทย์ไปว่า ให้จบในวันศุกร์ที่ 23 ได้ไหม เพื่อองค์หลวงปู่จะนำไปเจริญมนต์ ถวายในหลวงฉลองชัยชนะในวันที่ 25 อันนี้เราขอฝากไว้ที่เวทีใหญ่ แต่ลุงกำนันของร้องว่าให้เขาทำงานถึงวันที่ 26 เถอะ แล้วที่เหลือก็เป็นหน้าท่ีของหลวงปู่

________

คณ กปปส นนทบุรี
...ในการปฏิบัตการครั้งนี้จะมีการไปบอก รมต 24 คน คือทวงคืนอำนาจคืน และไปบอกข้าราชการให้ปฏิเสธการทำงานของรัฐบาลชุดนี้
วันที่ 22 เป็นการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดีทุกทบวงกรม ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางของกปปส ถ้ามาไม่ได้ต้องส่งผู้แทนมา
วันที่ 23-25 เป็นวันที่ต้องนัดหมายมวลมหาประชาชนออกมามากๆ
ลุงกำนันบอกว่า การดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 เป็นความสำคัญเพื่อให้ส่วนใหนที่เห็นด้วยกับ กปปส
วันที่ 26 เป็นวันประกาศชัยชนะ สิ้นสุด
ถ้า 26 สรุปไม่ได้ ไม่เป็นไปดั่งหวัง ลุงกำนันบอกว่าจะมอบตัว
เราต้องไม่ไปบีบรัดคณะทำงานต่างๆ ที่กำลังไปดำเนินการ และชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่การชนะแบบเป็นโจร การต่อสู้ครังนี้เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เราสู้อย่างสันติ อหิงสา จึงต้องอาศัยประชาชนจำนวนมาก เราไม่มีนโยบายให้มวลชนประทะกัน ฉะนั้นถ้า นปช. ข้ามแม่น้ำมาก็เป็นหน้าที่ของทหาร
ขอให้พวกเราออกมากัน เป็นครังสุดท้าย ไม่เหลือบ่ากว่าแรง

________

คุณภาคภูมิ :
(เป็นทัศนวิจารณ์)

________
หลวงปู่: ทำไมคนเราไม่ยืนอยู่บนโลกแห่งความจริง หรือความจริงมันเป็นเรื่องเสียดแทง ความจริงที่ว่าคือ สว.ถ้าหานายกมาได้มีอย่างเดียวเท่า นั้นคืองดใช้ รัฐธรรมนูญบางมาตรา และใช้บางมาตรา ถามว่า สว. มีอำนาจไหม ไม่มีอำนาจ ถามว่าถ้าวันนี้ สว.พยายามผลักดันรัฐบาลใหม่มาจะอยู่ตรงไหน และความจริงของสว.ก็คือคุ้มหรือไม่คุ้ม และจะติดคุกหรือเปล่า เพราะมีกฎหมายรองรับน้อยมาก สมมติว่าสว.พยายามผลัดกัน รัฐบาลใหม่ขึ้นมา ถามว่าพระเจ้าอยู่หัวจะทรงลำบากพระทัยไหม ก็รัฐบาลเก่ามันยังไม่ยอมลาออก อย่างนี้เรียกว่าไปบีบพระเจ้าอยู่หัว ...โลกแห่งความเป็นจริงเป็นอย่างนี้ อย่ายืนอยู่บนโลกแห่งความฝัน
ถามว่าทำไม ข้าราชการไม่ออกมา เพราะข้าราชการ ไม่ได้รับความเดือดร้อน ได้รับผลกระทบจากนักการเมืองโดยตรง เพราะข้าราชการ มีเงินเดือน มีเบี้ยเลี้ยง บำนาญ แล้วข้าราชการจะเดือดร้อนอะไรกับความทุกข์ที่นักการเมืองมันทำกับชาวบ้าน นักการเมืองมันก็เลี่ยงที่จะไปแตะข้าราชการ แต่พวกเราชาวบ้าน ตาสี ตาสา ไม่มีสวัสดิการใดๆ เลี้ยงดู ก็ต้องแสดงตัวออกมาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แล้วข้าราชการมันจะออกมาทำไม นี้คือความเป็นจริง โลกแห่งความเป็นจริง ข้าราชการที่ออกมาคือผู้ที่มีสำนึกว่าเป็นข้าราชการของในหลวง ทำงานเพื่อประเทศ แต่ข้าราชการส่วนใหญ่รับจ้าง นี้คือโลกแห่งความเป็นจริง แล้วยังไงต่อ

ที่พูดนี้ไม่ได้ขัดลุงกำนัน แต่หลวงปู่กำลังพูดถึงความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น พระพุทธเจ้าสอนหลวงปู่ว่าต้องเข้าใจ ความเป็นจริง ไม่ใช่ชนะไปวันๆ แล้วสุดท้ายเหลือกูคนเดียว ที่เหลือไปไหนหว่า.. เราทิ้งโอกาสงามๆ ไปหลายครั้งมาก เราหวังว่าความจริงที่ไม่ใช่เรื่องจริง เราหวังว่าโอกาสเหล่านั้นจะหมุนกลับมาอีก เพราะโลกมันกลมน่ะ
เราหวัง เราฝัน เราภาวนา เรากวักมือ เราตะโกนนี้ คือโลกแห่งความเป็นจริง ส่วนจะมาหรือไม่มาขึ้นกับ พี่น้องประชาชนตัดสินใจ ถ้าเที่ยวนี้เราแพ้ ก็ตกเป็นทาสมันชั่วชีวิต แต่ถ้าเราชนะ เราจะชนะมันทั้งโคตรเหง้าทั้งตระกูล เราต้องพูดเรื่องจริง หลวงปู่เป็นคนพูดเรื่องจริง การให้ข้าราชการแก่ๆ ออกมาแล้วยังไงต่อ เพราะทุกวันนี้ก็ออกมากันอยู่ แต่ทุกวันนี้เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเราขอความกรุณา เราไม่มีเครื่องมือ เราหมดเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์ ไพร่พล เราหมดไปหลายแล้ว มีคนหนึ่งบอกว่าดิฉันมาสู้จนเดินขาลากแล้วค่ะ นี้คือความเป็นจริงแล้วจะยังไง
เที่ยวนี้ เอาเป็นว่าเวทีแจ้งวัฒนะ ถ้าพรุ่งนี้จะชนะค่อยเรียก แต่จะไม่เรียกวันที่ 24 , 25 เอามานั่งให้เปลืองข้าว สองกังวลว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เอาเขามาทำอะไร เขามีลูกผัว มีอาชีพ นี้คือความเป็นจริง ที่เราต้องเข้าใจ ถ้าเป็นหลวงปู่ถ้าหลวงปู่เป็นกำนัน..ขอวันเดียวให้ได้ไหม วันเดียวที่มานอนค้างสักคืน แล้วพรุ่งนี้เต็มวันเลย แพ้ชนะให้มันรู้ไปเลย ไม่ต้องมานั่งตากแดดหาผัวไม่ได้อีก (ฮา) เผื่อจะมีเซมามั่ง (ฮา) หลวงปู่เรียกนักข่าวคนหนึ่งว่า อีแก่เอ๋ย....ก็เพราะสงสารมัน มันบอกว่าหลวงปู่มาเรียกหนูยังงี้ได้ ไง ยังไม่มีผัวนะ ....มึงไม่มีผัวน่ะสิ จึงเรียกว่าอีแก่ (ฮา) อยู่กันจนคุ้นเคยกัน สงสารมันตะลอนๆ ไป ถ้าไม่ได้ข่าวไม่ได้เงิน บางทีเรามาคุยเพราะสงสารมัน มาให้มันหน่อย ฉะนั้นลูกหลานเวทีนี้ต้องชัดเจน เราจะไปหลอกตัวเองเพื่อต้องการกำลังใจจนสิ้นกำลังกาย แต่เราต้องการทั้งกำลังใจกำลังกาย และต้องทำให้เสร็จใน 24 ชม. ขอ 24 ชม. และต้องมากกว่านี้เป็ฯ 10 เท่า

เขาขอตั้งแต่ 19 ถึง 26 ...อู้หู 9 วันเปลืองตายห่า กลับบ้านไปผัวมีเมียน้อยแล้ว เวทีนี้ไม่เอา สมมติว่าพรุ่งนี้ผเด็จศึก วันนี้เย็นๆ หอบลูกหลาน หอบมิตรศัตรูมากันที่นี่ มาให้มันเต็มพื้นที่ไปจนหน้า TOT มันจะได้จบ ความฝันของกำนันมันจะถึงอวสานได้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้จักความจริงหรือยัง เห็นเขาประกาศว่าวันที่เท่านั้น ๆ จะเรียกให้ผู้ว่า อธิบดีมารายงานตัว (ฮะ ๆๆๆๆๆ หลวงปู่ทำท่าหัวเราะ)
เอ้านี้มันเรื่องจริง เขาเดือดร้อนเรื่องอะไร มีตังค์ใช้ ลูกก็มีเงินส่งเรียน แล้วเรียกให้เขามา เขาจะมาหรือ (ฮะ ๆๆๆๆ หลวงปู่ทำท่าหัวเราะ ) ดูกำนันดีกว่า...

เปิดถ่ายทอดลุงกำนัน

cr: @Tracypooh Pla

 

https://www.facebook...152393370803446




#1169865 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 17 May 2014 - 21:50

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

 

“เสือกมายกกรวย ก็ต้องซวยอย่างที่เห็น”

 

10314006_10152392961413446_4896081288165

ข้อความนี้ ระยะหลังได้ยินบ่อยมาก ฉันก็ไม่เข้าใจว่า พวกที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เขา ได้รับผลกระทบอะไรบ้าง หากพวกที่ชอบพูด มาอยู่ใน สถานการณ์ที่มวลชนเผชิญ โดนเอ็ม79 ยิงถล่มด้านหน้าตอน 4 ทุ่มเศษๆ แล้ว 5 นาทีต่อมา มีชายนิรนามขับรถเข้ามาด้านหลัง แล้วแสดงกิริยาไม่พอใจโวยวาย รื้อเครื่องกีดขวางแนวกั้นปลอดภัย หรือในขณะที่ภาคพื้นด้านล่างหน้า ศอ.รส. มีการฉีดน้ำสารเคมีเข้าใส่ผู้ชุมนุม และเวลาต่อมาก็ยิงแก๊สน้ำตาถล่มใส่พระและผู้ชุมนุม ทั้งที่เขาต้องการจะเข้าไปเจรจา เพื่อขอแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีโกงเงินจำนำข้าว และคดียิง ถล่มเวทีแจ้งวัฒนะด้วยเอ็ม79 จำนวน 7 ครั้ง 12 ลูก แก่ ศอ.รส. โดย นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขา ศอ.รส. ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดอยู่ด้านล่าง ด้านบนสะพานทางด่วนก็มีการขับรถฝ่าด่านกันความปลอดภัย ทั้งที่มีรถจำนวนมากต่างก็จอดรอเพื่อให้สถานการณ์ผ่อนคลาย แต่ก็มีรถของผู้ถูกทำร้ายฝ่าเข้ามา

หากพวกคุณเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ชุมนุม ที่ต้องยืนทนตากแดดอยู่บนสะพานทางด่วน ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายโมงกว่า อดข้าวอดน้ำ เหตุเพราะเราไม่คิดว่า การเข้าไปหาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เพื่อขอแจ้งความร้องทุกข์ ขอพึ่งเจ้าหน้าที่ในเรื่องความยุติธรรม แต่ก็โดนถ่วงเวลา ปฏิเสธ ทำให้ชาวนาและประชาชนต้องยืนตากแดดรออยู่ถึง 5 ชั่วโมงกว่าๆ ฉันอยากถามว่า หากเป็นพวกคุณ คุณจะทำเช่นไร?

การที่พวกเราไป ศอ.รส. เพราะเราเชื่อในรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย ส่วนที่ ๔ เรื่อง สิทธิในกระบวนการยุติธรรม มาตรา ๔๐ บุคคลย่อมมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรม ดังต่อไปนี้
(๑) สิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง
(๓) บุคคลย่อมมีสิทธิที่จะให้คดีของตนได้รับการพิจารณาอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม

ด้วยความเชื่อข้อความตามรัฐธรรมนูญว่าสามารถบังคับใช้ได้ พวกเราจึง พากันไปพึ่ง ศอ.รส. และอธิบดีดีเอสไอ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ แต่สิ่งที่พวกเขา กระทำต่อพวกเราประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก เดือดร้อน โดนอำนาจรัฐกระทำ จนต้องบาดเจ็บ ฆ่าตัวตาย ป่วยไข้ทุกข์ทรมานมาอย่างยาวนาน พอ ป.ป.ช. ชี้ว่า รัฐบาล โดยนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกมีความผิดจริง พวกเราประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจึงเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และเลขา ศอ.รส. รับคดีชาวนาให้เป็นคดีพิเศษ แต่กลับหลอกให้เรารอถึง 5 ชั่วโมงกว่า คงเป็นเพราะประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเรา ไม่มีเอกสิทธิพิเศษอย่างคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ที่ยิ่งใหญ่ ได้อานิสงส์จากการค้ากาม สร้างความร่ำรวยมาจากชายกระโปรงผู้หญิงขายตัว คุณชูวิทย์ คงจะไม่รู้ถึงความรู้สึกเดือดร้อนทุกข์ยากของชาวบ้านชาวนาที่พวกเราไม่มีจะกิน เพราะคุณชูวิทย์หากินบนเรือนร่างของเพื่อนมนุษย์มาตลอดชีวิต

ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยิ่งไม่รู้ร้อนรู้หนาวใหญ่ ขนาดเป็นรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังไม่มีสติปัญญาช่วยเหลือพี่น้องชาวนา และเกษตรกร ที่ราคาพืชผลตกต่ำได้เลย แม้ราคายางที่ตนเคยรับผิดชอบโดยตรง นำเงินภาษีของพวกเราไปใช้อุดหนุนราคายางเป็นหลายพันล้านบาท ก็ยังช่วยไม่ได้ ซ้ำยังมาโกหก เอาตัวรอดไปวันๆ ขยันโกหกตลอดเวลา เรียกว่า โกหกจนคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องจริง

คนอย่างพวกคุณ ไม่มีค่าพอที่จะมาวิจารณ์ ฉันอาจจะชั่วช้าเลวทราม ในสายตาพวกคุณ แต่พวกคุณก็ต้องรู้นะว่าชั่วชีวิตฉัน ไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่เคยหากินบนหลังคน ไม่เคยทุจริตคดโกง ปลิ้นปล้อนกะล่อนหลอกลวง เอาเปรียบใคร ไม่เคยประจบประแจงเลียแข้งเลียขานายใหญ่ที่ไหน ไม่เคยสั่ง ให้ใครทำร้าย ทำลาย เผาบ้านเผาเมือง ไม่เคยทรยศอกตัญญูต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อประโยชน์ของตนเอง

เพราะฉะนั้น พวกคุณไม่มีสิทธิจะเอามาตรฐานของพวกคุณมาเทียบกับฉัน หรือกับมวลมหาประชาชนผู้เสียสละ พวกคุณไม่มีค่าพอหรอก ระวังจะตกนรก หมกไหม้ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

พุทธะอิสระ
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗

 

https://www.facebook...&type=1

 

 

-------------------------------------------------

 

ช่วงนี้ผมไม่ได้หายไปไหนนะครับ ตามในบอร์ดอยู่เรื่อย ๆ แต่ว่าไม่ค่อยสะดวกมาโพสต์เท่าไหร่

 

สารภาพว่าตั้งแต่เวทีแจ้งวัฒนะถ่ายทอดสดผ่านทางเน็ตแล้วผมไม่ค่อยกระตือรือร้นในการหาข่าวสารเลยแฮะ ดูสดเอาตลอด




#1156261 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 8 May 2014 - 12:20

Tongzaa SamyanBoy TongZaa
เกาะติด เวทีแจ้งวัฒนะ..........
http://www.issaradham.com/

slide3.jpg
อิสระธรรม




ผู้ใหญ่สาธิต มาตอนไหน?

 

ตอนนี้ถ่ายทอดสดที่เวทีแล้วครับ กำลังเตรียมรับมือกับกลุ่มกวป.อยู่ครับ

 

(เอ๊ะ หรือว่าบันทึกเทปหว่า)




#1155260 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 7 May 2014 - 17:56

Thefukks Fathers

 

10312578_1430776417181606_10729963657842

 

หลวงปู่พุทธะอิสระ เสวนาธรรม ไขข้อข้องใจ ในมุมมองของหลวงปู่ ต่อท่าที ที่เป็นกลางของทหาร

“วันนี้มีคนเขามาถามปัญหา....ท่านผู้พิพากษา เขาถามว่า ท่านมีลูกศิษย์เป็น ขุนทหาร เยอะแยะ ทำไมไม่ขอให้ลูกศิษย์ที่เป็นทหารน่ะ เขามาช่วย เพื่อจะให้ยุติความเสียหาย บ้านเมือง ประเทศชาติ หลวงปู่ ก็เลยบอกกับเขาว่า ทหารน่ะ..!! เขาวางตัวถูกแล้ว เพราะเขาเป็นทหารของพระราชา เขาไม่ได้เป็นทหารของ กปปส. เขาไม่ได้เป็นทหารของ นปช. เมื่อเขาเป็นทหารของพระราชา เขาจะแสดงตนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ แล้วอย่าลืมว่าในทหารนี่ ก็มีทหารแตงโม ทหารแตงไทย ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งเขาเกิดไปเข้าข้างอีกฝ่ายหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับเรา แล้วบ้านเมืองนี้มันจะอยู่กันยังไง อีกทั้งพระราชา หรือพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ก็จะใช้พระราชอำนาจผ่านทหารก็ไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่า ทหารกลายเป็นพวกของฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ไปแล้ว ทีนี้ก็เท่ากับว่าจะทิ้งให้พระเจ้าอยู่หัวโดดเดี่ยว อยู่แบบพระองค์เดียวไม่มีใครจะดูแลเอาใจใส่ เหลือไว้แต่สถาบันตุลาการ ซึ่งแต่ละท่านก็ หง่อม กันทั้งนั้นแล้ว แทบจะตะบันน้ำกินแล้ว

 

เพราะฉะนั้น ให้เหลือเครื่องมือ เอาไว้ให้สำหรับพระเจ้าอยู่หัวได้ใช้งานบ้างเถิด ตอนนี้ตำรวจ ก็กลายเป็นตะกวดไปแล้ว (ลูกหลาน..ส่งเสียงรับมุกกึกก้อง..) ท่านก็เรียกใช้ไม่ได้แล้ว เพราะมันเลือกข้างไปเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว เราก็จะต้องรักษาความเป็นกลางของทหารไว้ เหตุที่หลวงปู่ไม่ร้องขอความช่วย ความร่วมไม้ร่วมมือ ของทหาร และลูกศิษย์ลูกหาก็เพราะว่า เรารู้ดีว่าสถานภาพของทหารต้องอยู่ตรงกลาง พระราชา จะได้ใช้ได้ ถึงคราวที่มีวิกฤติของบ้านเมืองจำเป็นจะต้องใช้ทหาร พระราชาก็ใช้ได้ โดยที่ไม่มีใครกล้าที่จะมาคัดค้าน ข้องแวะ ด้วยเหตุผลว่า ทหารเป็นกลางจริงๆ เวลาทหารเคลื่อนขบวน เคลื่อนทัพ เคลื่อนไหว ทุกคนก็จะเกรงอก เกรงใจ ไม่กล้า เพราะนี่คือทหารของพระราชา แต่ถ้าทหารแสดงตนเป็นฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้ เวลาพระราชา จะเอาทหารมาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง กลายเป็นการสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลว่า คนก็จะไม่ยอมรับในความเป็นกลาง ไม่ยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์ของทหาร ทีนี้ก็กลายเป็นการทำร้ายบ้านเมือง ทำร้ายพระราชา

 

เพราะฉะนั้น หลวงปู่ก็เลยบอกกับเขาว่า “ท่านผู้พิพากษา ฉันน่ะแม้จะไม่จบ ป.4 แต่ฉันมีสมอง มีความระลึก สำนึกบุญคุณคน รู้จักอะไรควร ไม่ควร เหมาะสมแค่ไหน แล้วฉันก็รู้ว่าอย่าทำให้พระราชา หรือพระเจ้าอยู่หัว ต้องรู้สึกลำบาก รู้สึกระคายเคืองพระราชหฤทัย การไปใช้ทหารของพระราชา มาทำภารกรรมในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือเข้าข้างฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งนั่นแหละคือการทำร้ายพระราชา ทำให้คนปรามาส ดูถูก เหยียดหยาม และก็ไม่ยอมรับในพระราชอำนาจ

เพราะฉะนั้น ทหาร อยู่อย่างนี้ดีแล้ว พระราชาจะได้ใช้ได้ เมื่อถึงคราวมีวิกฤติของบ้านเมือง ที่จำเป็นจะต้องใช้กำลังทหาร โดยพระราชา โดยพระราชประสงค์ โดยพระบรมราชโองการ ก็จะได้ไม่มีใครกล้ามาทักท้วง ถึงทักท้วงมันก็ฟังไม่ขึ้น โดยเหตุผลว่าตลอดเวลา ทหารเขาวางตัวเป็นกลางมาตลอด เข้ากับทุกสี ทุกฝ่าย ทุกกลุ่มได้ไม่คิดทำร้าย ทำลายใคร ฉะนั้น วิธีคิดของทหารยุคนี้ไม่เหมือนยุคเก่า ไม่เหมือนยุคก่อนลูก ก็เพราะว่าเป็นวิธีคิดของพระราชา ที่ทุกคนเป็นลูกของพระองค์ สีแดง ก็ลูกของพ่อ สีเหลืองก็ลูกของพ่อ ทุกสีคือลูกของพ่อ แม้ที่สุดทหารก็เป็นของพ่อ ก็ควรที่จะรักษา ปกป้องชีวิตลูกของพ่อทั้งหมด ไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง แล้วที่สุดจะกลายเป็น สะท้อนย้อนกลับไปทำร้ายพ่อเอง อย่างนี้พุทธะอิสระ เวทีแจ้งวัฒนะไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา ถ้าทำอะไรแล้วต้องทำให้ทำร้ายพ่อ ไม่เอา แม้นทำแล้วจะบอกว่า ชนะ ก็ไม่เอา....นะ..อันนี้คือหลวงปู่ ก็ตอบปัญหาของท่านผู้พิพากษา....”

 

หลวงปู่พุทธะอิสระ

6 พฤษภาคม 2557

 

https://www.facebook...0777720514809:0




#1152703 วันนี้ไปม๊อบที่ผ่านฟ้า

Posted by kairyuramon on 5 May 2014 - 18:26

อาหารของกลุ่มอโศกจะประมาณนี้อยู่แล้วครับ เน้นสุขภาพ ไม่ค่อยเน้นรสชาติ

 

ผมเคยมีส่วนร่วมกับกลุ่มนี้อยู่ปีหนึ่ง (ประมาณว่าเป็นโรงเรียนวันอาทิตย์) สมัยผมยังเด็ก ๆ

 

เรื่องอาหารนี่ผมยอมรับเลยว่าตอนนั้นผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะว่าอาหารรสชาติจะออกไปทางจืด แล้วก็มีแต่ผัก ไม่มีเนื้อสัตว์

 

 

ส่วนเรื่องความเกลียดชังอะไรนี่ผมไม่ค่อยห่วงหรอกครับ สังคมกลุ่มนี้เขายึดมั่นในเรื่องศีลธรรมสูงมาก (จนบางทีผมยังคิดเลยว่าเคร่งเกินไปหรือเปล่า)

 

สมัยตอนที่ผมไปเรียนที่นี่ต้องมีสมุดบันทึกศีลเลยครับ ว่าวันนี้ทำผิดศีลข้อไหนบ้าง

 

ผมว่าเรื่องนี้รัฐบาลน่าห่วงกว่าเยอะครับ ไม่รู้ว่าจนถึงบัดนี้ยังมีศีลธรรมข้อไหนหลงเหลือบ้างหรือเปล่า




#1150858 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 3 May 2014 - 15:35

สำหรับใครที่อยากรู้แนวทางมาตราสามของหลวงปู่แบบละเอียด ท่านได้พูดไว้เมื่อวันพฤหัสครับ ผมได้มีโอกาสไปฟังที่เวทีอยู่ ตอนนี้คลิปกับคำถอดข้อความออกมาครบแล้ว ขออภัยที่นำมาแปะช้าครับ (ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่)

 

ผู้ดี กองแผน

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2557
เสวนาธรรม หลวงปู่พุทธะอิสระ (ตอนที่ 1/2)
#เวทีแจ้งวัฒนะ#

“.......................วันนี้มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบไม่รู้เป็นวาระหรือ เปล่าไม่แน่ใจ คงจะต้องเป็นวาระ เขาบอกว่าต้องนัดสื่อมา มาชี้แจง มาสัมภาษณ์ เอาไว้พรุ่งนี้อีกวันหนึ่งแล้วกัน แต่วันนี้ประกาศไปก่อน
วันนี้หลังจากพูดคุยกับท่านพลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร และ ศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ รวมทั้งผู้รู้ทั้งหลาย อีกทั้งได้สั่งสนทนาพูดคุย ปรึกษาหารือกับพี่น้อง ลูกหลาน ชาว กปปส.ภาค 7+2 และแกนนำชาวนาหลายกลุ่ม หลายพวก

ทำให้ได้ข้อยุติว่า เราควรจะต้องเร่งรัดในการจะปิดเกมส์ หรือว่าเร่งรัดในการเคลื่อนไหวเพื่อจะให้ได้มาซึ่งชัยชนะของปวงมหาประชาชนคน ทั้งชาติ ทั้งสีเหลือง สีแดง สีสารพัดสีได้แล้ว เพราะอะไร ก็เพราะเรามีเงื่อนไขที่ไม่สามารถจะเยิ่นเย้อ ยืดยาดต่อไปได้ มีเงื่อนไขอะไร เท่าที่ทราบ พวกเราก็คงจะทราบกันทุกคนในเมืองไทยว่า นายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลโดยคุณยิ่งลักษณ์ พยายามจะไปเร่งเร้าให้ กกต.ได้รีบจัดเลือกตั้ง ก็คือ ขอพระราชทานกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเหมือนกับเขาจะรู้ว่า ถ้าปล่อยให้เยิ่นเย้อยืดยาด เราจะต้องเดินทางไปถวายคืนพระราชอำนาจ อาจจะไม่มีโอกาสได้เลือกตั้ง การขวนขวายในอำนาจของตน ก็กลายเป็นการขวนขวายเพื่อจะปิดกั้นเราด้วย เมื่อกฤษฎีกา หรือไม่เมื่อกฎหมายนี้ได้ลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้แล้ว พระเจ้าอยู่หัวก็ลำบากพระราชหฤทัยที่จะรับฎีกาของเรา เพราะว่าทำให้พระองค์ต้องเลือกข้าง ซึ่งมันเป็นวิธีคิดที่เลวร้ายมาก ที่รัฐบาลพยายามหาทาง

ตัวอย่างเช่น รัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็เคยออกมาเสนอ ศอ.รส.ก็เคยมาเสนอว่า ให้ใช้มาตรา 7 เพื่อให้พระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง เลือกตั้ง หรือคัดสรร คณะรัฐมนตรีชุดนี้ให้ดำรงอยู่ โปรดเกล้าให้ดำรงอยู่เพื่อรักษาการสืบไปอย่างนี้เป็นต้น

วันนี้ก็โทรทัศน์ทีนิวส์ก็ให้สัมภาษณ์ ตอนสี่โมงเย็นให้กับหลวงปู่ว่า การที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรา 7 มันจะต่างอะไรกับที่หลวงปู่จะไปถวายคืนพระราชอำนาจ เราก็เลยบอกว่าต่างกันโดยสิ้นเชิง รัฐบาลใช้มาตรา 7 เพื่อรักษาอำนาจของตน แต่เราใช้มาตรา 3 เพื่อจะถวายอำนาจแห่งตนกับพระเจ้าอยู่หัว มันคนละเรื่องกัน อย่าเอามาเปรียบกัน โจรกับพระมันคนละชนิด (.......ปรี๊ดดด เฮ...ปรบมือเกรียวกราว......) คนละเผ่าพันธุ์

ทีนิวส์เขาให้สัมภาษณ์ก็หลาย เป็น 10 นาที ก็อธิบายให้เขาฟัง แล้วเขาก็ถามต่อมาว่า การที่เราประกาศที่จะถวายคืนอำนาจ มันจะไม่คัดค้านกับลุงกำนันเหรอ กปปส. สวนลุมพินี เราก็บอกว่า ไม่ได้คัดค้าน เพราะเราให้โอกาสลุงกำนันใช้มุกของแก ใช้วิธีของแก ตั้งแต่เริ่มวันที่ 5 แกก็ดำเนินการของแก วันที่12,13,14 และวันที่ 15 มีเวลา 4 วัน 4 วันนี้ถ้าจะเผด็จศึก เหลือเฟือ ปวงมหาประชาชนก็พร้อมให้ความร่วมมือถ้าสามารถที่จะเผด็จศึกได้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงเกินไป

ที่จริงเราต้องยอมรับอย่างหนึ่ง หลวงปู่ก็พูดออกไปว่า เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราเสียโอกาสงามๆ แบบนี้หลายครั้งแล้ว ถ้าเที่ยวนี้ลุงกำนันยังปล่อยโอกาสหายไปอีก ไม่รีบที่จะรวบรัด ปัญหามันจะเกิดขึ้นมา ก็คือ แผนสองที่หลวงปู่ ลองเอาไว้ คิดเอาไว้ เพื่อจะให้ทุกสี ทุกฝ่าย ทุกกลุ่มได้มีทางลง ก็จะโดนทำลายไปด้วยกฎหมายเลือกตั้งที่เขาประกาศออกมาใช้ ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินคงไม่ใช้หลักคิดราชประชาสมาสัยอีก เพราะว่ามีกระบวนการรองรับ เพราะมีทางออกแล้วคือให้ไปเลือกตั้ง

ซึ่งจะกลายเป็นว่า ถ้าเราไปเฝ้าพระองค์เพื่อจะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ก็จะกลายเป็นบังคับ หรือต้องทำให้พระองค์ต้องกระอัก กระอ่วน พระราชหฤทัยที่จะต้องมาเลือกข้าง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องส่งเสียง สัญญาณไปยังลุงกำนัน เวทีสวนลุมพินีว่า จะทำอะไรก็ให้รีบทำ ภายใน 12,13,14,15 ให้จบ ถ้าไม่จบ พุทธะอิสระ จะช่วยทำให้จบ 16,17,18 (.......ปรี๊ดดด เฮ...ปรบมือเกรียวกราว......) เพราะปล่อยให้เยิ่นเย้อต่อไปไม่ได้แล้ว ปล่อยให้ยืดต่อไปไม่ได้แล้ว ใช่ไม่ใช่พี่น้อง เราตายไปเยอะแล้ว เราเสียเลือด เสียเนื้อ มากเป็นร้อยๆ แล้ว แล้วเราก็เสียเวลามามหาศาลแล้ว แล้วโอกาสมันก็มีอยู่แค่นี้

ถ้าไม่งั้นกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา กฎหมายเลือกตั้งโดนประกาศออกมาใช้ รัฐบาลโดย กกต.ก็ต้องเดินหน้า จัดการเลือกตั้ง แล้วจะตายอีกกี่ศพ จะเจ็บอีกกี่คน ที่แน่ๆ เวทีแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ ไม่ยอมให้หลุดแม้แต่ใบเดียวอยู่แล้ว (.......ปรี๊ดดด เฮ...ปรบมือเกรียวกราว......) แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ หลวงปู่คิดเอาเองนะ ตามประสาคนโง่ ๆ ปัญญาทึบอย่างหลวงปู่ ถ้าอย่างนี้ ถ้าลุงกำนันยังรวบรัด ยังปิดเกมส์ได้ไม่ทันเวลาที่กฎหมายเลือกตั้งจะประกาศใช้ ก่อนกฎหมายเลือกตั้งจะประกาศใช้

มันจะทำให้เราเสียโอกาสที่จะไปถวายฎีกา การที่ประชาชนจะถวายคืนอำนาจก็ทำไม่ได้ ถึงทำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่มีสาระแก่นสาร หาทางออกไม่ได้ แล้วถ้าการเลือกตั้งมันโดนประกาศใช้จริง ๆ สองฝ่ายไม่ยอมรับ นั่นหมายถึงว่า ฝ่ายเราไม่ยอมรับ กปปส. อีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมรับการเลือกตั้งเป็นโมฆะ มันก็นำมาซึ่งการปฏิวัติ รัฐประหาร แล้วช่องทางปฏิวัติ มันมีให้เห็นเยอะแยะมากมาย เมื่อถึงคราวที่ทหารออกมาปฏิวัติรัฐประหารจริง ๆ อย่างที่คาดเดา หรือคิดเอาเองตามวิธีคิดของหลวงปู่ พี่น้องเสื้อแดงก็คงจะลำบาก โดยเฉพาะแกนนำ ไม่เช่นนั้นพี่น้องเสื้อแดงทั้งหลาย อย่านิ่งเฉยและนิ่งดูดาย มาร่วมกันหาทางออกให้กับชาติบ้านเมือง พร้อมใจกันมาร่วมขบวนเดินทางไปกับเวทีแจ้งวัฒนะเพื่อไปถวายคืนอำนาจพระเจ้า อยู่หัว เพื่อให้พระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยงดเว้นใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา และทรงเลือกใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา

อย่างนี้ทุกคนปลอดภัย ทุกคนชนะ บ้านเมืองชนะ คนไทยชนะ พระเจ้าอยู่หัวก็มีความสุข พระราชหฤทัย อย่างนี้จะเห็นว่า สม เหมาะ แล้วก็เฉลี่ยประโยชน์กันทั่วหน้า ไม่มีใครแพ้ และจบอย่างงดงาม แล้วก็สวยหรูด้วยซ้ำไป ไม่มีใครตาย ไม่มีใครบาดเจ็บ ไม่มีใครได้รับอันตราย ไม่ต้องมานั่งลุ้น นั่งเสียว กันต่อไป ฉะนั้นจึงอยากจะส่งเสียงนี้ไปยังพี่น้องเสื้อแดง ทุกท่านที่รับชม รับฟังว่า ขอให้มาร่วมกันที่จะถวายคืนอำนาจต่อพระเจ้าอยู่หัวเถิด ถ้าขืนดื้อรั้น ดันทุรัง ที่จะสู้ สุดท้ายเดี๋ยวก็มีตาอยู่เอาพุงปลาไปกิน ถ้าเราจะต้องรบกัน หรือต้องใช้ปริมาณไพร่พล ที่จะคำนวณว่า ใครแพ้ใครชนะ ที่สุดคนที่แพ้ ก็คือประเทศชาติไม่ใช่คนไทย แต่เป็นประเทศทั้งประเทศต้องพ่ายแพ้ ไม่มีใครชนะ มีแต่คนแพ้

แล้วสุดท้ายก็จะตกหนักเป็นภาระอันหนักอึ้ง ต่อพระเจ้าอยู่หัว แล้วพวกเราจะลงทุนกับการที่จะได้ชัยชนะ หรือได้ความพ่ายแพ้กลับมาอีกคนละกี่ศพ หรือข้างละกี่ศพ ก็คือฝ่ายละกี่ศพ เราจะลงทุนให้ได้มาซึ่งความพ่ายแพ้นี้อีกข้างละกี่ศพ ทำไมเราไม่รีบตัดวงจรที่จะเสียหาย ที่จะกลายเป็นศพให้มาจับไม้จับมือกัน วันที่ 16,17 คุณไม่ไปวันที่ 16,17

18 ทุกคนต้องว่าง แล้วไปเจอกันที่หัวหิน อย่างนี้ก็ได้ (.......ปรี๊ดดด เฮ...ปรบมือเกรียวกราว......) หรือจะไปร่วมสุข ร่วมทุกข์กันตั้งแต่วันที่ 16,17 และ 18 ถึงหัวหิน ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ไป ช่วยกันไป ออกมาถวายอำนาจต่อพระเจ้าอยู่หัว ถ้าไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเกิดกลียุค เกิดปัญหาอะไรขึ้นอีกเยอะแยะ มากมาย

เมื่อเช้าโทรคุยกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร (กรรมการการเลือกตั้ง) ถามเข้าว่า รัฐบาลโทรคุยกับคุณ เร่งรัดให้คุณจัดเลือกตั้งใช่ไม่ใช่ เขาบอกว่า ใช่ / แล้วคุณมีโอกาสไหม ที่จะเลือกตั้งช้าหรือเร็ว /เขาก็บอกว่า รัฐบาลพยายามเร่งรัดให้เกิดการเลือกตั้งเร็วๆ /หลวงปู่ก็เลยบอกว่า คุณมั่นใจแล้วหรือว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีคนตาย หลวงปู่ก็ถามคุณสมชัยว่า คุณมั่นใจแล้วหรือว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีคนตาย แล้วถ้ามีคนตาย คนเจ็บ ใครจะรับผิดชอบ

คุณ กับ กกต.ต้องรับผิดชอบ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า มันแก้ปัญหาไม่ได้ วันนี้คุณจตุพร เสื้อแดง ก็ประกาศว่า เอาล่ะ ไม่เลือกตั้งก็ไม่เลือกตั้ง ปล่อยให้บ้านเมืองมันอยู่กันอย่างนี้ พูดใช้คำศัพท์ว่า ช่างแม่งมัน ประมาณนั้น

ถึงวันนี้ เราจะช่างไม่ได้แล้ว เรานิ่งดูดายไม่ได้ คุณจตุพร ถ้าคุณรักบ้านเมืองจริง รักประชาธิปไตยจริง เรากันมาร่วมเดินทางไปถวายพระราชอำนาจต่อพระเจ้าอยู่หัว คนทั้งประเทศไม่มีใครเป็นที่ยอมรับ เคารพและศรัทธา เชื่อมั่น เท่ากับในหลวงของเรา

เราไม่ได้ไว้ใจนักการเมือง เราไม่เชื่อมั่นข้าราชการ เราไม่วางใจผู้ที่เป็นแกนนำทั้งหลาย แม้แต่ตัวฉันเอง คุณก็ไม่ต้องมาไว้ใจ แต่ทุกคน คนไทยทุกคน เคารพ ศรัทธา เทิดทูน ไว้วางใจพระเจ้าอยู่หัว ด้วยเหตุผลว่า พระเจ้าอยู่หัวรักเรา ด้วยความบริสุทธิ์ใจ 60 กว่าปีที่พระองค์ให้ความรักต่อเรา แล้วเสียสละเพื่อพวกเรา ยังพิสูจน์ไม่ได้อีกไม่ได้แล้วหรือว่า พระองค์จริงใจต่อเราขนาดไหน แล้วเราทำไม่ไว้วางใจที่จะไปถวายอำนาจต่อพระองค์ พวกเสื้อแดงทั้งหลาย คิดหน่อย คิดเยอะๆ โดยเฉพาะแกนนำ ทั้งหลาย

ถ้าพวกคิดว่า รักประชาธิปไตย ถวายคืนอำนาจ พระเจ้าอยู่หัวอาจใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา และงดเว้นบางมาตรา เพื่อจะผ่าทางตัน แล้วจัดให้มีการเลือกตั้ง กปปส.ก็ไม่กล้าจะขัด นปช.ก็ไม่กล้าท้วง แล้วสุดท้ายมันก็จะจบลง ถึงจะมีการปฏิรูปหรือไม่ ก็สุดแท้จะมีพระราชวินิจฉัย อย่างนี้ก็ถือว่า เป็นการผลักภาระให้กับพระเจ้าอยู่หัว ล่วงเกินพระราชอำนาจหรือไม่

พระราชอำนาจพระเจ้าอยู่หัวมีอยู่แล้วรัฐธรรมนูญมีรองรับเอาไว้หลายมาตรา ผลักภาระหรือไม่ มันจำเป็นที่ต้องไปบอกพ่อให้รู้ว่า ลูกของพ่อกำลังจะฆ่ากันตาย เราจำเป็นต้องฟ้องพ่อ ขอร้องให้มีพ่อมหากรุณาธิคุณ ทรงพระเมตตาคุณ ได้ช่วยเหลือ เรียกลูกมาอบรม สั่งสอน ชี้นำ หรือไม่ก็แนะวิธีทางออก วิถีทางออกให้กับบ้านนี้ เพื่อลูกจะได้ไม่ต้องฆ่ากันตาย

เราไปในฐานะลูก ไปพบพ่อ ไม่ได้ไปในฐานะที่ต้องเป็นไพร่ฟ้า ข้าแผ่นดิน ที่ต้องไปเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน แต่เราไปในฐานะลูก คิดถึงพ่อ ไปสวดมนต์ให้กับพ่อ และแม่เรา แล้วเราก็ไปฟ้องพ่อเราว่า ไปฟ้องแม่เราว่า ขอให้ช่วยเราแก้ปัญหาให้กับลูก ๆ หน่อย เท่านี้เอง ไม่มีอะไรยาก ไม่มีอะไรลำบากเลย

ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนเห็นปัญหาไหม คนไทยทุกคนมองเห็นปัญหาของชาติบ้านเมืองกันหรือไม่ ถ้าเห็นปัญหาแล้วจะแก้อย่างไร คนไทยมีสำนึกรับผิดชอบ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 70 ที่บุคคลมีหน้าที่ที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งอธิปไตย และความปลอดภัย ความมั่นคง ของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขหรือไม่ ถ้าทำหน้าที่ตามที่ได้ก็แสดงว่า คุณทำเรื่องถูกกฎหมาย แล้ววันนี้บ้านเมืองไม่เป็นไท กำลังจะแตกแยกมีภัย แล้วพวกเรานิ่งเฉยไม่ทำหน้าที่ แล้วเราจะไปตอบลูกหลานเราอย่างไร ว่าที่มันเกิดไทยเหนือขึ้น ไทยใต้ขึ้น มันเกิดอะไร มันทำอย่างไร

ถามว่ามันเกิดได้ไหม มีโอกาสเกิดได้ไหม ก็อย่างที่บอกแหละ ถ้าวันนี้คุณสุเทพ ประกาศรัฏฐาธิปัตย์ เสื้อแดงประกาศได้ไหม (...ได้...) แต่เราก็ไม่ได้ว่าเขา เพราะว่าเขาก็มีสิทธิ์จะคิด มีสิทธิ์จะทำ แล้วมันแก้ปัญหาได้ไหม มันตอบโจทย์ มันผ่าทางตันบ้านเมืองได้หรือไม่ มันก็ไม่ได้

แล้วถ้าหารัฐบาลดื้อรั้น ดันทุรัง ไม่ยอมที่จะออก ไม่ยอมที่จะไป แล้วก็ผลักดันให้เกิดการเลือกตั้งได้ ก็แก้ปัญหาไม่ได้ เอาล่ะ เมื่อมันเกิดปัญหาวิกฤตขึ้น ต้องฆ่ากัน ต้องล้มตายกัน ทหารออกมาปฏิวัติ แก้ปัญหาได้ไหม ก็ไม่ได้ แล้วทำไมไม่หาทางแก้ที่ไม่มีใครตายล่ะ ทำไมไม่หาทางแก้ที่ไม่มีใครเจ็บ บ้านเมืองจะได้ไม่ต้องเสียหายเพิ่มเติมขึ้นล่ะ แล้วทางแก้ที่มี ที่ดี ที่ชี้นำ ร่วมกันบอกกล่าว ก็คือ ร่วมกันเดินทางไปถวายพระราชอำนาจ

เพราะฉะนั้น ก็ต้องส่งเสียงนี้บอกลูกหลานพี่น้องว่า เราพูดเวทีนี้ พูดอย่างนี้ ก็ไม่ใช่หมายถึงว่า ปฏิเสธวิธีการของลุงกำนัน เวทีนี้ยังให้เกียรติเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ พี่น้องทั้งหลายที่ร่วมต่อสู้กันมายาวนาน ใครมีวิธีการอะไรก็สู้กันไป ถ้าคิดว่าจะจบเกมส์ปิดเกมส์ ได้ชัยชนะ ก็ทำไป เราพร้อมจะสนับสนุน ไม่ใช่ปฏิเสธ แต่ถ้าอยู่ในเงื่อนไขของเวลาด้วย ถามว่าทำไมต้องอยู่ในเงื่อนไขของเวลา มันจำเป็นจริงๆ ที่จริงเราคิดกันไว้

หลวงปู่คิดเอาไว้ว่า เมื่อศาลตัดสินปุ๊บ สมมุติว่า ศาลตัดสินว่ารัฐบาลหมดหน้าที่และขาดความชอบธรรม ไม่สามารถจะบริหารบ้านเมืองได้อีกต่อไป รุ่งขึ้นหลวงปู่ไปเลย แต่เพราะให้เกียรติลุงกำนัน ให้เกียรติเพื่อนักรบผู้กล้าทั้งหลายที่มีวิธีคิดที่แตกต่างจากเรา แล้วคิดว่าจะทำกระบวนการปฏิวัติประชาชน ประกาศรัฏฐาธิปัตย์ หรืออะไรก็แล้วแต่ สุดแท้จะเรียกขาน

แต่ถ้าทำแล้วสำเร็จ ก็อนุโมทนา แต่ไม่ได้หมายถึงว่า นั่งดูดาย เฉยๆ ไม่ใช่ เราก็ไปร่วม แต่ถ้าทำมันสำเร็จเราก็อนุโมทนา แต่ถ้าสำเร็จ หรือสำเร็จแล้วไม่เป็นที่ยอมรับล่ะ แล้วเรามีเงื่อนไขจำกัด คือเวลามันจำกัดมาก เพราะถ้าเลยวันที่ 18, 19 ไป กฤษฎาเลือกตั้ง ก็ต้องโดนประกาศใช้ แล้วเราจะไปรอเวลาไหนอีกล่ะ ที่จะไปเดินเฝ้า ไปเฝ้าถวายอำนาจต่อพระเจ้าแผ่นดิน ไม่มีโอกาสแล้ว นอกจากจะรอตายไปสักอีก 2 ศพ 3 ศพ หรือว่าเจ็บไปอีกเป็นร้อยคน แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปทำไม

เพราะฉะนั้นส่งเสียงนี้ไปยังลุงกำนัน หลวงปู่ก็พยายามเมื่อกลางวันให้โทร เห็นว่าไปคุยกับพวกแรงงาน พวกเราก็เบาใจไปนิด ลืมคิดไปว่าจะส่งตัวแทนไปแจกใบปลิว ที่เราจะเชิญชวนถวายอำนาจ

หลวงปู่ก็มัวแต่คิดโน่นคิดนี้ จนลืมไปว่า วันนี้เป็นวันแรงงาน ลืมจริงๆ ถ้ารู้ว่าเป็นวันแรงงาน วันนี้หลวงปู่ไปแล้ว ไปเดินแจกใบปลิวที่แรงงาน แล้ว กปปส.เราก็ไม่ได้คิด เราก็เลยต้องเสียโอกาสไป เพราะคนมาชุมนุมกันเรือนหมื่น เสียดาย

ก็ขอส่งเสียงนี้ไปยัง บรรดาพี่น้องแรงงาน ผู้ใช้แรงงานทั้งหลายว่า ถ้าอยากแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ให้มันยุติ จบ แล้วก็ให้ทุกคนปลอดภัย ทุกคนมีชัยชนะร่วมกัน วันที่ 16 คุณไม่ว่างก็ไปวันที่ 17 /17 ไม่ว่าง ก็ 18 /18 ทุกคน คนไทยต้องว่าง เจอกันที่พระราชวังไกลกังวลหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

แล้วก็ส่งเสียงนี้ไปยังผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ เห็นว่า เมื่อเช้าให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้รู้กาลเทศะ พุทธะอิสระรู้จักกาลเทศะเสมอ ไม่ใช่สมองฝ่อท่านผู้ว่า ไม่ใช่ปัญญาอ่อน (.......ปรี๊ดดด เฮ...ปรบมือเกรียวกราว......) เรารู้ดีว่า ว่าช่วงงานเฉลิมฉลองงานวันฉัตรมงคล เราจะไม่ยุ่งในงานรัชพิธีและราชพิธี แต่วันที่ 16,17,18 มันมีงานราชพิธี และรัชพิธีที่ไหนกัน ฉะนั้นคุณก็มีหน้าที่ให้บริการเราก็แล้วกัน รถขี้ รถเยี่ยวก็เตรียมให้พร้อม เต็นท์ โต๊ะ อะไรก็เตรียมจัดให้เรียบร้อย ถึงเวลาเราไปแน่ 16,17,18 เจอกัน...พร้อมไหม...(...พร้อม...) เสียงอ่อยเหลือเกิน พร้อมไหม...(พร้อม ดังกว่าเดิม) ต้องให้กังวาน กระหึ่มสิลูก ลูกหลานราชสีห์

ลุงกำนันมีเวลาปิดเกมส์ไม่ยาวแล้ว ที่ผ่านมามีเวลายาวตลอด เที่ยวนี้ไม่ยาวแล้วลุง มีเวลาแค่ 12,13,14 และ 15 .. 4 วัน ถมเถไปที่จะปิด ฉะนั้นพี่น้องต้องไปให้มากเท่ามาก วันที่ 12,13 หรือ 14,15 ไปให้จนล้นหลามแผ่นดิน ไปให้จนเสื้อแดงไปกับเขาด้วย อย่างนี้ปิดเกมส์ได้

แต่ถ้ายังมีเสื้อแดงอีกฝ่ายหนึ่ง กปปส.อีกฝ่ายหนึ่ง ปิดไม่ได้ เพราะรัฎฐาธิปัตย์มันประกอบไปด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เห็นดีเห็นงาม ยอมรับประกาศอำนาจของปวงชาวไทย แต่ถ้าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เขาไม่ยอมรับ เขาไม่เห็นดี เห็นงามด้วย ก็ได้แต่ว่า สักแต่ว่าประกาศเฉยๆ สุดท้ายก็จะเพิ่มข้อหา “กบฏ” อีกข้อหาหนึ่ง ซึ่งเราก็กบฏซ้ำซากอยู่แล้ว กบฏแล้วกบฏเล่า เฝ้าแต่กบฏ จนมันจะบดเราละเอียดอยู่แล้ว......”

 

“..........ตอนนี้ ธาริต ก็เตรียมยื่นสำนวนให้กับอัยการสูงสุด โดยไม่ให้ผ่านกระบวนการทางศาลที่จะขอหมายจับ ลัดคิว ตัดคิว ว่าเมื่ออัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ก็เป็นอันว่า สามารถออกหมายจับจำเลยได้เลย คือจับได้เลย ไม่ต้องออกหมาย เพราะอัยการสั่งฟ้องก็ถือว่า เป็นจำเลยแล้ว นี่วิธีคิดของเขา

ธาริต มันก็ขยันที่จะจองเวรกับ กปปส.จริง ๆ ไม่รู้ว่า เพราะโกรธกันแต่ชาติไหน เราก็พยายามกรวดน้ำให้ธาริต ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน จนไก่เราไข่ออกมา 100/200 วันแล้ว ธาริต ก็ยังไม่เห็นใจเรา ไม่รู้ว่า ถ้ามวลมหาประชาชนชาวไทยชนะแล้ว ธาริต จะหาแผ่นดินที่ไหนอยู่ สงสัยจะต้องไปอยู่เขมรแน่ๆ เลย

เอาเป็นว่า มวลมหาประชาชนชนะ เราจะหาอธิบดีคนใหม่ พุทธะอิสระ อาจจะมีโอกาสกับเขาบ้าง ฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆ (.......ปรี๊ดดด เฮ...ปรบมือเกรียวกราว......) ไม่รู้ไม่เข้าใจ ศอ.รส.นี่เขามีเอาไว้สำหรับจะจ้องเล่นงาน แต่ กปปส. ไม่ได้มีเอาไว้สำหรับรักษาความมั่นคง และปลอดภัย สงบเรียบร้อยของชาติบ้านเมือง เห็นออกมาพูดแต่ละทีก็หาวิธีเอาจำเลยให้กับ กปปส.ตลอดเวลา กปปส.ต้องเป็นจำเลยของ ศอ.รส.อยู่เนือง ๆ

แต่ ไอ้โกตี๋ ที่ไปซุกหัวอยู่เพชรบุรี ไอ้ตั้ง ที่จ้วงจาบสถาบัน ยังซุกหัวอยู่ในปีกของนักการเมือง ไอ้สุรชัย แซ่ด่าน ที่จ้วงจาบสถาบัน หมิ่นสถาบัน ก็ยังลอยหน้า ลอยตา พูดได้ ศอ.รส.ไม่แอะปากสักคำ ไม่พูดสักคำ สันดานจริง ๆ ศูนย์รวมสัตว์จริง ๆ สันดานของศูนย์รวมสัตว์ ไม่เห็น ศอ.รส.ออกมาพูดเรื่องนี้เลยสักคำเดียว

เรานี่ไม่ได้ไปทำเรื่องเลวร้าย เสียหายอะไรต่อชาติบ้านเมือง เราทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญรองรับเราไว้ ศอ.รส.ก็พยายามหาวิธีเหยียดหยาม ดูถูก กลั่นแกล้ง รังแก ทำร้าย ทำลายด้วยสารพัดวิธีการ แม้ที่สุดก็มีข่าวจะมาสลายการชุมนุม จริง ๆ ก็อยากให้มาไว ไว มันจะได้จบ จะได้ไม่เหนื่อย แต่ต้องมาถูกวิธีนะ ถูกวิธีอย่างไร เขามีขั้นตอน 7 ขั้นตอน เจรจา พูดคุย ตกลง มีกระบวนการใช้ตั้งแต่เบาไปหาหนัก ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาจู่โจม อย่างงั้นอาตมาตกใจนะ เวลาอาตมาตกใจ เดี๋ยวก็ขี้ เยี่ยว ราด มันก็อาจกระเด็นไปโดนหน้า คนที่มา อะไรประมาณนี้ (เฮ..กรี๊ด ชอบใจ กันเกรียวกราว) เพราะก็บอกแล้วว่า อาตมา เป็นคนขี้ตกใจ

อ้อ..วันที่ 6 นี้ ได้ยินว่า เสื้อแดง กวป.จะมาให้กำลังใจ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะขึ้นศาลรัฐธรรมนูญ อยากฝากบอก คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า เราไม่ปิดกั้นคุณ เพราะเป็นการทำงานของศาล ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิบังอาจไปขัดขวางเส้นทางของความยุติธรรม คุณไม่จำเป็นต้องเกณฑ์มวลชนมาให้กำลังใจ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นเราไม่รับผิดชอบ บอกเอาไว้เลย

เพราะฉะนั้นถ้าคุณมาปกติ แล้วมีตำรวจมาอารักขาคุณ เราก็ยอมรับได้ แต่ถ้าคุณขนมวลชนมา ไม่ว่าจะเป็น กวป. หรือ นปช. เราก็จะต้องมวลชนของเราไปป้องกันศาลเหมือนกัน แล้ววิธีตั้งมวลชนของเราแนบเนียน ลุ้น เสียว แล้วมาขำทีหลัง ถ้าคุณคิดจะมาพร้อมมวลชน สิ่งที่คุณจะต้องทำ ก็คือ รับผิดชอบในสิ่งที่เกิด เพราะคุณเป็นคนพามวลชนมา

แต่ถ้าคุณมาแบบไม่มีมวลชน แล้วมีตำรวจอารักขา สักกี่กองร้อย เราไม่ว่าคุณ เพราะคุณมาขึ้นศาล แล้วเราก็ไม่ไปแตะต้อง เพราะเป็นวิถีทางของความยุติธรรม เป็นหนทางแห่งความเที่ยงธรรม ที่คุณจะต้องได้รับจากศาลยุติธรรม เราก็เปิดโอกาสให้คุณเข้ามา

แต่ถ้าเมื่อใดที่เรารู้ว่า มีมวลชนเข้ามา เราก็ยอม...ไม่...ได้...เหมือน..กัน (..เสียงหนักแน่น มั่นคง)...(ปรี๊ดดด.. ลูกหลานถูกใจ ชอบใจ..) ก็บอกแล้วว่า สู้ตรงนี้ สู้ที่นี่ สู้จนตาย ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู ....MUSIC.......”

.... หลังจากฟังเพลง เราสู้ จบแล้ว......
“พรุ่งนี้ ท่านผู้การกรม ปตอ. (พ.อ.วรวุฒิ วุฒิศิริ ผบ.ปตอ. ) จะเข้ามาสนทนาพูดคุย เมื่อกี้เขาส่งเข้ามาตอนเช้า ต้องไม่เกิน 9 โมงเช้า เพราะ 9 โมงเช้า เราต้องเคลื่อนขบวนไปที่การประปานครหลวง แล้วตอนบ่ายๆ ก็ไปกระทรวงสาธาณสุข ฉะนั้นถ้าพรุ่งนี้ ลูกหลานทหารจะมาพูดคุย มาถามรายละเอียดว่า จะเคลื่อนขบวนไปหัวหิน อย่างไร ก็พร้อมที่จะชี้แจง แต่โปรดอย่าเข้าใจผิดว่า หลวงปู่จะโง่เง่าเต่าตุ่น ที่จะพาพี่น้องไปในวันที่ 5 ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล หลวงปู่คิดไม่ได้ คิดไม่เป็น แล้วไม่คิดจะคิด
เพราะถ้าชีวิตหลวงปู่ขาดพระเจ้าอยู่หัว ขาดพระเจ้าแผ่นดิน แล้วไม่คิดถึงบุญคุณราชวงศ์จักรี ก็คงไม่ใช่ พุทธะอิสระ รู้ดีว่า อะไร แค่ไหน อย่างไร เพราะฉะนั้น ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ไม่ต้องกังวล สะดุ้ง ผวา เพราะพุทธะอิสระ ไม่ใช่ปัญญาอ่อน ฝากเสียงนี้ไปยังทหารทุกกรม กอง หน่วยงาน ว่า พุทธะอิสระ ไม่ใช่ปัญญานิ่ม ที่มองอะไรไม่ออก คิดอะไรไม่เป็น

สำคัญว่า เมื่อถึงเวลาเราเดินทางไปถวายอำนาจ พวกคุณต้องมากับเราด้วย เพราะพวกคุณก็คือคนไทยคนหนึ่งเหมือนกัน แล้วไม่ต้องใส่สีเหลือง สีประจำหน่วยงานของคุณ แสดงอัตลักษณ์ ตัวตน รากเหง้าของคุณให้ชัดเจน เพื่อพระเจ้าอยู่หัวจะได้รู้ว่า นี่คือความหลากหลายของปวงมหาประชาชน ที่มารวมตัวกันที่จะถวายอำนาจต่อพระองค์ อันนี้คือสิ่งที่หลวงปู่อยากจะพูด อยากจะบอกพี่น้องลูกหลานทหาร และตำรวจถ้ากลับตัวกลับใจ คิดว่าบ้านเมืองนี้ ต้องแก้ไขด้วยพระบารมีปกเกล้า ก็มาร่วมเดินไปกับเราได้ วันที่ 16,17, 18

เดี๋ยวลูกหลาน อย่าลืมเอาใบไปแก้ด้วย เขียนวันที่ใส่เข้าไปเลย เพราะใบเก่า พิมพ์มาเป็นหมื่น เสียดายของไปทิ้ง แต่ยังไม่ได้ลงวันที่ ก็เอาปากกามาด้วย แล้วช่วยเขียน วันที่ 16,17 หรือถ้าใครไม่ว่าง 16,17 ก็ให้ไป 18 พร้อมกันเวลา 9 โมงเช้า ที่หน้าพระราชวังไกลกังวล หัวหิน
09.09 น.เราก็จะเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เสร็จเรียบร้อยเราก็ถวายฎีกา และก็เดินทางกลับ กลับมาที่เวทีแจ้งวัฒนะ รอที่จะให้ 3 สภา ได้รับการอนุมัติ ทีนี้นอนรอ นั่งรอ ยืนรอ เดินรอ แบบสบายๆ นี่กำลังสั่งให้เขาไปหาซื้อที่แถวนี้สร้างโบสถ์สักหลังหนึ่งแล้ว

เขาบอกว่า ที่แถวนี้มันเป็นราคา ไร่ละหลายสิบล้าน เอาสักครึ่งไร่ก็พอ โบสถ์เล็ก ๆ พอคลานเข้าไปนั่งได้ อะไรประมาณนั้น เพราะตามกฎหมายเขาบอกว่า วัดหรือสำนักสงฆ์ ต้องมีที่ดินไม่ต่ำกว่า 5 ไร่ ขึ้นไป ถ้างั้นไม่จำเป็นต้องกว้าง ถามว่าเพราะอะไร นี่เอาจริงเหรอ/เอาจริง ถ้า 3 สภา มันไม่ไปไหน ก็จะต้องอยู่อย่างนี้ จนกว่า 3 สภามันจะอนุมัติ (..เฮ...ลูกหลานชอบใจ) ไม่งั้นจะสู้มาทำไม ไม่งั้นจะออกมาให้เสียผ้าเหลืองทำไม

วันนี้ให้สัมภาษณ์รายการคุณจอมขวัญ เขามาสัมภาษณ์ 1 ชั่วโมง เขาถามแบบว่า ว่า ถ้าหากมีรัฐบาลแล้วจะทำอย่างไร/มีรัฐบาลแล้วก็ไม่ได้ทำอย่างไร ฉันบอกเขาว่า ฉันไม่สนใจหรอกว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาล ฉันไม่สนใจหรอกว่า ใครจะมาเป็นรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ฉันสนแต่เพียงว่า 3 สภา คือสภาศีลธรรม และคุณธรรมแห่งชาติ สภาชาวนา และเกษตรกรแห่งประเทศไทย และสภาพลังงาน และทรัพยากรของชาติ ได้รับประกาศ ได้รับการรองรับเป็นกฎหมายในรัฐธรรมนูญ แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว

และฉันเชื่อว่า เมื่อ 3 สภาได้รับการประกาศยอมรับให้เป็นกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันเชื่อว่า นักการเมืองชั่ว ๆ เลวๆ ถ่อย ๆ ไม่มีสิทธิ์จะมาเกิดในแผ่นดินไทยได้เลย ไม่มีสิทธิ์จะกลับมามีอำนาจได้หรอก เพราะในรายละเอียดใน 3 สภา โดยเฉพาะสภาศีลธรรมและคุณธรรม มันเตะตัดขา พวกนักการเมืองเลวๆ และข้าราชการเลว ๆ ให้กลับไปเลี้ยงลูก เลี้ยงควายที่บ้านสูญพันธุ์หมด ไม่มีโอกาสเจริญเติบโต และแสวงหาอำนาจ รวมทั้งคดโกงบ้านเมืองต่อไปได้

ฉะนั้นหลวงปู่ไม่สนใจว่าใครจะมาเป็นนายก ใครจะมาเป็นรัฐบาล เพราะไปสนใจ เราจะกลายเป็นผู้ไปแย่งอำนาจกับเขา ไม่สนใจ หลวงปู่สนใจแต่ว่า 3 สภาได้รับการอนุมัติ แล้วหลวงปู่เชื่อว่า สภาศีลธรรมและคุณธรรมเมื่อมันได้รับการประกาศเป็นกฎหมายอย่างชัดเจน และมีผลบังคับใช้อย่างชัดเจน คนชั่วไม่มีสิทธิ์ลอยนวล คนชั่วไม่มีสิทธิ์โต คนชั่วไม่มีสิทธิ์เกิด คนชั่วไม่มีสิทธิ์มีอำนาจ คนชั่วไม่มีสิทธิ์มาคดโกง มาทำร้ายชาติ หรือประชาชนได้เลย อันนี้คือความเชื่อ แล้วเชื่อว่า อันนี้มันทำได้ด้วย ถ้าประกาศใช้จริง

เพราะฉะนั้นเราจึงต้องคงรักษาไว้ หลังจากเรากลับมาจากวันที่ 18 เราก็มานอนรอ นั่งรอ เพื่อจะให้รัฐบาลชุดต่อไปได้ประกาศรับรอง 3 สภา ให้กลายเป็นกฎหมายสูงสุดของบ้านเมือง ไม่ต้องทำอะไร กินๆ นอนๆ เลื้อยไปแถวนี้ จนให้พื้นมันไป ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ทำกิจกรรมเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ปลูกผัก เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย

อ้อ... พูดถึงเลี้ยงวัว ควาย เดี๋ยววันเสาร์นี้ โรงฆ่าสัตว์มันปิดหรือเปล่า เขาให้สตางค์มาว่าจะไปไถ่ชีวิตโคกระบือ โคสักคู่หนึ่ง กระบือสักคู่หนึ่ง แล้วเดี๋ยวเอามาแจกให้กับพี่น้องชาวนา เกษตรกรยากจน ซึ่งเขาจะมารวมกันวันที่ 5 เพื่อจะร่วมรับมหาทาน และปัจจัยสำหรับทุนยังชีพ จำนวน 999 ครอบครัว แล้วก็จะถือโอกาสจับสลากมอบโค กระบือ ให้กับเขาไปด้วย แล้วหลวงปู่จะให้เขาเอามาจากวัดเพิ่มขึ้น เพราะที่วัดมีหลาย 10 คู่ ที่จริงหมูก็มีมาก ถ้าใครไปหมูป่าก็เยอะ แต่จับไม่ได้ หรือใครอาสาเป็นผู้กล้าไปไล่จับหมูป่ามาแจกชาวบ้าน ไม่ได้ให้ไปฆ่า ไปเลี้ยงเอาลูก ได้ลูก แล้วเอากลับคืนมา วัว ควาย ก็เหมือนกัน ไปเลี้ยงเอาลูก ได้ลูกแล้วเอาคืนมา อย่างนี้เรียกว่า แจกกันไปให้คนได้มีอาชีพทำกิน

แถวนี้ไม่รู้ว่ามีโรงฆ่าสัตว์ไหม ใครอยู่แถวนี้ อยู่ใกล้ๆ ช่วยแนะนำด้วย แล้วก็ไปดูหน่อย อยากจะได้โคสักคู่หนึ่ง กระบือสักคู่หนึ่ง เอาที่มันท้องนะลูก ไปดูให้ดี ว่าท้องแก่ไหม ให้ชีวิต ย่อมเป็นเจ้าของชีวิต ให้ความสุข ย่อมเป็นเจ้าของความสุข เดี๋ยวเราก็ไปช่วยกันไถ่ชีวิตโค กระบือ แล้วก็เอามาไถ่กันในวันที่ 5 เป็นวันฉัตรมงคล ถวายอุทิศพระราชกุศลต่อพระเจ้าแผ่นดิน ไปด้วยในตัว

กิจกรรมวันที่ 5 จำเป็นต้องมานะลูก เพราะว่าวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันที่ 6 เข้าใจไหม และวันที่ 6 มันเป็นวันอันตรายแห่งเวทีแจ้งวัฒนะ เพราะเขาจะมีการพิจารณาคดีของศาลปกครอง กับ คดีของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เป็นที่แน่ชัดว่า พวกของ กวป. กับ ปปช.ก็คงจะมาให้กำลังใจ หรือระดมไพร่พลมาปิดล้อมศาล แล้วเราเองก็จะต้องป้องกันศาล เท่าที่เราจะสามารถทำได้ ไม่งั้นเราจะอยู่ตรงนี้ไปทำไม ถ้าเราอยู่แล้วไม่ได้เป็นที่พึ่งของใครได้เลย

เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน วันที่ 5 ก็มา ใครจะไปหาลุงกำนัน ก็รอให้ส่งแขกให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยไปหา ถ้าแขกมันอยู่เยอะๆ เดี๋ยวมันเหยียบพระแบน (ย้ำ) เดี๋ยวมันเหยียบพระแบน อันนี้ขอนะจ๊ะ อย่าเพิ่งคิดว่า ไปร่วมกับลุงกำนัน แล้วปล่อยให้อยู่โดดเดี๋ยว โด่เด่ เดียวดาย แล้วก็ปล่อยให้แขกมันมาเหยียบพระ อย่างนี้ไม่ได้ แขกแปลกหน้าเขากำลังเตรียมตัว ระดมไพร่พล ซ่องสุมกันตามวัดวาอาราม ใกล้ๆ พื้นภูมิภาคนี้ ว่าวันที่ 5 ที่ 6 นี้ เขาจะเคลื่อนไพร่พลมาปิดล้อมศาล มาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี สัญญาณเขาส่งมาแล้ว

ฉะนั้นก็ให้รู้ไว้ว่า ให้เราเตรียมพร้อมที่จะเผชิญเหตุ แต่ไม่ต้องกลัว ลูก หลวงปู่ไม่ให้เราบาดเจ็บ ล้มตายอยู่แล้ว เพราะถ้าอย่างนั้น ก็ตัวใคร ตัวมันอยู่แล้ว ลูก ฮะ ฮ่าๆๆๆ อยู่เวทีนี้ อยู่มาจนป่านนี้ ถ้าของไม่ดี คงอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องกังวล

วันที่ 12 เราก็จะไปซ้อม ๆ ก่อน ซ้อมเส้นทาง จะเดินทางไปสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ถ้ามีเวลาไปแวะราชบุรี นิดหน่อย แล้วเราไปไหนต่อ ไปพักค้างคืนที่วัดอ้อน้อย รุ่งขึ้นเป็นวันวิสาขบูชา เราก็หล่อพระ ตักบาตร ใส่บาตร ทำบุญ เวียนเทียน แล้วสายๆ กินข้าว กินปลาเสร็จ เราก็เดินไปตามอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครปฐม เพื่อชวนเขาไปถวายอำนาจ แล้วเย็นๆ เราก็ขึ้นกลับไปสมทบกับลุงกำนันที่เวทีของลุงกำนัน ให้แกเห็นหน้า ว่าเราไม่ทิ้งแกนะ เรายังมาร่วมกับแกอยู่ เพราะว่า วันที่,13, 14 ,15 เป็นวันที่แกนัด อันนี้ นัดกันไว้ นะ นัดกันไว้

แต่ต้องมาที่นี่ วันที่ 5 วันที่ 6 เพื่อมาป้องกันสถานที่ เวที และศาล สถิตยุติธรรมที่เขาจะว่าความ พิพากษาคดีของนายก และรัฐมนตรี เรื่องคดีคุณถวิล เปลี่ยนศรี

วันที่ 5 ตอนเย็น ๆเราจะมีกิจกรรมสำคัญ เห็นสายสิญจน์สีแดงไหม ไม่ใช่หลวงปู่เป็นเสื้อแดงนะ หลวงปู่ใช้สายสิญจน์สีแดงมาตั้งแต่เริ่มบวช เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นใช้สีแดงมาตลอด นปช.เพิ่งจะเกิด ฉะนั้น เขาจะมีการสวดบูชาเทวดานพเคราะห์ ในวันที่ 5 ตอนบ่าย ๆ แล้วก็มีการบวงสรวงแท่นพระนภดลเศวตฉัตร ของพระเจ้าแผ่นดิน บรวงสรวงพระเสื้อเมือง ทรงเมือง พระหลักเมือง และพระกาฬชัยศรี รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ทำพลียกรรมต่อเทวดาทั้งหลาย เพื่อเราจะได้เคลื่อนทัพใหญ่ไปที่พระราชวังไกลกังวล อย่างแคล้วคลาด ปลอดภัย ไม่มีอันตรายใด ๆ

ก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายมาร่วมตัวกันเพื่อเข้าร่วมพิธีสวดบูชานพเคราะห์ เพื่อขจัดเสนียด*** ขับไล่อันตราย ปัดรังควานทั้งหลาย อันนี้เป็นความเชื่อทางพราหมณ์ มีอยู่ในคัมภีร์พระเวทย์ เป็นลัทธิพราหมณ์ แต่เป็นขวัญ กำลังใจ พระยุคโบราณเวลาจะเคลื่อนเขาจะให้ขวัญกำลังใจแบบนี้ เราก็จะให้แบบนี้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมา มาร่วมกัน วันที่ 5 มาเช้าไม่ได้ มาใส่บาตรไม่ทัน ก็มาบ่าย ๆ เย็น ๆ

วันนี้ หลวงปู่ก็เชิญ พลตำรวจเอก วสิษฐ เดชกุญชร เดี๋ยวก็จะทำหนังสือเชิญ คุณถวิล เปลี่ยนศรี แล้วก็ นายแพทย์ เหรียญทอง ให้มาเป็นปรานฝ่ายฆราวาส เพราะท่านเหล่านี้ เป็นผู้ที่กล้าหาญ มีสัญลักษณ์ของความดีงามปรากฏอยู่ เป็นที่ยอมรับของผู้คน ก็ให้มาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมกับเรา ในการหล่อพระ

คุณวสิษฐ รับปากแล้ว จดใส่ชื่อไว้แล้ว คุณวสิษฐ เดชกุญชร รู้จักกับหลวงปู่มา 20 ปีแล้ว สมัยก่อนก็เคยไปร่วมหล่อพระให้กับค่ายนเรศวร หลวงปู่ทำพระกริ่ง ชนะคน ชนะจน ชนะศึก ให้กับค่ายนเรศวร ไปหาทุนไปซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในค่ายนเรศวร ค่ายนี้หลวงปู่มีอุปการะคุณต่อค่ายนี้ มายาวนาน หลาย 10 ปี หมดเงินไปเป็น 10 ล้าน ตอนหลังนี่เห็นว่า ฝักใฝ่เสื้อแดง ฝักใฝ่ทรราช จนกลายเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ลูกหลานที่อยู่ในนั้นหลายคน ก็ชักเริ่มหมดแรง หมดกำลังใจ เห็นว่าเอา หลานของ อรุณ แสงสิงแก้ว ไปเป็นผู้กำกับอยู่ที่นั่น เห็นเขาไปขอจะใช้พื้นที่ค่ายนเรศวรพัก ที่จริง ก็ไม่ควรไปขอนะ ค่ายนเรศวร เพราะอยู่ใกล้ชิดพระราชวัง ไม่เหมาะสม ถ้าจะขอน่าจะเป็นควรจะเป็นค่ายมฤคทายวัน หรือพระราชวังมฤคทายวัน สถานที่ตรงนั้น ก็คงจะเหมาะ เพราะห่างไกลจากพระราชวัง กลางคืนที่นั่น แล้วเช้าก็เดินออกมา แล้วก็ไปที่ไกลกังวล แล้วก็ใกล้ ไม่ไกลมากนัก อย่างนี้เป็นต้น เดี๋ยวจะให้คนเขาไปติดต่อ ขอพักค้างคืนที่จังหวัดเพชรบุรี ที่ค่ายมฤคทายวัน ก็น่าจะได้

อันนี้คือกิจกรรมรายการของวันที่ 5 ที่ 12 และที่ 17, 18

พรุ่งนี้อย่าลืมนะลูก 9 โมงเช้า อย่าลืมเอาปากกามาด้วย นะ เขียนใส่ไปด้วยว่า นัดเจอกันวันที่ 16, 17, 18 ใครไม่ว่างวันที่ 16,17 ก็ขอให้ไปวันที่ 18 ให้พร้อมเพรียงกัน

แล้วก็ส่งสารไปยังลุงกำนันว่า ไม่ต้องกังวลว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ เวทีแจ้งวัฒนะ จะหักหลัง ไม่ยอมรับ ไม่ยอมร่วมมือ และปฏิเสธการต่อสู้ ไม่ พุทธะอิสระ จริงใจ ซื่อตรง และไม่เคยคิดหักหลังผู้ร่วมอุดมการณ์ แต่มีเงื่อนไข ทางเวลา ถ้าไม่เร่งรีบทำ 16, 17,18 ปล่อยให้กฎหมายเลือกตั้งออกมา จะมีคนตายเพิ่มขึ้น จะมีคนเจ็บเพิ่มขึ้น แล้วเราจะต้องเหนื่อยมากขึ้น

ถ้าลุงกำนันคิดว่า วิธีการของลุงกำนัน เจ๋ง ถูกต้อง และมีพลัง มี POWER ทำให้เกิดชัยชนะ ได้ ลุงกำนัน ก็ต้องเร่งรัดเกมส์ให้เสร็จ จบเบ็ดเสร็จ ภายใน 12,13,14 และ 15 ถ้ายังไม่จบ ขออาตมา ถอยหน่อย ถอยหน่อย ขออาตมาบ้าง แล้วลุงกำนันก็มากับเรา มากับพระ เดินตามพระ รับรองหมาไม่กัด ปลอดภัย แล้วจะได้กลับไปอยู่กับลูก กับเมียได้สบายใจ ถ้าไม่งั้น ก็ไม่รู้จะอีกกี่เดือน ต่อไปลูกเมียก็คิดถึง

ไม่ใช่หมายถึงหลวงปู่นะ หมายถึงลุงกำนันจะได้ไปอยู่กับลูกกับเมียได้อย่างปลอดภัย เพราะมันพูดติดกัน เดี๋ยวจะหาว่า อ้าวพระมีลูก มีเมีย นี่หว่า คนมันจ้องจะจับผิด อ้าวพระมีลูกมีเมีย ซวยกูอีก คนมันอยากจะจับผิดน่ะ

ฉะนั้น ฝากเสียงนี้ไปยังลุงกำนัน ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวจะโทรคุยกัน บอกให้ลุงกำนันรับรู้แต่ตอนนี้ต้องประกาศไปก่อน เพราะมีคนถาม ว่า ตกลงจะไปวันไหนแน่ แม้กระทั่งทหาร พวกลูกหลานทหาร ก็ไม่พอใจว่า หลวงปู่อาจจะเดินทางไปวันที่ 5 วันฉัตรมงคล ก็บอกว่า ส่งเสียง สัญญาณไปยังลูกหลานทหารว่า พุทธะอิสระไม่ใช่ปัญญาอ่อน มีสมอง มีความจงรักภักดีสุดชีวิต รู้ว่า อะไรควร ไม่ควร

ส่งสัญญาณไปยังผู้ว่าฯ ประจวบว่า พุทธะอิสระไม่ใช่คนปัญญานิ่ม ฉะนั้นคุณก็เตรียมสถานที่ไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน 18 เจอกันแน่ที่วังไกลกังวล ”

จากนั้นเป็นช่วงปุจฉา วิสัจฉนา

******** อย่าลืม เตรียมตัวกันให้พร้อมนัดหมายของเรา
วันที่ 5 พ.ค. กิจกรรมวันฉัตรมงคล /ตักบาตร อาหารแห้ง /ทำบุญมหาทาน /มอบปัจจัยยังชีพให้แก่ชาวนาเกษตร 999 ครอบครัว / จับสลาก มอบโค กระบือ / พิธีสวดนพเคราะห์ **เวทีแจ้งวัฒนะ
วันที่ 6 พ.ค.57 ศาลตัดสินคดี หากมวลชน กวป. หรือ นปช.มา มวลชนเตรียมป้องกัน
วันที่ 12 พ.ค.57 สำรวจเส้นทาง และเดินทางแจกเอกสาร
วันที่ 13 พ.ค. 57 ตักบาตร หล่อพระ ทำบุญเวียนเทียน ที่วัดอ้อน้อย
วันที่ 16 พ.ค.57 เดินทางไปวังไกลกังวล
วันที่ 17 พ.ค.57 ระหว่างการเดินทางไปวังไกลกังวล / เชิญชวน
วันที่ 18 พ.ค. 57 09.09 น. เจริญพระพุทธมนต์ /ถวายฎีกา /เดินทางกลับ

 

https://www.facebook...1&stream_ref=10

https://www.facebook...1&stream_ref=10




#1150854 พุทธะอิสระ เคลื่อนพลไปถวายพระคืนราชอำนาจ เพื่อ.....

Posted by kairyuramon on 3 May 2014 - 15:21

จริง ๆ ถ้าอยากรู้รายละเอียดผมแนะนำว่าให้ดูคลิปเอาเองดีกว่าครับ ท่านพูดตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของคลิปเลยดูซักประมาณสิบนาทีกว่า ๆ น่าจะพอเข้าใจรายละเอียดและเจตนาของท่านครับ

 

 

 

ถ้าให้ผมสรุปตามความเข้าใจมีดังนี้

 

- หลวงปู่ท่านจะดำเนินแผนนี้ก็ต่อเมื่อสุเทพทำไม่สำเร็จภายในวันที่ 15 ซึ่งช่วงเวลานี้ท่านก็จะให้ความร่วมมือสุเทพตามแผนการ

 

- ท่านมองว่าการใช้มาตราเจ็ด หรือการประกาศเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ทั้งสองฝ่ายสามารถทำได้เช่นกัน เช่น ถ้าสุเทพประกาศตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เสื้อแดงก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือกรณีนายกมาตราเจ็ด ถ้ากลุ่มกปปส.เสนอชื่อขึ้นไป รัฐบาลก็สามารถเสนอชื่อขึ้นไปได้ ในกรณีนี้จะเป็นการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะท่านต้องเลือกข้างโดยตรง

 

- กรณีรัฏฐาธิปัตย์จะทำสำเร็จได้ ต้องมีประชาชนทั้งสองฝ่ายร่วมมือกัน จึงจะสามารถใช้ข้อนี้ได้ แต่ถ้ายังแบ่งฝ่ายกันอยู่แบบนี้ เขาก็มีสิทธิ์ที่จะไม่รับอำนาจของเราได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นกรณีนี้โอกาสที่จะเกิดความแตกแยกยิ่งมีมากขึ้น

 

- กรณีมาตราสามที่หลวงปู่ท่านเสนอคือ รวบรวมประชาชนทั้งสองฝ่าย ไปถวายคืนพระราชอำนาจ เพื่อให้ในหลวงท่านเลือกใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา และงดเว้นบางมาตราเพื่อให้พ้นจากวิกฤตบ้านเมืองครั้งนี้ไปได้ (ไม่ได้ให้ท่านเลือกข้าง) ซึ่งถ้าเป็นข้อนี้คนในประเทศน่าจะยอมรับมากกว่า

 

- วิธีนี้ต้องใช้ก่อนประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งครับ ดังนั้นหลวงปู่ท่านจึงต้องเร่งรัดต่อจากแผนการของลุงกำนันครับ (ในกรณีที่ทำไม่สำเร็จ) เพราะถ้าประกาศออกมาแล้ว การไปถวายคืนอำนาจจะไปขัดแย้งกับกฎหมายที่ออกมาครับ ซึ่งจะทำให้เกมยิ่งยืดเยื้อเข้าไปอีก แล้วการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายกันอีกเท่าไหร่

 

 

ถ้าถามผมว่าเห็นด้วยเต็มที่ไหม ผมก็ยังคาใจในบางประเด็นครับ แต่ฟังจากเหตุผลท่านแล้วผมเลือกที่จะเชื่อท่านครับ ก็ต้องรอดูสถานการณ์อีกทีครับ




#1148431 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 30 April 2014 - 17:43

เห็นช่วงนี้มีหลาย ๆ กระแสบอกว่าหลวงปู่กับกำนันกำลังแตกคอกันครับ หลวงปู่ท่านพูดถึงเรื่องนี้เมื่อวาน ก็ชัดเจนดีครับ ใครสนใจลองอ่านดูได้

 

 

ผู้ดี กองแผน

 

วันอังคารที่ 29 เมษายน 2557
บางช่วงของการเสวนาธรรม หลวงปู่พุทธะอิสระ ** แนวทางหลวงปู่กับลุงกำนัน**
#เวทีแจ้งวัฒนะ#

 
10171740_10202687842095181_4768804440938

“....................วันนี้ คุณสุเทพ ก็โทรมาบอกว่า พรุ่งนี้ (30 เม.ย.)จะมาที่นี่ (เวทีแจ้งวัฒนะ) จะมากระซิบอะไรใส่หู ก็บอกว่า ไม่ต้องกระซิบหรอก พูดตรงนี้เลยเพราะพรุ่งนี้จะไม่อยู่ จะไปหาตังค์บ้าง จะออกไปเดินบ้าง ฮะ ฮะ ฮ่า.. พรุ่งนี้จะออกไปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกเสียเลย พรุ่งนี้เราจะไปกัน 2 ที่ 2 ไฟฟ้า ก็ 9 โมงเช้ารถเคลื่อนขบวน ใครจะไปร่วมกับหลวงปู่ก็ไป หลวงปู่บอกกับคุณสุเทพ ไปว่า คุณทำเรื่องของคุณที่คุณคิด ถ้ามันไม่สำเร็จฉันต้องทำตามวิถีฉัน แล้วมันเป็นวิถีที่ให้คุณได้ลง ตกลงตามนี้นะ เขาบอกครับ/ ตกลงตามนี้นะ /ตกลงตามนี้(คุณสุเทพบอก)/เราก็ดูว่าเขาจะทำอะไรบ้าง การเรียกมวลชนมาครั้งนี้ เขาจะเอามาเดินเนื้อตากแดดเฉยๆ หรือเขามีมาตรการที่จะให้เกิดชิงชัยชนะอย่างไร เดี๋ยวเราดูเขา แล้วเราก็ทำหลังจากที่เขาทำ

ถ้าเขาทำสำเร็จ เราก็พลอยดีใจกับเขาด้วย แล้วเราจะไปร่วมไหม ตรงนี้สำคัญมาก เราก็ทำกิจกรรมของเรา ตรงนี้หลวงปู่มีแผนอยู่แล้ว แผนที่จะสำรอง หรือแผนที่จะสนับสนุนกิจกรรมของลุงกำนันว่าจะทำอย่างไร เดี๋ยวจะโทรคุยกัน บอกกัน แต่เราจะไม่หักหน้า ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่ใช่เอาวิธีเรา แล้วไม่ใส่ใจวิธีเขา เพราะอย่างไรเราก็เพื่อนอุดมการณ์ต่อสู้กันมา ทุกข์ยากมาด้วยกัน ลำบากมาด้วยกัน หลวงปู่จะไม่เป็นคนหักหลังคน ปากหลวงปู่ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ในใจรู้ดี ก็บอกแล้วว่าลุงกำนันกับหลวงปู่ มองตากันรู้ใจ รู้ว่าจะทำอะไร ไม่ทำอะไร เข้าใจกัน หลวงปู่เข้าใจเขา เขาเข้าใจหลวงปู่ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า วิธีใครเลิศกว่า วิธีของใครประเสริฐกว่า ก็ให้เขาทดลองวิธีของเขา ถ้าทำแล้วยังไม่ได้ผล งั้นมาใช้วิธีของเรา

เพราะฉะนั้นลูกหลานไม่ต้องกังวล ว่า เวทีแต่ละเวที ทำอะไรไม่เหมือนกัน แล้วจะไปทะเลาะกัน เราไมได้ทะเลาะกันเลย ต่างคนต่างมีสมอง ต่างคนต่างมีหลักคิด วิธีคิดแตกต่างกัน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ให้เกียรติร่วมไม้ ร่วมมือกัน ในหลายเรื่องที่มันเห็นว่า จะเป็นช่องทางแห่งชัยชนะ และสำเร็จประโยชน์ต่อมวลมหาประชาชนคนทั้งชาติ ทั้งแผ่นดิน เราก็จะช่วยกันทำ ส่วนของเรา เราก็ทำในส่วนของเรา

วันที่ 5 นี้ (วันฉัตรมงคล) ลุงกำนันแกจะทำพิธีอะไร เราก็ทำในส่วนของเรา เวทีเรา เพราะเราไปไม่ได้ ถ้าขืนไปลุงกำนันให้ทำให้ตาย ก็ทำไม่ได้ เพราะถ้า นปช.มันมายึดที่นี่แล้ว มันก็ไปบังคับศาล ศาลก็ไม่ได้พิพากษา ลุงกำนันบวงสรวงให้ได้ ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับคืนมา เราจึงต้องอยู่ที่นี่ แล้วอีกอย่างหนึ่งที่นี่ก็ไม่ไกลจาก ปปช. ถ้าเขาเดือดร้อน มีอันตราย เราจะได้จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วทั้งหลายที่นั่ง ๆ กันอยู่ เหนียงยานกันอยู่เหล่านี้ หน่วยกล้าตายทั้งหลายนี่ล่ะ ไปสวดมนต์ไล่เสนียด*** ไปไหม..(..ไป...)

วันนี้ ปปช.ก็ทำงานไปได้ 1 แผนกแล้ว ก็คือถอดถอนวุฒิสมาชิกที่ลงคะแนนสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถอดไปกี่คน หลวงปู่ไม่รู้ แต่รู้ว่าถอดไปแล้ว อันนี้ให้เกียรติปรบมือให้กับ ปปช.เขาหน่อย..(เสียงปรบมือ เป่านกหวีด เกรียวกราว สนั่น) เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยตามข่าวว่า ถอดไปกี่คน (เสียงลูกหลานตะโกนบอก 36 คน) โอ้โห...ส่งเสียงให้ ปปช.เขาดังๆ หน่อย ..(เสียงปรบมือ เป่านกหวีด เกรียวกราว สนั่น) มันก็ค่อยๆ เดี้ยงไปเรื่อยๆ เดี้ยงไปเรื่อยๆ ทีนี้เราจะเคลื่อนไหวอะไรก็ชอบ ธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย ก็อำนาจเป็นของเรา ใช่ไม่ใช่ เออ....อำนาจเป็นของเรา ก็บอกแล้วไงว่า ในโลกนี้มีอำนาจอยู่ 3 อำนาจ 1. อำนาจกรรม 2. อำนาจจิต 3.อำนาจของประชาชน อำนาจของปวงชน

เพราะฉะนั้น ลุงกำนันปล่อยให้แกเล่นจนกระทั่งหมดฤทธิ์ หมดมุก เราถอยหาทางลงให้แก หลังจากนั้นเราก็จะไปทูลเกล้าฯ ถวายอำนาจของเรา แล้วก็จะเรียกลุงกำนันให้เดินทาง ไปด้วย เพราะหลวงปู่ไม่เคยกบฏ และทรยศเพื่อน พี่น้อง ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ไม่ทำร้ายใคร โดยเฉพาะคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับเรา เราต้องให้เกียรติเขา แม้นปากหลวงปู่จะเป็นคนเฉยแฉะ ตำหนิ ติว่า แต่ใจหลวงปู่สบาย เป็นคนใจดี ไม่ใช่ใจดำ ไม่ใช่หน้าซื่อตาใส ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ อย่างนั้น ทำไม่เป็นมีแต่นักการเมืองมันทำกันได้ หลวงปู่ ทำไม่เป็น

เอาเป็นว่า เราก็เตรียมพร้อมเอาไว้ ถ้าลุงกำนันแกเรียกระดมพล ว่าง ๆ ก็แวะไปดูแกหน่อย แต่ อย่าเอาเนื้อไปเดินตากแดดนานนัก เพราะที่มีอยู่มันก็แห้งพอสมควรแล้ว ทั้งแห้ง ทั้งเหี่ยว ขืนตากแดดกว่านี้ จะเหลือแต่ซี่โครงไม้เสียบผี เดี๋ยวจะไปกับหลวงปู่ไม่ได้ (ฮา ) ฉะนั้นก็อย่าไปตากนานนัก เห็นแว่บๆ แล้วเราก็กลับมารวมพล รอกำลังว่า ดูท่าแกไปไหนไม่ได้แล้ว ก็ค่อยมารวมกัน แล้วเราก็จะไปกัน ไปกันแบบแผนเดิมนั่นแหละ แต่ละจังหวัดเราก็จะเดินกันไป ไปของเราเรื่อยเปื่อยไปทุกจังหวัด ที่ผ่านเส้นทาง ตรงไหน แล้วก็พักคืนละจังหวัด คืนละจังหวัด ไปเรื่อย ถึงเวลา พวกเขาที่เราแวะพัก แล้วก็บอกเขา เขาจะได้นั่งรถเดินทางไปรวมกับเราที่วังไกลกังวล หัวหิน เต็มกันไปหมด............”

............สาธุ รับทราบและปฏิบัติ.............
 



#1148383 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 30 April 2014 - 16:49

Thefukks Fathers

วันพุธที่ 30 เมษายน 2557

 

1456606_1428406510751930_843616872024587

 

เวลา 08.59 น. เวทีแจ้งวัฒนะ

หลวงปู่พุทธะอิสระ นำลูกหลานนักรบพระราชาเดินทางเยี่ยมเยือน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต เพื่อชักชวนร่วมลงชื่อสนับสนุน 3 สภา (ร่าง) และ เชิญชวนร่วมเดินทางกู้ชาติ ถวายคืนพระราชอำนาจ เจริญมนต์ถวายพระราชกุศล ณ พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อถึงวันที่ชาติต้องการ เราจะร่วมเดินทางโดยพร้อมเพรียงกัน...

09.49 น. ณ. ห้องประชุม เฟื่องฟ้า 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิต

หลวงปู่พุทธะอิสระ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายลูกหลาน กฟผ. ที่รอต้อนรับ ถวายมาลัยดอกไม้ กราบนมัสการ บรรยากาศอบอวลด้วยความอบอุ่น รอยยิ้ม และมิตรไมตรี พี่น้อง กฟผ. ส่วนใหญ่ (แทบจะทุกท่าน)พร้อมใจกันใส่เสื้อเหลือง ต้อนรับพี่น้องชาวแจ้งวัฒนะ มีการตั้งพุ่มผ้าป่าเพื่อร่วมกันบริจาคตามกำลังศรัทธา พี่น้องที่มาจากแจ้งวัฒนะ ยังอดใจไม่ไหว...ไปช่วยกันติดพุ่มเพิ่มความสวยงาม

10.09 น.
ขณะนี้ หลวงปู่ พูดคุยปราศรัยทำความเข้าใจเพื่อเชิญชวนพี่น้อง กฟผ.ร่วมเดินทางกู้ชาติฯ ...โดยอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อ มาตรา 70 หน้าที่ของชนชาวไทย ซึ่งต้องธำรงค์รักษาไว้ ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และต้องร่วมแรง ร่วมใจกัน ผลักดันหน้าที่ของเรา ให้กลายเป็นขุมพลังอำนาจอันยิ่งไหญ่คืออำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยตามมาตรา 3 ไปถวายคืนความยิ่งใหญ่ให้กลายเป็น พระราชอำนาจ เพื่อแก้ไขวิกฤติ ของบ้านเมืองให้ผ่านพ้นไป โดยอาศัย บุญญาบารมี และพระราชวินิจฉัย ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว .....

หลวงปู่ บอกเล่าเรื่องราว โครงการต่าง ๆ ณ เวทีแจ้งวัฒนะ

- โรงสีข้าว

- โรงกลั่นน้ำมัน

- การเลี้ยงสัตว์ - เพาะปลูก

- ตลาดกลางทางการเกษตร

- การแปรรูปทรัพยากรอันเป็นผลพวงจากโครงการ เช่น รำข้าว นำมาทำคุ๊กกี้รำ / แกลบ นำมาผสม กรีเซอร์ไลน์อัดก้อนเป็นเชื้อเพลิง ฯลฯ

เพื่ออธิบายเชื่อมโยงไปถึง 3 สภา(ร่าง) ของเวทีแจ้งวัฒนะคือ

-สภาชาวนา และเกษตรกรแห่งประเทศไทย

สภาศีลธรรม และคุณธรรมแห่งชาติ

สภาพลังงาน และการจัดการทรัพยากรแห่งประเทศไทย

ให้ลูกหลาน กฟผ.ทำความเข้าใจเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความกระจ่างแจ้ง จะได้ร่วมแรง ร่วมใจ เพื่อชัยชนะของคนไทยทุกคน ในการร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุน 3 สภา (ร่าง) เพื่อผลักดันเข้าสู่การยกระดับก่อตั้งเป็นองค์กรอิสระ เป็น"สภาหลักคิด" ของชาติในโอกาสต่อไป....

10.49 น. หลังตอบข้อซัดถามของลูกหลาน กฟผ. เพื่อทำความเข้าใจในข้อสงสัยต่าง ทั้งเรื่องของมาตรา 70 นำพาไปสู่มาตรา 3 (การถวายคืนพระราชอำนาจ) และ สภา(ร่าง) ทั้ง 3 สภา จนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ...หลวงปู่ ได้กล่าวปิดท้าย ด้วยการขอบคุณ ลูกหลานที่เป็นกำลังใจ "แต่กำลังใจน่ะเยอะแล้ว ตอนนี้ต้องการกำลังพล" (คุ้นๆ..คำนี้) และ.....อย่า.....ทิ้ง....ฉัน...นะ....

จากนั้นเป็นการ อาราธนาศีล หลวงปู่ ให้ศีล และนำกล่าวถวายพุ่มผ้าป่า กรวดน้ำ รับพร เสร็จสิ้นเรียบร้อย หลวงปู่จึงได้ฉันภัตตาหารเพล ซึ่งพี่น้อง กฟผ.จัดเตรียมถวาย เมื่อเวลา 11.19 น.

ส่วนลูกหลานพญาราชสีห์ นี่ยิ่งอิ่มหนัก เพราะว่าพี่น้อง กฟผ.ต้อนรับอบอุ่นมาก ใช้คำว่า "เลี้ยงดูปูเสื่อ" ได้เลย..!!
อาหาร - เครื่องดื่มพร้อม..เพียบ..แทบจะรู้สึกว่านี่คือเวทีอีกเวทีหนึ่ง...ซาบซึ้ง น้ำใจ..ขอให้บุญหนุนส่งให้เจริญก้าวหน้า...(แต่มีพี่น้องหลายท่านฝากมาบอก ว่า..ถ้าจะช่วยชะลอการขึ้นค่าไฟฟ้า จะได้ บุญหนุนส่ง คงทนถาวร กว่านี้มากนะครับ....55555)

11.41 น.หลังฉันภัตตาหารเพลเสร็จหลวงปู่ ให้พรอีกครั้ง และในระหว่างที่หลวงปู่ ฉันภัตตาหาร รอง ปธ สหภาพแรงงาน กฟผ. ได้กล่าวให้ความมั่นใจ แก่พี่น้องร่วมสู้ว่า เมื่อถึงวันสำคัญ (ซึ่งลุงกำนันจะแถลง แนวทางคืนนี้) กฟผ และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงานพร้อมที่จะนัดหยุดงาน เพือชาติ ขอให้รอฟังสัญญาณจากหลวงปู่ และลุงกำนันถือเป็นนัดหมายสำคัญที่สุดในชีวิต

หลวงปู่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้รอวันเวลา รัฐบาลพ้นสภาพ เมื่อไหร่เราจะได้ไปถวายคืนอำนาจอธิปไตยของเรา ต่อผู้ที่เราไว้ใจได้ที่สุดในชั่วชีวิตนี้ "คือพ่อของแผ่นดิน"ผู้มีแต่ให้ และไม่เคยเรียกร้องอะไรจากลูก
ถึงเวลาแล้วที่เรา ท่าน ลูกกตัญญูทั้งหลาย จะได้เป็นฝ่ายให้ "พ่อของเราบ้าง" ด้วยการให้อำนาจอธิปไตยของเรา ทูลเกล้าฯ ถวายคืนให้แก่พระองค์ท่านให้พระองค์ท่านได้ใช้พระราชวินิจฉัยให้พระราชอำนาจ ยังประโยชน์สูงสุดแก่มหาชนชาวสยาม ในวิถีทางแห่งธรรม...

นับว่าครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ เรามิได้เกิดมาเสียชาติเกิดแล้ว....ขอบคุณ ๆ ลูกหลานทุกคน

11.59 น.หลังแจกล็อคเกจให้ลูกหลาน กฟผ. จนครบถ้วน หลวงปู่สั่งลูกหลานขึ้นรถ เคลื่อนทัพสู่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต่อไป พี่น้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิต น่ารักมาก(จุ๊บๆๆ) ต่างออกมาโบกมือ ตบมือตบ เป่านกหวีด ส่งลูกหลานราชสีห์ พี่น้องแจ้งวัฒนะจนลับตา

12.39 น.

ตึก LED การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

หลวงปู่พุทธะอิสระ และลูกหลานเวทีแจ้งวัฒนะ แวะเยี่ยมเยียนทักทาย พี่น้องการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น (แอร์เย็นฉ่ำ) โดยที่นี่หลวงปู่ จะใช้เวลาแสดงธรรม และชักชวน ลูกหลาน กฟภ.ไม่นานนัก (เพราะมีนัดกับลุงกำนัน) หลวงปู่ ได้อธิบายหัวข้อเนื้อหา 3 สภา และทางออกในการแก้ไขวิกฤติ โดยการทูลเกล้าฯถวายคืนพระราชอำนาจฯ พี่น้อง กฟภ.ร่วมรับฟังอย่างหนาแน่น....

14.19. น.

หลังเสวนาธรรม และอธิบายความทั้งเรื่อง 3 สภา และมาตรา 70 ตามอำนาจหน้าที่ของพลเมืองที่ดี เพื่อนำไปสู่การทูลเกล้าฯถวาย อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยให้เป็นพระราชอำนาจขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว และหลวงปู่ ได้ตอบข้อซักถามเสร็จสิ้น ปธ.สหภาพแรงงานรัฐวิสากิจ กฟภ.ได้แสดงจุดยืนประกาศเจตนารมย์ ชัดเจนและขอฟังเสียงแนวร่วม เพิ่มความมั่นใจ ให้หลวงปู่ และพี่น้องแจ้งวัฒนะได้ชื่นใจว่า เมื่อถึงวันนัดหมายสำคัญที่หลวงปู่ และลุงกำนัน เรียกรวมพล กฟภ.ขอแสดงจุดยืนสนับสนุน อย่างแน่นอน พี่น้อง กฟภ.ขานรับกันกึกก้อง พญาราชสีห์ และลูกหลานแจ้งวัฒนะยิ้มอย่างภาคภูมิใจ..

หลวงปู่ จึงนำ คำถวายผ้าป่าช่วยชาติ (ที่นี่ก็จัดเต็มเช่นกัน) เมื่อถวายผ้าป่าให้หลวงปู่ ทำการรับโดยการชักผ้าไตรเสร็จสิ้น หลวงปู่ ให้พร (กรวดน้ำ) และกล่าวร่ำลา พี่น้องการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ออกมายืนส่งหน้าตึก บางรายก็เดินมาส่งผู้สูงอายุถึงที่รถ เป็นภาพความประทับใจ และเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้อย่างสวยสด งดงาม

ขอบคุณพี่น้อง จนท.การไฟฟ้าฝ่ายผลิต / การไฟฟ่าส่วนภูมิภาค และพี่น้องร่วมทาง

พี่น้องการ์ดอาสา / ทุกกำลังใจ และการติดตาม...

วลีเด็ดหลวงปู่ วันนี้......

"กำลังใจน่ะเยอะแล้ว...ต้องการกำลังพล".....อย่า....ทิ้ง...ฉัน....นะ...!!!

 

https://www.facebook...77833096&type=1




#1147403 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 29 April 2014 - 15:56

คุณขายอำนาจ ขายสิทธิ ให้แก่นักการเมือง นักเลือกตั้ง แต่ทำไมคุณไม่ยอมยกอำนาจของคุณให้แก่พระเจ้าอยู่หัว ทั้งที่ตลอดเวลา ๖๐ ปี พระเจ้าอยู่หัว ทรงเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองมากขนาดไหน พวกคุณไม่รู้หรือ แล้วไอ้พวกนักการเมืองทั้งหลายมันได้ทุ่มเท เสียสละอะไรให้ได้เห็นบ้าง พวกมันมีความจริงใจ ไม่เอาเปรียบต่อชาติบ้านเมืองจริงหรือ แล้วทำไมเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาถึงได้ฆ่าตัวตาย ใช้หัวคิดหน่อย มองให้รอบตัว คิดให้รอบด้าน อย่าเห็นแก่ได้มากนัก จนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์

พี่น้องไทยที่รัก พวกเราทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า พระเจ้าอยู่หัว ราชวงศ์จักรี มีคุณต่อแผ่นดินไทย คนไทย ขนาดไหน แล้วทำไมพวกเราจึงลังเลที่จะถวายอำนาจของพวกเราแด่พระองค์ เพื่อพระองค์จักได้ใช้อำนาจนั้น ทรงวินิจฉัย เลือกใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา และงดเว้นรัฐธรรมนูญ บางมาตรา เพื่อทรงใช้รัฐธรรมนูญนั้นๆ ผ่านรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครอง ปลัดกระทรวงต่างๆ เพื่อทำการแก้ปัญหาบ้านเมืองที่หมักหมมมานาน

แล้วพี่น้องยังจะลังเลอะไรอยู่ ยิ่งปล่อยไว้นาน ความแตกแยก ก็จะยิ่งลุกลาม มากขึ้น บ้านเมืองก็จะเสียหาย ยากจะแก้ไข ทั้งที่พวกเรามีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๗๐ ว่า บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หากวันนี้คนไทยนิ่งเฉย ดูดาย สุดท้ายชาติไทยคงล่มสลาย ตกเป็นทาสของใครๆ แน่

ออกมาเถิดพี่น้องไทย หลังจาก ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ป.ป.ช. หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง พิพากษา ชี้มูลความผิดของนายกรัฐมนตรีก็ดี หรือ คณะรัฐมนตรี ถือว่าเป็นบุคคล หรือ คณะบุคคลต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๘๒ ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว เมื่อ

"
(๓) ต้องคําพิพากษาให้จําคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นกรณีที่คดียังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอ การลงโทษในความผิดอันได้กระทําโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
"

และยังมีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อีกหลายมาตราที่แสดงความเป็นบุคคลต้องห้ามของรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลชุดนี้ต้องรับผิดชอบ เช่นนี้ พี่น้องปวงชนชาวไทยทั้งหลาย จึงชอบที่จะปฏิบัติการถวายคืนอำนาจ แด่พระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ได้ทรงใช้หลักราชประชาสมาสัย พระมหากษัตริย์ ร่วมกับประชาชน ทำการแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง

ออกมาช่วยหาทางออกของบ้านเมืองกันนะจ๊ะ พี่น้องไทยทุกท่าน เมื่อใดที่ ศาล หรือ ป.ป.ช. ชี้มูล พวกเราก็คอยรับสัญญาณจากเวทีแจ้งวัฒนะ แล้วออกมาเดินบ้าง นั่งรถบ้าง ไปทูลเกล้าถวายอำนาจของพวกเราแด่ พระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงมีพระราชวินิจฉัยตามพระราชอัธยาสัยสืบไป

พุทธะอิสระ
๒๘ เมษายน ๒๕๕๗

 

https://www.facebook...6?stream_ref=10

 

 

รายละเอียดของเรื่องนี้สามารถดูได้ในคลิปนี้ครับ เริ่มประมาณนาทีที่ยี่สิบครับ (ช่วงต้นคลิปจะเกี่ยวกับการ์ดในเวทีแจ้งวัฒนะ)

 




#1146865 ทำไมเสรีไทย ถึงมีแต่ กปปส สาวก ปชป

Posted by kairyuramon on 28 April 2014 - 21:18

พวกนี้นี่เซียนดีนะครับ ประเด็นที่ตัวเองเสียประโยชน์จะไม่ตอบ ปล่อยผ่านไป ส่วนประเด็นที่โจมตีอีกฝ่ายได้ก็จะย้ำตลอด

 

จริง ๆ เจตนาเขาก็ดูชัดเจนดีนะครับ (ไม่ได้อยากรู้ แต่อยากเข้ามายั่วอารมณ์) ปล่อยกระทู้ตกน่าจะเป็นการตอบโต้คนที่ไม่อยากคุยกับเรา

 

เก็บแรงไว้คุยกับคนที่เขาอยากคุยกับเราดีกว่า




#1145664 สงสัยว่าทำไมห้องราชดำเนินในพันทิพย์ถึงมีแต่คนเสื้อแดงครับ

Posted by kairyuramon on 27 April 2014 - 14:53

ผมว่าคุณต้องลองสังเกตพวกสื่อในยุคที่ทักษิณครองอำนาจครับ เขาพยายามจะรวบรวมสื่อทั้งหมดให้มาเป็นพวกเขา

 

การประชาสัมพันธ์ว่าตัวเองดี คนอื่นแย่ แล้วก็ประชาสัมพันธ์ซ้ำ ๆ มันสามารถครอบงำคนได้ครับ โดยเฉพาะพวกที่ไม่ค่อยได้ตามข่าว

 

อีกอย่างคือพวกกระแสหลัก อย่างเช่น คนดัง เว็บดังพูดถึงอะไรแบบนั้น มันก็ชักชวนคนได้ระดับหนึ่ง

 

กรณีเว็บพันทิพย์ก็เหมือนกันครับ เว็บนี้ได้ชื่อว่าเป็นเว็บดัง มีคนติดตามเยอะ มีชื่อเสียงมานาน

 

ผมว่ามันไม่แปลกหรอกที่มันจะมีกระบวนการครอบงำสื่อนี้ แล้วใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์โดยที่ไม่ต้องเน้นข้อเท็จจริงเท่าไหร่

 

 

ลองสังเกตการพูดคุยกันในเว็บบอร์ดก็ได้ครับ ผมว่ามันไม่เหมือนคนคุยกัน มันเหมือนคนชักจูงกันมากกว่า

 

อย่างในเว็บนี้ผมว่าผมเห็นความเห็นขัดแย้งกันบ้างพอสมควรนะครับ ไม่ได้เห็นด้วยกันทั้งหมด

 

แต่พันทิพย์มันแทบจะเป็นไปในแนวทางกันหมดเลย เหมือนโฆษณาชวนเชื่ออะครับ

 

รู้แบบนี้ผมเลยหาที่เล่นใหม่ดีกว่า (สมัยตามการเมืองใหม่ ๆ ผมก็เคยเข้าไปดูในพันทิพย์เหมือนกัน) จนมาเจอเว็บบอร์ดนี้นี่แหละครับ




#1142791 ถ้ายิ่งลักษณ์ล้ม ไม่นานเขาจะกลับมายิ่งใหญ่ ดุดันชนิดหลับตาไม่ลง !!!

Posted by kairyuramon on 24 April 2014 - 03:00

ถ้าล้มนี่ไม่รู้จะได้ลุกเมื่อไหร่นะครับ คงต้องหนีคุกกันหลายคดีล่ะ




#1140524 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 21 April 2014 - 13:39

Thefukks Fathers

 

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

เวลา 19.09 น. เวทีแจ้งวัฒนะ

หลวงปู่พุทธะอิสระ เสวนาธรรม ยามค่ำ
 

10255474_1425584041034177_1102683589_n.j

หลวงปู่เริ่มต้นกล่าวทักทาย “รู้สึกเบาไม๊ลูก ถ้าให้หลวงปู่เลือกนะ ระหว่าง ปราณโอสถ กับหยิบแล้ววางเนี่ย (การนั่งสมาธิ ในช่วงเจริญมนต์เย็นที่ผ่านมา) หลวงปู่ชอบวางมากกว่า เพราะวางแล้วมันจะทำให้เราเบา มันสบายลูก มันมีความสุข ไม่มีภาระ แต่ถ้าปราณโอสถนี่ มันเป็นภาระที่จะต้องแบกๆ อะไร ก็คือพลังมันก็เป็นสิ่งที่เราต้องแบก แม้เราไม่อยากแบกแต่มันต้องมีอยู่ มันเป็นสิ่งที่ใส่เข้ามา เป็นสิ่งที่เราสะสมเอาไว้ แต่หยิบแล้ววาง เป็นสิ่งที่เราระบายออกไป พูดง่ายๆ คือ สำรอกออกไป ทำให้มันพ้นไป ให้มันหมดไป ทำให้มันสิ้นไป เพราะฉะนั้นมนุษย์ และสัตว์ ไม่ว่าจะอยู่ในภพชาติใด มันก็ มีแต่ยึด กับแบก ยึดแล้วก็แบกๆ เป็นภาระมาทุกภพ ทุกชาติ เขาจึงใช้คำว่า ท่านจึงใช้คำว่า “อุปปาทาน” อุปปาทานในชาติ อุปปาทานในภพ อุปปาทานในอวิชชา อุปปาทานในตัณหา อุปปาทานในขันธ์ 5 คือความยึดถือ ฉนั้นก็ ทำสิ่งที่มันกลับกัน ก็คือ ไม่แบก ถ้าเป็นตุ่มน้ำ ก็ทุบตุ่มมันทิ้งซะ ถ้าเป็นแก้วแหวน เงินทอง ก็โยนมันทิ้งซะ ไม่ถึงขั้นว่าถ้าเป็นเสื้อผ้า ก็แก้ผ้ามันเดินซะ ไม่ต้องถึงขั้นนั้น ไอ้นั้นมันบ้าแล้วลูก (ฮ่าๆๆๆ) นั้นมันบ้า อย่าถึงขั้นนั้น แต่ถามหลวงปู่ว่าชอบอันไหน ที่มีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่ กับเดินแก้ผ้านี่นะ หลวงปู่ ชอบเดินแก้ผ้านะลูก (ฮ่าๆๆๆๆ ...หลวงปู่ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ...ลูกหลาน ก็พลอยยิ้ม หัวเราะอย่างมีความสุข) แค่เป็นความชอบ มันเบา เออ....มันเบา โอ้โห....เดินแก้ผ้าเลยหรือท่าน มันเป็นอารมณ์ไง ก็อารมณ์ความเบา มันเบาๆ สบายไม่ต้องเป็นภาระอะไร ไม่ต้องเป็นกังวลอะไร ไม่ต้องมีพันธนาการอะไร จิตใจมันก็โปร่ง เบา สบาย

ถ้างั้นถ้าจะให้เลือก หลวงปู่ เลือกที่จะทำ หยิบแล้ววาง วางแล้วว่าง ดับแล้วเย็น .....ๆ ...อย่างนี้ดีกว่า เลือกที่จะทำแบบนี้ ไม่ชอบเลือกที่จะให้มัน มีฤทธิ์ มีเดช มีอำนาจ มีศักดา เพราะมีมาเยอะแล้วลูก มันมีมาเยอะแล้ว เอาเป็นว่าให้มันเบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ใครดูโทรทัศน์ ใครดูช่องอิสระธรรมไม๊ ได้ดูไม๊ .?..เห็นหลวงปู่ ตอนที่ไปนั่งอยู่ที่น้ำตกไม๊ ? ได้ดูป่าว ....(ลูกหลาน ตอบ ว่าดู...แต่ไม่เห็น...ฮ่าๆๆๆ) อ้าว..!!! ตอแล้วเนี่ย ตอ (แหล) แล้ว ไหนบอกว่าดู แต่ไม่เห็น ยังงี้จะได้ยังไง นั่นหล่ะ สบายที่สุด ก่อนที่หลวงปู่ จะมาเป็นผู้นำทัพเนี่ย หลวงปู่ไปอยู่ในป่า นั่นหล่ะ อยู่ท่ามกลาง สายลม แสงแดด ป่าเขาลำเนาไพร น้ำตกไหล จ๊อกๆๆๆๆๆ ...โห้ยยย...จิตใจมันสบาย ...อยู่ได้ 10 วัน 10 คืน ก็มีทูต ไปอาราธนา บอก “ท่าน...อย่ามัวแต่มานั่งเสพสุขอยู่เลย บ้านเมืองกำลัง ทุรน ทุราย เร่าร้อน ท่านต้องออกมาช่วยชาติ บ้านเมือง กู้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่พึ่งของพระราชาผู้ทรงธรรม”....อ้าว...ได้เวลาแล้วเหรอ...ที่เรา ต้องออกมารบทัพจับศึก...มาเป็นแกนนำ...

ก็เลยจำเป็นต้องออกมา ออกมานำทัพ พาลูกหลาน ทำ ภารกรรมหน้าที่ของผู้กตัญญูแผ่นดิน และ ทดแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างที่เป็นและเห็นอยู่ ถามว่า มันเป็นภาระไม๊ ..? เป็นลูกแต่ต้องวางให้ได้ วางให้เป็น ต้องเข้าใจบทบาทของตัวเอง แต่ถ้าความชอบแล้ว หลวงปู่ชอบ แบบนี้ ...ไม่งั้นก็คงไม่ชื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ...พุทธะอิสระ ต้องมีอิสระ ถ้าไม่มีอิสระ ก็ไม่รู้จะชื่อนี้ไปทำไม มียี่ห้อไปทำไม ชื่อนี้เขาไม่ได้ให้มา ไม่ได้เรียกมาโดยส่งเดช ...มั่ว ซี้ซั้วเรียกๆ มาเพราะมีสัญลักษณ์ มีเอกลักษณ์ มีที่มาที่ไป .......เดี๋ยวบอก พิธีกร ให้เตรียมคำถาม 7 ข้อของ ศอรส.น่ะ อยู่กับใคร วันนั้นให้แล้ว ช่วยถามให้หน่อย เดี๋ยวให้พิธีกรทำหน้าที่ถาม เดี๋ยวจะได้วิสัชนาให้เขารู้หน่อยว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง

วันนี้มีพวกคณะแกนนำพันธมิตรเก่า เช่นอาจารย์ สมศักดิ์ โกศัยสุข / ชัยวัฒน์ สินสุวงศ์ หลายคนน่ะ มาประชุม มาพูดคุยกับหลวงปู่ มาขอคำปรึกษา มาบอกกล่าวสิ่งที่เขาคิด หลวงปู่ ก็ฟังเขาทุกคนๆ แล้วก็เลย สรุปให้เขาฟังว่า สิ่งที่เราคิด และยุทธวิธีของเราคืออะไร แต่ถามว่าบอกตอนนี้ได้ไม๊ ก็ ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอก แต่อยากจะบอกลูกหลานว่า เราคงใกล้เวลาที่จะเดินทางไป สวดมนต์ ถวายพระพร ที่ชายทะเลกันแล้ว.......ไปไม๊...? (....ไป..ลูกหลานตอบ...) ไปไม๊...?...(ไป....) แค่นี้ไม่พอลูก ต้องมากเท่ามาก....ต้องมากเท่ามาก...นะ...เราใกล้แล้วหล่ะ...จวนเจียน แล้ว...นะ ....เป็นความฝันที่เราจะไปถวายพระพร พ่อของเรา....นะ....เราจะไปถวายพระพรแม่ของเรา ...นะ พ่อ – แม่ เราพระองค์ทรงทุกข์มามากแล้ว เราต้องไปให้กำลังพระราชหฤทัย ให้พระองค์ได้เห็นว่า ลูก หลาน พระองค์นี่ได้กตัญญูต่อพระองค์มากแค่ไหน เตรียมตัวไว้ให้พร้อมแล้วกัน ถ้าได้ยินเสียงนกหวีด ....ปรี๊ดดด...เตรียมตัวขึ้นรถทันที...แล้วมารวมที่นี่ ....(ลูกหลานราชสีห์...คำรามรับ...)

วันนี้ยังส่งสัญญาณไปยังพี่น้อง ลูก หลาน ที่อยู่ทางยุโรป อยู่อเมริกา อยู่ฮอลแลนด์ อยู่รัสเซีย อยู่ในที่ใดๆ ที่เขามาเยี่ยมเยียน บอกว่า “พวกมึงฟังเสียงสัญญาณ หลวงปู่แล้วกัน ถึงเวลาแล้วก็ เหมาเครื่องบินมาเลย” มาลงที่นี่ แล้วเราจะไปเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรพ่อ – แม่เรา ให้ท่านได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าเรานี่เป็นลูกกตัญญู แล้วสายตาชาวโลกนี่จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของลูกหลานพระองค์ว่า รักพระองค์มากขนาดไหน เทิดทูน เสียสละให้แก่พระองค์มากเพียงใด ...นะ....เราจะไปกัน ....ใกล้แล้วลูก ใกล้เวลาแล้ว แต่หลวงปู่ บอกแล้วว่า ถ้าจะไป คือมันต้องมีหลักการ และเหตุผลชัดเจน อยู่ดีๆ ไปส่งเดชเดี๋ยวเสียของเปล่า คือเราไปแล้ว ก็ต้องเห็นชัดว่า เอาหล่ะ...!! ได้เวลาแล้วที่เราจะต้องไป ไม่ใช่นึกอยากไปก็ไป หลวงปู่ จะทำอะไรไม่ใช่เพราะทำตามความอยาก แต่ทำเพราะมันจำเป็นต้องทำ ทำเพราะมันมีเป้าชัดเจนที่ต้องทำ และพึงกระทำ นะให้เข้าใจตามนี้ลูก.....
ถามจริงเหอะ....ไปไม๊เนี่ยะ...? (....ลูกหลานตอบดังลั่น.....ไป....) จริงอ่ะ....(จริง....ค่ะ..../...ครับ...) รถ 500 คัน..พอไม๊...!!!!....ฮ่าๆๆๆๆๆๆ...หลวงปู่ ...หัวเราะอย่างมีความสุข....รถตุ๊กๆ เหรอ...!!! (ฮ่าๆๆๆ)....

วันนี้ประชุมแกนนำชาวนา ..พรุ่งนี้จะส่ง กปปส.ภาค 7 + 2 ไปดูพื้นที่ๆ จะสำรวจเพื่อสร้างโรงสีชุมชน แล้วก็เชิญนักข่าวนะลูก ลูกหลานนักข่าวที่อยู่สำนักข่าวใดๆ ก็ตามเขาไป น่ะ...เป็นความก้าวหน้าของเวทีแจ้งวัฒนะ ที่จับต้อง ลูบคลำได้ เราอยากจะให้พี่น้องชาวนาเขาร่ำรวย รุ่งเรื่อง วันนี้อาจารย์จากราชภัฏใช่ไม๊...? เออ...คณะบดี จากราชภัฏพระนคร มาเยี่ยม แล้วก็มาคุยถึงเรื่องแบบแผน แผนผังที่จะเอามาใช้สร้าง ว่าจะทำแบบไหนอย่างไร หลวงปู่ ก็บอกกับเขาไป คุยกับเขาไปว่าให้เวลาคุณอาทิตย์หนึ่ง ไปเขียนผังมา แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้แกนนำเขาไปดูพื้นที่ ดูความเป็นไปได้ แล้วก็ดูมวลชนว่า เขาเกาะกลุ่มกันได้ถึง 200 ครอบครัวจริงไม๊...? แล้วถ้าเขามารายงานว่าจริง สมเหตุ สมผล ที่จะลงทุนแล้วคุ้ม คำว่าลงทุนคุ้ม ก็คือ เราสร้างให้เขาแล้วมันคุ้ม มันคุ้มที่จะบริหารจัดการ เป็นดอก เป็นผล ให้พวกเขาได้รับประโยชน์กัน ทั้ง 200 ครัวเรือน หรือมากกว่า 200 กว่าครัวเรือนในคลอง 14 เราก็พร้อมที่จะลงทุน เสียสละ....

วันนี้อาจารย์ถามหลวงปู่ คำหนึ่ง...ถามแบบตรงไป ตรงมา ยิงตรงเข้าหัวใจว่า.... “มีสตางค์เท่าไหร่”....ฮ่าๆๆๆๆ...( หลวงปู่...หัวเราะ..กร๊ากก) / หลวงปู่ ก็เลยบอกเขาไปชนิดหน้าด้านๆ ว่า “ไม่มีจ้ะ”...(ฮ่าๆๆๆ) มีก็แค่ 500,000 บาทที่ได้กำไร จากการขายข้าวมา ก็จะพยายามเก็บหอม รอมริบไปเรื่อยๆ กะว่าสร้างให้ทันปีการเก็บเกี่ยว ฤดูกาลหน้า คุณไม่ต้องกังวล มีหน้าที่ไปออกแบบมา เดี๋ยวฉัน ขายสบง ขายจีวร เดินแก้ผ้าอะไรมันเรื่อยเปื่อยไป (ฮ่าๆๆๆๆ) ให้มันรู้ไป....ทำได้....ทำได้ ....พุทธะอิสระ พูดแล้วทำได้....นุ่งใบตองเอาก็ได้ไม่เป็นไรหรอก เพราะจีวรก็มีคนเคยมาติดต่อขอซื้อแล้ว แต่มาขอซื้อแล้วให้ไปเป็นผัวชาวบ้านไม่เอานะจ๊ะ....(ฮ่าๆๆๆๆ) ก็เดี๋ยวพรุ่งนี้จะส่งตัวแทนไป ทั้ง 7 จังหวัด + 2 ให้ไปสำรวจ เอาผู้สื่อข่าวไปทำข่าว ให้เห็นว่านี่เราทำจริงนะ เราไม่ได้ทำปลอมๆ หรือ คุยส่งเดชไป .....

แล้วก็ วันนี้ ก็ได้โอกาสเตือน และให้สติแกนนำชาวนา ถามเขาเลยว่าตอนนี้ ข้าวชาวนาที่มีอยู่ในนาน่ะ มีอยู่กี่เกวียน มีอยุ่เยอะไม๊ที่ยังไม่ได้ขาย เขาก็บอกว่า “ผมเองผม ก็เพิ่งจะเกี่ยวแล้วก็เพิ่งไปขายโรงสี” / “อ้าว..!! ทำไมไปขายโรงสี คุณขายโรงสีได้เท่าไหร่ ...? / “ได้ 7,000.- “ / “แล้วทำไมไม่มาขายฉัน...? ทำไมไม่เอามาที่นี่..? คุณเป็นแกนนำทำไมไม่ทำต้นแบบให้เขาดู ฉันซื้อคุณตั้ง 10,000.- น่ะทำไมคุณไม่เอามาขาย ..? เขาบอกว่า / ... “มันยุ่งยาก...มันต้องมากรอก มาตาก ใส่กระสอบ แล้วจึงจะขนมา”.../ “ก็คุณขาย 7,000.- ฉันซื้อ 10,000.- มีส่วนต่างตั้ง 3,000.- กรอก...เต็มที่ เอาไปอบในโรงสีอย่างดีก็ต้นทุนเพิ่ม อีก 500 บาท ต่อเกวียน มันมีเงินส่วนเหลืออีกตั้ง 2,500.- ทำไมคุณไม่ทำ...?../ “มันยุ่งยาก..”./....เราก็เลยบอกว่า....”เพราะคุณเป็นแกนนำยังพูดแบบนี้... แล้วถ้าหากว่าคนที่เขาเป็นชาวนาจะพูดอย่างไร คุณเห็นเรื่องความเคยชิน เอาความมักง่าย เอาของง่ายๆ เข้าว่า จนสุดท้ายนี่ ไอ้ลัทธิ ของนายทักษิณ ลัทธิ ชินวัตร มันครอบงำพวกคุณ จนกลายเป็นเสียสันดานไป ไม่ขวนขวาย ไม่กระตือรือร้น ไม่พยายามทำ แล้ววันนี้คุณจะมานำเอาสภาชาวนา และเกษตรกรมาใช้กับสังคมได้อย่างไร เพราะ แกนนำอย่างพวกคุณยังเอา มักง่ายเข้าว่า เอาง่ายๆ เข้าว่าอย่างนี้....ถือโอกาสเทศน์ซะยาวไปเลย... (ลูกหลานราชสีห์...ส่งเสียงคำราม...รับ...) เห็นแก่ประโยชน์ เล็กๆ น้อยๆ เอามักง่ายเข้าว่า ทำอะไรให้มันจบไวๆ แล้วสุดท้ายก็เตะหมูเข้าปากหมา เงินก็ไปตกอยู่ที่โรงสี ผลประโยชน์ ก็ไปตกอยู่ที่พ่อค้าข้าว แล้วคุณจะทำไปทำไม ทำแล้วเป็นหนี้ ทำแล้วจน ทำแล้วโง่ จน เจ็บ อยู่อย่างนี้ทำทำไม แกนนำต้องทำต้นแบบให้ดู ต่อไปนี้ไม่ได้ แกนนำทำอย่างนี้ไม่ได้ หลวงปู่ ก็เตือนเขาไป เขา ก็รับปาก....

เรื่องที่ 2 ก็ถามเขาไปว่า ตอบได้ไหมว่า แกนนำจะช่วยพี่น้องชาวนา อีก 2 อาทิตย์หน้านี่จะเปิดเทอมแล้วนี่ ที่เขามาที่นี่ ก็ได้ไป แต่ที่เขาไม่ได้มาที่นี่ ....คุณจะช่วยเขาอย่างไร
เขาก็บอกว่า “ผมยังไม่ได้คิด”......./ “ไม่ได้...ไม่คิดไม่ได้...คุณระวี ....คุณต้องคิดแล้ว เพราะเขาคือพี่น้องของเรา คุณต้องคิดแล้ว 6 เดือนมาแล้วที่เขาไม่ได้เงินจากรัฐบาล 6 เดือนมาแล้วที่เขาไม่มีรายได้ น้ำก็แล้ว ฝนก็แล้ง นาก็ทำไม่ได้ ไม่มีเงินจะไปลงทุน ไปรับจ้างขายแรงงาน วันละ 300 ก็ลดเหลือวันละ 150 ด้วยเหตุผลว่า คนจ้างมันไม่มี แต่คนรับจ้างมันมาก สุดท้ายก็เลยกลายเป็นแรงงานล้นตลาด เศรษฐกิจ ก็ไม่ดี แล้วถ้าพวกคุณไม่มีทางช่วยเขา แล้วเขาจะทำกันอย่างไร หาทางออกหน่อย หลวงปู่ ก็โยนคำถามให้เขาๆ ก็ยังหาทางออกไม่ได้ ก็เลยใช้เวทีนี้ประกาศลูก.....

ลูก หลานชาวนาท่านใดที่ยังหาทางออกไม่ได้ มาที่เวทีนี้ แจ้งวัฒนะ เดี๋ยวหลวงปู่ หาทางออกให้ เดี๋ยวจะหาทางออกให้ ว่าจะทำอย่างไร ลูก หลานจึงจะมีเงินที่เรียนหนังสือต่อไป เดี๋ยวจะหาทางออกให้...นะ...มาที่นี่ เดี๋ยวจะจัดให้ ....ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ายากจนนะ ไม่ใช่อยากจน ถ้าอยากจน ก็แช่งให้จนยาวนาน จนดักดาน จนชั่วชีวิต แต่ถ้ายากจน....มา ....เดี๋ยวกลับไปรวย เดี๋ยวหาทางออกให้ มีกึ๋น มีปัญญา เป็นที่นำพาให้พี่น้องพ้นทุกข์ในครั้งนี้ได้ มา....ไม่เจอหลวงปู่ ก็ลงชื่อไว้ แล้วรอพบ แล้วเดี๋ยวจะให้พบ ทีละคน 2 คน หรือรวมกลุ่มกันมา เอาหลักฐานการศึกษาลูก หลาน มา เอาคำยืนยันของครูบา อาจารย์ เพื่อนบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมา เอารายได้ประจำตัว เอาหนี้สินของตนมา เอามาแฉ เอามาเฉลี่ย ว่าจะแก้อะไร ก่อน – หลัง ....เดี๋ยวจัดให้....นะ...ทุกปัญหา เวทีแจ้งวัฒนะมีคำตอบ นะ...

หลวงปู่อาจจะไม่ได้ร่ำรวย เหมือนอย่างเวทีอื่นๆ ที่เขา เปย์ กันที 2 ล้าน 5 ล้าน .....มีแต่หัวล้าน...(ฮ่าๆๆๆ โดนสุดๆ ) ไม่เยอะขนาดนั้น แต่มีปัญญา ให้พึ่งพา อาศัย นะ...อันนี้คือสิ่งที่เป็นห่วง และกังวลอยู่ในใจ ว่าเขาจะหาทางออก อย่างไร น่ะ ไปกู้หนี้ยืมสินก็ไม่ได้ เพราะเครดิต ก็หมดแล้ว ไอ้เครดิตเกษตรกร บัตรเกษตรกร ก็ใช้ไม่ได้ แล้วพรุ่งนี้ก็มีข่าวดี ทนายมาบอกว่า ศาล นัดไต่สวนมูลฟ้อง เป็นครั้งแรก คือจะมีการเจรจา ระหว่างโจทย์ กับจำเลย ถ้าจำเลยมีการยินยอม ที่จะจ่ายสตางค์ เราก็ถอนฟ้อง หรือจะไม่ถอนฟ้อง ก็สุดแท้แต่ (จะคิดพิจารณา) แต่จำเลยมันจะเอาสตางค์ที่ไหนมาจ่าย ทั้งที่มันมีสตางค์ มันก็ไม่เอาสตางค์มันมาจ่ายหรอก มันก็เอาสตางค์ของพวกเรานี่มาจ่าย ฉะนั้น ก็เข้าใจว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ฟังว่า ศาลจะพิจารณาอย่างไร พรุ่งนี้เขาก็มีการนัดไต่สวนมูลฟ้องเบื้องต้น

ความคืบหน้ามัน ก็ไปของมันเรื่อยๆ มันก็เป็น มันก็ไป ของมันเรื่อยๆ แล้วก็กระบวนการที่จะช่วยเหลือพี่น้อง ก็บอกไปแล้วว่า ของมีอยู่ในรั้ว ในเล้า ในสวน ในไร่ ในนา ตลาด ก็เปิดไว้ให้ (หลวงปู่ หมายถึงตลาดกลางสินค้าเกษตร ที่เปิดบริเวณใกล้ๆ โรงสีข้าว ทุกวัน เสาร์ – อาทิตย์) เดี๋ยวจะต้องไปสำรวจ ต้องแต่งตั้งกรรมการไปสำรวจ ไอ้ที่มาขายน่ะ เป็นพ่อค้า หรือเป็นชาวไร่ ชาวนา แต่ถ้าเป็นพ่อค้า ถอยห่าง.....ถอยห่าง....ให้ชาวไร่ ชาวนามาขาย ไม่ใช่ตั้งเต็นท์ไว้ให้คุณมาเสพ เอาความสุขสบาย แล้วชาวไร่ ชาวนา ไม่มีโอกาสมาขาย ถ้าอย่างนั้นไม่ได้ หลวงปู่ ไม่ค่อยจะมีเวลาจะออกไปดูแล แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะละเลย ไม่ใส่ใจ นะ...เพราะฉะนั้น ก็ส่งเสียงนี้บอกพี่น้อง ลูก หลาน ชาวไร่ ชาวนาว่า ถ้ามีผลผลิต ในทุ่งนา ในสวน ในบ้านของตน ตะไคร้ ใบมะกรูด กะปิ น้ำปลา หอม กระเทียม ปลาเค็ม ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาเจ่า มะม่วง ส้มสูกลูกไม้ สมโอ อะไรต่างๆ เอามาขายที่นี่ มาไม่ไหวเพราะว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะ ก็รวมกลุ่มกันมา เหมารถมา รวมกลุ่มกันมา มากินมานอน ตั้งแต่วันศุกร์ ขาย เสา – อาทิตย์ แล้วก็ วันจันทร์ ก็กลับ...อย่างนี้มันก็ได้ประโยชน์ เปิดตลาดไว้ให้ ชาวไร่ ชาวนามาขาย ไม่ใช่ให้พ่อค้ามาขาย ฝากกรรมการ กปปส. ช่วยไปเช็คไปสำรวจให้ด้วย ก็จะดีมาก....ว่าไอ้ข้าวที่เอามาขายน่ะ มาจากโรงสีไม๊..? ไอ้พืชพันธ์ ธัญญาหาร ที่เอามาขายนะ มาจากชาวไร่ ชาวนา...ไม๊...? ถ้าไม่ใช่ หรือเป็นพ่อค้า ก็เชิญ....ออกไป...

เราไม่ใช่ไม่เห็นใจพ่อค้า แต่พ่อค้าเขามีช่องทางอื่น เยอะแยะไป ที่จะไประบายสินค้า ตอนนี้เราขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ให้เป็นประโยชน์ต่อคนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ ...นะ...ฉันรู้ว่าพ่อค้าโดยอาชีพน่ะก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร มีที่ขายเยอะแยะ มีที่ไปได้มากกว่า แต่กลายเป็นว่าตอนนี้นี่ คนที่เดือดร้อนจริงๆ กลับไม่ได้เป็นผู้ที่มาใช้บริการ ไอ้คนที่ไม่ได้เดือดร้อน มาแสวงหาประโยชน์ มาใช้บริการ อย่างนั้นมันไม่ถูกต้อง ก็มีแอบแฝงมาเยอะพอสมควร หลวงปู่ ก็ไม่ใช่ไม่ทราบ....รู้...แต่เราก็ยังไม่อยาก ไปใช้อำนาจบาตรใหญ่ เพราะเขาคือคนไทยด้วยกันนะ..ลูก...แต่ก็ต้องเตือนให้รู้ว่า อะไรควร อะไรเหมาะ เอาพอหอมปาก หอมคอ

แล้วก็พักหลังนี่เขาบอกว่ามี พี่น้อง เสื้อแดงมา รวมอยู่ในที่ชุมนุมหลายคน การ์ดเขาบอกว่ามันจะมาหาข่าว หาเขิ่ว หาไข่ (ฮ่าๆๆๆๆ) อะไรก็ช่าง เพราะที่นี่มันเป็นเวทีธรรม เป็นเวทีแห่งประโยชน์ เป็นเวทีที่ให้ประโยชน์แก่คนทุกสี ทุกกลุ่ม เราสู้เพื่อชัยชนะของประชาชน คนในชาติทุกสี ทุกกลุ่ม เราไม่ได้สู้เพื่อชัยชนะของ กปปส. หรือว่าคุณสุเทพ หรือ พุทธะอิสระ แต่ทุกคนในประเทศชนะ แผ่นดินชนะ คนไทยชนะ พระเจ้าอยู่หัวชนะ ทุกคนมีความสุข นี่คือสิ่งที่เราสู้ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปจำกัด จำเขี่ย แค่เฝ้ามองดูว่า เขามาเพื่อจะมาร่วมฟัง ร่วมพูด ร่วมคุย หลวงปู่ กลับเห็นว่าเป็นเรื่องดีนะ อย่างน้อยเขาก็ได้ฟัง ได้ฟังเขาก็จะได้กลับเอาไปคิด รู้จักไปวิเคราะห์ รู้จักไปใคร่ครวญ เอออ....ท่านพูดถูก ท่านพูดผิด เนี่ย...ดีกว่าไปปิดบังเขา ไปผลักดันเขา ไปขับไล่เขา แล้วสุดท้ายกลายเป็นว่าเราไปปิดกั้น ลูกของพ่อเราไม่ใช่มีแต่พวกเราคนเดียวเมื่อไหร่ ถูกต้องไหม...(...ใช่..ลูก หลาน..รับ) ลูกของพ่อเราก็คนทั้งประเทศ ฉะนั้น ต้องใจกว้างหน่อย ลูก...ใจกว้างหน่อย อันนี้คือสิ่งที่อยากบอก อยากเตือนให้ฟัง เรามองดูด้วยความใส่ใจหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ใช่ทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจใครจะมาทำอะไร ก็ตอนนี้ ก็ได้ยินข่าวว่าฝ่ายตรงข้าม ก็เริ่มที่จะเคลื่อนขบวนทัพ เริ่มที่จะสะสมอาวุธ เริ่มที่จะมียุทโธปกรณ์ เยอะแยะมากมาย .....กลัวไม๊ลูก....(...ไม่..กลัว...) ....ฮึ่..!!! ...ขำๆ เราก็มีอาวุธ ...น้ำยาเราก็มี ...ขนมจีนเราก็มี....เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่มีน้ำยา เมื่อเรามีทั้งน้ำยา แกงเขียวหวาน แกงเผ็ด จับฉ่าย แกงไก่ ใส่มะระ เราพร้อมเสร็จ ...มึงมา...!! เราก็ยกไปเลี้ยง...เท่านั้นเอง...ก็จบ..มีทั้งขนมจีน น้ำยา...จะไปกลัวอะไร

จากนั้นหลวงปู่ ได้อ่านข่าวจาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ที่ลงข่าว หลวงปู่ ทำกับข้าว ปรุงอาหารหน้าเวที เมื่อวันเสาร์ คือเมนู ปลาราดพริก (ฉู่ฉี่) และ จับฉ่ายไหหลำ ซึ่งไทยรัฐ ลงข่าวละเอียดมาก (จนหลวงปู่ อ่านไป ขำไป) แต่หลวงปู่ ก็ได้กล่าวขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และ เชิญชวนไทยรัฐ และทุกสื่อว่าพรุ่งนี้ให้ตามกรรมการ กปปส.ภาค 7 + 2 ไปทำข่าวเรื่องไปสำรวจ การตั้ง โรงสีชุมชน ของชาวนา ที่คลอง 14 (เขตรอยต่อ ปทุมธานี / มีนบุรี / ฉะเชิงเทรา ) ดีกว่า ช่วยไปนำเสนอข่าวให้เขาได้รู้กันว่า เวทีนี้ ทำอะไรที่จับต้องได้ และจับต้องได้ทุกเรื่อง

หลวงปู่ เป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักปาฐก หรือนักพูด และหลวงปู่ไม่ชอบพูดเรื่องที่มันแล้วไปแล้ว อะไรที่มันแล้วไปแล้วๆ ไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ มันก็ไม่ได้ให้ประโยชน์แก่ผู้ฟัง แต่พูดในสิ่งที่เป็นปัจจุบัน แต่ถ้าจะพูดในสิ่งที่แล้วไปแล้ว มันก็ต้องมีประเด็นว่า พูดแล้วมันทำให้คนมีปัญญา และหาทางออกได้ไม๊ แต่ถ้าพูดแล้วไม่มีปัญญา หาทางออกไม่ได้ ยังเก็บกด สะสม หยิบแล้วก็ไม่วาง แล้วก็อัดแน่น ในหัวใจ ในสมอง แล้วก็ปัญญานิ่มไป สุดท้ายเวลาจะไปรบจริงๆ ไม่มีอะไรจะไปสู้กะเค้า เสียเวลาพูดเปล่า พูดแล้วมันต้องมีที่มา ที่ไป ชัดเจน ....เอาหล่ะ...เรื่องที่อยากพูด ก็พูดไปหมดแล้ว

ที่จริงมีเรื่องคุยกันเยอะมาก ที่คุยในที่ประชุม วันนี้มีหลายกลุ่มมาประชุม ทั้งที่ป่วยไข้ ไม่สบาย ก็เดี๋ยวคนนั้นก็มาประชุม คนนี้ก็มาประชุม เป็นกลุ่มๆ ใหญ่ๆ ก็มีหลายเรื่อง แต่ก็เก็บเอาไว้บ้าง เพราะว่า พูดไปบางเรื่องมันอาจเป็นโทษ เป็นภัย แล้วเราก็ยังไม่ได้ก้าวไปถึงขั้นตอนนั้น ที่จริงเขามาถามหลวงปู่ว่า หลวงปู่ มีแผนอะไรในการระดม ชุมนุมใหญ่มวลมหาประชาชน ....บอก..มีแผน..!! สำหรับหลวงปู่ ถ้าไม่มีแผน ก็ไม่ใช่คนที่ชื่อว่า พุทธะอิสระ มีๆ แผน ..../ เขาถามว่า..แผนเด็ดไม๊..? / มีแผนเด็ด เด็ดไม่เด็ดเราก็คอยดูเอาก็แล้วกัน...นะ...หยิบมาดมได้...แผนฉันน่ะ หยิบมาดู มาลูบ มาคลำได้ แต่มี...ลูก...มี..แต่เตรียมตัวไว้ให้พร้อม...พร้อมไม๊....? (....ยิ่งกว่าพร้อม...ฮ่าๆๆๆ)....พร้อมไม๊...(ลูกหลานช่วยกันตอบ....พร้อม มมม) เออ....มีคำถามว่าแล้วเมื่อไหร่....เมื่อเอย..ก็เมื่อนั้นแหละ..!!! เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละ...เราสู้แบบสบายๆ เขามาเร่งเร้าว่าเมื่อไหร่จะจบ จะรีบปิดเกมส์ จะจบอย่างไร หลวงปู่บอกว่า โอย...เรื่องมันง่ายอย่างพลิกฝ่ามือแหละ จะทำให้จบน่ะ แต่ถามว่า จบแล้วจะเป็นพระเอก หรือเป็นผู้ร้าย....? ถ้าจบแล้วเป็นผู้ร้าย...ไม่เอา ...ชนะต้องเป็นเจ้า...ไม่ใช่ชนะแล้วเป็นโจร...สุดท้ายกลายเป็นจำเลยของสังคม อย่างนี้ไม่เอา ไม่ใช่พุทธะอิสระ

หลวงปู่ บอกเขาว่าฉันนี่อยู่ใน 2 โลก ไม่ใช่ 2 โรคนะ...โลกทางธรรม กับ โลกทางโลกีย ฉะนั้นเมื่อเราอยู่ใน 2 โลกในฐานะความเป็นผู้นำ เราต้องทำให้ ธรรม ก็ไม่ให้เสีย โลก ก็ไม่ให้ช้ำ เราจะทำอย่างไร ก็ต้องใช้สติปัญญา ไม่ใช่ใช้อารมณ์ในการเคลื่อนไหว คนที่อยู่โลกเดียวเขาก็คิดว่า เขาก็มุ่งไปแต่เรื่องของเค้า แต่เรานี่อยู่ 2 โลก ใช่ไม่ใช่ (...ใช่...) หลวงปู่นี่อยู่ในฐานะผู้นำทางวิญญาณ แล้วก็อยู่ในฐานะผู้นำมวลชน ก็คือทางชาวบ้าน ทางวิถีทางๆโลก ถ้าเราทำอะไรเพลี่ยงพล้ำเนี่ย เราหมานะ..!!! ถ้าผิดพลาดนี่เราไม่ใช่แค่จำเลยอย่างเดียวนะ เราเสียหมาเลยนะ...!!! อ้าว...!!ไม่ใช่หมาสิ เพราะเราไม่ใช่หมานี่นา...(ฮ่าๆๆๆๆ) เราเสียพระเลยนะ..!!! เสียทั้งคดีโลก คดีธรรม เสียหมดเนี่ย ฉะนั้นจะเห็นว่าหลวงปู่ จะก้าวแต่ละครั้ง จะเคลื่อนแต่ละเที่ยว หลวงปู่ ระมัด ระวัง แต่ก็ไม่ใช่ว่า กลายเป็นเนิ่นช้า เพราะทุกครั้ง ก็ได้คะแนนกลับมาทุกที

จนกระทั่งเวทีใหญ่ๆ เขาก็เฝ้ามองเราว่า เราจะเคลื่อนแบบไหน เคลื่อนอย่างไร จนเอาเราเป็นตัวอย่าง เป็นเยี่ยงอย่าง เดี๋ยวนี้กลายเป็นเวที ลุงกำนัน เป็นนักจัดกิจกรรมไปแล้ว นี่ก็เริ่มมีพิธีปลุกเสก อะไร ต่ออะไร ไปเหมือนกัน ก็ไม่เป็นไร แบ่งๆ กันเอาไปใช้ กิจกรรมแบ่งๆ กันเอาไปใช้ กิจกรรมแบ่งๆ กันเอาไปใช้ ไม่ได้คิดอะไร เพราะว่าเราไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ แต่วิธีการเดินเกมส์ของหลวงปู่ ก็อยากบอกลูกหลานว่า ไม่ต้องห่วงลูก วันอังคารนี้เราก็จะไปๆ ก็ไปแบบเราๆ นี่หล่ะ ไปแบบ เบิร์ดๆ (แหม๋ๆๆๆ หลวงปู่ ...ฮ่าๆๆๆ) น่ะ...ไปแบบเบิร์ดๆ....เบิร์ดนี่มันใครว๊ะ...(ฮ่าๆๆๆๆ) จำขี้ปากชาวบ้านเขามา ว่าไปแบบเบิร์ดๆ เบิร์ดนี่มันแปลว่าอะไรนะ....(...ลูกหลานช่วยกันตอบ...คนละอย่าง...สองอย่าง ขำๆ กันไป...) สบายๆ ใช่ไม๊ เอออ...!!! ไปแบบ สบาย สบาย ขำๆ ไม่มีอะไร...แต่แม่นยำ ตรงเป้า ชัดเจน แล้วก็....มีคำตอบ...ไม่ใช่ไปแบบชนิดที่มั่วๆ ซั่ว ไปเล่นๆ ธรรมดา ไม่ใช่ไม่เอา....เอ้า...เดี๋ยวทิ้งท้ายให้ถาม 7 ข้อ (แถลงการณ์ ศอรส.) เพราะว่าต้องการอธิบาย ให้กระจ่าง....

 

https://fbcdn-sphoto...cf4a7c61a8070fd




#1138055 เกาะติดสถานการณ์ สุเทพ ทวงคืนอำนาจจากรัฐบาลเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

Posted by kairyuramon on 18 April 2014 - 09:30

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)

แถวตรง หน้าเดิน

 

เดิน เดิน เดิน เดินออกมาจากบ้าน ที่พัก ที่ทำงาน เดินออกมา ปกป้องแผ่ดินไทย ปกป้องชาติ ศาสนา กษัตริย์ ที่รักยิ่งของเผ่าไทย ลูกไทย หลานไทย ผู้มีหัวใจจงรักภักดี คงจะต้องถึงเวลาเสียที ที่ท่านจะนำความจงรักภักดี ออกมาแสดงพลังปกป้องพระเจ้าอยู่หัว ราชวงศ์จักรี อย่าปล่อยให้พระองค์ท่าน อยู่อย่างโดดเดี่ยว ต่อสู้อยู่เพียงลำพัง เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ระบอบทักษิณ ได้เพียรพยายามทำทุกวิถีทางให้ทุกองค์กรในประเทศนี้เป็นอัมพาต อ่อนแอลง เพื่อต้องการจะรวบอำนาจและโดดเดี่ยวสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อมาก็ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ระคายเคือง โดยมีกระบวนการสร้างเรื่องสร้างภาพให้ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาปัญญาชน ระบบทักษิณพยายามแทรกซึมเข้าไปทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการศึกษา และศาสนา มันซื้อทุกอย่างที่ซื้อได้ แม้แต่ชีวิต และจิตวิญญาณไทย แล้วมันก็ทำให้ผู้ที่ถูกซื้อได้ตกเป็นเครื่องมือของมัน ใช้ความรู้ความสามารถหันมาทำร้ายทำลายความศรัทธา ความเชื่อของลูกไทยหลานไทย ที่มีต่อราชวงศ์จักรี ผู้ทรงมีพระคุณมหาศาลต่อแผ่นดินไทย ดังเช่นพระราชกรณียกิจสำคัญที่ผ่านมา ของแต่ละรัชกาล

 

พระราชกรณียกิจรัชกาล ๑
ซึ่งไทยยังคงมีสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องทรงเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก สงครามที่แสดงพระอัจฉริยภาพอย่างมากคือ สงคราม ๙ ทัพ ทั้งที่ทรงมีกำลัง ทหารเพียงครึ่งหนึ่งของพม่า แต่ก็สามารถทำสงครามขับไล่อิทธิพลพม่าออกจาก ล้านนา จนเป็นที่ซุกหัวนอนของคนตระกูลชิน หัวเมืองเหนือและราชอาณาเขตได้ โดยเด็ดขาดทำให้อาณาจักรไทยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลที่สุดในประวัติศาสตร์ แล้วก็ยังมีพระราชกรณียกิจในด้าน อื่นๆ อีกมากมาย

 

พระเราชกรณียกิจรัชกาลที่ ๒
ไทยยังต้องผจญสงครามกับพม่าอย่างต่อเนื่องมีการสร้างเมืองและป้อมปราการ ต่างๆ ขึ้นมากมายเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกเข้าโจมตีพระนครได้โดยง่าย ทรงทำนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม เป็นยุคทองของวรรณคดีไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเล่มองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ ได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลก ในรัชกาลนี้มีช้างเผือกมาสู่พระบารมีถึง 3 เชือก จึงทรงมีพระราชดำริให้แก้ไขธงชาติไทยจากที่เคยใช้ธงแดงมาตั้งแต่สมัยสมเด็จ พระนารายณ์มหาราช ให้ทำเป็นรูปช้างเผือกอยู่ในวงจักรติดในธงพื้นแดง ซึ่งใช้เป็นธงชาติไทยสืบต่อกันมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๖

 

พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ ๓
ทรงทำการค้ากับต่างชาติ มีรายได้จากการค้าขายสูงมากเงินตราในท้องพระคลัง ที่พระองค์ทรงค้าขายได้ซึ่งเรียกขานว่า เงินถุงแดง ได้นำมาใช้เป็นค่าปฎิกรรม สงครามในปี รศ.๑๑๒ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการถูกยึดครองแผ่นดินจากชาติยุโรป และด้วย เหตุนี้เอง พระองค์จึงถูกขนานพระนามว่า "เจ้าสัว" ทรงให้สร้างเมือง สมุทรปราการให้มีป้อมปราการต่างๆ เพื่อป้องกันภัยทางทะเลทางฝั่งตะวันออก ในรัชกาลของพระองค์บ้านเมืองยังคงต้องประสบปัญหากับการรุกรานจากญวนอยู่ รวมทั้งกับการล่าอาณานิคมของชาติยุโรปอีกด้วย โปรดให้จารึกตำรา และวิทยาการต่างๆ ลงบนแผ่นหินประดับในวัดสำคัญหลายวัด เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ในรัชสมัยนี้มีตำราเรียนเกิดขึ้น ๓ เล่มคือ โคลงจิดามณี ประถม ก กา และปฐมมาลา อีกทั้งยังมีการพิมพ์หนังสือด้วยแท่นพิมพ์เป็นครั้งแรกในประเทศ ไทยอีกด้วย

 

พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ ๔
ทรงตั้งโรงพิมพ์ของรัฐบาล ตั้งโรงกษาปณ์เพื่อผลิตเงินเหรียญ แทนเงินพดด้วง และเบี้ยหอยที่ใช้อยู่เดิมมีโรงสีไฟ โรงเลื่อยจักร เปิดที่ทำการศุลกากร ตัดถนน สายหลักๆ มีรถม้าขึ้นใช้ครั้งแรก และให้ขุดคลองต่างๆ มากมายได้จัดตั้งตำรวจนครบาล ศาลแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา ทรงเชี่ยวชาญทางโหราศาสตร์ สามารถคำนวณการเกิดจันทรุปราคาและ สุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ

 

พระราชกรณียกิจ รัชกาลที่ ๕
สิ่งที่คนไทยควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุดคือ การได้พ้นจากความเป็นทาสในรัชสมัยของพระองค์และรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้น ของชาติตะวันตกในยุคล่าอาณานิคม แม้ว่าเราจะต้องยอมตัดแขนขา เสียดินแดนไป บางส่วนซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถรักษาดินแดนของบุรพกษัตริย์ไว้ได้ ถึงกับประชวรไม่ยอมเสวย พระโอสถและไม่ประสงค์จะมีพระชนม์ชีพอยู่อีก ในขณะที่พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ความเจ็บแค้นในครั้งนั้น ทรงชักชวนให้ทหารเรือ สักตัวอักษรคำว่า รศ.๑๑๒ ไว้ที่กลางหน้าอก

 

พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ ๖
ระบบการศึกษาไทยรุ่งเรืองอย่างมากในรัชกาลนี้ มีมหาวิยาลัยแห่งแรก คือ จุฬาฯ และสถาบันการศึกษาแห่งแรก คือ เพาะช่าง ยกเลิกบ่อนการพนัน ลดการค้าฝิ่น ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักอีกแหล่งหนึ่งของรัฐบาล ตราพระราชบัญญัติขนาน นามสกุล พ.ศ. ๒๔๕๖ เป็นการเริ่มต้นให้คนไทย มีนามสกุลใช้ โดยได้ทรงพระราชทานนามสกุลแก่ผู้ที่ขอมา ด้วยจัดตั้งธนาคารออมสิน ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อหุ้นของ ธนาคารสยามกัมมาจล ทุนจำกัด (ปัจจุบันคือ ธนาคารไทยพาณิชย์) ซึ่งมีปัญหาการเงิน ทำให้ธนาคารของ คนไทยแห่งนี้ดำรงอยู่มาได้ถึงปัจจุบันทรงริเริ่มตั้ง บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด ซึ่งได้เป็นกิจการอุตสาหกรรมสำคัญของไทยต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน ทรงจัดตั้งสภาเผยแผ่พาณิชย์ซึ่งเป็นหน่วยงานคล้ายกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจใน ปัจจุบันทรงส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ ผ่านสื่อมวลชนที่สำคัญ ในยุคนั้นคือหนังสือพิมพ์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่ามีเสรีภาพ สูงยิ่งกว่าสมัยหลัง พ.ศ. ๒๔๗๕ ทรงทดลองและฝึกให้ข้าราชบริพารรู้จักการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยโดยทรง สร้างเมืองจำลอง "ดุสิตธานี" ขึ้น เป็นเมืองที่มีพรรคการเมือง, การเลือกตั้ง, และการบริหารตามระบอบ ประชาธิปไตย ตั้งโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และวชิรพยาบาล เพื่อรักษาพยาบาล ประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วยทรงเปิดสถานเสาวภา เพื่อผลิตวัคซีนและเซรุ่ม ทรงเปิด การประปากรุงเทพฯ ทรงเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ ๑ ซึ่งเป็นผลดีแก่ประเทศไทย อย่างยิ่งในฐานะผู้ชนะสงคราม ประเทศไทยสามารถเจรจากับประเทศมหาอำนาจ ขอแก้ไขสนธิสัญญาสิทธิสภาพนอกอาณาเขตและ สนธิสัญญาจำกัดอำนาจการ เก็บภาษีของประเทศไทยทำให้ประเทศไทยพ้นสภาพการเสียเปรียบในด้านการ ศาล และสามารถดำเนินนโยบายด้านภาษีได้โดยอิสระ จัดตั้งกองเสือป่า ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องราวต่างๆ ไว้เป็นอันมาก จึงได้รับพระสมัญญานามว่า สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าและ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO ยูเนสโก้) ก็ได้ยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ เป็นปราชญ์สยามทรงปรับปรุงและขยายงานกิจการรถไฟ สร้างสะพานพระราม ๖ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมทางรถไฟทั้งปวงในพระราชอาณาจักรโดยโยงเข้ามาสู่ ศูนย์กลางที่สถานี หัวลำโพง ทรงจัดตั้งกรมอากาศยานได้เริ่มการขนส่ง ไปรษณียภัณฑ์ ทางอากาศระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังนครราชสีมาเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓

 

พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ ๗-๘
อยู่ในช่วงร้อนแรงของการเมืองภายในประเทศจากกลุ่มคนที่ไปศึกษาในต่าง ประเทศ และอยากนำการปกครองของตะวันตกมาปรับใช้ในประเทศไทยในที่สุด ประเทศไทยก็เปลี่ยนแปลงการปกครอง ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ

 

พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ ๘
ทรงขึ้นครองราชย์แต่ยังพระชนมายุน้อย พวกคณะราษฎร์พยายามครอบงำ พระองค์ให้ตกอยู่ในอำนาจ เพื่อจะใช้เป็นเครื่องมือ แต่พระองค์ก็มิได้ทรงยินยอม จึงทรงถูกลอบปลงพระชนม์ โดยคนของคณะราษฎร์ที่เข้ามาเป็นราชองครักษ์ แล้วประกาศว่าพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลสิ้นพระชนม์ เพราะทรงทำปืนลั่น กาลต่อมาความจริงจึงเปิดเผย

 

พระราชกรณียกิจรัชกาลที่ ๙
ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา เริ่มจากเสด็จเยี่ยมเยียน และพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ เริ่มจากราษฎร ที่อยู่ใกล้เคียงกับพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และค่อยๆ ขยายพื้นที่ไปทั่วทุกภาคของประเทศจนอาจกล่าวได้ว่า

“ไม่มีพื้นที่แห่งใดเลยในประเทศไทย ที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปถึง”

จำนวนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ปัจจุบันมีมากกว่า ๔,๐๐๐ โครงการ พระองค์ทรงงานหนักตรากตรำมายาวนาน ทรงถือกำเนิดมาพร้อมภาระและ หน้าที่ ใครจะว่า เกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้วสุขสบาย บางคนยังไม่เคยลงไปเดินลุยขี้โคลน คลุกดินคลุกฝุ่นเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่พระเจ้าแผ่นดินไทย ในหลวงของเรา ทรงทำมาหมดแล้วทุกอย่าง ทั้งลงไปเดินลุยขี้โคลน ขับรถไปตามป่าเขา ถิ่นทุรกันดาร ตากแดด ตากฝน ภาระเพื่อประเทศชาติยิ่งใหญ่แค่ไหน ทรงแบกรับไว้พระองค์เดียว ที่สำคัญ ไม่อยู่ในฐานะที่จะออกมาแก้ต่างอะไร กับใครได้ คนทั่วไป ถูกใครว่า ใครกล่าวหา ยังออกมาโต้ตอบได้ไม่อึดอัดแต่พระเจ้าแผ่นดิน “ทำไม่ได้”

 

แล้วพวกเราพสกนิกรของพระองค์จะยังคงนิ่งเฉย เมื่อพระองค์มีภัย มีคนชั่วจ้อง ทำร้ายพระองค์ ลูกไทย หลานไทยจะปล่อยให้พระองค์โดนรังแกกระนั้นหรือ แล้ววันข้างหน้าใครจะกล้ามาทำดีเสียสละเพื่อแผ่นดิน เพราะทำแล้วถูกรังแก ไม่มีคนไทยคนไหนคิดจะช่วยเหลือ พวกลูกไทย หลานไทยทั้งหลายต้อง ไม่ลืมว่าประเทศไทยดำรงความเป็นชาติไทย ไม่เคยตกเป็นทาสใครก็ด้วยพระ ปรีชาญาณของพระเจ้าอยู่หัวแต่ละรัชกาล ที่ทรงใช้กุสโลบายนำพาบ้านเมืองให้ ผ่านพ้นจากวิกฤตนาๆ มาได้ จนได้ความเป็นไทย ต่อมามีลัทธิประชาธิปไตย ที่ปล้นพระราชอำนาจมาจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ซึ่งพระองค์ท่าน ก็ยินดีมอบพระราชอำนาจให้แก่ประชาชน มิใช่ให้อำนาจนั้นแก่บุคคลหรือ คณะบุคคล ดังพระราชหัตถเลขาตอนหนึ่ง ความว่า

 

“เมื่อพระยาพหลพลพยุหเสนากับพวกได้ทำการยึดอำนาจการปกครองโดยใช้กำลัง ทหาร ในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ แล้ว ได้มีหนังสือมาอัญเชิญข้าพเจ้า ให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ข้าพเจ้าได้รับคำเชิญนั้น เพราะเข้าใจว่า พระยาพหลพลฯ และพวกจะสถาปนารัฐธรรมนูญตามแบบ อย่างประเทศทั้งหลาย ซึ่งใช้การปกครองตามหลักนั้น เพื่อให้ประชาราษฎรได้ มีสิทธิที่จะออกเสียงในวิธีดำเนินการปกครองประเทศ และ นโบายต่างๆ อันจะเปนผลได้เสียแก่ประชาชนทั่วไป ข้าพเจ้ามีเลื่อมใสในวิธีการ เช่นนั้นอยู่แล้ว และกำลังดำริ จะจัดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศสยาม ให้เป็นไปตามรูปนั้น โดยมิให้มีการกระทบกระเทือนอันร้ายแรง เมื่อมามีเหตุอันรุนแรงขึ้นเสียแล้ว และเมื่อผู้ก่อการรุนแรงนั้นอ้างว่า มีความประสงค์จะสถาปนารัฐธรรมนูญขึ้นเท่านั้น ก็เป็นอันไม่ผิดกับหลักการที่ข้าพเจ้ามีความประสงค์อยู่เหมือนกัน

 

ข้าพเจ้าจึงเห็นควรโน้มตามความประสงค์ของผู้ก่อการยึดอำนาจนั้นได้ เพื่อหวังความสงบราบคาบภายในประเทศ ข้าพเจ้าได้พยายามช่วยเหลือในการที่จะรักษา ความสงบราบคาบ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงอันสำคัญนั้น เปนไปโดยราบรื่น ที่สุดที่จะเปนได้ แต่ความพยายามของข้าพเจ้าไร้ผล โดยเหตุที่ผู้ก่อการ เปลี่ยนแปลงการปกครองหาได้กระทำให้บังเกิดมีความเสรีภาพในการเมืองอย่าง สมบูรณ์ขึ้นไม่... และมิได้ฟังความคิดเห็นของราษฎรโดยแท้จริง และจากรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะพึงเห็นได้ว่าอำนาจที่จะดำเนินนโยบายต่างๆ นั้น จะตกอยู่แก่คณะผู้ก่อการ และผู้ที่สนับสนุนเป็นพวกพ้องเท่านั้น มิได้ตกอยู่แก่ผู้แทนซึ่งราษฎรเป็นผู้เลือก….

 

ข้าพเจ้าเห็นว่า รัฐบาลและพวกพ้องใช้วิธีการปกครองซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักการของเสรีภาพในตัว บุคคล และหลักความยุติธรรมตามความเข้าใจและยึดถือของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สามารถที่จะยินยอมให้ผู้ใด คณะใด ใช้วิธีการปกครองอย่างนั้น ในนามข้าพเจ้าต่อไปได้

 

ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจ อันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยฉะเพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้น โดยสิทธิขาดและโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของ ประชาราษฎร….”

 

เราจะเห็นได้ว่า พระเจ้าอยู่หัวแห่งราชวงศ์จักรี มิได้ทรงห่วงพระราชอำนาจ ทรงยินดีที่จะสละพระราชอำนาจนั้นให้เป็นของปวงชนชาวไทย หากจะทำให้ ประชาชนของพระองค์มีความผาสุขสงบ ร่มเย็น แต่พอพระองค์ทรงเสด็จนิวัตออกไปนอกประเทศแล้ว พระองค์ก็มิได้ต้องการที่จะกลับเข้ามามีอำนาจ หรือแย่งชิงอำนาจของพระองค์กลับคืนมา ซ้ำยังทรงกำชับด้วยว่า

“อนึ่ง ข้าพเจ้าไม่มีความประสงค์ที่จะให้ผู้ใดก่อการไม่สงบขึ้นในประเทศ เพื่อ ประโยชน์ของข้าพเจ้า ถ้าหากมีใครอ้างใช้นามของข้าพเจ้า พึงเข้าใจว่า มิได้เปนไปโดยความยินยอมเห็นชอบหรือความสนับสนุนของข้าพเจ้า”

 

แต่นายทักษิณ เป็นผู้กระหายอำนาจ บ้าอำนาจ ต้องการจะมีอำนาจ หากมี คำถามว่าทำไมนายทักษิณ และคนตระกูลชิน ต้องการอำนาจบริหารบ้านเมืองนักหนา ซึ่งจะแตกต่างจากพระเจ้าอยู่หัวในราชวงศ์จักรี ที่มิได้ทรงอาลัยใยดีต่อพระราชอำนาจ เพราะทุกพระองค์มิได้ทรงมีผลประโยชน์แอบแฝง พระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ทรงคิดเพียงแค่จะทำอย่างไร ให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่น สงบสุข ไพร่ฟ้าประชาชนอยูดี มีสุข ปลอดภัย

 

แต่คนตระกูลชิน นายทักษิณ มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ในอำนาจที่พวกตนได้มา โดยมิได้คำนึงถึงความทุกข์ยาก เดือดร้อนของประชาชน ขอเพียงให้มีอำนาจ จะได้กอบโกย โกงกิน ทุจริต คอรัปชั่น และใช้อำนาจที่ได้มาโดยไม่เลือกวิธี ปกป้องผลประโยชน์ของตนและพวกพ้องคนตระกูลชิน นายทักษิณจึงกลัวนัก กลัวหนา หากหมดอำนาจ ผลประโยชน์ของตนก็จะถูกยึด ความร่ำรวยของตนก็จะรวยน้อยลง ในขณะที่คนที่สนับสนุนนายทักษิณ ไม่มีจะกิน ต้องฆ่าตัวตาย แต่คนตระกูลชิน นายทักษิณ ก็มิได้ช่วยพวกเขาแม้แต่น้อย กลับดาหน้าออกมา แก้ตัว แก้ต่าง โยนความผิดพลาดให้ผู้อื่น นี่หรือสันดานผู้นำ ที่ปากพร่ำบอกว่ารัก ห่วงพี่น้องคนไทย ต้องการจะช่วยเหลือให้พ้นจากความยากจน หากนายทักษิณ ต้องการจะช่วยจริงๆ เรื่องมันก็มิได้ยาก แค่อยู่เฉยๆ อย่าเข้ามาแสวงหาอำนาจ ปล่อยให้คนไทยเขาดูแลบ้านเมืองนี้ด้วยตัวของเขาเอง แค่นี้ก็ถือว่า นายทักษิณ คนตระกูลชิน ได้ช่วยพี่น้องคนไทยแล้วหล่ะ และหากจะบอกว่า ไม่ได้ หากคนตระกูลชินไม่เข้ามายุ่ง จะไม่เป็นประชาธิปไตย บ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ ประเทศชาติจะถอยหลังเข้าคลอง คนไทยจะยากจนไม่ก้าวหน้า

ก็ต้องถามนายทักษิณ และคนตระกูลชินว่า อีตอนที่คนตระกูลชิน ยังเป็นวุ้นอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ บ้านเมืองนี้อยู่มาได้ยังไง ตอนที่นายทักษิณยังเที่ยวเดินเอาเช็คมาขาย เพื่อเอาเงินมาหมุน คนไทยเขาอยู่มาได้ยังไง อย่าสำคัญตนเองว่ามีประโยชน์ ขนาดนั้น

 

ฉันอยากจะบอกให้คนตระกูลชินรู้สำนึกไว้ว่า ก่อนที่พวกคุณจะเข้ามามีอำนาจ บ้าอำนาจ คนไทยทุกหมู่เหล่า ทุกเผ่า ทุกภาษา เขารักใคร่ปรองดอง สามัคคี มีน้ำใจให้แก่กันทั้งประเทศ

พอพวกคุณเข้ามามีอำนาจ พวกคุณก็ทำตัวเป็นบ่างช่างยุ ยุให้รำ ตำให้รั่ว ผู้คนทุกหมู่เหล่าแตกแยก เข่นฆ่า ทำร้าย ทำลายกัน นี้คือผลงานชิ้นโบว์แดง ของคนอย่างนายทักษิณ หากจะถามว่าคนตระกูลชิน นายทักษิณ ทำไปทำไม ก็ตอบได้เลยว่า ต้องการทำให้คนไทยแตกแยก สังคมอ่อนแอ ประเทศชาติอ่อนแอ จะได้มีเวลาคดโกง ทุจริต และรวบอำนาจ

พี่น้องไทย ลูกไทย หลายไทย ที่รัก พวกคุณยังไม่รู้สึกเบื่อ เข็ดหลาบ ต่อการกระทำเลวทราม ต่ำช้าของนายทักษิณและพวกอีกหรือ หรือพวกคุณ ไม่มีหัวจิตหัวใจ คุณทนอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร ทำไมปล่อยให้ใครมาจากขุมไหนก็ไม่รู้ มาทำร้ายทำลายความงดงาม ความดีงาม ความมีน้ำจิตน้ำใจ ของลูกไทย หลานไทย ให้เหือดหายไป เหลือไว้แต่ความหิวกระหาย อยากได้ โหดร้าย ไม่รู้บุญคุณแผ่นดิน เลิกอยู่เฉยได้แล้ว เดินดาหน้ากันออกมา เดินออกมาจากบ้าน จากที่พัก จากที่ทำงาน เดินออกมาแสดงพลังปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พระเจ้าอยู่หัว อย่าปล่อยให้ ไอ้ อี ตระกูลใด มันมาบังอาจทำร้าย ทำลาย ความงดงาม ความดีงาม ที่บรรพบุรุษไทยที่สร้างมาไว้อย่างยาวนาน ด้วยเลือดเนื้อ ชีวิต ต้องมาถูกคนอัปรีย์ บ้าอำนาจ ตะกละไม่รู้จักพอ ทำลายลงเพียงแค่ใช้เศษเงินที่โกงมา จัดซื้อ จัดจ้าง ชีวิต วิญญาณ ลูกไทย หลานไทย ที่ไร้เดียงสา ให้มาทำร้ายทำลาย สิ่งที่บรรพบุรุษไทยสร้างสั่งสมมาให้แก่พวกเรา

เดินออกมาแสดงความกตัญญูต่อแผ่นดิน กตัญญูต่อราชวงศ์จักรี อย่าปล่อยให้ พระเจ้าอยู่หัวของเราสู้อยู่แต่ลำพังพระองค์เดียว อย่าทอดทิ้งพระองค์ให้อยู่อย่าง โดดเดี่ยว สู้อย่างเดียวดาย

 

ลูกไทย หลานไทย เอ้ย เวทีแจ้งวัฒนะ ขอประกาศสู้กับคนเนรคุณแผ่นดิน ทุกวิถีทาง ฉันจะใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่ฉันมี ต่อสู้ รุกไล่ เสนียด***ของแผ่นดินสยาม แม้จะต้องพลีเลือดเนื้อชีวิตก็ตาม

 

แล้วพี่ไทย ลูกไทย หลานไทย ทั้งหลายหล่ะ พร้อมที่จะก้าวเดินออกมา ต่อสู้ร่วมกันกับฉันแล้วหรือยัง ออกมาเถิด มาแสดงพลังปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และพ่อหลวงของพวกเรา เตรียมตัวให้พร้อมนะพี่น้อง เมื่อถึงเวลา กรีฑาทัพ มวลชนคนรักในหลวง ขอให้ทุกคนรอฟังสัญญาณ เมื่อได้สัญญาณจงพร้อมใจกันเดินหน้า เต็มตัว เต็มใจ แสดงพลังอันยิ่งใหญ่ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ตาชาวโลกว่า พวกเราเผ่าไทย รักและเทอดทูนสถาบันยิ่งชีวิต ก้าวเดินออกมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าสุดท้าย ที่คนไทยทุกสี ทุกกลุ่ม ที่รักสถาบันต้องมีชัยชนะ ประเทศชาติชนะ พระเจ้าอยู่หัวทรงชนะ คนไทยทุกคนทุกสีมีความสุข

 

“อย่าปล่อยให้คนเนรคุณมันเหิมเกริม บ้านเมืองแร้นแค้น ประเทศชาติขาดแคลน ผู้คนจะทุกข์ยาก อดอยากล้มตาย พวกคุณจะทนได้กระนั้นหรือ”

เดินหน้าออกมา ร่วมสู้กับฉัน เวทีแจ้งวัฒนะ

 

พุทธะอิสระ
๑๗ เมษายน ๒๕๕๗

 

https://www.facebook...152325946863446