กรกช

ทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิด จึงหนีไปต่างประเทศ
แล้วก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้กลับบ้านอย่างไม่มีความผิด

เหตุความวุ่นวายทางการเมืองในระยะ 5 - 6 ปีที่ผ่านมานี้มีอยู่แค่นี้เอง

การสร้างวาทกรรมรากหญ้า คนชั้นกลาง ไพร่ อำมาตย์ เพื่อทำให้เสื้อแดงรู้สึกต่ำต้อย ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกกดขี่ ขูดรีด
การอ้างเรื่องประชาธิปไตย เพื่อให้เสื้อแดงรู้สึกว่าบ้านเมืองถูกคุมด้วยอำนาจเผด็จการ

ทั้งที่ความจริงอำมาตย์ก็พวกนักการเมืองนั่นแหละ และโดยเฉพาะการกดขี่ ขูดรีดประชาชน ทักษิณน่ะตัวพ่อเลย
ทุกวันนี้เจ๊งกันทั้งแผ่นดิน ทั้งรากหญ้า ทั้งชนชั้นกลาง ก็เพราะน้ำมันแพง
แล้วใครหน้าไหนที่แปรรูป ปตท. และมีผลประโยชน์ในอ่าวไทย ?

และเรื่องประชาธิปไตย ทักษิณก็เผด็จการตัวพ่อเช่นกัน
สมัยทักษิณเป็นนายกฯ มีองค์กรไหนเป็นตัวของตัวเองบ้าง ? ถูกแทรงแซงจนเป็นอัมพาตกันหมด

วาทกรรมต่างๆตรงนี้ จึงเป็นแค่แผนการสร้างมวลชน

เพราะเมื่อมีมวลชนสนับสนุน ก็ย่อมสามารถดำเนินการ ดำเนินกิจกรรมต่างๆไปยังจุดประสงค์ได้

ทักษิณหมิ่นสถาบัน จาบจ้วงสถาบัน เพราะคิดว่าสถาบันอยู่เบื้องหลังยึดอำนาจ 19 กย.
เสื้อแดงรักทักษิณ ก็เชื่อตามทักษิณ คนที่มีอคติกับสถาบัน 100 ทั้ง 100 จึงมีแต่เสื้อแดง

การกลับลำ 180 องศา หันมารัก ปกป้องสถาบันของทักษิณ
ก็เพราะเข้าใจดีแล้วว่า การไปมีอคติกับสถาบัน การกลับบ้านยิ่งไกลเกินฝัน เพราะคนไทยส่วนใหญ่รักในหลวง

เสื้อแดงตายในกรณีชุมนุมที่ราชประสงค์ ทักษิณจึงไม่รู้สึกอะไร เพราะนั่นคือเจตนาของเขาอยู่แล้ว
เสื้อแดงจึงเป็นแค่เหยื่อที่ถูกหลอก เพื่อเป็นหนทางให้ทักษิณกลับบ้านเท่านั้น

ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าใครๆก็รู้ ยกเว้นแต่เสื้อแดงเท่านั้นที่ไม่รู้

และสุดท้ายอยากฝากถึง บก.ลายจุดว่า ขนาดทักษิณเป็นคนยังไงแค่นี้ยังดูไม่ออก
อาการ ตาสว่าง ของบก.จึงเป็นได้แค่การคิดเอง เออเอง หรือ อุปทานไปเอง

สินค้าทุกอย่างมีค่าขนส่ง น้ำมันแพงอย่างเดียววิบัติไปหมด

เมื่อวานเมืองจันท์บ้านผมปิดถนนเทเงาะประท้วงไปแล้ว
เพราะพ่อค้าคนกลางกดราคาเงาะเหลือ 5-6 บาท

ชาวสวนลงทุนทั้งปี ทั้งค่ายา ค่าปุ๋ยที่สูงขึ้น แล้วไหนจะค่าแรงงานอีก
ปีก่อนก็มีปล่อยเน่าคาต้น เพราะจ้างค่าแรงเก็บแล้วไม่คุ้ม

ถ้ายังแก้ที่ต้นเหตุคือ ราคาน้ำมันไม่ได้ อีกหน่อยประเทศไทยอาจจะไม่มีเงาะกินกัน
เพราะตอนนี้หลายสวนโค่นต้นเงาะทิ้งหันไปปลูกทุเรียนกันหมดแล้ว

บริหารบ้านเมืองกันยังไง มีแต่อิ๊บอ๋ายลงทุกวันๆๆๆๆๆๆ

แต่ละประเทศมีขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป

กฎหมายแต่ละประเทศจึงแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม

คนที่มีอคติกับสถาบันส่วนหนึ่ง ได้กระทำการที่เป็นการละเมิดกฎหมาย จึงถูกตัดสินให้มีความผิด

เหตุผลที่ถูกต้องคือ ต้องตำหนิผู้กระทำผิด ไม่ใช่ไปตำหนิกฎหมาย

"ประชาชนแบบไหน ก็ได้ สส.แบบนั้น ,,,, สส.เป็นแบบไหน ก็ได้รัฐบาลแบบนั้น"

นี่เรากำลังคุยกันถึงแก่นของปัญหาชาติ คุณกอนกดคิดว่าต้นเหตุปัญหาอยู่ที่นักการเมือง หรือต้นเหตุปัญหาอยู่ที่ประชาชนครับ

ขอตัดมาให้เห็นชัดๆ ผมว่านี่เป็นประเด็นสำคัญสุดๆ

ผมคิดว่าคุณกรกช ควรตอบคำถามนี้ให้ชัดเจนก่อน แล้วถึงคุยกันต่อในรายละเอียดนะครับ

ปัญหาประเทศคือ คอรัปชั่น

ผู้บริหารบ้านเมือง คือนักการเมือง

การคอรัปชั่นที่สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับบ้านเมือง มาจากนักการเมือง

ประชาชนไม่ใช่คนคอรัปชั่นบ้านเมือง แค่มีส่วนสนับสนุนโดยไม่เจตนา
เพราะคงไม่มีใครเจตนาเลือกนักการเมือง ให้เข้าไปคอรัปชั่นโกงกินประเทศ

ผมคิดว่าต้นเหตุปัญหาอยู่ที่ใครไม่น่าเข้าใจยาก

ปล.คห.ของคุณว่างๆผมจะเข้ามาตอบ เพราะมันยาวหลายประเด็น

กว่าจะอ่านจบ
นึกอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นกระทู้ที่มีเนื้อหาเหมือนที่เคยเป็น

เข้าใจเจตนาของคุณกรกชนะคะ
แต่ว่า
ในยามที่ต้องเลือกระหว่างเอาทักษินกับไม่เอาทักษิน
เจตนาแบบนั้นมันทำให้คะแนนทักษินที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้หายไปเลย
ซึ่งยังไง การ เลือกที่จะไม่เลือก มันสั่งสอนคนไทยที่ไม่เอาทักษินมากกว่า
ทางนี้ รวมตัวรุ้งด้วย ก็เลย เจ็บ
เจ็บ ที่คนต่อต้านทักษินด้วยกัน ถือทิฏฐิ ไม่สนใจสำคัญและด่วน
ปชป ยังไงเค้าก็ช่วยต่อต้านการออกกฏหมายไม่เป็นธรรมแก่เรา
ยังไงเรายังมีสภา เอี้ย อ่า สารพัดสัตว์
ค่อยๆแก้กฏหมาย ค่อยๆตรวจสอบ ค่อยๆหาทางทำให้คนตาสว่าง
นี่คือสิ่งที่เราคาดหวัง และเป็นจริงจับต้องได้
ไม่ให้พวกแร้งในสภา จับมือกันต่อรอง อะไรได้อีก
แต่เมื่อมันเป็นแบบนี้
เหมือนทำแพแตก ทุกอย่างที่หวัง ก็หืดขึ้นคอ
สิ่งใดที่หมักหมมมานาน ก็ต้องใช้เวลาเก็บ จัด ทิ้ง

ขออนุญาตออกความเห็น
ไม่รู้จะเกินจริงมั้ย
เรื่องที่คุณว่ามาเกี่ยวกับนักการเมือง
ว่าโกง คอรัปชั่น มันก็เป็นกันทุกประเทศ
ไม่ใช่แต่เรา
แต่เรา ไปยอมให้พรรนั้น มีสิทธิแก้กฏหมายตามใจชอบ ปิดหูปิดตาปชช หาเสียงกับนโยบายที่ทำไม่ได้ และทำประเทศแทบพินาศแบบนี้
มันแสนเสียดาย
ที่พวกเราบางกลุ่ม ที่มีใจรักประเทศ รักความถูกต้อง ทำลายกันเองแบบนี้
เรา น่าจะเลือกเอาใจช่วยคนที่เจตนาไม่เอาทักษินที่พอมีเสียงแข่ง ให้มีอำนาจในสภา น้อยลง
เวลาเค้าออกกฏหมายเอื้อประโยชน์ตัวเองบและพรรคและเพื่อทักษิน จะได้ลำบากกว่านี้

ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่ ปชป. เป็นรัฐบาลใหม่ๆว่า ทักษิณไม่มีวันโดนจับ
เพราะผมคิดว่า นักการเมืองต่างก็รู้จักกันหมด โดยเฉพาะยิ่งระดับแกนนำพรรค ระดับหัวหน้าพรรค

ผมเคยบอกไว้ตั้งแต่ ปชป. เป็นรัฐบาลใหม่ๆว่า ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อได้เป็นรัฐบาลใหม่ สิ่งหนึ่งที่จะทำก็คือ
การยกคดีทุจริตของฝ่ายค้านขึ้นมา เพื่อดิสเครดิส เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านมายุ่งวุ่นวายมากเกินไป
ตอนรัฐบาล ปชป. ก็งัดเอาคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์มา ทีแรกก็ทำเป็นฮึดฮัด จริงจัง
ต่อมาก็เงียบเป็นเป่าสาก และสุดท้ายก็ยกฟ้อง

มารัฐบาลนี้ เริ่มต้นพร้อมพงษ์ก็ขู่ว่าจะเล่นงานเรื่องทุจริตหลายเรื่องของ ปชป.
และก็มีข่าวจากเขมรเรื่องสุเทพบินไปคุยเรื่องผลประโยชน์พลังงาน
ซึ่งก็เหมือนที่ผ่านมา สักพักทุกอย่างจะหายไปกับสายลม

ผมเคยบอกไว้ก่อนรัฐบาลนี้ว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล
สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลใหม่จะทำก็คือ การขึ้นราคาพลังงาน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

มาถึงรัฐบาลนี้ ตอนแรกก็แปลกใจที่เพื่อไทยมีนโยบายลดราคาน้ำมัน
แต่ตอนนี้ก็เข้าใจ

ผมมองว่านี่คือการถอนทุนอันดับแรกหลังจากลงทุนในการเลือกตั้ง
ที่ผมคิดแบบนั้น เพราะผมเชื่อว่า ทั้งทักษิณ และทั้งระดับบิ๊กๆของ ปชป. ต่างก็มีหุ้นใหญ่ใน ปตท.
หรือแอบมีผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่งใน ปตท.

กฎหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจออกโดยรัฐบาล ปชป.
แปรรูปโดยทักษิณ

โกงรถดับเพลิงสมัยผู้ว่าสมัคร
เซ็นเปิดแอลซีโดยอภิรักษ์

หรือเรื่องโรงงานถลุงเหล็กเมืองจันท์ โครงการเริ่มสมัยทักษิณ
แต่พยายามจะเอาลงให้ได้ในรัฐบาล ปชป.

เนวินเคยโจมตี ปชป.เรื่อง สปก.
ปชป.โจมตีเนวินเรื่องทุจริตที่ดินรถไฟ

สุดท้ายก็จูบปากกันตั้งรัฐบาล

บรรหารเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่ร่วมกับพลังประชาชน
สุดท้ายก็กลืนน้ำลายชนิดถุยลงพื้นแล้วเลียกลับลงคอ

เสนาะแฉทักษิณเละเทะ
สุดท้ายก็ร่วมกับพลังประชาชน

ฯลฯ

การเมืองมันแค่ละครช่วงชิงอำนาจ เพื่อใช้อำนาจมาแสวงหาผลประโยชน์

ต้องมองตรงนี้ให้ออก อย่าไปอินกับบทละครที่พวกนั้นแสดง

คุณรุ้ง เรื่องคานอำนาจน่ะ ผมไม่รู้ว่าคุณรุ้ง หรือคนอื่นๆจะคิดหรือมองยังไง

แต่จากเท่าที่ผมเห็น ผมไม่คิดว่าจะมีพรรคไหนที่จะใครคานอำนาจกันจริงจัง
มีแต่ตรงไหนผลประโยชน์ลงตัว ก็จูบปากกัน

ปล. ผมเข้าใจคุณรุ้งนะ และก็ขอบคุณที่คุณรุ้งเข้าใจผม

ตั้งแต่ผมเป็นสมาชิกเว็บนี้มาจนถึงทุกวันนี้ 3 ปี
ความเห็นผมส่วนใหญ่จะพูดถึงแต่การคอรัปชั่นของพรรค-นักการเมือง
แต่ถ้าใครจับประเด็นถูก จะเข้าใจได้ว่า

ผมไม่ได้มีเจตนาไปโจมตี ต่อว่า พรรคการเมืองต่างๆด้วยความเกลียดชัง
เพียงแต่แค่ชี้ให้เห็นว่า เจตนาของพรรคต่างๆที่ต้องการเข้ามาคอรัปชั่น

คือสิ่งที่ทำลายประเทศ

และความเห็นผมทั้งหมดไม่เคยเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของกลุ่มไหน หรือของพรรคการเมืองไหน

แต่เพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทย และเพื่อในหลวง

ผมเป็นไทย

ไม่อยากเห็นคนไทยที่ด้อยโอกาสทางสังคม ถูกหลอก ถูกเอาเปรียบ ถูกกดขี่ ขูดรีด
ไม่อยากเห็นคนไทยตกเป็นเหยื่อของคอรัปชั่น ที่ทำให้เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้การใช้ชีวิตยากลำบาก
ไม่อยากเห็นคนไทยต้องตกเป็นเหยื่อจากสังคมที่เสื่อมโทรม
ไม่อยากเห็นคนไทยทะเลาะแตกแยกเกลียดชังกัน

ฯลฯ

ผมรักชาติ

ไม่อยากเห็นประเทศตกอยู่ในสภาพแบบนี้
ไม่อยากเห็นสถาบันถูกจาบจ้วง
ไม่อยากให้ศาสนาเสื่อม
ไม่อยากให้สังคมเสื่อม
ไม่อยากให้ประเทศเศรษฐกิจย่ำแย่ ติดหนี้มหาศาล
ไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย
ไม่อยากเห็นประเทศโดนเผา โดนระเบิด
ไม่อยากเห็นประทศแห้งแล้ง ไร้ป่า น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม
ไม่อยากเห็นประเทศถูกคนเห็นแก่ตัวไม่กี่คนมาครอบงำทำลาย
ไม่อยากเห็นสิ่งร้ายๆเกิดขึ้นกับประเทศ

ฯลฯ

ผมรักในหลวง

ไม่อยากให้พระองค์ต้องทุกข์พระทัยกับปัญหาบ้านเมือง
ไม่อยากให้พระองค์ต้องทุกข์พระทัยกับความเดือดร้อนของพสกนิกรของพระองค์

ผมแค่ประชาชนคนธรรมดาๆ ยังรู้สึก หดหู่ สังเวชใจ กับสภาพปัญหาต่างๆของประเทศ กับความนึกคิดของคนไทยบางส่วน
ถ้าท่านอื่นๆรู้สึกเหมือนผม ก็ลองคิดเอาเองว่า ในหลวงทรงเป็นประมุขของประเทศ พระองค์จะทุกข์พระทัยแค่ไหน

ทุกวันนี้ จากเจตนาของพรรคการเมืองต่างๆ มันพิสูจน์ให้ผมเห็นเต็มตาแล้วว่า
สิ่งที่ผมคิด สิ่งที่ผมต้องการ สิ่งที่ผมอยากเห็น

" เพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทย และเพื่อในหลวง "

มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากเจตนาร้ายๆของพรรคการเมืองต่างๆเหล่านั้น
แถมมีแต่ดำดิ่งลงเหวลงทุกวันๆๆๆๆ

ถึงในอนาคตโหวตโนจะมีเพียงน้อยนิด เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
หรือทั้งประเทศจะมีผมโหวตคนเดียว ผมก็คงไม่เปลี่ยนใจ

เพราะผมคือคนไทย ผมไม่ยอมเป็น 1 เสียงที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายประเทศตัวเอง

คันปาก อยากเถียงคุณกรกช 555

แต่ก็ต้องยอมรับประเด็นที่คุณกรกชชี้นะครับ
เลือก ปชป หรือให้ ปชป เป็นรัฐบาลไป ก็ใช่ว่าบ้านเมืองจะดีขึ้น
แม้จะมองในสมัยอภิสิทธิ์ ก็ไม่ถึงกับทำอะไรให้บ้านเมืองดีขึ้น หรือพัฒนาขึ้นไป
อาจจะด้วยเวลานั้น เกิดปัญหาต้องเข้าไปแก้เสียมากมายหรือ อาจจะไม่มีคนคิดดีๆ จริงๆ

แต่ส่วนหนึ่งที่ผมยังยึดมั่นอยู่ กับ ปชป
อาจจะด้วยเหตุผลเล็กน้อยเสียเหลือเกินที่ว่า อย่างน้อยก้เลวน้อยไปกว่าใครอื่น

ความเลว ที่มีน้อยไปกว่าใครอื่น อาจไม่มีประโยชน์ หากจะมองในแง่การพัฒนาบ้านเมือง
การนำเมืองไทยไปข้างหน้า นำไปสู่อารยะ เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ผมก็เห็นว่า เวลานี้ ปชป ยังทำไม่ได้ (อาจทำไม่ได้ หรือยังไม่ได้ทำ)

แต่อย่างน้อย ในโอกาสที่เราก็ไม่ได้มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้
ผมมองย้อนมาที่ตัวเอง ชีวิตของผม ไม่แน่ใจนะครับ ว่าการเมืองจะเข้าไปมีอิทธิพลอะไรในเชิงลึกบ้าง
หากแต่ปกติวิสัยแล้ว ผมก็หาได้รู้สึกว่า จำเป็นต้องพึ่งพานักการเมืองมากนัก
ผมเปิดบริษัทตัวเองขึ้นมาตอนปี 2544 ซึ่งเป็นช่วงกลางๆ ที่บ้านเมืองยังประสบปัญหาเศรษฐกิจ
หลายๆ ที่ปิดตัวไป เจ๊ง หาย แผ่ว ไปมากมาย
บริษัทเล็กๆ ดื้อที่จะเปิดตัวขึ้นมา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนรอบด้าน
ทุกวันนี้ บริษัทเล็กๆ ของผม ก็ยังอยู่ดี ปกติ อิทธิพลของปัญหาทางเศรษฐกิจมีบ้าง
แต่ไม่กระทบมากนัก เพราะการปรับตัวไปตามยุคสมัยครับ

นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า ความจริง การเมืองจะรบกัน จะตีกัน ก็หาได้มีปัญหาอะไรกับชีวิตผมมากมายนัก
(ที่จริงคงพอมีบ้าง จะบอกว่าไม่มีเลยก็คงไม่ได้)
ผมว่า เราพึ่งพาตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยนักการเมือง
ไม่จำเป็นต้องให้นายกมาชี้ทิศทางเศรษฐกิจ ชี้ทางทำกิน ช่วยเหลืออะไรอันใด
เพียงแต่ให้พวกเขาทำหน้าที่ตนเองไปเท่าที่ควรจะดีก็เพียงพอ

เพราะฉะนั้น ผมอาจมองง่ายและเห็นแก่ตัว
ผมไม่คิดว่า เราจะสามารถหานักการเมืองระดับปานเทพ (เป้นคำเปรียบเทียบครับ ไม่ใช่มื่อ)
เราคงจะหานายกระดับเทวดาให้ประเทศไม่ได้
เพียงแต่หานายกที่พอดี ไม่ชั่วจนเกินไป และไม่โกงกินจนไม่เหลืออะไร
นั่นคือคำตอบที่ทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างไรเสีย ผมคงและควรต้องเลือกหนึ่งในตัวเลือกที่มี
และต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ในตัวเลือกทั้งหมด
เพราะผมคงไม่มีปัญญาไปสรรหาตัวเลือกอื่น ที่ดีไปกว่านี้ได้
ขออภัยที่แอบคิดว่า แม้แต่ตัวเลือกตามพระราชอำนาจ ก็อาจไม่เป็นที่พอใจกับใครบางกลุ่มก็เป็นได้

อย่างน้อย เวลานี้ ผมก็ทำงานของผมไป หากินของผมไป และนักการเมืองก็บริหารบ้านเมืองไป
นั่นก็คงพอ หากว่า นักการเมืองไม่เลวชาติจนเกินไป อย่าง...... (คงไม่ต้องบอก)

ผมเชื่อว่า ระดับนักการเมืองเลวชาติพวกนั้น อาจทำจนประเทศนี้ลุกเป็นไฟได้
จำเป็นครับ ที่เราควรต้องทำอะไรซักอย่าง เพราะบางที มันอาจจะมากเกินกว่าที่คนแบบผมจะอยู่นิ่งได้

นั่นคือเหตุผลที่ผมเลือกจะเอามาเถียงกับคุณกรกชครับ

ทั้งปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเมือง ผมเองก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก พอเอาตัวรอดได้
แต่คนจนๆ คนที่ด้อยโอกาสทางสังคม คนที่ได้รับผลกระทบก็มี และคนส่วนนี้มีมากที่สุดในประเทศ

ความมีน้ำใจ รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น คือคุณธรรม วัฒนธรรมไทย ที่มีคุณค่า

ถ้าเรามีสิ่งนี้ คนไทยทุกคนมีสิ่งนี้ ก็ย่อมเป็นผลดีกับสังคม กับบ้านเมืองของเรา

พี่โทนี่เคยไปเที่ยว ตจว. ไปโน่น ไปนี่ แล้วถ่ายรูป ถ่ายภาพวิว ทิวทัศน์สวยๆมาลงเฟสบุ๊คให้เพื่อนๆดูไม๊ ?
พี่โทนี่เคยบริจาค หรือช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสไม๊ ?

ถ้าเคยแสดงว่าพี่โทนี่มีน้ำใจ มีสิ่งดีๆอยู่ในใจ เพียงแต่บางเรื่อง บางกรณีแค่อาจมองข้ามไปไม่ได้คิด

ผมเห็นด้วยกับคุณในเรื่องความสุภาพ ให้เกียรติคนอื่น

แต่คนเราร้อยพ่อ พันแม่ จะให้คิดเหมือนกันหมดคงไม่ได้
เพราะด้วยสภาพครอบครัว สภาพสังคม สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

นิสัยใจคอของคนเราจึงย่อมแตกต่างกัน

สมาชิกบางคนจึงคุยด้วยความสุภาพ
บางคนไม่ค่อยสุภาพ
บางคนชอบเหน็บแนม เสียดสี

ฯลฯ

การอยู่ในสังคมแบบนี้ อยู่ท่ามกลางคนหมู่มากที่คิดเห็นทางการเมืองคล้ายกัน แล้วคุณคือส่วนน้อย ก็คงต้องทำใจ
ผมก็เคยเจอคล้ายๆคุณ แต่น้อยกว่าเยอะ แต่ถึงวันนี้ก็ดีขึ้น

สิ่งที่จะทำให้คนอื่นยอมรับคุณได้ คือเหตุผล

รวมถึงความบริสุทธิ์ใจในการแสดงความเห็นเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองจริงๆ
ไม่ใช่แค่ประโยชน์ของพรรคการเมืองใดๆ หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

สมาชิกหลายท่านมีความรู้ด้านศาสนาอย่างละเอียดเหลือเชื่อ ผมเองรู้แค่ศีล 5 จึงได้แต่ตามอ่าน

แต่ได้อ่านเรื่องชาตินี้ ชาติหน้า ในบทสนทนาธรรม ใน คห.ของคุณ chackrapbong แล้ว
ก็ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้สักนิด เพราะผมก็เชื่อเรื่องนี้

ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
กฎแห่งกรรม คือ กฎของธรรมชาติ
มนุษย์ คือ ส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ดังนั้นจึงต้องตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของธรรมชาติ
เมื่อทำกรรมอะไรไว้ ไม่ว่าดี หรือไม่ดี ย่อมได้รับผลจากการกระทำนั้นๆ

ผมเชื่อเรื่องชาตินี้ ชาติหน้า เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เพราะผมเชื่อเรื่อง กฎแห่งกรรม
ผมเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะผมเชื่อเรื่องกฎของธรรมชาติ และเชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

เมื่อผมเชื่อเรื่อง กฎแห่งกรรม ผมจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด
เพราะถ้าเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม แต่ไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เหตุผลมันก็จะขัดแย้งกันเอง

ยกตัวอย่าง เด็กที่เกิดมาพิการ อาจจะหูหนวก ตาบอด แขนขาไม่มีหรืออะไรก็แล้วแต่
ถ้าเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างเดียว โดยไม่มีเรื่องเวียนว่ายตายเกิดมาเกี่ยวข้อง

กฎแห่งกรรมอย่างเดียวไม่สามารถตอบคำถามตรงนี้ได้

เพราะเด็กที่เกิดมาพิการยังไม่ได้ทำอะไรผิด แม้แต่พูดหรือเดินก็ยังทำไม่ได้

แต่ถ้าสมมุติว่าเรื่องเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ก็สามารถตอบคำถามตรงนี้ได้ว่า
ชาติก่อนเด็กได้ทำกรรมไม่ดีไว้ เมื่อเกิดมาชาตินี้จึงได้รับผลกรรมนั้น

สำหรับความคิดผม เรื่องเวียนว่ายตายเกิด ไม่ใช่เรื่องของอิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารย์ หรือไสยศาสตร์

แต่คือเรื่องของเหตุผล