Jump to content


oLaSuNyAo

Member Since 14 October 08
Offline Last Active 29 May 14 16:31
-----

#1193027 เปิดชีวิตแกนนำในค่ายทหารภาค2"แปลกมึนฮาน้ำตานอง"

Posted by อมพระมาพูด on 29 May 2014 - 12:25

เปิดชีวิตแกนนำในค่ายทหารภาค2"แปลกมึนฮาน้ำตานอง"

 

Posttoday : 29 พฤษภาคม 2557 เวลา 11:48 น.

 

 

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

บรรยากาศการอยู่รวมกันในค่ายทหารยังคงได้รับการพูดถึงต่อเนื่อง แม้แกนนำสองฝ่ายผ่านสังเวียนข้างถนนมาโชกโชน แต่ก็ยอมรับว่านี่เป็นประสบการณ์แปลก มึน ฮา

 

โดยเฉพาะค่ายกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือว่ามีแกนนำ กปปส. กลุ่มเพื่อไทย และเสื้อแดง ถูกควบคุมตัวไปรวมกันมากที่สุดร่วม 50 คน

ที่แห่งนั้นมีแกนนำ กปปส. 9 คน อาทิ นิติธร ล้ำเหลือ เสรี วงษ์มณฑา อัญชะลี ไพรีรัก สุริยะใส กตะศิลา พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ส่วนพรรคเพื่อไทย-เสื้อแดง ส่วนใหญ่เป็นอดีตรัฐมนตรีและแนวร่วม เช่นสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ชลน่าน ศรีแก้ว ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดิศร เพียงเกษ

ค่ายแห่งนี้ กปปส.อยู่แค่ 3 คืนก็ได้รับการปล่อยตัว ส่วนเพื่อไทย-เสื้อแดง ทยอยปล่อยตัวเป็นกลุ่มๆ เร็วบ้าง ช้าบ้าง

ย้อนกลับไปวันแรกที่ถูกเรียกมารายงานตัว ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คสช. กล่าวต้อนรับสั้นๆ ว่า ขอให้ทุกคนร่วมมือและขอโทษที่ทำให้พวกท่านไม่สะดวกสบาย ทั้งหมดก็เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งก็มีคำถามจากหลายคน เช่น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าจะต้องอยู่กี่วัน แต่ก็ไม่มีคำตอบ

ข้อห้ามสำหรับผู้ถูกควบคุม งดโทรศัพท์ ห้ามญาติมาเยี่ยม ห้ามส่งเสียงดัง ใครมีโรคประจำตัวต้องการยาให้บอกทหารจะจัดให้หรือประสานทางบ้านให้

ทั้งสองฝ่ายเข้าถึงค่ายช่วงบ่าย 3 รวมกว่า 50 ชีวิต เมื่อไปถึงทหารให้รวมอยู่ในบ้านหลังเดียวกันก่อน หลายคนอยู่ในสภาพมึนงง เก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก บ้างก็ทักทายตามประสาคนการเมือง แต่มีหลายคนที่นั่งนิ่ง อาทิ สมชาย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ส่วนแกนนำเสื้อแดงบางคนยังไม่กล้าทัก กปปส. เว้นแต่พวกที่เคยเป็น สส.ที่ยอมพูดคุยกันบ้าง

อย่างไรก็ตาม ค่ายทหารที่พระนครศรีอยุธยาแห่งนี้อยู่กลางทุ่งและอากาศค่อนข้างร้อน อีกทั้งบ้านพักรับรองที่เดิมเป็นที่ฝึกโครงการวิวัฒน์พลเมืองสำหรับเด็กที่มีปัญหามาก่อน เมื่อไปถึงมีแต่ห้องโล่งที่เพิ่งผ่านการเช็ดถูพื้นไม่นาน ทหารเอาเตียงพับพร้อมเบาะมาให้ในช่วงเย็น และเพิ่มบ้านพักสองชั้นอีก 3-4 หลัง ให้กับฝ่ายเพื่อไทยและเสื้อแดงอยู่หลังละ 8 คน ส่วน กปปส.อยู่หลังเดิมใหญ่กว่าทุกบ้าน

แกนนำที่ได้รับการปล่อยตัวเล่าบรรยากาศว่าอึดอัดที่สุดคือวันแรกที่มาถึง เพราะต้องรวมอยู่ด้วยกัน แม้จะไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม ก่อนจะแยกบ้านในช่วงค่ำ บางคนดูดบุหรี่แก้เครียด บ้างจับกลุ่มใครกลุ่มมัน ฝ่าย กปปส.แหย่ผู้บังคับการค่ายให้เอาคาราโอเกะมาแข่งกันร้องจะได้ลดบรรยากาศตึงเครียด แต่ผู้การค่ายฯ ก็ดูมึนๆ เพราะเพิ่งมาทราบเรื่อง กระนั้นก็เป็นโอกาสอันดีที่สองขั้วขัดแย้งได้เจอตัวเป็นๆ จึงได้พูดคุยถึงปัญหาการบริหารงานยุคยิ่งลักษณ์

กปปส.บางคนถาม อำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. ว่า ทำงานสมัยยิ่งลักษณ์เป็นอย่างไร เรื่องการบินไทยทำไมถึงบริหารขาดทุน แล้วจะโดน คสช.ปลดหรือไม่ แต่ “ดร.กบ” ดูยังงงไม่หาย ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน

เสรี วงษ์มณฑา เล่าว่า เมื่อไปถึงมีการแจกขันน้ำ สบู่ และยาสีฟัน ให้ทุกคน เหมือนฝึกวิชาทหารในค่าย จะมีทหารที่เรียกว่าพ่อบ้านมาสอบถามต้องการอะไรบ้าง ถ้าจะติดต่อทางบ้านขอให้แจ้ง ซึ่งเขาจะอำนวยความสะดวกให้หมด ถ้าต้องการรับประทานอะไรก็จะขับรถไปซื้อที่ร้านเซเว่นฯ

“เสียอย่างเดียวอากาศร้อนไปหน่อย เพราะเราเคยอยู่กับห้องแอร์มาก่อน เราจึงบอกทหารขอติดต่อลูกน้องช่วยซื้อพัดลมไอน้ำมาให้ก็ทำให้คลายร้อนไปได้” เสรี กล่าว

แว่วว่าเหตุที่ฝ่าย กปปส.ไม่ยอมซื้อแอร์มาติดเหมือนกับซีกเพื่อไทยที่ทุ่มทุนซื้อมาติดกันทุกหลังทุกห้อง รวมถึงซื้อทีวีมาอัพเดทข่าวสารตลอดก็เพราะเสียดายเงิน โดยเชื่อว่าจะได้รับการปล่อยตัวเร็ว แต่สุดท้ายก็กลับช้ากว่าแกนนำเพื่อไทย

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่ละหลังมีทหารนายสิบดูแล 5 คน กางเต็นท์นอนด้วยกันชั้นล่าง ส่วนด้านนอกมีทหารถือปืนเดินลาดตระเวนตลอด เป็นมาตรการที่เข้มกว่าปกติ

เมื่อแยกบ้านกันอยู่ กปปส. 1 หลัง เพื่อไทย-เสื้อแดง” 4 หลัง อยู่ไม่ไกลนัก มองเห็นกันได้ ก็มีแวะเวียนไปมาหาสู่กันบ้าง

สุริยะใส กตะศิลา แกนนำ กปปส. เล่าว่า ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาพงงเพราะไม่เชื่อว่าทำไมถึงถูกจับ แต่ไม่มีใครตอบได้ บางคนทำใจอยู่ยาวถึง 7 วัน โดยรวมทหารดูแลดีและแม้สองฝ่ายจะแยกบ้านกันอยู่แต่ก็ยังข้ามมาพูดคุยกัน เช่น กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ อดีต รมช.คมนาคม พรรคเพื่อไทย ปั่นจักรยานมาดูดวงให้ นิติธร ล้ำเหลือ โดยถามว่าเกิดปีไหน เมื่อไร พอทราบก็บอกว่ามิน่าถูกจับข้อหากบฏ และยังดูลายมือให้ ทยา ทีปสุวรรณ โดยไม่รู้ว่าคนที่ยืนข้างๆ ซึ่งก็คือ ณัฏฐพล เป็นสามี กิตติศักดิ์ทำนายว่า ถ้าไม่เลิกกับสามี สามีก็จะขอเลิก มารู้ทีหลังว่าเป็นสามีภรรยากันก็หัวเราะกันลั่น

“ที่ตลกคือบ้านที่ ศันสนีย์ นาคพงศ์ อยู่ พวกผมเห็นเขากำลังกลับตอน 2 ทุ่ม เลยบอกทหารให้ไปยกทีวีฝั่งนั้นที่เพิ่งซื้อเอามาติดไว้ที่บ้านเราเพราะไม่มีใครดูแล้ว เพราะฝ่ายเราเองก็หงุดหงิด ไม่มีทีวี หนังสือพิมพ์ที่ทหารซื้อมาให้ข่าวมันดีเลย์ แต่จู่ๆ ก็เห็นพวกเพื่อไทยกลับมาอยู่ที่บ้านกัน เอาไงวะ เราไปเอาทีวีมาแล้วสุดท้ายก็ไม่ได้เอาคืน เพราะเพื่อไทยกลุ่มนี้ได้กลับตอนเช้าอยู่ดี”สุริยะใส เล่าติดตลก

 

ชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส. เล่าว่า ฝ่ายเราอยู่ด้วยกันตามอัตภาพ ไม่มีทีวีดู ถูกห้ามใช้มือถือ แต่ทหารซื้อหนังสือพิมพ์มาให้อ่านตลอดเวลาที่อยู่ในค่าย ซึ่งวันๆ ก็ไม่ได้ทำอะไร ที่ประทับใจคงเป็นที่มีทหารยศ พ.อ.พิเศษนายหนึ่ง ท่าทางแข็งแรงมาก จะมาคอยดูและตรวจตรา ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นเด็กอยู่โรงเรียนประจำ เพราะในชีวิตก็ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงที่มาอยู่ค่ายเดียวกันประกอบด้วย นิสิต สินธุไพร ยงยุทธ วิชัยดิษฐ จะเล่นดนตรี บันเทิง ตลอดเวลา ต่างจากพวกเราจะอยู่ตามปกติ แต่ก็มีข้ามไปหากันบ้าง พูดคุยกันปกติชุมพล กล่าว

มีเรื่องเล่าด้วยว่า ตกดึกฝั่งเพื่อไทยมักเฮฮาคลายเครียด โดย วิทยา บุรณศิริ อดีต รมว.สาธารณสุข และ สส.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นคนพื้นที่จะคอยดูแลพรรคพวก สั่งทหารไปซื้อเหล้าแบล็ก เลเบิ้ล พ่วงกับแกล้มตอนตี 2-3 เล่นเอาผู้บังคับการค่ายกังวลว่าถ้าดื่มกันหนักอาจช็อกในค่ายได้ ยิ่งอากาศร้อนเป็นทุนเดิม พลอยให้เจ้าของพื้นที่ลำบากเพราะต้องดูให้ปลอดภัย มิฉะนั้นอาจมีการขยายผลกระทบ คสช. ขณะที่ทหารเวรในบ้านฝั่งเสื้อแดงก็อยากย้ายมาดูแลที่บ้าน กปปส.แทนเพราะเหนื่อย แทบไม่ได้หลับได้นอน

คนที่อาการหนักที่สุดคือผู้สูงวัย อย่าง บุญรื่น ศรีธเรศ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ที่ไม่สบาย ขอกลับก่อน เช่นเดียวกับขวัญชัย ไพรพนา อาการย่ำแย่หนัก แต่ทหารก็คอยดูแลเต็มที่ ผิดกับ สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง นั่งสมาธิอยู่หน้าบ้านตลอด ในชุดกางกางเล เสื้อขาวตราห่านคู่ ซึ่งเป็นชุดที่ซื้อใส่กันแทบทุกบ้าน

ไม่เว้นแม้แต่ฝ่าย กปปส. เสรี วงษ์มณฑา ร้องไห้เกือบทุกคืน เพราะทำใจไม่ได้ที่ถูกควบคุมตัวและต้องมาอยู่ค่ายเดียวกับเสื้อแดง บ้างไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่ายตรงข้าม สมชาย ศันสนีย์ ถูกปล่อยตัวออกไป ทั้งที่ กปปส.ไม่ได้เผาเมืองหรือพาดพิงสถาบัน

การข้ามฝั่งของฝ่ายเพื่อไทยมาคุยกับแกนนำ กปปส. ยังแอบตัดพ้อว่าพวกเขามีอำนาจแต่ใช้ไม่เป็นเอง ความจริงน่าจับ พ.ต.ท.ทักษิณ กับสมชาย จะได้จบๆ ไม่ใช่มาเหวี่ยงแหอย่างนี้

 

ก่อนกลับทหารได้แจกใบประเมินผลในค่ายและความรู้สึกให้แกนนำทุกกลุ่มกรอก มีคำถาม 4 ข้อ อาทิ รู้สึกอย่างไรที่ถูกเรียกมารายงานตัว ระหว่างนำตัวได้รับการปฏิบัติอย่างไร ดีหรือไม่ และให้เขียนข้อเสนอต่อกองทัพ มีรายงานว่า แม้แต่ฝ่าย กปปส.ก็ยังเขียนดุเดือดทุกคน เช่น ตั้งคำถามว่านักโทษยังได้โอกาสเจอญาติ แต่กรณีนี้ไม่ได้เจอ และยังไม่รู้ว่าเจอข้อหาอะไร

“ตอนออกเขาให้จดที่อยู่ปัจจุบัน ให้วาดแผนที่บ้านตัวเอง เบอร์มือถือให้หมด ดังนั้น แกนนำแม้จะพ้นจากการควบคุมตัวแล้วแต่ก็ยังอยู่ในสายตา คสช.ที่จะเรียกกลับได้ตลอดเวลา” แกนนำ กปปส.รายหนึ่ง กล่าว

 

สุเทพ  สวมเสื้อ “บูรพาพยัคฆ์

ฝ่ายแกนนำกปปส. 5 คน ประกอบด้วย   สุเทพ เทือกสุบรรณ  เอกณัฐ พร้อมพันธุ์  สาทิตย์  วงศ์หนองเตย  สมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ และ สมศักดิ์ โกศัยสุข ถูกนำขึ้นรถตู้เก่าๆ ปิดกระจกรถให้ทึบเพื่อไม่ให้รู้เป้าหมาย มุ่งหน้าตรงไปยังค่ายทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งกว่าจะไปถึงที่หมาย เล่นเอาทุกคนเมื่อยก้นไปตามกัน  เพราะพลขับดันขับรถหลงค่าย  ก่อนจะรู้ภายหลังเป็นค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี

ครั้นไปถึงค่าย ทุกคนก็ไม่มีเสื้อผ้ามาสับเปลี่ยน เพราะไม่รู้ระแคะระคายมาก่อนว่าจะถูกควบคุมตัว ทางทหารจึงนำเสื้อผ้า มาให้สวมใส่ แต่ด้วยความที่ “กำนันสุเทพ” เป็นคนรูปร่างใหญ่ จึงต้องใส่กางเกง เสื้อยืด คับติ้ว และที่ทุกคนพากันอมยิ้มเพราะหลังเสื้อกำนันสุเทพ สกรีนคำว่า “บูรพาพยัคฆ์

เท่านั้นยังไม่พอ  ในบ้านที่ใช้ควบคุมตัว มีเครื่องปรับอากาศที่อยู่ในสภาพที่ไม่สมประกอบ  “กำนันสุเทพ” เปรยในช่วงกินข้าว ว่า  “ต้องซ่อมแอร์กันวันละ 3 รอบ และที่ต้องเจ็บใจก่อนกลับออกจากค่ายทุกคนต้องถูกปิดตาหมด เพื่อไม่ให้รู้ว่าที่ตั้งของค่ายทหารแห่งนี้อยู่ใด




#1192958 สั่งโยกเข้ากรุ 16 ตำรวจมะเขือเทศอีกระลอก-รรท.ผบ.ตร.ดึง “อำนวย นิ่มมะโน” นั่งร...

Posted by kritz on 29 May 2014 - 11:19

ถ้ามัวแต่คิดเล็กคิดน้อย เรื่องใหญ่ๆ ก็ล้มหมดทั้งกระดานไม่เป็นท่า

เรื่องคดีเก่าๆ พฤติกรรมเก่าๆ หากต้องมานั่งรำลึกรื้อฟื้น ก็ไม่ต้องก้าวเดิน

ค่อยไปว่ากันตอนเรื่องมันจบแล้ว มัวแต่ทำงานเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศมันก็ติดหล่ม ...

 

ผมเห็นโครงสร้างที่ คสช.ปรับกระบวนรบก็พออ่านเกมออก เชื่อมั่นได้ ยังเหลือแต่ฟากฝั่งงานบริหาร ที่ยังไม่เห็นหน้าเห็นตา

ก็คอยลุ้นอยู่ว่า ท่านจะเลือกเดินเส้นทางปฏิรูปประเทศทั้งระบบหรือแส่หาจุดดับใส่ตัวเอง แต่ขอเดาใจท่านนะ "ปฏิรูป" แน่ๆ




#1192100 สั่งโยกเข้ากรุ 16 ตำรวจมะเขือเทศอีกระลอก-รรท.ผบ.ตร.ดึง “อำนวย นิ่มมะโน” นั่งร...

Posted by Bayonet on 28 May 2014 - 18:59

อยากถามสั้น ๆ ว่า  ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ .........หาคนดีมีฝีมือ ที่เหมาะสมกว่า  "นวยนิ่ม"  ไม่ได้แล้วหรือ  -_-




#1191849 ปิดเฟสขั่วคราว จะเปิดตอนไหนละครับ

Posted by RiDKuN_user on 28 May 2014 - 16:40

เครื่องพิสูจน์ว่า ปิดเฟซบุค ประชาชนเดือดร้อนกว่ามีรัฐประหาร  -_-

 
  จำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดขณะนี้คือ 2955 ท่าน (สถิติในช่วง 15 นาที)

สมาชิก 215 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2725 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 15 ท่าน   (ดูรายชื่อทั้งหมด)

 

Bing, RiDKuN_user, หลวงประดิษฐ ดูมันทำ, RBrownlee, MatthewHe, Google, Baiduspider, pongpong, phat21, applejaa, คนไทยคนหนึ่ง, SarakanLand, kop16, Novice, notcomeng, sunset, thegunner5023, chetindy,Anna Nonnun, ONETHAI, กลางดงแดง, Angelas, ชาวสวน, NongGrace, JSkertchl, MOD_01, -โต-, zakai, Tiwadas, หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก, ถั่งเช่า ตรา ควายธนูแดง, ctpk05, BeastGuy, maha01, mike_gt3, awhile, me999,Boorapa, LOP, MIRO, คนทุกที่, anntracite, iba, Tum, TAGO, dr_m, joonkung, zixma999, TBOYX, ethanhunt, LonelyPlanet, 10Mz, simba, คุณพระช่วย, Strangerman, @Live, ธีรเดชน้อย, NightMare, Shoot 'Em Up,Change 001, Blade Vanguard, silence, booska, arch_freeman, Jump Man, GOD_satan, banksit, 10APR10, ramboboy26, Domie V, nattapat_a, modgudu, Thai4u, killersong, ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 134340, Charlie,euforia, test, ปีศาจหน้าหล่อ, Diablo, ขะยิ่นดง, MSNMedia, HWD, Sugary-jang, paj044, ผ่านมา, npex, plunk, paoji, Shariff, Nata, ไนติงเกล, bend, ปังตอ, KaTi รักพระเจ้าอยู่หัว, คนบ้านนอก, คำปู้จู้, dek-harte,kengdragon, ต้นกล้า, ถึงจะบิ่นแต่ยังคม, Tohchida, สมชายสายชม, DarthVader, Lightning, Kaizer, ben10, ทองเปลว, webster, ข้าวหอม, gaiser, aunlive, KGB, putan, oonging, ของแท้ตราแมวขี่ควายแดง, Tad,Deacon_Blues, bignana, love_9, ter162525, ไร้สีไร้กลิ่น, สวรรค์ชั้น7, HiddenMan, Hu_uH, ซ่อมได้, excell_13, SEXsTAR, woodoo, คนกรุงธน, นำ้ใบบัวบก, serithai131, cassava, Garfield, Francis Drake, met,Reds_killer, เรื่อยๆเอื่อยๆ, itsorachai, เจ้าชายเเฮปปี้, ranong01, drowners, pacom, Limmy, Raja22, foyfon, wartoad, Snow White, อ่านตลอดล่ะ, IAMDA, phoebus, aneak, แมวว้อ, darksanta, bluefox101, kairyuramon,ฟ้าเข้ม, Kongkiet Rodpai, tifosi, หลงฮู้เช็ง, AntiRedBuffalo, Yasuhiro, GODarmy, taecu, kritz, aunaun, sugary, Mr.Best, ริวมะคุง, winwin191, ท่าษายติณหัก, phongthai, Ou Rally, kunathip, เกลียดแดง, RedLobster,serialnu, weerawat, Fc.คุณตั๊น, miryone, Abraxas, kanokporn, ที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท, Jrock, lionidas, โลกสวยงาม, micro, bluemonkey, คนกินข้าว, theonebt, ก๊วยเจ๋ง&เอี้ยก้วย, Vegeta, lakhin, ma_ya, แม้ว ม.7, wat,9JJ, mOOgrOb'pm', Lythtis, จีรนุช, tumzzz, snoozer, soco, กรรมกรไอที, juemmy, เป้_อูซี่, jugadui, ALuffman, ไซkuนิ, A DESIGN FOR LIFE, อาตี๋, สันขวาน, เดอะอำมาตย์, baboon, ชายน้ำ, IndyDekDee, วิท, colt rampant

 

 




#668035 ขวัญใจของท่านใน สรท มีใครบ้าง?

Posted by Gop on 4 April 2013 - 21:24

ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือคุณดราม่า คุณ Jeerasak และคุณ Solidus ครับ

เสียดายว่าทั้งสามท่านไม่ได้มาเล่นแล้ว


#554022 ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นที่เกลียดชังของเสื้อแดง ตั้งแต่เมื่อไร ???

Posted by Maratiraj_ on 29 December 2012 - 19:55

คนไม่มีศาสนา ไม่ได้นับถือศาสนาอะไร เพราะคำสอนไม่แมตช์กับชีวิต หรือไม่เชื่อถือกับความเชื่อและพิธีการที่ดูแล้วแบ่งแยก ไม่ใช่ความจริงปัจจุบัน น่าจะอยู่เฉยๆ (ในโลกมีคนแบบนี้เยอะแยะ หลายประเทศ) ไม่น่าจะไปจิกกัด ดูถูก เสียดสี ลบหลู่ หรือเหยียดศาสนาต่างๆ  เพื่อแสดงความทะนงตัวว่ากูคิดต่าง กูไม่เหมือนใคร เท่ดี สนองความสะใจของตัวเองไปวันๆ มันทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่ไม่นับถือศาสนาเสียมากๆ เพราะคนจะมองว่า คนไม่มีศาสนา ดีแต่จิกกัดคนมีศาสนา แล้วก็ทะเลาะกัน สร้างความแตกแยกในสังคม ...

 

ศาสนา(ไม่นับลัทธิทำลายศาสนา ซึ่งเป็น "ของปลอม") เป็นเรื่องละเอียดอ่อน วิพากษ์วิจารณ์พูดคุยกันได้ แต่ต้องระวัง เอาความเป็นธรรมมาเป็นธงในการคุยกัน

นิสัยแย่ๆที่ผมเห็นบ่อยๆคือ คนพวกนี้มักยกตัวเองว่าเมพสุดในสามโลก เหนือกว่าคนที่นับถือศาสนา




#553973 ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นที่เกลียดชังของเสื้อแดง ตั้งแต่เมื่อไร ???

Posted by อู๋ ฮานามิ on 29 December 2012 - 18:32

คนไม่มีศาสนา ไม่ได้นับถือศาสนาอะไร เพราะคำสอนไม่แมตช์กับชีวิต หรือไม่เชื่อถือกับความเชื่อและพิธีการที่ดูแล้วแบ่งแยก ไม่ใช่ความจริงปัจจุบัน น่าจะอยู่เฉยๆ (ในโลกมีคนแบบนี้เยอะแยะ หลายประเทศ) ไม่น่าจะไปจิกกัด ดูถูก เสียดสี ลบหลู่ หรือเหยียดศาสนาต่างๆ  เพื่อแสดงความทะนงตัวว่ากูคิดต่าง กูไม่เหมือนใคร เท่ดี สนองความสะใจของตัวเองไปวันๆ มันทำให้ภาพลักษณ์ของคนที่ไม่นับถือศาสนาเสียมากๆ เพราะคนจะมองว่า คนไม่มีศาสนา ดีแต่จิกกัดคนมีศาสนา แล้วก็ทะเลาะกัน สร้างความแตกแยกในสังคม ...

 

ศาสนา(ไม่นับลัทธิทำลายศาสนา ซึ่งเป็น "ของปลอม") เป็นเรื่องละเอียดอ่อน วิพากษ์วิจารณ์พูดคุยกันได้ แต่ต้องระวัง เอาความเป็นธรรมมาเป็นธงในการคุยกัน




#453525 อดีต ผบตร.ท่านนี้เลวกว่าที่คิดเยอะ!!!

Posted by คนกรุงธน on 16 October 2012 - 19:27

อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่กำลังมีกระแสว่าอาจจะลงสมัครผู้ว่าในครั้งถัดไป กรุงเทพวันนี้มีปัญหามากที่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน เช่นปัญหาการจราจร น้ำท้วน ไฟฟ้า ภัยอาชญากรรม ยาเสพติด ต้องการคนมาแก้ไขปัญาโดยอิสระ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมีเวส ชีวิตครอบครัว เกิด ปีชวด พ.ศ.2491 ณ ตำบลหิรัญรูจี ถนนอิสรภาพ ธนบุรี ภรรยา นางพัสวีศิริ เตมียาเวส(เทพชาตรี) บุตร-ธิดา น.ส.ศศิภาพมพ์,นายทรรศน์พนธ์,น.ส.ทัศนาวัลย์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์และเหรียญราชการ มหาวชิรมงกุฏ(มวม.) มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก(มปช.) เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร จากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เข็มบริจาคโลหิต 10 เข็ม 10 ระดับ ในฐานนะบริจาคโลหิต ครบ 168 ครั้ง จากการบริจาค สามเดือนต่อครั้ง รวม 40 ปี
เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 1 เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้น 1 เกียรติคุณ "ขุนพลของประชาชน" และ "วีรบุรุษนาแก" จากการป้องกันและปรามปราบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ที่อำเภอนาแก จังหวัด นครพนม ด้วยความเสียสละ กล้าหาญอย่างยิ่งยวดในปี พ.ศ.2520
โล่ผู้นำหน่วยดีเด่น2521 และ หน่วยดีเด่น 2522 จากแม่ทัพภาค 2
คนไทยตัวอย่าง 2522 ของมูลนิธิธารน้ำใจ รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายกสมาคม เจ ซี ระดับท้องถิ่นดีดเน 2527 โล่ทองคำหนัก 129 บาท จากคณะคนไทยรักชาติบ้านเมือง ในกรณีจับกุมผู้มีอิทธพล ภาคตะวันออก บุคคลดีเด่นแห่งชาติปี 2529 จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ไทย รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โล่เชิดชูเกียรติประพฤติตนชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ปี 2532 จากสำนักงาน ปปป.
ประกาศเกียรติคุณสัญลักษณ์อนุรักษ์ผู้ประพฤติธรรม จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประกาศเกียรติคุณคนดี สร้างสรรค์สังคม ร่วมมือในศาสนกิจ จากสมเด็จพระธีรญาณมุนี
โล่ทองคำฝังเพชร จากประชาชนจังหวัดชลบุรี ที่ปราบปรามโสภณทุจริตจนราบคราบทั้งชลบุรี
ประสบการณ์ด้านต่างๆ อาชีพรับราชการตั้งแต่จบจากการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จนเกษียณอายุเมื่อปี่ พ.ศ.2551 ร.ต.ต. 2514 ร.ต.ต. 2516 ร.ต.อ. 2519 พ.ต.ต. 2521 พ.ต.ท 2524 พ.ต.อ. 2526 พล.ต.ต 2533 พล.ต.ท.2540 พล.ต.อ.2547 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 5 พ.ศ.2550 กรรมการบริษัทและรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบัน กรรมการ บริษัท ปตท.โกบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กรรมการ บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 3 สมัย อดีต กรรมการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กรรมการ การไฟฟ้าส่วนภูมิถาค 2 สมัย กรรมการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย 2 สมัย กรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) 2 สมัย กรรมการ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 2 สมัย กรรมการ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) สังคมและสาธารณกุศล ประธานมูลนิธิ เราจะเป็นคนดี กลุ่มเพื่อนเสรี โรงเรียนทวีธาภิเศก สร้างโรงเรียน "ธารน้ำใจ" อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เป็นโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ถึงมัธยมศึกษา ตั้งแต่ปี 2523 และอุปถัมภ์จนถึงปัจจุบัน ทอดกฐิน ผ้าป่า ตามวัดและโรงเรียนร่วมกับกลุ่มเพื่อนเสรีทุกปีตั้งแต่ปี 2519 จนถึงปัจจุบัน ดำเนินการสาธารณกุศล ช่วยน้ำท่วม มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนยากจนทุกปี ตั้งแต่ปี 2519 ถึงปัจจุบัน เผยแพร่ อบรม ปฐกถา ปลุกพลังให้เยาวชนเป็นคนดี มีศีลธรรม ไม่ทำกรรมชั่ว ข้อมูลและรูปภาพจาก www.sereepisuth.com และ www.pupraitarnnarm.com

ระหว่าง เสรี กับ เสแดง คุณเชื่อใคร?


#452723 อดีต ผบตร.ท่านนี้เลวกว่าที่คิดเยอะ!!!

Posted by ปุถุชน on 15 October 2012 - 23:17

ผมไม่เชื่อเสธแดงว่ะที่เสธแดงเล่าอ่ะผมไม่เชื่อเลยสักนิดคนอย่างเสธแดงมันน่าเชื่อเหรอถามจริงๆ :ph34r:



ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่วิจารณ์.....
แต่ผมไม่เชื่อ"เศษแดง"สักเรื่องหนึ่ง....

ยกเว้นเรื่องเดียว คือ...
มันรู้เรื่องการยิง M 79 ใส่สถานที่ต่างๆ...
มันตายไปแล้ว ก็ไม่มีข่าวอีก......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

มันไปเขมร....
ไปถ่ายรูปกับทักษิณและฮวย เซงเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์....

มันบอกว่าไม่ใช่มัน....
แต่เป็นคนหน้าตาเหมือนมัน......

เป็ดเหลิมเลียนแบบมัน......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


#535131 คนโรคจิต.... เต่านา โสณกุล" ด่า "มาร์ค" เ-ีย! ลงเฟซบุ๊ค เคือ...

Posted by กบทอด on 12 December 2012 - 18:54

^
^
หมูผิดตึก :lol:


#530698 ท่านจะต้องมีชีวิตอยู่ชนิดที่ ตัวเองก็ยังเกลียดตัวเอง!..ธาริต...

Posted by คนกรุงธน on 9 December 2012 - 00:22

อีกด้านหนึ่งที่"ธาริต"ลืมอธิบาย!


7 December 2555 - 00:00

อื้อฮือ...ฟังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ แถลงตั้งข้อหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ร่วมฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผล โดยแจกแจงพฤติกรรม ๒ ฆาตกรทุกขั้นตอนแล้ว ผมว่า ต้องตัดหัวเดี๋ยวนี้เลย จึงจะสมใจธาริต-สะใจ นปช. คดีนี้มีเงื่อนไขทางกฎหมาย แต่ธาริตไม่พูดเลย เมื่อกันยาผมเคยเขียน กระบวนการ "ฆาตกรรมอย่างวิสามัญ" ไว้ ก็จะยกมาเป็น "ฉบับเพิ่มเติม" ในการพิมพ์ครั้งที่ ๒ เพราะข้อเท็จจริง เขียนใหม่ มันก็อันเดิมนั่นแหละ!
คดีการตายแท็กซี่เสื้อแดง "นายพัน คำกอง" ที่ศาลอาญานัดฟังคำสั่งไปเมื่อ ๑๗ ก.ย.๕๕ หลายคนเข้าใจว่า "เป็นคำพิพากษา" โดยศาลระบุว่า ทหารร่วมกันยิงตามคำสั่ง "กระชับพื้นที่" ของอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์และรองฯ สุเทพ เมื่อปี ๒๕๕๓ และ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
ฟังจากปากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ค่อยเข้าใจถึงความสลับซับซ้อนของระเบียบและขั้นตอนกฎหมาย รวมถึงภาษากฎหมาย อาจหลงเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ ว่า ศาลตัดสิน "ทหารฆ่าประชาชน" โดยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นคนสั่งในฐานะ ผอ.ศอฉ.!
เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง จะได้ไม่นำไปโหมกระพือให้เข้าใจกันผิดๆ ไม่อย่างนั้น เมื่อถึงวันที่ศาลตัดสินจริงๆ ถ้าคำพิพากษาออกมาไม่เป็นอย่างที่ตัวเอง "หลงเข้าใจ" ก็จะยกพวกมาตะโกนกันอีกแหละว่า...๒ มาตรฐาน!
ก็จะบอกว่า นี่ไม่ใช่คำตัดสิน "คดีนายพัน คำกอง" จากศาล เป็นเพียง "ไต่สวนการตาย" ในชั้นสอบสวนเท่านั้น ยังไม่มีโจทก์ ไม่มีจำเลย ไม่มีการฟ้อง ยังไม่มีใครผิด-ใครถูกใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงขั้นตอนนำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาความให้เป็นไปตามตัวบท-กฎหมาย เท่านั้น
คือวัน-เวลา-เหตุการณ์ ที่นายพันตายนั้น เป็นการตายใน "สถานการณ์ฉุกเฉิน" ที่ทหารต้องออกมาปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ และตามมาตรา ๓ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน
การตายใน "ภาวะไม่ปกติ" กฎหมายมีระเบียบ-ขั้นตอนให้ปฏิบัติต่างไปจากการตายในคดีฆ่ากันตายทั่วไป ฉะนั้น กรณีนายพัน คำกอง นี้ ขั้นแรก อัยการต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนการตายก่อน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่า คนตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อไหร่ สาเหตุอะไร รวมถึงพฤติการณ์ที่ตาย
นั่นก็คือ ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๐ ก่อน โดยเฉพาะการตายเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ทหาร การชันสูตรพลิกศพต้องให้เป็นไปตาม ม.๑๕๐ กำหนด
พูดภาษาชาวบ้าน คือการ "วิสามัญฆาตกรรม" หรือ "ฆาตกรรมอย่างวิสามัญ" จากพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ถึงแม้กฎหมายระบุ พนักงานเจ้าหน้าที่ทำฆาตกรรมอย่างวิสามัญเป็นไปตามกรอบกำหนด ไม่มีความผิด ไม่ต้องรับโทษทัณฑ์ใดๆ ก็ตาม
แต่ในการทำคดี ตำรวจต้องทำตามมาตรา ๒๘๘ "ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย" มีโจทก์ มีจำเลย ถูกฟ้องศาล แล้วศาลจะเป็นผู้ตัดสินเองว่า ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ทำฆาตกรรมอย่างวิสามัญนายพัน คำกอง หรือรายอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ เข้าเกณฑ์ไม่ต้องรับโทษหรือไม่?
คดีคนร้ายต่อสู้-ขัดขืนการจับกุมของตำรวจ แล้วถูกตำรวจยิงตายอย่างที่เห็นบ่อยๆ นั่นก็เรียกว่า "พนักงานเจ้าหน้าที่ทำฆาตกรรมอย่างวิสามัญ" เข้าลักษณะเดียวกันนี้
ตำรวจที่ฆ่าโจร ก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหา "ฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย" ตามมาตรา ๒๘๘ เหมือนที่นายธาริตกำลังตั้งข้อหากับนายอภิสิทธิ์-นายสุเทพ นั่นแหละ ต้องถูกดำเนินคดีส่งอัยการ อัยการนำฟ้องศาล ตกเป็นจำเลย เพื่อให้ศาลตัดสินว่า.....
ที่ตำรวจวิสามัญโจรก็ดี ที่เจ้าพนักงานทหารร่วมยิงนายพันตาย ตามคำสั่ง ศอฉ. ซึ่งมี "อภิสิทธิ์-สุเทพ" เป็นหัวหน้าศูนย์ ก็ดี นั่นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ "ฆาตกรรมอย่างวิสามัญ" เข้าข่ายไม่มีความผิด ไม่ต้องรับโทษใดๆ ตามกรอบกฎหมายระบุหรือไม่?
นี่คือขั้นตอนปฏิบัติทั่วไป ศาลพิจารณาแล้วตัดสินอย่างใด ก็เป็นอย่างนั้น ที่สำคัญคือ ในชั้นนี้นายธาริตไม่ควรพูดเชิงหลอกล่อให้ นปช.ปักใจตามสรรพคุณข้อหาที่จาระไนให้โทนไปทางว่า ๒ คนนี้ แน่ชัด...ฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน!
เพื่อการติดตามคดีนี้ ผมจะนำ "องค์ประกอบเหตุการณ์" อันเป็นไปตาม "ข้อบัญญัติกฎหมาย" มาให้ท่านได้ค่อยๆ ทำความเข้าใจกัน จะได้ไม่ติดปลายเบ็ดอธิบดี DSI และเมื่อศาลตัดสินใจจะไม่วุ่นวะ-วุ่นวายว่า เอ๊ะ...ทำไมเป็นอย่างนี้ ก็ดูจากที่ศาลไต่สวนการตายนายพัน คำกอง เมื่อ ๑๗ ก.ย.ไปเลย ศาลมีคำสั่งว่า.......
"ผู้ตายชื่อนายพัน คำกอง ตายที่หน้าที่สำนักงานขายคอนโดมิเนียมชื่อไอดีโอคอนโด ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง เหตุและพฤติการณ์ที่ตายเกิดจากการถูกลูกกระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) จากอาวุธปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ที่เจ้าพนักงานทหารร่วมกันยิงไปที่รถยนต์ตู้หมายเลขทะเบียน ฮค-8561 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายสมร ไหมทอง เป็นผู้ขับ แล้วลูกกระสุนปืนไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ในขณะเจ้าพนักงานทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบปิดล้อมพื้นที่ควบคุม ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)"
ก็ชัดเจน เที่ยวตัดตอนพูดแต่ว่า "ทหารยิง" แต่ไม่พูดให้ครบประโยคที่ศาลระบุถึงการถูกยิงตายว่า "ในขณะเจ้าพนักงานทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ ปิดล้อมพื้นที่ตามคำสั่งของ ศอฉ."
การที่ DSI โดยนายธาริตตั้งข้อหา "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ว่า ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๙, ๘๓ และ ๒๘๘ หลังศาลมีคำสั่งในคดีไต่สวนสาเหตุการตายแล้วนั้น ตั้งข้อหาก็ไม่มีใครว่า
แต่นายธาริต ฐานะผู้ใหญ่ ควรใช้ดุลยธรรมอธิบายในส่วนที่กฎหมายคุ้มครองการกระทำของนายอภิสิทธิ์-สุเทพ และทหารให้ชาวบ้านเข้าใจด้วย ไม่ควรพูดเบี่ยงไปทางแนว "ผิดเพราะเป็นฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน" โดดๆ
จริงๆ แล้ว ที่ นปช.ชุมนุมเมื่อปี ๒๕๕๓ นั่นตะหาก ที่ศาลสั่ง "ไม่คุ้มครอง"!
ผมจะช่วยรื้อความจำให้ หลังฆ่าทหารที่สี่แยกคอกวัว นปช.คึกขยายแนวป่วนเมือง ครั้นทหารจะเข้าไปสลายการชุมนุม ๒๒ เม.ย.๕๓ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็เป็นโจทก์ไปยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่ง ขอให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายอภิสิทธิ์สั่งทหารเข้าสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด
ศาลแพ่ง วันที่ 22 เมษายน 2553 ระหว่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ โจทก์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน เป็นจำเลย
พิเคราะห์คำฟ้องประกอบข้อเท็จจริงที่ได้ความจากการไต่สวนในเบื้องต้นว่า โจทก์เป็นหนึ่งในแกนนำผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งได้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนินกลาง และถนนราชดำเนินนอก เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรี (จำเลยที่ 1) ยุบสภา ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2553 เป็นต้นมา
ต่อมาวันที่ 3 เม.ย. โจทก์และผู้ร่วมชุมนุมบางส่วนได้เคลื่อนย้ายไปชุมนุมในบริเวณสี่แยกราช ประสงค์อีกแห่งหนึ่ง ครั้นวันที่ 7 เม.ย. จำเลยที่ 1 โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ จำเลยที่ 1 ยังมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่พิเศษ 1/2553 จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี (จำเลยที่ 2) เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน กับมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่พิเศษ 2/2553 ตั้งจำเลยที่ 2 เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ พนักงานเจ้าหน้าที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง
ก่อนเกิดเหตุจำเลยทั้งสองได้ประกาศให้โจทก์ และ นปช. ออกจากพื้นที่การชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ต่อมาวันที่ 10 เม.ย. จำเลยทั้งสองร่วมกันออกคำสั่งให้ทหารจำนวนมากเข้าไปในบริเวณพื้นที่สะพาน ผ่านฟ้าลีลาศ และพื้นที่ต่อเนื่อง โดยประกาศว่าเพื่อเป็นการขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุม ในวันเดียวกันนั้น เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกำลังฝ่ายทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม โดยกำลังฝ่ายทหารใช้ปืนยิงกระสุนยาง ระเบิดก๊าซน้ำตา ฯลฯ ในที่สุด ปรากฏว่ามีประชาชนและทหารเสียชีวิต จำนวน 25 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
กรณีมีเหตุที่จะออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวตามคำขอของโจทก์หรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์และผู้ร่วมชุมนุมไปชุมนุมในที่สาธารณะบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่ถนนราชดำริถึงแยกศาลาแดง และถนนพระรามที่ 1 ถึงห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน อันเป็นการปิดกั้นกีดขวางการใช้เส้นทางคมนาคม และการใช้ยานพาหนะของประชาชนโดยทั่วไป ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่สำคัญ เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อการประกอบอาชีพ และการดำรงชีวิตปกติสุขของประชาชน เป็นการจำกัดเสรีภาพในการเดินทาง และสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงมีเหตุจำเป็นที่จำเลยทั้งสองต้องใช้มาตรการขอพื้นที่คืน หรือที่โจทก์เรียกว่าเป็นการสลายการชุมนุมได้ ทั้งนี้ เพื่อให้สังคมกลับสู่สภาวะปกติ และเกิดความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ดังนั้น ที่โจทก์ขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยทั้งสองใช้กำลังทหารเข้าไปสลายการชุมนุม โดยเด็ดขาด จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะมีคำสั่งตามคำขอข้อนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการดังกล่าวเป็นเหตุให้มีทหาร และประชาชนเสียชีวิต 25 คน และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แม้ขณะนี้ยังไม่อาจทราบได้ว่าเป็นผลจากการกระทำของฝ่ายใด แต่การที่มีทหารและประชาชนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ประกอบกับปัจจุบันนี้ยังปรากฏว่ามีการชุมนุมของ นปช.อยู่อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ดังกล่าว และน่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองอาจออกคำสั่งใดๆ เพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ในการชุมนุม ย่อมมีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในส่วนนี้แก่โจทก์ได้
จึงมีคำสั่งว่า หากจำเลยทั้งสองจะกระทำการใดๆ ในการขอพื้นที่คืนหรือสลายการชุมนุมของผู้ร่วมชุมนุม ให้ดำเนินการเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความเหมาะสม มีลำดับขั้นตอนตามหลักสากล ทั้งนี้ จนกว่าจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
นางวิไลลักษณ์ อินทุภูติ
นางอรนิตย์ พฤกษฎาจันทร์
ทั้งหมดนี้ นายธาริตก็รู้ เพราะร่วมอยู่ใน ศอฉ.ด้วย ฉะนั้น ควรพูดให้สมผู้ใหญ่ที่พึงมีหิริ โอตตัปปะ ไม่ต้องโป๊สีจนเวอร์อย่างที่แถลงเมื่อวาน (๖ ธ.ค.) หรอกว่า...
"........การสั่งใช้อาวุธปืน การสั่งใช้พลซุ่มยิง และอื่นๆ โดยมีการออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรจากนายสุเทพ และได้อ้างไว้ในคำสั่งด้วยว่า เกิดจากการสั่งของนายกฯ อย่างชัดเจน สอดคล้องกับพยานบุคคลที่ร่วมอยู่ใน ศอฉ.ว่านายอภิสิทธิ์ได้รับรู้ สั่งการ และพักอาศัยอยู่ในศูนย์ ศอฉ.ตลอดเวลา และที่สำคัญคือ การสั่งการของบุคคลทั้ง ๒ กระทำอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง จึงบ่งชี้ได้ว่า เป็นเจตนาเล็งเห็นผลร่วมกันสั่งการ"
ก็ทำคดีมีอภิสิทธิ์-เทพเป็นจำเลย ส่งอัยการฟ้องศาลไปตามระบบเถอะ..ธาริต ทั้งหมดที่เสริมสีนั้น ไว้เป็นหน้าที่ศาลท่านพิจารณาเองว่า "การขอคืนพื้นที่หรือสลายการชุมนุม จนเป็นเหตุให้นายพัน คำกอง ตายนั้น เป็นการดำเนินการเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงความเหมาะสม มีลำดับขั้นตอนตามหลักสากล" ตามที่ศาลได้สั่งไว้หรือเปล่า?
อย่ายกคดี "ฆาตกรรมอย่างวิสามัญ" ไปเบี่ยงประเด็นพูดนอกกรอบ พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ใช้ขณะนั้น และการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ และตามมาตรา ๓ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในของนายอภิสิทธิ์-สุเทพ
นายธาริตครับ...
ท่านเป็นข้าราชการสนองงานรัฐบาลได้เยี่ยม แต่แบบนี้ระวัง...ท่านจะต้องมีชีวิตอยู่ชนิดที่ ตัวเองก็ยังเกลียดตัวเอง!.


#531983 มีใครในนี้เดือดร้อนกับข่าวนี้มั้ยครับ:ซีเอ็ดกล้าแบนหนังสือ (สรุปปิดกระทู้หื่น)

Posted by ตะนิ่นตาญี on 10 December 2012 - 20:38



ส่วนวรรณคดี ผมไม่เคยเจอเรื่องไหน บรรยายอย่างโจ่งแจ้งเลย
ขอตัวอย่างด้วยสิ


"ลิลิตพระลอ" โดนก่อนเพื่อนเลย... (วรรณคดีที่สุดในดวงใจผึ้งน้อยเลยนั่น)
มีทั้ง Orgy ในน้ำ (ฉากพี่เลี้ยงทั้ง 4 ในน้ำ)
มีทั้ง One Night Stand (เยอะไปหมด)
มีทั้งแบบสะเทิ้นน้ำสะเท้อนบก คือเสร็จในน้ำ มาต่อในสวนได้อีก ไม่พักกันมั่งเรย..แหม.. :rolleyes:
มีทั้ง Threesome (ฉากพระลอจะเอาน้องก่อน แต่น้องไม่ไหว..ให้คนพี่เริ่มก่อนก็ได้ เสร็จแล้วก็ต่อที่น้อง)
แถมบรรยายซะละเอียดยิบไปถึงไหนๆ
๏ พระเพื่อนสมสมรแล้ว...................ลอราชเชยชมแก้ว
แก่นไท้แพงทอง


ประมาณว่า "ต่อได้เลย" โห...อย่างเทพ!

ลิลิตพระลอนี่ที่สุดของที่สุด Erotic Literature แล้วครับ

๏ นางโรยนางเรียกด้วย.............คำงาม
ขวัญอ่อนดั่งขวัญกาม...............ยั่วแย้ม
ใบบัวหนั่นหนาตาม...................กันลอด ไปนา
หอมกลิ่นบัวรสแก้ม..................กลิ่นแก้มไกลบัว

๏ ใบบัวบังข้าขอบ...................ใจบัว
ดอกดั่งจะหัวรัว......................เรียกเต้า
เชยชมภิรมย์ชัว.......................ซมซาบ บัวนา
ถนัดดั่งเรียมชมเจ้า..................พี่เหล้นกับตน

๏ บัวนมบัวเนตรหน้า...............บัวบาน
บัวกลิ่นขจรหอมหวาน..............รสเร้า
บัวสมรละลุงลาญ....................ใจบ่า นี้นา
บัวบาทงามจวบเท้า..................เกศแก้วงามจริง

๏ โกมุศกาเมศแก้ว...................โกมล พี่เอย
หอมกลิ่นจงกลกล....................กลิ่นแก้ว
จงกามินีปน..............................รสร่วม กันนา
จงกอบอย่ารู้แคล้ว....................ก่อเกื้อกรีฑา

๏ สรนุกบัวซ้อนดอก................บัวพระ พี่นา
ปลาช่อนปลาไซ้พระ................ดอกไม้
สลิดโพตะเพียนพะ..................กันชื่น ชมนา
รวนเพรียกแนมหลิ่งไสร้...........เหยื่อหย้ามฟูมฟอง


ลิลิตพระลอโดนกวาดเรียบไปแล้ว "กากี" ก็เป็นคิวต่อไป




"บันดาลพลาหกเทวบุตร
ก็ผึ่งผุดตั้งทั่วทิศาศาล
โพยมพยับอับอึงอนธการ
สะท้านถึงเมรุราชสีขรินทร์


สัตภัณฑ์บรรพตก็ไหวหวั่น
คงคาลั่นเป็นระลอกกระฉอกสินธุ์
ฝูงมหามัจฉาในวาริน
ก็โดดดิ้นเล่นน้ำลำพองกาย


อันดอกดวงสิมพลีที่ตูมกลัด
ครั้นฝนซัดเชยแช่มแย้มขยาย
ที่ตูมบานก้านกลีบขจรจาย
รำพายกลิ่นรื่นรสเสาวคนธ์


แมลงภู่ทิพรีบเร่งมาเอาซาบ
อาบละอองต้องทั่วทุกขุมขน
สองสุขสองเกษมเปรมสกนธ์

สองกมลสองสวาทไม่คลาดกัน"

ข้างบนนี้พี่ครุฑเขาลักกากีไปเสพสม

กากียังมีฉาก Voyeurism ด้วยนะ คือ "แอบดูคนเขารักกัน"
คนธรรพ์แอบดูพี่ครุฑกับน้องกากี

ฝ่ายคนธรรพ์เป็นไรเข้าเร้นซ่อน............ที่บัญชรพิมานชัยไพศาล
ส่วนครุฑแนบนุชนงพาล........................สองสมานร่วมรสฤดีทวี


เปรียบดั่งองค์ปโรตเทวัญ.....................เมื่อฤดูวสันต์เกษมศรี
เมขลาชูช่วงดวงมณี............................อสุรีรามสูรก็โกรธา


ถือขวานเหาะทะยานขยิกไล่..................เวียนระไวในจังหวัดพระเวหา
นางแบแก้วแวววับให้จับตา...................อสุราขว้างขวานไปราญรอน


เมขลาล่อแก้วอสุรินทร์.........................ไม่สุดสิ้นที่จะร่วมสโมสร
เกิดสำหรับกัปกัลป์นิรันดร.....................เหมือนสมรสมานสุขสกุณินทร์


จบแค่นี้ก่อน

เดี๋ยวม็อดหาว่าหื่น :P


หื่นนนนนนนนนนนนนน


ปล.ขุนช้างขุนแผนก็คงใช่ย่อย




เห็น คุณผึ้งน้อยฯ พูดถึง บทอัศจรรย์ และ คุณ pinkฯ พูดถึง ขุนช้าง-ขุนแผน แล้ว

นึกถึง บทอัศจจรย์ บทนี้ขึ้นมาทันทีทันใดเลยครับ

ว่าพลางโลมเล้าเอามือลูบ.....ประจงจูบแก้มซ้ายแล้วย้ายขวา

อกแอบอิงสวาทไม่คลาดครา.....แนบหน้ามือประคองให้น้องนอน

กำเริบราคเสียวกระสันประหวั่นจิต.....หวุดหวิดวุ่นวายกายกระฉ่อน

พระพายพัดซัดคลื่นในสาคร.....กระท้อนกระทบกระทั่งฝั่งกระเทือน

เรือไหหลำแล่นล่องเข้าคลองน้อย.....ฝนปรอยฟ้าลั่นสนั่นเลื่อน

ไต้ก๋งหลงบ่ายศรีษะเชือน.....เบือนเขาติดตื้นแตกกับตอ


คนโบราณอ่านเสภา ขุนช้าง-ขุนแผน แล้วแก้มแดง จินตนาการได้ไกลไปไหนต่อไหน

เด็กรุ่นใหม่ใหม่อ่านให้ฟังแล้วบอกว่า "ลุงแปลให้ด้วย" ได้ยินแล้วอยากเขกหัวให้สักโป๊กหนึ่ง

เพียงแค่ เบือนเขาติดตื้นแตกกับตอ นี่ก็ฟุ้งซ่านไปได้ ๑๘ ตลบ แล้ว

พูดถึง ขุนช้าง-ขุนแผน แล้วก็ให้ขำ วันแต่งงานของ พลายแก้ว กับ นางพิม

แทนที่จะมีอะไรกันตามประสา ข้าวใหม่-ปลามัน ผัวหนุ่ม-เมียสาว

เจ้าพลายแก้ว ดันนอนเล่า รามเกียรติ์ ให้ นางพิม ฟัง

แหม...เล่าตั้งแต่ต้นจนจบ นี่ถ้าไม่สว่างแจ้งเห็นแสงไขย ก็ ร่ำร่ำ แสงอุทัยเริ่มสาดส่องแล้วกระมังครับ

จะมีอะไรต่ออะไรกันได้ไงก็ไม่รู้ อ่านแล้วก็ให้เห็นภาพตาม :D

ตะนิ่นตาญี

วันจันทร์ที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๒๐.๓๘ นาฬิกา


#531920 มีใครในนี้เดือดร้อนกับข่าวนี้มั้ยครับ:ซีเอ็ดกล้าแบนหนังสือ (สรุปปิดกระทู้หื่น)

Posted by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 10 December 2012 - 20:05

ส่วนวรรณคดี ผมไม่เคยเจอเรื่องไหน บรรยายอย่างโจ่งแจ้งเลย
ขอตัวอย่างด้วยสิ


"ลิลิตพระลอ" โดนก่อนเพื่อนเลย... (วรรณคดีที่สุดในดวงใจผึ้งน้อยเลยนั่น)
มีทั้ง Orgy ในน้ำ (ฉากพี่เลี้ยงทั้ง 4 ในน้ำ)
มีทั้ง One Night Stand (เยอะไปหมด)
มีทั้งแบบสะเทิ้นน้ำสะเท้อนบก คือเสร็จในน้ำ มาต่อในสวนได้อีก ไม่พักกันมั่งเรย..แหม.. :rolleyes:
มีทั้ง Threesome (ฉากพระลอจะเอาน้องก่อน แต่น้องไม่ไหว..ให้คนพี่เริ่มก่อนก็ได้ เสร็จแล้วก็ต่อที่น้อง)
แถมบรรยายซะละเอียดยิบไปถึงไหนๆ
๏ พระเพื่อนสมสมรแล้ว...................ลอราชเชยชมแก้ว
แก่นไท้แพงทอง


ประมาณว่าให้ผ่ายหญิงคนพี่เสร็จสมก่อนด้วย แล้วถึงมาที่คนน้อง
พระลอก็ "ต่อได้เลย" โห...อย่างเทพครับเพ่ อย่างเทพ!

ลิลิตพระลอนี่ที่สุดของที่สุด Erotic Literature แล้วครับ

๏ นางโรยนางเรียกด้วย.............คำงาม
ขวัญอ่อนดั่งขวัญกาม...............ยั่วแย้ม
ใบบัวหนั่นหนาตาม...................กันลอด ไปนา
หอมกลิ่นบัวรสแก้ม..................กลิ่นแก้มไกลบัว

๏ ใบบัวบังข้าขอบ...................ใจบัว
ดอกดั่งจะหัวรัว......................เรียกเต้า
เชยชมภิรมย์ชัว.......................ซมซาบ บัวนา
ถนัดดั่งเรียมชมเจ้า..................พี่เหล้นกับตน

๏ บัวนมบัวเนตรหน้า...............บัวบาน
บัวกลิ่นขจรหอมหวาน..............รสเร้า
บัวสมรละลุงลาญ....................ใจบ่า นี้นา
บัวบาทงามจวบเท้า..................เกศแก้วงามจริง

๏ โกมุศกาเมศแก้ว...................โกมล พี่เอย
หอมกลิ่นจงกลกล....................กลิ่นแก้ว
จงกามินีปน..............................รสร่วม กันนา
จงกอบอย่ารู้แคล้ว....................ก่อเกื้อกรีฑา

๏ สรนุกบัวซ้อนดอก................บัวพระ พี่นา
ปลาช่อนปลาไซ้พระ................ดอกไม้
สลิดโพตะเพียนพะ..................กันชื่น ชมนา
รวนเพรียกแนมหลิ่งไสร้...........
เหยื่อหย้ามฟูมฟอ


ลิลิตพระลอโดนกวาดเรียบไปแล้ว "กากี" ก็เป็นคิวต่อไป
ข้างล่างนี้พี่ครุฑเขาลักกากีไปเสพสมบนวิมานฉิมพลี

"บันดาลพลาหกเทวบุตร
ก็ผึ่งผุดตั้งทั่วทิศาศาล
โพยมพยับอับอึงอนธการ
สะท้านถึงเมรุราชสีขรินทร์


สัตภัณฑ์บรรพตก็ไหวหวั่น
คงคาลั่นเป็นระลอกกระฉอกสินธุ์
ฝูงมหามัจฉาในวาริน
ก็โดดดิ้นเล่นน้ำลำพองกาย

อันดอกดวงสิมพลีที่ตูมกลัด
ครั้นฝนซัดเชยแช่มแย้มขยาย

ที่ตูมบานก้านกลีบขจรจาย
รำพายกลิ่นรื่นรสเสาวคนธ์

แมลงภู่ทิพรีบเร่งมาเอาซาบ
อาบละอองต้องทั่วทุกขุมขน

สองสุขสองเกษมเปรมสกนธ์
สองกมลสองสวาทไม่คลาดกัน"



กากียังมีฉาก Voyeurism ด้วยนะ คือ "แอบดูคนเขารักกัน"
คนธรรพ์แอบดูพี่ครุฑกับน้องกากี

ฝ่ายคนธรรพ์เป็นไรเข้าเร้นซ่อน............ที่บัญชรพิมานชัยไพศาล
ส่วนครุฑแนบนุชนงพาล........................สองสมานร่วมรสฤดีทวี

เปรียบดั่งองค์ปโรตเทวัญ.....................เมื่อฤดูวสันต์เกษมศรี
เมขลาชูช่วงดวงมณี............................อสุรีรามสูรก็โกรธา

ถือขวานเหาะทะยานขยิกไล่
..................เวียนระไวในจังหวัดพระเวหา
นางแบแก้วแวววับให้จับตา...................อสุราขว้างขวานไปราญรอน

เมขลาล่อแก้วอสุรินทร์.........................ไม่สุดสิ้นที่จะร่วมสโมสร
เกิดสำหรับกัปกัลป์นิรันดร.....................เหมือนสมรสมานสุขสกุณินทร์


จบแค่นี้ก่อน

เดี๋ยวม็อดหาว่าหื่น :P


#530291 มาจากราชดำเนินค่ะ อยากทราบความเห็นพี่ๆ เสรีไทยเกี่ยวกับความจงรักภักดีของยิ่งล...

Posted by asawinee on 8 December 2012 - 19:20

คำถามคือ
พรรคเพื่อแม้ว ที่นำโดยยิ่งลักษณ์และทักษิณ มักแสดงออกว่าเทิดทูลสถาบัน ทำไมถึงกลายเป็นแหล่งสุมหัวของพวกที่เข้าข่ายจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบัน ทักษิณยิ่งลักษณ์รู้เห็นเป็นใจแต่ทำปากว่าตาขยิบ
หรือถ้ามองแบบเข้าข้างทักษิณ ทักษิณไม่ได้เจตนาจะเก็บพวกนี้ไว้ แต่จำเป็นต้องพึ่งพาพวกที่เข้าข่ายนี้ไปก่อนเป็นแขนขาเพื่อความมั่นคงในการล้างผิดเท่านั้นเอง



แม้วมีนิสัยใจร้อน ใจเร็วด่วนได้ กล้าได้กล้าเสีย โผงผาง ปึงปัง ปากไว
คนแบบนี้ ไม่น่าจะใจเย็น มีแผนการณ์แยบยล คิดหมากสามสี่ชั้น
รอคอยความสำเร็จด้วยความอดทน

การดำเนินการใดๆเพื่อชัยชนะ วางหมาก วางแผน แก้เกม สร้างมวลชน จึงต้องอาศัยกุนซือในวอร์รูมช่วยกันวางแผนทั้งสิ้น
การถือกำเนิดของคนเสื้อแดงก็เกิดจากความคิดของคนในวอร์รูม

แล้วคนในวอร์รูมมาจากไหน
พวกนี้เป็นปัญญาชน มีความรู้ มีการศึกษา มีประสบการณ์การต่อสู้มาจากยุค ตุลา
เป็นพวกคอมหลงยุค
มีเป้าหมายที่สำคัญคือต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ
แต่สิ่งที่ขาดคือ เงินทุน

ส่วนแม้ว มีเงินแต่ขาดการวางแผนที่ดี

ฝ่ายแม้ว กับฝ่ายวอร์รูม จึงเติมเต็มซึ่งกันและกัน
พึ่งพาซึ่งกันและกัน


แม้วไม่แคร์ว่าการปกครองจะเป็นแบบใด
ขอให้ตัวเองได้ประโยชน์

ตัวแม้วเอง สังเกตดูว่า จะพยายามถ่วงดุลเสื้อแดงที่รักเจ้า กับล้มเจ้า
เพื่อหล่อเลี้ยงมวลชนเอาไว้
บ่างครั้งจึงต้องออกตัวแสดงตนว่าจงรักภักดี
ในขณะเดียวกันก็ขยิบตาให้ลิ่วล้อ ลงมือบั่นทอนสถาบัน


#530403 โกตี๋ หนีเที่ยว...อีกแล้ว

Posted by kon_thai on 8 December 2012 - 20:43

โกตี๋..คงสนุกมากเลยวันนี้...