b...

คุณเช อย่าแอบอ้างเหมาเอา

ผมว่า jaidee20 ATOM hentai PookLook


ทำให้แกว่งมากกว่าเราเยอะ

คลิปต่อมา มาจาก cnn เป็นภาพการ์ด นปช ใส่ชุดคล้ายทหาร ถือ M16
http://www.youtube.com/watch?v=pHmNk4awDVU

ภาพทหารที่บาดเจ็บในวันที่ 19 พฤษภาฯ
http://numchiao.blog.../blog-post.html

หลักฐานยังมีอีกมาก แต่แค่นี้คงพิสูจน์ได้แล้ว คงไม่ต้องเถียงกันเรื่องมีอาวุธหรือไม่กันอีกแล้วนะครับ

ก่อนจะเข้าเรื่องจริงๆ มีคำถามง่ายๆก่อนว่า มันแปลกมั๊ย ในเมื่อเลือกที่จะจับอาวุธ แต่กลับหวังว่าตัวเองจะไม่มีการสูญเสียเลย หรือคิดจะให้อีกฝ่ายถือแต่กระบองเข้ามาให้ยิงเล่นกันสนุกๆหรืออย่างไร นี่เป็นตรรกะข้อที่ 1

กรณีวัดปทุมฯ
สำหรับเรื่องนี้ ผมลองคิดสมมติในทางตรงกันข้าม ว่าถ้าคนที่ชุมนุมอยู่เป็นกลุ่มที่ผมสนับสนุน และทักษิณ (ซึ่งเป็นคนที่ผมเห็นว่าสารเลวที่สุดเท่าที่ผมเกิดมาจะเคยพบเคยเห็น) เป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายเข้าไปปราบ ผมก็ไม่เชื่อหรอกว่าฝ่ายรัฐจะเป็นคนยิง 6 ศพนั้น เพราะอะไร? เพราะจุดประสงค์ของรัฐบาลก็คือเพียงแค่ให้การชุมนุมนั้นสลายไปเท่านั้นก็พอ แรงกดดันที่มีต่อรัฐบาลก็จะหมดไป ซึ่งในเวลานั้นการชุมนุมได้สลายไปแล้ว รัฐบาลไม่มีแรงจูงใจอะไรเลยที่จะไปยิงคนเหล่านั้น ในขณะที่อีกด้านหนึ่งรัฐบาลยังต้องรักษาภาพลักษณ์ทั้งกับประชาชนและชาวต่างประเทศ สื่อต่างชาติก็จับตาดูอยู่ ถ้ารัฐบาลสามารถสลายโดยไม่มีการล้มตายซักคนอย่างตอนสงกรานต์ปีที่แล้ว นั่นแหละเป็นภาพที่สวยหรูของรัฐบาลเลย แล้วเค้าจะไปทำอย่างงั้นทำไม???????? (ตรรกะข้อที่ 7)

ถ้าคุณจะคิดว่า ยิงเพื่อป้ายสีเสื้อแดง ถามว่าแล้วมันคุ้มมั๊ย สุดท้ายรัฐก็ยังต้องตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยอยู่ดี อย่างน้อยก็คนเสื้อแดงนี่แหละที่จะปักใจเชื่อเลยว่ารัฐบาลเป็นคนทำ ก็จะสร้างให้เกิดความเกลียดชังเพิ่มขึ้น

(ตรรกะข้อที่ 8) ยิ่งถ้าวิเคราะห์จากลักษณะของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเชื่อว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่คงไม่ค่อยรู้จักเค้า แต่คนที่ติดตามการเมืองมานานจะรู้ดี ว่าเค้ามือสะอาด ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีธุรกิจ และมีจุดยืนที่เป็นประชาธิปไตยจ๋ามากๆ (จนบางทีผมรู้สึกว่ามากเกินไป) อายุเค้าก็ยังไม่มาก เค้าลงจากตำแหน่งรอบนี้ วันหน้าก็ยังมีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้อีก ทำงานการเมืองมาถึงตอนนี้ น่าจะ 20 กว่าปีได้แล้วมั๊ง ค่อยๆเลื่อนอันดับจาก สส ธรรมดา เป็นโฆษกพรรค เป็นรัฐมนตรี เป็นรองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน จนกระทั้งเป็นนายกฯ เค้าไม่เคยรีบร้อน เค้าใฝ่ฝันที่จะเป็นนายกฯมาตั้งแต่เด็กก็จริง แต่คงไม่มีใครอยากเป็นนายกฯท่ามกลางความขัดแย้งแบบนี้ โดยที่ไม่มีผลประโยชน์อะไรเลย ต้องโดนด่าว่าประณาม แดงก็ด่า เหลืองก็ด่า บางทีหลากสีก็ด่า ชีวิตก็ต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะโดนลอบยิงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ครอบครัวก็ไม่มีความสุข เพราะฉนั้นเค้าไม่มีแรงจูงใจอะไรเลยที่ต้องรักษาตำแหน่งนายกฯที่เหลือวาระอีกเพียงแค่ปีเศษๆ ที่เค้าทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเป็นหน้าที่เท่านั้นเอง หน้าที่ที่ต้องรักษาหลักการของกฎหมายเอาไว้

(ตรรกะข้อที่ 9) ถ้าเค้ากระหายอำนาจถึงขนาดสั่งยิงประชาชนเพื่อรักษาตำแหน่งไว้ แล้วเค้าจะยุบสภาแล้วปล่อยให้เพื่อไทยชนะการเลือกตั้งไปง่ายๆทำไม เค้าควรจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาฐานอำนาจไว้มิใช่หรือ?

(ตรรกะข้อที่ 10) แล้ววันนี้เค้ากลับมาต่อต้านการนิรโทษกรรม ถ้าเค้าทำสิ่งที่ผิดมหันต์ขนาดนั้น เค้าคงลุ้นให้มีการนิรโทษโดยเร็วที่สุด

(ตรรกะข้อที่ 11) สำหรับคนที่กระหายอำนาจ จนสามารถสั่งฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ ถามว่าจะเอาอำนาจไปทำไม ก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ถ้าเป็นเช่นนั้น ไปตกลงซูเอี๋ยแบ่งผลประโยชน์กันกับแม้วไม่ง่ายกว่าหรือ เหมือนแม้วกับฮุนเซนไง ขนาดแม้วเคยบงการลอบสังหารฮุนเซน ตอนนี้มันยังมากอดคอกันได้เลย ก็ผลประโยชน์มันลงตัวไง หรือแม้แต่เรื่อง อำมาตย์ ถ้ามีอำมาตย์ชั่ว อำมาตย์โกงจริง เรื่องมันคงง่ายสำหรับแม้วมาก เพราะการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์เป็นเรื่องถนัดสำหรับคนพวกนี้อยู่แล้ว

(ตรรกะข้อที่ 12) หรือจะคิดอีกกรณีหนึ่งว่า เป็นความผิดพลาดของทหารบางคน ก็เป็นไปได้ยากมากอีก เพราะมันตั้ง 6 คน จะยิงผิดทีเดียวตั้ง 6 คนได้อย่างไร ทั้งๆที่ไม่มีการยิงสวนกลับมาเลย

คนที่ทำเรื่องนี้ เลือดเย็นมากนะครับ ไม่ใช่เลือดร้อน เดิมพันต้องสูง ถ้าระดับแกนนำ ผมคิดว่าเค้าไม่มีแรงจูงใจที่จะต้องไปทำอะไรขนาดนั้น มันมีอยู่คนเดียวแหละครับ คนที่อยู่ต่างประเทศ ที่มีเดิมพันเป็นผลประโยชน์มหาศาล

ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นพวกพยาบาล คำตอบมันจะยิ่งชี้ชัดไปที่คนๆนั้นอีก เพราะการตายของคนเหล่านี้ เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับชาวต่างประเทศ มันดิสเครดิตรัฐบาลได้ดีเชียวล่ะ

ถ้าลองมองในภาพรวมทั้ง 3 กรณี แล้วเปรียบเทียบกับสงกรานต์ปีที่แล้ว
ถามว่าทำไมปีที่แล้วไม่มีคนตาย แต่ปีนี้มี คำตอบคือ เพราะคราวนี้มีการใช้กระสุนจริง
ถามว่า ทำไมใช้กระสุนจริง คำตอบคือ เพราะมีกองกำลังติดอาวุธร้ายแรงปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม
ถามว่า ทำไมต้องมีกองกำลังติดอาวุธ คำตอบคือ เพราะว่าคราวที่แล้วไม่มีศพ รัฐบาลไม่กระเทือน
ถามว่า ใครอยู่เบื้องหลังกองกำลังติดอาวุธ คำตอบคือ เสธแดงบอกว่าเค้าเสนอ แล้วทางนู้นโอเค

ดูในคลิปข้างล่าง




สรุป ตายเพราะมีกองกำลังติดอาวุธ ดังนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังกองกำลังนั้นก็คือคนฆ่า

การจะชี้ว่าใครทำอะไรท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐานอะไรมากมายนัก เราจะมองแค่ข้อเท็จจริงบางส่วนแล้วด่วนสรุปไม่ได้ เช่นมีคนบอกว่าเห็นทหารยิงจากบนรถไฟฟ้าบ้างล่ะ ทหารคนนู้นคนนี้รับสารภาพว่ายิงบ้างล่ะ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่จิ๊กซอตัวเล็กๆของภาพขนาดมหึมา เค้าอาจจะยิงจริงแต่ยิงไอ้โม่งที่แฝงอยู่ในวัดก็ได้ ที่สำคัญคือต้องวิเคราะห์ที่แรงจูงใจ ทหารมีแรงจูงใจอะไรที่จะยิงเจ้าหน้าที่พยาบาล อภิสิทธิ์มีแรงจูงใจอะไรที่จะสั่งให้ทหารฆ่าประชาชน ทักษิณล่ะ มีแรงจูงใจอะไรมั๊ย

อ่อ ส่งท้ายอีกนิดหน่อย หลายคนมีคำถามว่า แล้วที่โดนทหารยิงตายไปมันก็ไม่ใช่จะมีปืนกันทุกคนนี่หว่า มีแค่มีด ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง แล้วทหารเอาปืนไปยิงมันจะยุติธรรมอย่างงั้นหรือ (ตรรกะข้อที่ 13) ผมขอให้ลองเปรียบเทียบว่าถ้ามีคนร้ายใช้มีดก่อความไม่สงบไล่แทงประชาชนในเมืองนิวยอร์ก ตำรวจสั่งให้วางมีดก็ไม่วาง แถมจะเอามีดนั้นวิ่งเข้าไปแทงตำรวจ คุณคิดว่าตำรวจนิวยอร์กจะวางปืนแล้วหามีดขนาดเท่าๆกันมาสู้กับคนร้ายหรือไม่

เป็นเรื่องที่พวกเราในที่นี้ส่วนใหญ่ก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่รู้สึกเป็นสิ่งที่เสื้อแดงยังคาใจกันอยู่มาก เนื้อหาข้างล่างเป็นสิ่งที่ผมเคยเอาใช้โต้เถียงกับเสื้อแดงใน fb ช่วงที่หลังเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ผมเอามาปัดฝุ่น ปรับปรุงถ้อยคำให้เหมาะสมและ update มากขึ้น ขออนุญาตเอาโพสต์ที่นี่อีกครั้ง เผื่อว่าจะเป็นวัตถุดิบที่บางท่านจะนำไปประกอบการอธิบายกับคนที่ไม่เข้าใจโอกาสต่างๆได้ครับ

แม้ว่าจะเป็นเรื่องเดิมๆ แต่ในนี้ผมได้ชี้ให้เห็นประเด็นใหม่ๆ หลายประเด็นอยู่เหมือนกัน ซึ่งน่าจะนำไปสู่การคลี่คลายความสงสัยได้ ความจริงผมก็ไม่ได้มีข้อมูลหลักฐานเชิงลึกมากไปกว่าใครในที่นี้ เพียงแต่อาศัยการวิเคราะห์ด้วยตรรกะ ซึ่งถ้าท่านทั้งหลายลองอ่านดูจะพบว่า แค่เพียงตรรกศาสตร์นี่แหละก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ความจริงในหลายๆเรื่อง

มีการใช้อาวุธสงครามในฝ่ายเสื้อแดงหรือไม่
ก่อนจะเข้าสู่การวิเคราะห์ต้องยอมรับกันในข้อเท็จจริงก่อนวว่าเสื้อแดงใช้อาวุธสงคราม คลิปต่อไปนี้ก็มีให้เห็นกันทั่วไป ผมคิดว่าทุกคนในที่นี้คงได้เห็นกันแล้ว แต่เท่าที่คุยกับเสื้อแดงมาหลายคน น่าประหลาดใจที่พวกเค้ายังบอกว่าไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าแกล้งหรือไม่รู้จริง ถ้าใครยังอยากหาหลักฐาน ก็ให้เค้าดูให้เต็มตาก่อนเลยแล้วกัน ผมพอเตรียมไว้เป็นสำเร็จรูปส่วนหนึ่ง เหล่าเทพในนี้คงมีมากกว่านี้

คลิปแรก เสื้อแดงถ่ายเอง ตอนท้ายๆจะได้ยินประโยคหนึ่งว่า “ฝ่ายเราก็มีอาวุธสงครามด้วย ยิงกันฉิบหายเลย อยากกราบคนยิงจริงโว้ย ไอ้เอี้ยเอ้ย”

http://www.youtube.com/watch?v=mkrYaYORjSI
คลิปนี้ยังมีข้อสังเกตอีกอย่างคือ คนที่ถ่ายเค้าบอว่ายิงกันฉิบหาย แต่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงกลับยืนดูกันนิ่งๆ แสดงให้เห็นว่าทหารไม่ได้ยิ่งเข้าใส่มวลชน

ภาพทหารโดน M79
http://www.youtube.com/watch?v=C3hsqv6GGrc

รู้ถึงขนาดนี้แร้ววว

ก็ไปให้รัฐบาลจัดการเรยดิ มาชูป้า่ยทำด๋อยอะไรล่ะ


ส่วนไอ้แม้ว ก็ปล่อยให้มันถึงฝั่งฝันไป


ฮะฮะฮะ

รู้ตัวชัดขนาดนี้
ฟ้องศาลไทยไม่ได้แล้ว
สงสัยต้องไปศาลควายดีกว่า
แน่เลย

ผมจำได้ว่า มีคลิ๊บข่าว cnn ที่แอบถ่ายการ์ดเสื้อแดงที่ขึ้นไปบนที่จอดรถไฟฟ้า แถววัดปทุม

เหมือนเสื้อแดงเผา ctw มันก็พยายามโยนว่าทหารทำตลอด กระบวนการพวกนี้ทำให้คนหลอนได้จริง ๆ

จินตนาการสำคัญกว่าหลักฐาน เอ้ย ความรู้

ผมไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่ยากจนข้นแค้น ผมจึงไม่สามารถจะด่ากล่าวคนที่ ต้องดิ้นรนชีวิต ขายแรงงานขายตัว มีผัวฝรั่งได้ เพราะถ้าผมตกอยู่ในสถานการณ์ที่้บีบคั้น ผมก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจดำเนินชีวิตอย่างไร ภาษีไม่ต้องพูดถึง ถ้าจนกรอบขนาดนั้น คงไม่มีเวลามาคิดเรื่องแบบนี้หรอกครับ

อันที่จริง คนพวกนี้คือคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่เราต้องชักในเขาให้กลับมา ไม่ใช่การดูถูกและผลักให้เขาไปตาย หรือมรึงสมควรกินหญ้า อะไรแบบนี้

ในแง่หนึ่ง ผมก็อยากจะให้คนไทยที่คิดว่าตัวเองมีการศึกษา ระดับกลางถึงสูงมาก ทำความเข้าใจตรงนี้

และผมคิดว่า การที่ ปชป ได้ออกมาคุยเรื่องปรองดรอง เพราะเขาก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน

ความเห็นของคุณ @AtheNa ถึงคุณจะเห็นด้วยหรือชอบความเห็นดูถูกคนอีสานความนั้นขนาดใหน
คุณก็ไม่ควรเอามาเขียนในบอร์ดสาธารณะแบบนี้ครับ ไม่ต่างกับการสร้างความแตกแยก
และแดงหลายคนชอบเอาไปขยายผลจนคนเกลียดกันแบบนี้

ประเทศไทย

ด้วยความหวังดี

ไม่ว่าภาคไหนก็คนไทยด้วยกัน

มันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่าค่ะ

ไม่เกี่ยวกับถิ่นกำเนิด

ปล.อันนี้อ่านในเมเนเจอร์แล้ว ไม่ชอบเหมือนกัน

รบกวนแก้ไขหน่อยดีมั้ยคะ

ผมกด report post ของคุณ athena
ถึงมันจะจริง และถึงคุณจะชอบมัน
แต่ไม่ควรที่จะโพสมันออกมาแบบนั้น
ลบ เถอะครับ

2 ปีวันเผาเมือง ฮีโร่กลางดงปืน
19 พฤษภาคม 2555 เวลา 14:33 น.

กล่าวเฉพาะที่เซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ โพสต์ทูเดย์เป็นสื่อฉบับเดียวได้สัมผัสสภาพความเสียหายใต้ลานจอดรถ ที่มี “ชุดดำ” บุกเข้าไปวางเพลิง สาดกระสุนปืนถล่มรถยนต์เสียหาย และพบกับ “ไพรวรรณ รุนนอก” หัวหน้า รปภ.ประจำโซนเซ็นทรัลเวิลด์ ชาวโคราช วัย 45 ปี ที่ต้องรับบทเป็นไดฮาร์ดเฉพาะกิจ เขาเล่าให้ “ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว” ของโพสต์ทูเดย์ฟัง หลังควันไฟจางลงเพียงหนึ่งวัน ถึงนาทีชีวิตเสี่ยงตายเมื่อต้องประจันหน้าแบบมือเปล่ากับผู้ก่อจลาจลใน “ชุดดำ” ที่มีปืนอาก้า 47 เป็นอาวุธ ซึ่งกำลังพยายามจะเข้าไปวางเพลิงอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ผ่านบทความเรื่อง “ไดฮาร์ดแห่งเซ็นทรัลเวิลด์ไขปมสงสัยนักรบชุดดำเผาเมือง” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553

สภาพอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซนเว้าแหว่งเป็นแอ่งกระทะ กลายเป็นภาพสะเทือนใจใครหลายคนที่มีโอกาสเข้าไปพบเห็น การต่อสู้เรียกร้องทางการเมืองที่ต้องการประชาธิปไตย ยึดสันติ อหิงสา แต่กลับเลือกวิธีการเผาเมืองระบายแค้น...ทิ้งซากปรักหักพังไว้เบื้องหลัง
จะมีสักกี่คนหาญกล้าเข้าไปยุติการกระทำของกลุ่มคนหัวรุนแรงที่ถูกขนานนามว่า “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย”หรือ “นักรบชุดดำ” พฤติกรรมคนกลุ่มนี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อ ยิง เผา ฆ่า แม้แต่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ วางแผนไว้รัดกุม หากบุ่มบ่ามเข้าประชิด โอกาสสูญเสียมีพอๆ กัน
วันเกิดเหตุเผาเซ็นทรัลเวิลด์ ทหาร ตำรวจ ไม่มีช่องเข้าไปควบคุมสถานการณ์เพราะถูกกองกำลังติดอาวุธยิงสกัด ท่ามกลางสถานการณ์คับขันหัวหน้า รปภ. สวมวิญญาณ “ผู้กล้า” จำเป็น

เย็นวันที่ 19 พ.ค. หลังจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศยอมสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์และเข้ามอบตัว แหล่งช็อปปิ้งใจกลางกรุงเทพฯ ดูไม่ต่างอะไรกับสมรภูมิรบ ทั้งเสียงปืน ประทัดยักษ์ ระเบิด ดังระงม เจ้าหน้าที่ทหารต้องหยุดยิงและปักหลักอยู่บริเวณแยกสารสิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายกองร้อยตรึงอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ความพยายามปกป้องอาคารระฟ้า เท่าที่ทำได้ ณ ขณะนั้น จึงมีแต่ทีมการ์ดประจำห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แม้จะพยายามเข้าไประงับเพลิง แต่ก็ถูกฝ่ายนักรบชุดดำปาระเบิดใส่ตลอดเวลา ทำให้ รปภ. รายหนึ่งถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขา
ลานเซ็นทรัลเวิลด์ซึ่งกลายเป็นลานสู้รบดำเนินต่อไป นักรบชุดดำรายหนึ่งถือปืนอาก้าบุกไล่ยิงอย่างบ้าระห่ำ หวังขัดขวาง รปภ. ไม่ให้เข้ามายับยั้งการวางเพลิง ไม่เพียงเท่านั้น หวังใช้เสียงกระสุนปืนเปิดทางเข้าไปวางถังแก๊สใต้ถุนอาคาร เพื่อบอมบ์ห้างใหญ่ให้เป็นจุณ

นาทีต่อจากนี้เป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าภาพยนตร์เรื่องไดฮาร์ด หรือ “นรกระฟ้า” ที่มี “บรูซ วิลลิส” รับบทพระเอกในเรื่อง ภายใต้ชื่อ จอห์น แมคเคลน ยอดตำรวจจากนิวยอร์ก ที่ต้องรับเคราะห์ติดอยู่ในอาคารระฟ้าเผชิญหน้าขบวนการก่อการร้ายอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไพรวรรณ รุนนอก ชายวัย 45 ปี จากที่ราบสูงโคราช ไม่ได้คิดสวมวิญญาณ “บรูซ วิลลิส” หรือเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยประจำเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เขาจำต้องดูแลความปลอดภัยอาคารและอพยพผู้คนที่หลงเหลือออกนอกอาคารอย่างสุดชีวิต
“เขาสวมชุดดำ ปิดหน้า โพกผ้าพันคอสัญลักษณ์เสื้อแดง มือถือปืนอาก้าพกระเบิด มีการยิงขู่และไล่ยิงใส่ผม”ไพรวรรณ เริ่มเล่านาทีเผชิญหน้าปฏิบัติการเผาเมือง ก่อนพาไปตระเวนดูจุดเกิดเหตุใต้ลานจอดรถของห้าง
“พวกเขาต้องการเข้าไปวางเพลิง มันเห็นพวกผมออกมา ก็ใช้ปืนยิง ผมต้องวิ่งลงไปชั้นใต้ดิน มันวิ่งตามแล้วมีเสียงปืนดังขึ้น ผมต้องหลบตัวข้างผนังตึกติดกับทางลงบันได ถ้าโผล่ออกไปตอนนั้นโดนยิงหัวแน่ แต่ไม่ใช่หนีอย่างเดียวนะ เรารอเวลาเป็นของเราเพื่อเข้าชาร์จด้วย”
ช่วงจังหวะนั้นลานจอดรถมืดสลัว ทัศนวิสัยไม่เอื้อต่อการปฏิบัติการใดๆ ไพรวรรณต้องซ่อนตัว หายใจให้เบาที่สุด ตั้งสติรอจังหวะ ขณะที่นักรบดำย่ามใจวิ่งลงบันไดตามมา ปลายกระบอกปืนยื่นโผล่มุมเสา
นาทีนั้นหัวหน้า รปภ. ตัดสินใจว่า...ใครดีใครอยู่!!!



เทพีแห่งโชคเข้าข้างไพรวรรณ เขาชิงจังหวะก่อน สาวหมัดขวาตรงทิ่มใส่ใบหน้า พร้อมถีบยอดหน้าอกไปอีกหนึ่งดอก ส่งผลให้นักรบชุดดำเสียหลักเซถลา ปืนอาก้าหลุดมือ ไพรวรรณไม่รอช้าแย่งชิงปืนมาได้ พร้อมเล็งไปที่นักรบชุดดำ คราวนี้นักรบนิรนามตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หมดทางสู้กระเสือกกระสนวิ่งหนีสุดชีวิตไปด้านข้างลานจอดรถ
“ผมตั้งสติ ประสบการณ์มีเยอะมาก ยังไงผมชาร์จอยู่แล้ว ชีวิตถึงชีวิตถ้าแย่งปืนไม่ได้ ชีวิตผมคงดับ”
ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 53 หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดรายงานว่าพบปืนอาก้า 47 จำนวน 1 กระบอก บริเวณชั้นใต้ดินอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ หารู้ไม่ เบื้องหลังปืนกระบอกนี้มาจากฝีมือหัวหน้า รปภ. ที่เข้าต่อสู้กับนักรบชุดดำ และหัวหน้า รปภ. รายนี้ก็เป็นคนเดียวกับที่ผ่านนาทีมรณะในวันถัดมาขณะลุยกวาดขยะหน้าอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนมีเสียงระเบิดตูมสนั่น ทำให้ร่างกายเขากระเด็น แต่ก็รอดมาได้อีกครั้ง

หัวหน้า รปภ. ผู้ได้มีโอกาสประชิดตัวนักรบชุดดำมากที่สุดรายนี้ เดิมทำหน้าที่ดูแลการจราจร ตรวจตราพื้นที่รอบนอก และอาคารลานจอดรถใต้ดินชั้นบี 1 บี 2 มาร่วมปีแล้ว มีลูกน้องอยู่ในความดูแล 40 คน ขณะที่ทีมงานกระจายไปตามโซนอื่นกว่า 200 คน ก่อนหน้านี้เคยเป็นอาสาสมัครหลายหน่วยงาน ทั้งลูกเสือชาวบ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาพัฒนาและป้องกันตัวเอง (อปพ.) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ทำให้มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้อยู่บ้าง
ทว่าหลังนักรบชุดดำเสียเหลี่ยมให้การ์ดหมัดสั่งรายนี้ ใช่ว่าไพรวรรณจะอยู่ในความปลอดภัย เพราะผ่านไปเพียง 20 นาทีนักรบชุดดำรวบรวมแดงฮาร์ดคอร์อีก 5-6 คน รุกเข้ามาด้านข้างลานกว้างเซ็นทรัลเวิลด์อีกครั้ง คราวนี้นักรบชุดดำรายเดิมที่หลบหนีไปเดินเข้ามาชี้หน้าเขาด้วยอาการคับแค้นใจ จากนั้นสั่งลูกน้องระดมขว้างระเบิดเข้าไปภายในลานจอดรถใต้ดินหมายปลิดชีวิต
การปะทะภายในลานจอดรถใต้ดินเกิดขึ้นรอบสอง แต่คราวนี้ผู้กล้าต้องรักษาระยะห่าง “มีการโยนระเบิดเข้ามาหลายลูก ควันโขมงทั่วลานจอดรถ สะเก็ดระเบิดตกไปโดนรถยนต์เสียหาย กระโปรงรถเป็นรูพรุน ถึงตอนนั้นจำเป็นต้องหลบข้างเสา มีลูกน้อง รปภ. ผมอีก 3 คน เข้ามาช่วยตะโกนบอกว่า ให้หัวหน้าถอยก่อน สถานการณ์ไม่ปลอดภัย ในที่สุดพวกเราต้องถอยร่น ซึ่งก็เป็นจังหวะที่นักรบชุดดำรุกคืบเข้ามา ทุบกระจกรถยนต์เสียหายไปหลายคัน ก่อนค้นเอาทรัพย์สินในรถผู้บริหารไปด้วย”

หลังจากนั้นมีความพยายามจากกลุ่มคนเสื้อแดง 50-60 คน ทุบกระจกและนำถังแก๊สเข้าไปภายในอาคาร ฝ่าย รปภ. ที่อยู่ในความควบคุมของไพรวรรณกว่า 40 ชีวิต พยายามผลักดันอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามมีทั้งอาวุธปืน ระเบิด ทำให้ต้องระวังตัว ขณะเดียวกันยังมีอีกภารกิจด่วนต้องรีบลำเลียงแม่บ้าน คนงานที่ติดอยู่ในอาคารเซ็นทรัลเวิลด์อีกกว่า 300 ชีวิต ออกไปตามเส้นทางเชื่อมต่อสยามพารากอน ทุกคนได้รับการคุ้มครองออกจากพื้นที่ด้วยความปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของกลุ่มนักรบชุดดำ

“เจ้านายบอกว่าต้องช่วยกันผลักดัน คุ้มครองความปลอดภัยเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ถ้าไม่ไหวให้ออกไปก่อน เจ้านายมาดูแล้วเห็นว่า รปภ. ไม่เพียงพอ กลุ่มผู้ชุมนุมเยอะ ต่อต้านไม่ไหว ถ้าต่อต้านแล้วเอาไม่อยู่ก็ต้องเซฟชีวิต
เจ้านายเคยย้ำอย่าไปทะเลาะเบาะแว้งกับเขา ขนาดไม่ทะเลาะก็ทำถึงขนาดนี้ ฝ่ายอาคารเสียหายขนาดไหนซ่อมแซมได้ เอาชีวิตไว้ก่อน พวกผมเอาไม่อยู่จริงๆ” ไพรวรรณ ยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น

หัวหน้า รปภ. ที่ต้องกินนอนร่วมกับลูกน้องตลอดช่วงกลุ่มคนเสื้อแดงปักหลักชุมนุมร่วมสองเดือน ทิ้งท้ายว่า“เสียใจมากที่คนไทยทำกันแบบนี้ มันไม่ใช่ต่างประเทศมาสู้กับเรา แต่นี่คนไทยต่อสู้กับคนไทยด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล นปช. จะเอาอย่างไร ก็ไม่อยากให้คนไม่รู้เรื่องต้องพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย”
วันนี้ไพรวรรณและลูกน้องในชุดเครื่องแบบเชิ้ตขาวกางเกงดำ ยังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเซ็นทรัลเวิลด์อย่างแข็งขันต่อไป แม้สภาพตึกต้องพังพินาศไปด้วยน้ำมือคนไทยเช่นเดียวกับเขา และหวังว่าอาชีพการรักษาความปลอดภัยต่อจากนี้คงไม่ต้องมาเผชิญความเลวร้ายอย่างที่เกิดขึ้นกับเซ็นทรัลเวิลด์อีก
นี่เป็นหนึ่งในอีกหลายเหตุการณ์ที่ติดตาประชาชน เวียนว่ายมาบรรจบครบสองปี

เต็มที่ไปเรยเพ่
เรียกร้องให้รัถบานลาออก
ถ้ามันไม่ยอมลาออก
ก็ตายมันอยู่แถวนั้นแหละ ไม่ต้องกลับบ้าน

คุณหนูโอ๊ค ยังต้องลอกข้อสอบที่ราม