bird

จริง ๆ แล้ว

การไต่สวนคดี โกงจำนำข้าว...อยากให้มีการถ่ายทอดสดจริง ๆ

เพราะเป็นคดีที่มีความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาล และเป็น

คดีที่สงผลต่อการส่งออกข้าว ซึ่งเป็นสินค้าอันดับหนึ่งของ

ประเทศ

อีกทั้งยังเป็นคดีที่ มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และยังเป็น

เกษตรกร ที่มักจะเป็นผู้เสียเปรียบ.

จึงควรให้มีการถ่ายทอดสด..เพื่อจะได้ให้เกษตรกรได้รับรู้

กลไก การเอาเปรียบของผู้ที่อ้างว่า...ทำเพื่อชาวนา...

ถ้าจะบอกว่าถ่ายทอดสดไม่ได้ เพราะเป็นการไต่สวน

ตามกระบวนการ

ถ้ามองว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสาธารณชน...ก็น่าจะอนุโลม

ให้มีการถ่ายทอดสด การไต่สวนได้...มั่งค่ะ

ดูแล้ว...ท่าจะรอดยาก...ยิ่งดิ้นก็ยิ่งส่อแววเป็นวัวสันหลังหวะ

มุมส่วนตัวน่ะค่ะ...

สถานการณ์ 2 อาทิตย์ก่อนผลทางคดีจะมีความชัดเจน ทุกอย่างอยู่เหนือการคาดเดา

นปช จะออกมากน้อยแค่ไหน..(ซึ่งดูจากการซ้อมมา 2-3 ครั้ง บวกกับสังเวยแนวร่วม

อย่างโกตี๋ ตั้งอาชีวะ หรือเหตุการณ์ถล่มขวัญชัย..คิดว่าคงไม่มากไปกว่านั้น )

แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้ายของทักษิณและสาวก อาจจะเกิด

เหตุเทหมดหน้าตัก แลกกันหมัดต่อหมัด เหล่าฮาร์ดคอร์เงียบผิดปกติ ส่งแต่แรมโบ้

ออกมาแย้ว ๆ อยู่หน้าจอ...อะไรก็เกิดขึ้นได้

ในขณะเดียวกัน...การปฏิรูป ซึ่งเป็นแนวทางการเคลื่อนไหวของ กปปส วางไว้

ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากหลาย ๆ ฝ่าย

แต่...ก็ไม่มีความคืบหน้า ยังมองไม่เห็นจุดเริ่มต้นที่เป็นรูปธรรม ถึงแม้ว่ารูปแบบ

และแนวทางเริ่มจะมองเห็นบางแล้ว แม้จะไม่ 100% ก็ตาม ถึงกระนั้น ถ้าทุกอย่าง

ยังเป็นเพียงแค่แนวทางที่ถูกเขียนอยู่บนกระดาษ...มันก็จะเป็นเพียงนโยบาย เป็น

เพียงแนวทาง เป็นเพียงความคิด...ซึ่งจะสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่เริ่มลงมือกระทำ

นั้นก็หมายความว่า...การเคลื่อนไหวของคุณอภิสิทธิ์ ในครั้งนี้ เป็นการแสวงหา

จุดร่วมจากกลุ่มใหญ่ ๆ ที่พอจะมีพูดคุยกันได้ ที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรง ถือเป็น

การเริ่มต้น เป็นอารัมภบท...เป็นคำนำ เป็นคำนิยม เป็นบทวิจารณ์ ก่อนที่จะ

เริ่มต้นเข้าสู่เนื่อหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตามลำดับ

ส่วนที่ว่า...กลุ่มใดที่จะให้คำนิยมเป็นกลุ่มแรก...

ประเด็นนี้..คงต้องย้อนไปดูสถานการณ์ ดูตัวแปร ดูจุดเสี่ยงที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น

ของสถานการณ์ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้น...จัดไปตามความสำคัญก่อน-หลัง

การเคลื่อนไหวของคุณอภิสิทธิ์ จึงเป็นเพียงผู้นำสาร รับสาร ด้วยเหตุและผล

บนพื้นฐานของสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ทุกคนอยากเห็น

ทางออกของประเทศ ที่มิใช่บนความสูญเสีย..ที่อาจจะเกิดขึ้น หรือ ไม่เกิดขึ้น

อยากที่ใครจะคาดเดา...

คุณอภิสิทธิ์ จึงไม่ใช่คนกลาง..เพราะในอีกสถานะหนึ่ง ก็คือ คู่ขัดแย้งร่วม ที

ไม่สามารถปฏิเสธได้..

คุณอภิสิทธิ์จะไม่ได้อยู่ในฐานะที่เรียกร้อง ต่อรอง ไม่ว่าจะมีผลประโยชน์ร่วม

หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้...คุณอภิสิทธิ์น่าจะทราบดี..

นั่นก็หมายความว่า...

หากการเคลื่อนไหวครั้งนี้จบลงด้วยการต่อรอง คุณอภิสิทธิ์ จะตกเป็นจำเลย

ของสังคมทันที แบบที่เรียกว่า...ขุดหลุมฝังตัวเอง...

ส่วนผู้ที่รับหน้าที่เขียนบทวิจารณ์ ก็คงจะเห็นกันอยู่แล้ว สาวกทักษิณที่กลัว

ว่าจะเสียผลประโยชน์ และ กลุ่มที่รอเสี้ยมอยู่อย่างกระอักกระอ่วน

ส่วนที่ว่า..

ใคร กลุ่มใด จะเป็นผู้เริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม ตามแนว

ทาง แนวนโยบาย ในแผ่นกระดาษ ให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างถูกต้องตาม รธน

รองรับ 

คงหนีไม่พ้น...กกต หรือ สว...ในฐานะที่เป็นองค์กรตาม รธน ที่มีอำนาจเต็ม

ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อขจัดปัญหาข้อโต้แย้งที่อาจจะ

เกิดขึ้นได้

เพื่อให้การปฏิรูปที่เกิดขึ้น..เป็นการปฏิรูปที่อยู่ภายใต้ รธน และเป็นที่ยอมรับ

จากนานาอารย

ก็ต้องรอดูกันต่อว่า...การเริ่มต้นลงมือกระทำ จะได้รับการตอบรับหรือไม่

การที่จะปฏิเสธ ไม่ให้นักการเมือง ไม่ให้ทักษิณ ไม่ให้กลุ่ม นปช  หรือกลุ่มใด

กลุ่มหนึ่งเข้าร่วมการปฏิรูป ถ้าจะมองตามสิทธิพื้นฐานแล้ว ก็เป็นไปได้ยาก

แต่สิ่งที่พอจะกระทำได้ คือ ให้การเข้าร่วมของแต่ละกลุ่มอยู่ภายใต้กรอบ

ของ รธน ภายใต้กรอบกฎหมาย จะเรียกร้องเพื่อจุดประสงค์ใด จุดประสงค์

หนึ่ง เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือ เพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ได้

กลุ่มที่คาดว่าจะสร้างปัญหา..จึงเป็นกลุ่มสุดท้าย....เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้

ทุกอย่างจบลง ก่อนที่จะเริ่มต้น

การปูทางไปสู่การปฏิรูปอย่างตามรูป...ไม่ใช่เรื่องง่าย..แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก

ถ้าค่อย ๆ เทพื้น อัดดิน ลงเสาเข็มให้มั่นคง..เลือกแผ่นกระเบื้อง แผ่นอิฐ

อย่างรอบคอบ ให้มีรอยบิ่น รอยร้าว น้อยที่สุด...

ทางเดินที่ปู ก็สำเร็จได้ไม่ยาก....

อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป...ยังไม่อยากคาดเดา..

รู้แต่ว่า...ช่วงบ่าย ๆ วันนี้...

พท..มีการประชุม ทั้งอดีต สส และ ฝ่ายยุทธศาสตร์

ก็แค่คนที่อยากให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง คนหนึ่งเท่านั้น

ที่ฉวยโอกาส หยิบเหตุการณ์มาเป็นชนวน เพื่อหวังให้เกิด

บางสิ่งที่ต้องการ...

แต่ดูท่าว่า....จะไม่เป็นอย่างที่หวัง

คนผิด เค้าก็ยอมรับผิด และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ว่ากันไปตามกฎหมาย...

ใจเย็น ๆ ค่ะ...แล้วค่อย ๆ วิเคราะห์ อย่ามองเพียงจุดใดจุดหนึ่ง

มองกว้าง ๆ มองให้ลึก ๆ แล้วจะเข้าใจ...

ท่านใดเคยอ่าน สามก๊ก...คงมองออกได้ไม่ยาก

สามก๊ก...มีไว้เป็นพี้นฐาน สุดแล้วแต่ว่า

ใครจะนำมาประยุกต์ใช้ ปรับให้เข้ากับสถานการณ์อย่างไร

การเคลื่อนไหวของคุณอภิสิทธิ์ ครั้งนี้..แม้แต่ สรยุทธิ์ ยังมึน

ช่วยหาทางออกให้ประเทศ ในฐานะที่เป็นคนไทย ที่รักคนไทยด้วยกัน

ผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหน

ที่แน่ ๆ ดีกว่า  คนที่ไม่พาย แต่ชอบเอาเท้าราน้ำ

วานทีเถอะ...ถ้าคิดว่า วิธีที่คิดน่ะ สามารถนำพาประเทศให้พ้นวิกฤตได้

ช่วยกรุณา..

ลุกขึ้นมาปฏิบัติหน่อยได้มั้ย...อย่ามัวแต่นั่งวิจารณ์..อย่ามัวแต่ตำหนิ

อย่ามัวแต่ติเตียน...ลุกขึ้นมาเลย..มาเป็นแกนนำ...

อย่ามัวแต่หลบอยู่หลังจอ หลังกล้อง...

แสดงว่า...ข่าวลือที่ว่า...

เศรษฐา ท้าชน ทักษิณ...คงเป็นจริง

แทนที่จะชี้แจง..ด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง...

กลับทำแต่..แบบนี้...ศักดิ์ศรีคนเสื้อแดง..จะเหลืออะไรเนี้ย

น่าสงสาร..นายกปู น่ะ...

ยิ่งแนวร่วมเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่...

ความน่าเชื่อถือ ของนายกปู..ก็ยิ่งลดน้อยถอยลง

วันนี้..แทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว...

ก่อนจะถามว่า พร้อมหรือไม่พร้อม...คุณคงต้องไปศึกษาสภาพการเมืองการปกครอง

ในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น จนถึงช่วงเวลานั้น...คุณต้องศึกษาสภาพการดำเนินชีวิต

ของประชาชนพลเมือง ความผูกพันของประชาชนและสถาบัน จากอดีต จนถึง

ช่วงเวลานั้น...คุณต้องมองด้วยใจที่ไร้อคติ..

ประชาชน กับ สถาบัน ดำเนินคู่กันมาอย่างราบรื่น ความเปลี่ยนแปลงค่อย ๆ

ดำเนินไปอย่างเป็นขันเป็นตอน ค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ เปิดบ้านรับอารยธรรม

ตะวันตก และชนชาติอื่น เพื่อให้ประชาชนค่อย ๆ ปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เพราะ ประชาชนส่วนใหญ่ในขณะนั้น น้อยคนที่จะได้รับการศึกษา ก็ต้องค่อย ๆ

ให้ปรับตัวที่ละนิดที่ละน้อย

จนกระทั้ง เริ่มมีการจำลองการปกครองระบอบประชาธิปไตยขึ้นภายในเขต

พระราชฐาน เริ่มมีการทดลองรวบรวมเขียนข้อกฎหมาย หรือที่เรียกว่า รธน

แต่ก็ต้องปรับเปลี่ยนจากระบอบของตะวันตก มาให้สอดคล้องกับการดำเนิน

ชีวิตของประชาชนคนไทย เพื่อไม่ให้กระทบกับการดำเนินชีวิตของพลเมือง

แต่ว่า...

มีกลุ่มหัวสมัยใหม่ ที่มองไปไกล คิดว่า การเปลื่ยนแปลง สามารถกระทำ

ได้ทันที เพราะสิ่งที่ได้ไปเรียนรุ้จากต่างชาติ โดยลิมคิดไปว่า

การดำเนินชิวิตของประชาชนคนไทย กับ ต่างชาตินั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง

เหตุจึงเกิด...แต่สุดท้าย...การเปลื่ยนแปลงที่ก้าวกระโดด ก็ต้องสะดุด

จะโดยเหตุใด จะเป็นเพราะต้องการชิงอำนาจกันเองหรือไม่...ตอบไม่ได้ค่ะ

เพราะไม่ได้เกิดในยุคนั้น ไม่มีญาติพี่น้องที่เกิดในยุดนั้นมาบอกเล่าให้ฟัง

ว่า ยุคนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ไอ้ครั้นจะ..หาอ่านตามหนังสือ ก็คงได้เพียงการรับรู้ผ่านตัวอักษร ที่ขึ้นอยู่

กับว่า ใคร ฝ่ายใด เป็นผู้เขียน เป็นผู้บันทึก...ก็ย่อมจะเขียนไปในแนวทาง

ที่สนับสนุนฝ่ายของตัวเอง...

แต่ถ้าอยากจะหาหนังสือสักเล่ม...แนะนะค่ะ

" สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น.." 

ลองหามาอ่าน..ประกอบ กับหนังสือ ที่ฝ่ายปรีดี เป็นผู้บันทึก..มีให้เลือกอ่าน

หลายเล่ม..ไม่ว่าจะเป้นที่จัดพิมพ์ใหม่ หรือ หนังสือเก่า..มีให้เลือกอ่าน

เค้าเรียกว่า..พลาด แบบมีหลักฐานซะด้วย

นี่หล่ะ..ที่จะได้เป็นหลักฐาน ที่มัดทั้ง รัดทะบาล ทั้ง สอรส

ทั้งบรรดาขี้ข้า แบบเป็นลายลักษณ์อักษร

แบบดิ้นไม่หลุด แก้ตัวอย่างไรก็ไม่พ้น..

สร้างหลักฐาน ด้วยตัวของตัวเองอีกต่างหาก..

เป็นบทเรียนของผู้ที่ไม่รุ้จักยับยั้ง อารมณ์

จนควบคุมสติไม่ได้...

ปัญหา..ไม่ได้จบที่ว่า...

สถานภาพ นายก จะสิ้นสุดหรือไม่..

แต่...จะไปไกลกว่านั้น...

ศาลปกครอง...พิพากษาว่า..เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ..

รอศาลรัฐธรรมนูญ..พิพากษา...สถานภาพนายก

แน่นอนว่า..หมายถึง สถานภาพ ณ วันที่ลงนามในคำสั่ง

ตามคำพิพากษาของ ศาลปกครอง..

แปลว่า...คำสั่งนั่นเป็นโมฆะ...

- ตำแหน่ง...ผบ ตร ของ พี่ชาย...จะสิ้นสุดลงด้วยหรือไม่

เพราะเป็นการเข้ารับตำแหน่งภายใต้คำสั่งที่ไม่ชอบ

- ถ้าศาลพิพากษาว่า สิ้นสุดสถานภาพนายก ณ วันลงนาม

ในคำสั่ง..

หมายความว่า..ไม่ได้เป็นนายกตั้งแต่วันที่ลงนาม..

แล้ว..เงินเดือน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ลงนามไป...

ต้องจ่ายคืนกรมบัญชีกลางหรือป่าว..

ที่สำคัญ..ตำแหน่งนายกรักษาการ ที่อ้างกันอยู่ตอนนี้

ใช้สถานะอะไรที่จะดำรงตำแหน่งนายกรักษาการ

เพราะ สถานภาพนายก..สิ้นสุดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ลงนาม

กรณีศึกษา...ดังตัวอย่างที่

รมต ท่านหนึ่ง เคยฟ้องร้อง ให้ปลด คุณอภิสิทธิ์ ออกจาก

การเป็นอาจารย์ โรงเรียนนายร้อย...และให้คืนเงินเดือน

คืนยศ...ย้อนหลังไปตั้ง  20 กว่าปี...ยังลงนามปลดได้

นับประสาอะไร..กับ การลงนามในคำสั่งที่ไม่ชอบ

ที่ผ่านมาเพียงไม่นาน...

จะยื้อเวลาไปทำไม...ถ้ามั่นใจว่า

- เป็นคำสั่งที่ถูกต้อง

- ศาล ไม่มีอำนาจรับคำฟ้อง

- ศาล ไม่มีอำนาจพิจารณา

ก็สู้กันในกระบวนการยุติธรรม หาข้อกฎหมายมาแก้ต่าง

อย่าใช้แค่วาทกรรม

ให้ ศอรส ออกแถลงการณ์ ประจานตัวเองมาทำไม

ยิ่งดิ้น..เชือกก็ยิ่งรัดคอตัวเอง...

ถ้าบรรพบุรุษที่เคยสละเลือดเนื้อ ชีวิต เพื่อปกป้องแผ่นดินในอดีต

ถ้าทหารหาญ ที่ทำหน้าที่ตามแนวชายแดน เพื่อปกป้องอธิปไตย

มารับฟังความคิดอ่านเช่นนี้..

ท่านเหล่านั้น..คงเสียใจ..เสียดาย ที่พวกท่านสู้อุตส่าห์สละชีวิต

เลือดเนื้อ ลมหายใจ เพื่อปกป้องแผ่นดิน ให้คนเช่นนี้ได้อาศัย

ได้มีที่ทำกิน โดยไม่ต้องระเห็จเร่รอนเป็นคนไร้แผ่นดิน ไร้ชาติ

ก็บอกแล้ว...ว่าแค่..สัญญลักษณ์ที่เลือกใช้ ก็บ่งบอกแล้วว่า

แท้จริงแล้ว..ฝักใฝ่ในแนวทางใด...

ปว...แล้วทักษิณได้อะไร...

1)  ฉีก รธน 50 ที่มีความพยายามจะแก้ไขมาตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าๆ เท่าที่น้องสาวเป็น คุณนาย ก

2)  ได้ มาตรา 309 ใน รธน ฉบับหมอเหวง หรือ ฉบับคุณ ดร.เหลิม ซึ่งดีกว่า พรบ นิรโทษสุดซอย

3)  นำ ม 309 ยื่นต่อกระบวนการยุติธรรม ขอรับเงินคืนทุกบาททุกสตางค์ พร้อมดอกเบี้ย

4)  ได้ลงตะกร้าล้างน้ำ ฟอกตัวเอง น้องสาว ครม และสาวก ด้วยน้ำยาฟอกขาวอย่างดี

5)  นำไปกล่าวอ้างกับ อารยะ ได้ว่า ตนและน้องสาวโดนกลั่นแกล้ง อย่างที่พ่น มาตลอด 7 ปี

6)  ได้มีข้ออ้าง นำไปแก้ตัวกับ ชาวนา ที่โดน น้องสาว และ ครม โกงอย่างเลือดเย็นที่สุด

และ ปลีกย่อย ๆ อีก

เพิ่มเติม...

ทักษิณ จะ ปว ตัวเอง หรือไม่...

ไม่...เพราะไม่มีกำลังพล ที่จะกระทำ 

แต่...มีความพยายาม ที่จะให้เกิดความวุ่นวาย จน ผบ ทบ ต้องออกมาระงับเหตุตามหน้าที่

เพียงเท่านี้...ก็เข้าทางทักษิณแล้ว

ส่วนตัวน่ะค่ะ..

ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับแนวคิดของท่านสักเท่าไหร่ค่ะ

ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านของเมือง ท่านอยู่ในสถานะที่

เป็นเสาหลักของบ้านเมือง ไม่ควรนำเรื่องวุ่นวายที่

ท่านไม่ได้เกี่ยวข้อง ท่านมิได้เป็นผู้กระทำ ไปให้ท่าน

ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ..หรือ นำสิ่งที่ไม่ได้ไปให้ท่าน

ปัญหาที่เกิดขึ้น...เพราะคนรุ่นเรา ก็สมควรที่เรา ๆ

ท่าน ๆ จะลงมือแก้ปัญหาด้วยกำลัง ด้วยสติ ด้วย

ความสามัคคีของเรากันเอง

ในอดีต ท่านล้วนเหน็ดเหนื่อย ในการปกป้องรักษา

ดูแลบ้านเมือง เพื่อให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้อาศัย

อย่างสงบ สันติ สามัคคี

ณ เวลานี้ ก็ควรให้ท่านได้พัก อย่านำเรื่องร้อน ๆ

ไปให้ท่านเลย

ปัญหาที่เกิดขึ้น...เกิดขึ้นเพราะ..คน ๆ เดียว

ที่ต้องการอำนาจ ต้องการความมั่งคั่ง มักใหญ่ใฝ่สูง

กับเหล่าสาวก ที่มองเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว

เพียงไม่กี่กลุ่ม...

เชื่อว่า..ด้วยกำลัง ความตั้งใจ ความสามัคคี ด้วยสติ

ของพวกเรา...สามารถที่จะนำพาประเทศให้ผ่านพ้น

ไปได้...อาจจะใช้เวลาสักนิด..แต่ จะผ่านพ้นไปได้

เชื่อเช่นนั้นค่ะ..