ช่วยเตือน สติ พวกผมหน่อย

เพื่อนคนนี้คบมานานแล้วครับ  ตั้งแต่เรียนที่มหาลัย  มันอยู่ชมรมพุทธศาสน์  

 

ส่วนอีกคนเป็นลุงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อ   แต่ปัญหาที่เจอเหมือนกันคือ  

 

ป้า(คนที่เป็นแฟนลุง) และ แฟนเพื่อน   มีปัญหาด้านเงินทองพอมีเงินเท่าไร

 

ก็เอาไปทำบุญ  แทบทุกอีเว้นท์  โดยมีความเชื่อว่าจะได้ใช้ในชาติหน้า

 

ตอนนี้หลงหัวปักหัวปำ  ลำพังเงินที่ใช้กินก็ไม่ค่อยจะมีกัน  สงสารก็แต่ทั้ง

 

ป้าและแฟนเพื่อน   ผมเคยลองคุยกับเพื่อนเรื่องนี้มันด่าเลย  มันบอกอะไร

 

ที่ไม่เห็น  มันไม่ได้แปลว่าไม่มี  เราทำไปเราใช้ในชาติหน้าได้  (นึกในใจ

 

มึงเอาชาตินี้ให้รอดก่อนดีไหม)  

 

 

 

คหสต.  เรื่องทำบุญเป็นเรื่องที่ดีนะ  แต่ทำไมต้องทำกับวัดที่รวยขนาดนั้นด้วย

 

แถมหลายอย่างที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้  

ท่านทรงธรรม  ............  
ลองศึกษา คำว่า CHURN RATE 
แล้วเปรียบเทียบ ดู สิ่งที่วัดพระธรรมกาย กำลัง " ทำ " กำลัง " ดิ้น รน " อยู่

จะได้เห็นอะไรดีๆ 


ยุคสมัยนี้ ที่ ยิ่งลักษณ์ เป็น รัฐบาล ไม่ใช่ ขาขึ้น ของวัดพระธรรมกาย อย่างที่หลายคนคิด
แต่เป็นการ พยุง ขาลง ของวัดพระธรรมกาย ต่างหาก


CHURN RATE ลองดูนะ
 

creative ของวัดนี้ ชนะเลิศ

 

ความคิดสร้างสรรค์ ไม่เคยหมด จริง ๆ

 

หลวงพ่อ แก ก็เหมาะสมแล้ว ที่จบปริญญามา

 

 

ไม่ธรรมดาจริง ๆ เรื่อง พุทธพาณิชย์ ของแก

 

กินขาด ทุกวัด ทุกอาศรม

 

อย่างน้อย ก็เรื่อง สีสัน แล้วก็ มูลค่าของศรัทธา

 

 

ฟังแล้วเดี๋ยวจะงง จริง ๆ พวกไอเทม สะสมบุญ

 

พวกนี้ ผมว่าจริง ๆ ก็เลียนแบบ มาจาก พวก

 

เกมออนไลน์ นะว่าไหม เพียงแต่ว่า

 

 

แกจะเปรียบเทียบ อิทธิฤทธิ์ ของ ไอเทมแก

 

ด้วย ความเป็นมงคล ของ ไอเทมนั้น ๆ ไง

 

ไม่ใช่ พลัง และ ความสามารถพิเศษ ของไอเทม

 

แบบในเกม นะ

 

 

ผมว่า แกลึกซึ้งนะ อย่าลืมนะ

 

คนเรา วัยรุ่น เรียนจนจบ มหาวิทยาลัย

 

บางที ยังทุ่มเงิน ซื้อไอเทม หลายพัน ยังมี

 

เพราะว่า มันเข้าถึง โดนใจ ไง

 

 

ไอ้วิธีการ ที่เราคิดว่า สั่ว ๆ จับไต๋ ง่าย ๆ

 

มันโดนใจ สาวก มาก็มาก แล้วนะ

 

 

อย่างหนึ่ง ผมเห็นว่า ความโลภ น่ะ

 

สำคัญนะ บางคน โลภ อยากได้บุญ

 

บางคน โลภ อยากได้ ของสูงค่า มาเก็บรักษา

 

เราจะได้ เข้าถึงจิตใจ คนที่ ประมูลของ

 

ด้วยราคาแพงระยับ ได้บ่อย ๆ จริงไหม

 

 

ชมหลวงพ่อ แกอีกที จากใจเลย

 

พุทธพาณิชย์ แบบนี้ อีกสักชาติ

 

เราอาจหา เซียน แบบแก ได้ยาก

ท่านทรงธรรม ...... ติดตาม Comment Post ของท่านมาตลอด ชอบอ่าน วิธีคิด และ วิธีเขียน ของท่าน 

ก็ ท่านเจ้าอาวาส จบ สาขา การตลาดมานี่ เรียนมาก็เลยได้ใช้จริง

เดี๋ยวนี้ creative ของวัดนี้ เริ่ม ไม่ Work แล้ว ( ไม่ใช่ในเรื่องนี้ เพราะเป็น ข่าวเก่า ) 
อีกทั้ง Package ทั้งหลาย เริ่ม ขายไม่ออก และ ขายไม่หมด
บางโครงการ ยังค้างเติ่ง ประจาน อยู่ในวัดพระธรรมกายเลย

ท่านทราบหรือไม่ว่า เดี๋ยวนี้ ในวัดพระธรรมกาย กระแสเงินสด เริ่มขาดมือแล้ว จากหลายสาเหตุ
ถึงต้องใช้เงินจากแหล่งอื่น เช่น จาก รัฐบาลเป็นต้น ผ่านสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

นอกจากนี้ วัดพระธรรมกาย ยังมีความพยายาม หา กลุ่มเป้าหมายใหม่ มาเติมเต็ม


ไว้รู้จักกัน มากกว่านี้ เราจะเล่าให้ท่านฟัง 

ข่าวเก่า จนเราลืมไปแล้ว ด้วยซ้ำ

จริงๆแล้ว วัดพระธรรมกาย มี ค้อน หลากหลาย Design และ Package และ Event นับไป 5 - 7 ปีย้อนหลัง เป็นอย่างน้อย

ถ้าไม่ถูก share ก็ไม่มีใครรู้ คือมีครบทั้ง Pre / Post Sponsorship Package ทั้งก่อน และ หลัง
สำหรับทั้งสมาชิกเขตใน และ สมาชิกเขตนอก

ค้อน ตอกเสามงคลต้นแรก เอย หรือ ค้อน ตอกเสามงคล ต้นสุดท้าย เอย เป็นต้น

พลังประชาชน โค่นล้มระบบทักษิณ

เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย สาขาแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ชอบทำตัวลอกคราบ บางวันครองจีวร บางวันก็ลอกคราบ เปลี่ยนจากจีวรเป็นชุดเสื้อผ้า พาสาวๆเที่ยว เดินช้อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้า พอตกคํ่าก็ลอกคราบเปลี่ยนจากเสื้อผ้า เป็นจีวร

-----------------------

จริงมั๊ยเนี่ย

เห็นท่านถามว่า .... จริงมั๊ยเนี่ย เราจึงขออาสา เล่าให้ท่านฟัง พอสังเขป ส่วนท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แล้วแต่ท่าน เรามีความตั้งใจแค่มาให้ข้อมูลเท่านั้น 

เริ่มเรื่องคือ ..... เรื่องนี้ เกิดมาแล้ว 2 - 3 ปี เป็นเรื่องเก่า
1. พระในรูป ในอดีต มีความเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย จริง
2. พระในรูป มี กิริยา ไม่งาม จริง ( ไม่งามในความเป็นพระอย่างไร เราไม่ขอเล่า ) 
3. วัดพระธรรมกายพอ ทราบข่าว ก็สอบสวน เอง และ พิจารณาโทษและตักเตือน ไม่ดองเรื่องให้ล่าช้า ไม่ลูปหน้าปะจมูก ส่วนพระในรูป ขอลาสิกขาจากความเป็นพระวัดพระธรรมกาย ด้วยสำนึกผิดและละอาย

จากข้อ 1 - 3 เป็นเรื่องจริงหมด แต่ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดในโลก Internet ที่พยายาม ให้ความจริงบางส่วนเป็นความจริงทั้งหมดของผู้รับสาร
คือการเอารูปต่างเวลา ต่างสถานะ ต่างเพศ มาสวมโยงเป็นเรื่องเป็นราว เช่นเดี๋ยวพระเดี๋ยวโยม ซึ่งไม่ใช่ความจริง

ทุกวงการมีทั้งคนดีและไม่ดี เป็นเรื่องธรรมดา เรื่องที่ทำผิดจริง บางครั้ง ก็ถูกแต่งแต้ม ให้ ผิด มากขึ้น 
 

เข้ามาให้ข้อมูลเฉยๆ ไม่เกี่ยวกับ ทัศนะ การเมือง หรือ การศาสนา
ไม่ได้สนใจจำว่า สมาชิกคนนั้น คนนี้ สีอะไร 

พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ภูมิพลอยุดลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2505 เป็นปีที่ 17 ในรัชกาลปัจจุบัน
และ
ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน
 

มาตรา 29  พระภิกษุรูปใดถูกจับโดยต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา  เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการไม่เห็นสมควรให้ปล่อยชั่วคราว และเจ้าอาวาสแห่งวัดที่พระภิกษุรูปนั้นสังกัดไม่รับมอบตัวไว้ควบคุม หรือพนักงานสอบสวนไม่เห็นสมควรให้เจ้าอาวาสรับตัวไปควบคุมหรือพระภิกษุรูปนั้นมิได้สังกัดในวัดใดวัดหนึ่ง ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้

มาตรา 30  เมื่อจะต้องจำคุก กักขัง หรือขังพระภิกษุรูปใดตามคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลมีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ และให้รายงานให้ศาลทราบถึงการสละสมณเพศนั้น

http://www.songbr.or...god/prb_all.htm

 

เรารู้น้อย

 

ไม่วิจารณ์

 

สาธุ = อันว่า ดีละ
ถูกต้องแล้ว สมเป็น สมณะ

เรารู้น้อย ไม่วิจารณ์

ไม่รู้ ไม่ชี้ = ไม่รู้ อย่าชี้ ..... จะได้ไม่ก่อ วจีทุจริต ให้เป็นอกุศล 
หรือไม่รู้ แต่อยากรู้ ก็ต้องเร่งศึกษา

ธรรมะไม่ควรถูกบิดเบือน....คำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นไปเพื่อความละคลาย เพื่อความหลุดพ้น....การกล่าวคำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้นล้วนเป็นธรรมะ เป็นแก่นแท้ ไม่ว่าจะแปลอย่างไรก็ตาม(แต่ควรรักษารากฐานของภาษาเดิมสืบต่อไป)   ............ส่วนคำสอนใดที่ไม่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น แต่เป็นไปเพื่อกามสุข  ...อันนั้นยังไม่ใช่แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องนรกสวรรค์ เพื่อชี้ทางกุศลกรรม เพื่อสั่งสอนเรื่องวัฏฏะอันน่าเบื่อหน่ายคือการเวียนว่ายไม่รู้จบสิ้น เพื่อให้จิตสงบเป็นกุศล และสำหรับผู้ที่จิตสงบระงับแล้ว พร้อมฟังธรรมะที่สูงขึ้น ในลำดับต่อไป  เพื่อรู้แจ้งสู่ความหลุดพ้นจากกามสุข สู่นิพพาน พ้นวัฎฎะ และดับสูญทั้งปวง....นั่นแหละสุขอย่างยิ่งไม่มีสิ่งใดเจือปน..........

ดังนั้นแก่นธรรมของพระพุทธศาสนา...มิใช่อยู่ที่ดุสิตบุรี...แต่อยู่ทีนิพพานดับสูญ..ขาดสิ้นจากความมีตัวตน..........เพียงแต่บางวัดเอาคำในพระศาสนามาเป็นจุดขาย ก็เท่านั้นเอง มนุษย์ผู้มีปัญญาพึงศึกษาเอาอย่างกว้างขวาง...ว่าอยากได้แบบไหน

เยี่ยม
แยกแยะได้ดี
นี่สิ น่าคุยด้วย
 

ท่าน dek-harte 

ดุสิตบุรี แปลไทยว่าอะไรครับ ===> ปัญหาที่มันอยู่นี่ เพราะ แปลไทยเป็นไทยนี่แหละ ความรู้ไม่เสมอกัน ก็ขัดแย้งกัน หรือ สงสัยไปหมด ป่วยการ

มีประโยชน์ด้านไหนครับ ====>  ถ้าในทางการเรียน บาลีไวยากรณ์ เพื่อ เป็นแบบ สำหรับ ความสละสลวย ในการแต่งฉันทลักษณ์

ทำอะไรถึงไปได้ครับ ======> Google 

คงพอได้แล้วมั๊ง 

 

 

แต่เอ๊ะ ผมไม่เคยได้ยินชื่อดุสิตบุรีมาก่อน เท่าที่ทราบ ในคำสอนพระพุทธศาสนาก็ไม่เคยมีบัญญัติไว้

 

ขอขยายความนิดเดียว ไม่อยากให้ ก้าวล่วง พระศาสนา ส่วนเรื่องวัด ก็เป็นเรื่องของท่าน
กระทู้นี้ ก็เห็นแล้ว ใน Pantip ห้องศาสนา เหมือนกัน

ถ้าเรียน บาลีเปรียญธรรม ตั้งแต่ ประโยค 1 - 2 แปลธรรมบท (คือ แปล มคธ เป็น ไทย) คำว่า ดุสิตบุรี เป็น คำที่ พระพุทธเจ้า ตรัส สอน โดยยกเหตุการณ์ ที่ พระสารีบุตร สอนชายคนหนึ่ง ให้ยังจิต ตามคำสอน จนบรรลุ โสดาปัตติมรรค แต่ชายคนนี้ เมื่อตามส่ง พระสารีบุตร ก็โดนแม่โค ขวิดตาย แต่ อานิสงส์ก็ทำให้ได้เกิด ใน ..... " ดุสิตบุรี "

จริงๆ ภาษาบาลี จะใช้ " ป ปลา " คือ ดุสิตปุรี

อย่า บาป โดย ไม่จำเป็น เลย ....... ไม่คุ้ม
 

 

 

 

ดุสิตบุรี หรือ ดุสิตฺปุร ก็ไม่มีอยู่จริง

 

ท่านไปซื้อหนังสือ ธมฺมปทฎฺฐกถา (จตุตฺโถ ภาโค) มาอ่านเสียบ้าง ซึ่งเป็น ตำราเรียน ภาษาบาลี ซึ่งแม่กองบาลีสนามหลวง เอาเนื้อหาในตำรา มาใช้สอบความรู้ ราคาเล่มละ 65 บาทเอง

มันเป็นภาษาบาลี ท่านจะอ่านรู้เรื่องไหม
อยู่หน้า 90 บรรทัดที่ 4 นับจากล่าง

อ้อ ท่านต้องรู้เรื่อง วิภัตติ ด้วย เพราะ แจกเป็น สัตตมีวิภัตติ แปลได้ว่า ( ใน ดุสิตบุรี )
 

คือมันไม่ใช่ว่า วัดพระธรรมกาย  make คำนี้ มั่วๆ ขึ้นมาเอง

จริงๆแล้ว เป็น คำที่ พระพุทธเจ้า ใช้คำนี้ จริงๆ ในหลายๆ ตอน ของ ธรรมบท ซึ่ง พระภิกษุในพระพุทธศาสนา ต้องใช้เป็น ตำราเรียน ตามกิจที่พระพุทธเจ้า มอบหมาย ซึ่งก็คือ คันถธุระ โดยพระพุทธองค์ ทรง กล่าว ถึง อานิสงส์ ของกรรมดี เมื่อกระทำซึ่ง กาละ (แปลว่า ตาย) ผลแห่งกรรมดี ก็จะให้ไปเกิด ในสวรรค์  ชั้นต่างๆ ซึ่งในที่นี้ หมายถึง สวรรค์ชั้น ดุสิต 

แต่คำที่พระพุทธองค์ใช้ตรัสสอน เป็น คำที่ ไพเราะ เกินกว่า ที่ คนธรรมดา จะ คิดได้
จึงต้องมีวิชาแปล มคธเป็นไทย เพื่อให้เข้าใจทั้งเนื้อความและ ไวยากรณ์

วัดพระธรรมกาย ก็ แค่ เอาคำที่มีอยู่จริงๆ มาใช้ แค่นั้นเอง 

อย่าลากไปให้ไกล จนเกิดบาป เพราะ ความไม่รู้ เพราะความคะนอง เลย

ขอ สักครั้ง


อย่าโกรธกันนะ ก็ตามอ่าน ทั้ง 2 ท่านมาโดยตลอด 
 

แต่เอ๊ะ ผมไม่เคยได้ยินชื่อดุสิตบุรีมาก่อน เท่าที่ทราบ ในคำสอนพระพุทธศาสนาก็ไม่เคยมีบัญญัติไว้

 

ขอขยายความนิดเดียว ไม่อยากให้ ก้าวล่วง พระศาสนา ส่วนเรื่องวัด ก็เป็นเรื่องของท่าน
กระทู้นี้ ก็เห็นแล้ว ใน Pantip ห้องศาสนา เหมือนกัน

ถ้าเรียน บาลีเปรียญธรรม ตั้งแต่ ประโยค 1 - 2 แปลธรรมบท (คือ แปล มคธ เป็น ไทย) คำว่า ดุสิตบุรี เป็น คำที่ พระพุทธเจ้า ตรัส สอน โดยยกเหตุการณ์ ที่ พระสารีบุตร สอนชายคนหนึ่ง ให้ยังจิต ตามคำสอน จนบรรลุ โสดาปัตติมรรค แต่ชายคนนี้ เมื่อตามส่ง พระสารีบุตร ก็โดนแม่โค ขวิดตาย แต่ อานิสงส์ก็ทำให้ได้เกิด ใน ..... " ดุสิตบุรี "

จริงๆ ภาษาบาลี จะใช้ " ป ปลา " คือ ดุสิตปุรี

อย่า บาป โดย ไม่จำเป็น เลย ....... ไม่คุ้ม
 

เหมือนจะบอกว่า

1. โง่จริง ไม่ได้แกล้ง โง่

2. ปกติ ก็เป็น คนชอบ "  มั่ว  " ได้ทุกที่ 
 

 

ยึดติดในลาภยศ ยอมผลาญงบกว่า 3800ล้านบาทเพื่อให้ตัวเองได้เลือกตั้ง หวังกลับมามีอำนาจ แม้ประเทศชาติจะพินาศ แม้เงินเลือกตั้งจะสูญเปล่า แม้ตัวเองจะโง่ ไร้ความสามารถ บริหารแย่ก็ดันทุรังจะเป็นนายกฯ

   หายไปนาน ....ในรูปนี้นางสวยที่สุด คงเสริมสวยไว้รอเป็นนางโง่อีกรอบ

 

หา .... นี่เรียกว่า สวย แล้ว เหรอ