Jump to content


นักเรียนตลอดชีพ

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ 2552
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2557 17:04
-----

#1042836 กปปส ก็มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนกันนะ

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 00:37

 

 

นักข่าวอิสระในเหตุการณ์ระดมยิงเมื่อเย็นขอเล่า...

"ในขณะที่ยืนหน้ารถเครื่องหลบตรงแนวแบริเออร์ ก็กำลังจะลุกมาถ่ายภาพ 
ระเบิดปิงปองลงมาหน้าเราห่างไปประมาณสี่เมตร 
ลูกแรกก็ตกใจร้อง ว๊าย แล้วก็หลบ แต่นึกขึ้นได้ กูต้องถ่ายภาพ ก็ลุกอีก 
ทีนี้เสียงระเบิดมาอีกสองครั้ง...ยืนดูแต่ก็คิดในใจไม่ถ่ายก็ได้วะ !! หลบ 
วิ่งไปหลบหลังรถเครื่องเสียง จากนั้นก็ปีนไปบนรถเครื่องเสียงในขณะที่รถจะแล่นพามวลชนไปหาหลวงปู่ ก็มีเสียงปืน เสียงระเบิดตามมาจนมวลชนต้องหมอบ 
แล้วก็ได้ยินเสียงวี๊ดดดดดดดดดดดดดบึ้ม ลงหลังกะบะที่จอดหลังรถเครื่องเสียงเห็นสะเก็ดไฟชัดเจน ทำให้ต้องลงรถแล้ววิ่งชิดฟุตบาทวิ่งหลบตามเสาไฟ
เพราะเสียงปืนดังไล่มา คลาดกับเพื่อนที่มาทำข่าว 
เค้าหลบตรงหลังแบริเออร์ทางรถไฟกับนักข่าวต่างชาติ 
เราก็หลบหลังรถกู้ภัย พอบึ้มดังมาอีก ดังมากก็วิ่งมาจนถึงซอยแจ้งวัฒนะ 5 
ก็วิ่งหนีมากันเรื่อยๆจนเห็นนักข่าวผู้หญิงคนนี้วิ่งมาแบบสุดชีวิต 
โดยการ์ดได้เสียสละให้เสื้อเกราะให้ใส่ เสียงปืนและระเบิดดังตลอดเวลา 

และเพื่อนก็โทรมาบอกว่า "กูเห็นตำรวจยิงคน"....
ทหารจึงแจ้งจุดใหญ่ ผู้การราบ ๑๑ จึงสั่งการจัดทหารไปเสริมดูแลมวลชนทันที 
ซึ่งก่อนวิ่งมาได้เห็น สห.ของทอ.มาช่วยด้วย ตรงเต้นท์ทหารหน้าทางรถไฟ 
แล้วเพื่อนกับนักข่าวต่างชาติก็วิ่งมาที่หน้าทีโอที 
ก็เห็นว่าขานักข่าวต่างชาติเค้าโดนยิงถากๆ 
ผู้การจึงข้ามมาและแจ้งที่รถเครื่องเสียงให้ประกาศ ทหารจะเข้าเคลียร์พื้นที่
และอาจจำเป็นต้องใช้อาวุธ คุณอิสสระ สมชัยจึงประกาศ
ท่านผู้การจึงขึ้นรถกะบะมุ่งหน้าไปก่อนเข้าเคลียร์พื้นที่และตามไปด้วยรถ M50 รึเปล่าไม่แน่ใจอีกคัน และทหารก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปอีกจำนวนหนึ่งพามวลชนกปปส.ไปที่ศูนย์จุฬาภรณ์ ทางกปปส.จึงส่งรถไปรับมวลชนกลับมาที่หน้าทีโอที....แล้วก็ไปแวะให้กำลังใจมวลชนและเสริมการ์ดที่เวทีแจ้งวัฒนะเพื่อดูแลความปลอดภัยมวลชนเพิ่ม 

นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่พบเองวันนี้ทั้งหมดค่ะ....
สิ่งที่เราเห็นคือ....
การเตรียมการณ์ของคนเสื้อแดงที่ใช้ไม้ยูคามาทำทำป้ายแปะกระดาษอยากเลือกตั้ง เห็นไม้คมแฝก ท่อนเหล็ก ปืน ระเบิดขวด ระเบิดปิงปองสารพัดชนิด 
ก็คิดเอานะว่า.....อะไร ? ? ?"

Cr. musketeer wind
 

https://www.facebook...&type=1



#1042741 กปปส ก็มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนกันนะ

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 23:51

ไม่ยืนยันนะครับ ... แต่รู้ไว้คนเสื้อแดง เขาก็เล่าให้ฟังแบบนี้ ..
1622199_705531709468941_969825007_n.jpg




#1042590 กปปส ก็มีกองกำลังติดอาวุธเหมือนกันนะ

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 23:05

อาจจะไม่ใช่ ทาวอร์ ครับ 

 
เป็น ไมโคร ทราโว ครับ


อีกเรื่องมีคลิปจากนักข่าวยืนยันว่ามีการยิงมาจากหลังบริเวณรถตู้ ครับ ..


 




#1005310 สมน้ำหน้าอีพวกโลกสวยหลงเวที เจอพลังเงียบของจริง โดนซะมั่งค่ะ

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 14 มกราคม พ.ศ. 2557 - 02:05

ไม่รู้ทราบกันหรืออยัง ...ดูรายชื่อ ที่๒๐๑.ของกลุ่มนักเขียนที่ต้าน ม.๑๑๒ ครับ

201. วรารัตน์ กระแสร์

http://www.oknation....t.php?id=715815

 


  • ant likes this


#954927 ฝากความเห็นสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ครับ

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556 - 12:41

ใครเห็นด้วยบ้างครับ ถ้ามีการลดอำนาจของนักการเมืองที่ให้คุณให้โทษแก่ ข้าราชการประจำได้
เพื่อลดการแทรกแซงข้าราชการประจำเหมือนอย่างกระทรวงกลาโหม หรือในประเทศญี่ปุ่น
เพื่อลดการลุแก่อำนาจของนักการเมือง และ ตัดวงจรอุบาทแห่งการคอรัปชั่น ...


ผมได้มีโอกาสคุยกับชาวบ้านคนหนึ่ง ซึ่งแกก็ตามการเมืองอยู่เหมือนกัน แกบอกว่า

" เป็นแนวคิดที่ดี เพราะทุกวันนี้ ข้าราชการ ทำงานเพื่อเอาใจนักการเมือง ไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชน
บางครั้งขรก.คนที่ทำดีแทบตาย นักการเมืองชุดใหม่เข้ามา โยกย้ายข้าราชการ ล้มหรือดองโครงการดีๆไปก็มาก
บบนี้แล้วข้าราชการที่ไหนจะอยากทำสิ่งดี เขาก็เลือกทำตามใจนักการเมืองเสียหมด"




#908985 สรยุทธอีกแล้ว

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:27

ตอนอ่านข่าวจ่าประสิทธิ์ ก็อ่านครึ่งๆกลางๆ ...

 

คลิปจ่าประสิทธิ์ตอนแรกพูดถึงจะดันพรบ.ต่ออีกหลังวุฒิสภาลงมติไม่ผ่านพรบ. ตอนท้ายคลิปจ่าประสาทยังบอกอีกว่าเพื่อเอาทักษิณกลับบ้านให้ได้ ...

 

แต่มันอ่านแค่ช่วงแรก ไม่อ่านต่อว่าพรบ.นี้เจตนาทำเพื่อนำแม้วกลับบ้าน(รวมลูกพี่มันด้วย)

 

นักข่าวคนกลางใน333โลก




#907181 รายการพิเศษ "ศาลโลกตัดสินคดีพระวิหาร" (11 พ.ย. 56)

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 22:57

 

ขออภัยนะครับ อย่าหาว่าผมเป็นลูกอีช่างจับผิดเลยนะครับ ผมจับประเด็น(จับผิด) คำพิพากษาได้อีกประการแล้วครับ ...

จำได้ว่า ส่วนท้ายของคำพิพากษา มีส่วนหนึ่งพูดถึง การตกลงพื้นที่vicinity ของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน และมีการเอ่ยถึง ยูเนสโก และมรดกโลก เข้าไปด้วย ...

 

ถามสักนิด(ข้อสงสัย) ...

 

- ทำไม การกำหนด vicinity ถึงจงใจให้ยูเนสโก มีส่วนร่วม ในเมื่อมันเป็นเรื่องของพื้นที่ของ2ฝ่าย ไม่ใช่เรื่องของพื้นที่มรดกโลก ...

- ถ้ามีเรื่องของพื้นที่มรดกโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นย่อมหมายถึง เป็นเรื่องที่กัมพูชายื่นปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ในปี 2551 ..

   หมายความว่า เราไม่ได้พูดถึง vicinity ของปราสาท จากคำตัดสินของศาลโลก ในปี2505 หรือเปล่าครับ

 

attachicon.gifPreah_Vihear_French-13.jpg

 

รูปคล้ายๆ กันนะ

 

 

รูปนี้ เกี่ยวกับ เขตกันชน ของมรดกโลกปราสาท  หรือครับ .. ??

 

จำได้ตอนฟังคำพิพากษา ก็พูดถึงปราสาทพระวิหารอีกอย่างหนึ่ง(ที่คนแปล แปลให้ฟัง) ประมาณมรดกโลกต้องเข้าถึงได้จากทั้ง 2ประเทศ ...

 

อืม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ การพิจารณาvicinity ของปราสาทพระวิหารปี2505  เท่ากับว่า เป็นการพิจารณา territory หรือ buffer zone ของมรดกโลกพระวิหาร 2551 แล้วหรือเปล่า ??? 




#906202 รายการพิเศษ "ศาลโลกตัดสินคดีพระวิหาร" (11 พ.ย. 56)

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:44

 

 

ได้ความคืบหน้ามาอีกนิด...

 

ได้เรียนถามท่านผู้อาวุโสด้านกฎหมาย...ว่า

 

" วันนี้เห็นสื่อหลาย ๆ ช่อง กล่าวว่า เราเสียดินแดนแล้วหรือ อย่างน้อย ก็ประมาณ

1 - 1.5 ตร.กม.หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับ ก็พาดหัวตัวโต..ๆ เราแพ้คดี เสียดินแดน.."

 

ท่านได้อธิบายว่า..

 

" เราจะเสียดินแดน หรือไม่ ศาลไม่ได้บอก ไม่ได้กำหนด เพียงแต่บอกว่า

ให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันเอง...คำพิพากษาไม่ได้กล่าว ไม่ได้ระบุว่าต้องใช้

วิธีการใดในการกำหนด พื้นที่รอบตัวปราสาท...ย้ำ..คำพิพากษาไม่ได้

ระบุวิธีการในการกำหนดเส้นเขตแดน

 

เราจะเสียดินแดนหรือไม่...ขึ้นอยู่กับว่า ต่อจากนี้ไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายเรา

รัฐบาลของเรา จะแสดงจุดยืนในการกำหนดเส้นเขตแดนรอบตัวปราสาท

อย่างใด จะสามารถรักษาแผ่นดินของประเทศไทยไว้ได้ ณ จุดเดิมหรือไม่

 

ผู้ที่รับผิดชอบ จำเป็นต้องศึกษาคำพิพากษา 2505 ให้เข้าใจทุกตัวอักษร

ต้องหาที่ตั้งตัวปราสาทและพื้นที่โดยรอบตามคำฟ้อง และจุดกำหนดเดิม

ให้ใกล้เคียงกับสภาพภูมิศาสตร์ในปัจจุบันให้มากที่สุด

 

รัฐบาลของเรา...จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศ หรือ จะรักษาประโยชน์

ส่วนตัว วงศาคณาญาติ ทั้งที่เป็นเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย และที่เป็น

สัญชาติอื่น

 

ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า...ทหารของเราจะไม่ยอมให้เสียดินแดนแม้ตารางนิ้ว

กรมแผนที่ทหารของเรามีแต่คนเก่ง ๆ มีข้อมูลมากมาย การเสียดินแดน

คงเป็นไปได้ยาก...

 

ยกเว้นเสียจากว่า...

 

การเจรจาที่เกิดขึ้นจะมีบุคคลอันไม่พึงประสงค์เข้าไปเกี่ยวข้อง...

 

ซาตานในคราบของนักการเมือง "

 

ท่านกล่าวไว้เช่นนี้...

 

ตอนนี้ผมกังวล ตรงนี้มากครับ ...

 

ในคำพิพากษา ศาลได้หยิบเอาแผนที่ 1:200,000 มาอ้างอิง

กำหนดvicinity ของปราสาท ..แม้ว่าศาลจะบอกว่าไม่ยุ่งกับ

การกำหนดเขตแดน2ทั้ง2ฝ่าย แต่หากเราผลีผลามรับรอง

คำตัดสินครั้งนี้ไป ไม่เท่ากับเรารับเอาแผนที่1:200,000มาใช้

หรือครับ 

ไม่ใช่แต่ ในเฉพาะพื้นที่vicinity ปราสาทเท่านั้น หลังจากจบ

เรื่องคราวนี้ไป หากวันหนึ่งข้างหน้ากัมพูชาอ้างว่าเราได้รับรอง

การใช้แผนที่1:200,000ในการกำหนดพื้นที่แล้ว

(อ้างอิงการที่เรารับรองคำตัดสินในครั้งนี้)

เราต้องกำหนด พื้นที่อื่นในแผนที่นี้(รวม4.6ตร.กม.ด้วย)ตาม

แผนที่ 1:200,000ด้วยหรือไม่ ???...

 

 

ถามท่านผู้อาวุโสให้แล้วน่ะค่ะ...คำตอบคือ

 

การปักปันเขตแดนระหว่าง ไทย-กัมพูชา ในจุดอื่นที่กำหนดไว้แล้วก่อนคำพิพากษาล่าสุด

ไม่มีการอ้างอิงถึงแผนที 1 : 200,000 

 

คำพิพากษาครั้งนี้ศาลได้ระบุชัดว่า 1 : 200,000 ใช้เฉพาะคดีพิพาทเดิมเท่านั้น

 

เพราะคำพิพากษาได้ตัดสินโดยใช้แผ่นที่ 1 : 200,000 เป็นหลักฐานหนึ่งในการกำหนด

เขตอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ลบล้างไม่ได้ และคำพิพากษา 2505 

ก็ไม่ได้กำหนดจุดชัดเจนว่าจุดใด

 

แต่ครั้งนี้อ้างป้อมและแค้มป์ของเจ้าหน้าที่ผู้รักษาปราสาทในปี 2504 ซึ่งไทยยอมรับว่า 

อยู่ทางใต้ของเส้นในแผนที่ แต่อยู่ทางเหนือของเส้นที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นสันปันน้ำ

ซึ่งก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นจุดใดกันแน่..

 

การที่หลายฝ่ายต่างตีความกันไป ว่าไทยเสียดินแดนเพิ่มไม่ว่าจะเป็น 0.3 หรือ 50 ไร่

หรือจะเป็น 1 ตร.กม..หรือ 1.50 ตร.กม อาจจะเป็นการตีตนไปก่อนไข้..

 

น่าแปลก..ที่ไม่มีใครสักคนถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และน่าจะเป็น

หน่วยงานที่มีข้อมูลในด้านภูมิศาสตร์ชัดเจนที่สุด...กรมแผนที่ทหาร..

 

คำพิพากษาศาลโลก ให้ถือฉบับภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เป็นภาษา

ทางกฎหมาย นักวิชาการต่างก็พยายามตีความไปต่าง ๆ ตามแนวทางที่ตนเชือถือ

ตามแผนที่ที่นักวิชาการยึดถือเป็นหลัก...

 

อย่าลืมว่า..ยุคสมัยต่างกัน การเดินเท้าสำรวจ กับ Google นั้นห่างกียหลายสิบปี

สภาพภูมิอากาศก็ย่อมต่างกัน สภาพเชิงผา ความลาดชันก็ต่างกัน

 

การกำหนดจุดเส้นเขตแดน บริเวณใกล้เคียงปราสาท ตามคำพิพากษา 2556 จึงเป็น

หน้าที่ของทีมเจรจาไทย ที่ต้องกำหนดจุดตั้งป้อมและแคมป์ ที่กล่าวถึงในปี 2504

ให้ได้...

 

ซึ่งแน่นอน...มติ ครม 2505 ที่เลือกทางเลือกที่ 2 น่าจะใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด

เพราะจัดทำขึ้นในยุคสมัยเดียวกัน สภาพภูมิศาสตร์เดียวกัน..และ..ยังไม่มีผลประโยชน์

ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง..

 

ที่นี่..ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล..ว่าจะ ตีความอย่างไร..

 

จะยกพื้นที่ทางเข้า ใส่พาน บรรณาการให้หรือไม่....

 

ท่านผู้อาวุโส ทางกฎหมาย กล่าวไว้เช่นนั้น...

ผิดถูกประการใด ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ค่ะ

 

 
ขอบคุณมากครับ  :)
 

 

เท่าที่ผมได้สอบถามเพิ่มเติมไปยังนักกฎหมายท่านหนึ่งก็ได้ความเห็นคราวๆแบบนี้ ..

 

เท่าที่ดู เป็นเพราะการตัดสินคดีในปี2505 ที่บีบให้เรารับเอาแผนที่1:200,000มาใช้

(อ่านในเนื้อข่าวก่อนหน้านี้ก็พอเข้าใจถึงการรับเอาแผนที่มาใช้ของฝ่ายเราเองด้วย) ...

เพื่อใช้กำหนดอนาบริเวณของปราสาท 

 

และตรงกันอีกประเด็น คือ การกำหนดเส้นเขตแดนหลังจากนี้ ขึ้นอยู่กับฝ่ายไทยที่จะเจรจากับฝ่ายเขา

 

ปัญหาอีกอย่างของตรงนี้ คือ การอ้างอิงของศาล อ้างอิงไปยังตำบล(จุดตั้งค่ายทหาร)

ที่ต้องค้นหาว่าแนวที่จะให้เราถอยออกมานั้นคือตรงไหน

กอร์ปกับ ใช้แผนที่1:200,000 ซึ่งไม่มีความแน่นอนผิดเพี้ยนเยอะ ยิ่งจะหาแนวเส้นดังกล่าวเจอได้ยาก เข้าไปอีกหรือเปล่า

 

ส่วนนี้ ผมลองเสนอความเห็นดูนะครับ ถ้าเราไม่สามารถสู้กับกับการยืนยันการใช้แผนที่1:200,000

ในการหาเส้นที่ศาลกำหนดแล้ว เป็นไปได้ไหม ที่เราจะเสนอ แผนที่1:50,000 เข้าไปประกบในการ

หาพิกัดพื้นที่ หรือเส้นที่ถูกต้องแน่นอน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ 2ประการ คือ 

 

1.หาพิกัดหรือเส้นที่เป็นที่ถูกต้องได้ง่ายกว่า

2.เพื่อให้ศักดิ์ และ สิทธิ์ ของแผนที่เรายึดถือ เท่าเทียมกับ แผนที่1:200,000 (อันนี้ไม่ต้องบอกเขาก็ได้)




#904577 ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 12:12

^^




#904468 ระวัง รับคำตัดสินของศาล อาจเป็นการเสียค่าโง่ให้เขมรได้

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 11:21

นักกฏหมายท่านเดิม เพิ่มเติมข้อมูล มาครับ
 

1. ศาลโลก ปี 2505 บอกว่าถือว่าไทยรับแผนที่แล้ว โดยอ้างว่าไม่คัดค้านเท่ากับยอมรับ (แต่ไทยยังคัดค้าน)

 

2. ศาลโลก 2556 ยืนยันต่อว่าเรายอมรับแผนที่1:200,000ตามกฎหมายปิดปาก

 

3. ศาลอ้างว่าไม่วินิจฉัยเขตแดน วินิจฉัยแค่อธิปไตย เหนือพื้นที่ แต่บังคับเราให้รับแผนที่ แล้วบอกว่าเขตแดนไปปักปันกันเอง

 

ดังนั้น เราก็ควรคัดค้านแผนที่ ตอนปักปันเขตแดนจะได้ไม่มีปัญหา

 

 




#903616 รายการพิเศษ "ศาลโลกตัดสินคดีพระวิหาร" (11 พ.ย. 56)

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 20:03

ได้ความคืบหน้ามาอีกนิด...

 

ได้เรียนถามท่านผู้อาวุโสด้านกฎหมาย...ว่า

 

" วันนี้เห็นสื่อหลาย ๆ ช่อง กล่าวว่า เราเสียดินแดนแล้วหรือ อย่างน้อย ก็ประมาณ

1 - 1.5 ตร.กม.หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับ ก็พาดหัวตัวโต..ๆ เราแพ้คดี เสียดินแดน.."

 

ท่านได้อธิบายว่า..

 

" เราจะเสียดินแดน หรือไม่ ศาลไม่ได้บอก ไม่ได้กำหนด เพียงแต่บอกว่า

ให้ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันเอง...คำพิพากษาไม่ได้กล่าว ไม่ได้ระบุว่าต้องใช้

วิธีการใดในการกำหนด พื้นที่รอบตัวปราสาท...ย้ำ..คำพิพากษาไม่ได้

ระบุวิธีการในการกำหนดเส้นเขตแดน

 

เราจะเสียดินแดนหรือไม่...ขึ้นอยู่กับว่า ต่อจากนี้ไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายเรา

รัฐบาลของเรา จะแสดงจุดยืนในการกำหนดเส้นเขตแดนรอบตัวปราสาท

อย่างใด จะสามารถรักษาแผ่นดินของประเทศไทยไว้ได้ ณ จุดเดิมหรือไม่

 

ผู้ที่รับผิดชอบ จำเป็นต้องศึกษาคำพิพากษา 2505 ให้เข้าใจทุกตัวอักษร

ต้องหาที่ตั้งตัวปราสาทและพื้นที่โดยรอบตามคำฟ้อง และจุดกำหนดเดิม

ให้ใกล้เคียงกับสภาพภูมิศาสตร์ในปัจจุบันให้มากที่สุด

 

รัฐบาลของเรา...จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศ หรือ จะรักษาประโยชน์

ส่วนตัว วงศาคณาญาติ ทั้งที่เป็นเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย และที่เป็น

สัญชาติอื่น

 

ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่า...ทหารของเราจะไม่ยอมให้เสียดินแดนแม้ตารางนิ้ว

กรมแผนที่ทหารของเรามีแต่คนเก่ง ๆ มีข้อมูลมากมาย การเสียดินแดน

คงเป็นไปได้ยาก...

 

ยกเว้นเสียจากว่า...

 

การเจรจาที่เกิดขึ้นจะมีบุคคลอันไม่พึงประสงค์เข้าไปเกี่ยวข้อง...

 

ซาตานในคราบของนักการเมือง "

 

ท่านกล่าวไว้เช่นนี้...

 

ตอนนี้ผมกังวล ตรงนี้มากครับ ...

 

ในคำพิพากษา ศาลได้หยิบเอาแผนที่ 1:200,000 มาอ้างอิง

กำหนดvicinity ของปราสาท ..แม้ว่าศาลจะบอกว่าไม่ยุ่งกับ

การกำหนดเขตแดน2ทั้ง2ฝ่าย แต่หากเราผลีผลามรับรอง

คำตัดสินครั้งนี้ไป ไม่เท่ากับเรารับเอาแผนที่1:200,000มาใช้

หรือครับ 

ไม่ใช่แต่ ในเฉพาะพื้นที่vicinity ปราสาทเท่านั้น หลังจากจบ

เรื่องคราวนี้ไป หากวันหนึ่งข้างหน้ากัมพูชาอ้างว่าเราได้รับรอง

การใช้แผนที่1:200,000ในการกำหนดพื้นที่แล้ว

(อ้างอิงการที่เรารับรองคำตัดสินในครั้งนี้)

เราต้องกำหนด พื้นที่อื่นในแผนที่นี้(รวม4.6ตร.กม.ด้วย)ตาม

แผนที่ 1:200,000ด้วยหรือไม่ ???...




#903457 ระวัง รับคำตัดสินของศาล อาจเป็นการเสียค่าโง่ให้เขมรได้

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 18:25

ผมว่าที่ต้องติดตาม คือการประชุมสภาวันพรุ่งนี้ครับ 

 

https://www.facebook.com/Jurin.Aoodda

 

2.กรณีที่คณะรัฐมนตรีได้ทำหนังสือมาถึงประธานรัฐสภาเพื่อขอให้ที่ประชุมรัฐสภาได้เปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อพิจารณากรณีที่คณะรัฐมนตรีจะขอฟังความเห็นจากสมาชิกรัฐสภา ซึ่งแต่เดิมคาดว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์แต่กลับกลายเป็นเรื่องกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งมีประเด็นที่เป็นคำถามและข้อสังเกต คือกรณีการขอฟังความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาของคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลนั้นเป้าหมายคืออะไรกันแน่ ต้องการฟังความเห็นเรื่องอะไร เพราะว่าตรวจสอบแล้วพบว่าคณะรัฐมนตรีได้ขอเปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ก่อนที่จะมีคำพิพากษาของศาล แล้วก็ขณะเดียวกันปรากฏว่าในการประชุมร่วมกำหนดเวลาไว้แค่ 09.30 น. ถึงเวลา 13.30 น. มีเวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง และต้องพิจารณาสองเรื่อง ก็เลยเป็นข้อสังเกตว่ารัฐบาลมีเจตจำนงที่ต้องการรับฟังความเห็นของสมาชิกรัฐสภาจริงหรือไม่ หรือแค่สร้างภาพว่าก็รู้จักฟังความเห็นของคนอื่นบ้างเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้รับความเสียหายมากในทางเมืองกรณีไม่รู้จักฟังความเห็นคนอื่น แล้วก็ใช้เสียงข้างมาก ใช้อำนาจตามอำเภอใจ จนในที่สุดนำประเทศไปสู่วิกฤต เพราะฉะนั้นเรื่องนี้รัฐบาลจะต้องนับหนึ่งจากการชี้แจงให้ชัดเจนว่าเจตนาที่บอกว่าต้องการฟังความเห็นและก็ต้องการเปิดรัฐสภาตามมาตรา 179 เป้าหมายที่แท้จริงคืออะไรกันแน่

....................................................

 

สงสัยว่า สภาทาส จะสร้างภาพการยอมรับฟังเสียง(ตัวแทน)ประชาชน อีกครั้ง

เห็นได้ชัดครับ มีการรีบเร่งดำเนินการจนผิดสังเกตุ ..

เชื่อว่างานนี้ มีบางอย่างแอบซ่อนความไม่ชอบมาพากลอยู่ในเนื้อคำพิพากษาแน่ ..




#903381 ระวัง รับคำตัดสินของศาล อาจเป็นการเสียค่าโง่ให้เขมรได้

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 17:44

แจ้งความคืบหน้าครับ ...

 

เมื่อสักครู่ได้มีโอกาสคุยกับนักกฏหมายท่านหนึ่ง ผมได้สอบถามประเด็นที่ผมเป็นกังวลอยู่นี้ครับ จึงเอาบทสนทนามาให้อ่านกัน ... 

 

 

 

  • Conversation started today
  •  
    16:46
     
     

    นักเรียน : รบกวนถามหน่อยครับพี่... จริงอยู่ที่ศาลไม่มีอำนาจ หรือ ไม่ได้ตัดสินเส้นเขตแดน

    แต่ถ้าเรายอมรับ คำตัดสินของศาลหมายความว่า ... เราเองที่เป็นฝ่ายไปยอมรับให้แผนที่1:200,000 มีผลบังคับใช้กับประเทศเราเอง แล้ว มันจะเป็นการผูกมัดตัวเราเองในอนาคตหรือไม่ "ครับ ว่าเรายอมรับแผนที่ของเขาในการขึ้นศาลครั้งนี้ หรือไม่ครับ

     
     
  •  
    -PAXP-deijE.gif16:58
     
     

    นักกฎหมายที่ให้คำปรึกษา : เรื่องเขตแดนถ้าผมเข้าใจไม่ผิดศาลให้ไปปักปันกันเอง ซึ่งแผนที่ 1:200,000 ไทยไม่เคยยอมรับ ทำนองเดียวกับปี 2505 ไทยปฏิบัตติคำพิพากษาแต่ไม่ยอมรับและขอสงวนสิทธิในการโต้แย้งในอนาคต ดังนั้นในคดีครั้งนี้เราก็ไม่ควรยอมรับเช่นกัน ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลเสียในการปักปันเขตแดนได้ครับ แค่ความเห็นนะครับ

     
     
  •  
    17:25
     
     

    นักเรียน : หมายความว่า ตามที่ศาลกำหนดให้vicinityของตัวปราสาท ที่มีการยึดเอาแผนที่Annex1(1:200,000)ในการขีดเส้น ...เราเองก็ไม่ควรยอมรับด้วย เพื่อไม่ให้มีผลผูกพัน ถูกต้องไหมครับ ..

     
     
  •  
    -PAXP-deijE.gif17:26
     
     

    นักกฎหมายที่ให้คำปรึกษา : ครับ

     
     
  •  
    17:29
     
     

    นักเรียน : ตรงนี้ดูกระแสจะถูกตีออกมาว่าเราไม่เสียเปรียบจากการพิพากษา ส่วนตัวผมเป็นกังวลมาก ..เพราะคนส่วนมากพูดกันแต่ด้านเดียว ... เป็นกังวลมากครับ .. ยังไงก็ขอบพระคุณพี่ด้วยนะครับ

     
     
  •  
    -PAXP-deijE.gif17:30
     
     

    นักกฎหมายที่ให้คำปรึกษา : ขอบคุณเช่นกันครับ น่ากลัวที่ผู้เกี่ยวข้องไม่ยอมรับความจริงนี่แหละครับ

     
     
  •  
    17:33
     
     

    นักเรียน : รัฐบาลผู้รับผิดชอบอาจรู้ความจริง แต่ในทางปฏิบัติเขาอาจพยายามสร้างกระแส บิดเบือนความจริงอยู่ ... ตอนนี้รู้สึกแย่ ที่รู้บางอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้ ..

     



#903030 ระวัง รับคำตัดสินของศาล อาจเป็นการเสียค่าโง่ให้เขมรได้

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 15:01

 

 

ทำไมถึงมีคนพยายามยัดเยียดให้เป็นการยอมรับแผนที่ 1:200000 กันนัก ไม่ว่าอะไรก็วกเข้ามาเรื่องนี้ให้ได้

ในกระทู้ก็บอกเรื่องว่าไม่เกี่ยวกับเขตแดน แต่ก็ยังตีความต่อไปอีก

เรื่องนี้ถ้าเป็นการตีความให้เขมรเป็นฝ่ายตีความเถอะครับ เราอย่าตีความให้เค้าเลย

คิดตามผมดีๆนะครับ

จริงอยู่ ศาลไม่มีอำนาจ หรือ ไม่รับแผนที่1:200,000 มาใช้กำหนดเขตแดน

 

แล้วถ้าเช่นนั้น ศาลใช้แผนที่1:200,000 มาเป็นแผนที่อ้างอิงให้เราถอนทหารทำไม ทำไม่ใช้ 1:50,000 ครับ 

 

และถ้าเราเซนต์รับคำตัดสินล่ะครับ มันมีความเกี่ยวเนื่องกันได้ไหม 

 

 

ท่านครับ ต้องเข้าใจว่า ศาลต้องตัดสินตาม ศาลที่ตัดสินเมือปี 2505 ครับ

 

ศาลสมัยนั้น ตัดสิน ให้เขมร โดยใช้แผ่นที่ 1/20000 ครับ

 

แต่ศาลเค้าตัดสินให้แค่เฉพาะบริเวรปราสาท เท่านั้นครับ

 

ส่วนอื่นๆ ไม่อยู่ในคำตัดสินครับ แต่มีไอ้นพเหล่ นี่ละ ไปเซ็นยกเขาพระวิหารให้ เขมรขึ้นทะเบียน รวมพ่วง กับ แผ่นที่ 1/200000 ไปด้วยครับ

 

เรื่องเลยลาม ไปกันใหญ่จนต้องไปให้การศาลโลก ครับ

 

 

ตรงนี้ล่ะครับ ที่เรายังไม่ควรรีบบุ่มบ่าม รับคำตัดสินของศาลครั้งนี้

ไม่เช่นนั้น จะยิ่งกลายเป็นเราไปตอกย้ำว่า แผนที่1:200,000 เรายอมให้เขาเอามาขีดเส้นแทนแผนที่ของเราได้




#903016 ระวัง รับคำตัดสินของศาล อาจเป็นการเสียค่าโง่ให้เขมรได้

โดย นักเรียนตลอดชีพ on 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 - 14:54

 

Supalak Ganjanakhundee

16 ชั่วโมงที่แล้ว · แก้ไขแล้ว 
 
 

We both win the court judgment, Hor Namhong

เพิ่งสัมภาษณ์ท่านฮอร์นังฮง เสร็จหมาดๆ ท่านว่า ไทยและกัมพูชาต่างได้รับชัยชนะในการตีความคดีปราสาทพระวิหารด้วยกันทั่งคู่ เป็นคำพูดที่อยู่ในแนวของนักการทูตเก๋าเกมจริงๆ 

"การที่กัมพูชาได้ร้อขอต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศให้ตีความคำพิพากษาปี 1962 ก็ด้วยเจตจำนงค์อย่างเดียวคือ ต้องการแก้ปัญหากับไทยอย่างสันติ เราอยากมีไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เราใกล้ชิดกันมาก เราหนีจากกันไม่ได้" ฮอร์ นัมฮง กล่าว

ศาลตัดสินเมื่อวันจันทร์ที่ 11 พยว่า พื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารนั้นเป็นไปตามขอบเขตที่ได้กำหนดเอาไว้ในแผนที่ภาคผนวก 1 ซึ่งในจำนวนนี้ไม่รวมพื้นที่บริเวณภูมะเขือแต่อย่างใด

ศาลไม่ได้กล่าวถึงพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ทูตวีระชัย พลาศัยบอกว่า ผลของคำพิพากษาไทยไม่ได้เสียพื้นที่ดังกล่าวนั้นไปแต่อย่างใด


ฮอร์ นัมฮง กล่าวว่า ทางกัมพูชาตีความคำพิพากษาวันนี้ใน 3 ลักษณะคือ
 
ประการแรก ศาลให้การยอมรับว่าแผนที่ภาคผนวก 1 ซึ่งจัดทำโดยสยามฝรั่งเศสตามสนธิสัญญาปี 1904 และ 1907 นั้นใช้กำหนดอาณาเขตระหว่าง                 ไทยและกัมพูชาในบริเวณปราสาทพระวิหาร

ประการทีสอง  ศาลปฎิเสธแผนที่ตามมติคณะรัฐมนตรีของไทยที่ทำเอาไว้ฝ่ายเดียวในปี 1962 (พ.ศ. 2505) 

ประการทีสาม  โดยผลแห่งคำพิพากษาไทยมีภาระที่จะต้องถอนทหารออกไปให้พ้นจากเขตซึ่งแผนที่ภาคผนวก 1 กำหนดว่าเป็นอาณาบริเวณโดยรอบ                   ปราสาทพระวิหาร


ถามว่าพื้นที่นั้นใหญ่เล็กเพียงใด ฮอร์ นัมฮง ตอบว่า ยังพูดไม่ได้ในขณะนี้จะต้องเอาแผนที่มาดูและทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องมาพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกันโดยผ่านกลไกทวิภาคีอย่างน้อยสองกลไกหลักคือ คณะกรรมาธิการร่วมและคณะกรรมการปักปันเขตแดนร่วม 

"เราต้องพูดกันบนพื้นฐานแห่งจิตใจที่คำนึงถึงสันติภาพและความมั่นคงตามแนวชายแดน และสันติภาพนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนตามแนวชายแดน"ฮอร์ นัมฮง กล่าว
 
 

 

 

อ่านดูคำให้สัมภาษณ์ของ ฮอนัมฮง กันดูอีกที นะครับ