foyfon

ลองทำมาเล่นๆ 

 

จินตนาการสร้างความจริงอะไรก็ได้ เหอๆๆ

โง่ไม่แบ่งวัวแบ่งควายจริงๆ นะ

ก่อนนี้ ผมพึ่งเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในเฟสบุคเป็นรูป 4 เหลี่ยมคัดค้านนิรโทษกรรม

เพื่อนผมคนนี้ บอกว่าแค่นี้ไม่พอหรอก มันต้องออกไปแสดงตัว

เมื่อคืน ระหว่างนั่งแทกซี่ไปราชดำเนิน

เพื่อนพูดให้ฟังว่า ช่วงนี้งานเยอะ แต่ต้องไป

เพราะมีรุ่นพี่ผู้หญิงคนนึงในที่ทำงานพูดให้ฟัง 

เธอบอกว่า เธอเลิกงาน จะยังไม่ไปม็อบทันที แต่จะไปช่วงดึกหน่อย

ถามว่าทำไม

เธอตอบว่า เพราะดึกๆ ผู้คนก็เริ่มกลับบ้านกัน

มันอาจทำให้จำนวนม็อบมีน้อยลง เธอจึงเลือกไปเวลานั้น

เพื่อไม่ให้คนในม็อบมีน้อยเกินไป

เพื่อนผมก็บอก นี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกัน ว่าทำไม เขาจึงพยายามไป

เขาบอกว่า ไปเพื่อ “เติมม็อบ”

ผมฟังแล้วเอาไปคิดตาม

ผมเอง หรือเชื่อว่าคนหลายคน ไปเพื่อหวังจะบอกว่า ฉันไม่เอานิรโทษกรรม

หรือไปเพื่อจะขับไล่รัฐบาลชั่วออกไป

นั่นก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิดนะครับ ผมเชื่อแบบนั้น

จนมาฟังคำนี้ 

คำนี้ เป็นการพูดแบบมองตัวเองเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่ง

ไม่ได้มองตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้เห็นตัวเองยิ่งใหญ่ไปมากกว่าการเป็นส่วนร่วม

เป็นตัวเสริม หรือเพียงองค์ประกอบหนึ่งในเรื่องที่เราพยายามผลักดันกันอยู่

นั่นเป็นเหตุให้ผมมองคนหนุ่มสาวบางคน

ที่มาร่วม อาจจะเพียงมาเพื่อถ่ายรูปโพสต์ลงอินสตาแกรม เฟสบุค

บอกให้สังคมของเขาหรือเธอรู้ว่า ฉันก็มาม็อบต้านนิรโทษนะ

ผมมองด้วยความรู้สึกมีความหวังครับ

อย่างน้อย คนหนุ่มสาวพวกนี้ ก็มีเรื่องการเมืองประเด็นเหล่านี้แทรกในชีวิตปกติ

มีเรื่องราวให้พูดคุย เพื่อนผมบางคน แค่มาเป่านกหวีดที่สีลม

ก็โพลต์ลงเฟสบุคประหนึ่งตนเองได้กู้ชาติมา

ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี หรือเรื่องเหลวไหลอีกแล้ว ในโลกปัจจุบันนี้

สิ่งเหล่านี้ เป็นการประกาศบอกสังคม เผยแพร่ความคิด ความรู้ออกไป

ใครอยู่ร่วมสังคม (ไซเบอร์) เดียวกัน ก็ได้รับรู้ ก็ได้เข้าใจบ้านเมือง ว่าเกิดอะไรขึ้น

แม้เพียงเศษเสี้ยวของทั้งหมด นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว

ผมเปลี่ยนมุมมองต่อกริยาเหล่านี้ไปโดยสิ้นเชิง

หลังจากฟังเพื่อนผมพูด

การมองตัวเองเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่เพียงเข้ามาเติมม็อบให้มีจำนวนตัวเราเข้าไปด้วย

ไม่ได้สลักสำคัญอะไรไปถึงขั้นฉันจะกำจัดนักการเมืองชั่ว

ไม่ถึงกับเราจะขับไล่รัฐบาลทรราชย์

แต่เราเป็นส่วนหนึ่ง เป็นองค์ประกอบหนึ่งของกระบวนการนี้

เด็กสาวที่กำลังเอียงคอ ถ่ายรูปให้เห็นแบ็คกราวน์เป็นท่านชวนกำลังปราศัย

หนุ่มนักปั่น แต่งตัวเป็นเด็กแนว คล่อมจักรยานทำท่าเท่ห์ๆ

แม้มันจะแลดูเป็นแฟชั่นของเด็กวัยรุ่นประหนึ่งไปเที่ยวงานคอนเสิร์ต

แต่ผลทั้งหมดของทุกอย่างที่ทุกคนทำ

คือการไป “เติมม็อบ” เติมพลังให้กับม็อบ สร้างน้ำหนัก

สร้างการรับรู้ที่แพร่กระจายออกไป สร้างข่าวสารที่เผยแพร่ได้ทันที

ผ่านเจ้ามือถือเครื่องเล็กๆ ในฝ่ามือ

เพื่อนจำนวนนึงในเฟสบุค 

เริ่มบ่นกันว่า หน้าตารูปโปรไฟล์ในเฟสบุคตอนนี้ เหมือนๆ กันไปหมด

คือรูป 4 เหลี่ยมคัดค้านฯ ทำให้จำเพื่อนไม่ได้กันแล้ว

เพื่อนหลายคน ก็เอารูปถ่ายไปม็อบมาอวดกัน

นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว สำหรับสังคมไทย

ต้องขอบคุณนายกยิ่งลักษณ์ และทักษิณครับ

ที่มีส่วนผลักดัน ในสังคมไทยตื่นรู้ 

แม้จะยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่สังคมไทยตอนนี้ เริ่มนับ 1 กันแล้วครับ

ผมรับประกันได้เลย แม้วันนึง กฏหมายนิรโทษกรรมนี้ ผ่านไปได้ฉลุย

คุณก็ไม่มีที่ยืนในประเทศไทยได้แน่นอน

และถ้าคุณอยากเร่ง

ก็ได้โปรดทำทุกทาง เพื่อให้นิรโทษกรรมนี้ผ่านเถอะครับ

แล้วคุณจะรู้เอง

อีโอ๊ก แมร่มโชว์เม๊กะเคลฟเวอร์อีกแล้วไง

เขียนแบบนี้เท่ากับรับสารภาพเต็มๆเลยว่า "พ่อกุเองแหละ เบื้องหลังดันนิรโทษฉบับสุดซอย"

คุณพ่อผมอยู่ไกล "ไม่อยู่หน้างานมองสถานการณ์ไม่ออกครับ" เมื่อบวกกับความคิดถึงครอบครัว คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ใครมาแนะนำอย่างไร ท่านย่อมเกิดความหวัง หวังที่หนึ่งคือต้องการให้ส่วนรวมเกิดความสมานฉันท์ เมื่อมีความสมานฉันท์แล้ว หวังที่2ก็คือ หากได้กลับบ้านด้วยก็ยินดีครับ

 

ปาฐกถานี้ผมบอกเลยนะ

"คับแคบ" "หมกมุ่น" และ "มากอคติ" คือมุมมองของเสกสรรค์

หมกมุ่นอยู่กับเรื่องอำนาจ การเมือง ชนชั้น ราวกับว่ามีแต่สิ่งเหล่านี้ที่เป็นตัวแปรของสังคม

เรียกว่าแทบจะโยนขี้ทั้งบ่อให้คนชั้นปกครองและคนชั้นกลางก็ว่าได้

ทั้ง ๆ ที่สาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนรายได้น้อยมีคุณภาพชีวิตไม่ดี ก็คือการขาดวินัยทางการเงินส่วนตัวและครอบครัว

และความเป็นจริงคือ มีคนรายได้น้อยมากมายที่ยกระดับคุณภาพชีวิตได้ด้วยวินัยทางการเงิน โดยไม่มีอำนาจการเมืองหรือกฎหมายใด ๆ มากดพวกเขาไว้ได้เลย

ตัวอย่างเรื่องพื้นที่ในสถานศึกษา ก็จัดว่าละเมอเพ้อพก เมื่อเสกสรรค์บอกว่าลูกหลานคนมีรายได้สูงคือคนที่ยึดครองพื้นที่ในสถานศึกษา

มันตรงข้ามกับความจริงที่ผมพบ คนจนกว่าผมกำลังเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ด้วยกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

ในขณะที่ลูกหลานคนรวยจริง ๆ มีไม่เยอะหรอกครับที่แย่งที่เรียนในมหาลัยไทย เขาส่งลูกเรียนนานาชาติและส่งไปเรียนเมืองนอกกันต่างหาก

คำปลุกระดมที่คับแคบ หมกมุ่น และมากอคติแบบนี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ชนชั้นล่างในเขมรลุกขึ้นมาเข่นฆ่าคนที่รวยกว่า

อีกอย่าง เสกสรรค์ไปหลับอยู่ที่ไหน ถึงตำหนิคนชั้นกลางจนดูเลวทรามแล้งน้ำใจ 

ไม่ใช่คนชั้นกลางหรือ ที่ช่วยบริจาคทรัพย์ บริจาคแรงในยามชาติประสบภัยพิบัติ

ไม่ใช่คนชั้นกลางหรือ ที่ตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อม ออกมาปกป้องทรัพยากรส่วนรวมของชาติ

ทำดีก็ต้องชม

แต่เลือกตั้งสมัยหน้าอย่าเพิ่งมาเป็นรัฐบาลเลย

ถึงมาเป็นก็มารับขี้จากเผาไทยที่มันทำไว้เลยอยู่ดี

เพราะฉะนั้นรอไปก่อน ให้เผาไทยมันเป็นรัฐบาลครบ 2สมัย

รอให้ควายแดงตาสว่างกันก่อน

ใจเย็นอีกนิด

ทำคุณบูชาโทษก็เห็นตัวอย่างมาแล้วจากช่วงสมัยปี 40

     ระบอบการปกครองที่ย่ำแย่น้อยที่สุดในโลกคือประชาธิปไตยค่ะ ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว  คอมมิวนิสต์คือสาธารณะรัฐประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยที่ดัดแปลงให้เน้นเรื่องความเท่าเทียมกันค่ะ      

"ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่เลวน้อยที่สุด" นี่คือคำโฆษณาชวนเชื่อของลัทธิยัดเยียดประชาธิปไตยครับ

เรื่องความเท่าเทียมก็เป็นเรื่องเพ้อฝันและผิวเผินฉาบฉวย

ในประเทศประชาธิปไตย คนรวยกับคนจน คนการศึกษาน้อยกับคนการศึกษาสูง คนมีเส้นสายกับคนไม่มีเส้น คนเหล่านี้มีโอกาสจะเข้าไปบริหารประเทศเท่ากันหรือเปล่า (ผมไม่ได้เพ้อฝันว่าจะให้ทุกคนรวยเท่ากันนะ ที่ผมพูดถึงคือโอกาสที่แตกต่างกัน)

ผมเชื่อว่าไม่เท่า จะแบบไหน โอกาสคนก็ไม่เท่าเทียมกันอยู่ดี แต่ประชาธิปไตยเอามาโฆษณาว่ามันเท่ากัน เพราะทุกคนมีสิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งคนละครั้งเท่ากัน

น่าหัวเราะครับ เหมือนขนมหลอกเด็กนั่นแหละ เพราะถ้าไม่นับเรื่องเลือกตั้ง เรื่องอื่น ๆ ที่เหลือ คนเราก็ไม่เท่าเทียมกันหรอก

กระทู้นี้ มันกระทู้คนรัก ปชป ไม่ใช่เหรอครับ

เหล่าฮู้ เกลียด ปชป มาดูเฉยๆจะไม่ว่าอะไรเลย

นี่มาแสดงความเห็นเลอะเทอะ ไปหมด

ถามจริง

"เสื้อแดงเขาไม่คบ เม ริ ง เหรอ"

ต้องมาหาเพื่อนเป็นสลิ่ม แมงสาป แถวนี้ คุยด้วย

เงินภาษีที่อยู่ในคลังนี่ ของโคตรพ่องโคตรแมม่งเมริงหรือ อีโอ๊ค ถึงได้บอกให้เอาภาษีของชาวบ้านมาจ่ายให้ชาวนา แล้วต้องไปกู้เงินมาโป๊ะ ประเทศนี้ไม่ใช่มีอาชีพชาวนา อาชีพเดียวนะ ที่ยากจน คนที่ยากจนที่สุด คือคนที่ไม่มีที่นาจะทำกิน  

ไอ้อัป "ปรี" ดี เนี่ยนะ... คุณกล้าที่จะยกตัวอย่างมาว่า "เป็นคนดี"....?!?!?!

ยกตัวอย่างมาให้ดูหน่อยสิครับ...

ดูๆแล้วมันเหมือนบังคับให้อีกฝ่ายหมดความอดทน หมดความเป็นผู้ดีและอาจต้องไปใช้วิธีการเดียวกับพวกมันนะ 

ผมเองตามข่าวพวกเสื้อแดงประท้วงเวที ปชป มาหลายครั้งแระ บอกตรงๆส่วนตัว ตอนสลายการชุมนุมผมอยากให้ตายเยอะกว่านี้โดยเฉพาะแกนนำ และมันคงสงบปากสงบคำขึ้นอีกเยอะ

ตอนก่อนเกิดต้มยำกุ้ง  เท่าที่ผมจำได้ เพราะตอนนั้นกำลังเลือก Major การเงิน อยู่พอดี

รํฐบาลสมัยนั้นก็ ด่่ามูดี้ส ว่า ไม่รู้เรื่องมาลดเครดิต ได้ยังไง  ไม่กี่เดือน ต่อมา ต้มยำหม้อใหญ่เกิดขึ้นทันที

คราวนี้  ผมว่า ฟ้ามีตาครับ หากว่า มูดี้ส ลดเครดิตประเทศ จริงๆ อาจจะชลอความเสียหายได้

เพราะว่า การกู้ สองล้านล้าน  ต้องใช้ เรตติ้งตัวนี้มาอ้างอิงการออกพันธบัตร  ดังนั้น

ต้นทุนการเงินจะขึ้นเยอะมาก   ผมภาวนาให้  S&P  FITCH rating  รีบ ตามมูดี้สมาเลยครับ

อยากดูดิ  ไ้อ้ที่บอกว่า เงินในอากาศที่พวกมันจะเสก จะทำยังไง  ควายจะตาสว่างมั้ย

ใครจะว่าผมเลว ผมยอมละ ผมอยากไทยเศรษฐกิจพังจริงๆ  ไม่งั้นควายตาไม่สว่าง

เศรษฐกิจพัง ยังกอบกู้ได้  แต่ว่า ควายถ้าตาไม่สว่าง ประเทศฉิบหายแน่ๆ