ryukendo

โดย เสรีชนประชาไท
เมื่อ อาทิตย์, 05/05/2013 - 07:24

 

ผมไม่ได้เข้า ข้างใคร ไม่รู้จักนายกยิ่งลักษณ์ เป็นส่วนตัว แต่คำพูดของนายชัย ราชวัตร รับไม่ได้เป็นการหมิ่นเกียรติสตรีไทยทั้งชาติ และหมิ่นเกียรตินายก รวมทั้งหมิ่นศักดิ์ศรีของนายกรัฐมนตรีประเทศไทย แบบนี้ไม่ถือว่ามีจรรยาบรรณหรือเป็นนักข่าวแต่อย่างใด

อาดำรง พุฒตาล นักจัดรายการ เจ้าของนิตยสารอมตะ คู่สร้างคู่สม ที่ยืนยงคู่เคียงกับประชาชนชาวไทยมากกว่าสามสิบปี ออกมาสอนมวยนักเขียนรุ่นน้อง และติงพวกกระบือเสื้อเหลืองให้รู้จักใช้สมองคิด และหัดกินข้าวบ้างไม่ใช่กินแต่หญ้า

วันนี้ ต้องขอปรบมือให้ศิลปินอมตะของประเทศไทย ที่ยามศึกมาประจญ ยามประชาธิปไตยถูกทำลาย ยามประชาชนต้องแดดิ้น ก็เห็นนี่แหล่ะ พี่ดำรง พุฒตาลของผมที่ออกมาพูดแล้วทุกคนต้องฟัง !!!!

 

http://www.prachatal...าส่งชัย-ราชวัตร

ประมาณนั้นเลย

ดำรง พุฒตาล ปัดโต้ ชัย ราชวัตร ปกป้อง ยิ่งลักษณ์ ชี้ถูกตัดแปะข้อความ

ดำรง พุฒตาล เจ้าของนิตยสารคู่สร้างคู่สม ออกแถลงการณ์ปฏิเสธโต้ ชัย ราชวัตร ปกป้องนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชี้ถูกมือดีตัดแปะข้อความปีที่แล้วมาโยงกับเหตุการณ์ ลั่นไม่ขอโทษ เพราะไม่ได้ทำผิด

 

            เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดำรง พุฒตาล เจ้าของนิตยสารคู่สร้างคู่สม ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊กแฟนเพจ คู่สร้างคู่สม (ประเทศไทย) จำกัด เกี่ยวกับกรณีที่มีการตัดแปะภาพข้อความของนายดำรง ที่กล่าวปกป้อง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ โดยนำมาโยงเข้ากับกรณีของ ชัย ราชวัตร จนทำให้ประชาชนไม่พอใจเป็นจำนวนมาก และได้มีการแสดงความคิดเห็นที่รุนแรงผ่านโลกออนไลน์ ทั้ง ๆ ที่ข้อความดังกล่าวมาจากนิตยสารเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 

 

            พร้อมกันนี้ นายดำรงยืนยันด้วยว่า จะไม่ขอโทษ ชัย ราชวัตร เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร โดยมีข้อความดังนี้

 

            "จากคุณดำรง พุฒตาล ถึงคุณชัย ราชวัตร

            เรียน ท่านผู้ที่รู้จักดำรง พุฒตาล ทุกท่าน

 

            กรณีที่เกิดความขัดแย้งระหว่างคุณชัย ราชวัตร กับ "กลุ่มคู่กรณี" จนเป็นเหตุให้มีการพึ่งศาลและการประท้วงคุณชัย ราชวัตร ที่ สนง.นสพ.ไทยรัฐนั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ผมและครอบครัวอยู่ในเมืองมาเก๊า

 

            เมื่อกลับมาผมก็ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเพราะผมเลิกอ่าน นสพ. เลิกดูข่าวทีวี (ไทย) เลิกฟังวิทยุมาหลายปีแล้ว

 

            เมื่อกลับจากมาเก๊าอยู่กรุงเทพเพียงคืนเดียว ผมก็ไปอยู่บนดอยเช่น ดอยช้าง-เชียงคำ-แม่จัน จ.เชียงราย อีก 5 คืน โดยไม่เคยให้สัมภาษณ์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ หรือนสพ. หรือสื่อ

ดิจิทัล ใด ๆ เลย

 

            ไม่เคยให้ความคิดเห็นใด ๆ (ก็ผมไม่รู้อะไรจริง ๆ) ที่จะเป็นคุณเป็นโทษกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และไม่เคยมีใครขอสัมภาษณ์แม้แต่คนเดียว

 

            แต่ ได้มีการตัดข้อความที่ผมเอ่ยถึงท่านนายกยิ่งลักษณ์ จากหนังสือคู่สร้างคู่สม เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว (ย้ำเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว) กรณีที่คุณยิ่งลักษณ์ต้อนรับประธานาธิบดีโอบามา ซึ่งเป็นคนละเรื่องเป็นคนละประเด็นกับคุณชัย ราชวัตร ที่เกิดขึ้นเมื่อ "พฤษภาคม" ปีนี้ Facebook ที่เอารูปเอาชื่อของผมมาปะติดปะต่อให้เป็นเรื่องว่าผมตำหนิคุณชัย นั้นเป็นข้อความในคู่สร้างคู่สมฉบับ 30 พฤศจิกายนปีที่แล้วนั้นซึ่งห่างกับกรณีคุณชัย ถึง 7 เดือน แต่เขาทำอะไรได้แปลก ๆ

 

            ผมไม่รู้ว่าจะชี้แจงอะไร ก็เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ได้ตำหนิหรือชม คุณชัย ราชวัตร อย่าว่าแต่สักประโยคเลย "คำเดียว" ผมก็ไม่เคยเอ่ยถึง ไม่ว่าในวงสนทนากับเพื่อนฝูง หรือในสื่อต่าง ๆผมจึงไม่มีอะไรที่จะขอโทษคุณชัย เพราะผมไม่ได้ทำผิดอะไรกับคุณชัย ราชวัตรเลย!

             

            ดำรง พุฒตาล

 

คัดลอกมาจากกระปุก http://hilight.kapook.com/view/85799

 

 

http://www.facebook....0965663?fref=ts

เป็นเสื้อแดงต้องอดทน

รุ่นพี่รอรับน้องอยู่ .....เหยื่อเหมือนๆกัน

 

https://www.facebook...&type=3

ไม่เหมาะสมลบได้ครับ

ดูดี และขลังมากๆครับ 

กล้าชมก็กล้ากด like ครับ ความกล้าของคุณโดนใจผมจริงๆ

รวมพลคนล้มละลาย

ตามมุมภาพของ Tnews ถ่าย ดูตรงใหน ไม่เห็นจะจับใข่เลย จับขายังได้

เป็นเสื้อแดงนี่มันดีจริงๆ ไม่เคยทำอะไรผิดเลย น่าอิจฉาจัง

ไทยรัฐคว้าที่1รางวัลสุดยอดภาพข่าวอาชญากรรมปี55

 

สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ตัดสินรางวัลสุดยอดภาพข่าวอาชญากรรม ปี 2555 ไทยรัฐคว้าที่ 1 รางวัลวิโรจน์เอ็ม 16 จากภาพ "สูญเสียพ่อ" โดยนายศุภโชค สร้อยน้ำ นักข่าวประจำ จ.ราชบุรี...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 56 นายศิโรจน์ มิ่งขวัญ นายกสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการตัดสินรางวัลสุดยอดภาพข่าวอาชญากรรมแห่งปี 2555 ที่มีคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ ปี 2552 สาขาทัศนศิลป์ด้านภาพถ่าย อาจารย์โศภน กัณหะเสน ประจำสาขาวิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และนายธีระ ทองธวัช ช่างภาพอิสระ วิทยากรสอนการถ่ายภาพในมหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันพิจารณาภาพที่ส่งเข้าประกวด แล้วตัดสินให้รางวัลสุดยอดภาพข่าวอาชญากรรมแห่งปี 2555 ดังนี้

รางวัล ชนะเลิศอันดับหนึ่ง “รางวัลวิโรจน์ เอ็ม 16” ได้แก่ ภาพสูญเสียพ่อ ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถ่ายโดย นายศุภโชค สร้อยน้ำ นักข่าวประจำจังหวัดราชบุรี รางวัลชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ภาพเด็กตกตึก ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถ่ายโดย นายศาสนะ ศิริลาภ รางวัลชมเชย ได้แก่ ภาพสองกลุ่มสี ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถ่ายโดย นายณัฐนัย วัชรฐิตพร

นาย วรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ให้เหตุผลว่า ภาพสูญเสียพ่อ เป็นการบันทึกภาพได้อารมณ์ของเด็กผู้ที่สูญเสียพ่อ โดยที่สื่อให้ผู้พบเห็นสะเทือนใจ ได้เรื่องราวขององค์ประกอบภาพที่สมบูรณ์ตรงเห็นรถโรงพยาบาลทางด้านหลัง ภาพเด็กตกตึก เป็นภาพที่เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูแล้วเห็นใจหัวอกผู้เป็นแม่ รวมถึงผู้ที่กําลังช่วยเหลือเด็ก ภาพสองกลุ่มสี เป็นภาพที่จับจังหวะถ่ายภาพผู้ถูกกระทําได้ดี โดยกลุ่มคนหลายคน สู่จุดเป้าหมายเดียวกัน

ด้านอาจารย์โศภน ให้เหตุผลว่า ภาพสูญเสียพ่อ แสดงให้เห็นถึงเสี้ยวเวลาหนึ่งของความสูญเสีย จังหวะอารมณ์สุดกลั้นของมนุษย์ มีความสอดคล้องกันของบุคคลในภาพ ซึ่งนับว่าเป็นจังหวะที่น่าจะดีที่สุดในขณะนั้น ภาพเด็กตกตึกผู้ถ่ายได้วางองค์ประกอบของภาพได้ดี แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้จะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังสามารถถ่ายทอดความเชื่องโยงการทำหน้าที่ของบุคคลในภาพได้ครบถ้วน ภาพสองกลุ่มสีเป็นภาพที่ดูแล้วลงตัว การกดชัตเตอร์ได้จังหวะเหมาะสม เพราะเห็นได้ว่าองค์ประกอบบุคคลในภาพมีความต้องการอย่างเดียวกัน

อาจารย์ โศภน กล่าวอีกว่า ภาพข่าวที่ดีนั้นต้องตอบโจทย์ หรือให้ความกระจ่างแก่ผู้พบเห็นได้ทันทีที่เห็น และยังสามารถทำให้เกิดอารมณ์ร่วมไปกับเหตุการณ์ในภาพนั้นๆ ได้ทันที และการจะเป็นสุดยอดภาพข่าวนั้น จำเป็นที่จะต้องเกิดจากทักษะ ต้องมีการฝึกฝนบ่อยๆ และช่างภาพข่าวจำเป็นต้องมีความขยันเป็นสำคัญ ถึงจะประสบความสำเร็จ และอยากให้ผู้ดูภาพข่าวได้สะท้อนสอนตัวเอง ว่าความสูญเสียของเขาเหล่านั้น จะเป็นบทเรียนสอนตัวเราให้ดำรงตนอย่างมีสติ ไม่ประมาทต่อไป.

 

http://www.thairath....t/region/345524

ตามความเห็นของผม ผมคิดว่าภาพท้ายน่าจะได้รางวัลชนะเลิศ เพราะเป็นภาพที่ได้อารมณ์ของผู้ที่สูญเสียพ่อ(แม้ว)โดยสื่อให้ผู้พบเห็นสะเทือนใจได้ดีครับ

รัฐบาลมีความชอบธรรมบริหารประเทศ ไม่เคยมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเทิดทูนของคนไทยแต่อย่างใด ขอให้หยุดนำประเด็นเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูงมาใช้โจมตีรัฐบาลได้แล้ว เพราะมันไม่จริง

ผมชอบประโยคนี้จัง คนที่จะกล้าพูดได้ต้อง......สุดๆ

เธอเหมาะกับหน้าที่นี้แล้วครับ

มีเผาเมือง เล่นไฟตามศาลากลางทั่วประเทศด้วยไหมครับ

กินฟรี เที่ยวฟรี ขอเพียงร้องเพลงได้เพลงเดียวก็เหลือเฟือแล้วครับ

ยุคทรราชเป็นใหญ่ คนรวยคือคนดี ดังนั้น.......ใครเข้มแข็งก็อยู่รอด อ่อนแอก็ต้องตาย โง่ฉิกหายได้เป็นนายก

กวป.หน้าแตก บุกถึงสภายื่นถอดถอนไม่ได้

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 เวลา 15:34 น.

 

เลขาฯวุฒิสภาแจงขั้นตอนการถอดถอน หลังแกนนำ กวป.เคลื่อนม็บแดงถึงสภายื่นถอดถอนไม่สำเร็จ

 

วันนี้(8 พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา12.30 น. ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นายวรชัย เหมะ ส.ส. สมุทรปราการ  นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้อำนวยความสะดวกในการพาแกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย(กวป.) เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอเป็นผู้ริเริ่มรวบรวมรายชื่อยื่นถอดถอน 5 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 แต่ไม่สามารถยื่นได้ เนื่องจากยังไม่ได้ดำเนินขั้นตอนตามกฎหมาย โดยเฉพาะคำร้องยื่นถอดถอนของผู้ริเริ่มที่ต้องลงลายมือชื่อพร้อมสำเนาบัตร ประชาชน จำนวน 100 คน ทั้งนี้นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนการยื่นถอดถอนว่า “ผู้ริเริ่ม” ต้องกลับไปรวบรวมรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน ภายใน 180วัน จากนั้นนำรายชื่อมายื่นต่อประธานวุฒิเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง จากส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการ พิจารณาตามคำร้อง หากป.ป.ช.ชี้มูล ก็จะส่งกลับให้วุฒิสภาดำเนินการตามถอดถอนตามกฎหมายต่อไป

ด้านแกนนำ กวป. ระบุว่า ขั้นตอนการถอดถอนผ่านวุฒิสภา ใช้เวลานาน หากระหว่างนี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเกิดตัดสินยุบพรรคการเมืองใดการเมือง หนึ่ง หรือวินิจฉัยคำร้องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด อาจเกิดผลเสียได้ ใครจะรับผิดชอบ จะมีกระบวนการเร่งด่วนใดที่จะยับยั้งการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ ดังนั้นเห็นว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงส่วนใหญ่ที่รับคำร้องว่าการแก้ไข รัฐธรรมนูญรายมาตรา ผิดมาตรา 68 ได้พิจารณาตัวเองลาออกไปก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการหารือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับและตรวจสอบของสำนักงานเลขาวุฒิสภาได้เข้าไปชี้แจงขั้น ตอนการยื่นถอดถอนกับแกนนำ พร้อมทั้งนำแบบฟอร์มคำร้องยื่นถอดถอนให้แก่แกนนำได้กรอกรายละเอียด ให้ครบจำนวน 100 แล้วนำกลับมายื่นเป็นผู้ริเริ่มขอถอดถอนใหม่ ทั้งนี้แกนนำได้กล่าวว่าขอกลับไปหารือก่อน 1 ชั่วโมง ว่าจะใช้ช่องทางวุฒิสภายื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนหรือไม่  หรือจะใช้ช่องทางเพื่อดำเนินคดีทางอาญาและชุมนุมขับไล่เพียงอย่างเดียว

 

http://www.dailynews...politics/203060

“กวป.” หน้าแหก! ยื่น ก.ต.สอบวินัย 3 ตุลาการศาล รธน.ผิดที่

 

ม็อบ “กวป.” ยื่นหนังสือให้ ก.ต.ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยื่นผิดหน่วยงาน ก.ต.ระบุไม่อยู่ในอำนาจ โว ล่า 1 ล้านรายชื่อเดินหน้าถอดถอน ตุลาการศาล รธน.
       
       วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือ “ศรรักษ์ มาลัยทอง” โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป.พร้อมนายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความ เดินทางไปยื่นคำร้องเพื่อให้ทาง ก.ต.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องวินัย กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
       
       นายหนึ่งดิน กล่าวว่า ได้มายื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบวินัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 3 คน คือ นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายจรูญ อินทจาร และนายสุพจน์ ไข่มุกต์ เนื่องจากกระทำการขัดต่อพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาล ยุติธรรม พ.ศ. 2543 ในมาตรา 57 ที่ระบุว่าข้าราชการตุลาการฯต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความระมัดระวัง มิให้เสียหายแก่ราชการ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและเที่ยงธรรม ข้าราชการตุลาการฯต้องไม่รายงานเท็จต่อข้าราชการตุลาการฯ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเหนือตนขึ้นไป การรายงานโดยปกปิดข้อความที่ควรต้องบอก ถือว่าเป็นการรายงานเท็จด้วย และมาตรา 60 ข้าราชการตุลาการฯต้องรักษาชื่อเสียงมิให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่ว มาตรา 62 ข้าราชการตุลาการฯต้องถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของ ทางราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการฯตามที่ ก.ต.กำหนด
       
       นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายวินัยได้แจ้งว่า อำนาจในการพิจารณาโทษวินัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของ ก.ต.เพราะเป็นคนละส่วนกัน ตนจึงจะต้องกลับไปศึกษาหาข้อมูล และคาดว่าในวันพรุ่งนี้จะทำหนังสือสอบถามมาที่สำนักงาน ก.ต.เพื่อให้ความแน่ใจอีกครั้งว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้อยู่ในอำนาจ พิจารณาของ ก.ต.และจะสอบถามด้วยว่าอยู่ในอำนาจของหน่วยงานไหน เพื่อที่จะเดินทางไปยื่นหนังสือได้ถูกต้อง
       
       ขณะที่ นายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษกกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ กวป.กล่าวว่า ในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ตนจะไปจัดเวทีใหญ่ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อล่ารายชื่อประชาชนให้ครบ 1 ล้านรายชื่อ และนำไปยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้รวบรวมรายชื่อได้แล้วประมาณ 2 แสนคน หลังจากนั้นก็จะไปจัดเวทีที่จังหวัดจันทบุรี อีกต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่า กวป.จะกลับมาชุมนุมใหม่อีกครั้งช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังไม่เสียสละด้วยการลาออก การชุมนุมครั้งหน้าจะเป็นการชุมนุมที่แตกหักโดยประชาชนจะไล่ออกไปเลย ส่วนกรณีที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความดำเนินคดีกลุ่ม กวป.นั้น ยืนยันว่าไม่รู้สึกกังวล และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
       
       ด้านนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้าราชการตุลาการฯว่า เมื่อช่วงบ่าย มีตัวแทน กวป.มายื่นหนังสือเรียนถึงนายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ที่ลงวันที่ 8 พ.ค.2556 ให้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, นายจรัญ ภักดีธนากุล, นายจรูญ อินทจาร และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวถึงพฤติการณ์อ้างว่า ประพฤติตนในฐานะตุลาการฯด้วยความไม่ซื่อสัตย์ที่กระทำผิดทั้งบทบัญญัติรัฐ ธรรมนูญ และประมวลกฎหมายอาญา รวมทั้งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 ในการรับเรื่องที่กลุ่ม ส.ว.คัดค้านแก้รัฐธรรมนูญ
       
       นายสราวุธ รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดีเมื่อได้พิจารณาสาระในหนังสือที่ยื่นมาแล้ว ก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่แจ้งตัวแทน กวป.ผู้ร้อง ให้ทราบว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวอดีตเคยเป็นข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม แต่ปัจจุบันได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นจากอำนาจของศาล ยุติธรรมในการพิจารณาเรื่องสอบสวน กรณีจึงไม่อยู่ในอำนาจที่จะพิจารณาดำเนินการได้ โดยที่ กวป.มายื่นเรื่องดังกล่าวคิดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด แต่เมื่อได้ชี้แจงข้อเท็จจริงและอำนาจไปแล้ว ทางตัวแทน กวป.จึงรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวกลับไป

 

http://www.manager.c...D=9560000057866

ภาพจากอินเตอร์เนต

สส. เพื่อไทย ถ้าเปรียบแล้วก็เหมือนหมาครับ หมาที่จะพร้อมที่จะกัดโจร ถ้าโจรมันเงียบๆ มาก็แึค่เฝ้าดู แต่ถ้าโจรมันจะเข้ามาปล้นเก้าอี้ หมามันก็ดุขึ้น เพื่อไล่กัดโจร

 

และข้อดีของหมาคือ มีความซื่อสัตว์ รักเจ้าของ 

 

ไม่เหมือนกับแมลงสาป กับตัวตะกวดครับ ขอให้ตัวเองรอดไว้ก่อนเป็นพอ ใครจะเป็นยังไงlet it be แถมกินไม่เลือกด้วย 

เห็นด้วยครับ

กาแฟมันแพงตามฤดูกาล กาแฟแพง ก็ไปกินชาเขียวดิ แถมได้ทองอีก1ล้าน ไอโฟน เป็นพันๆเครื่อง

 

ยังมีคนโง่ที่คิดไม่ได้อยู่อีกเหรอ กับอาหารทางเลือก อาหารตามฤดูกาล

กาแฟแพงตามฤดูกาล

ท่านใจดีอำผมเล่นหรือเปล่าครับ

  เพิ่มเติม

สำหรับสตรีผู้ดูหมิ่นสตรีด้วยกันโดยที่มิได้เป็นคู่กรณีพิพาทใด ในความคิดผมว่า น่าจะมีสาเหตุมาจาก ผัวทิ้ง,โดนฟันแล้วทิ้ง(เพราะว่าปากแบบนี้ใครจะไปเอาลง) หรือบางคนเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน(ชอบมั่วเปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้า)เลยมองคนอื่นเป็นเหมือนตัวเอง

 

   พวกคนฉลาดที่ด่านายกทั้งหลาย เช่น  คำว่า กระหรี่  สำส่อน  ก็ลองเอาเหตุผลมาบอกหน่อยว่าเค้าทำตัวแบบกระหรี่อย่างไรและสำส่อนอย่างไร

 

     แต่ถ้าคำว่า อีโง่ ผมก็ยังเห็นเหตุผลของพวกท่าน เช่น บริหารงานไม่เป็นต้องรอแต่พี่ชายสั่งไม่มีสมองปัญญาคิดเอง อ่านโพยอ่านหนังสือก็อ่านผิดๆถูกๆ  

เพิ่งรู้หรือรู้นานแล้วครับ