Jump to content


คนไทยเสรี

Member Since 14 January 14
Offline Last Active 24 May 14 06:40
-----

#1142270 ทำไมโยกย้ายไอ้ถวิล หมอพรทิพแล้วมันว่าผิด ทีไอ้มาร์คมันย้ายแล้วไม่ผิด!!

Posted by คนไทยเสรี on 23 April 2014 - 14:17

โยก พลโท สุรพล สมัย นายกอภิสิทธิ์ ไม่ผิด เพราะ

1. พลโท สุรพล ยอมรับและไม่มีการฟ้องร้อง

2. มีการทำงานร่วมกันระยะหนึ่งแล้ว นายกอภิสิทธิ์ อาจมีเหตุผลด้านการทำงาน เห็นข้อบกพร่อง

    หรือไม่สนองนโยบาย จึงสามารถโยกย้ายได้ตามระเบียบการบริหารงานในหน่วยงานราชการ

3. นายกอภิสิทธิ์ คงมีเหตุผลตามระเบียบข้อบังคับแล้ว จึงทำให้พลโท สุรพล ยอมรับและไม่ฟ้องร้อง

 

โยก คุณถวิล สมัย นายกยิ่งลักษณ์ ผิด เพราะ

1. ยังไม่ได้เริ่มทำงานกันเลย จึงยังไม่มีเหตุผลใดที่จะโยกย้าย

2. มีการฟ้องร้อง เพราะคุณถวิล เห็นว่าไม่เป็นธรรม เหมือนการลงโทษทั้งมีไม่มีความผิด หรือบกพร่องอะไร

3. เหตุเรื่องมีความผิด หรือบกพร่อง ก็ไม่ได้เพราะยังไม่ได้เริ่มต้นทำงานในรัฐบาลใหม่เลย

4. เหตุเรื่องไม่สนองนโยบาย ก็ไม่ได้เพราะยังไม่ได้เริ่มต้นทำงานเลยเช่นกัน

5. ศาลปกครองได้ตัดสินแล้วว่า คุณถวิล ไม่มีความผิดที่จะโยกย้ายได้

ุ6. เหตุผลเรื่องความเหมาะสม มันครอบจักรวาล ซึ่งอาจผิดรัฐธรรมนูญได้ เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 มีบทบัญญัติ

    เกี่ยวกับการโยกย้ายข้าราชการไว้ จึงมีการฟ้องร้องกันดังกรณีนี้ รัฐบาลต้องหาเหตุผลที่ฟังขึ้นชี้แจงล่ะครับ

    แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น

 

ต่อไปไม่ว่ารัฐบาลไหน จะต้องมีเหตุผลที่สมควรจึงสามารถย้ายข้าราชการได้...

เหตุผล "เพราะความเหมาะสม" สมควรเลิกใช้เสียที...




#1130175 "หมอก้อง สรวิชญ์" จัดหนัก! "อ.สุขุม" บอกอย่าให้เงินมาง้าง...

Posted by คนไทยเสรี on 8 April 2014 - 14:11

อาจารย์ท่านนี้ผมเคยนับถือในความรู้ทางวิชาการมาก่อน

แต่การแสดงทางวิชาการระยะหลังนี้ ทำให้ผมผิดหวังและเสียใจมาก

 

1. "ถึงศาลตัดสินให้นายกหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที แต่ตอนนี้เป็นแค่รักษาการ ไม่ใช่นายก ไม่มีผล"

    ไม่น่าเชื่อว่านี่มันคำพูดของศรีธนญชัยชัดๆ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนใช้คำพูดแบบศรีธนญชัยในชีวิตจริง

    โดยเฉพาะคนที่เป็นครูบาอาจารย์มาก่อน

2. อยากจะเตือนสามัญสำนึกที่ดีที่อาจจะหลงเหลืออยู่ของ อ.สุขุม สักนิดนะครับว่า ผมคนหนึ่งที่อ่านเรื่องศรีธนญชัยแล้ว มีความรู้สึกว่า

    ไม่ยอบรับว่าการกระทำแบบศรีธนญชัยเป็นสิ่งฉลาด น่ายกย่อง ดังนั้นการตีความกฏหมายแบบของอาจารย์จึงไม่มีทางที่เป็นที่ยอมรับ

    ของคนทั่วไปได้ทั้งหมดแน่

3. และผมก็ไม่เชื่อว่าตอนที่อาจารย์สอนนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย อาจารย์จะสอนลูกศิษย์ตีความกฏหมายแบบนี้

4. "เรื่องโกงจำนำข้าวข้าราชการประจำต้องรับผิดชอบ เพราะนายกเป็นแค่ผู้มอบนโยบาย"

    อยากถามว่า?

    4.1 นโยบายนี้ก็ความเสียหายถึง 5 แสนล้านบาท... นายกจะไม่รับผิดชอบเลยหรือ?

    4.2 เหมือนจะยอมรับแล้วว่ามีการโกง ทั้งๆ ที่ ป.ป.ช. ยังไต่สวนไม่เลย... มันมีการโกงชัดเจนใช่ไหม๊ครับ?

    4.3 ไม่มีการขายข้าว จีทูจี ตอนนั้นทั้งที่รัฐมนตรีแถลงแล้ว นายกจะไม่ทำอะไรสักอย่าง... 

         นายกปล่อยปละละเลยไหม๊ครับ?

    4.4 ไม่มีการขายข้าว จีทูจี แล้วยังขายข้าวให้ สยามอินดิก้า บริษัทเดียวอีก ในราคาต่ำมากๆ ประมาณตันละ

           4000-5000 บาทเท่านั้น

           .... ทำไมต้องขายให้บริษัทเดียวเท่านั้น? ทำไมต้องขายราคาต่ำขนาดนั้น?

         ... ทำไมนายกปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น????

5. เรื่องขายข้าว จีทูจี และสยามอินดิก้านี้ เป็นการออกข่าวลวงประชาชน ว่ามีการขายข้าวแบบจีทูจี แต่ที่จริง

    แล้วแอบระบายข้าวผ่านสยามอินดิก้า เพื่อจะลักลอบเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองใช่หรือไม่? หรือเพื่ออะไร?

    ... นายกจะไม่รับผิดชอบเลยหรือ? หรือนั่งเป็นหัวหลักหัวตอในตำแหน่งประธาน (กขช)?




#1105799 ไม่อาย ไม่สนใจอะไรกันแล้วใช่ไหมครับ

Posted by คนไทยเสรี on 15 March 2014 - 09:58

 

 

 

 

 

 


ใช่ครับ  เป็นหนึ่งในขบวนการตรวจสอบ    แต่ไม่ใช่ว่าจะตรวจสอบได้ตามอำเภอใจนะครับ

จะต้องมี  รธน  รองรับด้วย  และ  ศาล  รธน.  ก็ไม่มีอำนาจที่จะตีความให้เกินเลยไปกว่าที่  รธน  กำหนด

 

 

ก่อนที่ จาฤก จะถลำดักดานลึกไปกว่านี้  ช่วยขยายความ ยกข้อเท็จจริงว่า  ศาล รธน. ได้มีพฤติกรรมตีความเกินกว่าที่  รธน. กำหนด  ตั้งแต่เมื่อไหร่

 

ถ้ายกข้อเท็จจริงมาไม่ได้   ผมจะมองว่าที่โพสนั่น  เป็นการเห่าหอนโดยไม่รับผิดชอบนะ

 

ถามผมว่า  ตั้งแต่เมื่อไหร่   อันนี้ผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน

ส่วนที่ขอให้ขยายข้อเท็จจริง  ผมขอยกตัวอย่าง  เรื่อง ของมาตรา  68  แล้วกัน

กรณี  ที่ศาล  รธน.  บอกว่า  สามารถ  ยื่นตรงต่อ  ต่อศาลได้  โดยไม่ต้องยื่นผ่านอัยการ

ทั้งที่บทบัญญัติ  ในมาตราดังกล่าวตอนหนึ่งบอกว่า   "....ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว

ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
สั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว ..."

 

การที่ศาล  รธน.บอกว่าให้ยื่นตรงต่อศาลได้และศาลมีอำนาจรับ ผมถือว่า  ตีความเกินกว่ากฎหมายกำหนดแล้ว

และก็หลายครั้งแล้วด้วย  ผมขอตั้งขอสังเกตุว่า  ถ้าหากว่าตีความว่า  สามารถ  ยื่นตรงต่อ  ศาล ได้

แล้ว  รธน . จะบัญญัติว่า  ให้ยื่นให้อัยการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่ออะไร  ไม่ระบุไม่ดีกว่าเหรอ

 

ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิ (ดังต่อไปนี้)

 

1. เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

2. และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

 

สิทธิของ  "ผู้ทราบการกระทำดังกล่าว"  มีทั้ง 2 ข้อ  ซึ่งตรงนี้ ทั้ง  สสร. ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ  และ  ศาลรัฐธรรมนูญ ก็วินิจฉัยตรงกัน

 

ซึ่งประเด็นนี้ได้ถก ได้เถียงไปหลายเดือนจนได้ข้อสรุปชัดเจนไปตั้งนานแล้ว  เพราะฉะนั้น  จาฤก  อย่าดักดานอยู่กับที่ และอย่าเห่าหอนให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญตามข้อมูลสวะที่ฟังจากสื่อแดงจั ญไร  จนไม่คิดจะพัฒนาความรู้ พัฒนาสมอง  เลยชาตินี้    เพราะมิฉะนั้นอีกหน่อยจะคุยภาษาคนกับใครเค้าไม่รู้เรื่อง

 

 

ก็มีคนไปตีความคำว่า "และ" เป็นคำว่า "แล้ว"  รึไม่ก็เถียงกลับว่าถ้าจะให้ความหมายชัดเจนไปเลยถึงไม่ใช้คำว่า "หรือ"

 

 

ก็ศาลรัฐธรรมนูญ  ซึ่งเป็น  ผู้ชี้ขาดสูงสุดในเรื่องรัฐธรรมนูญ  ได้วินิจฉัยแล้วว่า  มีอำนาจรับเรื่อง

 

เพราะฉะนั้นคำว่า  "ก็มีคนไปตีความคำว่า"  ถ้าคนนั้นไม่มีตำแหน่ง ไม่มีอำนาจชี้ขาด  ช่วงก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย  ย่อมมีสิทธิแสดงความเห็น คาดเดา และตั้งข้อสังเกตุต่าง ๆ นานาได้

 

แต่ตอนนี้ศาลวินิจฉัยไปแล้ว  มีผลผูกพันทุกองค์กรไปแล้ว  จะมามโน จิตหลอน เพ้อเจ้อไปทำไม ??? 

 

คดีที่สิ้นสุดไปแล้ว  การมโน ไม่ได้ช่วยให้คดีตีลังกากลับหลัง หรือพลิกซ้ายพลิกขวาได้อีกนะ

 

 

อย่าย่ำเท้าอยู่กับที่  อย่าดักดานอยู่ในกะลา  อย่ามโนหลอนตัวเองไปวัน ๆ  ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป -_-

 

โอ. เค.ครับนั่นคือแนวคิดของคุณ  ถ้าคุณคิดว่า  ศาล  รธน.คือพระเจ้าที่จะดลบรรดาล

ทุกสิ่งทุกอย่างได้  จนต้องบูชา   ผมก็ไม่ก้าวก่ายความคิดของคุณ

แต่สำหรับผม  ผมคิดไปอีกอย่างหนึ่ง  และผมก็มั่นใจว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้นคนเดียวแน่

 

1555549_845409152151971_1655930438_n.jpg

 

 

1. อย่าคิดแบบนั้นเลยครับ เพราะก็มีคนอีกหลายคนที่เค้าคิดไม่เหมือนคุณเช่นกัน

 

2. ถ้าคุณและพวกไม่ยอมรับอำนาจศาล บ้านเมืองบรรยลัยแน่เหมือนกัน

 

3. ไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่เค้าไม่ยอมรับอำนาจศาลกัน

 

4. และจริงๆ แล้วคงไม่มีประเทศไหนที่มีการยอมให้มีการวิจารณ์ศาลได้ขนาดนี้ ถึงแม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์อิสระ

    แต่ก็เป็นอำนาจที่ได้มาจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ

 

5. เรื่องอัยการ, อัยการไม่ได้มีอำนาจตุลาการนะครับ อัยการเป็นเครื่องมือของอำนาจบริหารแล้วจะให้กระบวนการยุติธรรม

    หยุดอยู่ที่ความเห็นของอัยการได้อย่างไร ไม่ต้องตีความคำอะไรให้สับสนหรอกครับ

 

 

ถ้าคุณลองเคารพคำตัดสินของศาลดู บ้านเมืองเราจะสงบขึ้นมาทันทีเลย




#1101894 ไม่อาย ไม่สนใจอะไรกันแล้วใช่ไหมครับ

Posted by คนไทยเสรี on 12 March 2014 - 13:40

 

 

 

 

 

เรื่องที่มาสว.นี่อ่านคำพิพากษาขแงศาลหรือยัง ถ้ายังกลับไปอ่านก่อน

ผมโพสต์ไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้  ว่ายุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร

ฉะนั้นผมจะขอยกข้อเขียนจากผู้ที่อยู่ในวงการกฎหมาย(อ. สมลักษณ์  จัดกระบวนพล)มาให้อ่านเปรียบเทียบแล้วกัน

เชื่ออย่างไรขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคุณ

 

 

http://www.matichon....2&subcatid=0207

บางส่วนของข้อความ

ด้วยความเคารพต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผู้เขียนได้พิจารณาบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ประกอบเจตนารมณ์ของ ส.ส.ร. ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว มีความเห็นโดยสุจริตใจว่า

1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา

 

ศาลรัฐธรรมนุญ มีอำนาจวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาสว. ก็เป็นคดีความเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ

2.กระบวนการที่ยื่นตามมาตรา 68 ไม่ถูกต้องเพราะไม่ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยอัยการสูงสุดก่อนตามมาตรา 68 วรรค 2

 

เรื่องคดีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องผ่านอัยการสูงสุดรึเปล่า ลองดูตอนตัดสินคดีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับดู ว่าทำไมศาลถึงวินิจฉัยว่าคดีความดังกล่าวถึงไม่ต้องผ่านอัยการสูงสุดก็ได้


3.เกินกำหนดเวลาที่ศาลจะวินิจฉัย เพราะนายกรัฐมนตรีได้นำร่างดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

 

ในรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีกำหนดเรื่องเงื่อนไขเวลาที่ศาลจะวินิจฉัยเลย


4.เป็นคำวินิจฉัยที่คลุมเครือ คือวินิจฉัยว่าผู้ร้องกระทำผิดตามมาตรา 68 วรรค 1 แต่ไม่สั่งให้ผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมกระทำการแก้ไขอย่างไร เป็นเหตุให้สถาบันดังกล่าว เช่น รัฐสภา, นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ทราบจะปฏิบัติต่อไปอย่างไร

 

ศาลวินิจฉัยอย่างเดียว ถูกแล้ว ถ้าจะให้สั่งคงทำไม่ได้ ได้แต่ให้คำแนะนำ ซึ่งศาลจะไม่แนะนำก็ได้ รึว่า รัฐสภา นายกรัฐมนตรี คิดเองไม่เป็น ต้องให้ศาลคิดให้

5.ไม่มีผลบังคับตามมาตรา 216 วรรค 5

 

ไม่มีผลอย่างไรในเมื่อ คำวินิจฉัยของศาลผูกพันทุกองค์กร

6.มีผลกระทบต่อสังคมอย่างกว้างขวาง เช่น มีผู้นำคำวินิจฉัยนี้ใช้อ้างเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของมวลชนว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมเพราะไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับนี้

 

ตัวอย่างที่ยกมา ก็ฝ่ายรัฐบาลแถลงไม่ยอมรับอำนาจของศาลเอง จะมาโทษศาลที่ให้คำวินิจฉัยได้อย่างไร

7.จากผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้อำนาจตุลาการเข้าไปก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ เพราะถ้าศาลมีอำนาจเข้าไปวินิจฉัยเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ผ่านวาระ 3 ไปแล้ว บุคคลที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าฉบับใดๆ ก็จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบทุกระยะไป ไม่ว่าในวาระ 1 วาระ 2 วาระ 3 ผลแห่งการนี้จึงดูเสมือนว่าศาลรัฐธรรมนูญคุมอำนาจในการร่างหรือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ

 

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบ ในเมื่อในรัฐสภา มีการจำกัดสิทธิการอภิปรายของฝ่ายค้าน มีปัญหาเรื่องการเสียบบัตรแทนกัน มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของสว. เกี่ยวพันกับสว. ซึ่งมีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย เช่นการแก้ไขให้วุฒิสภาสามารถลงรับสมัครเลือกตั้งได้ไม่จำกัดจำนวณครั้ง ทำให้สว.ส่วนหนึ่งมีผลประโยชน์อันเกิดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูณฉบับดังกล่าว จึงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน หากการแก้กฎหมายใดๆที่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น พรบ.ประกันสังคม ศาลจะไม่นำมาพิจารณา

 

 

แนะนำ  ให้เข้าไปอ่านตัวเต็มของบทความตามลิงค์

จะตอบคำถาม  ที่คุณสงสัยโต้แย้งมา ทุกข้อ (เข้าใจว่าคุณยังไม่ได้อ่านตัวเต็ม)

 

 

1. ศาลตัดสินไปแล้ว ก็ควรจะจบนะครับ ตามวิถีทางประชาธิปไตย โดยอำนาจในรัฐธรรมนูญ

2. อ. สมลักษณ์  จัดกระบวนพล ก็เป็นนักวิชาการด้านกฏหมายท่านหนึ่งที่มีความเห็นอย่างนี้ แต่ผมก็เห็นนักวิชาการด้านกฏหมาย

    อีกหลายท่านที่มีความเห็นตามคำวินิจฉัยของศาล รวมทั้งสภาทนายความด้วย

3. คุณ Jump man ก็แย้งทุกประเด็นของ อ. สมลักษณ์ ได้อย่างมีเหตุผล

 

หริอ คุณ จาฤก ลองแย้งเป็นข้อ ๆ ให้ละเอียดหน่อยได้ไหม๊ครับ? ไม่ต้องเขียนสั้นๆ ด้วยการโยนไปให้อ่านตัวเต็ม

 

1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา

ศาลรัฐธรรมนุญ มีอำนาจวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาสว. ก็เป็นคดีความเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ

 

การแก้ไข  ที่มาของ สว.เป็นการแก้ใขร่าง  รธน.  โดยอาศัยอำนาจ  ตามบทบัญัติของ  รธน. มาตรา 291(วรรค 1-7)

ซึ่งเป็นบทบัญญัติเป็นหมวดหมวดการแก้  รธน  โดยตรง  และในหมวดดังกล่าว  ได้กล่าวถึงขั้นตอนการแก้ไว้โดยละเอียด

ไม่มีตรงไหนเลยที่ี  ระบุไว้ว่า  ให้ใครหรือผู้ใด  สามารถยื่นร่างนี้  ไปยัง ศาล รธน  ได้    เพราะถือว่าอำนาจการสถาปนา

 รธน.หรือแก้ไข  รธน. เป็นอำนาจของฝ่ายนิติฯ  ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของอธิปไตยของปวงชน   ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 3

 

3.เกินกำหนดเวลาที่ศาลจะวินิจฉัย เพราะนายกรัฐมนตรีได้นำร่างดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

ในรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มีกำหนดเรื่องเงื่อนไขเวลาที่ศาลจะวินิจฉัยเลย

 

ถ้าเปรียบเทียบกับ  การตรากฎหมายลูก  ตรา  พรบ.  หรืออื่นๆ รธน.จะกำหนดขั้นตอนที่จะสามารถ ยื่นต่อ  ศาล  รธน

ไว้ชัด  เช่น  ม. 141(การตรา  พรบ ประกอบ  รธน)หรือ  ม. 150  151 (การตรา พรบ.)   รธน.จะกำหนดไว้ว่า

จะต้องทำก่อนที่จะ  ทูลเกล้าเพื่อลงพระปรมาภิไธย  

 

  4.เป็นคำวินิจฉัยที่คลุมเครือ คือวินิจฉัยว่าผู้ร้องกระทำผิดตามมาตรา 68 วรรค 1 แต่ไม่สั่งให้ผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมกระทำการแก้ไขอย่างไร เป็นเหตุให้สถาบันดังกล่าว เช่น รัฐสภา, นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ทราบจะปฏิบัติต่อไปอย่างไร

ศาลวินิจฉัยอย่างเดียว ถูกแล้ว ถ้าจะให้สั่งคงทำไม่ได้ ได้แต่ให้คำแนะนำ ซึ่งศาลจะไม่แนะนำก็ได้ รึว่า รัฐสภา นายกรัฐมนตรี คิดเองไม่เป็น ต้องให้ศาลคิดให้

 

ในกรณีนี้  ศาลมีคำวินิจฉัยว่า  การแก้ใขที่มา  สว. เป็นการได้มาซี่งอำนาจที่มิได้บัญัติไว้ใน  รธน .(ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเป็นไปได้อย่างไร)

แต่ในมาตรา  68.  หากศาล  วินิจฉัยแบบนั้น  ศาลจะต้องสั่งให้หยุกการกระทำดังกล่าวด้วย   เพราะนี่คือจุดหมายหลักในการใช้สิทธิ

ตาม  มาตรา 68  แต่ศาลกลับไม่พูดถึงกรณีนี้

 

5.ไม่มีผลบังคับตามมาตรา 216 วรรค 5

ไม่มีผลอย่างไรในเมื่อ คำวินิจฉัยของศาลผูกพันทุกองค์กร

 

จะผูกพันทุกองค์กร  ก็ต่อเมื่อ  เป็นคำพิพากษาโดยชอบ  ไม่ขัด  รธน.  ตามที่ได้อธิบายมาแล้ว

ตามข้างต้น  แต่ในกรณีนี้ผมถือว่า  ศาล  รธน  พิพากษาเกินเลยจากที่ รธน  กำหนด   เหมือนศาล

เขียนกฎหมายเอง  ซึ่งไม่น่าจะถูกต้อง

 

6.มีผลกระทบต่อสังคมอย่างกว้างขวาง เช่น มีผู้นำคำวินิจฉัยนี้ใช้อ้างเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของมวลชนว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรมเพราะไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ตัวอย่างที่ยกมา ก็ฝ่ายรัฐบาลแถลงไม่ยอมรับอำนาจของศาลเอง จะมาโทษศาลที่ให้คำวินิจฉัยได้อย่างไร

 

ต้นเหตุน่าจะอยู่ที่เหตุผลที่อธิบายมาข้างต้น   เป็นเหตุให้มีการไม่ยอบรับอำนาจศาล  รธน

 

7.จากผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้อำนาจตุลาการเข้าไปก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ เพราะถ้าศาลมีอำนาจเข้าไปวินิจฉัยเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่ผ่านวาระ 3 ไปแล้ว บุคคลที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าฉบับใดๆ ก็จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบทุกระยะไป ไม่ว่าในวาระ 1 วาระ 2 วาระ 3 ผลแห่งการนี้จึงดูเสมือนว่าศาลรัฐธรรมนูญคุมอำนาจในการร่างหรือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ

 

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบ ในเมื่อในรัฐสภา มีการจำกัดสิทธิการอภิปรายของฝ่ายค้าน มีปัญหาเรื่องการเสียบบัตรแทนกัน มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของสว. เกี่ยวพันกับสว. ซึ่งมีหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย เช่นการแก้ไขให้วุฒิสภาสามารถลงรับสมัครเลือกตั้งได้ไม่จำกัดจำนวณครั้ง ทำให้สว.ส่วนหนึ่งมีผลประโยชน์อันเกิดจากการแก้ไขรัฐธรรมนูณฉบับดังกล่าว จึงต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน หากการแก้กฎหมายใดๆที่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น พรบ.ประกันสังคม ศาลจะไม่นำมาพิจารณา

 

ใช่ครับ  เป็นหนึ่งในขบวนการตรวจสอบ    แต่ไม่ใช่ว่าจะตรวจสอบได้ตามอำเภอใจนะครับ

จะต้องมี  รธน  รองรับด้วย  และ  ศาล  รธน.  ก็ไม่มีอำนาจที่จะตีความให้เกินเลยไปกว่าที่  รธน  กำหนด

 

 

ขอบคุณสำหรับคำตอบ ครับ ส่วนความเห็นของผมในกรณีนี้
1. ความเห็นของ อ. สมลักษณ์ ก็เหมือนๆ กับนักวิชาการเสื้อแดงคนอื่นๆ เป็น Pattern เดียวกัน
 
2. เรื่องว่า “ศาลไม่มีอำนาจ” ก็ท่องตามความคิดตัวเอง ซึ่งศาลก็บอกแล้วว่า “ศาลมีอำนาจ” ตามเหตุผลและข้อกฏหมายที่ศาลอ้าง ซึ่งจริงๆแล้วก็ควรจะจบเพราะศาลอ้างอิงข้อกฏหมายได้
 
3. ทำไมต้องไปตีความแข่งกับศาล มันก้าวล่วงศาลและควรจะผิดกฏหมายดูหมิ่นศาลด้วย อย่างนี้จะทำให้บ้านเมืองสงบได้อย่างไร ในเมื่อความคิดเห็นแบบของคุณก็ไม่ได้รับการยอมรับกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง
 
4. ประเด็นของเรื่องนี้คือ
   4.1 การแก้ไขเรื่อง ส.ว. สมัย ปชป. เป็นการแก้ไขใน “กระบวนการ” ไม่ได้กระทบกับ “เนื้อหา” ในรัฐธรรมนูญ
         จึงสามารถแก้ไขในกระบวนการรัฐสภาได้
   4.2 การแก้ไขเรื่อง ส.ว. สมัย พท. นี้เป็นการแก้ไขที่มาของ ส.ว. มีผลให้เจตนารมณ์และ “เนื้อหา” ในรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลง
         เรื่องความอิสระและการคานอำนาจของวุฒิสภา ความหมายคือเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ จึงไม่สามารถแก้ไขในกระบวนการ
         รัฐสภาได้ จะต้องแก้ไขโดยทำประชามติเท่านั้น เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากการทำประชามติครับ
 
เห็นความแตกต่าง หรือไม่ครับ? ผมก็เห็นว่าศาลไม่ได้ตัดสินขัดกันอย่างไร
 
แต่ที่เบี่ยงเบนว่า "สมัย ปชป. แก้ได้ แต่สมัย พท. แก้ไม่ได้", "ศาลไม่ให้ สว. มาจากการเลือกตั้ง" มันถูกต้องหรือครับ?



#1084740 27นี้ อีโง่หนี ปปช. แน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นยังไงครับ

Posted by คนไทยเสรี on 26 February 2014 - 16:18

 

:D ยิ่งนางยกและเหล่าขี้ข้าดิ้นแบบนี้... แสดงว่าคดีนี้โดนจริงๆ หาหลักฐานมาหักล้างไม่ได้

องค์กรพวกนี้  ถึงไม่มีหลักฐานเขาก็ตัดสินให้ผิดได้  ถ้าไม่ใช่พวกกันเอง

เขาเรียกองค์กรเทวดา :lol:

 

 

แต่ ปปช. เค้ามีหลักฐานนะครับ

1. ขายข้าว จีทูจี สมัยรัฐมนตรีบุญทรงโกหก ไม่มีจริง, ทำไมต้องโกหก?

2. มีการขายให้ บริษัทสยามอินดิก้า เพียงบริษัทเดียว, ทำไมต้องขายให้สยามอินดิก้าเท่านั้น?

3. ทำไมต้องขายในราคาที่ต่ำมาก ๆ ประมาณ 3000 บาท/ตัน  (คิดจากกู้ 7 แสนกว่าล้าน ได้เงิน แค่ 1.4 แสนล้าน ตอนนั้น) ทำไม?

4. บริษัทอื่นที่จะซื้อข้าวจากรัฐ ทำไมต้องซื้อผ่านสยามอินดิก้าเท่านั้น?

5. มีหลักฐานว่า สยามอินดิก้า ขายไปมีกำไร 3000-5000 บาท/ตัน ทำไมรัฐไม่ขายให้บริษัทที่ซื้อจากสยามอินดิก้าโดยตรง?ุุ

6. มีหลักฐานทางบัญชีว่าขาดทุนไปถึงเวลานี้ ร่วม 5 แสนล้าน จะรับผิดชอบยังไง?

 

ถ้าไม่มีหลักฐานมาแย้ง สมควรที่ ปปช. จะต้องชี้มูลไหม๊ครับ? 

ภาษีของประชาชนสูญหายไปขนาดนี้ สมควรจะต้องชี้แจงไหม๊ครับ?




#1084149 27นี้ อีโง่หนี ปปช. แน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นยังไงครับ

Posted by คนไทยเสรี on 26 February 2014 - 09:43

 

 

 

ด้วยความเคารพ. .  . . ยุติธรรม มาก มาก เลยครับ

 

ไหนบอกว่าไม่ผิด แล้วกลัวห่านอะไร ควาย แล้วเรื่องคดีเร็ว คดีช้า มันอยู่ที่ความยากง่ายของคดี อย่ามั่่ว คดีอีปูมันชัดเจนเกิน G to G มันไม่มี แต่อีปูพูดออกชัดว่าเห็นสัญญาแล้ว 

 

 

ถึงตรงนี้ยังไม่เข้าใจคำว่า ถูก ว่า ผิด อีกหรือครับ ตอนนี้ที่ผมเห็นมันมีแต่ ถูกในมุมมองใคร ผิดในมุมมองใคร . . .

พูดกันตลอดไม่ผิดจะหนีทำใม...แล้วผิดในที่นี้ท่านตีความจากอะไรครับ ในเมื่อคนที่จะชี้ถูกชี้ผิดก็เป็นซะอย่างนี้ โปรดพิจารณาเถอะครับด้วยความเคารพ

 

 

ถูกหรือผิด ในทางกฏหมาย ไม่ได้ขึ้นกับมุมมองของใครครับ ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน และบทบัญญัติในข้อกฏหมาย

1. อย่าตัดสินด้วยความรู้สึกซิครับว่า "คนที่จะชี้ถูกชี้ผิดก็เป็นซะอย่างนี้"

2. อย่าเอนเอียงตามคำชี้นำ การพยายามหลีกเลี่ยงความผิดโดยไม่ต่อสู้ตามกระบวนการทางกฏหมาย

3. อย่าหลงเชื่อจากการเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงครับ




#1084081 27นี้ อีโง่หนี ปปช. แน่นอนแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นยังไงครับ

Posted by คนไทยเสรี on 26 February 2014 - 08:36

 

ด้วยความเคารพ. .  . . ยุติธรรม มาก มาก เลยครับ

 

 

คดีแต่ละคดีความพร้อมของหลักฐานที่ ปปช. สามารถรวบรวมได้ต่างกัน เมื่อหลักฐานคดีจำนำข้าวชัดเจน ปปช. ก็ทำก่อน ก็มีเหตุผลนะครับ

1. ผมว่าเรียกร้องขอดูหลักฐานที่ ท่านนายก แก้ข้อกล่าวหา แล้วจึงดูผลการตัดสินว่ายุติธรรมหรือไม่ ถึงจะถูกต้องตามกระบวนการ

   ไม่ใช่กล่าวหาว่าไม่ยุติธรรม ทั้งที่ยังไม่ได้ไต่สวนดูหลักฐานกันเลย มันอะไรกันครับ ท่านให้ความเป็นธรรมกับ ปปช. หรือเปล่า?

2. ถ้านายกเอาแต่หนี ไม่สู้คดีอย่างนี้ จะให้เข้าใจว่าอย่างไรครับ? ผิดจริง ไม่มีหลักฐานมาสู้ใช่หรือไม่?

3. การยกคดีอื่นมาแก้ตัว มันไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาได้นะครับ

4. การพยายามบั่นทอนความน่าเชื่อถือของ ปปช. ผมว่ามีแต่จะสร้างความน่าเคลือบแคลงให้ทางนายกฯ เองนั่นแหละ

5. คดีของคุณอภิสิทธิ์ เราค่อยมาดูกันต่อไป รัฐบาลควรสั่งให้หน่วยงานที่ ปปช. ขอหลักฐานไปรีบส่งให้ ปปช. ด่วนครับ

    เป็นรัฐบาลอยู่แล้วคงทำได้ไม่ยาก




#1081472 กลุ่ม กบฏ นปช.ล้านนา ขอแบ่งแยกดินแดน

Posted by คนไทยเสรี on 24 February 2014 - 14:29

กลยุทธนี้ช่างน่าเศร้า และน่ารังเกียจยิ่งนัก ช่างทำให้ผมนึกถึงการเสียกรุงครั้งแรกจริงๆ คนไทยที่รักชาติคงจะมีความรู้สึกเหมือนตอนนี้

กลยุทธนี้ เพื่อ

1. สร้างความแตกแยกและเกลียดชัง ในหมู่คนไทยด้วยกันทั้งสองฝ่าย

2. ปูทางไปสู่การหลอกให้คนเสื้อแดงเป็นเหยื่อในการทำสงครามประชาชน

3. อาจมีผลทำให้กลุ่ม กปปส. กลัว และ อ่อนแอลง

4. ให้ทหารเคลื่อนไหวเพื่อเป็นข้ออ้างในการระดมคนเสื้อแดงอีกครั้ง

 

ขอวิงวอน คนเสื้อแดงว่า อย่าได้หลงเชื่อพวกแกนนำที่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองพวกนี้เลย อย่าเอาชีวิต

ที่มีค่าของท่านเป็นเครื่องมือให้พวกเขาเอาไปใช้เลยครับ

 

ขอบอกว่ากลยุทธไม่มีทางใช้ได้สำหรับคนไทยปัจจุบันหรอกครับ เนื่องจากการสื่อสารเดี๋ยวนี้ทำให้คนรับรู้ข่าวสารทั่วถึงอย่างรวดเร็ว

ขอเตือนว่ามันจะสร้่างผลเสียให้พวกท่านผู้ที่คิดกลยุทธเอง

1. คนเสื้อแดง ก็เป็นคนไทยที่รักชาติ ดังนั้นก็จะมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยและจะแยกตัวออกมา

2. กลุ่มไทยเฉย ก็จะมีกลุ่มหนึ่งที่จะไม่เฉยอีกต่อไปเพราะโดนกระตุ้นเรื่อง "ชาติ" ที่มันเป็นความรักที่อยู่ในสายเลือดของ

    คนไทยทุกคน

 

แผ่นดินไทย บรรพบุรุษรวบรวมมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ อย่าให้.ใครหน้าไหนมาหลอกพวกเราให้แตกแยกกันครับ...




#1081460 พวกแยกประเทศ

Posted by คนไทยเสรี on 24 February 2014 - 14:21

กลยุทธนี้ช่างน่าเศร้า และน่ารังเกียจยิ่งนัก ช่างทำให้ผมนึกถึงการเสียกรุงครั้งแรกจริงๆ คนไทยที่รักชาติคงจะมีความรู้สึกเหมือนตอนนี้

กลยุทธนี้ เพื่อ

1. สร้างความแตกแยกและเกลียดชัง ในหมู่คนไทยด้วยกันทั้งสองฝ่าย

2. ปูทางไปสู่การหลอกให้คนเสื้อแดงเป็นเหยื่อในการทำสงครามประชาชน

3. อาจมีผลทำให้กลุ่ม กปปส. กลัว และ อ่อนแอลง

4. ให้ทหารเคลื่อนไหวเพื่อเป็นข้ออ้างในการระดมคนเสื้อแดงอีกครั้ง

 

ขอวิงวอน คนเสื้อแดงว่า อย่าได้หลงเชื่อพวกแกนนำที่ไม่ได้ต่อสู้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองพวกนี้เลย อย่าเอาชีวิต

ที่มีค่าของท่านเป็นเครื่องมือให้พวกเขาเอาไปใช้เลยครับ

 

ขอบอกว่ากลยุทธไม่มีทางใช้ได้สำหรับคนไทยปัจจุบันหรอกครับ เนื่องจากการสื่อสารเดี๋ยวนี้ทำให้คนรับรู้ข่าวสารทั่วถึงอย่างรวดเร็ว

ขอเตือนว่ามันจะสร้่างผลเสียให้พวกท่านผู้ที่คิดกลยุทธเอง

1. คนเสื้อแดง ก็เป็นคนไทยที่รักชาติ ดังนั้นก็จะมีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยและจะแยกตัวออกมา

2. กลุ่มไทยเฉย ก็จะมีกลุ่มหนึ่งที่จะไม่เฉยอีกต่อไปเพราะโดนกระตุ้นเรื่อง "ชาติ" ที่มันเป็นความรักที่อยู่ในสายเลือดของ

    คนไทยทุกคน




#1075160 นายกฯยันไม่ผิดกรณีปปช.กล่าวโทษโครงการจำนำข้าว

Posted by คนไทยเสรี on 20 February 2014 - 15:37

1. “ดิฉันก็พร้อมที่จะพิสูจน์ให้ชัดแจ้งอีกครั้งว่า โครงการดังกล่าวมีเจตจำนงที่ดีต่อชาวนา และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน”
    อยากบอกนายกฯ ว่า ;
    1.1 ไม่มีใครปฎิเสธหรอกครับว่า ตัวโครงการมีประโยชน์ถ้าปฏิบัติได้ แต่หลายๆ คนก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่ามันปฏิบัติ
          ได้ยากเนื่องจากราคา 15,000 บาท/ตัน  มันสูงเกินไป และเราไม่สามารถกำหนดราคาขายได้ เนื่องจากข้าวไม่
          ได้ผลิตได้เฉพาะเราประเทศเดียว
    1.2 โครงการจะมีประโยชน์ ถ้าท่านขายข้าวได้ราคามากกว่า 15,000 บาท/ตัน  แล้วท่านทำได้หรือไม่ครับ?
    1.3 โครงการนี้ตั้งวงเงินกู้ไว้  5 แสนล้านบาท แต่ตอนนี้กู้เกินมาแล้ว 7 แสนกว่าล้าน และยังจะต้องกู้อีกทุก
          ครั้งที่ถึงเวลาจำนำข้าว มันบริหารโครงการกันอย่างไรครับ? 
    1.4 ท่านกู้เงินมาแล้ว 7 แสนกว่าล้านบาท แต่สามารถคืนเงินให้ ธกส. หมุนเวียนในโครงการแค่ประมาณ 2 แสน
         ล้าน และมีข้าวค้างสต็อค 18 ล้านตัน คิดเป็นขาดทุนอยู่ประมาณ 4 แสนล้านบาท ท่านทำเงินภาษีของ
         ประชาชนหายไปมากมายมหาศาลขนาดนี้ แล้วประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนครับ?
    1.5 ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นประมาณ 30% ภายในสองปี้นี้ ส่วนหนึ่งเพราะมีเงินหายไปจากระบบเนื่องจากโครงการนี้
          แล้วประชาชนได้ประโยชน์อะไรครับ?
    1.6 โครงการนี้ทำให้ปริมาณการส่งออกน้อยลงจนอันดับตกลงมาอยู่ที่สาม แล้วประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนครับ?
    1.7 โครงการนี้ทำให้คุณภาพข้าวไทยตกต่ำจนเป็นเหตุผลให้บางประเทศยกเลิกการสั่งซื้อ เช่น อีรัค
          แล้วประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนครับ?
 
2. “พี่น้องประชาชนคะ ดิฉันขอยืนยันความบริสุทธิ์ในการปฏิบัติหน้าที่ว่า ดิฉัน มิได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา”
    อยากบอกนายกฯ ว่า ;
    2.1 คำพูด “ยืนยันความบริสุทธิ์” แก้ข้อกล่าวหาไม่ได้ และคำพูดของท่านไม่เป็นที่เชื่อถือมานานแล้วเนื่อง
          จากไม่เคยแสดงอะไรที่เป็นรูปธรรม ในการแก้ข้อกล่าวหาเลย
    2.2 ขอยืนยันความบริสุทธิ์ ด้วย “หลักฐาน.” หรือ “ตัวเลขที่ตรวจสอบได้” ได้ไหม๊ครับ เช่น ตัวเลขขาดทุน
         4 แสนล้าน มันอยู่ที่ไหน? ตัวเลขทางบัญชีเป็นอย่างไร? มีแผนจะหาเงินที่ไหนมาชดเชย?
 
3. “หวังว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยอมรับฟังคำชี้แจงและพยานหลักฐาน ของดิฉันให้เสร็จสิ้น ก่อนที่จะชี้มูลความผิด”
    อยากบอกนายกฯ ว่า ;
    3.1 ขอให้ท่านมีหลักฐานมาชี้แจงจริงๆ เถิดครับ ประชาชนอยากเห็นมากๆ และหวังว่าถ้าหลักฐานท่านอ่อนสู้ไม่ได้
          ก็จงยอมรับคำตัดสินด้วยนะครับ
    3.2 ตั้งแต่ท่านชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้ มีอยู่แค่ 2 ประโยคที่ท่านพูดซ้ำๆ อยู่เป็นปีๆ (1) “ดิฉันขอยืนยันความบริสุทธิ์”
          (2) “โครงการนี้มีประโยชน์ต่อชาวนา” แล้วท่านจะหลุดข้อกล่าวหาได้อย่างไร?
    3.3 ขอให้กำลังใจท่านสู้ด้วยพยานหลักฐานให้เต็มที่ครับ 
 
4. “ที่สำคัญหากการอำนวยความยุติธรรมต่อตัวดิฉันมีจริง โดยไม่มีวาระซ่อนเร้นใดๆแล้วคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ไม่ควรรีบเร่ง รีบร้อน”
    อยากบอกนายกฯ ว่า ;
    4.1 ขอให้ท่านเคารพและเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของไทย และหาพยานหลักฐานมาสู้ให้เต็มที่ 
    4.2 ป.ป.ช. เห็นว่าคดีของท่านอาจจะมีหลักฐานชัดเจน และสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก
          จึงนำมาพิจารณาได้ก่อน  ซึ่งก็เป็นอำนาจที่ ป.ป.ช. จะทำได้
    4.3 ซึ่งก็เป็นโอกาสดีของท่านนายกฯ เช่นกันที่จะสามารถแก้ข้อกล่าวหาได้เร็วครับ



#1059981 (ระบาย)ขอถามจริงๆครับ เกี่ยวกับความคิดของคนสมัยนี้

Posted by คนไทยเสรี on 11 February 2014 - 16:53

1. เพราะคนที่ทำหน้าที่รักษากฏหมายปล่อยปละละเลยครับ การปฏิรูปอย่างหนึ่งที่ผมอยากเรียกร้อง คือ ต้องให้ตำรวจบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

2. ขอให้เชื่อเถิดว่าคนกลุ่มนี้มีแค่น้อยนิด เพราะมันไม่ใช่วิถีของคนไทย ถ้ามีการลุกฮือขึ้นจริงๆ มันจะใหญ่กว่าเรื่องต่อต้านนิรโทษกรรมหลายเท่านัก การต่อต้านนิรโทษกรรมที่ใหญ่ขนาดนี้ก็เพราะมันขัดกับความเป็นวิถีคนไทยที่รักในความยุติธรรมครับ มันจะเกิดขึ้นมาเองอัตโนมัติในสายเลือดไทยทุกคน

 

3. คนกลุ่มนี้ที่แสดงตัวได้ในปัจจุบัน เพราะมีประโยชน์กับการเมืองบางกลุ่มอยู่ เมื่อหมดประโยชน์ก็จะโดนกำจัดอยู่ดี

 

4. จริงๆ จะช้าหรือเร็วคนกลุ่มนี้จะต้องกลับไปอยู่ที่เดิม แต่ถ้าจะให้เร็วต้องช่วยกันให้เกิดปฏิรูปโดยเร็วครับ




#1059907 "บอย - พิษณุ" โพสถาม "สมศักดิ์ เจียมฯ" ทำไมมีแนวคิดล้มล้างระบ...

Posted by คนไทยเสรี on 11 February 2014 - 16:09

 

 

 

 

:D มีขี้ข้าเจียมมารับดาบแทน...

 

1723327_652175268181009_2077915162_n.jpg

 


เนติวิทย์ ใจถึง วิจารณ์ทหารโง่

นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นถึงกรณีที่กองทัพ เตรียมฟ้องร้องเอาผิดนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยระบุว่า ได้ข่าวว่า ทบ. เตรียมจะเล่นงาน อ.สมศักดิ์ เจียม ถ้า ทบ. เล่นงาน ก็ถือว่าโง่มาก – นอกจากไม่เข้ายุคเข้าสมัย ยังจะหลับหูหลับตาไม่ฟังเสียงของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีจุดยืนในทางวิชาการ ในทางสติปัญญา ที่จะโต้ตอบกันบนหลักเหตุผล บนหลักความจริงอย่างอารยะชน

ヾ(เนตร เนตร เนตร.)ノ

แอดมิ้น เยาวชนคนรุ่นใหม่ / ขอขอบคุณแหล่งข่าว

 

 

น้องเอ้ย โลกที่เปลี่ยนแปลงไป คนละอย่างกับโลกสวยที่คิดเน้อ ทำไมเอาตัวเข้าไปขวางล่ะ 

 

เนิร์ดมากไม่ดี 

 

 

ออกโง่ๆมากกว่านะ  แล้วไอคนนี้แหละ เด็กในสังกัดแดงล้มจ้าว 

 

 

เคยดูในสกู๊ปข่าวของวอยซ์ทีวี (เอเชียอัพเดทสาขาสอง เวอร์ชันชนชั้นกลาง) บอกว่า ไอ้น้องคนนี้โตมากับหนังสือ ออกแนวโปรปรีดี 

 

อ่านแต่หนังสือ แล้วมโนเอง อันตรายครับ 

 

 

เด็กคนนี้...

 

1. ไม่รู้หรือว่าข้อความนี้ไม่มีส่วนไหนที่เป็นวิชาการเลยทั้งด้านความรู้ และประวัติศาสตร์

2. ไม่รู้หรือว่าข้อความนี้ไม่มีเหตุผลประกอบเลย

3. ไม่รู้หรือว่าความก้าวหน้าของโลกนั้นเป็นอย่างไร มันไม่กี่ยวอะไรกับการปกครองเลย

4. ไม่รู้หรือการปกครองนั้นมันเหมาะสมสำหรับแต่ละประเทศที่ต่างกันเนื่องจากอุปนิสัยของผู้คน, ขนบธรรมเนียมประเพณี, ประวัติศาสตร์ ฯลฯ การปกครองของประเทศหนึ่งอาจจะไม่เหมาะสมกับอีกประเทศหนึ่งก็ได้

5. ไม่รู้หรือว่าข้อความนี้เป็นแค่คำโกหก ที่ไม่มีเหตุผลประกอบอีกด้วย ถ้าใช้ความรู้ในการพิจารณา

6. ไม่รู้หรือว่า "คนโง่เท่านั้นที่คิดว่าตัวเองฉลาด"

 

...เด็กคนนี้ไม่รู้แม้กระทั่งตัวเองโดนหลอกเป็นเครื่องมืออยู่ และกำลังหลอกตัวเองอยู่ด้วย ถ้าผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเด็กคนนี้หรือโรงเรียนยังเมตตาและเห็นความสำคัญจงช่วยกันดึงให้เยาวชนของชาติกลับมาด้วยเถิดครับ




#1058311 "บอย - พิษณุ" โพสถาม "สมศักดิ์ เจียมฯ" ทำไมมีแนวคิดล้มล้างระบ...

Posted by คนไทยเสรี on 10 February 2014 - 15:49

ขอออกความเห็นแย้งหน่อยครับ ทนไม่ได้จริงๆ
 
1. ข้อความที่ อ.สมศักดิ์ เขียนเป็นข้อความวิชาการตรงไหน? อ่านแล้วเป็นข้อความบิดเบือน โกหก และใส่ร้ายชัดๆ
ข้อความเช่นนี้สามารถเขียนขึ้นด้วยคนที่มีการศึกษาหรือไม่มีการศึกษาเลยก็ได้ ถ้าคนผู้นั้นไร้จิตสำนึกของความผิดชอบชั่วดี
 
2. ข้อความ “ประชาชนมีบุญคุณต่อกษัตริย์” ถูกต้องหรือไม่? ถ้ามีคนหลงผิดเยอะๆ จะเป็นการจงใจให้ร้ายหรือไม่?
- ในอดีต พระมหากษัตริย์เป็นผู้นำในรวบรวมแผ่นดินไทย พระมหากษัตริย์เป็นผู้นำในปกป้องรักษามาเป็นปึกแผ่นจนถึงปัจจุบัน แผ่อำนาจบารมีที่ยิ่งใหญ่ให้อริราชศัตรูยำเกรง ไม่กล้าที่จะมารังแกผู้คนที่อาศัยบนแผ่นดินผืนนี้ บุญคุณนี้ควรค่าที่จะสำนึกหรือไม่? 
 
- ในปัจจุบัน แผ่นดินเป็นปึกแผ่นแล้ว พระมหากษัตริย์ก็ได้มอบอำนาจให้ผู้คนที่อาศัยบนแผ่นดินผืนนี้ดูแลกันเอง การให้นี้ถือว่าเป็นบุญคุณนี้ควรค่าที่จะสำนึกหรือไม่?
 
- ในปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ได้มีโครงการพระราชดำริ หลายๆ โครงการ ที่นำมาปฏิบัติได้ และแก้ไขปัญหาบนแผ่นดินผืนนี้มากมายอย่างเป็นรูปธรรม โครงการต่างๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นบุญคุณนี้ควรค่าที่จะสำนึกหรือไม่?
 
3. ข้อความ “กษัตริย์อยู่ได้เพราะการกินแรงงานฟรีของไพร่เหล่านี้” ถูกต้องหรือไม่? เป็นการพูดที่บิดเบือนหรือไม่? ถ้ามีคนหลงผิดเยอะๆ จะเป็นการจงใจให้ร้ายหรือไม่?
- ข้อความนี้ น่าจะพูดถึงอดีต ดังนั้นการทำนาของประชาชนที่ต้องแบ่งให้รัฐ(ซึ่งแท้จริงแล้วก็ไม่ได้ให้กษัตริย์โดยตรง)ก็เหมือนกับการเสียภาษีอย่างหนึ่งในปัจจุบัน ก็เป็นเรื่องปกติของรูปแบบการปกครองรูปแบบหนึ่งที่เหมาะสมในสมัยนั้น
 
- ประชาชนก็ได้รับการจัดสรรค์ที่ดินทำกินตามการปกครองในสมัยนั้น ได้ทำนาเลี้ยงชีพและส่วนหนึ่งก็เก็บเข้ารัฐ และพระมหากษัตริย์ก็มีหน้าที่ปกป้องประชาชนไม่ให้อริราชศัตรูรุกราน ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง สร้างความผูกพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนในรูปแบบไทยๆ อย่างยาวนาน
 
- การจัดสรรค์ที่เป็นธรรมนี้ปรากฏอย่างชัดเจน ที่ทำให้ประชาชนไทยรักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ไม่เหมือนชาติใดในโลก
 
การกล่าวหา “กินแรงงาน” เป็นการกล่าวที่ร้ายแรง และจงใจให้ร้ายอย่างชัดเจน 
 
4. ข้อความ “ในเรื่องการรบศึกสงครามอะไร ไพร่ก็ไปตายให้ทั้งนั้น” ถูกต้องหรือไม่? เป็นการพูดที่บิดเบือนหรือไม่? ถ้ามีคนหลงผิดเยอะๆ จะเป็นการจงใจให้ร้ายหรือไม่?
- ในอดีต การสงคราม ประชาชนจับดาบแล้วออกไปรบมั่วๆ หรือ? ปกป้องพระมหากษัตริย์ที่อยูในวังหรือ? การรบของเราเป็นอย่างนี้หรือ? ถ้ารูปแบบการรบเป็นอย่างนี้จะชนะศึกอย่างไร? อ.สมศักดิ์มีศึกที่ไหนพออ้างอิงได้บ้างครับ?
 
- การรบก็ต้องมีผู้นำ, คอยบัญชาการ, วางแผนวางกลยุทธ, ควบคุมไม่ให้แตกรูปแบบการรบ, และเป็นขวัญกำลังใจให้กองทัพ เพื่อการรบจะได้มีประสิทธิภาพ
 
- การรบของเราในประวัติศาสตร์ ศึกใหญ่ๆ พระมหากษัตริย์ของเราแทบทุกพระองค์ก็นำทัพเองทุกครั้ง อยู่ในสนามรบก็มีสิทธิตายได้ตลอดเวลาเหมือนกัน และพระมหากษัตริย์ของเราก็ได้พลีชีพในสงครามก็มี เช่น  พระนเรศารก็สิ้นพระชนน์ระหว่างออกศึก
 
เหตุใด อ. สมศักดิ์ ถึงใช้คำพูดเช่นนี้? ซึ่งนอกจากไม่เป็นความจริงแล้วจากเหตุในประวัติศาสตร์ ยังเป็นการไม่ได้อ้างอิงวิชาการใดๆ  เป็นแค่คำโกหก และจงใจให้ร้ายอย่างชัดเจน ผิดกฏหมายหรือไม่? 
 
ขอให้ตำรวจ และทหารที่ได้อ่าน จงพิจารณาและดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดด้วยเถิดครับ บุคคลผู้นี้ไม่ได้แสดงความรู้ใดที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติเลย การทำให้กฏหมายบ้านเมืองมีความศักดิ์สิทธิจะทำให้บ้านเมืองเรามีความสงบสุขโดยเร็วครับ



#1051851 .... เรียน คุณเอกชัย ม.สยาม ด้วยความไม่เคารพ จะอ้างกฎหมายกรุณาอย่ามั่วครับ ....

Posted by คนไทยเสรี on 6 February 2014 - 14:26

นาย เอกชัย ไชยนุวัติ อาจารย์ ลูกจ้างประจำ นิติ  ม สยาม

 

นายเอกชัย ก็เป็นแค่ ลุกจ้างประจำ ที่เขาจ้างไปสอนนักศึกษาเท่านั้น

(Law Lecturer at Siam University)

 

ความรู้ความสามารถยังไม่มีปัญญาจะเข้ามหาลัยของรัฐเลย...

 

แต่บังอาจมาวิจารณ์ศาล แล้วมาอ้างกฎหมายมั่วซั่ว หลอกเสื้อแดงไปวันๆ...

 

ขอบ่นด้วยคนนะครับ
1. ศาลคือกลุ่มบคคลชั้นยอด ของนักกฏหมายในแต่ละรุ่นไม่ใช่หรือครับ กว่าจะเป็นศาลได้ต้องมีความรู้อย่างแตกฉาน ผ่านการสอบคัดเลือกไม่รู้ว่ากี่ขั้นตอนถึงจะรับหน้าที่ของศาลได้ ตามสถิตินักกฏหมายแต่ละรุ่นที่สามารถสอบเป็นผู้พิพากษาได้มีสักกี่คนเอง
 
2. แล้วนายเอกชัย เป็นใคร? คุณลองถามตัวเองบ้างไหม๊? ความรู้สามารถจะเป็นศาลได้หรือยัง?
 
3. ขอให้ยอมรับความจริงนะครับ ว่านักกฏหมายทั้งหมด ไม่มีใครมีความรู้ด้านกฏหมายเท่าศาล เพราะยังไม่ผ่านการสอบคัดเลือกและการทดสอบตามขั้นตอนต่างๆ เพราะฉนั้นอย่าตีความกฏหมายแข่งกับศาลเลย
 
4. ทำไม ต้องมีกฏหมายดูหมิ่นศาล ไม่ให้วิจารณ์คำตัดสินของศาล รู้ไหม๊ครับ? คุณเป็นอาจารย์ตอบได้ไหม๊? ถ้าลืมผมขอเตือนสักนิดนะครับ
   - อำนาจอธิปไตยของประชาชนได้มอบให้ศาลไปแล้ว คือ อำนาจตุลาการ แล้วในระบอบประชาธิปไตยมีใครฝ่าฝืนอำนาจอธิปไตยได้ไหม๊ครับ?
   - ศาลคือผู้ได้รับการคัดกรองตามวิธีการสากลที่เหมาะสมแล้ว ที่เชื่อได้ว่าเป็นผู้รอบรู้สูงสุดด้านกฏหมายนั้น ๆ
   - เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ป้องกันไม่ให้เกิดการบิดเบือนให้ประชาชนสับสน และเกิดความวุ่นวายดังเช่นทุกวันนี้
 
5. ถึงแม้จะว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์อิสระแต่คำวินิจฉัยย่อมสิ้นสุดเหมือนกัน ด้วยเหตุผลข้างต้น “ศาลคือผู้ได้รับการคัดกรองตามวิธีการสากลที่เหมาะสมแล้ว” และ "ตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ" และอำนาจที่บังคับก็คือตัวบทบัญญัติที่ระบุไว้ ในรัฐธรรมนูญไงครับ
 
6. คุณเอกชัย ทำผิดกฏหมายดูหมิ่นศาลหรือเปล่าครับ?
 
7. ถ้าจะปฏิรูป ผมอยากจะเรียกร้องข้อนึงก็คือ “กฏหมายดูหมิ่นศาล” ต้องศักดิ์สิทธิครับ ผมว่าจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขึ้นเยอะ
 
…บ่นแรงไปนิดครับ จิตวิญญาณเรื่องความยุติธรรมในตัวคนไทยของผมมันพุ่งโดยไม่รู้ตัว ความรักในความยุติธรรมเป็นตัวตนของคนไทยอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครเอาไปได้หรอกครับ เพราะคนไทยทุกคนสามารถสัมผัสมันได้ด้วยวิญญาณเมื่อถึงเวลาครับ 



#1051487 ในภาวะบ้านเมืองร้อนระอุเช่นนี้ ทีท่าเช่นไร จึงจัดได้ว่า เป็น "สัมมาฯ" ?

Posted by คนไทยเสรี on 6 February 2014 - 11:15

 

ในภาวะบ้านเมืองร้อนระอุเช่นนี้
ทีท่าเช่นไร จึงจัดได้ว่า เป็น "สัมมาฯ" ?


monkey-whistle-slaneconz.jpg

ถ้าคุณรู้ว่า มี คนโกงทรัพย์สมบัติของคุณ คุณจะทำอย่างไร ?
จะต้อง ตามจองล้างจองผลาญเฝ้าผูกเวร สร้างกรรม กับ คน ๆ นั้น
ต่อไปในทุกภพทุกชาติ หรือไม่ ?

แล้ว กรณีคล้าย ๆ กัน ถ้า คุณรู้ว่า...
มี คนโกงทรัพย์สมบัติของชาติของแผ่นดิน ล่ะ
ปฏิกิริยาของคุณ จะเป็นไปในแบบเดียวกันกับ ในกรณีที่รู้ว่า ...
มี คนโกงทรัพย์สมบัติของคุณ หรือไม่ ? เพราะอะไร ?

และ ในกรณีเหล่านี้ ทีท่าเช่นไร จึงจัดได้ว่า เป็น "สัมมาฯ"
ที่สำคัญ การกระทำที่คุณ "คิดจะทำ" นั้น จัดเป็น "สัมมาฯ" หรือไม่
และ คุณใช้อะไร มาเป็น บรรทัดฐานในการชี้วัด ว่า อะไร เป็น สัมมาฯ

อ้อ แล้วที่ยัง คาใจ อยู่ ก็ คือ
การไปร่วมเดินขบวนแสดงความเห็นทางการเมืองกับม็อบทั้งหลายนี่
ถ้า เป็น การแสดงเสรีภาพของตน ตามสิทธิ
แต่ ไปละเมิดสิทธิในการใช้ชีวิตอย่างปกติสุขของผู้อื่น
เช่น ไปเดินขบวนต่อต้านคนโกง จนทำให้การจราจรติดขัด
ชาวบ้านเดือดร้อนในการเดินทาง

การจงใจ เป่านกหวีดนกหวีดเสียงดังเป็นหมู่คณะ
จนก่อให้เกิดมลพิษทางหู ต่อผู้คนรอบข้าง
เสี่ยงที่จะทำให้ คนรอบข้าง หูดับ หูพิการ

สิ่งเหล่านี้ มันสามารถเรียกได้ อย่างเต็มปากเต็มคำ
ว่า เป็น " อารยะขัดขืน"  และ จัดว่าเป็น "สัมมาฯ" หรือไม่

แล้วการ ไปเดินขบวนกับม็อบ
หรือ การสร้าง มลพิษทางเสียง ดังกล่าวมันเข้าข่าย "ผิดศีล " หรือไม่ ?
 
 
ศีล ที่ถือไว้จะ "ถลอก" ไหมเจ้าคะ ?
ถ้าต้องแปลงร่างเป็น สาวก"นกหวีด" ?
 

1385799455-1424397324-o.jpg

cc7ackd9eg7i75h8a57b8.jpg

1387495669-democacy-o.jpg

 

 

1. แน่นอนครับ การชุมนุมของคนหมู่มาก ย่อมกีดขวางการจราจร เดินทางลำบาก เป็นความจริงเสมอ

 

2. แต่ถึงวันนี้การเลือกตั้งในกรุงเทพฯ คนไปใช้สิทธิแค่ 16.78% ยังไม่นับบัตรเสีย

 

3. ยิ่งถ้าคิดบัตรดีจริงๆ ที่สะท้อนว่าคนไม่เห็นด้วยการชุมนุม ที่เป็นแนวคิดของคุณมานี จะเหลือแค่ 11.42% เท่านั้นเอง (คิดจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 4,369,120 คน และ บัตรดี จำนวน 498,847 บัตร)

 

4. ทั้งๆ ที่ กปปส. ก็ได้ประกาศชัดเจนว่าไม่ให้ผู้ชุมนุมไปขัดขวางในวันเลือกตั้ง แต่รณรงค์ไม่ให้ไปเลือกตั้งกันทั่วประเทศ โดยที่รัฐบาลก็ทำทุกวิถีทางเช่นกันเพื่อเชิญชวนให้คนไปเลือกตั้ง และการเลือกตั้งก็ผ่านไปได้ด้วยความสงบและเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ถึง 89.2%

 

5. แสดงว่าคนกรุงเทพฯ ได้เลือกแล้วที่จะอนุญาติให้ผู้ชุมนุมอยู่ได้ตามสิทธิของการชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญ และยอมอุดหูเมื่อเสียงนกหวีดดังเกินไป หรือเลี่ยงเส้นทางการชุมนุม โดยไม่มีความรู้สึกว่าเสียสิทธิอะไร

 

6. ถ้าคุณมานีอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วรู้สึกว่าเสียสิทธิ ก็ควรจะเรียกร้องให้นายกฯลาออก ด้วยเหตุผลการเลือกตั้งนี้ (ถ้านายกฟังนะ) ดูจะเป็นธรรมกับผู้ชุมนุมมากกว่านะครับ 

 

7. หรือไม่ก็ปิดประเด็นนี้ไป และอุดหูเมื่อได้เสียงนกหวีด หรือเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง ตามเสียงส่วนใหญ่ของคนกรุงเทพฯ