Jump to content


pornchokchai

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2551
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2557 16:47
*----

#672262 วิพากษ์ความเห็นของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์

โดย pornchokchai on 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:40

ยังไม่พบคนเถียงได้เลยครับว่า เคยมีกรณีไหนในโลกบ้างที่เสียงส่วนใหญ่ผิดครับ

 

ด๊อกฯ ได้อ่านที่ผมโพสต์หรือเปล่า? หรืออ่านข้ามไป? ตัวอย่างนั่นก็ชัดเจน เรื่องเสียงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งถูกต้องเสมอไป

 

ย้ำครับ ตรรกะด๊อกฯ โคตรป่วย

 

 

 

ยกมาตรงนี้เลย จะช้าอยู่ใย ฟอร์มจัดหรือ พูดอีกที จะเสียหายอะไร จะได้ตอบกันไป ไม่ต้องให้สมาชิกเพื่อน ๆ มาคุ้ยมาค้น รู้จักอำนวยความสะดวกคนหน่อย แค่นี้ยังใจเล็กทำเพื่อคนอื่นไม่ได้ แล้วมาคุยไปใยครับ




#672260 วิพากษ์ความเห็นของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์

โดย pornchokchai on 9 เมษายน พ.ศ. 2556 - 10:39

 

ยังไม่พบคนเถียงได้เลยครับว่า เคยมีกรณีไหนในโลกบ้างที่เสียงส่วนใหญ่ผิดครับ

 

ด๊อกฯ ได้อ่านที่ผมโพสต์หรือเปล่า? หรืออ่านข้ามไป? ตัวอย่างนั่นก็ชัดเจน เรื่องเสียงส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งถูกต้องเสมอไป

 

ย้ำครับ ตรรกะด๊อกฯ โคตรป่วย

 

 

รัฐธรรมนูญปี 50 มาจากเสียงส่วนใหญ่ ใช่หรือไม่

 

 

 

รัฐธรรมนูญโจร เขารับ ๆ เพื่อจะแก้ไข พอถูกหลอกให้รับ กลับไม่ยอมให้แก้ไข ชั่วช้ามากครับ




#671835 วิพากษ์ความเห็นของนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์

โดย pornchokchai on 8 เมษายน พ.ศ. 2556 - 21:22

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง งั้นมู้นี้ด๊อกก็คงผิดเต็มๆแล้วแหละ

เพราะไม่มีใครเห็นด้วยกับด๊อกสักคน

 

 

นี่แค่กฎหมู่ เฉกเช่น เสียงส่วนใหญ่ของโจร ถือเป็นเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ เพราะโจรเป็นคนส่วนน้อยในสังคมครับผม




#640130 ว่าด้วยสนามฟุตซอล หนองจอก

โดย pornchokchai on 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 19:48

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

 

:mellow:

 

ความจริง ยังไม่เคยออกจากปาก เลยชีวิตนี้จะเจริญมั้ยเห๊อะด๊อก

 

แล้วอยู่ๆมาโจมตี เป็นอะไรครับ เงินไม่พอใช้เหรอ

 

:D

 

 

Admin มาดูหน่อยครับ และจัดการคน ๆ นี้หน่อยครับ

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == ไม่กล้าใช้ชื่อจริง แล้วยังใช้คำหยาบคาย แย่นะครับ

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล == Admin ช่วย ban หน่อยครับ




#640050 ว่าด้วยสนามฟุตซอล หนองจอก

โดย pornchokchai on 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 18:39

โครงสร้างทั้งหมดอยู่ครบครับ แต่งานสถาปัตยกรรม และงานระบบประกอบอาคาร ต้องแก้ไขใหม่ครับ




#639970 ว่าด้วยสนามฟุตซอล หนองจอก

โดย pornchokchai on 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 17:48

ตอนนี้รื้อใหม่ เหมือนยังสร้างไม่เสร็จจริง ๆ ครับ คือถอยเพื่อรุกต่อครับ ไม่ว่ากันครับ




#639778 ว่าด้วยสนามฟุตซอล หนองจอก

โดย pornchokchai on 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 15:04

คุยกันที่กระทู้นี้แทนครับผม ขออภัย กระทู้ก่อนลืมใส่รูปครับผม




#639765 ว่าด้วยสนามฟุตซอล หนองจอก

โดย pornchokchai on 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:59

ว่าด้วยสนามฟุตซอล หนองจอก
สนามแห่งนี้เกือบเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ตอนที่ฟีฟาตรวจแต่ตรวจไม่ผ่าน ตอนนี้เลยรื้อให้เหลืองานโครงสร้าง ส่วนงานสถาปัตยกรรมและงานระบบประกอบอาคาร ทำใหม่เกือบหมด เพื่อให้แข็งแรงใช้งานได้ยาวนานไปเลย . . . อันนี้ต้องเข้าใจ กทม. ว่า ณ นาทีนี้ที่ไม่ต้องแข่งกับเวลา ก็ทำให้ดีไปเลย . . . ทำดีแล้วครับ http://th.wikipedia....ki/บางกอกอารีนา

Attached Images

  • b.jpg



#630483 ทายซิ ! ดร.โสภณ เบอร์ 4 ใช้งบหาเสียงเท่าไร แลก 1,144 คะแนน

โดย pornchokchai on 7 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:01

http://www.matichon....1&subcatid=0100
ทายซิ ! ดร.โสภณ เบอร์ 4 ใช้งบหาเสียงเท่าไร แลก 1,144 คะแนน

วันที่ 06 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 10:32:48 น.

 

 

 

13625405981362540650.jpg

 

 


วันนี้  ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.   เบอร์ 4 ได้ออกมากล่าว ขอบพระคุณท่านผู้สื่อข่าว และท่านผู้ลงคะแนนเสียงให้ รวมทั้งขอชื่นชมทุกฝ่ายที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิกันมากขึ้น
         

 และเพื่อเป็นการแสดงความโปร่งใส จึงขอนำเสนอค่าใช้จ่ายการหาเสียงเบื้องต้น ดังนี้:
          1. ค่าผู้ช่วยหาเสียง เป็นเงิน 36,500 บาท
          2. ค่าทำสื่ออินเตอร์เน็ต 10,000 บาท
          3. ค่าทำการปราศรัยผ่าน Internet 2 ครั้ง 7,000 บาท
          4. ค่าใบปลิว ค่าแจกและค่าส่งใบปลิว 76,590 บาท
          5. ค่าทำเสื้อ 10,000 บาท
          6. ค่าทำสติกเกอร์และโปสเตอร์ 10,807 บาท
          7. ค่าใช้จ่ายในวันไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา 3,300 บาท
          8. ค่าเล่นว่าวที่สนามหลวง 1,700 บาท
          9. ค่าสังฆทานทำบุญวันมาฆะบูชา 5 ชุด 1,174 บาท
         

 

รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 157,071 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการหาเสียงโดยตรง ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าสมัครรับเลือกตั้ง 50,000 บาท และค่าออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 อีก 80,000 บาท ซึ่งผู้สมัครไม่ต้องจ่าย แต่ กกต. กำหนดให้ผู้สมัครใส่ไว้เป็นค่าสมัครด้วย และอาจมีอื่นๆ อีกบางส่วน
         

 

 

การที่ค่าใช้จ่ายน้อยเพราะไม่มีป้ายติดที่เสาไฟฟ้าต่าง ๆ แม้แต่ป้ายเดียว ทั้งนี้ผมมุ่งหวังจะเป็นการหาเสียงในมิติใหม่ที่ไม่ต้องการให้มีป้ายระเกะระกะ ไม่มีการจัดเวทีปราศรัยราคาแพง ไม่มีการไหว้วานคนมาฟังปราศรัย แต่ใช้การปราศรัยผ่านระบบ Internet แทน และไม่มีค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียงจำนวนมาก โดยมีเพียง 3 คน นอกนั้นได้รับความกรุณาจากญาติมิตรไปร่วมเป็นครั้งคราวประมาณ 3-4 ครั้ง เช่นวันเดินทางไปว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา วันหาเสียงในตลาดแถวบ้าน และวันเต้นฮาเร็มเชคในสวนลุมพินี เป็นต้น
         

 

 

 คะแนนที่ได้ 1,144 คะแนนนั้นนับว่าเป็นเกียรติต่อผมเป็นอย่างยิ่ง มีอยู่ท่านหนึ่งออกค่าเครื่องบินเกือบ 10,000 บาทมาลงคะแนนให้ด้วย  มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ เพื่อนและลูกศิษย์มาลงคะแนนให้ เช่นที่หมู่บ้านปัญญา มี ดร.ท่านหนึ่งและศรีภริยาลงให้ผมเพียง 2 คน อีกท่านซึ่งเป็นนักเขียนหญิงที่ผมเคารพเขียนว่า “ที่สน.ทองหล่อฝนตก ดิฉันยืนเท้าแช่น้ำโหวตให้อาจารย์ค่ะ แม้จะมีคนบอกมาก่อนว่า เอาคะแนนให้คุณชายสุขุมพันธ์เถิด เดี๋ยวเบอร์ 16 จะแพ้เบอร์ 9 แต่เพื่อนก็คือเพื่อน และสัญญาก็คือสัญญา ไว้สู้วันใหม่ได้อีกนะคะ Back away to fight another day”.
         

 

ผมไม่ท้อที่จะทำงานการเมืองเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในอนาคต แต่ไม่คิดจะสมัครตำแหน่ง สส. หรือ สว. เพราะถนัดเป็นนักบริหารการพัฒนาเมืองมากกว่าจะเป็นผู้ออกกฎหมาย และผมได้เคยประกาศไว้แล้วว่าจะไม่คิดไปรับตำแหน่งช่วยงานใครในแง่ของพรรคการเมืองหรือในการบริหารเมือง เพราะเท่ากับเป็นการ “เกี่ยเซี๊ยะ” หรือ “ซูเอี๋ย” ครับผม

 




#617596 อ่านนโยบายของ ดร.โสภณ เรื่องเกี่ยวกับ "สนามหลวง" ยอมรับเลยครับ โมโหมา...

โดย pornchokchai on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 08:40

แถลงการณ์ 10: การใช้สนามหลวงและสร้างสมานฉันท์ของคนในชาติ

เสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556

ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4

            สนามหลวงในปัจจุบันให้ใช้ในรัฐพิธิเท่านั้นทั้งที่แต่เดิมให้ใช้เป็นที่พักผ่อนของประชาชน ปัจจุบันนี้ตกอยู่ในสภาพ “เห็นแต่ตา มืออย่าต้อง” ควรคืนให้ประชาชน และใช้เป็นที่ชุมนุมทางการเมือง จะได้ไม่เกิดการชุมนุมในย่านอื่น นอกจากนี้แม้การเมืองเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ปัญหาทางการเมืองมักจะเกิดในกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าฯ กทม. ควรมีวิสัยทัศน์ช่วยสร้างความสมานฉันท์ด้วย
            ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4 ได้แถลงการณ์ ณ ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ เกี่ยวกับการใช้สนามหลวงและแนวทางการสร้างสมานฉันท์ของคนในชาติดังนี้:
            กรณีการใช้สนามหลวง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงนามเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ระบุให้ใช้เฉพาะงานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานประเพณีสำคัญของชาติโดยหน่วยงานของรัฐ และการจัดการแข่งขันกีฬาไทยประจำปี  แต่ห้ามมีกิจกรรมทางการเมือง  และการใช้ต้องยื่นคำขออนุญาตล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน และต้องวางหลักประกันเพื่อชดใช้ค่าเสียหาย 500,000 - 1,000,000 บาท  ส่วนการเปิดให้ประชาชนทั่วไปใช้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และการออกกำลังกายตามวันเวลาที่ประกาศเท่านั้น
            ดร.โสภณ ไม่เห็นด้วยกับประกาศของกรุงเทพมหานครข้างต้น เพราะเท่ากับเป็นการ “ริบ” พื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนกรุงเทพฯ ไป สนามหลวงตกอยู่ในสภาพที่ “ดูแต่ตา มืออย่าต้อง”  แนวคิดในการสร้างสนามปลูกหญ้าขนาดใหญ่เพียงเพื่อไว้ให้ดูด้วยตาว่าเขียวขจีเป็นเสมือนพรม แต่ไม่ยอมให้ใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนเท่าที่ควร เป็นสิ่งที่พึงทบทวนใหม่เป็นอย่างยิ่ง
            คนกรุงเทพฯ ในสมัยก่อนขี่จักรยานเป็นก็เพราะมีสนามหลวง ใครใคร่มาเล่นว่าว หรือนั่งเล่นตามพื้นที่ต่างๆ ก็ย่อมทำได้ แต่ทุกวันนี้มีข้อจำกัดมาก กทม. สามารถให้คงพื้นที่สนามหลวงเป็นของประชาชน เพียงแต่ต้องจัดระเบียบให้ดี เช่น การเช่าพื้นที่ค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม เช่าจักรยาน โดยทำให้เกิดความโปร่งใส นำเงินเข้าหลวงเพื่อพัฒนาสนามหลวงให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น
            ที่สำคัญ ควรใช้พื้นที่สนามหลวงเป็นที่ชุมนุมทางการเมือง ไม่ใช่ไปชุมนุมในที่อื่น เช่น ในทำเนียบรัฐบาล  บริเวณถนนราชดำริ หรือบนท้องถนนเช่นพระรูปทรงม้า หรือถนนราชดำเนิน เป็นต้น  หากสนามหลวงได้รับการใช้เพื่อการนี้ ก็จะเป็นการจัดระเบียบการชุมนุมที่ดีในเขตกรุงเทพมหานคร ไม่กีดขวางการจราจร ไม่บุกรุกสถานที่ราชการ สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ
            นอกจากนั้นในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ดร.โสภณ พรโชคขัย ยังมุ่งหวังที่จะสร้างความสมานฉันท์ให้แก่ประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยข้อเสนอหนึ่งที่ ดร.โสภณ เสนอก็คือการจัดทำรายการหรือช่องโทรทัศน์เพื่อความสมานฉันท์ โดยใช้ทรัพยากรโทรทัศน์และวิทยุที่มีอยู่แล้ว
            โดยทุกวันนี้เราดูข่าวหรือรายการการเมืองในสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง จะเห็นความไม่เป็นกลางในการนำเสนอข่าวหรือรายการ ประชาชนต้องถูกยัดเยียดให้ดูรายการที่มีลักษณะมอมเมา และขาดความรอบด้าน สถานีแต่ละสีเสื้อก็มักพบแต่การพูดกันอยู่ข้างเดียวเป็นหลัก อาจจะพูดอยู่คนเดียว หรือมาช่วยกันพูดเป็นหมู่คณะ แต่ก็เป็นการพูดอยู่ข้างเดียวอยู่ดี ไม่มีการนำเสนอความเห็นที่แตกต่างเลย
            ดร.โสภณ จึงขอเสนอให้มีโทรทัศน์ช่องใหม่ หรือรายการโทรทัศน์ใหม่ ที่เปิดโอกาสให้มีการถกเถียงกันอย่างแท้จริง กล่าวคือใน 24 ชั่วโมง จะมีการถกเถียงกันในประเด็นต่าง ๆ 6-8 ประเด็น ๆ ละ 3-4 ชั่วโมงไปเลย เอาให้หายอยากไปเลย หรือถ้าจัดไม่ได้ตลอดวัน ก็อย่างน้อยวันละ 1-2 ประเด็น โดยจัดทุกวัน จัดช่วง Prime Time ไปเลย ประเด็นที่ถกเถียงกันก็คือประเด็นร่วมสมัย หรือประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ตาม “สภากาแฟ” ต่าง ๆ เช่น ต่อระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศไทย ต่อนักการเมือง ต่อการโกงกิน เป็นต้น หรือแม้แต่ต่อเหตุการณ์ร่วมสมัยต่างๆ เป็นต้น
            หัวใจสำคัญของการจัดทำรายการหรือโทรทัศน์ช่องใหม่นี้ก็คือ การเชิญบุคคลที่เห็นต่างกันสองขั้วมาคุยกัน ไม่จำเป็นต้องประจันหน้ากัน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการมีเรื่องวิวาทหรือถึงขั้นชกต่อยกันได้ อาจถ่ายทอดสัญญาณสดจากสถานที่ 3 แห่ง คือจากสถานีและจากคู่ถกเถียงทั้งสองฝ่าย  ลักษณะของรายการก็คือให้โฆษกป้อนคำถาม และให้แต่ละฝ่ายพูดกันคนละไม่เกิน 10 นาที เท่าเทียมกัน ไม่มีการแย่งกันพูด แล้วให้โฆษกสรุปพร้อมป้อนคำถามเพิ่มเติมอีก 2 นาที ดำเนินรายการโดยใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงต่อประเด็น
            ที่ผ่านมา อาจมีบางท่านบอกว่ามีเคยมีรายการเช่นนี้แล้ว แต่เชื่อว่ายังดำเนินการไม่เป็นกลางจริง บ้างก็อาจแก้ว่า ที่ผ่านมาทั้งโทรทัศน์สีเสื้อ ต่างก็บอกว่ายินดีและได้เชิญฝ่ายตรงข้ามแล้ว แต่ไม่มีใครมาออกอากาศ  กรณีนี้ ดร.โสภณ เสนอว่านั่นคงเป็นเพียงการเชิญในรูปแบบ-พิธีการเท่านั้น และคงไม่มีใครมาหากมาแล้วถูกรุม เป็นต้น
            สำหรับคู่ถกเถียงหรือมองต่างมุมนี้อาจเป็นบุคคล หรือเป็นกลุ่มบุคคลก็ได้ แต่มีการ “เปรียบมวย” กันให้ชัดเจน คู่ที่ควรเชิญให้ถกเถียงกัน ได้แก่:
            รัฐมนตรี: นายกษิต ภิรมย์ กับ นายนพดล ปัทมะ
            นักการเมือง: นายสนธิ ลิ้มทองกุล กับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
            นักบวช: พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) กับ พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ)
            นักกิจกรรม: นายสุริยใส กตศิลา กับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (หนูหริ่ง)
            นักวิชาการ: รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร กับ รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข
            ผู้หญิงการเมือง: น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ กับ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ
            ไฮโซ: นางปราไพ ปราสาททองโอสภ (PAD Lady) กับ นางดารณี กฤตบุญญาลัย (ไฮโซ เสื้อแดง)
            นักร้อง: นายกุลศักดิ์ เรืองคงเกียรติ (จิ้น กรรมาชน) กับ นายศักดิ์สิทธิ์ เชื้อกลาง (เศก ศักดิ์สิทธิ์)
            กวี: นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กับ นายวิสา คัญทัพ
            ดร.โสภณ เชื่อว่ารายการหรือช่องโทรทัศน์ที่ดำเนินการเช่นนี้ จะทำให้ช่องโทรทัศน์ของแต่ละฝ่ายที่ดำเนินการแบบ “ปิดตาข้างเดียว” หรือ “ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” และมีลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม มอมเมา จะฝ่อลงไปในทันที เพราะประชาชนจะเลือกชมรายการ “ประเทืองปัญญา” ที่มองรอบด้านมากกว่าจะมองข้างเดียว รายการเช่นนี้จะมีอัตราการเข้าชมสูงขึ้นกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคนี้จะเข้ามาร่วมชมอย่างล้นหลาม
            ดร.โสภณ เชื่อว่าถ้าจัดรายการอย่างเป็นกลางได้เช่นนี้จริง ประกบคู่ได้เหมาะสม มีประเด็นถกเถียงที่ดีจริง จะมีคนฟังล้นหลาม สามารถหาโฆษณาให้รายการหรือช่องสถานีโทรทัศน์อยู่รอดได้แน่นอน การดำเนินรายการก็ไม่จำเป็นต้องตัดเข้าโฆษณา แต่อาจเป็นตัววิ่ง หรือป้ายโฆษณาสินค้าดูด้านใต้หรือด้านข้างตลอดเวลาก็ยังได้
            รายการหรือช่องโทรทัศน์อย่างนี้อาจตั้งชื่อว่า “ประชาชนตัดสิน” หรือ “ผู้ชมตรองเอาเอง” “ชาวบ้านรู้แจ้ง” “ไม่มืดบอด” “ตาสว่าง” ฯลฯ หากผู้ที่ได้รับเชิญมาออกรายการตอบไม่ดี ไม่ชัดเจน ชาวบ้านหรือประชาชนทั่วไปก็จะเห็นเอง ใครพูดจาเกะกะระรานหรือ “ดำน้ำ” “เล่นลิ้น” ก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด ดังนั้นผมเชื่อว่าผู้ที่ได้รับเชิญจะรู้สึกเป็นเกียรติมาก และจะมีผู้ยินดีให้รับเชิญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
            รายการนี้จะช่วยสร้างชาติอย่างแท้จริง ก่อให้เกิดภาวะ “สังคมอุดมปัญญา” เพราะได้ฟังอย่างรอบด้านและส่งเสริมให้ประชาชนตัดสินจากข้อมูล ข่าวสาร เหตุผล ไม่ใช่จากความเชื่อหรือการบอกต่อ ๆ กันไปแบบข่าวลือ เป็นต้น รายการนี้จะเป็นการช่วยส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เป็นการให้การศึกษาประชาชนที่เป็นกลางและเป็นธรรม

ติดต่อ ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้ที่ คุณอัจฉรา 08.6628.2817 อีเมล์: sopon@trebs.ac.th  thaiappraisal@gmail.com  เว็บไซต์หาเสียงที่ www.sopon4.housingyellow.com Facebook: www.facebook.com/dr.sopon4  Twitter: www.twitter.com/Pornchokchai


 
%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%



#599785 ผู้ว่าฯ กทม ต้องไม่สมคบอาชญากร!

โดย pornchokchai on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 08:13

ทุกวันนี้เขาก็เจรจากันอยู่ ๆ แล้ว จะปล่อยให้เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ผู้ว่าฯ กทม. ลอยตัวเฉย ๆ เหมือนที่ผ่านมาไม่ได้ มันไม่ใช่การบริหารบ้านเมือง แค่มาหากินกับโครงการต่าง ๆ ต่างหากล่ะครับ




#599734 ผู้ว่าฯ กทม ต้องไม่สมคบอาชญากร!

โดย pornchokchai on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 05:59

แถลงข่าว 25: แก้หนี้นอกระบบให้ถูกทาง

พุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2556
 

ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 4

            ผมได้ไปประชันวิสัยทัศน์กับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. “ตัวเก็ง” หลายท่าน เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีประเด็นหนึ่งที่ยกกันขึ้นมาถกก็คือการแก้หนี้นอกระบบ  ผมเห็นทางออกที่หลายท่านพูดนั้นอาจไม่เหมาะสม เช่น การตั้งโรงทาน การฝึกและส่งเสริมอาชีพ ฯลฯ 
            ที่ว่าไม่เหมาะสมเพราะเท่ากับเป็นการส่งเสริมเจ้าหนี้นอกระบบโดยปริยาย เป็นการช่วยให้เจ้าหนี้นอกระบบได้รับหนี้กลับคืนโดยครบถ้วนจากการกู้มาจากภาครัฐ บ้างก็ใช้เงินอุดหนุนของทางราชการไปเจือจุน ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมธุรกิจหนี้นอกระบบมากกว่าจะเป็นการแก้หนี้นอกระบบ
            ผมเห็นว่าการให้กู้นอกระบบด้วยดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ต่อวันบ้าง หรือต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือนบ้าง เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถนำสัญญาเงินกู้เหล่านี้มาบังคับได้ตามกฎหมาย  การบังคับกันนอกกฎหมายถือเป็นอาชญากรรม
            ผมไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้กู้ “ชักดาบ” หรือใช้นโยบาย “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” แต่การทำให้ผู้กู้กลายเป็น “ทาสเงินกู้” ไม่จบสิ้นเพราะดอกเบี้ยที่สูงเกินกฎหมายกำหนด เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เป็นการทำลายความมั่นงคงทางเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน  แม้ผู้กู้จะกู้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ความโลภ หรือความจำเป็นใดๆ ก็ตาม ก็ต้องได้รับการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินตามกฎหมาย
            ถ้าผู้ว่าฯ กทม. หรือผู้รักษากฎหมายไม่แตะต้องอาชญากรรม (ทางเศรษฐกิจ) เหล่านี้ ก็เท่ากับ “ปากว่าตาขยิบ” ปล่อยให้พวกนอกกฎหมายนี้ทำธุรกิจผิดกฎหมายอยู่อย่างไม่สะทกสะท้าน และยังไปสนับสนุนให้ผู้กู้พอมีฐานะเพิ่มขึ้นมาใช้คืนหนี้พวกอาชญากรอีกต่างหาก
            ผมจึงได้เสนอให้เจ้าหน้าที่เจรจากับเจ้าหนี้นอกระบบเหล่านี้  หากลูกหนี้ใช้หนี้ไปตามสมควรแล้ว ก็สมควรเลิกภาระหนี้ดังกล่าวเสีย  และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการให้กู้เหล่านี้ปฏิบัติตามกฎหมายการให้กู้ยืนเงินโดยเคร่งครัด การบริหาร กทม. จะปล่อยให้ “อันธพาลครองเมือง” ไม่ได้ ผู้ที่ไม่คิดแตะต้องอาชญากรเหล่านี้ก็เท่ากับเป็นพันธมิตรกับพวกเขาโดยอ้อม




#599034 ฟังกึ๋น 'โสภณ พรโชคชัย' ประชันผู้สมัครอื่น

โดย pornchokchai on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:27

ขอเนื้อ ๆ ว่าไม่เห็นด้วยกับผมตรงไหน อย่าตีขลุม อย่าพวกมากลากไป จงละอายหน่อยนะครับผม