iba

ดังนั้น ตะนิ่นตาญี จึงใคร่ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่

เขียนหนังสือ ห้วน-สั้น เกินไป ไม่ได้อธิบายใจความให้กระจ่างชัด

อันอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับ เพื่อนเพื่อน-พี่พี่-น้องน้อง ที่ เสรีไทย นี้ได้

ขออภัยจริงจริงครับ และขออนุญาตทำความเข้าใจกับเพื่อนเพื่อน ถึง ที่มา-ที่ไป

ของ ทรพี ดังที่ ผู้ใหญ่ ท่านนั้นได้แจ้งมา และ ตะนิ่นตาญี ได้เพิ่มเติมไว้แล้วแต่เบื้องต้น

ขออภัยเพื่อนเพื่อนทุกท่านด้วยครับ และขอขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ท่านนั้นที่ได้ กรุณา ต่อ ตะนิ่นตาญี ตลอดมา

ขอบพระคุณทุกท่านมากครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๑.๕๙ นาฬิกา

อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวกับกระทู้
แต่ผมอยากขอบคุณท่านตะนิ่นฯมากๆ ที่ "สอน" บทเรียนที่มีค่ามากแก่ผม
ทั้งที่ท่านไม่ได้สอนโดยตรง
คือบทเรียนของความอ่อนโยนและอ่อนน้อมครับ

ผมเชื่อว่าสมาชิกในเสรีไทยจำนวนมากเห็นความสุภาพอ่อนโยนตลอดมาของท่านตะนิ่นฯ
และหลายคนก็ชื่นชมท่านตะนิ่นฯ โดยไม่จำเป็นต้องเคยเห็นหน้าค่าตา หรือรู้จักชื่อเสียงตัวตนจริงแม้แต่น้อย
พวกเขาชื่นชอบท่านตะนิ่นฯ ก็เพราะความ "อ่อนโยนและอ่อนน้อม" ของท่านนี่เองครับ

ผมเป็นพวกโทสะจริตสูง และก้าวร้าว มันเป็นจริตเดิมที่ติดตัวมา และผมก็พยายามแก้ไขขัดเกลาอยู่
เพราะรู้ดีว่าอัตตาที่สูงลิ่ว อารมณ์ที่ก้าวร้าว กับความเจ้าโทสะ มันไม่ใช่แค่ทำร้ายคนอื่น แต่มันทำร้ายตัวผมเองด้วย
ผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากมักบอกผมว่า ความอ่อนโยนนี่แหละ แข็งแกร่งกว่าความแข็งกร้าวอีก
แต่ผมก็ทำได้บ้าง ทำไม่ไ่ด้บ้าง เวลาโดนจี้ต่อมอัตตานี่...จี๊ดขึ้นทุกที

จนผมได้มาอ่านข้อความของท่านตะนิ่นฯที่ผมโคว้ตมานี่แหละครับ
ถึงได้เข้าใจว่า...ธรรมชาติของความอ่อนโยนนุ่มนวล ไร้อัตตา มันให้ความรู้สึกแบบนี้เอง


และที่สำคัญ ท่านตะนิ่นฯไม่ได้"สั่งสอน"ใครเลยให้เอาตาม ท่านทำของท่านเองแบบนี้ สม่ำเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง

ผมเชื่อว่าท่านตะนิ่นฯคงมีอายุเยอะกว่าผมมาก จึงถือว่าท่านเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ผมจึงขอกราบขอบพระคุณท่าน ที่ได้ช่วยสอนให้ผมเข้าใจบทเรียนของความอ่อนน้อมและอ่อนโยน ในวันนี้นะครับ

ขอขอบพระคุณท่านจริงๆครับ

ถ้าเลือกได้
ไม่ขอเกิดวันเดียวกะมัน
ไอ่ชิงนรกมาเกิด

เออ.... ช่วงนี้รองนายกที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลปัญหา พาหลานสุดหล่อไปเยี่ยมห้องกรงครับ
ไปดูสัตว์ร้ายที่ติดจั่นหาแผ่นดินตัวเองไม่เจอ

ผมยกย่องคุณศรอรชุนที่อุตส่าห์ลดตัวไปแย้งพวกเสื้อแดงที่มิจฉาทิษฐิบังตาจนมองไม่เห็นทาง

เป็นกำลังใจให้ครับ

หนูเป็นวิศวกรคนนึง เเต่ไม่เคยคิดว่าช่างปุนจะโง่กว่าหนู รวมทั้งโฟร์เเมนหน้าดำๆนอกตู้ด้วย หนูเรียนรู้จากพวกนี้เยอะ ไม่ได้รู้สึกอายอะไรที่ได้เรียนรู้จากลูกน้อง เก็กเเล้วโง่ ไม่เอาดีกว่า

บางทีก็อวดชิ่นชมพวกที่ขยันสร้างมุขสร้างถ้อยคำมาทำให้คนไทยทะเลาะกันนะ ขยันกันจริงๆ สงสัยรายได้ดี ทำงานได้ตามเป้าหมายด้วย

ได้อ่านกระทู้เรื่องโกตีลูกน้องโจรทักษิณบุกไปยังสถาบันนิด้า เพราะไม่พอใจเรื่องที่อาจารย์ที่นิด้า อะไรวะ คัดค้านหรืออะไรสักอย่างกับนโยบายการจำนำข้าวของรัฐบาลคุณปู ก็พอเข้าใจกระทู้นี้ว่าต้องการหมายความว่ายังไง

คราวหน้าจขกทก็ใส่รายละเอียดบ้าง หนูไม่ได้มาเพิ่มข้อความเเบบนี้บ่อยๆหรอก มันอาจจะสร้างความไม่เข้าใจกันได้

ลึกๆในใจยังเชื่อ บางอย่างรู้บางอย่างเห็นพูดไปก็เปลืองปากเปล่ามีแต่ทำให้ยิ่งเสียใจทำไมมันต้องทำกับคนที่เรารัก บาปบุญคุณโทษมีจริง แข่งเรือเเข่งพายแข่งได้แข่งบุญวาสนาแข่งไม่ได้ มันทะเยอทะยานจนตัวมันต้องเร่ร่อน แม้ปากมันว่าจงรักภักดีแต่ใจมันคดมันมีเงินมีอำนาจแต่นมันก็ไม่มีความสุข
คนเราแทนที่จะรู้ตัวเองว่าคนเค้าเกลียดเพราะอะไรแล้วแก้ไขให้ดีให้คนเคารพเชื่อถือกลับไปหลงตัวหลงตน ใช้อํานาจบาตรใหญ่คนเค้าก็ยิ่งเกลียด ที่ก้มหัวทำเป็นยกยอปอปั้นก็เพราะหวังผลประโยชน์ ทีนี้เลยเริงนึกว่าตัวใหญ่ซะเต็มประดามัวเมาอำนาจแท้จริงก็เป็นเพียงเครื่องมือของผู้อื่นเค้าหลอกใช้แอบอ้าง
เสื้อแดงที่ออกมาทุกตัวทำให้เค้าเกลียดกันไปทั่วสุดท้ายเค้าด่าใครถ้าไม่ใช่มัน..และมัน หึหึอย่างว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตายไม่มีมูลหมาไม่ขี้ ถ้าใจมันซื่อจริงใครเค้าจะด่าม้านนนนนน เวรกรรมมีจริงทุกวันนี้มันก็รับกรรมของมัน แต่ผลกระทบมันใหญ่จังคนเดือดร้อนทั้งประเทศ สาธุ ใครมันทำกรรมกับประเทศ ใครทำองค์เหนือหัวเสียพระทัยขอให้มันไม่ตายดีเพี้ยง!!!

ผมกะเพื่อนอีก 3 คน เคยขึ้น Taxi คันนึง พอเข้ารถไปยังไม่ทันปิดประตู ได้ยินวิทยุคลื่นไรไม่รู้ แต่มีเสียงคางคกกะลังพูดอยู่ ผมถามว่า " โอ้ว พี่ Taxi เป็นเสื้อแดงเหมือนกันเหรอฮะ" พอคนขับได้ยินคำว่าเหมือนกัน มันรีบตอบอย่างหน้าระรื่นเลยว่า "ครับ พี่ก็..." พูดไม่ทันจบผมกับเพื่อนลงจากรถทันที เพื่อนผมมันบอกคนขับว่า "พวกผมเกลียดเสื้อแดงครับ ไม่ไปแล้ว" ตานั่นทำหน้างง แล้วก็พูดอะไรไม่รู้ ผมไม่ได้ยินเพราะปิดประตูไปแล้ว พอ Taxi อีกคันนึงมา มีป้ายเรารักในหลวง ก็รีบขึ้นเลย

ฉันจะบิน บินไป
ฉันจะบิน บินไป นิวยอร์ค ลุยเด่ียวอีกแล้วครับพ่ีน้อง เท่ียวท่ีแล้วต้อนรับพ่ีชายท่ีซานฟรานอย่างสมเกียรติ เท่ียวนี้ขอไปดูหน้า (ท้อง) น้องสาวสักหน่อยว่าพุงย่ืนจริงหรือเปล่า หรือมีคนแกล้งตัดต่อรูป

ต้องโทษทีมงานครับ ไล่ออกให้หมด แล้วมาจ้างผม

ถ้าเป็นผมนะ XEROX แจกเลยครับ

แล้วให้ นางสาวนายกพูดให้น้อยที่สุด ดังนี้

"Lady and Gentleman my speech is in a copy,Thank you"

เพื่อ กันไม่ให้ พวก สลิ่ม แมลงวาป มาจับผิดหยุมหยิม.....ชิส์

'ณัฐวุฒิ'ชี้ถนนลาดยางพาราต้นทุนสูงกว่าปกติ4%แต่คุ้มค่ากว่า
วันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2012 เวลา 14:42 น.
http://www.thanonlin...=176&Itemid=524

http://www.manager.c...D=9550000117034

http://www.pantip.co.../X12691688.html

"โกหกสีขาว" อีกเร้อะ

คนดีๆ ที่ไหน มันจะอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปให้ตัวเงินตัวทองติดยศให้แล้วถ่ายรูปเก็บไว้แบบนั้นละครับ

ฝากกระจายข่าว อย่าให้เธอต้องสู้คนเดียว

Akeyuth Anchanbutr(เอกยุทธ อัญชันบุตร)

สมาชิกท่านใดรู้จักสุภาพสตรีที่ถามยัยไฮซ้อ(ดารณี)จอมปลอมว่า "ด่าในหลวงทำไม" และโดนตำรวจออกหมายเรียก....กรุณาติดต่อมาครับ..ผมจะจัดทีมทนายและจะจัดการกับเจ้าหน้าที่ ที่ละเมิดสิทธิ ปชช.ในมาตรา 157 ติดต่อมาครับ..ผมยินดีสนับสนุนเต็มที่ครับ..อย่ามาอวดอำนาจและกร่างใช้กฏหมายอย่างลุแก่อำนาจ..

แต่ก่อนก็ไม่ได้ชื่นชม พรรค ปชป เท่าไหร่ เพราะรู้สึกเบื่อในความเชื่องช้า และเจ้าหลักการ ตอนอภิสิทธิ์ได้โหวตจากสภาเป็นนายก ก็ยังงั้นๆ...... ระหว่างบริหารงาน ก็ยังไม่รู้สึกจี๊ดโดนใจนัก แต่หลังๆ ผลจากนโยบายบริหารประเทศ ที่ยึดเอาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็น การประกันรายได้ เรียน( เกือบ) ฟรี 15 ปี หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ อสม. การบริหารแบบมืออาชีพต่อกองทุนน้ำมัน การไม่แทรกแซงกลไกตลาด เริ่มออกผล ทำให้เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้า การส่งออกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้ต้องเริ่มหันมาสนใจ
ตอนเสื้อแดงอาละวาด ปี 52 ยังรู้สึกว่าอ่อนแอ ไม่เด็ดขาด ไม่มีภาวะผู้นำ
แต่พอ ปี 53 ..... ต้องขอคารวะจากใจ ปัญหาของบ้านเมืองตอนนั้นหนักหนาสาหัสจริงๆ.... แต่ก็ยังสู้ด้วยความอดทน การแก้ปัญหาถึงจะไม่ดีพร้อมสมบูรณ์แบบ แต่ก็ดีที่สุด เท่าที่ผู้นำคนหนึ่งจะทำได้ในสถานการณ์แบบนั้น ....ไม่อยากจะเชื่อพวกที่ชอบทำงานด้วยปาก อวดว่าถ้าเป็นตัวเองจะทำให้ดีกว่านั้น....
เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ ณ.ตอนนี้ก็ยังชื่นชมและศรัทธา จะเป็นฝ่ายค้าน หรือได้เป็นรัฐบาล ก็ขอให้ทำอย่างเต็มที่อย่างนี้ตลอดไป
ให้สมกับที่ในหลวงเคยมีพระราชดำรัสไว้ว่า " ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ ฉันมีแต่ความสุขที่ร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นเท่านั้น"

กระทู้นี้ผมขอเขียนขึ้นมาเพื่อ

"คารวะหัวใจของคนที่รู้ว่าแพ้ แต่ก็ยังสู้ต่อไปบนวิถีทางแห่งประชาธิปไตย"

คนๆนั้นคือ "อดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ คู่หูหน้าดำ สุเทพ เทือกสุบรรณ"

ซึ่งสถานภาพตอนนี้ของท่านทั้งสอง "จากที่เคยเป็นโจทย์ กลายเป็น จำเลย"

โดยฝีมือ ดีเอสไอ ภายใต้การดูแลของนาย ธาริดสีดวง เปลี่ยนเป็นสีแดง

คนไทยส่วนใหญ่กว่าทั้งประเทศไม่ว่ากลุ่มไหนสีไหนพวกไหนก็คงจะรู้ว่า....

"เลือกตั้งกี่ครั้งๆประชาธิปัตย์ก็แพ้เพื่อไทยทุกครั้งในจำนวน ส.ส.ที่จัดตั้งรัฐบาลได้"

ดังนั้นอย่าแปลกใจเลยครับที่ผมจะตั้งหัวกระทู้ว่า "คนที่รู้ว่าแพ้"

ท่านทั้งหลายเคยเห็นอดีตนายกและคู่หูของท่านออกมาโวยวายบ้างไหมครับ

หลังจากโดนสอบสวนโดยดีเอสไอ หรือ ข้อหาทางการเมืองต่างๆนาๆ

ดังเช่น "นักโทษชายหนีคดี" และพ่วงสถานะ "พี่ชาย" ของผู้นำรัฐบาลชุดนี้

ราวๆกับว่า "ใครให้ร้ายกรู มันต้องพังไปข้างหนึ่ง"

หรือ "ถ้ากรูพัง ประเทศชาติก็ต้องฉิบหายตามไปด้วย"

เคยเห็นอดีตนายกและคู่หูของท่าน "ปลุกระดม" ผู้คนออกมาปิดถนนถือน้ำมันคนละขวด

รอ "ตกใจ" บ้างไหมครับ

เคยเห็นอดีตนายกและคู่หูของท่าน บอกกับผู้สนับสนุนของท่านไหมครับว่า

"เผาไปเลย ผมรับผิดชอบเอง"

อดีตนายกและคู่หูของท่านอาจมีการจัดเวทีชุมนุมโจมตีรัฐบาลบ้าง แต่มิเคยใช้ความรุนแรง

ล่วงล้ำสิทธิผู้ใด และยังใช้ระบอบรัฐสภาในการต่อสู้ของท่านและคู่หูของท่านเสมอมา

รวมถึงข้อกล่าวหาต่างๆท่านก็ใช้เวทีรัฐสภาชี้แจงแก่สมาชิกรัฐสภาและประชาชนทางบ้าน

ผิดกับคนบางพวกไม่ชี้แจงไม่พออาศัยมวลชนข่มขู่แม้กระทั่งศาล

"ถ่อย เถื่อน สถุล" สิ้นดี หลังจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมจนถึงปัจจุบันก็คาดว่า

มีทั้งผู้กล่าวหาและมีคดีความต่ออดีตนายกและคู่หูของท่านเสียมิน้อย

แต่ทั้งสองก็ไม่เคย "ไปดูโอลิมปิก จนป่านนี้ยังไม่โผล่หัวเลยสักนิด" จนมาถึงโอลิมปิกปี 2012 ก็แล้ว

สู้ต่อไปบน "วิถีทางประชาธิปไตย ตามระบอบรัฐสภา ตามสิทธิที่ท่านพึงมีเถิดครับ"

"ถึงท่านและพรรคของท่านไม่ได้รับชัยชนะในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ชนะใจคนไทยผู้ที่รักความสงบ

ไม่ล่วงล้ำสิทธิผู้ใด ไม่ชอบการใช้กำลังหรือพวกมากข่มขู่ใครไปแล้ว"

สุดท้ายนี้ขอยก "เนื้อเพลงบางส่วนในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด"
นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง
หมายผดุงยุติธรรม์อันสดใส
ถึงทนทุกข์ทรมานนานเท่าใด
ยังมั่นใจรักชาติองอาจครัน โลกมนุษย์ย่อมจะดีกว่านี้แน่
เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ
ยอมอาสัญก็เพราะปองเทิดผองไทย


ขอคารวะท่านอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคู่หูดูโอของท่าน สุเทพ เทือกสุบรรณ

ในจิตใจที่ "กล้าแข็ง" และ "ไม่ย่อท้อ" ทั้งๆที่รู้ว่าแพ้ แต่ไม่เคยท้อแท้ใดๆ

ขอคารวะด้วยใจ

โจโฉ นายกตลอดกาล